Share

บทที่ 285 กลับบ้านเยี่ยมญาติ

Auteur: ฮวาฮวาน่งหยวี่
เมื่อหัวหน้าพ่อบ้านพูดเช่นนี้ พ่อเฒ่าไป๋ก็คล้อยตามมากขึ้น

เขาพูดถูกอยู่อย่างหนึ่ง ถ้าเป็นแค่หญิงเกษตรกรธรรมดาจริง จะมาเปิดร้านขายเครื่องประดับที่ผิงโจวได้อย่างไร แล้วไหนจะรู้จักกับกู้เยว่หวาได้อย่างไรอีก? เมื่อคิดดูแบบนี้แล้วเถ้าแก่เนี๊ยะถูที่เขาล่ำลือกันคนนี้ก็นับว่าไม่ธรรมจริง ๆ

"ตอนนี้เถ้าแก่เนี๊ยะถูอยู่ที่ชิงเฉิง ระยะทางระหว่างชิงเฉิงกับผิงโจวนั้นไกลกันมาก ไม่รู้ว่านางจะมาอีกเมื่อไหร่ ถ้าเทียบกับการรออยู่เฉย ๆ แล้ว ไม่สู้ใต้เท้าส่งคนไปเชิญนางมาจากชิงเฉิงนะขอรับ"

หัวหน้าพ่อบ้านให้แนะนำอยู่ข้าง ๆ

พ่อเฒ่าไป๋พยักหน้า ตอนนี้เป็นช่วงสิ้นปี เดี๋ยวรอให้พ้นปีใหม่ก่อนแล้วเขาจะส่งคนไปเชิญถูซินเยว่มา ดูจากสถานการณ์ของลูกชายเขาแล้ว พ่อเฒ่าไป๋ก็รู้สึกเป็นห่วง เกรงว่าอีกฝ่ายทนได้อีกไม่นาน

ไป๋อี้หรันเป็นอัจฉริยะ เดิมทีตระกูลไป๋ก็เป็นเพียงตระกูลพ่อค้าธรรมดาในผิงโจว แต่ตั้งแต่ไป๋อี้หรันเข้ามาดูแลกิจการก็ได้กลายเป็นพ่อค้าทางน้ำเจ้าใหญ่ที่สุดในแถบเจียงหนาน

สำหรับลูกชายที่เป็นที่น่าภูมิใจอย่างไป๋อี้หรัน พ่อเฒ่าไป๋ทำใจเสียเขาไปไม่ได้อยู่แล้ว

ตอนนี้ไป๋อี้หรันนับวันยิ่งอิดโรย เขาเองก็ร้อนใจมาก

ถ้า
Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application
Chapitre verrouillé

Related chapter

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 286 ผู้คนต่างตะลึง

    ที่จริงเธอก็แอบรู้สึกผิดอยู่ในใจ เพราะว่าปีนี้ทั้งปีเธอยุ่งตลอดแทบไม่ได้กลับไปที่บ้านตระกูลถูเลย จึงไม่ได้ไปเยี่ยมถูซานกับนางหลินทุกครั้งที่เธอซื้อของให้นางหยู ก็จะซื้อให้นางหลินด้วยแล้วฝากคนเอาไปให้ตามหลักแล้วหลังจากที่ตัวเองเข้ามาอยู่ในร่างเจ้าของร่างแล้วก็ควรกตัญญูต่อนางหลินและถูซานให้มากดังนั้นมาคราวนี้ถูซินเยว่จึงเอาของกินมามากมาย เรื่องขนมที่เอามาให้เสี่ยวเป้ยยิ่งไม่ต้องพูดถึง นอกจากนี้เธอยังเอาของบำรุงร่างกายมาจากในมิติแห่งน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ด้วย ไหนจะเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้อีกตอนนี้ตระกูลซูมีเกวียนวัวเป็นของตัวเองแล้ว ดังนั้นตอนออกเดินทางจึงสะดวก ถูซินเยว่เอาของที่จะเอาไปให้นางหลินกับถูซานที่บ้านตระกูลถูโยนขึ้นบนหลังเกวียน ขนของมาใส่เต็มไปครึ่งคันเกวียนกว่าจะได้ออกเดินทางตอนที่เกวียนวัวมาถึงหน้าบ้านตระกูลถู ถูชิวหลานกำลังหอบกะละมังไม้จะไปซักผ้าพอดี พอเห็นของที่ใส่มาครึ่งคันเกวียนก็ตกตะลึง"นี่… นี่ขนอะไรมา?" ถูชิวหลานวิ่งมาที่หน้าถูซินเยว่ นางร้องถามพลางชะโงกหน้าออกมาดู นางชะเง้อชะแง้มองอยู่นาน ของอยากอื่นโดนเอาผ้าห่อไว้มิดชิดดูไม่ออกว่าข้างในเป็นอะไร เห็นแต่กระกร

