แชร์

บทที่ 286 ผู้คนต่างตะลึง

ผู้เขียน: ฮวาฮวาน่งหยวี่
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-02-10 17:00:00
ที่จริงเธอก็แอบรู้สึกผิดอยู่ในใจ เพราะว่าปีนี้ทั้งปีเธอยุ่งตลอดแทบไม่ได้กลับไปที่บ้านตระกูลถูเลย จึงไม่ได้ไปเยี่ยมถูซานกับนางหลิน

ทุกครั้งที่เธอซื้อของให้นางหยู ก็จะซื้อให้นางหลินด้วยแล้วฝากคนเอาไปให้

ตามหลักแล้วหลังจากที่ตัวเองเข้ามาอยู่ในร่างเจ้าของร่างแล้วก็ควรกตัญญูต่อนางหลินและถูซานให้มาก

ดังนั้นมาคราวนี้ถูซินเยว่จึงเอาของกินมามากมาย เรื่องขนมที่เอามาให้เสี่ยวเป้ยยิ่งไม่ต้องพูดถึง นอกจากนี้เธอยังเอาของบำรุงร่างกายมาจากในมิติแห่งน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ด้วย ไหนจะเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้อีก

ตอนนี้ตระกูลซูมีเกวียนวัวเป็นของตัวเองแล้ว ดังนั้นตอนออกเดินทางจึงสะดวก ถูซินเยว่เอาของที่จะเอาไปให้นางหลินกับถูซานที่บ้านตระกูลถูโยนขึ้นบนหลังเกวียน ขนของมาใส่เต็มไปครึ่งคันเกวียนกว่าจะได้ออกเดินทาง

ตอนที่เกวียนวัวมาถึงหน้าบ้านตระกูลถู ถูชิวหลานกำลังหอบกะละมังไม้จะไปซักผ้าพอดี พอเห็นของที่ใส่มาครึ่งคันเกวียนก็ตกตะลึง

"นี่… นี่ขนอะไรมา?" ถูชิวหลานวิ่งมาที่หน้าถูซินเยว่ นางร้องถามพลางชะโงกหน้าออกมาดู นางชะเง้อชะแง้มองอยู่นาน ของอยากอื่นโดนเอาผ้าห่อไว้มิดชิดดูไม่ออกว่าข้างในเป็นอะไร เห็นแต่กระกร
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 287 เรื่องเข้าหอ

    "ท่านแม่ ท่านเองก็กินเยอะ ๆ หน่อย" ถูซินเยว่เห็นนางหลินเอาแต่คีบอาหารให้เธอ ตัวนางเองกลับไม่ได้กินเท่าไหร่ จึงคีบเนื้อชิ้นใหญ่ใส่ในถ้วยนางหลินแต่แม่เฒ่าตระกูลถูเมื่อเห็นถูซินเยว่ทำตัวเหมือนไม่เห็นคนอื่นอยู่ในสายตาราวกับอยู่บ้านตัวเองเช่นนี้ ก็ทำหน้าเครียดไม่มีรอยยิ้มถูชิวหลานพูดเหน็บแนมว่า "อยากกินอะไรก็กิน อยากคีบอะไรก็คีบ ทำอย่างกับที่นี่เป็นบ้านตัวเองไปได้"นางหลินหน้าเสียทันที วันนี้ถูซินเยว่กลับมาเป็นแขกที่บ้าน ไม่คิดว่าถูชิวหลานจะไม่ไว่หน้านางขนาดนี้ถูซินเยว่ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ไม่ได้สนใจคำพูดของถูชิวหลานเลย เธอพูดเรียบ ๆ ว่า "ข้าก็อยู่ที่บ้านตระกูลถูมาตั้งแต่เล็กจนโต ข้าไม่ใช่คนบ้านนี้ตรงไหน? ป้าใหญ่พูดแบบนี้ช่างน่าไม่น่าฟังยิ่งนัก""โบราณว่าลูกสาวที่ออกเรือนไปแล้ว ก็เหมือนน้ำที่สาดออกไปแล้ว ในเมื่อเจ้าแต่งงานกับซูจื่อหังแล้วที่นี่ก็ไม่ใช่บ้านเจ้าอีกต่อไป"ถูชิวหลานพูดโดยไม่ทันคิด ไม่รู้เลยว่าที่พูดไปนั่นเข้าตัวเองเต็ม ๆเมื่อเห็นถูหมิงซวนที่อยู่ข้าง ๆ สีหน้าแย่ลงแล้วจู่ ๆ ก็วางตะเกียบถูชิวหลานถึงเพิ่งนึกขึ้นได้ อย่าว่าแต่ถูหมิงซวนเลย แม้แต่ตัวเองก็เป็นลูกสาวที่แต่งงานไป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-10
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 288 เรื่องของผู้ชาย

