บทที่16“เป็นเช่นนี้จะไม่เป็นอะไรใช่ไหมเจ้าคะ” อู่เฟยถามนายหญิงของตน เรื่องแบบนี้เพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก และฮูหยินใหญ่ก็ดูจะไม่สนใจนายหญิงของนางเลยแม้แต่น้อย แต่กลับแม่นางหลีซูเหยานั้น หากมองให้ชัดก็คงรู้ว่าถ้าฮูหยินใหญ่แห่งตระกูลฟ่านรับสะใภ้ได้เองคงปลดเจ้านายของนางและรับอีกคนเข้ามาในทันทีเป็นแน่“ช่างเถอะอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด รอฟ่านเฉิงเฉิงลับมาก็จะรู้เอง ช่วงนี้ก็แค่ห่าง ๆ กันก็พอ อาจจะต้องลำบากเจ้าจัดโต๊ะอาหารเพราะข้าคงจะไม่โผล่ไปให้สองคนนั้นเห็นหน้า” แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมดที่หญิงสาวเตรียมเอาไว้ แม้จะเป็นสาวชาวบ้านธรรมดา แต่ถึงขั้นหาทางหาความรู้ได้ด้วยตนเองแล้ว เขียนได้ อ่านออก ทำบัญชีคล่องนางก็ไม่ใช่ธรรมดาอย่างที่แสดงให้คนอื่นเห็นหรอก ความสามารถที่ท่านพ่อมีนางก็พอมีบ้าง ฉะนั้นแล้วจากนี้ต่อให้ปัญหาที่เข้ามาจะอันตรายนางก็ไม่กังวล เพราะนางไม่ได้ตัวคนเดียวอีกต่อไปแล้ว ชีวิตของนางมีอีกหนึ่งชีวิตที่ต้องดูแลที่จริงตอนแรกที่เข้ามาที่ตระกูฟ่านหญิงสาวก็ไม่เคยคิดจะสร้างปัญหาให้กับใคร แม้ว่าแม่สามีจะหาเรื่องแต่อีกฝ่ายก็ไม่ค่อยอยากจะเจอหน้านางมากกว่า และอีกอย่างเพราะนางจัดการเรื่องหลายอย่างใน
บทที่17“ท่านแม่ วันนี้เราไปเยี่ยมท่านย่ากันดีไหมเจ้าคะ” หลีซูเหยาเอ่ยชวนอีกฝ่าย เพราะหากท่านแม่และนางไม่ได้อยู่ที่นั่นด้วย ก็จะไม่สามารถทำให้แผนของนางประสบความสำเร็จได้“ก็ดีแม่เองก็ไม่ได้ไปเยี่ยมท่านแม่นานแล้ว แต่เป็นช่วงเย็นได้ไหม” หลีซูเหยาอยากจะบอกออกไปว่าไม่ แต่นางก็ต้องรีบหยุดปากตัวเองเอาไว้ก่อน เพราะการแสดงออกชัดไปหากเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็ยิ่งจะทำให้เรื่องมันวนกลับมาหาตัวนางเอง“ได้เจ้าค่ะท่านแม่ วันนี้ข้าว่าง ๆ มีอะไรให้ช่วยไหมเจ้าคะ”“ไม่มีอะไรหรอก ที่จริงแม่ก็ไม่ค่อยได้ทำอะไรมากนัก นี่ก็แค่ปักผ้าเอาไว้ให้เฉิงเฉิง ไม่รู้ว่าเมื่อไรเขาจะได้กลับมา” ท่าทางเหม่อลอยของคนตรงหน้ายิ่งทำให้หลีซูเหยาคิดว่านางก็เป็นเพียงสตรีชราที่โดดเดียวเพียงคนเดียวเท่านั้นนางคิดถูกแล้วที่จัดการเช่นนี้เพราะท่านแม่ไม่มีวันจัดการหวงอิ่งจื่อได้ ข้าอภัยด้วยนะท่านย่าหากข้าช่วยท่านทันก็ถือว่าสวรรค์ยังเมตตาแต่ถ้าไม่ทัน...