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 287 เรื่องเข้าหอ

    "ท่านแม่ ท่านเองก็กินเยอะ ๆ หน่อย" ถูซินเยว่เห็นนางหลินเอาแต่คีบอาหารให้เธอ ตัวนางเองกลับไม่ได้กินเท่าไหร่ จึงคีบเนื้อชิ้นใหญ่ใส่ในถ้วยนางหลินแต่แม่เฒ่าตระกูลถูเมื่อเห็นถูซินเยว่ทำตัวเหมือนไม่เห็นคนอื่นอยู่ในสายตาราวกับอยู่บ้านตัวเองเช่นนี้ ก็ทำหน้าเครียดไม่มีรอยยิ้มถูชิวหลานพูดเหน็บแนมว่า "อยากกินอะไรก็กิน อยากคีบอะไรก็คีบ ทำอย่างกับที่นี่เป็นบ้านตัวเองไปได้"นางหลินหน้าเสียทันที วันนี้ถูซินเยว่กลับมาเป็นแขกที่บ้าน ไม่คิดว่าถูชิวหลานจะไม่ไว่หน้านางขนาดนี้ถูซินเยว่ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ไม่ได้สนใจคำพูดของถูชิวหลานเลย เธอพูดเรียบ ๆ ว่า "ข้าก็อยู่ที่บ้านตระกูลถูมาตั้งแต่เล็กจนโต ข้าไม่ใช่คนบ้านนี้ตรงไหน? ป้าใหญ่พูดแบบนี้ช่างน่าไม่น่าฟังยิ่งนัก""โบราณว่าลูกสาวที่ออกเรือนไปแล้ว ก็เหมือนน้ำที่สาดออกไปแล้ว ในเมื่อเจ้าแต่งงานกับซูจื่อหังแล้วที่นี่ก็ไม่ใช่บ้านเจ้าอีกต่อไป"ถูชิวหลานพูดโดยไม่ทันคิด ไม่รู้เลยว่าที่พูดไปนั่นเข้าตัวเองเต็ม ๆเมื่อเห็นถูหมิงซวนที่อยู่ข้าง ๆ สีหน้าแย่ลงแล้วจู่ ๆ ก็วางตะเกียบถูชิวหลานถึงเพิ่งนึกขึ้นได้ อย่าว่าแต่ถูหมิงซวนเลย แม้แต่ตัวเองก็เป็นลูกสาวที่แต่งงานไป

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 288 เรื่องของผู้ชาย

    ตั้งแต่รู้ว่าถูซินเยว่กับซูจื่อหังแต่งงานกันมาสองปีแล้วยังไม่เคยร่วมหอกันเลย นางหลินก็กระวนกระวายใจอยู่ไม่เป็นสุขนางเพิ่งลองแกล้งถามไปเมื่อกี้ ดูจากท่าทางของถูซินเยว่แล้ว คาดว่านางคงเอาไม่ผิดลูกสาวนางเอง นางรู้ว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรหรือว่าร่างกายของจื่อหังจะมีปัญหาอะไรตรงไหนหรือเปล่า?นางหลินขมวดคิ้วครุ่นคิดไปพลางนั่งลงที่ข้างเตาไฟถึงจะกังวลเรื่องนี้มาก แต่นางเป็นแม่ยาย จะให้ไปถามซูจื่อหังเองตรง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นก็คงไม่เหมาะ เรื่องนี้คงต้องพึ่งถูซานเท่านั้นนางหลินก็ใช่ว่าจะรังเกียจซูจื่อหัง เพียงแต่กังวลว่าถ้าอีกฝ่ายสุขภาพร่างกายมีปัญหาขึ้นมาจริง ๆ จะได้รีบคิดหาวิธีแก้ปัญหาเอาไว้ก่อน ทั้งสองคนก็อายุไม่น้อยแล้วด้วย ถ้ามีลูกไม่ได้จริง ๆ จะได้รีบไปแอบขโมยอุ้มลูกคนอื่นมานางหลินวางแผนอยู่ในใจ นางอาศัยจังหวะที่ถูซินเยว่กับซูจื่อหังไม่ได้สังเกตุแอบลากถูซานเข้าไปในเล้าไก่ที่อยู่ด้านหลัง จากนั้นก็เล่าเรื่องนี้ให้ถูซานฟังพอถูซานได้ฟังเช่นนั้น ใบหน้าที่ดำคล้ำก็โกรธจนแดงก่ำ"นั่นมันก็เป็นเรื่องของคนอื่นเขา เจ้าจะกังวลทำไม?"นางหลินจนใจ "ท่านสติเลอะเทอะไปแล้วหรือไง คนอื่นที่ไหน นั่นม

