แชร์

บทที่ 16 ซื้อเสื้อผ้าใหม่

ผู้เขียน: ฮวาฮวาน่งหยวี่
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2023-11-14 17:21:02
ถูซินเยว่มุมปากกระตุก ชมแบบนี้ไม่ต้องชมดีกว่ามั้ง ฟังดูแปลก ๆ อย่างไรพิกล

แต่ทว่า เมื่อเห็นซูจื่อหังถือซาลาเปาอยู่ตรงหน้าเธอ ความไม่พอใจทั้งหลายแหล่ของถูซินเยว่ก็จางหายไป

เธอกลืนน้ำลายอึกใหญ่แล้วมองดูชายหนุ่มตรงหน้าอย่างใจจดใจจ่อ รอให้เขายื่นซาลาเปามาให้

แต่กลับคาดไม่ถึงว่ามือของซูจื่อหังที่เหยียดอยู่ตรงหน้าจะหดกลับไปทันที กลิ่นหอมของซาลาเปาไส้หมูก็ลอยหายไป ชายหนุ่มกลับพูดขึ้นอย่างจริงจังว่า "ข้าลืมไป เจ้าเพิ่งพูดว่าเจ้ายังไม่อยากกิน"

"ข้า ข้าเปล่าซะหน่อย!"

ถูซินเยว่ร้อนรน ผู้ชายคนนี้ทำไมถึงได้ขี้แกล้งแบบนี้นะ รู้ทั้งรู้ว่าเธอหิวจะไม่ไหวแล้ว ยังมาแกล้งเธอแบบนี้อีก

“ข้าอยากกิน”

เมื่อพ่ายแพ้ต่อความหิวโหย ถูซินเยว่จึงยอมเสียหน้า ชำเลืองมองชายหนุ่มด้วยแววตาน่าสงสาร

ซูจื่อหังจึงยื่นซาลาเปาไส้หมูให้เธออีกครั้ง ถูซินเยว่รีบรับมันไป เมื่อเห็นซูจื่อหังวางซาลาเปาที่เหลือไว้บนรถเข็น เธอก็รีบถามว่า "เจ้าไม่กินหรือ?"

"ข้ายังไม่หิว" เขารู้ว่าถูซินเยว่กินจุ ซาลาเปาสองลูกคงพอแค่ได้ติดซอกฟันเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงเก็บอีกสองลูกที่เหลือไว้

ระหว่างทางกลับบ้าน หากถูซินเยว่หิว ก็ยังสามารถกินระหว่าง
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 17 ข้ากินคนเดียวไม่ได้หรอก

    ถึงแม้ถูซินเยว่จะเป็นคนสติไม่ดี แต่บุตรชายคนที่สี่และภรรยาของตระกูลถูก็ใจดีต่อนางและให้ความรักมาโดยตลอดตอนนี้หลังจากแต่งงานกับตน ก็ถูกขับไล่ออกจากตระกูลซู ต้องมาอาศัยอยู่ในกระท่อมจะพังแหล่มิพังแหล่ ใช้ชีวิตอดมื้อกินมื้อซูจื่อหังรู้สึกผิดต่อถูซินเยว่จากก้นบึ้งของหัวใจ ดังนั้นเขาจึงต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อดูแลถูซินเยว่ให้ดีเมื่อนึกถึงตรงนี้ ซูจื่อหังก็จ่ายเงินทันทีก่อนที่ถูซินเยว่จะได้ทันโต้ตอบ"ห่อให้ข้าเลย"ซูจื่อหังกำชับ“ได้เล้ย” เสี่ยวเอ้อเห็นว่าซูจื่อหังตรงไปตรงมาทันใจ ยิ้มกว้างแล้วรีบห่อผ้าส่งให้ถูซินเยว่"ถือดี ๆ นะนาง สามีเจ้านี่ดีกับเจ้าจริง ๆ "ใบหน้าของเสี่ยวเอ้อเต็มไปความรู้สึกอวยพรอย่างจริงใจถูซินเยว่เหลือบมองซูจื่อหังอย่างเงียบ ๆ จากนั้นก็รับผ้ามาเป็นเช่นนั้นจริง ๆ สามีโดยบังเอิญของเธอคนนี้ใจดีกับเธอจริง ๆในเมื่อซูจื่อหังซื้อผ้ามาแล้ว ถูซินเยว่ก็รับมันไปด้วยความดีใจ หลังจากกอดผ้าผืนนั้นแล้วเดินออกไป ทั้งสองก็ช่วยกันเก็บข้าวของ เมื่อแน่ใจว่าไม่มีอะไรที่ต้องซื้อแล้ว ก็ผลักรถเข็นไม้กลับไปที่หมู่บ้านต้าเย่รถเข็นไม้เต็มไปด้วยสิ่งของจำเป็นในชีวิตประจำวันที่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-11-14
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 18 ความช่วยเหลือเกื้อกูลของคนในหมู่บ้าน

