Share

บทที่ 113 รีดไถ

Author: ฮวาฮวาน่งหยวี่
ส่วนถูหมิงซวนนั้นหลังจากเวลาผ่านไปนาน ในที่สุดก็มีใส่ใจตนขึ้นมาก็น้ำตาคลอเบ้า ร้องไห้สะอึกสะอื้นว่า "ท่านพ่อ ข้าเจ็บ ข้าเจ็บเหลือเกิน!"

"ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไรแล้ว ไม่ต้องกลัว"

ถูหม่านรีบปลอบใจลูกสาว

เมื่อเห็นผู้คนกำลังบาดเจ็บ และร้องไห้อยู่ทั่วลานบ้าน สวีเหวินก็พูดขึ้นอย่างจนใจว่า "ชิวเหมย เจ้าไปตามหมอกับข้าเถอะ"

ถูชิวเหมยพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง

ถูหม่านเหลือบมองสวีเหวินอย่างรู้สึกขอบคุณทันที เมื่อก่อนภรรยาของตนเอาแต่พูดจาให้พวกเขาขายหน้า ตอนนี้สวีเหวินยังคิดช่วยเหลือพวกเขาอยู่ ก็รู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมาก

"ขอบใจมาก"

"ไม่เป็นไรหรอก ครอบครัวเดียวกันทั้งนั้น" ถูชิวเหมยรีบพูดขึ้น

แต่ถูชิวหลานกลับถ่มน้ำลายใส่ด้านข้าง และสาปแช่งด้วยความโกรธ "หน้าด้าน เสนอหน้าขึ้นมาทันทีเชียว....."

ถูชิวเหมยหน้าชาขึ้นมาทันที สวีเหวินรีบดึงอีกฝ่ายออกไป ส่วนสวีเจี่ยเอ๋อร์เล่นอยู่กับเสี่ยวเป้ยอยู่ที่หลังบ้าน ทั้งสองคนไม่ได้กังวลอะไร

“ทำดีหวังผล สวีเหวินคนนี้ไม่ใช่คนดีจริง ๆ "

“พอได้แล้ว พูดน้อย ๆ หน่อยเถอะ พูดมากไม่เมื่อยปากหรือไง?" ถูหม่านกรอกตาใส่ถูชิวหลาน รู้สึกจนใจ ทำไมเขาถึงได้หาเมียแบบนี้ได้ โชคร้า
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Tipphawan
ทำไมยืดเยื้อจังไม่สนุกแล้ว
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 114 ชดใช้

    "เจ้า....." ถูชิวหลานยังไม่ได้ทันตั้งตัวในตอนแรก แต่หลังจากนั้นไม่นานก็ได้สติ จึงด่าขึ้นมาว่า "เจ้ามันนรกส่งมาเกิด กล้ามาต่อปากต่อคำกับข้างั้นรึ!"ถูซินเยว่ก็แซ่เดียวกับนางอยู่แล้วไม่ใช่หรือ?"เอาแรงมาปะทะคารมกับข้า เจ้าไปดูแลลูกสาวเจ้าดีกว่า" ถูซินเยว่กรอกตาใส่ขืนอยู่ต่อไป ไม่รู้ว่าจะถูกบ้านตระกูลถูขู่เข็ญรีดไถจนเป็นสภาพไหนเมื่อก่อนก็ได้แต่คิดว่าพวกเขาเมินเฉย ไม่ใส่ใจตน มาถึงตอนนี้กลับเป็นพวกหน้าไม่อายกันทั้งบ้าน"ซินเยว่ หากเจ้าเดินพ้นประตูนี้ไป ต่อไป เจ้าก็ไม่ใช่คนของตระกูลถูอีก!"ถูเกินเอามือตบโต๊ะ พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง แสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้ล้อเล่นเมื่อนางหลินและถูซานได้ยินดังนั้น ก็ร้อนรนขึ้นมาทันทีหมายความว่าถูเกินขับไล่ถูซินเยว่ออกจากบ้าน?ถึงแม้ว่าตอนนี้ถูซินเยว่จะแต่งเข้าบ้านตระกูลซูไปแล้ว เป็นของตระกูลซูแล้ว แต่หากตัดความสัมพันธ์กับตระกูลถูแล้ว ต่อไปก็ถือว่าถูซินเยว่ไม่มีบ้านของตนอีกต่อไปแล้ว แน่นอนว่านางหลินยอมไม่ได้เด็ดขาด"ท่านพ่อ ซินเยว่ไม่ได้ตั้งใจจะเถียงท่าน ท่านลองคิดดูดี ๆ อีกครั้งเถอะ....""หุบปาก" ถูเกินเหลือบมองนางหลินอย่างเย็นชา จากนั้นพูดขึ้นว่า

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 115 สะใภ้ตระกูลหยางผู้กล้าหาญ

