เมื่อหนิงชิงมาถึงจวนแล้วนางก็สอบถามกงกงเรื่องห้องครัว หนิงชิงต้องการทำอาหารให้ทุกคนในจวนกินในมื้อเย็นนี้ กงกงนึกแปลกใจแต่ไม่กล้าขัด เขาพานางไปที่ครัวใหญ่ของจวนที่มีพ่อครัวและแม่ครัวกำลังเตรียมวัตถุดิบเพื่อทำอาหารเย็น
หนิงชิงเห็นพวกเขาเตรียมแต่อาหารมัน ๆ ก็ได้แต่ละเหี่ยใจ แบบนี้มีหวังนางต้องอ้วนเป็นหมูแน่ หนิงชิงล่ะอยากเอาอาหารทะเลมาทำให้พวกเขากินเสียจริง ๆ เพียงแต่นางไม่มีเวลาแวะตลาดเท่านั้นเอง
บรรดาพ่อครัว แม่ครัวเห็นฮูหยินท่านแม่ทัพมาก็ทำความเคารพกันตามธรรมเนียม พวกเขามาจากวังหลวงจึงต้องมากมารยาทเช่นนี้ หนิงชิงเห็นพวกเขาคารวะนางแล้ว หนิงชิงจึงบอกความต้องการว่าจะทำอาหารให้สามีนางทานเองวันนี้ พร้อมทั้งทำอาหารให้ทุกคนในจวนกินด้วย
พ่อครัวและแม่ครัวหันไปมองกงกง พอเห็นเขาพยักหน้าให้พวกเขาก็เปลี่ยนเป็นลูกมือของหนิงชิงทันที หนิงชิงที่ไม่ค่อยชอบค
หลังจากเร่งเดินทางเกือบหนึ่งเดือน ขบวนเดินทางก็มาถึงเมืองหลวงเสียที ระหว่างทางหนิงชิงกับแม่ยังช่วยพ่อครัวแม่ครัวทำอาหารให้ทุกคนกินอีกด้วย นี่เป็นเพราะหนิงชิงไม่ชอบรสชาติอาหารที่พวกเขาทำ นางคิดว่ามันมันเยิ้มเกินไป อีกทั้งยังหวานไปด้วย หนิงชิงจึงรับหน้าที่ปรุงอาหารกับแม่ของนาง อย่างไรเครื่องปรุงหนิงชิงก็แยกเอาไว้อีกไหหนึ่งสำหรับทำอาหารระหว่างเดินทางไว้แล้ว บรรดาคนที่ได้กินอาหารที่หนิงชิงทำต่างชมว่าอร่อยกันทุกคน พวกเขาจึงไม่ห้ามฮูหยินแม่ทัพในเรื่องนี้ พวกเขาเพียงแต่คอยเป็นลูกมือให้นางในการทำอาหารเท่านั้น เมื่อถึงเมืองหลวงแล้ว เจียงเฉิงก็ให้คนของเขาพาพ่อตาแม่ยายรวมทั้งบ่าวไพร่ของหนิงชิงไปที่จวนว่างของเขาซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจวนแม่ทัพนักทันที ตอนนี้ทุกคนเหนื่อยล้ามากแล้วคงอยากพักผ่อน เจียงเฉิงจึงได้ทำเช่นนี้ เขายังบอกภรรยาว่าพรุ่งนี้ค่อยไปหาท่านพ่อท่านแม่ที่จวนใหม่กัน ทำให้หนิงชิงที่เตรียมเงินมาซ