    เธอได้ยินคำพูดเหล่านี้หลังจากวางถ้วยยาลงแล้ว มือสั่นขึ้นทันใด จากนั้นจึงถามขึ้นด้วยความโมโห "ฉงเป่า ทำไมเจ้าไม่บอกตั้งแต่แรก!""ข้าบอกแล้ว แต่เจ้าไม่ได้ยินเอง" ฉงเป่าหมดคำจะพูด "ถ้าเจ้าอยากใช้น้ำพุศักดิ์สิทธิ์มากกว่านี้ เจ้าก็ต้องหมั่นเข้าไปดูแลมิติแห่งน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ ขุดดินและปลูกผักในนั้น พัฒนาพื้นที่ในมิติให้รุ่งเรือง คิดจะจับเสือมือเปล่าคงเป็นไปไม่ได้หรอกนะ ตอนนี้อย่างมากที่สุดมิติให้น้ำพุแก่เจ้าได้วันละแก้ว ไม่มีมากกว่านี้แล้ว"“หมายความว่าข้าต้องเลือกระหว่างลดน้ำหนักหรือช่วยนางหยูอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น?” ถูซินเยว่ขบฟันแน่น นี่มันเลือกว่าทางเลือกที่ไหนกัน?เห็นชัด ๆ อยู่แล้วว่าเรื่องไหนสำคัญกว่าการลดน้ำหนักรอไปก่อนได้ แต่ช่วยชีวิตคนรอไม่ได้เด็ดขาดเมื่อคิดถึงเหตุและผลแล้ว แม้ว่าถูซินเยว่จะรู้สึกเสียดาย แต่เธอก็ไม่เสียใจ อย่างมากเธอก็แค่ต้องเข้าไปดูแลพื้นที่ในมิติแห่งน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ให้บ่อยขึ้นเท่านั้นส่วนเรื่องลดน้ำหนักนั้น....ถูซินเยว่ก้มลงมองดูไขมันที่สะสมที่เอวและขาช้างหนา ๆ ของเธอ หากไม่มีน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ อย่างมากเธอก็แค่ต้องไปวิ่ง วิ่งก็สามารถกำจัดไขมันได้เช่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-11-14
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 19 กินข้าวด้วยกัน

    ไม่น่าแปลกใจเลยที่พวกเขาจะรู้สึกประหลาดใจ หมูป่ามีชื่อเสียงในหมู่บ้านในเรื่องของความดุร้าย เมื่อไม่กี่ปีก่อน มีชายหนุ่มคนหนึ่งขึ้นไปบนภูเขาและถูกหมูป่ากัดตาย โดยปกติแล้ว ชาวนาจะขึ้นไปบนภูเขาเพื่อหาไก่ป่าและกระต่ายป่าเท่านั้น ไม่มีใครกล้าแตะต้องหมูป่าถูซินเยว่และซูจื่อหังเป็นลูกวัวตัวแรกที่ไม่กลัวเสือ แถมพวกเขายังอุ้มหมูป่ากลับบ้านมาจริง ๆ ด้วยหลังจากฟังคำอธิบายของถูซินเยว่เกี่ยวกับวิธีที่พวกเขาปราบหมูป่าแล้ว พี่สะใภ้หยวนเป่าและพี่สะใภ้ต้าจู้ต่างก็รู้สึกอกสั่นขวัญแขวน“ซินเยว่ เจ้าก็กล้าหาญเกินไปนะ เจ้าไม่กลัวเลยรึ!” พี่สะใภ้ต้าจู้มองถูซินเยว่ด้วยความตกใจ พลางพึมพำอยู่ในใจ ไม่เช่นนั้นชาวบ้านจะเรียกนางว่าสติไม่ดีหรือ! แต่คนสติไม่ดีก็มีบุญของความสติไม่ดีอยู่ที่ล่าหมูป่ากลับมาได้ จริง ๆ ก็ไม่เลวเลยเหมือนกัน“ซินเยว่ ต่อไปถ้าเจ้าเห็นหมูป่าอีก ก็อย่าหุนหันพลันแล่นแบบนี้อีกเด็ดขาด” พี่สะใภ้หยวนเป่าตักเตือนเธออย่างหวาดหวั่นเมื่อสักครู่นี้ที่ได้ยินถูซินเยว่พูดว่าหมูป่ากระโจนใส่นางจนล้มลงไปบนพื้นแล้วอ้าปากจะกัด ก็ทำให้นางตกใจจนเสียขวัญ“พี่สะใภ้หยวนเป่าของเจ้านางขี้ขลาดน่ะ”พี่สะใภ้ต้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-11-14
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 20 เทถังปัสสาวะ