“จะว่าไปแม่ก็ไม่มีอะไรทำจะไปหาท่านย่าเลยก็ได้ แม่ขอไปหยิบกำยานให้ท่านแม่ก่อน ท่านแม่จะได้หลับได้ง่ายขึ้นอีกนิด คนมีอายุเวลาจะกินจะนอนก็ยากไปหมด” พอพูดคำนั้นออกมาจากปากก็ทำให้คิดถึงความดีของ
บทที่18“ท่านแม่วันนี้ข้าจะช่วยพี่สาวจัดการท่านย่าดีกว่าเจ้าค่ะ เผื่อบางทีวันข้างหน้าข้าอาจจะต้องทำ” หลีซูเหยาพูดพลางเหลือบมองไปยังหญิงสาวที่เตรียมจัดอาหารและยาให้เหล่าฮูหยินอยู่“พี่สาวให้ข้าช่วยไหมเจ้าคะ” มือเรียวของหลีซูเหยากำลังจะหยิบเอาถ้วยในมือของหวงอิ่งจื่อออกไป แต่หวงอิ่งจื่อกลับดึงเอาไว้“ข้าทำเองได้เจ้าไปเถอะ” นางกำลังจะทำเหมือนที่เคยทำแต่ก็เป็นหลีซูเหยาที่ยื้อเอาไว้อีกครั้งจนน้ำร้อนในถ้วยกระฉอกออกจากถ้วยไปโดนมือของหลีซูเหลาเข้า“โอ๊ย พี่สาว หากจะหวงงานดูแลเอาใจท่านย่าเอาไว้ที่ตนเองคนเดียวก็ควรจะมีความพอดีบ้างสิเจ้าคะ เร่งรีบดึงกลับไปเช่นนนั้น ดูสิน้ำลวกมือข้าร้อนไปหมดแล้ว” หลีซูเหยาแสร้งทำเป็นแสดงได้เป็นอย่างดีที่มันร้อนมันไม่ใช่เพราะน้ำแกงที่ต้มมาหรอก แต่มันเป็นเพราะยาพิษที่นางให้สาวใช้ไปใส่เอาไว้ในน้ำแกงมากกว่า และตอนนี้มันก็คงกำลังทำพิษกับผิวและแหวนเงินที่นางตั้งใจใส่ในวันนี้ “โอ๊ย แสบ แสบจังเลย นี่อะไรกันเนี่ย” หวงอิ่งจื่อที่กำลังป้อนอาหารให้กับท่านย่าชะงักก่อนจะหันไปมองคนทั้งสองที่กำลังจะเดินออกไป“นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย ทำไมแหวนกลายเป็นสีดำอย่างนี้“ ฟูหลันดึงมือของ
บทที่19“คงตกใจมากสินะ” หวงอิ่งจื่อปล่อยโฮร้องไห้ออกมาทันที “ท่านย่านี่มันเกิดอะไรขึ้น” คนอายุมากกว่าอ้าแขนราวกับเรียกให้คนตรงหน้าเข้ามาหา และหวงอิ่งจื่อก็ไม่ปฏิเสธมันนางเดินเข้าสู่อ้อมกอดนั้นในทันที“โชคดีที่คนทำไม่ได้ตั้งใจจะเอาชีวิต หรือตั้งใจแต่ไม่รู้จักยาพิษชนิดนี้ดีพอก็ไม่รู้” คำของท่านย่าทำให้หวงอิ่งจื่อที่กำลังซบอยู่ที่ตักของหญิงชราเงยหน้าขึ้นมองคนพูด“แต่ข้าไม่ได้ทำ ข้าจะทำไปทำไม” คนมีอายุถอนหายใจยาว “ย่ารู้ และย่าก็พอจะเดาได้ด้วยว่าใครทำ อย่างไงวันนี้ก็กลับไปนอนพักก่อนนะ”หญิงชราไม่คิดเลยว่าตระกูลฟ่านจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้ นางคิดว่าเรื่องในวันนี้อันตรายที่สุดแล้วกับคนในครอบครัวของนาง แต่มันก็ยังมีเรื่องอื่นมาให้ต้องตกใจเช้าวัดถัดมาสาวใช้ของหลีซูเหยาคนที่มือเปื้อนยาพิษตายด้วยยาพิษของตนเอง ไม่มีแม้แต่จดหมายลาตายแม้ว่าทุกคนในตระกูลจะเริ่มสงสัยว่าใครกันที่สร้างเรื่องวุ่นวายนี้ แต่คนที่กังวลมากที่สุดคือหวงอิ่งจื่อนางไม่คิดว่าเรื่องมันจะจบเพียงแค่นี้หลังจากวันนั้นนางก็ไม่ต้องจัดการเรื่องอาหารอีกต่อไป แม่สามีไม่พอใจและเป็นกังวล แต่ไม่ใช่แค่แม่สามีที่กังวล นางเองก็กังวลชีว
บทที่20“ท่านย่า ท่านแม่ นี่มันอะไรกัน” ทันทีมาถึงฟ่านเฉิงเฉิงก็ตรงไปที่เรือนนอนของตัวเอง โดยไม่แวะจะพูดหรือคุยกับใครสักคน เขาอยากเห็นว่าภรรยาของตนเองยังอยู่ดี แต่ภาพเรือนที่ว่างเปล่าก็ทำให้กังวลใจแล้ว แต่บางทีนางอาจจะไปนอนกับท่านย่าก็ได้ ทั้ง ๆ ที่คิดเช่นนั้น แต่เมื่อเดินมาถึงโต๊ะของตน หนังสือหย่าและจดหมายที่ไม่แม้แต่จะปิดใส่ซองก็ปรากฏให้เห็นดวงใจของชายหนุ่มตกวูบ เขาถือของเหล่านั้นเดินไปยังเรือนของท่านย่า แน่นอนว่าท่านแม่และคนอื่น ๆ เดินตามมาอย่างไม่ต้องเรียกหา“เจ้าออกไปเรื่องนี้เป็นเรื่องในครอบครัว”มารดาของชายหนุ่มหน้าเสียเมื่อหญิงสาวที่ติดตามมาด้วยอย่างหลี่ซูหลีซูเหยาถูกไล่ออกไปอย่างไม่ไยดี นางดึงมือของหลีซูเหยาให้นั่งลงเคียงข้าง ไม่สนใจคำกล่าวของบุตรชาย“เจ้าออกไปก่อน!“ ฟ่านเฉิงเฉิงส่งสายตายกดดันจนหลีซูเหยาจำต้องลุกเดินออกจรกเรือนไปด้วนสีหน้าราวกับจะร้องไห้ ”พวกเจ้าก็ด้วย ใครไม่มีอะไรเกี่ยวข้องออกไปให้หมด!” ท่าทางเดือดเนื้อร้อนใจแบบที่ฟ่านเฉิงเฉิงไม่เคยเป็น แม้แต่ยามที่เจ้าตัวเป็นหนุ่ม ทำให้คนเป็นแม่เริ่มกังวล แต่เหล่าฮูหยินที่พอจะเดาออกอยู่แล้วกลับไม่แสดงท่าทางอะไร“นางไปแล
บทที่21“ท่านย่าข้าคงไม่พัก หมึกที่ฝนไม่ได้ทำความสะอาดและยังไม่แห้งแสดงว่านางยังออกไปไม่ไกลนัก แต่ที่ต้องมาคุยกับพวกท่านก่อนแค่เพราะอยากรู้เรื่องที่เกิดขึ้น” ฟ่านเฉิงเฉิงพูดอย่างใจเย็นทั้งที่ภายในอกร้อนรนจนไหม้ แต่ถึงกระนั่นก็ยังแสดงสีหน้าเหมือนปกติที่เขาเป็น เย็นชาและนิ่งขรึมจนคนที่มองไม่รู้ว่าชายหนุ่มคิดอะไร“ท่านแม่อีกเรื่องช่วยเก็บของให้หลีซูเหยาด้วย