    ตั้งแต่รู้ว่าถูซินเยว่กับซูจื่อหังแต่งงานกันมาสองปีแล้วยังไม่เคยร่วมหอกันเลย นางหลินก็กระวนกระวายใจอยู่ไม่เป็นสุขนางเพิ่งลองแกล้งถามไปเมื่อกี้ ดูจากท่าทางของถูซินเยว่แล้ว คาดว่านางคงเอาไม่ผิดลูกสาวนางเอง นางรู้ว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรหรือว่าร่างกายของจื่อหังจะมีปัญหาอะไรตรงไหนหรือเปล่า?นางหลินขมวดคิ้วครุ่นคิดไปพลางนั่งลงที่ข้างเตาไฟถึงจะกังวลเรื่องนี้มาก แต่นางเป็นแม่ยาย จะให้ไปถามซูจื่อหังเองตรง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นก็คงไม่เหมาะ เรื่องนี้คงต้องพึ่งถูซานเท่านั้นนางหลินก็ใช่ว่าจะรังเกียจซูจื่อหัง เพียงแต่กังวลว่าถ้าอีกฝ่ายสุขภาพร่างกายมีปัญหาขึ้นมาจริง ๆ จะได้รีบคิดหาวิธีแก้ปัญหาเอาไว้ก่อน ทั้งสองคนก็อายุไม่น้อยแล้วด้วย ถ้ามีลูกไม่ได้จริง ๆ จะได้รีบไปแอบขโมยอุ้มลูกคนอื่นมานางหลินวางแผนอยู่ในใจ นางอาศัยจังหวะที่ถูซินเยว่กับซูจื่อหังไม่ได้สังเกตุแอบลากถูซานเข้าไปในเล้าไก่ที่อยู่ด้านหลัง จากนั้นก็เล่าเรื่องนี้ให้ถูซานฟังพอถูซานได้ฟังเช่นนั้น ใบหน้าที่ดำคล้ำก็โกรธจนแดงก่ำ"นั่นมันก็เป็นเรื่องของคนอื่นเขา เจ้าจะกังวลทำไม?"นางหลินจนใจ "ท่านสติเลอะเทอะไปแล้วหรือไง คนอื่นที่ไหน นั่นม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-10
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 289 มีคนมาหา

    ซูจื่อหังไม่ยอมพูด ถูซินเยว่ก็ทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้สองคนกลับถึงบ้าน ถูซินเยว่ก็มอบจดหมายที่เสี่ยวเป้ยฝากมาให้ฉงเป่า"นี่คืออะไรเหรอ?""เพราะเธอไม่ได้ไปบ้านตระกูลถูวันนี้ เสี่ยวเป้ยคิดถึงเธอก็เลยฝากจดหมายมาให้" ถูซินเยว่พูดอย่างจงใจว่า "เธอกับเสี่ยวเป้ยสนิทกันดีนี่ ฉันว่าจะเปิดจดหมายนี้อ่าน แต่เสี่ยวเป้ยก็ไม่ยอมให้อ่าน"ถ้าฉงเป่าไม่ใช่เด็กผู้ชาย ถูซินเยว่คงสงสัยว่าเสี่ยวเป้ยชอบฉงเป่าไปแล้ว"เขาเขียนจดหมายให้ฉัน เธอก็ไม่มีสิทธิ์อ่านอยู่แล้วสิ" ฉงเป่าเอาจดหมายไปแอบไปข้างหลัง แล้วรีบผลักถูซินเยว่ออกไป เขามีชีวิตอยู่ในมิติแห่งน้ำพุศักดิ์สิทธิ์มาหลายพันปีแล้ว แต่ก็อยู่โดดเดี่ยวมาตลอด ไม่เคยมีเพื่อนที่ไหนเลย ยิ่งคนที่จะเขียนจดหมายมาหายิ่งไม่ต้องพูดถึงตอนนี้เสี่ยวเป้ยเขียนจดหมายมาหาเขา ฉงเป่ารู้สึกอบอุ่นใจเหลือเกินถูซินเยว่ที่อยู่ข้างนอกเมื่อเห็นฉงเป่าเป็นแบบนี้แล้วก็ยิ้มอย่างจนใจ แต่ในใจกลับอดนึกถึงสิ่งที่นางหลินสั่งไว้ไม่ได้ที่จริงอายุขนาดอย่างเจ้าของร่าง ถ้าเป็นในยุคปัจจุบันยังเรียนมัธยมปลายอยู่เลย เธอไม่คิดว่าจะต้องรีบมีลูกขนาดนั้นก็ได้ก่อนหน้านี้ถูซินเยว่คิดว่ารอไปก่อนก็ได้ ให

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-11
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 290 ร่วมหอแล้ว