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 289 มีคนมาหา

    ซูจื่อหังไม่ยอมพูด ถูซินเยว่ก็ทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้สองคนกลับถึงบ้าน ถูซินเยว่ก็มอบจดหมายที่เสี่ยวเป้ยฝากมาให้ฉงเป่า"นี่คืออะไรเหรอ?""เพราะเธอไม่ได้ไปบ้านตระกูลถูวันนี้ เสี่ยวเป้ยคิดถึงเธอก็เลยฝากจดหมายมาให้" ถูซินเยว่พูดอย่างจงใจว่า "เธอกับเสี่ยวเป้ยสนิทกันดีนี่ ฉันว่าจะเปิดจดหมายนี้อ่าน แต่เสี่ยวเป้ยก็ไม่ยอมให้อ่าน"ถ้าฉงเป่าไม่ใช่เด็กผู้ชาย ถูซินเยว่คงสงสัยว่าเสี่ยวเป้ยชอบฉงเป่าไปแล้ว"เขาเขียนจดหมายให้ฉัน เธอก็ไม่มีสิทธิ์อ่านอยู่แล้วสิ" ฉงเป่าเอาจดหมายไปแอบไปข้างหลัง แล้วรีบผลักถูซินเยว่ออกไป เขามีชีวิตอยู่ในมิติแห่งน้ำพุศักดิ์สิทธิ์มาหลายพันปีแล้ว แต่ก็อยู่โดดเดี่ยวมาตลอด ไม่เคยมีเพื่อนที่ไหนเลย ยิ่งคนที่จะเขียนจดหมายมาหายิ่งไม่ต้องพูดถึงตอนนี้เสี่ยวเป้ยเขียนจดหมายมาหาเขา ฉงเป่ารู้สึกอบอุ่นใจเหลือเกินถูซินเยว่ที่อยู่ข้างนอกเมื่อเห็นฉงเป่าเป็นแบบนี้แล้วก็ยิ้มอย่างจนใจ แต่ในใจกลับอดนึกถึงสิ่งที่นางหลินสั่งไว้ไม่ได้ที่จริงอายุขนาดอย่างเจ้าของร่าง ถ้าเป็นในยุคปัจจุบันยังเรียนมัธยมปลายอยู่เลย เธอไม่คิดว่าจะต้องรีบมีลูกขนาดนั้นก็ได้ก่อนหน้านี้ถูซินเยว่คิดว่ารอไปก่อนก็ได้ ให

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 290 ร่วมหอแล้ว

    หลังจากต้มน้ำเสร็จถูซินเยว่ก็ไปอาบน้ำแล้วขึ้นเตียงทันทีแม้ว่าพ้นวันส่งท้ายปีมาแล้วก็นับว่าอย่างเข้าฤดูใบไม้ผลิแล้ว แต่ช่วงนี้อากาศก็ยังคงหนาวมากอยู่ โดยเฉพาะบ้านที่อยู่ติดริมน้ำอย่างพวกเขาด้วยแล้ว อุณหภูมิกลางวันกับกลางคืนต่างกันมาก หลังจากพระอาทิตย์ตกดินไปแล้วก็ยิ่งหนาวเหน็บ หนาวจนเข้ากระดูกได้แช่น้ำอุ่นในถังไม้แล้วก็รู้สึกอุ่นไปทั้งตัว บวกกับได้ซุกตัวอยู่ผ้าห่มที่มีกะละมังผิงไฟอยู่ข้าง ๆ ด้วยแล้ว ถูซินเยว่ก็รู้สบายตัวสบายใจอย่างมากเธอพ่นลมหายใจด้วยความพึงพอใจ และจงใจนอนในตำแหน่งตรงกลางระหว่างที่นอนของพวกเขาทั้งสอง จะได้ช่วยทำให้ฝั่งที่ซูจื่อหังนอนอุ่นด้วย เวลาอีกฝ่ายขึ้นเตียงมาจะได้ไม่รู้สึกหนาวถูซินเยว่นอนไปนอนมาก็เคลิ้มหลับไปโดยไม่รู้ตัว อาจเป็นเพราะหลังจากอาบน้ำเสร็จมันสบายเกินไปพอเธอรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกที ซูจื่อหังก็มานั่งคุกเข่าอยู่ข้าง ๆ เขาตั้งใจว่าจะขยับเธอเข้าไปข้างในสักหน่อย เมื่อได้เห็นหญิงสาวสะลึมสะลือลืมตาขึ้นมา เขาก็นึกถึงสิ่งที่ถูซานพูดกับตัวเองเมื่อตอนกลางวัน เขามองปากของถูซินเยว่แล้วเหมือนมีอะไรมาดลใจให้จูบลงไปเนื่องจากถูซินเยว่ชงชาดอกไม้ดื่มเป็นประจำมา

