แชร์

บทที่ 233 สำส่อน

ผู้เขียน: ฮวาฮวาน่งหยวี่
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-01-23 17:00:00
"ตอนนี้เพิ่งเข้าสู่หน้าร้อน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีปลาจำนวนมาก" ถูซินเยว่ชูนิ้วขึ้นมาสองนิ้ว และพูดอย่างใจเย็นว่า "ซึ่งช่วงนี้ก็พ้นช่วงเพาะปลูกไปพอดี ดังนั้นเราเรียกคนมาสานแหจับปลาและฆ่าปลาเพิ่มอีกหน่อยก็ได้"

ค่าแรงที่ถูซินเยว่ให้ถือว่าสูงมาก ดังนั้นคนในหมู่บ้านต้องมาด้วยความยินดีแน่นอน

หยวนเป่ารีบลุกขึ้นยืน ใช้มือตบหน้าอกของตนเอง พูดว่า "วางใจเถอะ เรื่องนี้ให้ข้าจัดการเอง"

ถูซินเยว่พยักหน้า แล้วพูดว่า "อื้อ เรื่องนี้ฝากพี่เป็นคนทำ ข้าก็วางใจ"

แม้ว่าหยวนเป่าจะไม่รู้จักตัวหนังสือ แต่ทำงานเชื่อถือได้มาก ตั้งแต่ที่ให้เขารับผิดชอบเรื่องเก็บแห ถูซินเยว่ก็ไม่เคยต้องเป็นกังวลเลย

ถูซินเยว่พูดอธิบายถึงความคิดของตนเองกับหยวนเป่าอยู่ครู่หนึ่ง ก็ฝากเรื่องนี้ให้กับหยวนเป่า ส่วนตัวเธอ แค่ทำหน้าที่เป็นเถ้าแก่ที่ดูแลภาพรวมอยู่เบื้องหลังก็พอ

หลังจากที่ทั้งคู่คุยธุระกันเสร็จเรียบร้อย ถูซินเยว่ก็เดินออกมาข้างนอกพร้อมกับหยวนเป่า

ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ภรรยาของหยวนเป่ารมควันปลาเสร็จพอดี จึงรีบเดินเข้ามาเช็ดมือตัวเองแล้วพูดว่า "ซินเยว่ คืนนี้อยู่ทานอาหารที่นี่ไหม?"

"ไม่ต้องแล้วล่ะ" ถูซินเยว่ส่ายหน้า
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 234 คนไม่ดี

    เสียงแสยะยิ้มที่อยู่ดีๆ ก็ดังขึ้น ทำให้หมาหยิงหยิ่งและฟางจินกุ้ยตกใจแทบตายหมาหยิงหยิ่งกลัวว่า ภาพลักษณ์ความอ่อนโยนเชื่อฟังที่ตนเองอุตส่าห์สร้างขึ้นมาจะถูกคนเปิดโปงส่วนฟางจินกุ้ยกลัวว่าคนอื่นได้ยินคำพูดของตนเองแล้วจะเอาไปพูดต่อ แม้ว่าก่อนหน้านี้ตอนที่นางพูดกับถูซินเยว่ คำพูดคำจาจะไม่ได้น่าฟังมากก็ตามทั้งสองคนรีบหันหลังกลับ ก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ใต้ต้นพุทรา และมองไปที่พวกนางด้วยสายตาเย็นชาเมื่อเห็นว่าพวกนางหันมา หญิงคนนั้นก็ส่งเสียงฮึดฮัดว่า "ข้าก็นึกว่าใคร? ที่แท้ก็พี่ใหญ่ของนางหยูนี่เอง? อะไรกัน? ดูจากท่าทางของเจ้าแล้ว คงลืมข้าไปแล้วสิ?"ฟางจินกุ้ยจำอีกฝ่ายไม่ได้ในทันทีจริงๆ เพราะครั้งก่อนตอนที่นางมาที่หมู่บ้านต้าเย่ก็เป็นตอนที่สามีของนางหยูเสีย จึงมาแสดงความเสียใจ นี่ก็ผ่านมาสิบกว่าปีแล้ว นางจะจำได้อย่างไร?ทว่าหม่าหยิงหยิ่งที่อยู่ข้างๆ ใช้มือกระตุกชายเสื้อของฟางจินกุ้ย แต่เตือนเสียงเบาว่า "ท่านแม่ เมื่อกี้ตอนที่ฆ่าปลาอยู่ตรงนั้น ข้าเห็นนาง"เมื่อเห็นว่าสองแม่ลูกกำลังซุบซิบอะไรบางอย่างอยู่ หญิงคนนั้นก็แสยะยิ้มแล้วพูดว่า "ข้าเป็นพี่ใหญ่(ของสามี)ของนางหยู ป้าของจื่อหัง ซ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-23
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 235 ยังไม่ได้ร่วมหอ