    หลังจากต้มน้ำเสร็จถูซินเยว่ก็ไปอาบน้ำแล้วขึ้นเตียงทันทีแม้ว่าพ้นวันส่งท้ายปีมาแล้วก็นับว่าอย่างเข้าฤดูใบไม้ผลิแล้ว แต่ช่วงนี้อากาศก็ยังคงหนาวมากอยู่ โดยเฉพาะบ้านที่อยู่ติดริมน้ำอย่างพวกเขาด้วยแล้ว อุณหภูมิกลางวันกับกลางคืนต่างกันมาก หลังจากพระอาทิตย์ตกดินไปแล้วก็ยิ่งหนาวเหน็บ หนาวจนเข้ากระดูกได้แช่น้ำอุ่นในถังไม้แล้วก็รู้สึกอุ่นไปทั้งตัว บวกกับได้ซุกตัวอยู่ผ้าห่มที่มีกะละมังผิงไฟอยู่ข้าง ๆ ด้วยแล้ว ถูซินเยว่ก็รู้สบายตัวสบายใจอย่างมากเธอพ่นลมหายใจด้วยความพึงพอใจ และจงใจนอนในตำแหน่งตรงกลางระหว่างที่นอนของพวกเขาทั้งสอง จะได้ช่วยทำให้ฝั่งที่ซูจื่อหังนอนอุ่นด้วย เวลาอีกฝ่ายขึ้นเตียงมาจะได้ไม่รู้สึกหนาวถูซินเยว่นอนไปนอนมาก็เคลิ้มหลับไปโดยไม่รู้ตัว อาจเป็นเพราะหลังจากอาบน้ำเสร็จมันสบายเกินไปพอเธอรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกที ซูจื่อหังก็มานั่งคุกเข่าอยู่ข้าง ๆ เขาตั้งใจว่าจะขยับเธอเข้าไปข้างในสักหน่อย เมื่อได้เห็นหญิงสาวสะลึมสะลือลืมตาขึ้นมา เขาก็นึกถึงสิ่งที่ถูซานพูดกับตัวเองเมื่อตอนกลางวัน เขามองปากของถูซินเยว่แล้วเหมือนมีอะไรมาดลใจให้จูบลงไปเนื่องจากถูซินเยว่ชงชาดอกไม้ดื่มเป็นประจำมา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-11
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 291 บำรุงร่างกาย

    ตามที่ซูจื่อหังพูดไว้ หลังกินข้าวเสร็จ จึงรีบไปบ้านหยวนเป่าเพื่อจับแม่ไก่ทันทีก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้ ตอนนี้ซูจื่อหังจึงได้รุ้ว่า ภรรยาตนแม้จะดูเป็นคนมีเรี่ยวแรง หากแต่ร่างกายอ่อนแอนัก เอวบางจนเขาโอบเบา ๆ ก็เหมือนจะขาด ยิ่งคิดก็ยิ่งเป็นห่วง เขาจึงตัดสินใจ ต้องไปหาของดีให้มาก เพื่อจะให้ภรรยาได้กินบำรุงสุขภาพถูซินเยว่นอนจนกระทั่งซูจื่อหังจับแม่ไก่กลับมา นางก็ยังไม่ตื่น ซ้ำยังทำอาหารเที่ยงรอไว้อีก ซูจื่อหังเกรงว่านางจะนอนต่อไป อดข้าวแล้วจะทำให้เสียสุขภาพ จึงมาปลุกให้ถูซินเยว่ตื่นขึ้นขณะเพิ่งลืมตา ถูซินเยว่ยังสะลึมสะลืออยู่ คล้ายกับยังไม่ทันได้ตั้งสติจวบจนเห็นใบหน้ายิ้ม ๆ ของซูจื่อหังเข้านั่นแหละ จึงได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นนางรีบฉวยผ้าห่มมา พร้อมรีบปิดใบหน้าโดยไม่ตั้งใจ ยังไม่ทันได้เอ่ยปาก หน้าก็แดงเรื่อไปถึงไหน ๆ แล้วซูจื่อหังยิ้มกว้างมากขึ้นไปอีก "ไม่ต้องแอบหรอก ข้าเห็นหมดแล้ว""ท่าน..ท่าน.." ถูซินเยว่มัวแต่อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ พูดจาไม่ออกซักคำ ได้แต่กล่าวว่า "นี่มันเวลาไหนแล้ว?""อาหารเที่ยงทำเสร็จแล้ว เจ้าจะกินไหม?" น้ำเสียงซูจื่อหังลอดมาจากนอกผ้าห่มถูซินเยว่หยุดชะงัก ไม่นึกว่าตนจะหล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-11
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 292 มาเยือนถึงบ้าน

    เมื่อนึกถึงตรงนี้ นางก็ไม่รู้ว่าประสาทส่วนไหนทำงานผิดพลาด เห็นซูจื่อหังไม่ยอมกิน กลับโพล่งออกจากปากประโยคหนึ่ง โดยกล่าวว่า "เมื่อคืนท่านยิ่งเหนื่อยมากกว่า ต้องกินเยอะ ๆ"เพราะยังไง เขาดูเป็นฝ่ายใช้กำลังมากกว่า..ตอนพูดก็ไม่คิดว่ามีอะไรผิดปกติ แต่พอออกจากปาก เห็นซูจื่อหังทำหน้าประดักประเดิด ถูซินเยว่จึงรู้ในภายหลังว่า ตนได้พูดอะไรที่หน้าไม่อายออกไปบ้างใบหน้านั้นแดงก่ำขึ้นในฉับพลันนางรีบยื่นมือออกมา หยิบชามข้าวของตน พร้อมก้มหน้าทำเป็นไม่รู่ไม่ชี้"ข้าไม่ได้พูดอะไร""ข้าได้ยินหมดแล้ว" ซูจื่อหังเลิกคิ้ว สีหน้ามีรอยยิ้มบาง ๆ เขาลูบศีรษะของเด็กสาว ใบหูของตนก็มีอาการแดงเช่นกัน ชายหนุ่มใช้น้ำเสียงที่ได้ยินเฉพาะแค่สองคนกล่าวว่า "ซินเยว่ แรก ๆ ข้ายังนึกว่าเจ้าขัดเขิน ที่ไหนได้ เจ้ารู้ดีทุกอย่าง"ถูซินเยว่ "..."นางแทบไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี ได้แต่ใช้การกระทำบอกถึงจุดยืนของตน รีบคีบน่องไก่อีกอันใส่ไปในชามข้าวของซูจื่อหังซูจื่อหังรู้ว่าถูซินเยว่เป็นคนหน้าบาง ถ้าตนยังเย้าแหย่นางอีก นางคงไม่กล้าพูดอะไรอีกแล้ว จึงรีบเปลี่ยนประเด็นไปเรื่องอื่นแทน"อีกครึ่งเดือนข้างหน้า ข้าต้องไปเมืองหลวง ไว้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-12
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 293 ความอาลัยอาวรณ์