    นิ่งเงียบอยู่นาน จากนั้นไม่รู้ว่านางคิดอะไรขึ้นมาได้ จู่ ๆ หวังหลานฮวาก็พูดขึ้นมาว่า "ข้าเกือบจะหลงเชื่อเจ้าเสียสนิท ปกติเสี่ยวเฮยบ้านข้ามักจะอาลาดวาดก็จริงอยู่ แต่ปกติพวกข้าจะล่ามโซ่เสี่ยวเฮยไว้ วันนี้มีคนมาแกะโซ่ออก พวกเจ้าจงใจแน่!"เมื่อพูดถึงตรงนี้ หยางเอ้อร์จู้ก็รีบพูดเสริมขึ้นว่า "ใช่ ๆ ข้าไปดูมาแล้ว กุญแจที่วางอยู่ข้าง ๆ กรงสุนัขหายไป ต้องเป็นพวกเจ้าแน่ ๆ ที่เอาไป"เดิมทีถูซินเยว่ก็สงสัยอยู่ก่อนแล้ว ว่าถูชิวหลานเจตนาเอาขาแกะใส่เข้ามาในตะกร้าผักของตน เพื่อล่อให้หมามากัดเมื่อได้ยินผัวเมียตระกูลหยางพูดเช่นนั้น ก็เหลือบมองไปทางถูชิวหลานทันทีแต่ถูชิวหลานหลบตาทันที ทั้งยังเอามือขึ้นมาปิดปากอย่างไม่ได้ตั้งใจถูซินเยว่เข้าใจขึ้นมาทันทีว่ากุญแจที่ว่าถูชิวหลานต้องเอากุญแจที่ว่านั้นไปแน่ ๆ อีกอย่างกุญจานั้นต้องยังอยู่ในกระเป๋าเสื้อของนางคนชั่วร้ายคนนี้อยากจะปล่อยหมามากัดตนและซูจื่อหัง แต่สุดท้ายกลับไปกัดลูกสาวตัวเอง"ต้องเป็นคนของบ้านตระกูลถูแน่ ๆ ปกติเสี่ยวเฮยบ้านเราไม่มีทางออกมากัดคนอื่นก่อนแน่ ๆ ดังนั้นเรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของพวกข้า เรื่องนี้พวกเจ้าจะต้องรับผิดชอบ"หวังหลานฮ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 116 เหลียงปินชาติชั่ว

    ครอบครัวของนางเป็นคนขายเนื้อหมู นางถือมีดชำแหละหมูอยู่ทุกวัน ใช่ว่าจะไม่เคยได้เห็นคาวเลือด ขวานอันเล็กแค่นี้จะทำอะไรนางได้?อีกอย่าง เป็นเพื่อนบ้านกับตระกูลถูมาสิบกว่าปี หวังหลานฮวาจะไม่รู้เชียวหรือว่าถูชิวหลานภายนอกดูเข้มแข็ง แต่กลับเป็นคนขี้ขลาดตาขาว ดังนั้นจึงไม่มีอะไรต้องกลัวเป็นไปตามที่คาด พอถูชิวหลานเห็นท่าทางของหวังหลานฮวา ก็หวาดกลัวทันที จะใช้ขวานฟันอีกฝ่ายก็ไม่กล้า จะไม่สู้ก็ไม่ได้ นางหน้าซีดเผือดขึ้นมาทันที กลืนไม่เข้าคายไม่ออกดีที่พ่อเฒ่าตระกูลถูเอ่ยขึ้นน้ำเสียงเย็นว่า "ทำขายหน้าอะไรกัน ยังไม่รีบวางขวานลงอีก"เขาเป็นผู้เฒ่าที่ฉลาดเฉียบแหลม พอเห็นก็รู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นดูก็รู้ว่าถูชิวหลานวางแผนฉวยโอกาสไม่สำเร็จ แต่กลับต้องขาดทุนเสียเองวันนี้เป็นวันที่สามของเดือนแรกในปีใหม่ ควรจะเป็นวันที่ครอบครัวมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอย่างมีความสุข แต่ตอนนี้กลับมีแต่ความวุ่นวายอยู่เต็มลานบ้าน ทั้งบาดเจ็บ ทั้งหมดสติ ทำบ้าอะไรกันอยู่พ่อเฒ่าถูไม่เคยรู้สึกว่าบ้านหลังนี้วุ่นวายขนาดนี้มาก่อน เขาบีบขมับที่ปวดร้าว และนิ่งเงียบไปเป็นเวลานานจู่ ๆ ความเงียบก็เข้าปกคุลม บรรยากาศกระอักก