    รอยยิ้มสะใจของอีกฝ่ายบวกกับผักเน่าและก้างปลาที่เทินอยู่เหนือศีรษะ ทำให้แลดูน่าตลกขบขันยิ่งนักแม่สื่อหวังกล่าวว่า "เป็นแม่สื่อมาครึ่งค่อนชีวิต ผู้หญิงที่อยู่กับเจ้าเป็นคนประเภทไหน ไม่ต้องพิจารณาข้าก็พอรู้ ถ้าจะบอกว่าสาวบริสุทธิ์ หญิงที่มารังแกข้าเมื่อครู่นี้ นั่นแหละคือสาวบริสุทธิ์จริง ๆ"นึกถึงความร้ายกาจของถูซินเยว่ จนป่านนี้แม่สื่อหวังก็ยังนึกกลัว ๆ อยู่ที่ผ่านมาหม่าหยิงหยิ่งเคยทำเรื่องเหลวไหลไปบ้าง แต่เดิมฟางจินกุ้ยคิดว่า เมื่อมาอยู่หมู่บ้านต้าเย่ที่ ๆ นางไม่คุ้นเคย แทบไม่มีใครรู้จักนางแม่ลูกเลย ก็ยิ่งไม่ต้องไปสนใจว่า จะจดจำเรื่องราวในอดีตได้หรือไม่ เพียงแต่ไม่นึกว่า จะมีแม่สื่อตัวดีคนนี้ แค่เห็นหน้าก็รู้ว่าหม่าหยิงหยิ่งไม่ใช่สาวบริสุทธิ์เสียแล้วฟางจินกุ้ยแทบอยากเดินไปปิดปากของแม่สื่อหวังซะใบหน้าอ่อนโยนเรียบร้อยของหม่าหยิงหยิ่ง ก็แทบปรากฎแววดุดันขึ้นมา รอยยิ้มยิ่งกลายเป็นประดักประเดิด นางอุตส่าห์ปิดบังมาตั้งนาน มาถึงตระกูลซูอยู่ต่อหน้านางหยูก็แสร้งทำเป็นว่านอนสอนง่าย ก็เพื่อจะให้นางหยูกับตระกูลซูเกิดภาพพจน์ที่ดี หากพวกเขารู้ว่าตนไม่ใช่สาวบริสุทธิ์อีกแล้ว งั้นความพยายามที่ผ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-24
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 236 เจ้านอนกับข้า

    ถูซินเยว่ขมวดคิ้วเล็กน้อย สิ่งที่นางไม่ชอบก็คือมีคนมายืนเงียบ ๆ อยู่ด้านหลัง หากไม่รู้ตัว ยังคิดว่าอีกฝ่ายจะประสงค์ร้ายเสียด้วยซ้ำ"พี่ซินเยว่ อาหารทำเสร็จแล้ว น้าเล็กเรียกให้เข้าไปกินข้าว"หม่าหยิงหยิ่งเรียกซูจื่อหังเป็นญาติผู้พี่ ตามหลักควรเรียกตนว่าอาซ้อมากกว่า แต่นางก็ไม่ยอมเรียกเช่นนั้นหม่าหยิงหยิ่งรู้สึกต่อซูจื่อหังอย่างไร ถูซินเยว่ก็พอรู้แก่ใจบ้าง นางยักคิ้วเบา ๆ ไม่อยากสนใจอีกฝ่ายหนึ่ง จึงเดินอ้อมหม่าหยิงหยิ่งเข้าไปยังห้องรับแขกเมื่อเห็นถูซินเยว่ทำราวกับตนไม่มีความหมาย หม่าหยิงหยิ่งก็โกรธจนกระทืบเท้านางหยูแม้ไม่เชื่อคำพูดของฟางจินกุ้ยเสียทีเดียว แต่ในขณะกินข้าว สายตายังไม่วายเพ่งพินิจไปที่ถูซินเยว่อยู่บ่อยครัั้ง จนทำให้ถูซินเยว่รู้สึกแปลก ๆอาหารมื้อนี้ ถูซินเยว่กินอย่างไร้รสชาติ เพราะเห็นท่าทีของฟางจินกุ้ยที่พร้อมจะซ้ำเติมผู้อื่นอยู่ตลอดเวลา บวกกับหม่าหยิงหยิ่งที่คอยประจบเอาใจนางหยู ทั้งตักข้าวทั้งคีบผักให้ ในใจก็รู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลแต่เกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่ นางก็ไม่รู้เหมือนกันนับแต่ครั้งแรกที่เห็นพวกนาง ถูซินเยว่ก็รู้ว่าแม่ลูกคู่นี้คงไม่ได้หวังดีซักเท่าไหร่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-24
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 237 มุ่งสู่หมู่บ้านซีตง

