“ใครกันอยากจะเป็นชายาสามของเขากัน” อี้เหลียวยิ้ม“เอก่อนหน้านั้นใครน้าที่ดีใจที่จะได้เป็นชายาเอกของท่านอ๋อง” จิงเชียวใบหน้าแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย“ก็ตอนนั้นข้า ข้า”อึกอักหาคำตอบไม่ได้“ท่านอ๋องเองก็ดีกับคุณหนูนี่เจ้าค่ะ แม้ตอนนี้จะไม่ใช่คุณหนูจิงเชียวท่านอ๋องก็ยอมก้าวขามาปกป้องยอมบาดหมางกับไท่จือ”“นั่นเพราะเขาเห็นว่าข้าคือหญิงงามต่างหาก เขาเห็นว่าข้าคือหญิงงามเลยต้องการที่จะบอกกับใครต่อใครว่ารู้จักกับข้าก่อนใครรวมทั้งไท่จือ”“คุณหนูขาท่านอ๋องไม่แน่ว่าจะมองออกว่าคุณหนู คือคุณหนูจิงเชียว”“ช่างเขาสิเจ้าได้ยินเขาพูดไหม …ชายาเอกข้าหายไปตั้งสามเดือนแล้ว เขานับวันคืนเพียงนั้นเชียวหรือเขาพะวงว่าข้าไม่อยู่เพียงนั้นเชียวหรือจึงนับวันคืนแต่สุดท้ายก็อยากจะแต่งชายาสาม”อี้เหลียวอดขำเสียไม่ได้ ไหน้ำส้มของคุณหนูแตกทว่าเป็นการหึงหวงตัวเอง จิงเชียวหึงหวงคุณหนูจิงเชียวที่ผอมกว่างดงามกว่า“แต่คุณหนูก็คือชายาเอกนะเจ้าค่ะ หากความจริงปรากฏคุณหนูก็คือชายาเอกอยู่ดีถึงจะต้องแต่งกับท่านอ๋องในตำแหน่งชายาสามก็ตาม”“นั่นสิ ข้าไม่อยากเป็นชายาสามอย่างไรเล่า ข้าจะว่าเห็นแก่ตัวก็ใช่เพราะข้าอยากเป็นชายาเอกหากไม่ใ
“ตำแหน่งหวังตี้ เป็นรองเพียงฮ่องเต้เพียงคนเดียว ข้าคงร่วมยินดีด้วยหากว่าท่านอาไม่ทำชายาอ้วนหายไป ป่านนี้คงได้เป็นหวังไปแล้วหากจะให้ตำแหน่งนี้เป็นของท่านอาข้าเห็นควรว่า หาศพหญิงอ้วนที่ไหนสักคนมาแทนศพของ ชายาอ้วนคนนั้น คนอย่างท่านอาทำได้ทุกอย่างอยู่แล้ว”คราวนี้เป็นฟู่อ๋องที่กัดฟันแน่น อู้ตี้หัวเราะร่าเอามือไพล่หลังก้าวเดินจากไป“กลับจวนเสียพร้อมกัน ผ้าที่เจ้าจะใช้ไว้มาเลือกในคราวต่อไป” จิงชินก้มหน้า“จิงชินตั้งใจแวะไป ที่บ้านฉินสอบถามสารทุกข์สุกดิบท่านพ่อกับท่านแม่”หาทางที่จะอยู่ต่อรู้ดีว่าอู้ตี้ไปรอที่นัดหมายก่อนแล้ว“ดีเลย ข้าก็คิดว่าจะไปที่บ้านฉินเจ้ายังไม่รู้สินะ หลานสาวของท่านลุงฉินอิงเอ่อร์นางมาพำนักที่บ้านฉินรอการคัดตัวนางใน ข้าอยากให้เจ้าพบนาง”พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยทว่าแกว่งๆ ในตอนท้าย“เอ่อเอ่อ ท่านอ๋อง ไปก่อนดีไหม จิงชินเลือกผ้าไม่เกินหนึ่งชั่วยามท่านอ๋องจะได้มีเวลาคุยเรื่องในราชสำนักกับท่านพ่อ”หาทางจนได้ เรื่องรักอยู่ในหัวใจแต่ความกระหายในความใคร่นั้นไม่อาจปฏิเสธว่าไม่สำคัญบ้านฉิน“คุณหนูเจ้าขา อี้เหลียวเตรียมน้ำร้อนไว้พร้อมแล้วมาอาบเสียก่อนเจ้าค่ะอี้เหลียวจะไปยกอาหารวา