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 291 บำรุงร่างกาย

    ตามที่ซูจื่อหังพูดไว้ หลังกินข้าวเสร็จ จึงรีบไปบ้านหยวนเป่าเพื่อจับแม่ไก่ทันทีก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้ ตอนนี้ซูจื่อหังจึงได้รุ้ว่า ภรรยาตนแม้จะดูเป็นคนมีเรี่ยวแรง หากแต่ร่างกายอ่อนแอนัก เอวบางจนเขาโอบเบา ๆ ก็เหมือนจะขาด ยิ่งคิดก็ยิ่งเป็นห่วง เขาจึงตัดสินใจ ต้องไปหาของดีให้มาก เพื่อจะให้ภรรยาได้กินบำรุงสุขภาพถูซินเยว่นอนจนกระทั่งซูจื่อหังจับแม่ไก่กลับมา นางก็ยังไม่ตื่น ซ้ำยังทำอาหารเที่ยงรอไว้อีก ซูจื่อหังเกรงว่านางจะนอนต่อไป อดข้าวแล้วจะทำให้เสียสุขภาพ จึงมาปลุกให้ถูซินเยว่ตื่นขึ้นขณะเพิ่งลืมตา ถูซินเยว่ยังสะลึมสะลืออยู่ คล้ายกับยังไม่ทันได้ตั้งสติจวบจนเห็นใบหน้ายิ้ม ๆ ของซูจื่อหังเข้านั่นแหละ จึงได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นนางรีบฉวยผ้าห่มมา พร้อมรีบปิดใบหน้าโดยไม่ตั้งใจ ยังไม่ทันได้เอ่ยปาก หน้าก็แดงเรื่อไปถึงไหน ๆ แล้วซูจื่อหังยิ้มกว้างมากขึ้นไปอีก "ไม่ต้องแอบหรอก ข้าเห็นหมดแล้ว""ท่าน..ท่าน.." ถูซินเยว่มัวแต่อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ พูดจาไม่ออกซักคำ ได้แต่กล่าวว่า "นี่มันเวลาไหนแล้ว?""อาหารเที่ยงทำเสร็จแล้ว เจ้าจะกินไหม?" น้ำเสียงซูจื่อหังลอดมาจากนอกผ้าห่มถูซินเยว่หยุดชะงัก ไม่นึกว่าตนจะหล

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 292 มาเยือนถึงบ้าน

    เมื่อนึกถึงตรงนี้ นางก็ไม่รู้ว่าประสาทส่วนไหนทำงานผิดพลาด เห็นซูจื่อหังไม่ยอมกิน กลับโพล่งออกจากปากประโยคหนึ่ง โดยกล่าวว่า "เมื่อคืนท่านยิ่งเหนื่อยมากกว่า ต้องกินเยอะ ๆ"เพราะยังไง เขาดูเป็นฝ่ายใช้กำลังมากกว่า..ตอนพูดก็ไม่คิดว่ามีอะไรผิดปกติ แต่พอออกจากปาก เห็นซูจื่อหังทำหน้าประดักประเดิด ถูซินเยว่จึงรู้ในภายหลังว่า ตนได้พูดอะไรที่หน้าไม่อายออกไปบ้างใบหน้านั้นแดงก่ำขึ้นในฉับพลันนางรีบยื่นมือออกมา หยิบชามข้าวของตน พร้อมก้มหน้าทำเป็นไม่รู่ไม่ชี้"ข้าไม่ได้พูดอะไร""ข้าได้ยินหมดแล้ว" ซูจื่อหังเลิกคิ้ว สีหน้ามีรอยยิ้มบาง ๆ เขาลูบศีรษะของเด็กสาว ใบหูของตนก็มีอาการแดงเช่นกัน ชายหนุ่มใช้น้ำเสียงที่ได้ยินเฉพาะแค่สองคนกล่าวว่า "ซินเยว่ แรก ๆ ข้ายังนึกว่าเจ้าขัดเขิน ที่ไหนได้ เจ้ารู้ดีทุกอย่าง"ถูซินเยว่ "..."นางแทบไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี ได้แต่ใช้การกระทำบอกถึงจุดยืนของตน รีบคีบน่องไก่อีกอันใส่ไปในชามข้าวของซูจื่อหังซูจื่อหังรู้ว่าถูซินเยว่เป็นคนหน้าบาง ถ้าตนยังเย้าแหย่นางอีก นางคงไม่กล้าพูดอะไรอีกแล้ว จึงรีบเปลี่ยนประเด็นไปเรื่องอื่นแทน"อีกครึ่งเดือนข้างหน้า ข้าต้องไปเมืองหลวง ไว้

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 293 ความอาลัยอาวรณ์

    จากผิงโจวมาชิงเฉิงถือว่าไม่ใกล้ พ่อบ้านแห่งจวนไป๋คงไม่อยู่ดี ๆ มาหาตนแน่ แล้วจู่ ๆ มาวันนี้คงจะมีเรื่องราว ที่สำคัญ อาจไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยจากการคาดเดาของถูซินเยว่ เขาน่าจะมีเรื่องมาขอร้องไหว้วานเมื่อเห็นถูซินเยว่ซักถามโดยตรงเช่นนี้ พ่อบ้านก็ชะงักเล็กน้อย พร้อมกับลูบหนวดและพยักหน้า กล่าวยิ้ม ๆ ว่า "ที่ข้าน้อยมาวันนี้ เพราะมีเรื่องขอร้องจริง ๆ ใช่แล้ว ข้ายังมีของบำรุงเล็กน้อยมาฝาก เป็นน้ำใจไมตรี ขอเถ้าแก่เนี๊ยะถูโปรดรับไว้ด้วย"พูดพลาง พ่อบ้านจึงให้คนที่อยู่ด้านหลังเอาของออกมาในกล่องนั้นบรรจุด้วยโสมและเขากวาง ซึ่งคนในชนบทมักจะไม่เคยเห็น แม้หัวหน้าพ่อบ้านจะคิดว่าถูซินเยว่ไม่ใช่คนธรรมดา แต่ยังคิดว่าหากนางได้เห็นของเหล่านี้ คงต้องหวั่นไหวบ้างไม่มากก็น้อยแต่ว่า ที่ทำให้พ่อบ้านไม่คาดคิดก็คือ ถูซินเยว่เปิดกล่องแล้วเหลือบดูแวบหนึ่ง จากนั้นก็ปิดฝากล่องอย่างเบามือของบำรุงพวกนี้ ในมิติแห่งน้ำพุศักดิ์สิทธิ์มีมากมายนัก ยิ่งประดาโสมหรือเขากวางด้วยแล้ว สรรพคุณดีกว่าพวกนี้ไม่รู้ตั้งกี่เท่า ถูซินเยว่จึงไม่ได้สนใจซักนิดนางยิ้มให้อย่างมีมรรยาท และกล่าวว่า "ท่านพูดมาก่อนเถอะ ว่ามาหาข้ามีธุระอ