    ตระกูลซูนับแต่สร้างบ้านใหม่มา ลานบ้านก็กว้างขึ้น ถูซินเยว่ยืนอยู่ริมบ่อน้ำ ในมือถือชามกระเบื้องเล็ก ๆ ใบหนึ่ง สวมใส่ชุดยาวสีเหลือง ผิวพรรณผุดผ่องเป็นยองใย ดูไปก็คล้ายกับคุณหนูของผู้มีอันจะกินโดยเฉพาะเวลาแย้มยิ้ม ดวงตายาวรีคล้ายกับดอกท้อ เปล่งประกายงดงามมีเสน่ห์ เห็นแล้วชวนให้ตกตะลึงเถี่ยต้านนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ปุบปับยังตั้งตัวไม่ทัน รอจนหลี่เม่าตามมาสมทบ เห็นถูซินเยว่ถือแปรงสีฟันในมือก็ให้นึกข้องใจ พลางถามว่า "นี่เจ้าทำอะไรอยู่?""ก็แปรงฟันไง" ถูซินเยว่เอาสิ่งที่อยู่ในมือขึ้นมา ชูแกว่งไกวต่อหน้าหลี่เม่า พลางกล่าวว่า "นี่คือแปรงสีฟัน เอาไว้สำหรับแปรงฟัน""แปรงฟัน?" หลี่เม่ามองดูสิ่งของที่อยู่ในมือถูซินเยว่ ในใจเต็มไปด้วยความสงสัย ถูซินเยว่มักมีของเล่นแปลกใหม่มาใช้งานอยู่เสมอ แม้หลี่เม่าจะรู้สึกข้องใจ แต่ในใจก็ยังนิ่งเฉยอยู่การแปรงฟันสำหรับพวกเขาก็คือใช้นิ้วมือจุ่มขี้เถ้าเศษใบไม้แล้วถู ๆ เป็นอันเสร็จสิ้น ไม่นึกว่าซินเยว่จะมีการพัฒนา ทำเป็นของชนิดนี้ออกมา แต่พูดก็พูด ของที่ถูซินเยว่นำออกมาชนิดนี้ ดู ๆ ไปก็น่าสนใจดี"ถ้าเจ้าอยากใช้บ้าง วันหลังข้าจะทำอันใหม่ให้เจ้า""ดี ๆ" หลี่เม่าก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-24
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 238 จะซื้อที่นา

    เพียงแต่ ฉงเป่ายังไม่ทันได้เมารถ ซูเฟิ่งอี๋ก็เกาะที่ข้างเกวียน เริ่มมีอาการหายใจหอบหนักไม่มีเสียงบ่นของซูเฟิ่งอี๋ ถูซินเยว่ค่อยรู้สึกสบายหูขึ้นบ้าง นางผลักตัวฉงเป่าที่นั่งอยู่ข้าง ๆ แอบถามเขาเบา ๆ "ฉงเป่า ถ้าเจ้าไม่ไหวจริง ข้าบอกให้เถี่ยต้านวิ่งช้าลงหน่อยได้นะ"ฉงเป่าส่ายหน้าเมื่อมีซูเฟิ่งอี๋มาอยู่ด้วย คนอื่นก็หมดอารมณ์ในการพูดคุยโดยสิ้นเชิง ระหว่างทางดูเงียบเชียบ มีแต่เสียงล้อเวียนบดถนนดังเอี๊ยดอ๊าดถูซินเยว่มองดูรอบข้าง พบว่าพื้นที่หมู่บ้านซีตงจริง ๆ ก็ไม่ต่างจากหมู่บ้านต้าเย่เท่าใดนัก มีความต่างเพียงอย่างเดียวก็คือ คลองที่ผ่านหมู่บ้านต้าเย่จะไหลมาจากหมู่บ้านซีตง ในขณะที่หมู่บ้านซีตงนั้น ยังมีคลองเล็ก ๆ อีกสายหนึ่ง ซึ่งกระแสน้ำไม่ไหลเชี่ยวเหมือนกับหมู่บ้านต้าเย่เพราะฉะนั้น มองไปจึงเป็นเพียงลำธารเล็ก ๆ แต่ไม่ใช่อ่างเก็บน้ำแต่ก็เพราะเหตุนี้ เมื่อเข้าเขตหมู่บ้านซีตง ก็จะสังเกตได้ว่า ที่นาในบริเวณนี้กำลังจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และในเวลาช่วงนี้ เป็นฤดูแห่งการทำนาปักต้นกล้า เมื่อมีลมพัดมา ก็จะเห็นความเขียวขจีของต้นข้าว แลดูงดงามยิ่งนัก"หมู่บ้านซีตงจะต่างจากหมู่บ้านต้าเย่ของเรา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-25
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 239 จู่โจมทางจิตใจ