    ถูซินเยว่กำลังจะป้อนยาให้นางหยูเมื่อซูเฟิ่งอี๋เดินสะบัดก้นเข้ามาประตูไม่ได้ปิดไว้ นอกประตูก็ไม่มีรั้วอยู่ พอเดินเข้ามาซูเฟิ่งอี๋ก็มองไปที่โต๊ะทันทีและมองเห็นชามเนื้อหมูป่าที่กินเหลือไว้ครึ่งชาม ตาก็เป็นประกายขึ้นมาทันที รีบเอื้อมมือไปด้วยความเร็วสูง ปากก็ก่นด่าไปพลาง "พวกสารเลว พวกผีหิวโหย มีของดีแบบนี้ กลับไม่รู้จักกตัญญูรู้คุณมาแบ่งปันพวกข้า ไม่รู้จักกาลเทศะจริง ๆ "ตอนที่มือของนางกำลังจะเอื้อมไปถึงชามอยู่นั้น จู่ ๆ ก็มีท่อนไม้ยื่นออกมากระแทกเข้าที่หลังมือของนางอย่างแรงซูเฟิ่งอี๋กรีดร้องและชักมือกลับด้วยความเจ็บปวด มองดูก็พบว่ามีเลือดซิบอยู่บนหลังมือเมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นถูซินเยว่ถือไม้กระบองยืนยิ้มอยู่ ไฟโกรธลุกท่วมทันที"อีนางอ้วนอัปลักษณ์ กล้าตีข้างั้นเรอะ!"เมื่อคำนี้ถูกพูดออกไป ถูซินเยว่ก็หรี่ตาลงอย่างอันตราย พูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น "ยังกล้าด่าข้าแบบนี้อีกรึ ดูท่าแล้วเจ้าคงความจำสั้นสินะ"ครั้งล่าสุดที่ถูซินเยว่กดซูเฟิ่งอี๋ไว้ที่พื้น ก็เคยเตือนนางไปแล้วว่าหากต่อไปได้ยินนางเรียกตนว่าอ้วนอัปลักษณ์อีก ก็จะถูกเล่นงานซูเฟิ่งอี๋ร้องไห้ขอความเมตตาทั้งน้ำมูกน้ำตา บอกว่านางไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-11-14
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 21 ผู้ดูแลบ้าน

    เดิมทีถูซินเยว่แค่พูดออกไปเล่น ๆ เท่านั้น นึกไม่ถึงว่าซูเฟิ่งอี๋กลับยอมนำถังปัสสาวะไปทิ้งจริง ๆคน ๆ นี้ดูเหมือนจะยอมทุกอย่างเพื่อกินจริง ๆซูเฟิ่งอี๋เดินเข้าไปในห้อง มือนึงบีบจมูกไว้ และอีกมือนึงถือถังปัสสาวะออกไปถูซินเยว่ชี้ไปยังห้องส้วมที่เพิ่งสร้างขึ้นใหม่ซึ่งอยู่ไม่ไกล แล้วพูดว่า "ท่านป้า ต้องรบกวนท่านแล้วจริง ๆ เอาถังปัสสาวะไปเททิ้งตรงนั้นก็พอ"ซูเฟิ่งอี๋เหลือบมองบนโต๊ะและเห็นว่ายังมีเนื้อหมูป่าอยู่ เธอรีบถือถังปัสสาวะวิ่งไปทางห้องส้วมถูซินเยว่นั่งอยู่บนเก้าอี้ มองดูด้านหลังของซูเฟิ่งอี๋ด้วยท่าทีสบาย ๆ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเข้าไปในห้องส้วมแล้ว ก็รีบยกเนื้อหมูป่าบนโต๊ะเข้าไปหญิงสาวมีสายตาที่ว่องไวและมือที่คล่องแคล่ว ก่อนที่ซูจื่อหังในห้องจะได้ทันตั้งตัว เธอก็งับประตูปิดเสียงดัง "ปัง"ซูจื่อหังเลิกคิ้วเหลือบมองเธออย่างคาดไม่ถึง ราวกับว่าเขากำลังใช้สายตาถามเธอว่าเกิดอะไรขึ้นก็พบว่าถูซินเยว่หยิบเก้าอี้ข้าง ๆ ขึ้นมาขวางประตูไว้ ยังไม่ทันจะได้เอ่ยปากพูดอะไร เสียงของซูเฟิ่งอี๋ก็ดังมาจากข้างนอก "ซินเยว่ ข้าเอาถังปัสสาวะไปเททิ้งแล้ว เจ้าก็ควรเอาเนื้อหมูป่ามาให้ข้าได้แล้วใช่ไหม"

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-11-14
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 22 นางหยูได้สติ