Latest chapter

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 381 ช่างคล้ายคลึงนัก

    ทั้งคู่เดินถึงหน้าประตู ปะเหมาะเวลานี้ จวนแม่ทัพหลิ่วก็มีคนเดินออกมาเช่นกัน"คนนี้ก็คือใต้เท้าซูที่เจ้าชอบอย่างงั้นหรือ" ฮูหยินหลิ่วเหลียวมองบุตรีซึ่งอยู่ข้างกาย สื่อเป็นนัยให้อีกฝ่ายอย่าได้วู่วามทุกวันนี้คราใดที่หลิ่วโหรวโหรวเห็นถูซินเยว่กับซูจื่อหังเดินมาด้วยกัน ด้วยท่าทีรักใคร่ปรองดอง นางจะรู้สึกเดือดดาลในใจ ราวกับภูเขาไฟที่ใกล้ระเบิดกระนั้นนางทำเสียงฮึดฮัด "ถูซินเยว่มีวันนี้ได้ ก็เพราะอาศัยบารมีซูจื่อหัง แต่คอยดูไปเถิด หญิงบ้านนอกเช่นนาง ใหม่ ๆ ยังพอทำให้ซูจื่อหังพอใจได้บ้าง แต่พอนานวันเข้า ได้เห็นสาวงามในเมืองหลวงมากมาย ความรักของพวกเขายังมั่นคงเหมือนแต่ก่อนได้อีก ก็แสดงว่าผิดมนุษย์แล้ว"ฮูหยินหลิ่วแสดงท่าทีนิ่งเฉยแต่บุตรีพูดก็มีเหตุผล ผู้ชายในโลกนี้น้อยนักที่จะไม่คิดได้ใหม่ลืมเก่า ยกตัวอย่างเช่นสามีของนาง ในอดีตก็เคยให้คำมั่นสัญญา ว่าแม้เป็นหรือตายก็จะขอรักอดีตคนรักเพียงผู้เดียว แต่พอบ้านเขาประสบภาวะเดือดร้อน สุดท้ายก็มาเลือกแต่งงานกับตน จนบัดนี้ลืมหน้านังคนแพศยานั่นไปถึงไหนต่อไหนแล้วแสดงว่าความจริงใจของผู้ชายคือสิ่งที่ไร้ประโยชน์ปกติเสแสร้งทำเป็นรักมั่นจริงใจ แต่พอเอ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 380 ลูกสาวจอมโง่เขลา

    หากซูจื่อหังไม่รังเกียจถูซินเยว่แล้วล่ะก็ งั้นต่อให้หลิ่วโหรวโหรววทุ่มเทแรงกายแรงใจมากแค่ไหนก็ตาม เกรงว่าก็คงไม่สามารถเข้าไปในจวนสกุลซูได้ดั่งใจปรารถนาหรอกแต่น่าขําที่ลูกสาวคนนี้ของนางกลับไม่รู้ต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้เลย รู้แต่ไปเหยียดหยามถูซินเยว่อย่างโง่เขลาเท่านั้นนี่ถ้าทําให้ถูซินเยว่อับอายต่อหน้าทุกคนก็ว่าไปอย่าง แต่นี่กลับยังโดนถูซินเย่วตอบโต้กลับมาจนขายหน้า นี่ไม่ใช่เป็นการตบหน้าตัวเองหรือไง?เมื่อคิดถึงตรงนี้ ฮูหยินหลิ่วก็ไม่อยากเห็นหน้าลูกสาวคนนี้แม้แต่นิดนางขมวดคิ้ว จู่ ๆ ก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้และอดไม่ได้ที่จะพูดว่า "ใช่แล้ว เรื่องนี้ข้ายังไม่ได้บอกพ่อเจ้า ถ้าพ่อเจ้ารู้ ดูสิว่าเขาจะสั่งสอนเจ้ายังไง เจ้าระวังตัวหน่อย"ภายใต้การเกลี้ยกล่อมและคําเตือนของฮูหยินหลิ่ว ในที่สุดหลิ่วโหรวโหรวก็หลับตาลง นางนั่งอยู่บนที่นั่งของตัวเองอย่างเซ็ง ๆ ทั้งหน้ามีแค่อารมณ์เดียวนั่นก็คือ นางไม่มีความสุขฮูหยินหลิ่วถอนหายใจอย่างจนใจ แล้วเงยหน้ามองฝั่งตรงข้าม ตําแหน่งของนาง มีเพิงดอกไม้อยู่ตรงกลางบดบังร่างของถูซินเยว่พอดี ดังนั้นนางจึงเห็นเพียงโครงร่างผ่านเถาวัลย์อย่างคลุมเครือเท่