ตระกูลของนางยังอยู่ครบ แม้จะไม่ได้มีกินมีอยู่แบบเมื่อก่อน แต่ไม่ได้มีใครตาย ทั้งบิดามารดาล้วนยังมีชีวิต”คำของบุตรชายทำให้ผู้เป็นแม่อ้าปากค้าง “ให้คนอื่นไปช่วยนางเถอะ อย่าให้แม่เจ้าต้องไปเสี่ยงเลย เรื่องวางยาย่าก็คงเป็นนางนั่นแหละที่ทำ สาวใช้ที่ดูแลนางอยู่ตอนนี้ก็ส่งไปกับนางด้วย เก็บไว้ก็ไม่น่าเชื่อใจอีกแล้ว” เสียงของผู้ที่มีอาวุโสที่สุดในตระกูลเอ่ย และครั้งนี้ก็ไม่มีใครกล้าค้าน คนหนึ่งไม่ต้องการจะค้านอยู่แล้ว อีกคนไม่คิดว่านางจะมองคนผิด“ท่านแม่ ในห้องของลูกมีบัญชีวางอยู่ ช่วงนี้ต้องรบกวนท่านแม่ให้ท่านย่าสอนแล้ว ท่านย่ารบกวนด้วย ท่านทั้งสองข้าลา” ม้าที่ยังพักได้ไม่นานนักถูกขี่ออกไปอีกครั้ง “ไปถึงโรงเตี๊ยมนอกเมืองแล้วข้าจะให้เจ้าพั
บทที่22หวงอิ่งจื่อแทบจะทำอะไรไม่ถูกหลังจากนั้น มือไม่แทบจะประคองตะหลิวเอาไว้ไม่อยู่ โชคดีที่แต่ละโต๊ะที่เข้ามาตอนนี้ได้รับอาหารกันไปหมดแล้ว วันนี้นางไม่มีสมาธิจริง ๆ จากเรื่องที่ได้ยิน แต่เหล่าทหารและไต้ก๋งเรือที่มาแวะกินอาหารประจำก็เข้าใจหญิงสาวที่ต้องเลี้ยงลูกเพียงลำพังนั้น ทำได้เท่าที่หวงอิ่งจื่อทำทุกคนก็ชื่นชมนางจะแย่อยู่แล้ว“พวกข้าช่วยล้างจานไหมแม่นางหวง” เหล่าทหารต่างอาสาเพราะหลายครั้งนางก็ทั้งลดราคาและให้มาจ่ายหลังจากเบี้ยหวัดออก ราวกับว่านี่คือบ้านอีกหลังสำหรับทหารที่ต้องใช้ชีวิตในสถานที่ที่ค่อนข้างอยู่ได้ยากแห่งนี้ที่นี่ไม่มีค่ายทหาร เพราะส่วนมากก็นอนกันบนเรือ แต่การทำเช่นนั้นก็ลำบากหลายอย่าง แต่เพราะต้องออกเรือทันทีที่เกิดเรื่อง อาหารในเรือก็มีให้ตามสมควร แต่ก็ต้องยอมรับว่าการได้กินอาหารฝีมือแม่นางหวงที่เหมือนกับคนเมืองหลวงมันทำให้พวกเขาหายคิดถึงบ้านและเรื่องเหล่านั้นก็เป็นเหมือนกันกับพวกไต้ก๋งเรือนที่ต้องออกไปหาปลาหรือขนส่งสินค้าร้านของหวงอิ่งจื่อจึงโด่งดังมากที่นี่ แม้ว่าจะต้องจัดการเองหลายอย่างเพราะหญิงสาวต้องดูแลบุตรของตนก็ตาม แต่สิ่งที่ได้ก็เรียกว่าคุ้ม“พรุ่งนี้พ