หลังอาหารเช้าวันต่อมา หนิงชิงกับเจียงเฉิงเดินทางไปที่จวนท่านพ่อท่านแม่ของหนิงชิงด้วยกัน คนขับรถม้ารู้ดีว่าจวนแห่งนั้นอยู่ไม่ไกลนักจึงใช้เวลาไม่ถึงเค่อก็มาถึงหน้าจวนแห่งหนึ่งที่มีขนาดเล็กกว่าจวนแม่ทัพใหญ่ แต่ก็ยังถือว่าเป็นจวนที่มีขนาดใหญ่ไม่น้อย“ท่านให้พ่อกับแม่ข้าพักที่นี่เหรอเจ้าคะ”“ใช่แล้วล่ะ จวนนี้ว่างอยู่และอยู่ไม่ไกลจากจวนของเราด้วย เจ้าคิดว่าดีหรือไม่เล่าภรรยา”“ดีเจ้าค่ะ ขอบคุณท่านมากที่ดูแลครอบครัวข้าเป็นอย่างดี”“เพ้ย!!! เจ้าจะมาขอบคุณข้าทำไมภรรยา ทุกอย่างที่ข้าทำก็ต้องทำเพื่อเจ้าอยู่แล้ว เจ้าเป็นภรรยาของข้า หากข้าไม่ดูแลเจ้าแล้วข้าจะไปดูแลใครเล่า” เจียงเฉิงพูดจบก็ลูบหัวภรรยาตัวน้อยพร้อมรอยยิ้มเอ็นดู หนิงชิงได้แต่กลอกตาที่เขาเห็นนางเป็นเด็ก ๆ อีกแล้ว จากนั้นทั้งสองก็ลงจากรถม้าแล้วเข้าไปในจวนก็พบกับต้าเจียงที่ทำหน้าที่พ่อบ้านอยู่นั่นเอง“ต้า
หนิงชิงที่ได้ยินเสียงตัดพ้อต่อว่าอย่างเสแสร้งได้แต่กลอกตามองบน นี่นางยังไม่ได้ทำธุระอันใดเลย สามีน่าตายของนางกลับสร้างเรื่องให้นางเสียแล้ว หนิงชิงหันไปถลึงตาใส่เจียงเฉิงจนเขาได้แต่ร้อน ๆ หนาว ๆ ด้วยกลัวว่าภรรยาจะเข้าใจผิด“ท่านพี่ ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันเจ้าคะ เหตุใดจึงได้มาทำตัวเหมือนกับว่ามีความสัมพันธ์กับท่านเล่า” หนิงชิงกัดฟันพูดสอบถามเจียงเฉิงก่อนที่นางจะโกรธมากไปกว่านี้ นางยิ่งรีบ ๆ อยากดูที่ทาง แต่กลับต้องมาเสียเวลาเช่นนี้“ข้าไม่รู้จักนางนะภรรยา นางมาทำตัวเช่นนี้กับข้าเอง ข้าไม่ได้ทำอันใดสักหน่อยเจ้าก็เห็น ภรรยาจ๋าอย่าโกรธ ๆ”“เหตุใดท่านแม่ทัพจึงพูดเช่นนี้เจ้าคะ หลัวหลัวเสียใจจริง ๆ ที่รอคอยท่านแม่ทัพมานานหลายปี ท่านก็ยังไปคว้าเอาผู้หญิงที่ใดก็ไม่รู้มาเป็นภรรยาเช่นนี้ ฮึก…”“อ้าว เจ้าพูดเช่นนี้ได้อย่างไร การที่ข้ากับท่านพี่แต่งงานกันมันเกี่ยวอันใดกั
หลังจากดูพื้นที่ทั้งหมดแล้ว หนิงชิงพอใจมากกับร้านค้าแห่งนี้ นางบอกเจียงเฉิงว่าร้านนี้เหมาะสมที่จะเปิดร้านขายของแปลกของนาง เจียงเฉิงจึงให้กุญแจกับภรรยาทันที เขาบอกว่านางอยากทำสิ่งใดปรับปรุงสิ่งใดในร้านก็สามารถทำได้เลย ร้านนี้เขามอบให้นาง ส่วนโฉนดนั้นเขาจะให้พ่อบ้านเอามาให้นางทีหลัง หนิงชิงขอบคุณสามีของนางพร้อมรอยยิ้มหวาน ๆ ที่เจียงเฉิงชอบ ทำเอาเจียงเฉิงแทบทนไม่ไหวอยากหอมแก้มภรรยาตะหงิด ๆ แต่เขารู้ว่าอยู่ในสถานที่ที่ไม่เหมาะสมนัก