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 379 จางเยียนหรัน

    วันนี้ตระกูลจางเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงเชิญตระกูลที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง ก่อนมาซูจื่อหังเคยพูดกับนางว่า เขากับตระกูลจางเข้ากันได้ดีในราชสํานัก ดังนั้นวันนี้ ถูซินเยว่ก็ไม่อยากสร้างปัญหาอะไรให้กับตระกูลจาง เพื่อไม่ให้คนอื่นรู้สึกว่าพวกเขาไม่มีมารยาทเห็นเหล่าฮูหยินกับหลิ่วโหรวโหรวเพิ่งเยาะเย้ยเธอเมื่อครู่ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ถูซินเยว่ก็สบายใจไม่น้อย ก้มหน้าก้มตากินอาหารด้วยตัวเองไม่สนใจใครทั้งนั้นในขณะที่เธอกําลังกินอย่างมีความสุข จู่ ๆ ก็มีคนผลักแขนของเธอเบา ๆถูซินเยว่นิ่งงันไปพักหนึ่ง หันหน้ากลับไปอย่างสงสัยใคร่รู้ เห็นหญิงสาวในชุดสีเหลืองคนหนึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ ตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ กําลังใช้ดวงตากลมโตจ้องมองเธออย่างอยากรู้อยากเห็นดวงตาของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและไร้เดียงสา แต่กลับไม่มีเจตนาร้ายเลยแม้แต่น้อยถูซินเยว่เคยเห็นคนมามากมาย เรื่องเหล่านี้เธอยังพอสามารถมองออกได้ตั้งแต่แรกเห็นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีเจตนาร้าย ท่าทีของเธอก็อ่อนโยนลงมาก"ไม่ทราบว่าแม่นางมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?"ถ้าเธอจําไม่ผิด คนที่นั่งข้างเธอเมื่อกี้น่าจะเป็นผู้หญิงที่เยาะเย้ยเธ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 378 หน้าแตก

    ถูซินเยว่ชะงัก และรู้สึกตลก เมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายก็รู้สึกประหลาดใจ ตอนที่ออกจากมาตอนเช้า เธอได้สวมใส่เครื่องประดับมาหลายชิ้นจริงๆแต่ระหว่างทาง ถูซินเยว่รู้สึกว่าต่างหูระเกะระกะเกินไป จึงแอบถอดมันออกและวางไว้บนรถม้าคาดไม่ถึงจริงๆ ว่าในงานเลี้ยงจะมีคนไม่กินไม่ดื่ม แต่หันมาจับจ้องที่เครื่องหัวของตนเองแทนถูซินเยว่ยื่นมือไปจับที่ผมของตนเองอัตโนมัติ จากนั้นก็พูดเสียงราบเรียบว่า "ในเมื่อวันนี้ตระกูลจางเป็นเจ้าภาพ แขกสำคัญจึงเป็นตระกูลจาง แล้วเหตุใดข้าจักต้องแต่งตัวให้ดูดีขนาดนั้น""จนก็ยอมรับว่าจนเถอะ จะหาเหตุผลอะไรมาอ้างมากมายไปทำไม ในที่นี้ใครไม่รู้บ้างว่าพวกเจ้ามาจากบ้านนอก ข้าเองก็แค่รู้สึกเสียดายแทนใตเท้าซูเท่านั้น ทั้งที่มีมีอนาคตอันดี หากแต่งงานกับบุตรสาวขุนนางสักคน ก็คงยิ่งช่วยส่งเสริมให้เจริญก้าวหน้า แต่กลับเลือกจะเฝ้าอยู่แค่หญิงชาวบ้านเฉกเช่นเจ้า..."ประโยคหลังแม้ว่าจะไม่ได้พูดต่อจนจบ แต่ก็สามารถเข้าใจได้ถึงแม้บนใบหน้าของถูซินเยว่จะแสดงสีหน้าใดๆ แต่สาวรับใช้ที่อยู่ข้างๆ สีหน้าย่ำแย่มากแล้วนางอาศัยอยู่ที่ตระกูลซูมานาน ก็พอจะรู้ว่าถูซินเยว่ไม่ได้ไม่มีเงิน และเงินส่วนใ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 377 ดูถูก

