Share

บทที่ 73 เขินจะแย่อยู่แล้ว

Author: ฮวาฮวาน่งหยวี่
last update Last Updated: 2023-12-19 16:00:00
ด่าเสร็จ ซูเฟิงอี้ก็ไม่กล้าอยู่ต่อหน้าอีกฝ่ายนาน เพราะนางกลัวว่าถูซินเยว่จะอาละวาดขึ้นมากอีก นางจึงไม่ขอเสี่ยง

ดังนั้นเมื่อด่าจนหายโกรธแล้ว ซูเฟิ่งอี๋ก็วิ่งหนีไป

เมื่อมองดูอีกฝ่ายที่วิ่งหนีไป ถูซินเยว่ก็หันมาหาซูจื่อหังและถามขึ้นว่า "เจ้าว่าข้าขี้งกหรือเปล่า?"

“ไม่แน่นอน!” ซูจื่อหังส่ายหน้าหัวมองไปยังถูซินเยว่ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความไว้วางใจ เขาเลิกคิ้วแล้วพูดว่า "ไม่ว่าภรรยาของข้าจะพูดอะไรก็ถูกไปหมด"

ถูซินเยว่ที่ยังคงรู้สึกโกรธในตอนแรก แต่เมื่อได้ยินสิ่งนี้ก็หัวเราะออกมาทันที

เธอพูดว่า "คล้อยตามคนอื่นอย่างไม่หลับหูหลับตาแบบนี้ มันไม่ดีนะ"

“ข้าไม่ได้คล้อยตามอย่างไม่หลับหูหลับตาเสียหน่อย ข้าก็แค่เป็นคนเชื่อฟัง" น้ำเสียงของซู่จื่อหังค่อนข้างจริงจัง

ถูซินเยว่ "..."

เธอยอมแพ้ผู้ชายคนนี้แล้วจริง ๆ

ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ใช่ว่าถูซินเยว่จะเสียดายหอยมุกพวกนั้นถึงได้ปฏิเสธซูเฟิ่งอี๋ไป

แต่สำหรับคนหน้าด้านอย่างซูเฟิ่งอี๋นั้น หากมีครั้งที่หนึ่งก็จะต้องมีครั้งที่สองครั้งที่สาม หากครั้งนี้ตนให้หอยมุกกับนางไป ต่อไปไม่ว่าที่บ้านมีของดีอะไร อีกฝ่ายก็คงแบกหน้ามาขออย่างไร้ยางอายอีกเป็นแน่

ถูซ
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 74 มาหาเรื่องที่บ้าน

    เมื่อรับประทานอาหารเที่ยงเสร็จ นางหยูก็คีบเนื้อไก่ให้ถูซินเยว่ หวังจะให้เธอกินเยอะ ๆ“ซินเยว่ ช่วงนี้เจ้าไม่ต้องลดน้ำหนักแล้ว ดูเจ้าซิผอมลงไปขนาดนี้แล้ว กินเยอะ ๆ หน่อยจะได้บำรุง ๆ "นางหยูกำชับอย่างเมตตา ในขณะที่พูดนางก็คีบเนื้อไก่ชิ้นหนึ่งใส่ลงในชามของถูซินเยว่ถูซินเยว่ขานรับแห้ง ๆ "อืม" เมื่อรอนางหยูกินเสร็จ และเก็บถ้วยชามออกไป นางก็แอบคีบเนื้อไก่นั้นกลับไปคืนอย่างเงียบ ๆซูจื่อหังเห็นท่าทางหลบ ๆ ซ่อน ๆ นั้นก็พูดขึ้นว่า "ท่านแม่คีบให้ เจ้าก็กินเถอะ"“ท่านแม่เกือบจะเอาเนื้อไก่ทั้งชามมาให้ข้าอยู่แล้ว ถึงข้าจะอยากกิน แต่จะกินหมดได้ยังไง" ถูซินเยว่เหลือบมองชายตรงหน้าด้วยความขุ่นเคือง ถ้าไม่ใช่เพราะซูจื่อหัง เธอก็คงไม่ต้องมาทนทุกข์เช่นนี้ แต่ก็น่าเสียดายที่เธอไม่สามารถตำหนิซูจื่อหังออกมาตรง ๆ ได้ดูเหมือนซูจื่อหังจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ แต่ไม่ได้ตำหนิอะไรถูซินเยว่ แต่กลับก้มหน้าลงพยายามปกปิดอาการประหม่าของตัวเองไว้หลังจากที่ทั้งสองกินข้าวเสร็จแล้ว ถูซินเยว่ก็เก็บจานชามออกไปนั่งที่หน้าประตูบ้าน ใช้กิ่งไม้วาดรูปอยู่บนพื้นดินอย่างที่ซูจื่อหังบอก ไม่มีใครจับปลาในอ่างเก็บน้ำได้

    Last Updated : 2023-12-19
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 75 ไม่เหม็น