จึงได้แต่ยิ้มตอบภรรยาและคิดในใจว่าฝากเอาไว้เสียก่อน คืนนี้เขาจะให้รางวัลนางหนัก ๆ เลยเชียว หนิงชิงที่ไม่รู้ว่ารอยยิ้มของนางทำให้เจียงเฉิงคลั่งรักขนาดไหนก็ยังยิ้มอย่างอารมณ์ดี ทั้งสองเดินทางกลับจวนหลังจากปิดประตูร้านเรียบร้อยแล้ว วันนี้หนิงชิงมีความสุขมาก นางคิดจะทำอาหารให้กับทุกคนในจวนกิน จึงได้สอบถามเจียงเฉิงว่านางทำอาหารได้หรือไม่ในมื้อเย็น เจียงเฉิงมีหรือจะปฏิเสธภรรย
เมื่อหนิงชิงบอกว่าต้องการปรับปรุงสิ่งใดบ้าง พี่ชายเจิ้งทั้งสามของนางก็พากันลงมือทำทันที หนิงชิงเองก็ช่วยด้วยเช่นเดียวกันเพื่อความรวดเร็ว ด้านฮวงจิ้งที่ได้ยินข่าวเรื่องฮูหยินแม่ทัพเข้าก็เกิดความสงสัย เขาไม่คิดว่าจะมีคนแซ่หนิงเช่นเขาเข้ามาอยู่ในเมืองหลวง เขาอยากพบนางไม่น้อยแต่ก็ไม่รู้จะใช้เหตุผลอันใดในการขอเข้าพบ เขาทำงานเป็นขุนนางมาหลายปี แต่ตำแหน่งอยู่เพียงผู้ช่วยเสนาบดีเท่านั้น หลายปีที่ผ่านมาเขายังไม่สามารถสืบหาคนที่ฆ่าล้างตระกูลเขาได้เลยแม้แต่น้อย ทำให้เขาเองท้อแท้เป็นอย่างมาก ผลงานการออกแบบสิ่งของของเขานั้นก็ไม่ได้โดดเด่นอันใดนัก ทำให้ตำแหน่งของเขานั้นไม่ได้ปรับเปลี่ยนมานานนับสิบปีแล้ว ตอนนี้เขาเองก็อายุมากขึ้นทุกวัน ครั้นจะเอาเรื่องในอดีตมาให้ลูก ๆ สานต่อเขาก็ไม่อยากจะทำเช่นนั้น เขายังจำได้ว่าท่านปู่บอกเอาไว้ว่าไม่อยากให้เขาสืบหาเรื่องราวจนตนเองต้องเดือดร้อน ท่านปู่อยากให้เขาใช้ชีวิตให้ดีกับครอบครัวเท่านั้น ฮวงจิ
เมื่อหนิงชิงพาท่านปู่คนนี้มาที่ห้องส่วนตัวแล้ว นางก็ขอตัวไปนำน้ำชากับไปเรียกพ่อของนางที่หลังร้านมาพูดคุยกัน เพราะท่านพ่อนางน่าจะรู้เหตุผลหลายอย่างมากกว่านางว่าเหตุใดท่านปู่ของนางจึงได้เสียไปนานปีแล้ว ฮวงจิ้งนั่งรอไม่นาน เขาก็เห็นชายคนหนึ่งที่หน้าตาคลับคล้ายกับเขาเข้ามาในห้องพร้อมทั้งหนิงชิงที่ถือถาดน้ำชาเข้ามาด้วยกัน หนิงกวานเห็นท่าทีสงสัยของชายชราเบื้องหน้า เขาจึงได้แนะนำตัวว่าเป็นลูกชายของหนิงเจิ้งเอง ฮวงจิ้งพอรู้เข้าก็พยักหน้าให้อย่างเข้าใจ จากนั้นเขาจึงสอบถามเรื่องหนิงเจิ้งจากหนิงกวานหลายเรื่องไม่น้อย หนิงชิงที่วางน้ำชาให้ทุกคนแล้วก็นั่งฟังด้วยเช่นเดียวกัน นางไม่รู้ว่าท่านปู่นางเป็นคนอย่างไร รู้เพียงว่าเขาชอบสมุนไพรจึงได้สอนให้ท่านพ่อของนางทุกอย่างเรื่องสมุนไพร และตอนนี้ก็เป็นหนิงกุ้ยที่รับช่วงต่อการปลูกสมุนไพรต่อจากท่านปู่ของนาง  