บทที่23ดวงตาของหวงอิ่งจื่อที่มองเลยมาเห็นเข้ากับชายหนุ่มที่คุ้นเคยก็เบิกตาโต “วางเอาไว้ตรงนั้นได้เลยเจ้าค่ะ” นางทำเป็นไม่สนใจสายตาอาวรที่มองมาทุกอย่างในร้านยังคงเป็นไปแบบเดิม ฟ่านเฉิงเฉิงเดินไปหยิบของเหมือนกับคนอื่นตามคำแนะนำของชายกลางคนที่เขาเพิ่งรู้ว่าชื่อลุงเฉิน ชายหนุ่มเลี้ยงจนลุงเฉินบอกว่าตนเองกินไม่ได้อีกต่อไป และเมื่อเขาเห็นว่าเหล่าทหารที่มีคำนินทาถึงแม่ทัพที่กำลังจะเดินทางมาเดินไปล้างจานช่วยหญิงสาวเก็บโต๊ะเขาก็ทำตาม จนเมื่อทุกคนเดินออกไปแล้วนั่นแหละเขาถึงได้หยิบเอาปิ่นที่พกติดตัวตลอดออกมา“อิ่งจื่อ” ชายหนุ่มเอ่ยทักอย่างไม่ปิดบัง เพราะเขาแน่ใจว่าอีกฝ่ายจำได้ว่าเขาเป็นใคร “ไม่ได้พบกันนานเลยนะเจ้าคะ” ใบหน้าที่เอ่ยคำเหล่านั้นออกมาโดยไม่เปลี่ยนสีหน้าไปแม้แต่น้อยทำให้ชายหนุ่มที่มองกังวล“ข้าเอาของมาคืน” ฟ่านเฉิงเฉิงไม่รู้จะพูดอะไร มีหลายอย่างที่เขาอยากเอ่ยกับหญิงสาว แต่พอเจอเข้าจริง ๆ กลับนึกไม่ออกเสียอย่างนั้น“ข้าคงรับคืนไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ นี่คงถือได้ว่าเป็นสินสอดของหมั้น ข้าน้อยเป็นฝ่ายเดินออกมาจากตระกูลฟ่าน ของที่ตระกูลฟ่านมอบให้คงไม่กล้าเก็บเอาไว้” ฟ่านเฉิงเฉิงกำมือแน่น“นี
บทที่30ยามนี้คู่รักเมืองท่าอย่างแม่ทัพฟ่านเฉิงเฉิงและฮูหยินทำให้เหล่าชาวบ้านและทหารอิจฉาไปตาม ๆ กัน แต่เพราะอาหารที่นาน ๆ ที่หญิงสาวที่เคยเปิดร้านอาหารทำแจกคนในเมืองก็ทำให้ทุกคนร่วมยินดีไปกับความรักครั้งนี้ด้วย แม้ว่าจะยังอยากกินอาหารฝีมือหญิงสาวอยู่ก็ตาม“อิ่งจื่อตอนนี้ข้ามีแต่ตัวแล้วนะ เจ้าจะต้องเป็นคนดูแลข้า” ฟ่านเฉิงเฉิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงติดตลกเพราะทั้งชื่อบ้านและเงินต่าง ๆ ของเขา รวมถึงตั๋วเงินที่มีล้วนเป็นชื่อของหญิงสาวหมด นั่นก็เพราะเขาทั้งสองอยากเผื่อเอาไว้เพื่ออนาคตของเฉิงหย่ง และที่สำคัญท่านแม่ของเขาจะได้ไม่หวังเงินทองลาภยศอีกที่จริงเท่าที่มีอยู่ที่เมืองหลวงก็ไม่เรียกว่าน้อย ตระกูลฟ่านถือว่าได้ว่าเป็นกูลขุนนางฐานะปานกลาง ไม่รู้เป็นเพราะท่านแม่ละโมบไปหรือเปล่าถึงทำให้เรื่องราวดูวุ่นวายและในที่สุดเมื่อเฉิงหย่งเริ่มโตขึ้นอีกนิดและพูดจารู้เรื่องฟ่านเฉิงเฉิงและอิ่งจื่อก็จะบุตรชายไปหาท่านทวด แม้จะช้าไปแต่ทั้งสองคนก็มีคำอธิบายที่ชัดเจน อย่างไรการพาเด็กเล็กเดินทางทางเรือหากเกิดอะไรขึ้นคงลำบากอากาศชื้นอย่างไรก็ไม่ดีต่อเด็กน้อย“ท่านย่า ท่านแม่ ไม่ได้พบกันเสียนานนะเจ้าคะ” ท่านย่ายัง