    หากยอมแพ้ให้กับพวกเขาในครั้งนี้ ก็จะมีเรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นอีกเรื่อย ๆแต่นางหยูตัดสินใจแล้ว จึงส่ายหัวแล้วพูดขึ้นว่า "ให้พวกเขาไปเถอะ"พูดจบ นางก็เดินไปหาแม่เฒ่าตระกูลซูแล้วพูดเบา ๆ ว่า “ท่านแม่ ที่ผ่านมาข้าผิดเอง สุขภาพข้าไม่ค่อยดีจึงไม่ค่อยได้มาเยี่ยมท่าน หลังจากนี้ข้าจะมาเยี่ยมท่านแม่บ่อย ๆ นะ ”"หึ!" แม่เฒ่าตระกูลซูเหลือบมองนางแล้วพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า "ถือว่าเจ้ายังรู้จักกาลเทศะอยู่นะ"พูดจบ นางก็ไม่ใส่ใจนางหยู ยกถังหอยมุกขึ้นและเดินจากไปหลังจากที่ร่างของแม่เฒ่าตระกูลซูพ้นสายตาไปแล้ว นางหยูถึงได้เดินไปนั่งลงบนเก้าอี้อย่างเลื่อนลอยด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนักสีหน้าของถูซินเยว่ก็ดูแย่พอ ๆ กันผลจากการทำงานหนักอย่างเหน็ดเหนื่อยถูกพรากไปในพริบตา แล้วถูซินเยว่จะไม่เสียใจได้อย่างไร?เดิมทีเธออยากจะลองชิมดูว่าหอยมุกจะอร่อยเพียงไหนยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่ทำให้เธอโกรธมากขึ้นไปอีกก็คือ แม้เวลาจะผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว แต่นางหยูก็ยังโง่เขลาไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด“ท่านแม่ ทำไมท่านต้องให้หอยมุกพวกเขาไปด้วย?"ถูซินเยว่นั่งลงตรงข้ามกับนางหยูเธอมักจะพูดอะไรตรงไปตรงมาเสมอเมื่อนางหยูได้ยินดั

    Last Updated : 2023-12-19
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 76 ซูจื่อหังตะลึง

    วันต่อมา ซูจื่อหังก็ทำตามสัญญา ลุกมาเก็บหอยกาบที่แม่น้ำแต่เช้า เมื่อถูซินเยว่ตื่น ก็เห็นถังน้ำในลานบ้านใส่หอยกาบไว้เต็มถังและจำนวนยังเยอะกว่าวันนั้นอีกเล็กน้อยด้วยก่อนหน้านี้ถูซินเยว่ไปกับเขาด้วย ทั้งสองคนช่วยกันเก็บไปหนึ่งชั่วยามถึงเก็บได้มากขนาดนี้ ซึ่งเดาได้เลยว่าวันนี้ซูจื่อหังตื่นไปเก็บตั้งแต่ตอนไหนนึกไม่ถึงว่าชายหนุ่มจะรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับตนเอง ทำให้ถูซินเยว่รู้สึกหวานชื่นในใจเธอไปตักน้ำมา หลังจากล้างหน้าเสร็จก็ทาครีมบำรุงด้วยความระมัดระวังเธอผสมน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ไปในครีมบำรุงด้วย หมู่นี้รอยแผลเป็นที่หลงเหลือจากฝีหนองบนใบหน้าของถูซินเยว่ค่อยๆ จางลงแล้ว ซึ่งทำให้ใบหน้าเธอเนียนเด้งดั่งผิวของไข่ต้มเมื่อมองดูตนเองที่ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปทุกวันในกระจก ถูซินเยว่ก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากเพียงแต่เมื่อเธอนับๆ ดู ก็ดูเหมือนว่าจะถึงเวลาที่ต้องขึ้นไปเอาเหยื่อบนภูเขาอีกแล้วหลังจากกินข้าวและเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ถูซินเยว่ก็ตั้งใจจะขึ้นภูเขาไปคนเดียวแต่คิดไม่ถึงว่าอยู่ๆ ซูจื่อหังจะเดินออกมาจากในบ้าน พูดว่า "ข้าไปกับเจ้าด้วย"เมื่อถูซินเยว่มองไป ก็เห็นว่าอีกฝ่ายตอนที่เดินเข้าไปเม

    Last Updated : 2023-12-20
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 77 ทำลอบดักกุ้ง