    ตอนที่มองจากข้างนอกก็รู้สึกว่าบ้านหลังนี้โอ่อ่ามากแล้ว แต่ไม่คาดคิดว่าเมื่อเดินเข้ามาข้างในแล้วจะยิ่งรู้สึกว่ามันใหญ่โตมโหฬาลขนาดนี้ ลานบ้านกว้างกว่าบ้านตระกูลซูเป็นสองเท่าอีกอย่างสิ่งทำให้น่าประหลาดใจยื่งกว่าก็คือลานบ้านดูเหมือนมีคนคอยดูแลอยู่ทุกวัน ในลานบ้านปลูกดดอกไม้ไว้เต็มดูสดชื่นมีชชีวิตชีวา ต่างจากความรู้สึกแรกที่พวกเขามีต่อหัวหน้าหมู่บ้านหมู่บ้านซีตงเป็นอย่างมากที่ดูเงียบขรึมไม่มีชีวิตชีวาหลังจากเดินเข้ามาที่ห้องโถงหลักแล้ว พวกถูซินเยว่เองก็ไม่ได้เกรงใจเข้ามาหาที่นั่งเองเลย"ยายเฒ่าเอ้ย" หัวหน้าหมู่บ้านเงยหน้าขึ้นมาตะโกนว่า "มีแขกมา ยกนำชามาให้แขกหน่อย""ใครมาหรือ" เสียงแก่ ๆ ยาน ๆ ดังมาจากทางด้านห้องครัว"แขกมา" หัวหน้าหมู่บ้านตอบกลับไปอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนพูดต่อว่า "เจ้าเอาชามาก็พอ" "ให้ตายสิ มาได้ทุกวี่ทุกวัน ลูกสาวข้าก็ไม่กลับมาสักที คนที่ควรกลับมาไม่มา คนที่ไม่ควรมาก็มาอยู่นั่นแหละ" ยายเฒ่าบ่นอยู่พักใหญ่กว่าเสียงจะค่อยค่อยจางหายไปหลังจากสั่งเมียตัวเองเสร็จ หัวหน้าหมู่บ้านก็มองมาที่ถูซินเยว่ ดวงตาที่ขุ่นมัวของเขาฉายแววเฉียบคม เขาขมวดคิ้วถามว่า "ข้าไม่อยากเสียเวลา พว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-25
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 240 ผัวเมียแค้นกัน

    ในแง่ของภูมิศาสตร์ หมู่บ้านซีตงนั้นอยู่ห่างไกลกว่าหมู่บ้านต้าเย่อีก หมู่บ้านซีตงล้อมรอบไปด้วยภูเขา ถนนที่ตัดผ่านออกไปข้างนอกเป็นลักษณะเหมือนลูกน้ำเต้า ถนนก็สูงชันและอันตราย โดยปกติแล้วไม่ค่อยมีคนออกไปข้างนอกเท่าไหร่ สามารถบอกได้ว่าชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านซีตงนั้นยากจนกว่าชาวหมู่บ้านต้าเย่มากถ้าไม่ใช่เพราะหัวหน้าหมู่บ้านเฉินมีลูกสาวที่พึ่งพาได้ ได้แต่งงานกับเถ้าแก่โรงเตี๊ยมชุนเฟิง หัวหน้าหมู่บ้านเฉินก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคนรวย ๆ เลยถูซินเยว่ยืนอยู่นอกประตูรั่วที่ดูโอ่อ่า เธอมองไปรอบ ๆ แล้วพูดอย่างใจเย็นว่า "เราไปขึ้นเกวียนวัวไปนั่งรอที่ปากทางสักพักแล้วกัน""ได้สิ" หลี่เม่าเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าหัวหน้าหมู่บ้านเฉินจะออกมาหาพวกเขาไหม จึงตอบตกลงทันทีมานั่งที่ปากทางเข้าหมู่บ้านซีตงแล้วสามารถมองเห็นนาข้าวของพวกเขาได้ มองจากไกล ๆ แล้วต้นข้าวเขียวขจีลู่ลมไปทางเดียวกันดูสวยงามตระการตาทีเดียวแต่ถูซินเยว่ก็สังเกตเห็นแล้วว่ามีที่นาบางแปลงรกร้างไม่มีคนทำการเพราะปลูกเถี่ยต้านคาบหญ้าหางหมาไว้ในปากแล้วอธิบายให้ฟังว่า "หมู่บ้านซีตงยากจนขนาดนี้ อาศัยแค่ที่นาไม่กี่แปลงของตัวเองหากินสั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-25
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 241 ชนะขาดลอย

    สีหน้าของเจิ้งเถี่ยจู้ดูน่าถมึงทึงเล็กน้อย หม่าโหวเห็นแบบนี้ก็หวั่นใจผงะเล็กน้อย นึกถึงใบหน้าที่เย็นชาของเจิ้งหมานหม่านที่มีต่อเขาแล้ว เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะทํายังไงดีเหมือนกัน จึงได้แต่ยืนนิ่งอยู่ในลานบ้านกลับเป็นซูเฟิ่งอี๋ที่อยู่นอกประตูถูกนางสวีหลินซื่อตีไปหลายครั้ง โกรธจนแทบจะกระอักเลือด แต่เมื่อนึกถึงเด็กในท้องของเจิ้งหมานหม่าน นางก็กัดฟันและอดทนไว้"พอแล้ว พอแล้ว อย่าตีอีกเลย ตีพอหรือยัง?" ซูเฟิ่งอี๋ผลักนางสวีหลินออกอย่างรําคาญนางสวีหลินเกือบล้มคว่ํา นางยื่นมือออกไปชี้อีกฝ่ายอย่างไม่อยากเชื่อและด่าว่า "หนอยแน่ เจ้ายังกล้าผลักข้าอีกงั้นหรือ?""ข้าก็แค่ผลักเจ้าไปทีเดียว เจ้านี่สิตีข้ามาตั้งกี่ครั้งแล้ว?" ซูเฟิ่งอี๋พูดพลางทำเสียงฮึดฮัด "ข้าขอพูดตรง ๆ เลยละกัน ที่ข้ามาในวันนี้ก็เพื่อหลานของข้า ลูกสาวที่แต่งออกไปก็เหมือนน้ำที่สาดออกไปแล้ว กลับมาก็เลี้ยงเสียข้าวสุกไปเปล่า ๆ พวกเจ้าเองก็ไม่สบายใจเหมือนกัน"รอยยิ้มเย็นบนใบหน้าของนางสวีหลินซื่อยังคงน่ากลัวเหมือนเมื่อครู่ แต่ไม้กวาดในมือกลับไม่ฟาดลงมาอีกแล้วซูเฟิ่งอี๋เช็ดแขนตัวเอง บนไม้กวาดนั้นมีขี้ไก่เปื้อนอยู่ ตอนนี้ขี้ไก่ตกลงบนเสื้อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-26