    จากผิงโจวมาชิงเฉิงถือว่าไม่ใกล้ พ่อบ้านแห่งจวนไป๋คงไม่อยู่ดี ๆ มาหาตนแน่ แล้วจู่ ๆ มาวันนี้คงจะมีเรื่องราว ที่สำคัญ อาจไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยจากการคาดเดาของถูซินเยว่ เขาน่าจะมีเรื่องมาขอร้องไหว้วานเมื่อเห็นถูซินเยว่ซักถามโดยตรงเช่นนี้ พ่อบ้านก็ชะงักเล็กน้อย พร้อมกับลูบหนวดและพยักหน้า กล่าวยิ้ม ๆ ว่า "ที่ข้าน้อยมาวันนี้ เพราะมีเรื่องขอร้องจริง ๆ ใช่แล้ว ข้ายังมีของบำรุงเล็กน้อยมาฝาก เป็นน้ำใจไมตรี ขอเถ้าแก่เนี๊ยะถูโปรดรับไว้ด้วย"พูดพลาง พ่อบ้านจึงให้คนที่อยู่ด้านหลังเอาของออกมาในกล่องนั้นบรรจุด้วยโสมและเขากวาง ซึ่งคนในชนบทมักจะไม่เคยเห็น แม้หัวหน้าพ่อบ้านจะคิดว่าถูซินเยว่ไม่ใช่คนธรรมดา แต่ยังคิดว่าหากนางได้เห็นของเหล่านี้ คงต้องหวั่นไหวบ้างไม่มากก็น้อยแต่ว่า ที่ทำให้พ่อบ้านไม่คาดคิดก็คือ ถูซินเยว่เปิดกล่องแล้วเหลือบดูแวบหนึ่ง จากนั้นก็ปิดฝากล่องอย่างเบามือของบำรุงพวกนี้ ในมิติแห่งน้ำพุศักดิ์สิทธิ์มีมากมายนัก ยิ่งประดาโสมหรือเขากวางด้วยแล้ว สรรพคุณดีกว่าพวกนี้ไม่รู้ตั้งกี่เท่า ถูซินเยว่จึงไม่ได้สนใจซักนิดนางยิ้มให้อย่างมีมรรยาท และกล่าวว่า "ท่านพูดมาก่อนเถอะ ว่ามาหาข้ามีธุระอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-12
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 294 เฉินหวานมาเยือน

    ทั้งคู่ต่างพูดคุยความในใจที่มีต่อกัน เพราะการมาของหัวหน้าพ่อบ้านตระกูลไป๋ กลับทำให้ความรักความผูกพันที่มีอยู่ในใจของถูซินเยว่ถูกพรั่งพรูออกมาจนสิ้นทำเอาเมื่อนางหยูกลับมาบ้าน ก็เห็นทั้งคู่ต่างขอบตาแดง จึงได้รู้สึกแปลกใจยิ่งนัก"พวกเจ้าทะเลาะกันหรือ?" นางหยูขมวดคิ้ว เอาฟักทองที่เก็บมาจากแปลงผักวางไว้ข้าง ๆ สายตาจับจ้องอยู่ที่ซูจื่อหังถูซินเยว่ไม่กล้าบอกนางหยูว่า เพราะตนไม่อยากจากซูจื่อหังไป จึงได้ร้องไห้ จึงหันหลังไปซับน้ำตาโดยไม่พูดไม่จานางหยูกลับคิดว่านางเสียใจหนัก รีบร้อนถามว่า "จื่อหัง เจ้ารังแกซินเยว่หรือ? เจ้านี่มันยังไงกัน?"เมื่อวานเพิ่งจะร่วมหอ มาวันนี้ก็ทำให้ภรรยาร้องไห้แล้ว มีอย่างที่ไหนกัน?จนแม้แต่นางหยูซึ่งเป็นมารดาก็ยังทนดูไม่ได้ ความคิดของผู้หญิงมักจะอ่อนไหวเสมอ เกรงว่าซินเยว่จะคิดว่าจื่อหังได้ตัวนางไปแล้ว จะเริ่มปล่อยปละละเลย จนทำให้นางไม่สบายใจซูจื่อหังแทบจะวางตัวไม่ถูก รีบห้ามปรามนางหยูไว้และกล่าวว่า "ท่านแม่ ท่านพูดอะไรน่ะ ข้ากับซินเยว่ยังรักกันดีอยู่ ไม่ได้รังแกนาง""แล้วซินเยว่ร้องไห้ทำไมกัน?" นางหยูยังคงไม่เชื่อและรีบกล่าวต่อ "ซินเยว่ ถ้าจื่อหังรังแกเจ้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-12