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   ตอนที่ 117 กลับบ้าน

    มองดูความดื้อแพ่งของเหลียงปินแล้ว ถูชิวหลานก็โกรธจนควันแทบออกหูที่ผ่านมานั้น สิ่งที่นางภูมิใจที่สุด ก็คือให้ลูกสาวได้แต่งงานกับลูกเขยที่ดี แล้วนางก็จะได้เสวยสุขตาม แต่ตอนนี้ถูชิวหลานเพิ่งจะรู้ว่า ความคิดของตนในอดีตนั้น มันช่างโง่เขลาเสียนี่กระไร!ก็ดูอย่างเหลียงปินนี่สิ ได้เสพสุขที่ไหนกัน?"หมิงซวนเป็นเมียเจ้า แม้แต่ค่ายาของเมียตัวเองยังไม่จ่าย เจ้ายังเป็นคนหรือเปล่า?"ถูชิวหลานด่าอย่างโกรธเคืองระหว่างนั้น สีหน้าของแม่เฒ่าตระกูลถูกับตาแก่ถูก็ใช่ว่าจะดีนัก ใบหน้าของถูหม่านยิ่งดำคร่ำเครียด บอกบุญไม่รับ นางหลินคิดจะพูดจา ถูซานลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายจึงได้จับมือของอีกฝ่ายเอาไว้เมื่อครู่นี้พวกเขากระทำต่อถูซินเยว่และลูกเขยของตนอย่างไร ทั้งคู่ต่างก็เห็นกับตา และนี่เป็นเรื่องภายในของพวกเขา นางหลินกับถูซานไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวด้วยนางหลินเข้าใจความหมายของถูซาน จึงได้พยักหน้าเห็นชอบส่วนทางนี้ เหลียงปินฟังคำของถูชิวหลาน ยังคงพูดอย่างหน้าตาเฉยว่า "หมิงซวนเป็นเมียข้าก็จริง ถ้านางอยู่ตระกูลเหลียงแล้วได้รับบาดเจ็บ ค่ารักษาพยาบาล ข้าย่อมจ่ายให้อยู่แล้ว แต่ตอนนี้ นางบาดเจ็บที่บ้านตระกู

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   ตอนที่ 118 ความโกรธของนางหยู

    นางหยูจึงได้แต่เก็บเรื่องนี้ไว้ในใจเพราะในใจมีเรื่องให้ครุ่นคิด อาหารมื้อค่ำของนางหยูจึงปรุงอย่างลวก ๆ ซ้ำยังใจลอยใส่เกลือลงไปมาก จนทำให้ถูซินเยว่ต้องดื่มน้ำไปหลายอึกถูซินเยว่ดูออกว่านางหยูไม่สบายใจ แต่วันนี้นางได้ถามแล้ว เมื่อนางหยูไม่พูด แสดงว่าไม่อยากบอกให้รู้ ถูซินเยว่จึงไม่คิดเซ้าซี้ถามต่ออีกทุกคนล้วนมีความลับของตนเอง นางจึงไม่คิดจะสอดรู้สอดเห็นที่สำคัญ วันนี้เป็นวันแห่งการเฉลิมฉลอง ตนกับซูจื่อหังยังกลับไปเยี่ยมญาติ นางหยูกลับอยู่ในบ้านคนเดียว คงจะคิดถึงสามีที่เสียชีวิตไปแล้วถูซินเยว่มาหวนคิด จึงเล่าเรื่องหมาดำในวันนี้ให้นางหยูได้ฟัง หญิงสาวเล่าอย่างเอาจริงเอาจัง ทำให้นางหยูรู้สึกเหมือนอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ยิ่งเล่าถึงช่วงตื่นเต้น นางแทบจะจับตะเกียบในมือไว้แน่น ตื่นเต้นเสียจนพูดไม่ออกสุดท้าย พอได้ยินว่าหมาดำถูกถูซินเยว่กับซูจื่อหังช่วยกันฆ่าจนตาย ซ้ำยังไปกัดถูกถูหมิงซวนอีก จึงได้ถามอย่างห่วงใย "แล้วหมิงซวนเป็นไรหรือเปล่า?"ว่าไปแล้ว สะใภ้ของนางควรจะเป็นหมิงซวนมากกว่า ที่ไหนได้ ถูชิวหลานกับถูหมิงซวนรังเกียจความยากจน จึงสับเปลี่ยนให้ถูซินเยว่มาแต่งเข้าตระกูลซูของนางแทน

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 119 ภาพตัณหา

    หลังจากแกะห่อผ้าออก หนังสือที่ไม่มีหน้าปกเล่มหนึ่งก็ปรากฏสู่สายตาของทั้งสองหนังสือเล่มนี้ไม่ใช่หนังสือใหม่ หน้าปกเริ่มเป็นสีเหลืองแล้วดูท่าน่าจะหลายปีแล้ว“แปลกจังหรือว่าท่านแม่จะอยากให้ข้าหัดอ่านเขียนหรือ?” สำหรับเธอที่เป็นนักเรียนระดับหัวกะทิที่มาจากศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดอย่างถูซินเยว่แล้วนั้น นี่เป็นเรื่องที่ง่ายดายยิ่งนักแต่ไม่นานถูซินเยว่ก็ปฏิเสธความคิดนี้ของตัวเอง นางหลินเป็นหญิงชนบท คงไม่มีความคิดอะไรแบบนี้ออกมาได้แน่ วันนี้ตอนที่เธอคุยกับนางหลิน นางยังกำชับเธออยู่เลยว่าให้ดูแลสามีและปรนนิบัติแม่ยายให้ดี ไม่ได้พูดถึงเรื่องอ่านเขียนอะไรกับเธอเลย“ข้าดูสิว่ามันคืออะไร” ถูซินเยว่หยิบหนังสือขึ้นมาเปิดไปหน้าหนึ่งว่าจะตั้งใจอ่านดูสักหน่อยคิดไม่ถึงเลยว่า หลังจากที่เธอเปิดหน้าหนังสือขึ้นมาสิ่งที่ปรากฏสู่สายตาจะเป็นภาพหญิงชายร่างกายเปลือยเปล่ากำลังกอดรัดกันอยู่!ถูซินเยว่กระสับกระส่ายขึ้นมาทันที! ถึงเธอจะไม่เคยมีประสบการณ์แต่ก็ใช่ว่าจะไม่เคยเห็น แม้ว่าชาติก่อนเธอจะไม่เคยผ่านผู้ชายมาเลยสักคน ไม่ทันจะได้มีความรักด้วยซ้ำก็ประสบอุบัติเหตุทะลุมิติมาที่ถิ่นทุรกันดารเช่นนี้เสียก่อน แต่อย่