บทล่าสุด

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 381 ช่างคล้ายคลึงนัก

    ทั้งคู่เดินถึงหน้าประตู ปะเหมาะเวลานี้ จวนแม่ทัพหลิ่วก็มีคนเดินออกมาเช่นกัน"คนนี้ก็คือใต้เท้าซูที่เจ้าชอบอย่างงั้นหรือ" ฮูหยินหลิ่วเหลียวมองบุตรีซึ่งอยู่ข้างกาย สื่อเป็นนัยให้อีกฝ่ายอย่าได้วู่วามทุกวันนี้คราใดที่หลิ่วโหรวโหรวเห็นถูซินเยว่กับซูจื่อหังเดินมาด้วยกัน ด้วยท่าทีรักใคร่ปรองดอง นางจะรู้สึกเดือดดาลในใจ ราวกับภูเขาไฟที่ใกล้ระเบิดกระนั้นนางทำเสียงฮึดฮัด "ถูซินเยว่มีวันนี้ได้ ก็เพราะอาศัยบารมีซูจื่อหัง แต่คอยดูไปเถิด หญิงบ้านนอกเช่นนาง ใหม่ ๆ ยังพอทำให้ซูจื่อหังพอใจได้บ้าง แต่พอนานวันเข้า ได้เห็นสาวงามในเมืองหลวงมากมาย ความรักของพวกเขายังมั่นคงเหมือนแต่ก่อนได้อีก ก็แสดงว่าผิดมนุษย์แล้ว"ฮูหยินหลิ่วแสดงท่าทีนิ่งเฉยแต่บุตรีพูดก็มีเหตุผล ผู้ชายในโลกนี้น้อยนักที่จะไม่คิดได้ใหม่ลืมเก่า ยกตัวอย่างเช่นสามีของนาง ในอดีตก็เคยให้คำมั่นสัญญา ว่าแม้เป็นหรือตายก็จะขอรักอดีตคนรักเพียงผู้เดียว แต่พอบ้านเขาประสบภาวะเดือดร้อน สุดท้ายก็มาเลือกแต่งงานกับตน จนบัดนี้ลืมหน้านังคนแพศยานั่นไปถึงไหนต่อไหนแล้วแสดงว่าความจริงใจของผู้ชายคือสิ่งที่ไร้ประโยชน์ปกติเสแสร้งทำเป็นรักมั่นจริงใจ แต่พอเอ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 380 ลูกสาวจอมโง่เขลา

    หากซูจื่อหังไม่รังเกียจถูซินเยว่แล้วล่ะก็ งั้นต่อให้หลิ่วโหรวโหรววทุ่มเทแรงกายแรงใจมากแค่ไหนก็ตาม เกรงว่าก็คงไม่สามารถเข้าไปในจวนสกุลซูได้ดั่งใจปรารถนาหรอกแต่น่าขําที่ลูกสาวคนนี้ของนางกลับไม่รู้ต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้เลย รู้แต่ไปเหยียดหยามถูซินเยว่อย่างโง่เขลาเท่านั้นนี่ถ้าทําให้ถูซินเยว่อับอายต่อหน้าทุกคนก็ว่าไปอย่าง แต่นี่กลับยังโดนถูซินเย่วตอบโต้กลับมาจนขายหน้า นี่ไม่ใช่เป็นการตบหน้าตัวเองหรือไง?เมื่อคิดถึงตรงนี้ ฮูหยินหลิ่วก็ไม่อยากเห็นหน้าลูกสาวคนนี้แม้แต่นิดนางขมวดคิ้ว จู่ ๆ ก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้และอดไม่ได้ที่จะพูดว่า "ใช่แล้ว เรื่องนี้ข้ายังไม่ได้บอกพ่อเจ้า ถ้าพ่อเจ้ารู้ ดูสิว่าเขาจะสั่งสอนเจ้ายังไง เจ้าระวังตัวหน่อย"ภายใต้การเกลี้ยกล่อมและคําเตือนของฮูหยินหลิ่ว ในที่สุดหลิ่วโหรวโหรวก็หลับตาลง นางนั่งอยู่บนที่นั่งของตัวเองอย่างเซ็ง ๆ ทั้งหน้ามีแค่อารมณ์เดียวนั่นก็คือ นางไม่มีความสุขฮูหยินหลิ่วถอนหายใจอย่างจนใจ แล้วเงยหน้ามองฝั่งตรงข้าม ตําแหน่งของนาง มีเพิงดอกไม้อยู่ตรงกลางบดบังร่างของถูซินเยว่พอดี ดังนั้นนางจึงเห็นเพียงโครงร่างผ่านเถาวัลย์อย่างคลุมเครือเท่