บทล่าสุด

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 381 ช่างคล้ายคลึงนัก

    ทั้งคู่เดินถึงหน้าประตู ปะเหมาะเวลานี้ จวนแม่ทัพหลิ่วก็มีคนเดินออกมาเช่นกัน"คนนี้ก็คือใต้เท้าซูที่เจ้าชอบอย่างงั้นหรือ" ฮูหยินหลิ่วเหลียวมองบุตรีซึ่งอยู่ข้างกาย สื่อเป็นนัยให้อีกฝ่ายอย่าได้วู่วามทุกวันนี้คราใดที่หลิ่วโหรวโหรวเห็นถูซินเยว่กับซูจื่อหังเดินมาด้วยกัน ด้วยท่าทีรักใคร่ปรองดอง นางจะรู้สึกเดือดดาลในใจ ราวกับภูเขาไฟที่ใกล้ระเบิดกระนั้นนางทำเสียงฮึดฮัด "ถูซินเยว่มีวันนี้ได้ ก็เพราะอาศัยบารมีซูจื่อหัง แต่คอยดูไปเถิด หญิงบ้านนอกเช่นนาง ใหม่ ๆ ยังพอทำให้ซูจื่อหังพอใจได้บ้าง แต่พอนานวันเข้า ได้เห็นสาวงามในเมืองหลวงมากมาย ความรักของพวกเขายังมั่นคงเหมือนแต่ก่อนได้อีก ก็แสดงว่าผิดมนุษย์แล้ว"ฮูหยินหลิ่วแสดงท่าทีนิ่งเฉยแต่บุตรีพูดก็มีเหตุผล ผู้ชายในโลกนี้น้อยนักที่จะไม่คิดได้ใหม่ลืมเก่า ยกตัวอย่างเช่นสามีของนาง ในอดีตก็เคยให้คำมั่นสัญญา ว่าแม้เป็นหรือตายก็จะขอรักอดีตคนรักเพียงผู้เดียว แต่พอบ้านเขาประสบภาวะเดือดร้อน สุดท้ายก็มาเลือกแต่งงานกับตน จนบัดนี้ลืมหน้านังคนแพศยานั่นไปถึงไหนต่อไหนแล้วแสดงว่าความจริงใจของผู้ชายคือสิ่งที่ไร้ประโยชน์ปกติเสแสร้งทำเป็นรักมั่นจริงใจ แต่พอเอ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 380 ลูกสาวจอมโง่เขลา

    หากซูจื่อหังไม่รังเกียจถูซินเยว่แล้วล่ะก็ งั้นต่อให้หลิ่วโหรวโหรววทุ่มเทแรงกายแรงใจมากแค่ไหนก็ตาม เกรงว่าก็คงไม่สามารถเข้าไปในจวนสกุลซูได้ดั่งใจปรารถนาหรอกแต่น่าขําที่ลูกสาวคนนี้ของนางกลับไม่รู้ต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้เลย รู้แต่ไปเหยียดหยามถูซินเยว่อย่างโง่เขลาเท่านั้นนี่ถ้าทําให้ถูซินเยว่อับอายต่อหน้าทุกคนก็ว่าไปอย่าง แต่นี่กลับยังโดนถูซินเย่วตอบโต้กลับมาจนขายหน้า นี่ไม่ใช่เป็นการตบหน้าตัวเองหรือไง?เมื่อคิดถึงตรงนี้ ฮูหยินหลิ่วก็ไม่อยากเห็นหน้าลูกสาวคนนี้แม้แต่นิดนางขมวดคิ้ว จู่ ๆ ก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้และอดไม่ได้ที่จะพูดว่า "ใช่แล้ว เรื่องนี้ข้ายังไม่ได้บอกพ่อเจ้า ถ้าพ่อเจ้ารู้ ดูสิว่าเขาจะสั่งสอนเจ้ายังไง เจ้าระวังตัวหน่อย"ภายใต้การเกลี้ยกล่อมและคําเตือนของฮูหยินหลิ่ว ในที่สุดหลิ่วโหรวโหรวก็หลับตาลง นางนั่งอยู่บนที่นั่งของตัวเองอย่างเซ็ง ๆ ทั้งหน้ามีแค่อารมณ์เดียวนั่นก็คือ นางไม่มีความสุขฮูหยินหลิ่วถอนหายใจอย่างจนใจ แล้วเงยหน้ามองฝั่งตรงข้าม ตําแหน่งของนาง มีเพิงดอกไม้อยู่ตรงกลางบดบังร่างของถูซินเยว่พอดี ดังนั้นนางจึงเห็นเพียงโครงร่างผ่านเถาวัลย์อย่างคลุมเครือเท่