งูตัวน้อยอ้วนพีเลื้อยขึ้นมาจากน้ำอุ่น รีบหาที่ซ่อนตัว"เจ้าก็แค่ได้อุ้มนาง เจ้าอ๋องหน้าเฉย ส่วนข้าได้แช่น้ำอุ่นกับร่างเปลือยเปล่าของนาง ได้เห็นทรวดทรงองค์เอวงดงามของนาง" กัวหลงหลงในร่างงูน้อยถอนหายใจยาว จะบอกว่าได้เห็นร่างเปลือยเปล่าก็ไม่ถูก เขาใช้มนตร์บังตากลายร่างเป็นงู เลื้อยเข้ามารอจิงเชียวในห้องทว่ากลับคิดขึ้นได้ว่าจิงเชียวกลัวงู จึงเลื้อยขึ้นไปบนขื่อไม้ แต่ก็นั่นแหละดันหลบไปในห้องน้ำที่นางมาแช่น้ำอุ่นพอดี พอนางปลดอาภรณ์เผยร่างเปลือยเปล่าเขาแม้อยากจะมอง กลับหลับตาปี๋ไม่กล้ามองให้ใจสั่น กัวหลงหลงเอ๊ยกัวหลงหลวยังกล้าอวดอ้างว่าเห็นเรือนร่างเปลือยเปล่านาง บำเพ็ญเพียรมา3500ปีไม่เคยเข้าใกล้นางจิ้งจอกนางไหน เรื่องที่บุรุษควรกระทำก็ไม่เคยได้ลอง ครั้นพอนางแช่น้ำอุ่นกลับใจสั่นท่องมนตร์บังตาผิดถูกร่วงลงจากขื่อตกลงไปในน้ำ ดีที่จิงเชียวหลับตา แต่ก็ไม่วายพยายามว่ายน้ำขึ้นมาสูดอากาศหายใจได้ทัน ดีที่ไม่จมน้ำตาย"ทะทะท่านอ๋อง คะคะคุณหนู"เสียงอี้เหลียวที่ยกอาหารว่างเข้ามาพบอ๋องหน้าเฉยกับจิงเชียวแนบชิดกันเจ้าอ๋องหน้าเฉยนั่นยังอุ้มจิงเชียวให้ใจเขาเจ็บแปลบจะอุ้มนางทำไมเขาก็แค่งูกินปลาไร้พิษสง รอ
จิงชินพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆไม่ได้มีความเคารพต่อใต้เท้าฉินเพราะคิดว่าถือไพ่เหนือกว่าและฉินเกอกับฮูหยินเป็นลูกไก่ในกำมือ"ข้าเคยมีลูกสาวสองคน ที่หวังว่าพวกนาง จะมีครอบครัวมีสามีที่รักและมีอนาคตที่ดี และที่สำคัญแค่เพียงพวกนางเห็นข้าเป็นพ่อ….ข้าก็พอใจแล้วแต่ข้าไร้วาสนาที่จะเห็นอย่างที่อยากเห็น ลูกคนหนึ่งหายไปไร้ร่องรอย อีกคน ….ข้าไม่อาจหวัง จึงคิดว่ากับลูกข้าผิดหวังกับหลานลูกของพี่สาวจึงควรส่งเสริมหวังว่านางหากได้ดีจะไม่ลืมอาคนนี้"จิงชินยิ้มมุมปาก"ท่านพี่"ฮูหยินจิงหรานเอื้อมมือตบที่หลังมือใต้เท้าฉินที่พร่ำพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อยแทบจะกลั่นเป็นหยาดน้ำตา จิงเชียวก้มหน้ากัดริมฝีปากไว้แน่น อยากจะบอกความจริงในทันทีว่าแท้จริงแล้วอิงเอ่อร์ก็คือจิงเชียวด้วยทนเห็นใต้เท้าฉินที่เศร้าโศกจนน่าสงสาร"ท่านพ่อลูกตั้งใจมาเยี่ยมท่านพ่อยังโกรธลูกอยู่อีกหรือ เรื่องที่ลูกไม่ดูแลพี่สาวจนนางหายไป"จิงชินรีบออกตัว ฉินเกอยิ้มมุมปากภายในใจขมขื่นยิ่งนัก"จิงชิน เจ้าไม่ควรจะเอ่ยถึงจิงเชียวให้ท่านพ่อเจ้ายิ่งเจ็บปวดใจ"ฟู่อ๋องปรามจิงชิน"จริงด้วย จริงด้วย มากินข้าวกันเถอะข้าหิวแล้ว ป้าหยูทำขาหมูพะโล้ของโปรดข้าด้วย