ไม่นานนักหนิงชิงก็นำอาหารสี่อย่าง น้ำแกงหนึ่งอย่างมาพร้อมกับข้าวสวยร้อน ๆ นางให้พี่ชายเจิ้งช่วยยกเข้ามาด้วย เพราะมีหลายอย่างทำให้นางยกมาคนเดียวไม่ไหว หลังวางอาหารแล้ว เจิ้งหานก็กลับไปทานข้าวของตนเองเช่นกัน วันนี้คุณหนูใหญ่ลงครัวให้พวกเขา แน่นอนว่าอาหารต้องอร่อยแน่ ๆ ช่วงก่อนหน้านี้ที่ช่วยกันเตรียมเปิดร้านนั้น คุณหนูใหญ่ให้ต้าเจียงไปซื้ออาหารมากินกันแทนการทำอาหารเอง แต่วันนี้คุณหนูน่าจะมีแขกสำคัญ นางจึงได้ลงครัวเองเช่นนี้ ทำให้พวกเขาได้รับอาหารอร่อย ๆ ของนางเช่นเดียวกัน ทั้งสามคนนั่งทานอาหารไปคุยกันไปอย่างสบาย ๆ ฮวงจิ้งยังชมหนิงชิงว่าทำอาหารอร่อยมาก หากนางเปิดร้านอาหารล่ะก็คงขายดีเป็นเทน้ำเทท่า หนิงชิงได้แต่ยิ้มให้ท่านปู่และบอกว่านางเคยเปิดร้านอาหาร แต่ตอนนี้ให้น้องสาวกับท่านป้าทำแทนแล้ว เพราะนางชอบเรื่องงานด้านออกแบบสิ่งของมากกว่า นางจึงอยากทุ่มเทให้กับร้านขายของแปลกทั้งสามสาขาแทน
สามวันต่อมามีคนจากจวนแม่ทัพนำจดหมายมาให้หนิงชิงที่ร้าน นางรีบเปิดอ่านจดหมายทั้งสองฉบับทันที ฉบับแรกเป็นของหนิงกุ้ยที่ส่งข่าวมาว่านางกำลังท้อง ช่วงนี้คงไม่สามารถเดินทางไปเยี่ยมพวกหนิงชิงได้ รวมทั้งเรื่องที่ร้านของหนิงกุ้ยกิจการดีวันดีคืนอีก ทำให้หนิงชิงยิ้มอย่างดีใจแทนน้องสาวที่พวกเขามีลูกเสียที หลังจากแต่งงานกันมานาน ส่วนนางนั้นยังไม่อยากรีบมีลูกมากนัก เพราะกิจการของนางเพิ่งเปิดตัว นางไม่อยากมีภาระเพิ่มเข้ามาจนทำให้การค้าของนางมีปัญหา ส่วนอีกฉบับหนึ่งเป็นของหนิงหยาง เขาบอกว่าเขาศึกษาจนจบทั้งหมดแล้ว และกำลังจะเดินทางมาที่เมืองหลวงพร้อมกับอาจารย์ของเขา หนิงชิงพอรู้ว่าน้องชายจะมานางก็ดีใจมาก นางเคยบอกน้องชายก่อนจะมาที่เมืองหลวงแล้วว่าให้ไปหานางที่ร้านขายของแปลกก่อน แล้วนางจะพากลับไปยังจวนท่านพ่อท่านแม่ ซึ่งที่จวนนั้นมีเรือนหลายเรือนให้น้องชายนางพักผ่อนและอ่านหนังสือได้อย่างสงบ เพราะตอนนี้พวกต้าเจียงย้ายมาอยู่ที่ร้านกันหมดแล้ว ที่จวนจึงมีเ