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 379 จางเยียนหรัน

    วันนี้ตระกูลจางเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงเชิญตระกูลที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง ก่อนมาซูจื่อหังเคยพูดกับนางว่า เขากับตระกูลจางเข้ากันได้ดีในราชสํานัก ดังนั้นวันนี้ ถูซินเยว่ก็ไม่อยากสร้างปัญหาอะไรให้กับตระกูลจาง เพื่อไม่ให้คนอื่นรู้สึกว่าพวกเขาไม่มีมารยาทเห็นเหล่าฮูหยินกับหลิ่วโหรวโหรวเพิ่งเยาะเย้ยเธอเมื่อครู่ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ถูซินเยว่ก็สบายใจไม่น้อย ก้มหน้าก้มตากินอาหารด้วยตัวเองไม่สนใจใครทั้งนั้นในขณะที่เธอกําลังกินอย่างมีความสุข จู่ ๆ ก็มีคนผลักแขนของเธอเบา ๆถูซินเยว่นิ่งงันไปพักหนึ่ง หันหน้ากลับไปอย่างสงสัยใคร่รู้ เห็นหญิงสาวในชุดสีเหลืองคนหนึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ ตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ กําลังใช้ดวงตากลมโตจ้องมองเธออย่างอยากรู้อยากเห็นดวงตาของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและไร้เดียงสา แต่กลับไม่มีเจตนาร้ายเลยแม้แต่น้อยถูซินเยว่เคยเห็นคนมามากมาย เรื่องเหล่านี้เธอยังพอสามารถมองออกได้ตั้งแต่แรกเห็นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีเจตนาร้าย ท่าทีของเธอก็อ่อนโยนลงมาก"ไม่ทราบว่าแม่นางมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?"ถ้าเธอจําไม่ผิด คนที่นั่งข้างเธอเมื่อกี้น่าจะเป็นผู้หญิงที่เยาะเย้ยเธ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 378 หน้าแตก

    ถูซินเยว่ชะงัก และรู้สึกตลก เมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายก็รู้สึกประหลาดใจ ตอนที่ออกจากมาตอนเช้า เธอได้สวมใส่เครื่องประดับมาหลายชิ้นจริงๆแต่ระหว่างทาง ถูซินเยว่รู้สึกว่าต่างหูระเกะระกะเกินไป จึงแอบถอดมันออกและวางไว้บนรถม้าคาดไม่ถึงจริงๆ ว่าในงานเลี้ยงจะมีคนไม่กินไม่ดื่ม แต่หันมาจับจ้องที่เครื่องหัวของตนเองแทนถูซินเยว่ยื่นมือไปจับที่ผมของตนเองอัตโนมัติ จากนั้นก็พูดเสียงราบเรียบว่า "ในเมื่อวันนี้ตระกูลจางเป็นเจ้าภาพ แขกสำคัญจึงเป็นตระกูลจาง แล้วเหตุใดข้าจักต้องแต่งตัวให้ดูดีขนาดนั้น""จนก็ยอมรับว่าจนเถอะ จะหาเหตุผลอะไรมาอ้างมากมายไปทำไม ในที่นี้ใครไม่รู้บ้างว่าพวกเจ้ามาจากบ้านนอก ข้าเองก็แค่รู้สึกเสียดายแทนใตเท้าซูเท่านั้น ทั้งที่มีมีอนาคตอันดี หากแต่งงานกับบุตรสาวขุนนางสักคน ก็คงยิ่งช่วยส่งเสริมให้เจริญก้าวหน้า แต่กลับเลือกจะเฝ้าอยู่แค่หญิงชาวบ้านเฉกเช่นเจ้า..."ประโยคหลังแม้ว่าจะไม่ได้พูดต่อจนจบ แต่ก็สามารถเข้าใจได้ถึงแม้บนใบหน้าของถูซินเยว่จะแสดงสีหน้าใดๆ แต่สาวรับใช้ที่อยู่ข้างๆ สีหน้าย่ำแย่มากแล้วนางอาศัยอยู่ที่ตระกูลซูมานาน ก็พอจะรู้ว่าถูซินเยว่ไม่ได้ไม่มีเงิน และเงินส่วนใ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 377 ดูถูก