    ภูมิใจ?ถูซินเยว่ไม่เข้าใจไม่กลัวตนเองก็แล้วไปเถอะ แต่จะภูมิใจเรื่องอะไรกัน?ทว่าซูจื่อหังกลับหันหน้ามา และพูดด้วยแววตาเป็นประกายว่า "หากไม่ใช่เพราะภรรยาข้ามีจิตใจเมตตา ก็คงไม่ประสบโอกาสเช่นนี้ นอกจากนี้จะมีใครที่ไหนที่สามารถเป็นเพื่อนกับเสือ ที่รักเจ้าเป็นคนแรกเลย ข้าก็ต้องภูมิใจอยู่แล้ว"นึกไม่ถึงว่าไอ้หนุ่มหลังเขาเวลาพูดชมเชยใครจะตรงไปตรงมาแบบนี้ถูซินเยว่ไอกระแอมแก้เขินเพราะคำชมของซูจื่อหังใบหน้าของหญิงสาวอมสีแดงระเรื่อ เธอเบือนหน้าหนี ไม่มองซูจื่อหัง เพื่อไม่ให้ตนเองเคอะเขินไปมากกว่านี้ทว่าซูจื่อหังกลับแอบมองใบหน้าด้านข้างของถูซินเยว่อยู่ตลอด เขาพบว่าภรรยาของตนเองนับวันยิ่งสดสวย แม้แต่ตอนที่เขินอายก็ยังเปรียบดั่งบุปผางาม น่ารักเป็นอย่างมากขึ้นภูเขาครั้งนี้ได้ของติดไม้ติดมือกลับมาด้วย ทั้งสองคนรู้สึกดีใจมากซูจื่อหังคิดไว้ว่ากลับถึงบ้านจะทำผัดเผ็ดกระต่ายให้ถูซินเยว่กิน ระหว่างทางไม่มีอะไรทำ เขาจึงเล่าเรื่องสนุกๆ ในสำนักบัณฑิตให้อีกฝ่ายฟัง เมื่อถึงตรงที่ตลก ถูซินเยว่ก็ขำจนตัวโอนตัวเอนบรรยากาศของทั้งคู่นับว่าเป็นไปด้วยดีตลอดทางภายใต้แสงตะวันในฤดูหนาว ชายหนุ่มรูปร่างส

    Last Updated : 2023-12-20
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 78 ความตะลึงของต้าจู้

    เพราะมีภาพแบบ ดังนั้นถูซินเยว่ที่ทำลอบดักกุ้งตามแบบจึงไม่ยากเย็นมากนักหลังจากที่ซูจื่อหังเพาะปลูกเสร็จก็มาช่วยเธอทำด้วย ทั้งสองคนขลุกรวมกันอยู่พักใหญ่ ลอบดักกุ้งก็เพิ่งทำไปได้แค่ส่วนหนึ่ง ถูซินเยว่มองไปที่แบบก็พบว่ามันยังห่างไกลจากความสำเร็จมากหญิงสาวลุกขึ้นบิดขี้เกียจด้วยความเซ็งๆ และพูดว่า "หนทางอีกยาวไกล!"ซูจื่อหังอมยิ้มและพูดว่า "ใช้สำนวนเป็นแล้วหรือ?"หลังจากที่คลุกคลีอยู่กับถูซินเยว่เป็นเวลานาน เขาก็เพิ่งรู้ว่าหญิงสาวเหมือนดั่งขุมทรัพย์ล้ำค่าที่ซ่อนสิ่งต่างๆ ซึ่งเขาไม่รู้ไว้มากมายอย่างเช่นบางครั้งถูซินเยว่ก็เสนอความคิดที่ตนเองไม่เคยรู้จักมาก่อน และบางทีอีกฝ่ายก็จะพูดประโยคแปลกประหลาดที่ตนเองนั้นไม่เคยแม้จะได้ยินมาก่อนเสียด้วยซ้ำนอกจากนี้ทั้งๆ ที่ถูซินเยว่ไม่เคยร่ำเรียนมาก่อน แต่บางครั้งสิ่งที่เธอพูดออกมากลับมีเหตุมีผลมีน้ำหนักน่าเชื่อถือ ขนาดที่แม้แต่ตนเองก็ต้องยอมเมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ดวงตาของซูจื่อหังก็ฉายแววความภาคภูมิใจเขายื่นมือออกมานวดไปที่หน้าผากของภรรยา ในใจพลางคิดว่าภรรยาของตนเองนั้นช่างแตกต่างจากทุกๆ คนเสียจริง"รอทำลอบดักกุ้งเสร็จแล้ว ยังต้องต่อเรือเล็กอี

    Last Updated : 2023-12-20
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 79 เจตนาร้ายของถูชิวหลาน

    "ตระกูลซูยากจนมากๆ ไม่ใช่หรือ?" ทำไมอยู่ดีๆ ถึงใจกว้างขนาดนี้?ภรรยาของต้าจู้คิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจต้าจู้กลับแสยะยิ้ม และมองอีกฝ่ายด้วยสายตาที่เหมือนมองคนโง่เขลา เขาเก็บเหรียญทองแดงทั้งหมดบนโต๊ะกลับเข้าไปในถุงพร้อมพูดว่า "ใครบอกเจ้าหรือว่าตระกูลซูยากจนมาก? หมู่นี้ซินเยว่นำอาหารป่าไปให้บ้านหยวนเป่าบ่อยๆ เจ้าไม่รู้เลยหรือ? มีสะใภ้แบบนี้ทั้งคน ตระกูลซูยังเรียกว่าจนอีกงั้นรึ?""ถูซินเยว่อีกแล้วหรือ..." ภรรยาของต้าจู้ขมวดคิ้วตั้งแต่ที่เกิดเรื่องหลางฮุยเมื่อสองเดือนก่อนก็ไม่มีใครกล้ามีปัญหากับถูซินเยว่ซึ่งๆ หน้าอีกนอกจากนี้ จากการที่ซูเฟิ่งอี๋ปล่อยข่าวทั้งเจตนาและไม่เจตนานั้นทำให้ทุกคนรู้วึกว่าถูซินเยว่มีนิสัยดุร้าย ชอบใช้กำลังทำร้ายผู้คน ดังนั้นทุกคนจึงพยายามเลี่ยงอีกฝ่ายภรรยาของต้าจู้เองก็เช่นกัน ก่อนหน้านี้นางเคยเตือนภรรยาของหยวนเป่าไปหลายครั้งว่าให้อยู่ห่างจากถูซินเยว่ แต่น่าเสียดายที่อีกฝ่ายไม่ได้เชื่อคำพูดของตนเอง กลับยิ่งสนิทชิดเชื้อกับถูซินเยว่มากขึ้น และหมู่นี้ภรรยาของหยวนเป่าก็แทบจะไม่มาเล่นกับนางเลยเดิมทีภรรยาของต้าจู้ยังรอหัวเราะเยาะภรรยาของหยวนเป่า แต่นึกไม่ถึงว่าถูซิ