สองปีผ่านไป หนิงชิงตอนนี้ขยายสาขาเพิ่มอีกหนึ่งมณฑลแล้ว กิจการที่นั่นดำเนินไปได้ด้วยดี หนิงชิงแนะนำเทคนิคการวางขายสินค้าทั่วไปเสียก่อนที่จะวางขายสินค้าสั่งทำ เนื่องจากของใช้ทั่วไปคนธรรมดาเองก็สามารถซื้อได้ มันจะทำให้รายได้ของร้านคงที่ได้ระยะหนึ่งเลยทีเดียว ต้าเจียงเองก็ทำหน้าที่พ่อบ้านใหญ่ได้ดีสมกับที่หนิงชิงหวังเอาไว้เช่นเดียวกัน ไม่ว่างานที่จวนหรือที่ร้านเขาก็เป็นผู้ดูแลอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ตอนนี้ลูก ๆ ของหนิงชิงก็อายุครบสามขวบแล้ว ยิ่งโตพวกเขายิ่งผอมลง ไม่เหมือนตอนเด็กที่อ้วนท้วนกันใหญ่ ฮ่องเต้เองก็มักเรียกหาเหลน ๆ ทั้งสองเข้าวังไปเล่นด้วยอยู่บ่อย ๆ หลัง ๆ มานี้หนิงชิงก็ให้แม่นมพาทั้งสองไปหาเสด็จปู่ของพวกเขาแทนที่นางจะไปเอง เพราะหนิงชิงกลับไปดูงานที่ร้านอีกครั้งแล้ว เมื่อปีก่อนน้องสาวนางก็พาหล
วันนี้กว่าที่พ่อกับแม่ของหนิงชิงจะกลับก็เป็นตอนที่ลูกทั้งสองของนางเข้านอนตอนบ่ายแล้วนั่นเอง พวกท่านยังบอกให้นางดูแลหลานของพวกเขาให้ดี แล้วว่าง ๆ พวกเขาจะมาเยี่ยมใหม่ หลังจากร่ำลากันแล้ว พ่อแม่ของเจียงเฉิงและหนิงชิงก็ส่งพวกเขาขึ้นรถม้าแล้วออกจากจวนไป พ่อกับแม่ของเจียงเฉิงยังเยินยอพ่อแม่ของหนิงชิงเสียมากมายให้นางฟัง ก่อนที่พวกท่านจะไปพักผ่อนยามบ่ายกันตามปกติ ส่วนหนิงชิงที่วันนี้เหน็ดเหนื่อยกับการจับเจ้าลูกชายที่เพิ่งจะเดินได้มากขึ้นก็อยากกลับไปนอนพักผ่อนเช่นเดียวกัน แม่นมทั้งสองเองก็คอยดูแลคุณชายน้อยทั้งสองเป็นอย่างดี หนิงชิงจึงไม่ได้ห่วงอันใดพวกเขานัก สองวันต่อมา ต้าเจียงนำสมุดบัญชีมาให้หนิงชิงหลังจากที่ต้าเจินลูกชายของเขาเดินทางไปตรวจสอบบัญชีที่ร้านสาขาทั้งสองกลับมาเมื่อวานนี้ เขายังนำตั๋วแลกเงินจำนวนนับหลายหมื่นตำลึงกลับมาให้หนิงชิงด้วย ต
ข่าวที่หนิงชิงได้รับแต่งตั้งเป็นฮูหยินอันดับหนึ่งดังไปทั่วเมืองหลวงในเวลาไม่นาน มีบรรดาฮูหยินขุนนางมากหน้าหลายตาเข้ามาส่งของขวัญแสดงความยินดีกับหนิงชิงมากมายในช่วงเวลาเกือบสองสัปดาห์ที่นางต้องปั้นยิ้มรับของที่ไม่อยากได้เข้าจวน กระทั่งเหล่าฮูหยินมอบของขวัญครบทุกคนแล้วนั่นแหละ หนิงชิงจึงได้ถอนหายใจได้เสียที