    ตั้งแต่ตอนที่อยู่ในหมู่บ้านต้าเย่ เพราะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ หรือเพราะผลประโยชน์อันน้อยนิด แม้เป็นครอบครัวเดียวกัน ก็ยังสามารถโกรธแค้นกันจนตัดญาติขาดมิตรไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นใด แค่ในตระกูลถู เพียงเพื่อสินสอดของตระกูลเหลียง ถูชิวหลานก็ดันทุรังจะสับเปลี่ยนตัวเธอกับลูกสาว ภายหลังยังไม่ยอมรับด้วย แถมยังผลักไสความผิดทุกอย่างไปที่เจ้าของร่างหากเธอไม่ได้ข้ามิติมาอยู่ในร่างของเจ้าของร่างซื่อบื้อคนนั้น นางจะใช้ชีวิตอยู่ในตระกูลซูอย่างไร เกรงว่าคงเหลือแต่เสี้ยววิญญาณแล้วอย่างด้านซูเฟิ่งอี๋ในตระกูลซู ตอนนั้นพวกเขาเองก็หวงแหนเงินเล็กๆ น้อยๆ เห็นชีวิตนางหยูกำลังตกอยู่ในอันตรายก็ยังไม่ยอมรักษาให้นางเรื่องราวของญาติสนิทมิตรสหายที่ทำร้ายคนใกล้ตัวเพียงเพื่อผลประโยชน์และเงินทองมีมากมายเกินกว่าจะพูด ขนาดบ้านเธอยังเป็นเช่นนี้ แล้วต้าฉีที่มีบ้านสกุลมากมายขนาดนี้ล่ะชาวบ้านธรรมดาทั่วไป อาจทำไปเพื่อเงินทอง แต่องค์ชายสามกับองค์ชายใหญ่ กลับทำเพื่อแก่งแย่งแผ่นดิน ขนาดที่เป็นการต่อสู้เพื่อความเป็นความตาย และไม่มีใครยอมอ่อนข้อให้ใคร ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้"ชีวิตคนเรามีหลายเรื่องที่มักไม่เป็นดังที่หวัง ข

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 376 อิจฉา

    "วันนี้เป็นงานเลี้ยงของตระกูลจาง ข้าก็นึกว่าเจ้าจะพูดคุยเรื่องอะไรกับข้า คาดไม่ถึงว่าจะใช้เรื่องนี้มาข่มขู่ข้าในที่ๆ ไม่มีคนเช่นนี้?"ชายผู้นั้นหัวคิ้วกระตุก รีบก้มศรีษะลงแล้วพูดว่า "กระหม่อมมิบังอาจพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่กระหม่อมทราบว่าองค์ชายสามเป็นคนเฉลียวฉลาด แต่ไหนแต่ไรมา การที่บุตรสายตรงรับสืบราชบัลลลังก์ต่อก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล แล้วไฉนองค์ชายสามจึงมิตั้งใจเป็นข้าราชบริพานบริสุทธิ์ คอยค้ำจุนเสด็จพี่ของพระองค์เล่าพ่ะย่ะค่ะ?"ฉีหวานหัวดราะเสียงดัง น้ำเสียงเย็นเยือกลงฉับพลัน เขาสะบัดแขนเสื้อ พร้อมสีหน้าเย็นชา "แม่ทัพหลิ่วพูดเช่นนี้ ช่างไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย ตอนที่ข้าพบกับมือสังหารไล่เอาชีวิตตอนที่รีบเดินทางกลับมาจากเป่ยเจียงอันไกล แม้วันนี้ข้าไม่พูด เชื่อว่าท่านแม่ทัพเองก็คงทราบดีว่าเป็นฝีมือของใคร?"ถูซินเยว่ที่นั่งอยู่ในศาลาชะงักงัน ที่แท้คนที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับฉีหวานก็คือแม่ทัพหลิ่วนี่เอง หากนางจำไม่ผิดละก็ ก่อนหน้านี้ที่หน้าประตูตระกูลจาง ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ หลิ่วโหรวโหรวก็คือแม่ทัพหลิ่วผู้นี้สินะ?เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ถูซินเยว่ก็รู้สึกเซ็งขึ้นมา ถ้ารู้แต่แรกว่าพวกเขาจะคุยกันเรื่

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 375 แอบฟัง

    หลิ่วโหรวโหรวก็มองเห็นพวกเขาเช่นกัน และเมื่อนึกถึงความสนิทสนมของถูซินเยว่และซููจื่อหังวันนั้นในจวนซู นางก็กำหมัดแน่นแม่ทัพหลิ่ว หลิ่วถิง เมื่อเห็นว่าบุตรสาวของตนเองอยู่ๆ ก็หน้าตาไม่สดใส ทั้งที่เมื่อสักครู่ยังดีอกดีใจ ก็ขมวดคิ้วถามว่า "เป็นอะไรไป? มีคนรู้จักรึ?""เจ้าค่ะ..." หลิ่วโหรวโหรวกำลังจะอ้าปากพูด ฮูหยินหลิ่วที่อยู่ข้างๆ ก็ผลักนาง และส่งสายตาให้กับอีกฝ่ายหลิ่วโหรวโหรวจึงได้แต่หุบปากเงียบอย่างไม่พอใจนักฮูหยินหลิ่วเดินไปข้างๆ หลิ่วโหรวโหรวอย่างเงียบๆ กระตุกแขนเสื้อของบุตรสาวและพูดเตือนเสียงเบาว่า "เจ้าอย่าได้พูดถึงเรื่องของตระกูลซูอีก หากเจ้าพูดถึงอีกข้าจะไม่ยกโทษให้เจ้า! เมื่อกี้เจ้าไม่เห็นฮูหยินตระกูลซูหรือย่างไร? นางท้องโตขนาดนั้นแล้ว! เจ้าคิดจะไปเป็นภรรยาน้อยของคนอื่นหรือ? พูดออกไปรังแต่จะกลายเป็นเรื่องตลก!"หลิ่วโหรวโหรวสีหน้าย่ำแย่ทันทีแม้ว่าซูจื่อหังมีภรรยาหลวงอยู่แล้ว แต่ในใจนางนั่นก็เป็นเพียงหญิงบ้านนอกที่เทียบกับตนเองไม่ได้เลยด้วยซ้ำ นางซึ่งเป็นบุตรีสายตรงของจวนแม่ทัพ จะตกเป็นรองอยู่เป็นภรรยาน้อยของซูจื่อหังหรืออย่างไร?ลำพังแค่คิด นางก็ไม่ต้องการหลิ่วโหรวโหร