    Last Updated : 2023-12-21
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 80 แม่ดอกบัวขาวแห่งยุค

    เหล่าซื่อตระกูลถูวิ่งมาเร็วที่สุด เขามาถึงตรงทั้งสามคนก่อนใคร ตอนที่เขาเห็นซูจื่อหังและถูซินเยว่กุมมือกันอยู่ หน้าก็เขียวด้วยความโกรธจัดทันทีสีหน้าของเขาย่ำแย่มาก แม้แต่หอบหายใจยังยากลำบากนางหลินเองก็รีบวิ่งตามมา เมื่อนางเห็นหน้าตาของถูซินเยว่ก็ตะลึงงันอยู่กับที่ในทันที ในดวงตาฉายแววตกใจทว่าแม่เฒ่าตระกูลถู หลังจากที่ได้ถูหมิงซวนพยุงมาถึง ตอนที่ได้เห็นถูซินเยว่ กลับจำหลานสาวของตนเองไม่ได้ ก็ก้าวขาไปข้างหน้า ยกมือตบไปที่ใบหน้าของถูซินเยว่การกระทำของแม่เฒ่าตระกูลถูกระทันหันเกินไป อย่าว่าแต่ซูจื่อหังเลย แม้แต่ถูซินเยว่เองก็ตะลึงเช่นกันผู้หญิงในชนบททำการเกษตรอยู่เสมอ ดังนั้นจึงมีแรงมืองเยอะมาก หลังจากที่โดนตบหญิงสาวจึงรู้สึกว่าแก้มตนเองนั้นบวมเบ่งเป็นอย่างมากเธอเบิกตาโตมองไปที่ยายเฒ่าก็ได้ยินแม่เฒ่าตระกูลถูด่าทอเธอด้วยคำหยาบคายเป็นชุดๆ พร้อมทั้งถุยน้ำลายใส่เธอด้วย"แก... นังจิ้งจอกร่าน หมู่บ้านต้าเย่ของเรามีนังร่านแบบนี้เข้ามาตั้งแต่เมื่อไร กลางวันแสกๆ ยังกล้าเกาะแกะคลอเคลียกันได้อย่างไร แล้วก็ซูจื่อหัง เจ้าก็ไม่ใช่คนดี เพิ่งแต่งงานกับซินเยว่ไปนานเท่าไรเอง เตียงยังไม่ทันอุ่นเ

    Last Updated : 2023-12-21
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 81 ภรรยาข้าช่างเก่งยิ่งนัก

    เมื่อเห็นแววตาสนุกสนานของถูซินเยว่ ซูจื่อหังก็ก้มมองหลังแขนของตนเองทีหนึ่ง จากนั้นก็หันหลังกลับ เดินไปตรงหน้าถูซินเยว่และพุูดว่า "เจ็บ"เมินถูหมิงซวนไปเฉยๆ เลยถูหมิงซวนกระตุกมุมปาก ดวงตาฉายแววความโกรธ นางกัดฟันมองไปที่ซูจื่อหัง มือที่อยู่ในแขนเสื้อกำเข้าหากันแน่น เพราะคิดไม่ถึงเลยว่าชายหนุ่มจะไม่ไว้หน้าตนเองขนาดนี้ถูหมิงซวนโกรธจนคลุ้มคลั่ง ทว่าถูซินเยว่กลับดีใจจนอยากหัวเราะเสียงดังโหดสุดๆ ไปเลย! เดิมทีเธอคิดว่าอย่างมากซูจื่อหังก็คงพูดสักประโยคสองประโยคกลบเกลื่อนถูหมิงซวนแต่นึกไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะไม่พูดอะไร และเมินใส่กันเลยไม่ใช่แค่เพียงเท่านี้ ยังดึงตนเองไปกุ๊กกิ๊กให้อีกฝ่ายดูด้วยในเมื่อซูจื่อหังจะมาไม้นี้ ถูซินเยว่ก็ไม่ปฏิเสธอยู่แล้วหญิงสาวก้มหน้าลง เป่าไปที่แผลของเขา จากนั้นก็ยื่นมือออกมาลูบไปที่หลังแขนของเขาเบาๆ และพูดด้วยความเป็นห่วงว่า "ลำบากเจ้าแล้ว กลับไปข้าจะชดเชยให้นะ""อื้อ" ซูจื่อหังรีบพยักหน้า มุมปากเผยรอยยิ้มจางๆ ให้เห็นเดิมทีชายหนุ่มก็หน้าตาหล่อเหลาอยู่แล้ว พอยิ้มแบบนี้ก็ยิ่งหล่อไร้ที่ติมากขึ้นเมื่อเห็นทั้งสองคนคลอเคลียกันไปมา ถูหมิงซวนที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็