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 120 เมียต้องเป็นที่หนึ่งเสมอ

    "ซินเยว่..." ซูจื่อหังก้มหน้าลงมา ในสมองมีแต่ภาพล่อแหลม และทันใดนั้นเองจู่ ๆ ถูซินเยว่ก็เอามือกุมท้องด้วยความเจ็บปวด เธอส่งเสียงโอดครวญอย่างเจ็บปวดออกมาจากลำคอ"เป็นอะไรไป?" เมื่อเห็นหญิงสาวเป็นแบบนี้ซูจื่อหังก็ตกใจขึ้นมาทันทีเขารีบถอยไปข้างหลังสองก้าว เมื่อเห็นว่าถูซินเยว่หน้าซีดขึ้นมากะทันหัน ความคิดที่ไม่สมควรนั้นก็ไม่หลงเหลือในสมองอีกแล้ว ตอนนี้เขามีแต่เป็นห่วงเธอเท่านั้น"ท้องเป็นอะไร ปวดท้องเหรอ?"วันนี้ตอนกินข้าวที่บ้านตระกูลถู เขาก็เห็นว่าถูซินเยว่กินเข้าไปหลายอย่างมาก กินแบบนี้จะร้อนในหรือเปล่าก็ไม่รู้ถูซินเยว่รีบส่ายหน้า แล้วก็พยักหน้า เธอพูดอาย ๆ ว่า "ปวดท้องมาก ข้าอยากเข้าห้องน้ำ ท่านนอนก่อนเถอะ"ถึงนี่จะเป็นเรื่องพื้นฐานของมนุษย์ แต่อะไรแบบนี้พอพูดออกมาก็น่าอายอยู่ดี แล้วยิ่งเป็นในสถานการณ์อย่างนี้ด้วยแล้ว ทั้ง ๆ ที่ทั้งสองต่างก็เกิดความรู้สึกล่อแหลมขึ้นมาในใจแล้วแท้ ๆซูจื่อหังเป็นห่วงสุขภาพของเธอมากกว่า เขาจึงไม่ได้คิดอะไรมากเขาหยิบกระดาษชำระให้ถูซินเยว่แล้วรีบเปิดประตูให้เธอออกไป"ซินเยว่ ให้ไปเป็นเพื่อนไหม?"ข้างนอกมืดสนิทไร้แสงไฟ เขาไม่กล้าปล่อยถูซินเยว่ไ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 121 เสื้อบังทรงมาหาถึงที่บ้าน

    อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ถูซินเยว่ได้รับมานั้นไม่ใช่การศึกษาเชิงอุดมการณ์ในสมัยโบราณ ดังนั้นการที่ว่าผู้ชายต้องออกไปทำงานผู้หญิงต้องดูแลบ้าน สำหรับเธอดูแล้วมันไร้สาระสิ้นดีตราบใดที่สามารถทําให้ครอบครัวดีขึ้นได้ เธอก็ยินดีที่จะทํา ยิ่งไปกว่านั้น ความปรารถนาของถูซินเยว่ในตอนนี้คือรวยขึ้นมาถ้าให้เธอต้องมาอยู่บ้านทุกวันและไม่ยอมให้เธอออกไปไหนเลยจริง ๆ ล่ะก็ เกรงว่าถูซินเยว่คงจะต้องบ้าไปก่อนแล้วแน่ ๆชีวิตที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้นั้นได้มาจากการที่เธอสามารถใช้ชีวิตอย่างอิสระในชนบทโบราณมาต่างหาก ถูซินเยว่ชอบชีวิตแบบนี้มากกว่า"ท่านพี่ซู ข้าล่ะอิจฉาท่านจริง ๆ เลยนะ ข้าล่ะอยากมีเมียแบบนี้บ้างเหมือนกันจัง" หลี่เม่ายิ้มเขิน ๆ ให้กับถูซินเยว่พลางพูดขึ้นซูจื่อหังชําเลืองมองอีกฝ่ายหนึ่งแล้วขวางถูซินเยว่ไว้ด้านหลังตัวเองและพูดอย่างเย็นชาว่า "งั้นเจ้าก็คิดไปก็แล้วกัน"ถ้ารู้แต่แรกว่าหลี่เม่าชอบเมียของตัวเอง เขาก็ไม่ควรขึ้นรถม้าส่วนถูซินเยว่นั้น พอเห็นแผ่นหลังของเขาที่ขวางอยู่ด้านหน้าตนแล้ว ก็ค่อยๆ ยื่นมือออกมากอดแผ่นหลังอันกว้างหนาของซูจื่อหังไว้จากด้านหลังอยากได้เมียที่ดีอย่างเธอ แล้วทนความอัปล