ฟู่อ๋องจ้องอ่านริมฝีปากของกัวหลงหลง จิงเชียวยิ้มเจื่อนๆ นั่งนิ่งราวกับหุ่นฟู่อ๋องคีบเอาผัดผักวางบนถ้วยข้าวให้จิงชินที่ยิ้มหวานแทนคำขอบคุณ"คุณหนูเจ้าว่าผัดผักนี่หวานไปหน่อยไหม"กัวหลงหลงเคี้ยวผักในจานเดียวกันเอ่ยปากพร้อมกับหันไปทางจิงเชียว"ทะทะทำไมถึงหวานได้เล่า”จิงเชียวพาซื่อกัวหลงหลงยิ้มยียวน ก็นะไม่หมั่นไส้ก็ต้องหมั่นไส้จิงเชียวน่าเอ็นดูกว่าเป็นไหนๆเจ้าอ๋องโง่“ก็สามีภรรยาเขา ใส่ใจกัน ข้าเป็นหลานท่านป้าตอนนี้ยังไม่มีหญิงใดให้ใส่ใจหมายปอง คุณหนูอิงเอ่อร์เจ้ายินดีคบหาดูใจกับข้าไหม”ฟู่อ๋องส่ายหน้าไปมากับความเป็นกัวหลงหลง“นางจะเข้าคัดตัวนางใน กงฉือข้าว่าท่านจะต้องผิดหวังเสียแล้ว”ฟู่อ๋องพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แต่กัวหลงหลงก็รู้สึกว่าเป็นคำเย้ยหยัน“นางคัดตัวนางในข้าสอบจอหงวน ได้ตำแหน่งจอหงวนก็ขอประทานนางในเพื่อเป็นของรางวัล”ใต้เท้าฉินกับฮูหยินจิงหรานถอนหายใจ “ท่านพี่ข้าว่าเราสองคนนี่ญาติเยอะจริงๆ”“บ้านฉินเงียบเหงาไปนานตั้งแต่…จิงเชียวจากไป ดีเหลือเกินที่พวกเขามานี่”ท่านฉินพูดไปยิ้มไป“ท่านลุงกับท่านป้าวางใจ กงฉือรับรองว่าต่อไปนี้จะต้องครื้นเครง”กัวหลงหลงยิ้ม อย่างที่คิดว่าใบห
"บางทีข้าอาจไม่เลือกใครข้าเพิ่งจะรู้ก็วันนี้เองว่าการที่ข้าผอมลงมันทำให้ลำบากใจ""แล้วไม่ดีหรือเจ้าคะคุณหนูที่มีคนมาชอบคุณหนูแต่ละคนล้วน หล่อเหลา"จิงเชียวบิดมือไปมาแต่คราวนี้ ไม่มีไขมันกระเพื่อมไม่มี คางสามชั้นทว่าน่ารักน่ามอง"ดีสิ ก็มันคือความใฝ่ฝันของข้าที่เดียว เมื่อก่อนข้าข้าไม่คิดไม่กล้าจะพูดไป แต่หวังว่าสักวันข้าจะมีความรู้สึกแบบนี้ ความรู้สึกเหมือนอย่างที่ข้าเคยสงสัยว่าน้องรอง จะอึดอัดเพียงใดหากต้องเลือกใครสักคนและน้องรองจะวางตัวเช่นไร หากมีใครหลายคนมาชอบเราพร้อมๆกัน"อี้เหลียวอมยิ้ม"แล้วคุณหนูวางตัวเช่นไรเจ้าคะ"จิงเชียวดวงตาเป็นประกาย"ข้าไม่ใช่หญิงงามที่เพียบพร้อมจนต้องวางตัวราวกับฮองเฮาสงวนท่าทีอย่างที่น้องรองทำหากแต่เป็นจิงเชียวผู้ที่อยากจะได้โอกาสนี้มานานแล้ว"จวนอ๋องจิงชินสวมใส่อาภรณ์บางเบา แต่ไม่ดึงสายรัดเอวให้แน่นถึงกระนั้นก็ยังมองเห็นว่าทรวดทรงองค์เอว ราวกับเทพปั้น"ท่านอ๋อง"เดินเข้ามาสวมกอดฟู่ฉวีช่ายจากด้านหลังซบหน้าลงบนแผ่นหลังอบอุ่นนั้น ในใจอยากจะอยู่แบบนี้ไปนานชั่วนานอยากจะแนบชิดฟู่อ๋องตลอดไปคราวนี้เองที่จิงชินเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าความรู้สึกที่มีต่ออู้ตี้คือควา