บทที่29หลังจากวันนั้นกลายเป็นหวงอิ่งจื่อที่ยังทำหน้าหนาอยู่ที่บ้านของแม่ทัพต่อไป คำนั้นเป็นเพียงคำที่นางตำหนิตนเองในใจ นางไม่ได้พูดอะไรให้ชัดกับฟ่านเฉิงเฉิงนัก และอีกฝ่ายก็ไม่ได้พูดอะไรกับนางทั้งนางและเขาทำเหมือนกับว่านางและเขาอาศัยอยู่เช่นนี้ด้วยกันมานานแแล้ว หวงอิ่งจื่อเข้ามาช่วยดูเรื่องอาหารและค่าใช้จ่ายในบ้าน เพราะเขาส่งสมุดให้นางจัดการ นางก็ไม่ปฏิเสธบอกให้หาแม่นมมาเลี้ยงดูลูกนางก็ไม่ปฏิเสธ หรือแม้แต่นอนที่ห้องนอนเดียวกับเขา หวงอิ่งจื่อก็ไม่ปฏิเสธ ทั้ง ๆ ที่มันคือทุกอย่างที่ฟ่านเฉิงเฉิงหวังแต่เขากลับรู้สึกไม่ถูกต้องอย่างไรก็ไม่รู้ยามนี้เฉิงหย่งอยู่ในความดูแลของแม่นมถึงสองสามคน เพราะนี่คือสิ่งที่อยู่ในใจของฟ่านเฉิงเฉิงมาโดยตลอด เขาอยากเลี้ยงดูลูกชายให้ดีที่สุด แต่ก่อนหน้านี้กลับทำอะไรไม่ได้สักอย่างและเพราะอย่างนั้นจึงทำให้ฟ่านเฉิงเฉิงและหวงอิ่งจื่อได้มีเวลาของตน พวกเขากลับมานอนร่วมเตียงกันอย่างเงียบ ๆ แม้จะไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่าเอื้อมมือกอดและโอบเอวเอาไว้หลวม ๆ แต่มันก็เกินฝันสำหรับเขาจริง ๆร้านอาหารของแม่นางหวงที่ปิดลงสร้างความวุ่นวายไม่น้อย แต่อาหารที่นางทำเลี้ยงเหล่าทหารหรื
บทที่28“พวกท่านว่าอย่างไรนะ” ใบหน้าของเสวี่ยลู่แสดงท่าทางกังวลอย่างเห็นได้ชัด ส่วนทหารเหล่านั้นก็ทำตัวไม่ถูกแล้ว“แม่นางหวง” ทุกคนตกใจ เพราะท่านแม่ทัพย้ำเอาไว้แล้วว่าไม่ว่าครั้งนี้เจ้าตัวจะทำสำเร็จหรือไม่ ก็ต้องไม่ให้ภรรยาได้รู้“เล่ามาให้หมด เล่ามาเดี๋ยวนี้!” ท่าทางสุขุมเงียบนิ่งที่ปกติทุกคนเคยได้เห็นจากแม่นางหวงเปลี่ยนไปในทันที จนทหารตรงนั้นที่เคยแม้กระทั่งพนันกันว่าแม่นางหวงไม่ได้มีใจให้ท่านแม่ทัพต้องเปลี่ยนใจ เพราะยามนี้นางตั้งสติไม่อยู่ด้วยซ้ำเรื่องราวตั้งแต่ต้นยันจบถูกเล่าให้กับหญิงสาวได้ฟังเพราะมีลูกน้องออกเรือไปช่วยชาวประมงที่เรือล่ม แน่นอนว่าช่วยกลับมาได้บ้าง แต่ก็มีบางส่วนที่ช่วยไม่ได้ และคาดว่าจะมีบางส่วนติดอยู่ที่เกาะเล็ก ๆ ด้วย แม่ทัพฟ่านจึงออกเรือไปช่วยค้นหาคนรอด แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีข่าวกลับมา นั่นคือสิ่งที่หวงอิ่งจื่อได้ฟัง“ที่จริงมีไต้ก๋งเรือหลายลำบอกให้ทำใจแล้ว แต่พวกเราก็ยังพยายามหากันอยู่“หวงอิ่งจื่อได้ฟังก็ทรุดตัวลง นางเอ่ยถามเสียงเครือ“แล้วทำไมไม่บอกข้า”ทหารทุกนายตรงนั้นปิดปากเงียบ “ท่านแม่ทัพแจ้งเอาไว้ว่าไม่ควรทำให้แม่นางหวงหนักใจ และหากเกิดอะไรขึ้นจริง ๆ