    Last Updated : 2023-12-21

Latest chapter

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 381 ช่างคล้ายคลึงนัก

    ทั้งคู่เดินถึงหน้าประตู ปะเหมาะเวลานี้ จวนแม่ทัพหลิ่วก็มีคนเดินออกมาเช่นกัน"คนนี้ก็คือใต้เท้าซูที่เจ้าชอบอย่างงั้นหรือ" ฮูหยินหลิ่วเหลียวมองบุตรีซึ่งอยู่ข้างกาย สื่อเป็นนัยให้อีกฝ่ายอย่าได้วู่วามทุกวันนี้คราใดที่หลิ่วโหรวโหรวเห็นถูซินเยว่กับซูจื่อหังเดินมาด้วยกัน ด้วยท่าทีรักใคร่ปรองดอง นางจะรู้สึกเดือดดาลในใจ ราวกับภูเขาไฟที่ใกล้ระเบิดกระนั้นนางทำเสียงฮึดฮัด "ถูซินเยว่มีวันนี้ได้ ก็เพราะอาศัยบารมีซูจื่อหัง แต่คอยดูไปเถิด หญิงบ้านนอกเช่นนาง ใหม่ ๆ ยังพอทำให้ซูจื่อหังพอใจได้บ้าง แต่พอนานวันเข้า ได้เห็นสาวงามในเมืองหลวงมากมาย ความรักของพวกเขายังมั่นคงเหมือนแต่ก่อนได้อีก ก็แสดงว่าผิดมนุษย์แล้ว"ฮูหยินหลิ่วแสดงท่าทีนิ่งเฉยแต่บุตรีพูดก็มีเหตุผล ผู้ชายในโลกนี้น้อยนักที่จะไม่คิดได้ใหม่ลืมเก่า ยกตัวอย่างเช่นสามีของนาง ในอดีตก็เคยให้คำมั่นสัญญา ว่าแม้เป็นหรือตายก็จะขอรักอดีตคนรักเพียงผู้เดียว แต่พอบ้านเขาประสบภาวะเดือดร้อน สุดท้ายก็มาเลือกแต่งงานกับตน จนบัดนี้ลืมหน้านังคนแพศยานั่นไปถึงไหนต่อไหนแล้วแสดงว่าความจริงใจของผู้ชายคือสิ่งที่ไร้ประโยชน์ปกติเสแสร้งทำเป็นรักมั่นจริงใจ แต่พอเอ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 380 ลูกสาวจอมโง่เขลา

    หากซูจื่อหังไม่รังเกียจถูซินเยว่แล้วล่ะก็ งั้นต่อให้หลิ่วโหรวโหรววทุ่มเทแรงกายแรงใจมากแค่ไหนก็ตาม เกรงว่าก็คงไม่สามารถเข้าไปในจวนสกุลซูได้ดั่งใจปรารถนาหรอกแต่น่าขําที่ลูกสาวคนนี้ของนางกลับไม่รู้ต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้เลย รู้แต่ไปเหยียดหยามถูซินเยว่อย่างโง่เขลาเท่านั้นนี่ถ้าทําให้ถูซินเยว่อับอายต่อหน้าทุกคนก็ว่าไปอย่าง แต่นี่กลับยังโดนถูซินเย่วตอบโต้กลับมาจนขายหน้า นี่ไม่ใช่เป็นการตบหน้าตัวเองหรือไง?เมื่อคิดถึงตรงนี้ ฮูหยินหลิ่วก็ไม่อยากเห็นหน้าลูกสาวคนนี้แม้แต่นิดนางขมวดคิ้ว จู่ ๆ ก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้และอดไม่ได้ที่จะพูดว่า "ใช่แล้ว เรื่องนี้ข้ายังไม่ได้บอกพ่อเจ้า ถ้าพ่อเจ้ารู้ ดูสิว่าเขาจะสั่งสอนเจ้ายังไง เจ้าระวังตัวหน่อย"ภายใต้การเกลี้ยกล่อมและคําเตือนของฮูหยินหลิ่ว ในที่สุดหลิ่วโหรวโหรวก็หลับตาลง นางนั่งอยู่บนที่นั่งของตัวเองอย่างเซ็ง ๆ ทั้งหน้ามีแค่อารมณ์เดียวนั่นก็คือ นางไม่มีความสุขฮูหยินหลิ่วถอนหายใจอย่างจนใจ แล้วเงยหน้ามองฝั่งตรงข้าม ตําแหน่งของนาง มีเพิงดอกไม้อยู่ตรงกลางบดบังร่างของถูซินเยว่พอดี ดังนั้นนางจึงเห็นเพียงโครงร่างผ่านเถาวัลย์อย่างคลุมเครือเท่