“เจ้างูตัวนั้น อยู่ไหนกัน” ฟู่อ๋องก้มมองลอดไปใต้แท่นนอน“เจ้าโง่จ้างก็หาข้าไม่พบ”กัวหลงหลงใช้มนตร์บังตาให้ตัวเขากลายเป็นขาแท่นนอน“ข้ายินดีทำทุกอย่างเพื่อจิงเชียว นางจะต้องไม่เจ็บปวดอีกต่อไป”“ท่านอ๋องจิงชินกลัว กลัวเหลือเกิน” กอดเอวหนาไว้แน่นกัวหลงหลงเบ้ปาก“เจ้าน่ากลัวกว่า งูน่ารักอย่างข้าเป็นไหนๆ”ส่ายหน้าไปมาก่อนจะเลื้อยเข้าใส่ฟู่อ๋องที่หงายหลังลงกับพื้นด้วยไม่ทันตั้งตัว“ท่านอ๋องมันไปแล้วเจ้างูนั่นหนีไปแล้ว”ฟู่อ๋องลุกขึ้นวิ่งตามกัวหลงหลงออกจากห้องไปแผนการของกัวหลงหลงนับว่าได้ผลอย่างน้อยก็ไม่มีใครได้กินเต้าหู้ของใคร“ข้าจะตามจับมันมาให้ได้ วันนี้ทำไมงูถึงได้เพ่นพ่านเสียจริง” ฟู่อ๋องบ่นเบาๆ คว้ากระบี่ตามกัวหลงหลงไปทันทีตำหนักใหญ่ฮ่องเต้“ฝ่าบาทอากาศเย็นยิ่งนักเหตุใดจึงออกมาตากลม” หยางอู้หลงฮ่องเต้ยกมือขึ้นกอดอก ขันทีนำเสื้อคลุมมาสวมให้“กงกงท่านว่าฟู่ฉวีช่ายอ๋อง เหมาะที่จะนำคนหรือไม่” ขันทีชราประสานมือยิ้มน้อยๆ“พ่ะย่ะค่ะ แต่ข้าน้อยก็ไม่อาจพูดมากไปกว่านี้ได้ในเมื่อในพระทัยของฝ่าบาทล้วนรู้ดีกว่าใคร”“ฟู่ฉวีช่ายข้าเลี้ยงดูมาก่อนที่จะมี อู้ตี้ เขาเป็นลูกของสนมเสด็จพ่อที่อาภัพ แต
“เขาไปไหนของเขากันนะ”จิงเชียวเดินรอบๆ ห้องพักลู่เย่วประสานมือตรงหน้า“คุณหนู เออองค์ เอ่อคุณชายออกไปตั้งแต่เมื่อคืนป่านนี้ยังไม่กลับมา”สีหน้าเป็นกังวลไม่น้อย“แล้วทำไมท่านไม่ติดตามท่านอาจารย์ไปเล่า”จิงเชียวพูดตามความจริง“เอ่อคุณชายไม่ให้ลู่เยว่ตามไป”จิงเชียวถอนหายใจ“พวกท่านทั้งสองคนมีอะไรที่จะบอกข้าไหม เรื่องราวที่ผ่านมายังไม่ได้รับความกระจ่าง”ลู่เย่วรีบหลบตา“บอกมาอย่าปิดบังข้า”ลู่เยว่ ก้มหน้านิ่งกำลังจะหาทางออกว่าควรจะแก้ตัวว่าอย่างไรไม่ได้ซักซ้อมไว้กับกัวหลงหลง“คุณหนูอิงเอ่อร์ที่เป็นแขกของบ้านฉิน มีน้ำใจยิ่งนักยกอาหารเช้าให้กับแขกของบ้านฉิน”ร่างสูงชะลูดของฟู่อ๋องเอามือไพล่หลังเดินมาจากด้านหน้าบ้านฉิน“ขอบคุณท่านอ๋องที่เอ่ยชม ความจริงจิง..อิงเอ่อร์ก็ดีกับทุกคนไม่เว้นใครท่านอ๋องลองมาเป็นแขกที่บ้านฉินดูจะดีไหม”ยิ้มสดใสแววตาใสซื่อฟู่อ๋องถอนหายใจยาว“ข้ามาส่งข่าวเรื่องหลานของฮูหยินฉินกงฉือ ที่บัดนี้พักรักษาตัวที่วังหลวงด้วยอาการบาดเจ็บ”จิงเชียวหน้าซีดเผือดยกมือขึ้นกุมที่อก“อะอะอุ๊ป”ยกมือขึ้นปิดปากตัวเอง ฟู่อ๋องสังเกตท่าทีตื่นตกใจนั้นตลอดเวลา“อี้เหลียว ข้าจะเข้าวังหลวงเดี๋ยวนี้
ฟู่ฉวีช่ายอ๋องท่านอ๋องหนุ่มผู้ซึ่งเป็นน้องต่างมารดาของฮ่องเต้จึงได้เพียงตำแหน่งอ๋องมีแม่เป็นเพียงสนมที่ไม่เป็นที่โปรดปรานทว่าฮ่องเต้กลับรักราวกับลูกด้วยฟู่ฉวีชาย ช่วยงานราชสำนักหนักเบาได้ไม่น้อย มีความทรงจำที่งดงามในวัยเด็กร่วมกันกับจิงเชียวเรียกได้ว่าจิงเชียวคือรักแรกของเขาเช่นกัน แต่เป็นคนที่เก็บซ่อนความรู้สึกได้เก่งมาก มีความลับที่ไม่อาจเปิดเผยมากมาย แต่ก็พยายามที่จะชนะใจจิงเชียวให้ได้ฉินจิงเชียวหญิงอ้วนที่รักแรกรักเดียวคือฟู่ฉวีช่าย