Latest chapter

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 381 ช่างคล้ายคลึงนัก

    ทั้งคู่เดินถึงหน้าประตู ปะเหมาะเวลานี้ จวนแม่ทัพหลิ่วก็มีคนเดินออกมาเช่นกัน"คนนี้ก็คือใต้เท้าซูที่เจ้าชอบอย่างงั้นหรือ" ฮูหยินหลิ่วเหลียวมองบุตรีซึ่งอยู่ข้างกาย สื่อเป็นนัยให้อีกฝ่ายอย่าได้วู่วามทุกวันนี้คราใดที่หลิ่วโหรวโหรวเห็นถูซินเยว่กับซูจื่อหังเดินมาด้วยกัน ด้วยท่าทีรักใคร่ปรองดอง นางจะรู้สึกเดือดดาลในใจ ราวกับภูเขาไฟที่ใกล้ระเบิดกระนั้นนางทำเสียงฮึดฮัด "ถูซินเยว่มีวันนี้ได้ ก็เพราะอาศัยบารมีซูจื่อหัง แต่คอยดูไปเถิด หญิงบ้านนอกเช่นนาง ใหม่ ๆ ยังพอทำให้ซูจื่อหังพอใจได้บ้าง แต่พอนานวันเข้า ได้เห็นสาวงามในเมืองหลวงมากมาย ความรักของพวกเขายังมั่นคงเหมือนแต่ก่อนได้อีก ก็แสดงว่าผิดมนุษย์แล้ว"ฮูหยินหลิ่วแสดงท่าทีนิ่งเฉยแต่บุตรีพูดก็มีเหตุผล ผู้ชายในโลกนี้น้อยนักที่จะไม่คิดได้ใหม่ลืมเก่า ยกตัวอย่างเช่นสามีของนาง ในอดีตก็เคยให้คำมั่นสัญญา ว่าแม้เป็นหรือตายก็จะขอรักอดีตคนรักเพียงผู้เดียว แต่พอบ้านเขาประสบภาวะเดือดร้อน สุดท้ายก็มาเลือกแต่งงานกับตน จนบัดนี้ลืมหน้านังคนแพศยานั่นไปถึงไหนต่อไหนแล้วแสดงว่าความจริงใจของผู้ชายคือสิ่งที่ไร้ประโยชน์ปกติเสแสร้งทำเป็นรักมั่นจริงใจ แต่พอเอ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 380 ลูกสาวจอมโง่เขลา

    หากซูจื่อหังไม่รังเกียจถูซินเยว่แล้วล่ะก็ งั้นต่อให้หลิ่วโหรวโหรววทุ่มเทแรงกายแรงใจมากแค่ไหนก็ตาม เกรงว่าก็คงไม่สามารถเข้าไปในจวนสกุลซูได้ดั่งใจปรารถนาหรอกแต่น่าขําที่ลูกสาวคนนี้ของนางกลับไม่รู้ต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้เลย รู้แต่ไปเหยียดหยามถูซินเยว่อย่างโง่เขลาเท่านั้นนี่ถ้าทําให้ถูซินเยว่อับอายต่อหน้าทุกคนก็ว่าไปอย่าง แต่นี่กลับยังโดนถูซินเย่วตอบโต้กลับมาจนขายหน้า นี่ไม่ใช่เป็นการตบหน้าตัวเองหรือไง?เมื่อคิดถึงตรงนี้ ฮูหยินหลิ่วก็ไม่อยากเห็นหน้าลูกสาวคนนี้แม้แต่นิดนางขมวดคิ้ว จู่ ๆ ก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้และอดไม่ได้ที่จะพูดว่า "ใช่แล้ว เรื่องนี้ข้ายังไม่ได้บอกพ่อเจ้า ถ้าพ่อเจ้ารู้ ดูสิว่าเขาจะสั่งสอนเจ้ายังไง เจ้าระวังตัวหน่อย"ภายใต้การเกลี้ยกล่อมและคําเตือนของฮูหยินหลิ่ว ในที่สุดหลิ่วโหรวโหรวก็หลับตาลง นางนั่งอยู่บนที่นั่งของตัวเองอย่างเซ็ง ๆ ทั้งหน้ามีแค่อารมณ์เดียวนั่นก็คือ นางไม่มีความสุขฮูหยินหลิ่วถอนหายใจอย่างจนใจ แล้วเงยหน้ามองฝั่งตรงข้าม ตําแหน่งของนาง มีเพิงดอกไม้อยู่ตรงกลางบดบังร่างของถูซินเยว่พอดี ดังนั้นนางจึงเห็นเพียงโครงร่างผ่านเถาวัลย์อย่างคลุมเครือเท่