    ก่อนที่จะแต่งงานกับเหลียงปิน ถูหมิงซวนเป็นคู่หมั้นของซูจื่อหังมาโดยตลอด แม้ว่าทั้งสองครอบครัวจะแอบลักลอบวางแผนกันมานานแล้ว แต่ถูหมิงซวนไม่เคยพบกับเหลียงปินเลยในคืนวันแต่งงาน เมื่อเห็นหน้าเหลียงปิน ถูหมิงซวนก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยไม่ว่าอย่างไรซูจื่อหังก็หล่อเหลาและเป็นผู้มีความรู้ ในทุกการเคลื่อนไหวล้วนดูสง่างาม แต่เหลียงปินไม่เพียงแต่ไม่หล่อ แถมยังอัปลักษณ์อีกด้วยเขาอายุมากกว่าซูจื่อหังสองปี มีร้านขายเสื้อผ้าในเมือง ครอบครัวของเขาร่ำรวยมากเมื่อเทียบกับผู้คนในหมู่บ้านต้าเย่ ด้วยเหตุนี้ แม้ว่าถูหมิงซวนจะไม่พอใจกับรูปลักษณ์ของเหลียงปินไปบ้าง แต่เธอก็สามารถกล้ำกลืนฝืนทนได้ในคืนวันแต่งงาน เหลียงปินไม่แสดงความปราณีต่อเธอเลยสักนิด ถูหมิงซวนทำได้เพียงคิดว่าคงเป็นความกระหายในครั้งแรก นางจึงกัดฟันอดทนปล่อยให้ผ่านไปแต่เธอไม่คาดคิดมาก่อนว่าเมื่อกลับจากตลาดวันนี้ เหลียงปินที่ใบหน้าบึ้งตึงไม่พูดไม่จากกลับผลักนางลงบนเตียงและตบนางเข้าหลายครั้ง แม้ว่าจะไม่ได้ตบหน้า แต่ร่างกายท่อนล่างของถูหมิงซวนก็รู้สึกเจ็บแสบปวดร้อนเมื่อเห็นว่าเหลียงปินไม่สะทกสะท้าน ถูหมิงซวนจึงร้องไห้ขอความเมตตา "ท่านพี่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-11-14
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 23 เจ้ารังเกียจหรือไม่

    เมื่อเห็นว่าถูซินเยว่พูดจาชัดถ้อยชัดคำ ความตกใจก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของนางหยูเป็นเพราะเมื่อก่อนทุกคนต่างก็รู้ดีว่าถูซินเยว่เคยเป็นคนสติไม่ดีคนหนึ่งในหมู่บ้าน แต่ตอนนี้เมื่อเห็นนางกลายเป็นปกติแล้ว จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่แปลกใจหลังจากชะงักไปครู่หนึ่ง รอยยิ้มที่จริงใจก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของนางหยูก่อนหน้านี้นางกังวลว่าถูซินเยว่เป็นคนสติไม่ดี หากแต่งงานกับจื่อหัง ด้วยสภาพความเป็นอยู่ของครอบครัวของนางคงดูแลถูซินเยว่ไม่ไหวแต่ตอนนี้นางไม่ต้องกังวลเรื่องนี้แล้ว“ดี ดีมาก ๆ” นางหยูจับมือถูซินเยว่แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า "ในที่สุดสวรรค์ก็มีตา จากนี้ไปครอบครัวของเราทั้งสามคนต้องช่วยเหลือเกื้อกูลกันเพื่อให้มีชีวิตที่ดีขึ้น"หลังจากฟังคำพูดของซูจื่อหังแล้ว นางหยูก็ไม่มีความหวังใด ๆ เกี่ยวกับแม่เฒ่าสกุลซูหลงเหลืออีกต่อไปกลับรู้สึกโกรธอยู่ในใจด้วยซ้ำ ทั้ง ๆ ที่นางหยูอยู่ดูแลตระกูลซูมาครึ่งชีวิต ผู้ชายในตระกูลซูอ่อนแอ ไม่ว่าจะเป็นงานในไร่นา ดูแลปรนนิบัติแม่เฒ่า หุงหาอาหาร หรือซักเสื้อผ้า ไม่มีงานไหนเลยที่นางไม่ได้ทำด้วยตนเอง หลังจากดูแลพวกเขาอย่างขยันขันแข็งมาเป็นเวลานาน ไม่คาดคิดว่าในช่วงเวลาวิกฤต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-11-14
  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 24 ถูกส่งกลับบ้าน?

    “ท่านแม่ ท่านไม่ต้องพูดแล้ว ลูกตัดสินใจแล้ว" ซูจื่อหังตัดบทแล้วพูดว่า “ซินเยว่ยังไม่เข้ามาเลย ข้าจะไปดูว่านางอุ่นข้าวต้มเสร็จหรือยัง"นางหยูยังคงไม่วางใจ แต่ซูจื่อหังไม่ให้โอกาสนางพูดอีกต่อไป หลังจากที่ชายหนุ่มพูดจบ ก็หันหลังเดินออกไปนางหยูเหลือบมองข้างหลังลูกชายของเธอ ส่ายหัวอย่างจนใจแล้วถอนหายใจช่างเถอะ ลูกหลานมีทางเดินของเขาเอง ในเมื่อซูจื่อหังพอใจ ตนยังจะกังวลอะไรอีกในส่วนของซินเยว่นั้น หากว่าอยู่ด้วยกันสักสองสามวันไม่มีปัญหาอะไร และถ้าถูซินเยว่นิสัยไม่ดี ก็ค่อยคิดวางแผนทีหลังนางหยูจึงหยุดคิดเรื่องนี้ถูซินเยว่พอเดาได้ว่าแม่ลูกคุยอะไรกันอยู่ในห้อง ความจริงแล้วในใจของเธอก็รู้สึกกังวลอยู่ไม่น้อยแต่ทว่า หลังจากยืนล้อมรั้วได้สักพัก เธอก็หมกมุ่นอยู่กับเรื่องตรงหน้าจนลืมคิดถึงเรื่องนี้ไปนี่คือข้อดีของถูซินเยว่ชาติที่แล้ว เธอเป็นแพทย์ในหน่วยรบพิเศษ ทุกครั้งที่ทำภารกิจ อารมณ์ความรู้สึกส่วนตัวทั้งหมดจะถูกขับออกจากจิตใจ ทำได้เพียงจดจ่ออยู่กับภารกิจของตัวเองเท่านั้นดังนั้นถึงแม้ว่าเธอจะเพิ่งถกเถียงกับฉงเป่าไปเมื่อครู่ แต่ตอนนี้เธอก็ทิ้งเรื่องนี้ไว้ข้างหลังเป็นที่เรียบร้อยแล้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-11-14