เป็นที่รักใคร่ของคนรอบข้างถูกตามใจมาตั้งแต่เด็กแต่ก็นิสัยน่ารักสดใสไม่ได้มีนิสัยเอาแต่ใจเหมือนเด็กที่ถูกตามใจทั่วไปจึงเป็นที่รักใคร่ของคนทั่วไปแม้จะอ้วนก็ไม่มีใครมองว่าคือสิ่งที่เป็นเรื่องใหญ่ทุกคนมองข้าม เพราะจิงเชียวน่ารักสดใสกับคนรอบข้างเสมอ อีกทั้งยังเป็นคนจิตใจดีมีเมตตากับคนทั่วไปโดยเฉพาะฉินจิงชิน ปัญหาคงไม่เกิดหากฟู่อ๋องไม่หมางเมินจนทำให้จิงเชียวกระโดดหน้าผาจนพบกับกัวหลงหลงผู้ที่จะมาเปลี่ยนแปลงทุกอย่างกัวหลงหลงองค์ชายเผ่าจิ้งจอกที่ชอบหนีเที่ยวแต่บังเอิญ วันนั้นหลงทางกับองครักษ์ (ลู่เยว่)และมาพบกับจิงเชียวที่มีเมตตาช่วยเหลือเขาโดยการนำตัวจิ
“แล้วหากข้าอ้วนขึ้นเล่า”“ความจริงข้าชอบจิงเชียวในแบบอ้วนนะอย่างน้อยนางก็มีสายตาไว้มองข้าคนเดียว ถึงความคิดของข้าจะเห็นแก่ตัวไปก็ตามแต่ข้าไม่ชอบให้ใครมองเจ้าไม่ชอบให้ใครชมเจ้าว่างดงามไม่ชอบให้เจ้า มองคนอื่น”“จิงเชียวก็ไม่ชอบให้ท่านพี่อ๋องฟู่มองคนอื่นเหมือนกัน”ตาสบตาฟู่อ๋องจุมพิตที่ริมฝีปากอย่างอ่อนโยน กัวหลงหลงที่ยืนอยู่ด้านหลังห้องยกสุราขึ้นกรอกลงปากจนหมดถุง ยิ้มเศร้าๆ หมาเชาเชาตัวสีขาวส่งเสียงร้องงื๊ดง๊าด กัวหลงหลงก้าวเดินจากไป“ไปกันเถอะลู่เยว่”“โฮ่งๆๆ”ลู่เยว่ท้วง“ไม่ไม่จำเป็นต้องกล่าวลานางหรอก ข้าพร้อมจะไปแล้ว นางก็พร้อมที่จะยิ้มรับความสุขแล้ว”สายลมพัดผ่านพวงหางทั้งเก้า กัวหลงหลงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พรุ่งนี้จิงเชียวจะถามหาเขาไหมนะพรุ่งนี้นางจะ ยังมีเขาในความทรงจำไหมนะ“อย่าเพิ่ง ท่านพี่อ๋องฟู่จิงเชียวสงสัยว่าท่านทำไมไม่ร่วมแท่นนอนกับน้องรองจิงชินทั้งๆ ที่นางงดงามเพียงนั้น”ฟู่อ๋องถอนหายใจทั้งที่เขากำลังทาบทับร่างอุ่นของจิงเชียวแต่นางกับพูดเรื่องนี้ขึ้นมา“เพราะข้ารอเจ้าอย่างไรเล่าจิงเชียว เพราะข้ารักเจ้าอย่างไรเล่าจิงเชียวไม่ว่าจะกี่หญิงงามก็ไม่อาจทำให้ข้าเปลี่ยนใจ ข้ามีใจให้จิงเช
ก่อนหน้านั้น“ฮ่องเต้เสด็จๆๆๆๆๆ”จิงเชียวหรืออิงเอ่อร์นั่งบีบมือเย็นเฉียบอยู่บนแท่นนอน ใต้แท่นนอนมีกัวหลงหลงที่กลายร่างเป็นงู คอยระวังระไวหากจิงเชียวร้องขอความช่วยเหลือเขาคงต้องตัดใจกัดอู้หลงฮ่องเต้ให้จมเขี้ยวอย่างแน่นอน“จิงเชียวน้อย เจ้ากำลังเล่นอะไรอยู่”คิ้วสวยขมวดเข้าหากัน กัวหลงหลงอ้าปากค้าง พึมพำเบาๆ“เจ้าอ๋องนั่นจะต้องเอาเรื่องนี้ไปบอกอู้หลงฮ่องเต้แน่”“ฉินเกอลนลานเข้ามาพบข้าบอกว่าเจ้าคือจิงเชียวน้อย ที่กลับมาอีกครั้งจากความตาย”จิงเชียวเงยหน้าขึ้นช้าๆ กัวหลงหลงส่ายหน้าไปมา“ฝ่าบาทรู้เรื่องนี้แล้ว”“ตั้งใจปิดบังฟู่อ๋อง ตามหารักแท้หรือไรฮ่าาาา”จิงเชียวก้มหน้ายิ้ม“ฝ่าบาท