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 379 จางเยียนหรัน

    วันนี้ตระกูลจางเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงเชิญตระกูลที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง ก่อนมาซูจื่อหังเคยพูดกับนางว่า เขากับตระกูลจางเข้ากันได้ดีในราชสํานัก ดังนั้นวันนี้ ถูซินเยว่ก็ไม่อยากสร้างปัญหาอะไรให้กับตระกูลจาง เพื่อไม่ให้คนอื่นรู้สึกว่าพวกเขาไม่มีมารยาทเห็นเหล่าฮูหยินกับหลิ่วโหรวโหรวเพิ่งเยาะเย้ยเธอเมื่อครู่ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ถูซินเยว่ก็สบายใจไม่น้อย ก้มหน้าก้มตากินอาหารด้วยตัวเองไม่สนใจใครทั้งนั้นในขณะที่เธอกําลังกินอย่างมีความสุข จู่ ๆ ก็มีคนผลักแขนของเธอเบา ๆถูซินเยว่นิ่งงันไปพักหนึ่ง หันหน้ากลับไปอย่างสงสัยใคร่รู้ เห็นหญิงสาวในชุดสีเหลืองคนหนึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ ตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ กําลังใช้ดวงตากลมโตจ้องมองเธออย่างอยากรู้อยากเห็นดวงตาของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและไร้เดียงสา แต่กลับไม่มีเจตนาร้ายเลยแม้แต่น้อยถูซินเยว่เคยเห็นคนมามากมาย เรื่องเหล่านี้เธอยังพอสามารถมองออกได้ตั้งแต่แรกเห็นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีเจตนาร้าย ท่าทีของเธอก็อ่อนโยนลงมาก"ไม่ทราบว่าแม่นางมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?"ถ้าเธอจําไม่ผิด คนที่นั่งข้างเธอเมื่อกี้น่าจะเป็นผู้หญิงที่เยาะเย้ยเธ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 378 หน้าแตก

    ถูซินเยว่ชะงัก และรู้สึกตลก เมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายก็รู้สึกประหลาดใจ ตอนที่ออกจากมาตอนเช้า เธอได้สวมใส่เครื่องประดับมาหลายชิ้นจริงๆแต่ระหว่างทาง ถูซินเยว่รู้สึกว่าต่างหูระเกะระกะเกินไป จึงแอบถอดมันออกและวางไว้บนรถม้าคาดไม่ถึงจริงๆ ว่าในงานเลี้ยงจะมีคนไม่กินไม่ดื่ม แต่หันมาจับจ้องที่เครื่องหัวของตนเองแทนถูซินเยว่ยื่นมือไปจับที่ผมของตนเองอัตโนมัติ จากนั้นก็พูดเสียงราบเรียบว่า "ในเมื่อวันนี้ตระกูลจางเป็นเจ้าภาพ แขกสำคัญจึงเป็นตระกูลจาง แล้วเหตุใดข้าจักต้องแต่งตัวให้ดูดีขนาดนั้น""จนก็ยอมรับว่าจนเถอะ จะหาเหตุผลอะไรมาอ้างมากมายไปทำไม ในที่นี้ใครไม่รู้บ้างว่าพวกเจ้ามาจากบ้านนอก ข้าเองก็แค่รู้สึกเสียดายแทนใตเท้าซูเท่านั้น ทั้งที่มีมีอนาคตอันดี หากแต่งงานกับบุตรสาวขุนนางสักคน ก็คงยิ่งช่วยส่งเสริมให้เจริญก้าวหน้า แต่กลับเลือกจะเฝ้าอยู่แค่หญิงชาวบ้านเฉกเช่นเจ้า..."ประโยคหลังแม้ว่าจะไม่ได้พูดต่อจนจบ แต่ก็สามารถเข้าใจได้ถึงแม้บนใบหน้าของถูซินเยว่จะแสดงสีหน้าใดๆ แต่สาวรับใช้ที่อยู่ข้างๆ สีหน้าย่ำแย่มากแล้วนางอาศัยอยู่ที่ตระกูลซูมานาน ก็พอจะรู้ว่าถูซินเยว่ไม่ได้ไม่มีเงิน และเงินส่วนใ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 377 ดูถูก