บทล่าสุด

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 381 ช่างคล้ายคลึงนัก

    ทั้งคู่เดินถึงหน้าประตู ปะเหมาะเวลานี้ จวนแม่ทัพหลิ่วก็มีคนเดินออกมาเช่นกัน"คนนี้ก็คือใต้เท้าซูที่เจ้าชอบอย่างงั้นหรือ" ฮูหยินหลิ่วเหลียวมองบุตรีซึ่งอยู่ข้างกาย สื่อเป็นนัยให้อีกฝ่ายอย่าได้วู่วามทุกวันนี้คราใดที่หลิ่วโหรวโหรวเห็นถูซินเยว่กับซูจื่อหังเดินมาด้วยกัน ด้วยท่าทีรักใคร่ปรองดอง นางจะรู้สึกเดือดดาลในใจ ราวกับภูเขาไฟที่ใกล้ระเบิดกระนั้นนางทำเสียงฮึดฮัด "ถูซินเยว่มีวันนี้ได้ ก็เพราะอาศัยบารมีซูจื่อหัง แต่คอยดูไปเถิด หญิงบ้านนอกเช่นนาง ใหม่ ๆ ยังพอทำให้ซูจื่อหังพอใจได้บ้าง แต่พอนานวันเข้า ได้เห็นสาวงามในเมืองหลวงมากมาย ความรักของพวกเขายังมั่นคงเหมือนแต่ก่อนได้อีก ก็แสดงว่าผิดมนุษย์แล้ว"ฮูหยินหลิ่วแสดงท่าทีนิ่งเฉยแต่บุตรีพูดก็มีเหตุผล ผู้ชายในโลกนี้น้อยนักที่จะไม่คิดได้ใหม่ลืมเก่า ยกตัวอย่างเช่นสามีของนาง ในอดีตก็เคยให้คำมั่นสัญญา ว่าแม้เป็นหรือตายก็จะขอรักอดีตคนรักเพียงผู้เดียว แต่พอบ้านเขาประสบภาวะเดือดร้อน สุดท้ายก็มาเลือกแต่งงานกับตน จนบัดนี้ลืมหน้านังคนแพศยานั่นไปถึงไหนต่อไหนแล้วแสดงว่าความจริงใจของผู้ชายคือสิ่งที่ไร้ประโยชน์ปกติเสแสร้งทำเป็นรักมั่นจริงใจ แต่พอเอ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 380 ลูกสาวจอมโง่เขลา

    หากซูจื่อหังไม่รังเกียจถูซินเยว่แล้วล่ะก็ งั้นต่อให้หลิ่วโหรวโหรววทุ่มเทแรงกายแรงใจมากแค่ไหนก็ตาม เกรงว่าก็คงไม่สามารถเข้าไปในจวนสกุลซูได้ดั่งใจปรารถนาหรอกแต่น่าขําที่ลูกสาวคนนี้ของนางกลับไม่รู้ต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้เลย รู้แต่ไปเหยียดหยามถูซินเยว่อย่างโง่เขลาเท่านั้นนี่ถ้าทําให้ถูซินเยว่อับอายต่อหน้าทุกคนก็ว่าไปอย่าง แต่นี่กลับยังโดนถูซินเย่วตอบโต้กลับมาจนขายหน้า นี่ไม่ใช่เป็นการตบหน้าตัวเองหรือไง?เมื่อคิดถึงตรงนี้ ฮูหยินหลิ่วก็ไม่อยากเห็นหน้าลูกสาวคนนี้แม้แต่นิดนางขมวดคิ้ว จู่ ๆ ก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้และอดไม่ได้ที่จะพูดว่า "ใช่แล้ว เรื่องนี้ข้ายังไม่ได้บอกพ่อเจ้า ถ้าพ่อเจ้ารู้ ดูสิว่าเขาจะสั่งสอนเจ้ายังไง เจ้าระวังตัวหน่อย"ภายใต้การเกลี้ยกล่อมและคําเตือนของฮูหยินหลิ่ว ในที่สุดหลิ่วโหรวโหรวก็หลับตาลง นางนั่งอยู่บนที่นั่งของตัวเองอย่างเซ็ง ๆ ทั้งหน้ามีแค่อารมณ์เดียวนั่นก็คือ นางไม่มีความสุขฮูหยินหลิ่วถอนหายใจอย่างจนใจ แล้วเงยหน้ามองฝั่งตรงข้าม ตําแหน่งของนาง มีเพิงดอกไม้อยู่ตรงกลางบดบังร่างของถูซินเยว่พอดี ดังนั้นนางจึงเห็นเพียงโครงร่างผ่านเถาวัลย์อย่างคลุมเครือเท่