โปรดอภัยจิงเชียวไม่ได้ตั้งใจหลอกลวงเบื้องสูง”คุกเข่าลงกับพื้น“ข้าเห็นเจ้าในครั้งแรกก็รู้สึกว่าดวงตาของเจ้าเหมือนของใครสักคนที่ข้ารู้จัก ในที่สึกจึงรู้ว่าเป็นของจิงเชียวน้อย บิดาเจ้ายินดีกว่าใครอยากจะเข้ามาพบเจ้าเสียให้ได้แต่ ข้าห้ามไว้ตั้งใจจะวางแผนจัดการกับคนปากแข็งเช่นฟู่อ๋อง ข้าส่งคนสอดแนมตอนที่เจ้าหายไป อยากรู้ว่าฟู่อ๋องเสียใจหรือไม่เมื่อเจ้าไม่อยู่”“แล้วท่านพี่อ๋องฟู่เสียใจไหมเพคะที่จิงเชียวไม่อยู่”กัวหล
เขย่าประตูแต่ทว่ากับใส่กลอนแน่นหนาฟู่อ๋องใช้ไหล่กระแทกประตูด้วยแรงทั้งหมดจนกระทั่งบานประตูหลุดออกจากกันพุ่งตัววิ่งเข้าหาจิงเชียวที่นอนบนแท่นนอนหนา“อิงเอ่อร์ ไม่สิจิงเชียวเจ้าเป็นอะไร เกิดอะไรขึ้น”จิงเชียวเงยหน้าขึ้นช้าๆ จ้องมองใบหน้าหล่อเหลาทว่ามีสีหน้าวิตกกังวล มองอ้อมแขนที่กอดรัดไว้แน่น“ท่านพี่อ๋องฟู่ท่านรู้ว่าเป็นข้าหรือ” ฟู่อ๋องเลิกคิ้วสูง“เมื่อกี้เจ้ากรีดร้องเป็นอะไรไป”“จริงด้วยงู มีงูในผ้าห่มของข้าข้าเอาหมอนฟาดมันจนตัวงอ แต่มันก็ไม่ยอมไปไหน”ฟู่อ๋องอุ้มจิงเชียวไปวางไว้ที่เก้าอี้“ข้าจะไล่งูให้” กัวหลงหลงที่กลายร่างเป็นงูตัวสีดำขมวดคิ้ว พุ่งตัวเข้าหาจิงเชียว“กรี๊ดดดด”ฟู่อ๋องเองก็ถลาเข้าหาจิงเชียวกอดรวบร่างบางไว้แนบอก“ฟู่อ๋องฉวีช่าย”เสียงดังราวกับอาญาสิทธิ์ดังขึ้นอู้หลงฮ่องเต้ก้าวขามาในห้องทันได้เห็นภาพที่ฟู่อ๋องกอดรวบจิงเชียวไว้ทั้งตัวพอดี“ฝะฝะฝ่าบาท”ฟู่อ๋องรีบปล่อยอ้อมกอดประสานมือตรงหน้าสำนึกผิด“ฟู่อ่องสมควรตายล่วงเกินพระสนม”“หือ พระสนม ใครบอกว่านางเป็นสนมของข้า”ฟู่อ๋องมีสีหน้างงงันกัวหลงหลงพุ่งตัวออกไปด้านนอกกลายร่างเป็นกัวหลงหลงใทันที“พิษรักเล่นงานจนถึงกับทนไม่ไ
“รู้ได้อย่างไรว่าในเครื่องเสวยมียาปลุกกำหนัด”ถามทั้งที่ตัวเขาเองก็เอะใจอยู่แล้ว แล้วอีกอย่างท่าทีของจิงชินเมื่อเห็นเครื่องเสวยร่วงเกลื่อนพื้นนางทำสีหน้าราวกับจะฆ่าจะแกงกัวหลงหลง“ก็นะข้ามีความสามารถพิเศษเรื่องที่สามารถ สัมผัสกลิ่นได้ดีกว่าคนทั่วไป”ฟู่อ๋องเลิกคิ้วสูง“ขอบคุณ แต่ก็อดแปลกใจไม่ได้ในเมื่อท่านองครักษ์มีทีท่าว่าหมายปองจิงเชียวทำไมท่านองครักษ์ถึงยอม …ช่วยข้าหรือว่าตั้งใจจะให้ข้า ออกหน้าแทนชิงตัวจิงเชียวมาจากฝ่าบาทกันแน่”“ช่างจินตนาการมองคนอื่นในแง่ร้ายสิ้นดี คนอย่างอ๋องฟู่รูปงามทว่าช่างคิดเล็กคิดน้อย”ฟู่อ๋องถอนหายใจ“ไปกันเถอะ ข้าต้องรีบไปอารักขาจิงเชียวแล้ว”ก้าวเดินนำจวนฟู่อ๋อง“ไท่จือ ท่านท่านมาถึงนี่”อู้ตี้ไท่จือเดินเซด้วยความเมามาย หลบอยู่ในห้องบรรทมของจิงชิน“จิงชินข้าคิดถึงเจ้า”พุ่งตัวเข้ากอดรัดจิงชินที่เบี่ยงตัวหลบ“เจ้ารังเกียจข้าหรือหรือว่าเปลี่ยนเป้าหมายแล้วหรือเห็นท่านอาดีกว่าข้าใช่ไหม”จิงชินถอนหายใจ“ท่านจือที่นี่เป็นจวนอ๋องไท่จือกล้ามาถึงนี่ แล้วมาทำเรื่องแบบนี้หากใครมาเห็นเข้า”“ก่อนนั้นข้าก็มาพบเจ้าที่นี่เป็นประจำไม่เคยมีปัญหาทำไมวันนี้ถึงได้คิดจะมีปัญหาไม่