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 379 จางเยียนหรัน

    วันนี้ตระกูลจางเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงเชิญตระกูลที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง ก่อนมาซูจื่อหังเคยพูดกับนางว่า เขากับตระกูลจางเข้ากันได้ดีในราชสํานัก ดังนั้นวันนี้ ถูซินเยว่ก็ไม่อยากสร้างปัญหาอะไรให้กับตระกูลจาง เพื่อไม่ให้คนอื่นรู้สึกว่าพวกเขาไม่มีมารยาทเห็นเหล่าฮูหยินกับหลิ่วโหรวโหรวเพิ่งเยาะเย้ยเธอเมื่อครู่ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ถูซินเยว่ก็สบายใจไม่น้อย ก้มหน้าก้มตากินอาหารด้วยตัวเองไม่สนใจใครทั้งนั้นในขณะที่เธอกําลังกินอย่างมีความสุข จู่ ๆ ก็มีคนผลักแขนของเธอเบา ๆถูซินเยว่นิ่งงันไปพักหนึ่ง หันหน้ากลับไปอย่างสงสัยใคร่รู้ เห็นหญิงสาวในชุดสีเหลืองคนหนึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ ตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ กําลังใช้ดวงตากลมโตจ้องมองเธออย่างอยากรู้อยากเห็นดวงตาของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและไร้เดียงสา แต่กลับไม่มีเจตนาร้ายเลยแม้แต่น้อยถูซินเยว่เคยเห็นคนมามากมาย เรื่องเหล่านี้เธอยังพอสามารถมองออกได้ตั้งแต่แรกเห็นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีเจตนาร้าย ท่าทีของเธอก็อ่อนโยนลงมาก"ไม่ทราบว่าแม่นางมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?"ถ้าเธอจําไม่ผิด คนที่นั่งข้างเธอเมื่อกี้น่าจะเป็นผู้หญิงที่เยาะเย้ยเธ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 378 หน้าแตก

    ถูซินเยว่ชะงัก และรู้สึกตลก เมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายก็รู้สึกประหลาดใจ ตอนที่ออกจากมาตอนเช้า เธอได้สวมใส่เครื่องประดับมาหลายชิ้นจริงๆแต่ระหว่างทาง ถูซินเยว่รู้สึกว่าต่างหูระเกะระกะเกินไป จึงแอบถอดมันออกและวางไว้บนรถม้าคาดไม่ถึงจริงๆ ว่าในงานเลี้ยงจะมีคนไม่กินไม่ดื่ม แต่หันมาจับจ้องที่เครื่องหัวของตนเองแทนถูซินเยว่ยื่นมือไปจับที่ผมของตนเองอัตโนมัติ จากนั้นก็พูดเสียงราบเรียบว่า "ในเมื่อวันนี้ตระกูลจางเป็นเจ้าภาพ แขกสำคัญจึงเป็นตระกูลจาง แล้วเหตุใดข้าจักต้องแต่งตัวให้ดูดีขนาดนั้น""จนก็ยอมรับว่าจนเถอะ จะหาเหตุผลอะไรมาอ้างมากมายไปทำไม ในที่นี้ใครไม่รู้บ้างว่าพวกเจ้ามาจากบ้านนอก ข้าเองก็แค่รู้สึกเสียดายแทนใตเท้าซูเท่านั้น ทั้งที่มีมีอนาคตอันดี หากแต่งงานกับบุตรสาวขุนนางสักคน ก็คงยิ่งช่วยส่งเสริมให้เจริญก้าวหน้า แต่กลับเลือกจะเฝ้าอยู่แค่หญิงชาวบ้านเฉกเช่นเจ้า..."ประโยคหลังแม้ว่าจะไม่ได้พูดต่อจนจบ แต่ก็สามารถเข้าใจได้ถึงแม้บนใบหน้าของถูซินเยว่จะแสดงสีหน้าใดๆ แต่สาวรับใช้ที่อยู่ข้างๆ สีหน้าย่ำแย่มากแล้วนางอาศัยอยู่ที่ตระกูลซูมานาน ก็พอจะรู้ว่าถูซินเยว่ไม่ได้ไม่มีเงิน และเงินส่วนใ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 377 ดูถูก