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 379 จางเยียนหรัน

    วันนี้ตระกูลจางเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงเชิญตระกูลที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง ก่อนมาซูจื่อหังเคยพูดกับนางว่า เขากับตระกูลจางเข้ากันได้ดีในราชสํานัก ดังนั้นวันนี้ ถูซินเยว่ก็ไม่อยากสร้างปัญหาอะไรให้กับตระกูลจาง เพื่อไม่ให้คนอื่นรู้สึกว่าพวกเขาไม่มีมารยาทเห็นเหล่าฮูหยินกับหลิ่วโหรวโหรวเพิ่งเยาะเย้ยเธอเมื่อครู่ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ถูซินเยว่ก็สบายใจไม่น้อย ก้มหน้าก้มตากินอาหารด้วยตัวเองไม่สนใจใครทั้งนั้นในขณะที่เธอกําลังกินอย่างมีความสุข จู่ ๆ ก็มีคนผลักแขนของเธอเบา ๆถูซินเยว่นิ่งงันไปพักหนึ่ง หันหน้ากลับไปอย่างสงสัยใคร่รู้ เห็นหญิงสาวในชุดสีเหลืองคนหนึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ ตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ กําลังใช้ดวงตากลมโตจ้องมองเธออย่างอยากรู้อยากเห็นดวงตาของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและไร้เดียงสา แต่กลับไม่มีเจตนาร้ายเลยแม้แต่น้อยถูซินเยว่เคยเห็นคนมามากมาย เรื่องเหล่านี้เธอยังพอสามารถมองออกได้ตั้งแต่แรกเห็นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีเจตนาร้าย ท่าทีของเธอก็อ่อนโยนลงมาก"ไม่ทราบว่าแม่นางมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?"ถ้าเธอจําไม่ผิด คนที่นั่งข้างเธอเมื่อกี้น่าจะเป็นผู้หญิงที่เยาะเย้ยเธ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 378 หน้าแตก

    ถูซินเยว่ชะงัก และรู้สึกตลก เมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายก็รู้สึกประหลาดใจ ตอนที่ออกจากมาตอนเช้า เธอได้สวมใส่เครื่องประดับมาหลายชิ้นจริงๆแต่ระหว่างทาง ถูซินเยว่รู้สึกว่าต่างหูระเกะระกะเกินไป จึงแอบถอดมันออกและวางไว้บนรถม้าคาดไม่ถึงจริงๆ ว่าในงานเลี้ยงจะมีคนไม่กินไม่ดื่ม แต่หันมาจับจ้องที่เครื่องหัวของตนเองแทนถูซินเยว่ยื่นมือไปจับที่ผมของตนเองอัตโนมัติ จากนั้นก็พูดเสียงราบเรียบว่า "ในเมื่อวันนี้ตระกูลจางเป็นเจ้าภาพ แขกสำคัญจึงเป็นตระกูลจาง แล้วเหตุใดข้าจักต้องแต่งตัวให้ดูดีขนาดนั้น""จนก็ยอมรับว่าจนเถอะ จะหาเหตุผลอะไรมาอ้างมากมายไปทำไม ในที่นี้ใครไม่รู้บ้างว่าพวกเจ้ามาจากบ้านนอก ข้าเองก็แค่รู้สึกเสียดายแทนใตเท้าซูเท่านั้น ทั้งที่มีมีอนาคตอันดี หากแต่งงานกับบุตรสาวขุนนางสักคน ก็คงยิ่งช่วยส่งเสริมให้เจริญก้าวหน้า แต่กลับเลือกจะเฝ้าอยู่แค่หญิงชาวบ้านเฉกเช่นเจ้า..."ประโยคหลังแม้ว่าจะไม่ได้พูดต่อจนจบ แต่ก็สามารถเข้าใจได้ถึงแม้บนใบหน้าของถูซินเยว่จะแสดงสีหน้าใดๆ แต่สาวรับใช้ที่อยู่ข้างๆ สีหน้าย่ำแย่มากแล้วนางอาศัยอยู่ที่ตระกูลซูมานาน ก็พอจะรู้ว่าถูซินเยว่ไม่ได้ไม่มีเงิน และเงินส่วนใ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 377 ดูถูก