นางเบื่อการเข้าสังคมจอมปลอมเช่นนี้ที่สุด หากให้นางต้องไปนั่งดื่มชานินทาชาวบ้านล่ะก็นางคงทำไม่ได้ การได้รับความโปรดปรานใช่ว่าจะมีแต่ข้อดีเสียหน่อย ข้อเสียก็คือจะมีคนมารบกวนเรามากขึ้นเหมือนที่ผ่านมาอย่างไรเล่า อาหารเย็นวันนี้แม่ของเจียงเฉิงได้สอบถามหนิงชิงว่านางรู้สึกอย่างไรที่มีตำแหน่งสูงที่สุดในเหล่าฮูหยินขุนนางแล้ว หนิงชิงได้แต่ยิ้มแหยตอบกลับไป“ท่านแม่เจ้าคะ ข้าไม่เคยคิดหวังที่จะได้รับตำแหน่งนี้มาก่อน ทุกอย่างที่ข้าทำเพื่อเลี้ยงลูกก็เป็นจิตสำนึกของข้าเอง ข้ารู้ว่าฝ่าบ
สามวันต่อมา ราชโองการลงโทษจวนอดีตเสนาบดีกรมพิธีการสั่งการให้คนที่กระทำความผิดถูกประหารรวมทั้งบ่าวไพร่ที่ร่วมมือด้วยก็เช่นเดียวกัน ส่วนผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องให้เนรเทศไปชายแดนเหนือและห้ามเข้ารับราชการอีกตลอดชีวิต เสนาบดีกรมอาญาน้อมรับราชโองการและแจ้งวันประหารในอีกสามวันถัดไป เพราะพวกเขาต้องคัดคนที่จะถูกเนรเทศออกไปก่อนจึงต้องใช้เวลาสักหน่อยก่อนที่จะแยกออกได้ เจียงเฉิงที่ทำหน้าที่ของตนเองเสร็จแล้วก็กลับไปทำงานที่ค่ายทหารเช่นเคย หนิงชิงยังเคยบอกเจียงเฉิงว่าดีที่ตอนนี้ไม่มีศึกสงคราม ทำให้แคว้นพัฒนาไปได้มาก อีกทั้งนางยังไม่ต้องแยกจากสามีด้วยสี่เดือนต่อมา ฮ่องเต้ที่คิดถึงเหลนชายตัวอ้วนก็มีรับสั่งให้คนในจวนแม่ทัพเข้าเฝ้าเป็นกรณีพิเศษ วันนี้เจียงเฉิงพอได้รับข่าวก็รีบมาจากค่ายทหารแล้วพาทุกคนในครอบครัวเข้าไปในวัง แ
ไม่ถึงสามวัน คนที่เจียงเฉิงส่งไปสืบเรื่องราวก็รู้ว่าเป็นฮูหยินกับบุตรสาวของเสนาบดีกรมพิธีการที่ทำเรื่องเช่นนี้จริง ๆ เจียงเฉิงพอรู้ว่าเกี่ยวข้องกับเสนาบดีกรมพิธีการก็ยิ่งแค้นนัก เขาหรือก็ไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวที่เสนาบดีกรมพิธีการกระทำมาก่อน ตอนนี้เขากลับกล้ามาแตะเกล็ดย้อนของเขา คนพวกนี้ไม่รู้หรืออย่างไรว่าเขารักภรรยามากจึงได้ทำเช่นนี้ เจียงเฉิงนั่งคิดอยู่พักใหญ่ จากนั้นเขาจึงให้คนของเขาไปหาหลักฐานการทุจริตหรือการทำชั่วต่าง ๆ ที่คนในจวนเสนาบดีเคยทำมาให้หมด ในเมื่อเป็นเสนาบดีดีดีไม่ชอบ เจียงเฉิงก็จะให้เขากลายเป็นนักโทษไปเสียให้สิ้นเรื่องสิ้นราว