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 379 จางเยียนหรัน

    วันนี้ตระกูลจางเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงเชิญตระกูลที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง ก่อนมาซูจื่อหังเคยพูดกับนางว่า เขากับตระกูลจางเข้ากันได้ดีในราชสํานัก ดังนั้นวันนี้ ถูซินเยว่ก็ไม่อยากสร้างปัญหาอะไรให้กับตระกูลจาง เพื่อไม่ให้คนอื่นรู้สึกว่าพวกเขาไม่มีมารยาทเห็นเหล่าฮูหยินกับหลิ่วโหรวโหรวเพิ่งเยาะเย้ยเธอเมื่อครู่ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ถูซินเยว่ก็สบายใจไม่น้อย ก้มหน้าก้มตากินอาหารด้วยตัวเองไม่สนใจใครทั้งนั้นในขณะที่เธอกําลังกินอย่างมีความสุข จู่ ๆ ก็มีคนผลักแขนของเธอเบา ๆถูซินเยว่นิ่งงันไปพักหนึ่ง หันหน้ากลับไปอย่างสงสัยใคร่รู้ เห็นหญิงสาวในชุดสีเหลืองคนหนึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ ตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ กําลังใช้ดวงตากลมโตจ้องมองเธออย่างอยากรู้อยากเห็นดวงตาของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและไร้เดียงสา แต่กลับไม่มีเจตนาร้ายเลยแม้แต่น้อยถูซินเยว่เคยเห็นคนมามากมาย เรื่องเหล่านี้เธอยังพอสามารถมองออกได้ตั้งแต่แรกเห็นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีเจตนาร้าย ท่าทีของเธอก็อ่อนโยนลงมาก"ไม่ทราบว่าแม่นางมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?"ถ้าเธอจําไม่ผิด คนที่นั่งข้างเธอเมื่อกี้น่าจะเป็นผู้หญิงที่เยาะเย้ยเธ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 378 หน้าแตก

    ถูซินเยว่ชะงัก และรู้สึกตลก เมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายก็รู้สึกประหลาดใจ ตอนที่ออกจากมาตอนเช้า เธอได้สวมใส่เครื่องประดับมาหลายชิ้นจริงๆแต่ระหว่างทาง ถูซินเยว่รู้สึกว่าต่างหูระเกะระกะเกินไป จึงแอบถอดมันออกและวางไว้บนรถม้าคาดไม่ถึงจริงๆ ว่าในงานเลี้ยงจะมีคนไม่กินไม่ดื่ม แต่หันมาจับจ้องที่เครื่องหัวของตนเองแทนถูซินเยว่ยื่นมือไปจับที่ผมของตนเองอัตโนมัติ จากนั้นก็พูดเสียงราบเรียบว่า "ในเมื่อวันนี้ตระกูลจางเป็นเจ้าภาพ แขกสำคัญจึงเป็นตระกูลจาง แล้วเหตุใดข้าจักต้องแต่งตัวให้ดูดีขนาดนั้น""จนก็ยอมรับว่าจนเถอะ จะหาเหตุผลอะไรมาอ้างมากมายไปทำไม ในที่นี้ใครไม่รู้บ้างว่าพวกเจ้ามาจากบ้านนอก ข้าเองก็แค่รู้สึกเสียดายแทนใตเท้าซูเท่านั้น ทั้งที่มีมีอนาคตอันดี หากแต่งงานกับบุตรสาวขุนนางสักคน ก็คงยิ่งช่วยส่งเสริมให้เจริญก้าวหน้า แต่กลับเลือกจะเฝ้าอยู่แค่หญิงชาวบ้านเฉกเช่นเจ้า..."ประโยคหลังแม้ว่าจะไม่ได้พูดต่อจนจบ แต่ก็สามารถเข้าใจได้ถึงแม้บนใบหน้าของถูซินเยว่จะแสดงสีหน้าใดๆ แต่สาวรับใช้ที่อยู่ข้างๆ สีหน้าย่ำแย่มากแล้วนางอาศัยอยู่ที่ตระกูลซูมานาน ก็พอจะรู้ว่าถูซินเยว่ไม่ได้ไม่มีเงิน และเงินส่วนใ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 377 ดูถูก