    ตั้งแต่ตอนที่อยู่ในหมู่บ้านต้าเย่ เพราะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ หรือเพราะผลประโยชน์อันน้อยนิด แม้เป็นครอบครัวเดียวกัน ก็ยังสามารถโกรธแค้นกันจนตัดญาติขาดมิตรไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นใด แค่ในตระกูลถู เพียงเพื่อสินสอดของตระกูลเหลียง ถูชิวหลานก็ดันทุรังจะสับเปลี่ยนตัวเธอกับลูกสาว ภายหลังยังไม่ยอมรับด้วย แถมยังผลักไสความผิดทุกอย่างไปที่เจ้าของร่างหากเธอไม่ได้ข้ามิติมาอยู่ในร่างของเจ้าของร่างซื่อบื้อคนนั้น นางจะใช้ชีวิตอยู่ในตระกูลซูอย่างไร เกรงว่าคงเหลือแต่เสี้ยววิญญาณแล้วอย่างด้านซูเฟิ่งอี๋ในตระกูลซู ตอนนั้นพวกเขาเองก็หวงแหนเงินเล็กๆ น้อยๆ เห็นชีวิตนางหยูกำลังตกอยู่ในอันตรายก็ยังไม่ยอมรักษาให้นางเรื่องราวของญาติสนิทมิตรสหายที่ทำร้ายคนใกล้ตัวเพียงเพื่อผลประโยชน์และเงินทองมีมากมายเกินกว่าจะพูด ขนาดบ้านเธอยังเป็นเช่นนี้ แล้วต้าฉีที่มีบ้านสกุลมากมายขนาดนี้ล่ะชาวบ้านธรรมดาทั่วไป อาจทำไปเพื่อเงินทอง แต่องค์ชายสามกับองค์ชายใหญ่ กลับทำเพื่อแก่งแย่งแผ่นดิน ขนาดที่เป็นการต่อสู้เพื่อความเป็นความตาย และไม่มีใครยอมอ่อนข้อให้ใคร ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้"ชีวิตคนเรามีหลายเรื่องที่มักไม่เป็นดังที่หวัง ข

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 376 อิจฉา

    "วันนี้เป็นงานเลี้ยงของตระกูลจาง ข้าก็นึกว่าเจ้าจะพูดคุยเรื่องอะไรกับข้า คาดไม่ถึงว่าจะใช้เรื่องนี้มาข่มขู่ข้าในที่ๆ ไม่มีคนเช่นนี้?"ชายผู้นั้นหัวคิ้วกระตุก รีบก้มศรีษะลงแล้วพูดว่า "กระหม่อมมิบังอาจพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่กระหม่อมทราบว่าองค์ชายสามเป็นคนเฉลียวฉลาด แต่ไหนแต่ไรมา การที่บุตรสายตรงรับสืบราชบัลลลังก์ต่อก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล แล้วไฉนองค์ชายสามจึงมิตั้งใจเป็นข้าราชบริพานบริสุทธิ์ คอยค้ำจุนเสด็จพี่ของพระองค์เล่าพ่ะย่ะค่ะ?"ฉีหวานหัวดราะเสียงดัง น้ำเสียงเย็นเยือกลงฉับพลัน เขาสะบัดแขนเสื้อ พร้อมสีหน้าเย็นชา "แม่ทัพหลิ่วพูดเช่นนี้ ช่างไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย ตอนที่ข้าพบกับมือสังหารไล่เอาชีวิตตอนที่รีบเดินทางกลับมาจากเป่ยเจียงอันไกล แม้วันนี้ข้าไม่พูด เชื่อว่าท่านแม่ทัพเองก็คงทราบดีว่าเป็นฝีมือของใคร?"ถูซินเยว่ที่นั่งอยู่ในศาลาชะงักงัน ที่แท้คนที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับฉีหวานก็คือแม่ทัพหลิ่วนี่เอง หากนางจำไม่ผิดละก็ ก่อนหน้านี้ที่หน้าประตูตระกูลจาง ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ หลิ่วโหรวโหรวก็คือแม่ทัพหลิ่วผู้นี้สินะ?เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ถูซินเยว่ก็รู้สึกเซ็งขึ้นมา ถ้ารู้แต่แรกว่าพวกเขาจะคุยกันเรื่

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 375 แอบฟัง

    หลิ่วโหรวโหรวก็มองเห็นพวกเขาเช่นกัน และเมื่อนึกถึงความสนิทสนมของถูซินเยว่และซููจื่อหังวันนั้นในจวนซู นางก็กำหมัดแน่นแม่ทัพหลิ่ว หลิ่วถิง เมื่อเห็นว่าบุตรสาวของตนเองอยู่ๆ ก็หน้าตาไม่สดใส ทั้งที่เมื่อสักครู่ยังดีอกดีใจ ก็ขมวดคิ้วถามว่า "เป็นอะไรไป? มีคนรู้จักรึ?""เจ้าค่ะ..." หลิ่วโหรวโหรวกำลังจะอ้าปากพูด ฮูหยินหลิ่วที่อยู่ข้างๆ ก็ผลักนาง และส่งสายตาให้กับอีกฝ่ายหลิ่วโหรวโหรวจึงได้แต่หุบปากเงียบอย่างไม่พอใจนักฮูหยินหลิ่วเดินไปข้างๆ หลิ่วโหรวโหรวอย่างเงียบๆ กระตุกแขนเสื้อของบุตรสาวและพูดเตือนเสียงเบาว่า "เจ้าอย่าได้พูดถึงเรื่องของตระกูลซูอีก หากเจ้าพูดถึงอีกข้าจะไม่ยกโทษให้เจ้า! เมื่อกี้เจ้าไม่เห็นฮูหยินตระกูลซูหรือย่างไร? นางท้องโตขนาดนั้นแล้ว! เจ้าคิดจะไปเป็นภรรยาน้อยของคนอื่นหรือ? พูดออกไปรังแต่จะกลายเป็นเรื่องตลก!"หลิ่วโหรวโหรวสีหน้าย่ำแย่ทันทีแม้ว่าซูจื่อหังมีภรรยาหลวงอยู่แล้ว แต่ในใจนางนั่นก็เป็นเพียงหญิงบ้านนอกที่เทียบกับตนเองไม่ได้เลยด้วยซ้ำ นางซึ่งเป็นบุตรีสายตรงของจวนแม่ทัพ จะตกเป็นรองอยู่เป็นภรรยาน้อยของซูจื่อหังหรืออย่างไร?ลำพังแค่คิด นางก็ไม่ต้องการหลิ่วโหรวโหร