“อะฮ้า จวนท่านอ๋องฟู่นี่มีเครื่องเสวยแต่ละอย่างน่ากินทั้งนั้น”กัวหลงๆ เปิดประตูเข้ามาราวกับบสนิทชิดเชื้อเสียเต็มประดาทรุดกายลงนั่ง“หือ แต่ละอย่างน่ากินทั้งนั้น”ก้มลงสูดดมกลิ่นอาหารก่อนจะขมวดคิ้ว หางทั้งเก้าปรากฏเลือนรางก่อนจะรีบร่ายมนตร์บังตาเสียใหม่“เจ้าเข้ามาได้อย่างไรผ่านองครักษ์เข้ามาได้อย่างไร”“หือข้าเป็นสหายลืมไปแล้วหรือท่านอ๋อง ข้ามาเพื่อจะมาเตือนว่าท่านจะต้องรีบไปอารักขาพระสนมคนใหม่ของฝ่าบาท”“ท่านองครักษ์ ท่านอ๋องเสวยเย็นแล้วจึงจะรีบไป”กัวหลงหลงยิ้ม เดินมาหยิบ กระบี่ที่วางไว้บนที่วางกระบี่ที่ทำจากงาช้าง“กระบี่นี่เนื้อดีอีกทั้งยัง เหมาะมือ”ไม่พูดเปล่าร่ายรำกระบี่ราวกับห้องนั้นเป็นสนามประลองตวัดคมกระบี่ไปด้านหน้าด้านหลัง“ระวังหน่อย เพล้งๆๆๆๆ”ฟู่อ๋องที่พูดยังไม่ทันขาดคำ ร่างสูงของกัวหลงหลงหันหลังกลับมาวาดกระบี่ในมือกวาดเอาเครื่องเสวยบนโต๊ะร่วงลงเกลื่อนพื้น“ขะขะข้าขอโทษ โอ๊ยแย่แล้วข้าผิดไปแล้วข้าทำมันพังอีกแล้วใช่ไหมข้าแย่จริงเชียว”รีบถลาเข้าไปเก็บชามและถ้วยเครื่องเสวยที่ร่วงเกลื่อนพื้น จิงชินกัดฟันจนเป็นสันนูนบ้านฉิน“ท่านพี่ในที่สุดสวรรค์ก็เข้าข้างเรา”ฮูหยินจิงหรานป
เช้าสดใส จิงเชียวนอนบิดขี้เกียจบนแท่นนอนอุ่นนุ่มเมื่อคืนหลับสบายไม่น้อย นางกำนัลยกชามน้ำอุ่นเข้ามาในห้อง“พระสนม”จิงเชียวยิ้มหวานหยดท้องพระโรงขุนนางหลายฝ่ายต่างรออยู่หน้าบัลลังก์อู้หลงปิดปากหาว ก้าวเดินมานั่งที่บัลลังก์ กัวหลงหลงก้าวตามมาติดๆ ก้มหน้ามองพื้นทางเดินมากกว่าเหมือนกลัวว่าจะสะดุดล้ม“ถวายพระพรฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นปีหมื่นๆ ปี”เสียงแซ่ซ้องจากคนทั้งหมดในท้องพระโรงอู้ตี้ยิ้ม เมื่ออู้หลงฮ่องเต้ปิดปากหาวอีกครั้ง“เสด็จพ่อ เมื่อคืนที่ผ่านมาคงจะทรงเกษมสำราญไม่น้อย”อู้หลงยิ้มมุมปาก“ฟู่อ๋องไปไหนเสีย”ฟู่อ๋องก้าวเดินมาตรงหน้าเด่นสง่าประสานมือ“ป่านนี้ฟู่อ๋องยังไม่พบชายาเอกที่หายไปอีกหรือหรือว่าเลิกล้มความตั้งใจในการตามหาชายาเอกจิงเชียวน้อยเสียแล้ว”อู้หลงพูดขึ้นดังๆ ฟู่อ๋องก้มหน้า“ฟู่อ๋องส่งคนลงไปที่หุบเหวปราบเซียนค้นทุกซอกทุกมุมพบเพียงความว่างเปล่า จึงได้สั่งให้ลดกำลังคนในการค้นหา”อู้หลงถอนหายใจ“ข้าเองก็คงเลิกล้มคำสั่งเรื่องการแต่งตั้งชายาเอกตอนนี้จะแต่งตั้งใครอย่างไรก็คงแล้วแต่อ๋องฟู่ เพราะนานมากแล้วที่ชายาเอกหายตัวไป”้“ฝ่าบาท ตอนนี้ยังไม่พบนางข้าจึงคิดว่าการแต่งตั้งชายาเอก