    ตั้งแต่ตอนที่อยู่ในหมู่บ้านต้าเย่ เพราะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ หรือเพราะผลประโยชน์อันน้อยนิด แม้เป็นครอบครัวเดียวกัน ก็ยังสามารถโกรธแค้นกันจนตัดญาติขาดมิตรไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นใด แค่ในตระกูลถู เพียงเพื่อสินสอดของตระกูลเหลียง ถูชิวหลานก็ดันทุรังจะสับเปลี่ยนตัวเธอกับลูกสาว ภายหลังยังไม่ยอมรับด้วย แถมยังผลักไสความผิดทุกอย่างไปที่เจ้าของร่างหากเธอไม่ได้ข้ามิติมาอยู่ในร่างของเจ้าของร่างซื่อบื้อคนนั้น นางจะใช้ชีวิตอยู่ในตระกูลซูอย่างไร เกรงว่าคงเหลือแต่เสี้ยววิญญาณแล้วอย่างด้านซูเฟิ่งอี๋ในตระกูลซู ตอนนั้นพวกเขาเองก็หวงแหนเงินเล็กๆ น้อยๆ เห็นชีวิตนางหยูกำลังตกอยู่ในอันตรายก็ยังไม่ยอมรักษาให้นางเรื่องราวของญาติสนิทมิตรสหายที่ทำร้ายคนใกล้ตัวเพียงเพื่อผลประโยชน์และเงินทองมีมากมายเกินกว่าจะพูด ขนาดบ้านเธอยังเป็นเช่นนี้ แล้วต้าฉีที่มีบ้านสกุลมากมายขนาดนี้ล่ะชาวบ้านธรรมดาทั่วไป อาจทำไปเพื่อเงินทอง แต่องค์ชายสามกับองค์ชายใหญ่ กลับทำเพื่อแก่งแย่งแผ่นดิน ขนาดที่เป็นการต่อสู้เพื่อความเป็นความตาย และไม่มีใครยอมอ่อนข้อให้ใคร ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้"ชีวิตคนเรามีหลายเรื่องที่มักไม่เป็นดังที่หวัง ข

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 376 อิจฉา

    "วันนี้เป็นงานเลี้ยงของตระกูลจาง ข้าก็นึกว่าเจ้าจะพูดคุยเรื่องอะไรกับข้า คาดไม่ถึงว่าจะใช้เรื่องนี้มาข่มขู่ข้าในที่ๆ ไม่มีคนเช่นนี้?"ชายผู้นั้นหัวคิ้วกระตุก รีบก้มศรีษะลงแล้วพูดว่า "กระหม่อมมิบังอาจพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่กระหม่อมทราบว่าองค์ชายสามเป็นคนเฉลียวฉลาด แต่ไหนแต่ไรมา การที่บุตรสายตรงรับสืบราชบัลลลังก์ต่อก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล แล้วไฉนองค์ชายสามจึงมิตั้งใจเป็นข้าราชบริพานบริสุทธิ์ คอยค้ำจุนเสด็จพี่ของพระองค์เล่าพ่ะย่ะค่ะ?"ฉีหวานหัวดราะเสียงดัง น้ำเสียงเย็นเยือกลงฉับพลัน เขาสะบัดแขนเสื้อ พร้อมสีหน้าเย็นชา "แม่ทัพหลิ่วพูดเช่นนี้ ช่างไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย ตอนที่ข้าพบกับมือสังหารไล่เอาชีวิตตอนที่รีบเดินทางกลับมาจากเป่ยเจียงอันไกล แม้วันนี้ข้าไม่พูด เชื่อว่าท่านแม่ทัพเองก็คงทราบดีว่าเป็นฝีมือของใคร?"ถูซินเยว่ที่นั่งอยู่ในศาลาชะงักงัน ที่แท้คนที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับฉีหวานก็คือแม่ทัพหลิ่วนี่เอง หากนางจำไม่ผิดละก็ ก่อนหน้านี้ที่หน้าประตูตระกูลจาง ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ หลิ่วโหรวโหรวก็คือแม่ทัพหลิ่วผู้นี้สินะ?เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ถูซินเยว่ก็รู้สึกเซ็งขึ้นมา ถ้ารู้แต่แรกว่าพวกเขาจะคุยกันเรื่

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 375 แอบฟัง

    หลิ่วโหรวโหรวก็มองเห็นพวกเขาเช่นกัน และเมื่อนึกถึงความสนิทสนมของถูซินเยว่และซููจื่อหังวันนั้นในจวนซู นางก็กำหมัดแน่นแม่ทัพหลิ่ว หลิ่วถิง เมื่อเห็นว่าบุตรสาวของตนเองอยู่ๆ ก็หน้าตาไม่สดใส ทั้งที่เมื่อสักครู่ยังดีอกดีใจ ก็ขมวดคิ้วถามว่า "เป็นอะไรไป? มีคนรู้จักรึ?""เจ้าค่ะ..." หลิ่วโหรวโหรวกำลังจะอ้าปากพูด ฮูหยินหลิ่วที่อยู่ข้างๆ ก็ผลักนาง และส่งสายตาให้กับอีกฝ่ายหลิ่วโหรวโหรวจึงได้แต่หุบปากเงียบอย่างไม่พอใจนักฮูหยินหลิ่วเดินไปข้างๆ หลิ่วโหรวโหรวอย่างเงียบๆ กระตุกแขนเสื้อของบุตรสาวและพูดเตือนเสียงเบาว่า "เจ้าอย่าได้พูดถึงเรื่องของตระกูลซูอีก หากเจ้าพูดถึงอีกข้าจะไม่ยกโทษให้เจ้า! เมื่อกี้เจ้าไม่เห็นฮูหยินตระกูลซูหรือย่างไร? นางท้องโตขนาดนั้นแล้ว! เจ้าคิดจะไปเป็นภรรยาน้อยของคนอื่นหรือ? พูดออกไปรังแต่จะกลายเป็นเรื่องตลก!"หลิ่วโหรวโหรวสีหน้าย่ำแย่ทันทีแม้ว่าซูจื่อหังมีภรรยาหลวงอยู่แล้ว แต่ในใจนางนั่นก็เป็นเพียงหญิงบ้านนอกที่เทียบกับตนเองไม่ได้เลยด้วยซ้ำ นางซึ่งเป็นบุตรีสายตรงของจวนแม่ทัพ จะตกเป็นรองอยู่เป็นภรรยาน้อยของซูจื่อหังหรืออย่างไร?ลำพังแค่คิด นางก็ไม่ต้องการหลิ่วโหรวโหร