ถือว่าเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู จะได้ไม่มีใครกล้ามาทำเช่นนี้อีก หลังรับคำสั่งแล้วคนของเจียงเฉิงมากกว่ายี่สิบคนก็แยกกันออกไปตามหาเบาะแสเรื่องของเสนาบดีกรมพิธีการทันที พวกเขารู้ดีว่านายน้อยใจร้อนมากเพียงใด หากพวกเขามัวแต่ชักช้า นายน้อยคงสั่งลงโท
คืนนี้หนิงชิงจึงได้นอนหลับอย่างสบายโดยที่สามีไม่ก่อกวนนางจริง ๆ เจียงเฉิงที่ได้แต่กอดภรรยานอน เขาอดหมั่นเขี้ยวคนตัวเล็กไม่ได้ จึงแอบหอมแก้มนางฟอดใหญ่ก่อนจะหลับไปพร้อมกับความอ่อนเพลียเช่นกัน จวนแม่ทัพเลี้ยงดูเด็ก ๆ ได้เกือบห้าเดือนแล้ว ช่วงนี้กลับมีข่าวลือว่าแม่ทัพใหญ่ไปติดพันลูกสาวเสนาบดีกรมพิธีการเสียได้ หนิงชิงไม่รู้ว่าข่าวนี้ใครเป็นคนปล่อย แต่สามีนางน่าจะรู้เรื่องนี้แล้วกระมัง ขนาดนางที่อยู่แต่ในจวนยังรู้เลย เขาที่ไปทำงานทุกวันจะไม่รู้ได้อย่างไร อีกทั้งข่าวลือยังบอกอีกว่าฮ่องเต้สนับสนุนให้แม่ทัพใหญ่มีฮูหยินรองเพื่อจะได้มีทายาทสืบทอดเพิ่มขึ้นอีก ทั้งสัปดาห์มีแต่ข่าวลือเรื่องนี้ ด้านเจียงเฉิงได้แต่โกรธแค้นว่าใครกันเป็นคนปล่อยข่าวบ้า ๆ นี่ออกมา เขาที่ทำงานที่ค่ายทหารงก ๆ จะเอาเวลาที่ไหนไปยุ่งกับหญิงอื่น อีกทั้งเขายังรักภรรยาคนเดียวด้วย จะมีหญิงใดที่เขาชายตามองในเมืองหลวงบ้างเ
สัปดาห์ต่อมาหลังจากเจียงเฉิงเริ่มจับทางเจ้าอ้วนน้อยทั้งสองได้แล้วว่าจะนอนตอนไหน แผนการเผด็จศึกภรรยาสุดที่รักก็เริ่มขึ้นทันที คืนนั้นเจียงเฉิงอาบน้ำให้ภรรยาพร้อมกับใส่ชุดให้นางแล้วอุ้มไปที่เตียงทันที หนิงชิงเองก็งงกับสามีตัวดีว่าจะทำอันใด ปกตินางก็เดินไปนอนเองอยู่แล้วหลังเขาใส่เสื้อผ้าให้ แต่วันนี้สามีนางมาแปลก เมื่อถึงเตียงแล้วเจียงเฉิงก็เริ่มปฏิบัติการเล้าโลมภรรยาตัวน้อยทันที หนิงชิงที่กว่าจะตั้งสติได้ก็ตอนที่เสื้อผ้าหลุดลุ่ยหมดแล้ว นางเข้าใจแล้วว่าเหตุใดสามีตัวดีจึงได้ทำตัวแปลก ๆ ที่แท้เขาก็กำลังคิดเรื่องบนเตียงอยู่นั่นเอง หนิงชิงได้แต่กลัวว่าลูกจะตื่นจึงได้บอกเขาทั้งที่นางเองก็พร้อมให้กับสามีที่กำลังเล้าโลมนางอยู่ไม่น้อย เจียงเฉิงกระซิบบอกภรรยาที่รักของเขาว่าลูก ๆ จะยังไม่ตื่นจนกว่าจะอีกหนึ่งชั่วยาม เขาที่จับตาดูลูกมาตลอดหนึ่งสัปดาห์มั่นใจมาก หนิงชิงที่ได้ยินเช่นนั้นได้แต่บ่นสามีในใจว่าเขาถึงกับดูกิจวัตรประจำวันของเจ้าอ้วนน้อยทั้งสอ