“ท่านก็ไปเสียเองสิท่านเองก็ชื่นชอบนางท่านเองก็มีใจให้คุณหนูอิงเอ่อร์มิใช่หรอกหรือ แม้กระทั่งเข้ามาในวังหลวงนางยังใช้แซ่ของท่านในการสมัครเข้ามาคัดตัวนางในก็ควรเป็นท่านองครักษ์ที่จะต้องทำเพื่อนาง”กัวหลงหลงกัดฟันแน่น“นี่ ฟู่อ๋องข้ามองท่านผิดไป ข้ารึอุตส่าห์ช่วยท่านให้รอดพ้นเงื้อมมือไท่จือแต่ท่านกับทำทีเหมือนว่านางไม่….สำคัญกับท่านกระนั้น”“ช่วยข้ารึ ข้าไม่ได้ขอร้องนี่”กัวหลงหลงยกมือขึ้นตั้งใจจะซัดเข้าใส่ใบหน้าหล่อเหลาของฟู่อ๋องด้วยโทสะทว่ากับกำหมัดแน่น"ท่านไม่ทำข้าทำเอง ข้าไม่ยอมให้จิงเชียวเอ๊ย อิงเอ่อร์นางต้องเป็นสนมของฝ่าบาทเป็นแน่”“คิดหรือว่าวิธีนี้จะได้ผล ท่านตั้งใจเอาคอของท่านไปพาดไว้บนแท่นประหารอย่างนั้นหรือ”“เจ้าคนขี้ขลาด ข้าคิดว่าท่านจะชอบนางพร้อมยอมทำเพื่อนางแต่ดูท่านสิทำอะไรได้”กัวหลงหลงพูดไปก็เหมือนกับว่าตัวเองเพราะตัวเขาเมื่อเข้ามาอยู่ในวังกลับไม่สามารถใช้มนตร์ต่างๆ ได้ด้วยวังหลวงล้วนมีเครื่องรางและที่สำคัญป้ายหยกข้างกายอู้หลงนั่นยิ่งทำให้อ่อนแรง“หากท่านคุกเข่าต่อหน้าฝ่าบาทเรื่องที่ขอประทานอนุญาตรับนางเป็นฮูหยิน นั้นเท่ากับท่านกล้าแย่งแม้กระทั่งสนมของฮ่องเต้ ตอนนี้ท่าน
อู้ตี้ปากไวเท่าความคิด ทำเอาเหล่าหญิงงามต่างหัวเราะขบขัน จิงเชียวกัดเม้มริมฝีปากแน่นฟู่อ๋องอมยิ้มกับดอกท้อสีแดงสดตรงกลางผ้าสีขาวสะอาดดอกท้อสีแดงโดดเด่นบนนั้นเหมือน จิงเชียวในตอนนี้ยิ่งแน่ใจว่านี่คือจิงเชียวน้อยของเขาที่กี่ปีก็ไม่เคยเปลี่ยนนางปักได้เพียงดอกท้อสีแดงตั้งแต่เก้าขวบกัวหลงหลงดึงเอาผ้าขาวจากมือฟู่อ๋อง"งดงาม งดงามจริงๆ ช่างเป็นดอกท้อที่แตกต่างแต่มีมนต์ขลังพวกท่านเห็นไหม ไม่ใช่ใครจะปักลวดลายแบบนี้ได้ง่ายๆ งดงามแต่เรียบง่าย ธรรมดาแต่น่าจดจำ"หญิงงามที่กำลังซุบซิบต่างเงียบเสียงมองไปที่ดอกท้อสีแดงสดเพียงดอกเดียวนั้น"ท่านองครักษ์ท่านเลอะเลือนไปแล้วหรือ เช่นไรจึงได้กล่าวชื่นขมเพียงแค่คนที่ทำอะไรง่ายๆอย่างนี้ นางไร้ความสามรถท่านยังเอ่ยชมเห็นว่านางมีใบหน้างดงามเป็นต่อพวกเราหรือไร"บุตรีของขุนนางใหญ่แซ่จือกล่าวติเตือนกัวหลงหลง"หืม. ..พวกเจ้าล้วนคิดว่าลวดลายงดงาม เท่านั้นที่จะผ่านการคัดเลือก จริงๆแล้วการที่ใครสักคนใส่ใจงานที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จสิ้น รู้จักพลิกแพงนั่นนับว่าหลักแหลมยิ่งแล้ว เขาสั่งให้ปักจึงปัก ลวดลายสะท้อนความเป็นตัวตนนางเป็นง่ายๆ ทว่าก็ทำตามกฎ"อู้หลงฮ่องเต้ก้าวเข