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 374 งานเลี้ยงตระกูลจาง

    ขณะที่ถูซินเยว่กำลังยุ่งอยู่กับการเปิดร้านขายเครื่องประดับ และนางหยูกำลังกังวลเรื่องลูกค้าอยู่นั้น เทียบเชิญฉบับหนึ่งก็ได้ส่งมาถึงที่บ้าน"เป็นงานฉลองวันเกิดของมารดาเฒ่าตระกูลจางจากเสนาบีดีกระทรวงการคลัง"ถูซินเยว่ถือเทียบเชิญไว้ในมือและยิ้มอย่างประหลาดใจ "ในเมืองหลวงแห่งนี้ข้านั้นไม่ได้รู้จักใครเลยสักคนหนึ่ง แต่นึกไม่ถึงว่าตระกูลจางจะส่งเทียบเชิญมาให้ข้า"สามีของตนเองก็เป็นข้าราชการขั้นเจ็ดเล็กๆ คนหนึ่ง แม้ว่าตระกูลจากจะไม่ใช่ข้าราชการชั้นสูง แต่ก็เป็นข้าราชการขั้นห้า และบรรพบุรุษก็ล้วนเป็นข้าราชการทั้งนั้น ซึ่งก็นับว่าเป็นตระกูลที่มีคุณธรรมสูงส่งการที่ส่งเทียบเชิญมาให้พวกเขาในงานเลี้ยงวันเกิดเช่นนี้ ก็เรียกได้ว่าไม่ได้ดูถูกพวกเขาเพียงแต่ คนในยุคโบราณส่วนมากจะดูแคลนคนทำธุรกิจ หากตนเองไปร่วมงานละก็ จะทำให้พวกเขารู้ว่าภรรยาของซูจื่อหังเป็นหญิงทำมาค้าขาย ก็ยากที่จะไม่ดูแคลนเดิมทีถูซินเยว่ไม่อยากไป แต่คาดไม่ถึงว่าซูจื่อหังจะหันมากุมมือเธอไว้ ยิ้มแล้วพูดอย่างไม่ใส่ใจนักว่า "บุตรชายของใต้เท้าจางสนิทกับข้า ภรรยาของข้าเป็นหญิงสาวที่มีเสน่ห์มากที่สุดในใต้หล้า ไม่ว่าทำอะไรก็ดีทั้งนั้น แล

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 373 ฮ่องเต้หมดสติ

    สำหรับถูซินเยว่แล้ว จะเป็นลูกผู้ชายหรือผู้หญิงก็ไม่เป็นไร สิ่งสำคัญคือ การที่ลูกน้อยสามารถคลอดออกมาได้อย่างปลอดภัยเพราะในยุคโบราณการที่ผู้หญิงคลอดลูกนั้นเปรียบเสมือนการเดินไปขอบประตูนรก ดังนั้นการที่สามารถให้กำเนิดลูกได้อย่างปลอดภัยถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย เธอจึงไม่คาดหวังอย่างอื่นอีกแต่ว่าช่วงนี้เธอมักจะถูกนางหยูล้างสมองอยู่บ่อยๆ จนถูซินเยว่เองก็คิดว่าท้องนี้อาจจะเป็นลูกผู้ชายก็ได้เป็นผู้ชายก็ดี เพราะความคิดปิดกั้นในยุคโบราณนั้นสร้างความลำบากให้กับหญิงสาวอย่างมาก หากเป็นเด็กผู้ชาย ก็สามารถลดความลำบากหลายๆ อย่างให้เธอได้ไม่น้อยเดิมทีถูซินเยว่อยากจะถามฉงเป่าว่าในท้องตนเองนั้นเป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิงกันแน่ ซึ่งตามปกติแล้วขอเพียงเอาของกินมาล่อนิดล่อหน่อย ฉงเป่าก็ยอมพูดทุกอย่าง มีเพียงแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวที่ไม้ว่าถูซินเยว่ถามอย่างไร อีกฝ่ายก็ไม่ยอมบอก"อย่างไรเสียลูกก็อยู่ในท้องของข้า เจ้าจะบอกหน่อยมิได้หรือว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง? ถึงเจ้าพูดมา ด้วยเงื่อนไขการรักษาแบบนี้ข้าก็ทำอะไรเจ้าไม่ได้มิใช่หรือไง?"อีกอย่าง ถูซินเยว่เองก็ไม่มีความคิดการให้ความสำคัญชายมากกว่าหญิงด

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status