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 374 งานเลี้ยงตระกูลจาง

    ขณะที่ถูซินเยว่กำลังยุ่งอยู่กับการเปิดร้านขายเครื่องประดับ และนางหยูกำลังกังวลเรื่องลูกค้าอยู่นั้น เทียบเชิญฉบับหนึ่งก็ได้ส่งมาถึงที่บ้าน"เป็นงานฉลองวันเกิดของมารดาเฒ่าตระกูลจางจากเสนาบีดีกระทรวงการคลัง"ถูซินเยว่ถือเทียบเชิญไว้ในมือและยิ้มอย่างประหลาดใจ "ในเมืองหลวงแห่งนี้ข้านั้นไม่ได้รู้จักใครเลยสักคนหนึ่ง แต่นึกไม่ถึงว่าตระกูลจางจะส่งเทียบเชิญมาให้ข้า"สามีของตนเองก็เป็นข้าราชการขั้นเจ็ดเล็กๆ คนหนึ่ง แม้ว่าตระกูลจากจะไม่ใช่ข้าราชการชั้นสูง แต่ก็เป็นข้าราชการขั้นห้า และบรรพบุรุษก็ล้วนเป็นข้าราชการทั้งนั้น ซึ่งก็นับว่าเป็นตระกูลที่มีคุณธรรมสูงส่งการที่ส่งเทียบเชิญมาให้พวกเขาในงานเลี้ยงวันเกิดเช่นนี้ ก็เรียกได้ว่าไม่ได้ดูถูกพวกเขาเพียงแต่ คนในยุคโบราณส่วนมากจะดูแคลนคนทำธุรกิจ หากตนเองไปร่วมงานละก็ จะทำให้พวกเขารู้ว่าภรรยาของซูจื่อหังเป็นหญิงทำมาค้าขาย ก็ยากที่จะไม่ดูแคลนเดิมทีถูซินเยว่ไม่อยากไป แต่คาดไม่ถึงว่าซูจื่อหังจะหันมากุมมือเธอไว้ ยิ้มแล้วพูดอย่างไม่ใส่ใจนักว่า "บุตรชายของใต้เท้าจางสนิทกับข้า ภรรยาของข้าเป็นหญิงสาวที่มีเสน่ห์มากที่สุดในใต้หล้า ไม่ว่าทำอะไรก็ดีทั้งนั้น แล

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 373 ฮ่องเต้หมดสติ

    สำหรับถูซินเยว่แล้ว จะเป็นลูกผู้ชายหรือผู้หญิงก็ไม่เป็นไร สิ่งสำคัญคือ การที่ลูกน้อยสามารถคลอดออกมาได้อย่างปลอดภัยเพราะในยุคโบราณการที่ผู้หญิงคลอดลูกนั้นเปรียบเสมือนการเดินไปขอบประตูนรก ดังนั้นการที่สามารถให้กำเนิดลูกได้อย่างปลอดภัยถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย เธอจึงไม่คาดหวังอย่างอื่นอีกแต่ว่าช่วงนี้เธอมักจะถูกนางหยูล้างสมองอยู่บ่อยๆ จนถูซินเยว่เองก็คิดว่าท้องนี้อาจจะเป็นลูกผู้ชายก็ได้เป็นผู้ชายก็ดี เพราะความคิดปิดกั้นในยุคโบราณนั้นสร้างความลำบากให้กับหญิงสาวอย่างมาก หากเป็นเด็กผู้ชาย ก็สามารถลดความลำบากหลายๆ อย่างให้เธอได้ไม่น้อยเดิมทีถูซินเยว่อยากจะถามฉงเป่าว่าในท้องตนเองนั้นเป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิงกันแน่ ซึ่งตามปกติแล้วขอเพียงเอาของกินมาล่อนิดล่อหน่อย ฉงเป่าก็ยอมพูดทุกอย่าง มีเพียงแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวที่ไม้ว่าถูซินเยว่ถามอย่างไร อีกฝ่ายก็ไม่ยอมบอก"อย่างไรเสียลูกก็อยู่ในท้องของข้า เจ้าจะบอกหน่อยมิได้หรือว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง? ถึงเจ้าพูดมา ด้วยเงื่อนไขการรักษาแบบนี้ข้าก็ทำอะไรเจ้าไม่ได้มิใช่หรือไง?"อีกอย่าง ถูซินเยว่เองก็ไม่มีความคิดการให้ความสำคัญชายมากกว่าหญิงด

DMCA.com Protection Status