กว่างานเลี้ยงจะเลิกก็เกือบเย็นแล้ว ครอบครัวเจียงเฉิงกับหนิงชิงพากันส่งแขกร่วมกันที่หน้าจวนจนกระทั่งแขกกลับกันหมดแล้ว หนิงกวานก่อนจะกลับจวนเช่นกันก็มอบของเล่นเอาไว้ให้หลาน ๆ เสียหลายอย่าง พ่อกับแม่ของเจียงเฉิงได้แต่ขอบคุณท่านตาของหลานพวกเขาที่สละเวลาทำของเล่นออกมาเสียมากมาย หนิงกวานได้แต่หัวเราะและบอกว่าพวกเขาเป็นหลานชายตัวอ้วนที่พวกเขามี หากมีสิ่งใดดี ๆ เขาก็อยากมอบให้หลาน ๆ มากกว่าที่จะให้กับคนอื่น หลังจากร่ำลากันได้สักพักพวกหนิงกวานก็ขึ้นรถม้าจากไป ตอนนี้จวนแม่ทัพกลับมาเงียบสงบดังเดิมแล้ว บ่าวไพร่เองต่างก็ช่วยกันเก็บข้าวของเพื่อให้บริเวณงานเลี้ยงสะอาดสะอ้านเหมือนก่อนที่จะจัดงาน พ่อกับแม่ของเจียงเฉิงที่เหนื่อยมาทั้งวันต่างชวนกันไปพักผ่อน วันนี้พวกเขาเสียเรี่ยวแรงไปมากจริง ๆ เอาไว้พรุ่งนี้พวกเขาค่อยไปเล่นกับหลาน ๆ ก็ยังไม่สาย อย่างไรหลานของพวกเขาก็อยู่ด้วยกันที่จวนอยู่แล้วด้วย ฟากฝ
สิ่งของสำหรับเลือกในครั้งนี้มีทั้งอุปกรณ์การช่างที่หนิงชิงเป็นคนวาง ตำราที่ฮ่องเต้ให้ขันทีวางลงไป ก้อนเงินที่ฮองเฮาประทาน ส่วนของไทเฮานั้นเป็นกุญแจอายุยืนที่นางสั่งร้านเครื่องประดับทำขึ้นมา สิ่งของอื่น ๆ ก็ยังมีของเล่นที่หนิงกวานทำมา มีดไม้แกะสลักก็ยังมี ไหนจะดาบของเล่นที่เจียงเฉิงเป็นคนวางอีกเล่า ยังไม่รวมสิ่งของอื่น ๆ อีกนับสิบอย่างที่มีคนมาวางเอาไว้ให้คุณชายน้อยทั้งสองเลือกอีก เมื่อถึงเวลาเลือกของแล้ว หนิงชิงกับเจียงเฉิงก็วางลูกลงบนกองสิ่งของแล้วให้พวกเขาเลือกมาสักหนึ่งอย่าง ด้านโหย่วเฉียงและคงหมิงได้แต่มองกันตาปริบ ๆ พวกเขารู้เพียงว่าอยากได้สิ่งของมาเล่นเท่านั้น จึงทำให้ทั้งคู่คลานต้วมเตี้ยมวน ๆ หาดูว่าจะเอาสิ่งใดมาเล่นดี โหย่วเฉียงที่เห็นดาบของเล่นก็ชอบใจ เขาเลือกดาบและตำราโดยนำดาบมาฟันตำราเล่นเสียอย่างนั้น การกระทำของเขาทำเอาแขกทั้งหลายมีแต่เสียงหัวเราะเอ็นดูเด็กน้อยกันทั้งนั้น ส่วนคงหมิงนั้นเลือกก้อนเงินและอุปกรณ์แปลก ๆ ของหนิงชิง &nb