    ตั้งแต่ตอนที่อยู่ในหมู่บ้านต้าเย่ เพราะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ หรือเพราะผลประโยชน์อันน้อยนิด แม้เป็นครอบครัวเดียวกัน ก็ยังสามารถโกรธแค้นกันจนตัดญาติขาดมิตรไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นใด แค่ในตระกูลถู เพียงเพื่อสินสอดของตระกูลเหลียง ถูชิวหลานก็ดันทุรังจะสับเปลี่ยนตัวเธอกับลูกสาว ภายหลังยังไม่ยอมรับด้วย แถมยังผลักไสความผิดทุกอย่างไปที่เจ้าของร่างหากเธอไม่ได้ข้ามิติมาอยู่ในร่างของเจ้าของร่างซื่อบื้อคนนั้น นางจะใช้ชีวิตอยู่ในตระกูลซูอย่างไร เกรงว่าคงเหลือแต่เสี้ยววิญญาณแล้วอย่างด้านซูเฟิ่งอี๋ในตระกูลซู ตอนนั้นพวกเขาเองก็หวงแหนเงินเล็กๆ น้อยๆ เห็นชีวิตนางหยูกำลังตกอยู่ในอันตรายก็ยังไม่ยอมรักษาให้นางเรื่องราวของญาติสนิทมิตรสหายที่ทำร้ายคนใกล้ตัวเพียงเพื่อผลประโยชน์และเงินทองมีมากมายเกินกว่าจะพูด ขนาดบ้านเธอยังเป็นเช่นนี้ แล้วต้าฉีที่มีบ้านสกุลมากมายขนาดนี้ล่ะชาวบ้านธรรมดาทั่วไป อาจทำไปเพื่อเงินทอง แต่องค์ชายสามกับองค์ชายใหญ่ กลับทำเพื่อแก่งแย่งแผ่นดิน ขนาดที่เป็นการต่อสู้เพื่อความเป็นความตาย และไม่มีใครยอมอ่อนข้อให้ใคร ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้"ชีวิตคนเรามีหลายเรื่องที่มักไม่เป็นดังที่หวัง ข

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 376 อิจฉา

    "วันนี้เป็นงานเลี้ยงของตระกูลจาง ข้าก็นึกว่าเจ้าจะพูดคุยเรื่องอะไรกับข้า คาดไม่ถึงว่าจะใช้เรื่องนี้มาข่มขู่ข้าในที่ๆ ไม่มีคนเช่นนี้?"ชายผู้นั้นหัวคิ้วกระตุก รีบก้มศรีษะลงแล้วพูดว่า "กระหม่อมมิบังอาจพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่กระหม่อมทราบว่าองค์ชายสามเป็นคนเฉลียวฉลาด แต่ไหนแต่ไรมา การที่บุตรสายตรงรับสืบราชบัลลลังก์ต่อก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล แล้วไฉนองค์ชายสามจึงมิตั้งใจเป็นข้าราชบริพานบริสุทธิ์ คอยค้ำจุนเสด็จพี่ของพระองค์เล่าพ่ะย่ะค่ะ?"ฉีหวานหัวดราะเสียงดัง น้ำเสียงเย็นเยือกลงฉับพลัน เขาสะบัดแขนเสื้อ พร้อมสีหน้าเย็นชา "แม่ทัพหลิ่วพูดเช่นนี้ ช่างไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย ตอนที่ข้าพบกับมือสังหารไล่เอาชีวิตตอนที่รีบเดินทางกลับมาจากเป่ยเจียงอันไกล แม้วันนี้ข้าไม่พูด เชื่อว่าท่านแม่ทัพเองก็คงทราบดีว่าเป็นฝีมือของใคร?"ถูซินเยว่ที่นั่งอยู่ในศาลาชะงักงัน ที่แท้คนที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับฉีหวานก็คือแม่ทัพหลิ่วนี่เอง หากนางจำไม่ผิดละก็ ก่อนหน้านี้ที่หน้าประตูตระกูลจาง ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ หลิ่วโหรวโหรวก็คือแม่ทัพหลิ่วผู้นี้สินะ?เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ถูซินเยว่ก็รู้สึกเซ็งขึ้นมา ถ้ารู้แต่แรกว่าพวกเขาจะคุยกันเรื่

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 375 แอบฟัง

    หลิ่วโหรวโหรวก็มองเห็นพวกเขาเช่นกัน และเมื่อนึกถึงความสนิทสนมของถูซินเยว่และซููจื่อหังวันนั้นในจวนซู นางก็กำหมัดแน่นแม่ทัพหลิ่ว หลิ่วถิง เมื่อเห็นว่าบุตรสาวของตนเองอยู่ๆ ก็หน้าตาไม่สดใส ทั้งที่เมื่อสักครู่ยังดีอกดีใจ ก็ขมวดคิ้วถามว่า "เป็นอะไรไป? มีคนรู้จักรึ?""เจ้าค่ะ..." หลิ่วโหรวโหรวกำลังจะอ้าปากพูด ฮูหยินหลิ่วที่อยู่ข้างๆ ก็ผลักนาง และส่งสายตาให้กับอีกฝ่ายหลิ่วโหรวโหรวจึงได้แต่หุบปากเงียบอย่างไม่พอใจนักฮูหยินหลิ่วเดินไปข้างๆ หลิ่วโหรวโหรวอย่างเงียบๆ กระตุกแขนเสื้อของบุตรสาวและพูดเตือนเสียงเบาว่า "เจ้าอย่าได้พูดถึงเรื่องของตระกูลซูอีก หากเจ้าพูดถึงอีกข้าจะไม่ยกโทษให้เจ้า! เมื่อกี้เจ้าไม่เห็นฮูหยินตระกูลซูหรือย่างไร? นางท้องโตขนาดนั้นแล้ว! เจ้าคิดจะไปเป็นภรรยาน้อยของคนอื่นหรือ? พูดออกไปรังแต่จะกลายเป็นเรื่องตลก!"หลิ่วโหรวโหรวสีหน้าย่ำแย่ทันทีแม้ว่าซูจื่อหังมีภรรยาหลวงอยู่แล้ว แต่ในใจนางนั่นก็เป็นเพียงหญิงบ้านนอกที่เทียบกับตนเองไม่ได้เลยด้วยซ้ำ นางซึ่งเป็นบุตรีสายตรงของจวนแม่ทัพ จะตกเป็นรองอยู่เป็นภรรยาน้อยของซูจื่อหังหรืออย่างไร?ลำพังแค่คิด นางก็ไม่ต้องการหลิ่วโหรวโหร