    ตั้งแต่ตอนที่อยู่ในหมู่บ้านต้าเย่ เพราะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ หรือเพราะผลประโยชน์อันน้อยนิด แม้เป็นครอบครัวเดียวกัน ก็ยังสามารถโกรธแค้นกันจนตัดญาติขาดมิตรไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นใด แค่ในตระกูลถู เพียงเพื่อสินสอดของตระกูลเหลียง ถูชิวหลานก็ดันทุรังจะสับเปลี่ยนตัวเธอกับลูกสาว ภายหลังยังไม่ยอมรับด้วย แถมยังผลักไสความผิดทุกอย่างไปที่เจ้าของร่างหากเธอไม่ได้ข้ามิติมาอยู่ในร่างของเจ้าของร่างซื่อบื้อคนนั้น นางจะใช้ชีวิตอยู่ในตระกูลซูอย่างไร เกรงว่าคงเหลือแต่เสี้ยววิญญาณแล้วอย่างด้านซูเฟิ่งอี๋ในตระกูลซู ตอนนั้นพวกเขาเองก็หวงแหนเงินเล็กๆ น้อยๆ เห็นชีวิตนางหยูกำลังตกอยู่ในอันตรายก็ยังไม่ยอมรักษาให้นางเรื่องราวของญาติสนิทมิตรสหายที่ทำร้ายคนใกล้ตัวเพียงเพื่อผลประโยชน์และเงินทองมีมากมายเกินกว่าจะพูด ขนาดบ้านเธอยังเป็นเช่นนี้ แล้วต้าฉีที่มีบ้านสกุลมากมายขนาดนี้ล่ะชาวบ้านธรรมดาทั่วไป อาจทำไปเพื่อเงินทอง แต่องค์ชายสามกับองค์ชายใหญ่ กลับทำเพื่อแก่งแย่งแผ่นดิน ขนาดที่เป็นการต่อสู้เพื่อความเป็นความตาย และไม่มีใครยอมอ่อนข้อให้ใคร ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้"ชีวิตคนเรามีหลายเรื่องที่มักไม่เป็นดังที่หวัง ข

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 376 อิจฉา

    "วันนี้เป็นงานเลี้ยงของตระกูลจาง ข้าก็นึกว่าเจ้าจะพูดคุยเรื่องอะไรกับข้า คาดไม่ถึงว่าจะใช้เรื่องนี้มาข่มขู่ข้าในที่ๆ ไม่มีคนเช่นนี้?"ชายผู้นั้นหัวคิ้วกระตุก รีบก้มศรีษะลงแล้วพูดว่า "กระหม่อมมิบังอาจพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่กระหม่อมทราบว่าองค์ชายสามเป็นคนเฉลียวฉลาด แต่ไหนแต่ไรมา การที่บุตรสายตรงรับสืบราชบัลลลังก์ต่อก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล แล้วไฉนองค์ชายสามจึงมิตั้งใจเป็นข้าราชบริพานบริสุทธิ์ คอยค้ำจุนเสด็จพี่ของพระองค์เล่าพ่ะย่ะค่ะ?"ฉีหวานหัวดราะเสียงดัง น้ำเสียงเย็นเยือกลงฉับพลัน เขาสะบัดแขนเสื้อ พร้อมสีหน้าเย็นชา "แม่ทัพหลิ่วพูดเช่นนี้ ช่างไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย ตอนที่ข้าพบกับมือสังหารไล่เอาชีวิตตอนที่รีบเดินทางกลับมาจากเป่ยเจียงอันไกล แม้วันนี้ข้าไม่พูด เชื่อว่าท่านแม่ทัพเองก็คงทราบดีว่าเป็นฝีมือของใคร?"ถูซินเยว่ที่นั่งอยู่ในศาลาชะงักงัน ที่แท้คนที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับฉีหวานก็คือแม่ทัพหลิ่วนี่เอง หากนางจำไม่ผิดละก็ ก่อนหน้านี้ที่หน้าประตูตระกูลจาง ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ หลิ่วโหรวโหรวก็คือแม่ทัพหลิ่วผู้นี้สินะ?เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ถูซินเยว่ก็รู้สึกเซ็งขึ้นมา ถ้ารู้แต่แรกว่าพวกเขาจะคุยกันเรื่

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 375 แอบฟัง

    หลิ่วโหรวโหรวก็มองเห็นพวกเขาเช่นกัน และเมื่อนึกถึงความสนิทสนมของถูซินเยว่และซููจื่อหังวันนั้นในจวนซู นางก็กำหมัดแน่นแม่ทัพหลิ่ว หลิ่วถิง เมื่อเห็นว่าบุตรสาวของตนเองอยู่ๆ ก็หน้าตาไม่สดใส ทั้งที่เมื่อสักครู่ยังดีอกดีใจ ก็ขมวดคิ้วถามว่า "เป็นอะไรไป? มีคนรู้จักรึ?""เจ้าค่ะ..." หลิ่วโหรวโหรวกำลังจะอ้าปากพูด ฮูหยินหลิ่วที่อยู่ข้างๆ ก็ผลักนาง และส่งสายตาให้กับอีกฝ่ายหลิ่วโหรวโหรวจึงได้แต่หุบปากเงียบอย่างไม่พอใจนักฮูหยินหลิ่วเดินไปข้างๆ หลิ่วโหรวโหรวอย่างเงียบๆ กระตุกแขนเสื้อของบุตรสาวและพูดเตือนเสียงเบาว่า "เจ้าอย่าได้พูดถึงเรื่องของตระกูลซูอีก หากเจ้าพูดถึงอีกข้าจะไม่ยกโทษให้เจ้า! เมื่อกี้เจ้าไม่เห็นฮูหยินตระกูลซูหรือย่างไร? นางท้องโตขนาดนั้นแล้ว! เจ้าคิดจะไปเป็นภรรยาน้อยของคนอื่นหรือ? พูดออกไปรังแต่จะกลายเป็นเรื่องตลก!"หลิ่วโหรวโหรวสีหน้าย่ำแย่ทันทีแม้ว่าซูจื่อหังมีภรรยาหลวงอยู่แล้ว แต่ในใจนางนั่นก็เป็นเพียงหญิงบ้านนอกที่เทียบกับตนเองไม่ได้เลยด้วยซ้ำ นางซึ่งเป็นบุตรีสายตรงของจวนแม่ทัพ จะตกเป็นรองอยู่เป็นภรรยาน้อยของซูจื่อหังหรืออย่างไร?ลำพังแค่คิด นางก็ไม่ต้องการหลิ่วโหรวโหร