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 374 งานเลี้ยงตระกูลจาง

    ขณะที่ถูซินเยว่กำลังยุ่งอยู่กับการเปิดร้านขายเครื่องประดับ และนางหยูกำลังกังวลเรื่องลูกค้าอยู่นั้น เทียบเชิญฉบับหนึ่งก็ได้ส่งมาถึงที่บ้าน"เป็นงานฉลองวันเกิดของมารดาเฒ่าตระกูลจางจากเสนาบีดีกระทรวงการคลัง"ถูซินเยว่ถือเทียบเชิญไว้ในมือและยิ้มอย่างประหลาดใจ "ในเมืองหลวงแห่งนี้ข้านั้นไม่ได้รู้จักใครเลยสักคนหนึ่ง แต่นึกไม่ถึงว่าตระกูลจางจะส่งเทียบเชิญมาให้ข้า"สามีของตนเองก็เป็นข้าราชการขั้นเจ็ดเล็กๆ คนหนึ่ง แม้ว่าตระกูลจากจะไม่ใช่ข้าราชการชั้นสูง แต่ก็เป็นข้าราชการขั้นห้า และบรรพบุรุษก็ล้วนเป็นข้าราชการทั้งนั้น ซึ่งก็นับว่าเป็นตระกูลที่มีคุณธรรมสูงส่งการที่ส่งเทียบเชิญมาให้พวกเขาในงานเลี้ยงวันเกิดเช่นนี้ ก็เรียกได้ว่าไม่ได้ดูถูกพวกเขาเพียงแต่ คนในยุคโบราณส่วนมากจะดูแคลนคนทำธุรกิจ หากตนเองไปร่วมงานละก็ จะทำให้พวกเขารู้ว่าภรรยาของซูจื่อหังเป็นหญิงทำมาค้าขาย ก็ยากที่จะไม่ดูแคลนเดิมทีถูซินเยว่ไม่อยากไป แต่คาดไม่ถึงว่าซูจื่อหังจะหันมากุมมือเธอไว้ ยิ้มแล้วพูดอย่างไม่ใส่ใจนักว่า "บุตรชายของใต้เท้าจางสนิทกับข้า ภรรยาของข้าเป็นหญิงสาวที่มีเสน่ห์มากที่สุดในใต้หล้า ไม่ว่าทำอะไรก็ดีทั้งนั้น แล

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 373 ฮ่องเต้หมดสติ

    สำหรับถูซินเยว่แล้ว จะเป็นลูกผู้ชายหรือผู้หญิงก็ไม่เป็นไร สิ่งสำคัญคือ การที่ลูกน้อยสามารถคลอดออกมาได้อย่างปลอดภัยเพราะในยุคโบราณการที่ผู้หญิงคลอดลูกนั้นเปรียบเสมือนการเดินไปขอบประตูนรก ดังนั้นการที่สามารถให้กำเนิดลูกได้อย่างปลอดภัยถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย เธอจึงไม่คาดหวังอย่างอื่นอีกแต่ว่าช่วงนี้เธอมักจะถูกนางหยูล้างสมองอยู่บ่อยๆ จนถูซินเยว่เองก็คิดว่าท้องนี้อาจจะเป็นลูกผู้ชายก็ได้เป็นผู้ชายก็ดี เพราะความคิดปิดกั้นในยุคโบราณนั้นสร้างความลำบากให้กับหญิงสาวอย่างมาก หากเป็นเด็กผู้ชาย ก็สามารถลดความลำบากหลายๆ อย่างให้เธอได้ไม่น้อยเดิมทีถูซินเยว่อยากจะถามฉงเป่าว่าในท้องตนเองนั้นเป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิงกันแน่ ซึ่งตามปกติแล้วขอเพียงเอาของกินมาล่อนิดล่อหน่อย ฉงเป่าก็ยอมพูดทุกอย่าง มีเพียงแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวที่ไม้ว่าถูซินเยว่ถามอย่างไร อีกฝ่ายก็ไม่ยอมบอก"อย่างไรเสียลูกก็อยู่ในท้องของข้า เจ้าจะบอกหน่อยมิได้หรือว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง? ถึงเจ้าพูดมา ด้วยเงื่อนไขการรักษาแบบนี้ข้าก็ทำอะไรเจ้าไม่ได้มิใช่หรือไง?"อีกอย่าง ถูซินเยว่เองก็ไม่มีความคิดการให้ความสำคัญชายมากกว่าหญิงด

DMCA.com Protection Status