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 374 งานเลี้ยงตระกูลจาง

    ขณะที่ถูซินเยว่กำลังยุ่งอยู่กับการเปิดร้านขายเครื่องประดับ และนางหยูกำลังกังวลเรื่องลูกค้าอยู่นั้น เทียบเชิญฉบับหนึ่งก็ได้ส่งมาถึงที่บ้าน"เป็นงานฉลองวันเกิดของมารดาเฒ่าตระกูลจางจากเสนาบีดีกระทรวงการคลัง"ถูซินเยว่ถือเทียบเชิญไว้ในมือและยิ้มอย่างประหลาดใจ "ในเมืองหลวงแห่งนี้ข้านั้นไม่ได้รู้จักใครเลยสักคนหนึ่ง แต่นึกไม่ถึงว่าตระกูลจางจะส่งเทียบเชิญมาให้ข้า"สามีของตนเองก็เป็นข้าราชการขั้นเจ็ดเล็กๆ คนหนึ่ง แม้ว่าตระกูลจากจะไม่ใช่ข้าราชการชั้นสูง แต่ก็เป็นข้าราชการขั้นห้า และบรรพบุรุษก็ล้วนเป็นข้าราชการทั้งนั้น ซึ่งก็นับว่าเป็นตระกูลที่มีคุณธรรมสูงส่งการที่ส่งเทียบเชิญมาให้พวกเขาในงานเลี้ยงวันเกิดเช่นนี้ ก็เรียกได้ว่าไม่ได้ดูถูกพวกเขาเพียงแต่ คนในยุคโบราณส่วนมากจะดูแคลนคนทำธุรกิจ หากตนเองไปร่วมงานละก็ จะทำให้พวกเขารู้ว่าภรรยาของซูจื่อหังเป็นหญิงทำมาค้าขาย ก็ยากที่จะไม่ดูแคลนเดิมทีถูซินเยว่ไม่อยากไป แต่คาดไม่ถึงว่าซูจื่อหังจะหันมากุมมือเธอไว้ ยิ้มแล้วพูดอย่างไม่ใส่ใจนักว่า "บุตรชายของใต้เท้าจางสนิทกับข้า ภรรยาของข้าเป็นหญิงสาวที่มีเสน่ห์มากที่สุดในใต้หล้า ไม่ว่าทำอะไรก็ดีทั้งนั้น แล

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 373 ฮ่องเต้หมดสติ

    สำหรับถูซินเยว่แล้ว จะเป็นลูกผู้ชายหรือผู้หญิงก็ไม่เป็นไร สิ่งสำคัญคือ การที่ลูกน้อยสามารถคลอดออกมาได้อย่างปลอดภัยเพราะในยุคโบราณการที่ผู้หญิงคลอดลูกนั้นเปรียบเสมือนการเดินไปขอบประตูนรก ดังนั้นการที่สามารถให้กำเนิดลูกได้อย่างปลอดภัยถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย เธอจึงไม่คาดหวังอย่างอื่นอีกแต่ว่าช่วงนี้เธอมักจะถูกนางหยูล้างสมองอยู่บ่อยๆ จนถูซินเยว่เองก็คิดว่าท้องนี้อาจจะเป็นลูกผู้ชายก็ได้เป็นผู้ชายก็ดี เพราะความคิดปิดกั้นในยุคโบราณนั้นสร้างความลำบากให้กับหญิงสาวอย่างมาก หากเป็นเด็กผู้ชาย ก็สามารถลดความลำบากหลายๆ อย่างให้เธอได้ไม่น้อยเดิมทีถูซินเยว่อยากจะถามฉงเป่าว่าในท้องตนเองนั้นเป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิงกันแน่ ซึ่งตามปกติแล้วขอเพียงเอาของกินมาล่อนิดล่อหน่อย ฉงเป่าก็ยอมพูดทุกอย่าง มีเพียงแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวที่ไม้ว่าถูซินเยว่ถามอย่างไร อีกฝ่ายก็ไม่ยอมบอก"อย่างไรเสียลูกก็อยู่ในท้องของข้า เจ้าจะบอกหน่อยมิได้หรือว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง? ถึงเจ้าพูดมา ด้วยเงื่อนไขการรักษาแบบนี้ข้าก็ทำอะไรเจ้าไม่ได้มิใช่หรือไง?"อีกอย่าง ถูซินเยว่เองก็ไม่มีความคิดการให้ความสำคัญชายมากกว่าหญิงด

DMCA.com Protection Status