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 374 งานเลี้ยงตระกูลจาง

    ขณะที่ถูซินเยว่กำลังยุ่งอยู่กับการเปิดร้านขายเครื่องประดับ และนางหยูกำลังกังวลเรื่องลูกค้าอยู่นั้น เทียบเชิญฉบับหนึ่งก็ได้ส่งมาถึงที่บ้าน"เป็นงานฉลองวันเกิดของมารดาเฒ่าตระกูลจางจากเสนาบีดีกระทรวงการคลัง"ถูซินเยว่ถือเทียบเชิญไว้ในมือและยิ้มอย่างประหลาดใจ "ในเมืองหลวงแห่งนี้ข้านั้นไม่ได้รู้จักใครเลยสักคนหนึ่ง แต่นึกไม่ถึงว่าตระกูลจางจะส่งเทียบเชิญมาให้ข้า"สามีของตนเองก็เป็นข้าราชการขั้นเจ็ดเล็กๆ คนหนึ่ง แม้ว่าตระกูลจากจะไม่ใช่ข้าราชการชั้นสูง แต่ก็เป็นข้าราชการขั้นห้า และบรรพบุรุษก็ล้วนเป็นข้าราชการทั้งนั้น ซึ่งก็นับว่าเป็นตระกูลที่มีคุณธรรมสูงส่งการที่ส่งเทียบเชิญมาให้พวกเขาในงานเลี้ยงวันเกิดเช่นนี้ ก็เรียกได้ว่าไม่ได้ดูถูกพวกเขาเพียงแต่ คนในยุคโบราณส่วนมากจะดูแคลนคนทำธุรกิจ หากตนเองไปร่วมงานละก็ จะทำให้พวกเขารู้ว่าภรรยาของซูจื่อหังเป็นหญิงทำมาค้าขาย ก็ยากที่จะไม่ดูแคลนเดิมทีถูซินเยว่ไม่อยากไป แต่คาดไม่ถึงว่าซูจื่อหังจะหันมากุมมือเธอไว้ ยิ้มแล้วพูดอย่างไม่ใส่ใจนักว่า "บุตรชายของใต้เท้าจางสนิทกับข้า ภรรยาของข้าเป็นหญิงสาวที่มีเสน่ห์มากที่สุดในใต้หล้า ไม่ว่าทำอะไรก็ดีทั้งนั้น แล

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 373 ฮ่องเต้หมดสติ

    สำหรับถูซินเยว่แล้ว จะเป็นลูกผู้ชายหรือผู้หญิงก็ไม่เป็นไร สิ่งสำคัญคือ การที่ลูกน้อยสามารถคลอดออกมาได้อย่างปลอดภัยเพราะในยุคโบราณการที่ผู้หญิงคลอดลูกนั้นเปรียบเสมือนการเดินไปขอบประตูนรก ดังนั้นการที่สามารถให้กำเนิดลูกได้อย่างปลอดภัยถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย เธอจึงไม่คาดหวังอย่างอื่นอีกแต่ว่าช่วงนี้เธอมักจะถูกนางหยูล้างสมองอยู่บ่อยๆ จนถูซินเยว่เองก็คิดว่าท้องนี้อาจจะเป็นลูกผู้ชายก็ได้เป็นผู้ชายก็ดี เพราะความคิดปิดกั้นในยุคโบราณนั้นสร้างความลำบากให้กับหญิงสาวอย่างมาก หากเป็นเด็กผู้ชาย ก็สามารถลดความลำบากหลายๆ อย่างให้เธอได้ไม่น้อยเดิมทีถูซินเยว่อยากจะถามฉงเป่าว่าในท้องตนเองนั้นเป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิงกันแน่ ซึ่งตามปกติแล้วขอเพียงเอาของกินมาล่อนิดล่อหน่อย ฉงเป่าก็ยอมพูดทุกอย่าง มีเพียงแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวที่ไม้ว่าถูซินเยว่ถามอย่างไร อีกฝ่ายก็ไม่ยอมบอก"อย่างไรเสียลูกก็อยู่ในท้องของข้า เจ้าจะบอกหน่อยมิได้หรือว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง? ถึงเจ้าพูดมา ด้วยเงื่อนไขการรักษาแบบนี้ข้าก็ทำอะไรเจ้าไม่ได้มิใช่หรือไง?"อีกอย่าง ถูซินเยว่เองก็ไม่มีความคิดการให้ความสำคัญชายมากกว่าหญิงด

DMCA.com Protection Status