    ตั้งแต่ตอนที่อยู่ในหมู่บ้านต้าเย่ เพราะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ หรือเพราะผลประโยชน์อันน้อยนิด แม้เป็นครอบครัวเดียวกัน ก็ยังสามารถโกรธแค้นกันจนตัดญาติขาดมิตรไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นใด แค่ในตระกูลถู เพียงเพื่อสินสอดของตระกูลเหลียง ถูชิวหลานก็ดันทุรังจะสับเปลี่ยนตัวเธอกับลูกสาว ภายหลังยังไม่ยอมรับด้วย แถมยังผลักไสความผิดทุกอย่างไปที่เจ้าของร่างหากเธอไม่ได้ข้ามิติมาอยู่ในร่างของเจ้าของร่างซื่อบื้อคนนั้น นางจะใช้ชีวิตอยู่ในตระกูลซูอย่างไร เกรงว่าคงเหลือแต่เสี้ยววิญญาณแล้วอย่างด้านซูเฟิ่งอี๋ในตระกูลซู ตอนนั้นพวกเขาเองก็หวงแหนเงินเล็กๆ น้อยๆ เห็นชีวิตนางหยูกำลังตกอยู่ในอันตรายก็ยังไม่ยอมรักษาให้นางเรื่องราวของญาติสนิทมิตรสหายที่ทำร้ายคนใกล้ตัวเพียงเพื่อผลประโยชน์และเงินทองมีมากมายเกินกว่าจะพูด ขนาดบ้านเธอยังเป็นเช่นนี้ แล้วต้าฉีที่มีบ้านสกุลมากมายขนาดนี้ล่ะชาวบ้านธรรมดาทั่วไป อาจทำไปเพื่อเงินทอง แต่องค์ชายสามกับองค์ชายใหญ่ กลับทำเพื่อแก่งแย่งแผ่นดิน ขนาดที่เป็นการต่อสู้เพื่อความเป็นความตาย และไม่มีใครยอมอ่อนข้อให้ใคร ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้"ชีวิตคนเรามีหลายเรื่องที่มักไม่เป็นดังที่หวัง ข

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 376 อิจฉา

    "วันนี้เป็นงานเลี้ยงของตระกูลจาง ข้าก็นึกว่าเจ้าจะพูดคุยเรื่องอะไรกับข้า คาดไม่ถึงว่าจะใช้เรื่องนี้มาข่มขู่ข้าในที่ๆ ไม่มีคนเช่นนี้?"ชายผู้นั้นหัวคิ้วกระตุก รีบก้มศรีษะลงแล้วพูดว่า "กระหม่อมมิบังอาจพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่กระหม่อมทราบว่าองค์ชายสามเป็นคนเฉลียวฉลาด แต่ไหนแต่ไรมา การที่บุตรสายตรงรับสืบราชบัลลลังก์ต่อก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล แล้วไฉนองค์ชายสามจึงมิตั้งใจเป็นข้าราชบริพานบริสุทธิ์ คอยค้ำจุนเสด็จพี่ของพระองค์เล่าพ่ะย่ะค่ะ?"ฉีหวานหัวดราะเสียงดัง น้ำเสียงเย็นเยือกลงฉับพลัน เขาสะบัดแขนเสื้อ พร้อมสีหน้าเย็นชา "แม่ทัพหลิ่วพูดเช่นนี้ ช่างไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย ตอนที่ข้าพบกับมือสังหารไล่เอาชีวิตตอนที่รีบเดินทางกลับมาจากเป่ยเจียงอันไกล แม้วันนี้ข้าไม่พูด เชื่อว่าท่านแม่ทัพเองก็คงทราบดีว่าเป็นฝีมือของใคร?"ถูซินเยว่ที่นั่งอยู่ในศาลาชะงักงัน ที่แท้คนที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับฉีหวานก็คือแม่ทัพหลิ่วนี่เอง หากนางจำไม่ผิดละก็ ก่อนหน้านี้ที่หน้าประตูตระกูลจาง ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ หลิ่วโหรวโหรวก็คือแม่ทัพหลิ่วผู้นี้สินะ?เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ถูซินเยว่ก็รู้สึกเซ็งขึ้นมา ถ้ารู้แต่แรกว่าพวกเขาจะคุยกันเรื่

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 375 แอบฟัง

    หลิ่วโหรวโหรวก็มองเห็นพวกเขาเช่นกัน และเมื่อนึกถึงความสนิทสนมของถูซินเยว่และซููจื่อหังวันนั้นในจวนซู นางก็กำหมัดแน่นแม่ทัพหลิ่ว หลิ่วถิง เมื่อเห็นว่าบุตรสาวของตนเองอยู่ๆ ก็หน้าตาไม่สดใส ทั้งที่เมื่อสักครู่ยังดีอกดีใจ ก็ขมวดคิ้วถามว่า "เป็นอะไรไป? มีคนรู้จักรึ?""เจ้าค่ะ..." หลิ่วโหรวโหรวกำลังจะอ้าปากพูด ฮูหยินหลิ่วที่อยู่ข้างๆ ก็ผลักนาง และส่งสายตาให้กับอีกฝ่ายหลิ่วโหรวโหรวจึงได้แต่หุบปากเงียบอย่างไม่พอใจนักฮูหยินหลิ่วเดินไปข้างๆ หลิ่วโหรวโหรวอย่างเงียบๆ กระตุกแขนเสื้อของบุตรสาวและพูดเตือนเสียงเบาว่า "เจ้าอย่าได้พูดถึงเรื่องของตระกูลซูอีก หากเจ้าพูดถึงอีกข้าจะไม่ยกโทษให้เจ้า! เมื่อกี้เจ้าไม่เห็นฮูหยินตระกูลซูหรือย่างไร? นางท้องโตขนาดนั้นแล้ว! เจ้าคิดจะไปเป็นภรรยาน้อยของคนอื่นหรือ? พูดออกไปรังแต่จะกลายเป็นเรื่องตลก!"หลิ่วโหรวโหรวสีหน้าย่ำแย่ทันทีแม้ว่าซูจื่อหังมีภรรยาหลวงอยู่แล้ว แต่ในใจนางนั่นก็เป็นเพียงหญิงบ้านนอกที่เทียบกับตนเองไม่ได้เลยด้วยซ้ำ นางซึ่งเป็นบุตรีสายตรงของจวนแม่ทัพ จะตกเป็นรองอยู่เป็นภรรยาน้อยของซูจื่อหังหรืออย่างไร?ลำพังแค่คิด นางก็ไม่ต้องการหลิ่วโหรวโหร

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 374 งานเลี้ยงตระกูลจาง

    ขณะที่ถูซินเยว่กำลังยุ่งอยู่กับการเปิดร้านขายเครื่องประดับ และนางหยูกำลังกังวลเรื่องลูกค้าอยู่นั้น เทียบเชิญฉบับหนึ่งก็ได้ส่งมาถึงที่บ้าน"เป็นงานฉลองวันเกิดของมารดาเฒ่าตระกูลจางจากเสนาบีดีกระทรวงการคลัง"ถูซินเยว่ถือเทียบเชิญไว้ในมือและยิ้มอย่างประหลาดใจ "ในเมืองหลวงแห่งนี้ข้านั้นไม่ได้รู้จักใครเลยสักคนหนึ่ง แต่นึกไม่ถึงว่าตระกูลจางจะส่งเทียบเชิญมาให้ข้า"สามีของตนเองก็เป็นข้าราชการขั้นเจ็ดเล็กๆ คนหนึ่ง แม้ว่าตระกูลจากจะไม่ใช่ข้าราชการชั้นสูง แต่ก็เป็นข้าราชการขั้นห้า และบรรพบุรุษก็ล้วนเป็นข้าราชการทั้งนั้น ซึ่งก็นับว่าเป็นตระกูลที่มีคุณธรรมสูงส่งการที่ส่งเทียบเชิญมาให้พวกเขาในงานเลี้ยงวันเกิดเช่นนี้ ก็เรียกได้ว่าไม่ได้ดูถูกพวกเขาเพียงแต่ คนในยุคโบราณส่วนมากจะดูแคลนคนทำธุรกิจ หากตนเองไปร่วมงานละก็ จะทำให้พวกเขารู้ว่าภรรยาของซูจื่อหังเป็นหญิงทำมาค้าขาย ก็ยากที่จะไม่ดูแคลนเดิมทีถูซินเยว่ไม่อยากไป แต่คาดไม่ถึงว่าซูจื่อหังจะหันมากุมมือเธอไว้ ยิ้มแล้วพูดอย่างไม่ใส่ใจนักว่า "บุตรชายของใต้เท้าจางสนิทกับข้า ภรรยาของข้าเป็นหญิงสาวที่มีเสน่ห์มากที่สุดในใต้หล้า ไม่ว่าทำอะไรก็ดีทั้งนั้น แล

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 373 ฮ่องเต้หมดสติ

    สำหรับถูซินเยว่แล้ว จะเป็นลูกผู้ชายหรือผู้หญิงก็ไม่เป็นไร สิ่งสำคัญคือ การที่ลูกน้อยสามารถคลอดออกมาได้อย่างปลอดภัยเพราะในยุคโบราณการที่ผู้หญิงคลอดลูกนั้นเปรียบเสมือนการเดินไปขอบประตูนรก ดังนั้นการที่สามารถให้กำเนิดลูกได้อย่างปลอดภัยถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย เธอจึงไม่คาดหวังอย่างอื่นอีกแต่ว่าช่วงนี้เธอมักจะถูกนางหยูล้างสมองอยู่บ่อยๆ จนถูซินเยว่เองก็คิดว่าท้องนี้อาจจะเป็นลูกผู้ชายก็ได้เป็นผู้ชายก็ดี เพราะความคิดปิดกั้นในยุคโบราณนั้นสร้างความลำบากให้กับหญิงสาวอย่างมาก หากเป็นเด็กผู้ชาย ก็สามารถลดความลำบากหลายๆ อย่างให้เธอได้ไม่น้อยเดิมทีถูซินเยว่อยากจะถามฉงเป่าว่าในท้องตนเองนั้นเป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิงกันแน่ ซึ่งตามปกติแล้วขอเพียงเอาของกินมาล่อนิดล่อหน่อย ฉงเป่าก็ยอมพูดทุกอย่าง มีเพียงแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวที่ไม้ว่าถูซินเยว่ถามอย่างไร อีกฝ่ายก็ไม่ยอมบอก"อย่างไรเสียลูกก็อยู่ในท้องของข้า เจ้าจะบอกหน่อยมิได้หรือว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง? ถึงเจ้าพูดมา ด้วยเงื่อนไขการรักษาแบบนี้ข้าก็ทำอะไรเจ้าไม่ได้มิใช่หรือไง?"อีกอย่าง ถูซินเยว่เองก็ไม่มีความคิดการให้ความสำคัญชายมากกว่าหญิงด

Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status