บทที่27ฟ่านเฉิงเฉิงคิดว่าตนเองได้พูดสิ่งที่อยากพูดไปหมดแล้วจริง ๆ เป็นอิ่งจื่อต่างหากที่ยังคงไม่ไว้ใจเขาที่เหลือก็คงรอแค่เวลาเท่านั้นแล้ว“อิ่งจื่อ ข้ารู้ว่าทำให้เจ้าเจ็บปวดแต่เจ้าคิดบ้างไหมว่านี่เราก็เจ็บปวดกันทั้งคู่ หากเจ้าบอกว่าไม่คิดอะไรกับข้าเลยข้าไม่เชื่อหรอก” ชายหนุ่มเอ่ยสิ่งที่คิด แต่ก็ใช่มันตรงกับความรู้สึกในใจของหญิงสาว“ข้ากลัว ข้าไม่อยากรู้สึกเช่นนั้นอีกแล้ว” ฟ่านเฉิงเฉิงเข้าใจแต่เขาไม่คิดว่าการทำเช่นนี้หญิงสาวทำอยู่ถูกต้อง “แม้ว่าก่อนหน้านี้ข้าและครอบครัวจะเป็นคนทำผิดกับเจ้าก็จริง แต่เจ้าเคยนึกบ้างไหมว่าเฉิงหย่งเขาไม่ผิด ทำไมถึงต้องรับผลกระทำของเรา ข้ายินดีจะแก้ไขทุกอย่างที่ทำให้เจ้ากังวล เช่นนั้นแล้วไม่ลองคิดดูหน่อยหรือ” และคำตอบของหวงอิ่งจื่อคือการเดินจากไปฟ่านเฉิงเฉิงส่ายหน้าให้กับตนเอง เสื้อที่อีกฝ่ายยัดใส่มือเขาทำให้จิตใจชุ่มชื้นขึ้น แต่มันก็เป็นเพียงแค่นั้นไม่มีอะไรเลย“ข้าไม่รบกวนเจ้าแล้ว” ฟ่านเฉิงเฉิงเข้าไปลาอีกฝ่ายเขาคิดว่าตอนนี้เขาไม่พร้อมจะเผชิญหน้ากับหญิงสาวจริง ๆหวงอิ่งจื่อมองคนที่เดินจากไปด้วยจิตใจที่สั่นไหว นางเดินกลับไปดูลูกชาย ที่จริงนางเข้าใจทุกอย่
บทที่26หวงอิ่งจื่อคอยสังเกตุฟ่านเฉิงเฉิง อีกฝ่ายดูเหมือนจะได้รับบาดเจ็บ แต่กลับไม่ได้แสดงออกมากนัก และก็ยังคอยมาช่วยเหลือนางเรื่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่ดูเจ็บปวดบาดแผลแท้ ๆ“หากเจ็บก็พักบ้างเถอะ” ฟ่านเฉิงเฉิงส่ายหน้า “จะพักได้อย่างไร เจ้าต้องเหนื่อยทั้งทำงานทั้งเลี้ยงลูก ข้าช่วยอะไรได้บ้างก็อยากช่วย” และแม้ฟ่านเฉิงเฉิงอยากจะถามหญิงสาวว่าท่านย่าเขียนมาว่าอย่างไร แต่เขาก็ปิดปากเงียบเอาไว้“เลือดท่านออก” หวงอิ่งจื่อทักอีกฝ่ายเมื่อเห็นเสื้ออีกฝ่ายชุ่มไปด้วยเลือด “เดี๋ยวค่อยกลับไปทำแผลก็ได้”หญิงสาวถอนหายใจ ถึงนางจะไม่อยากให้อีกฝ่ายอยู่ที่นี่ ทั้งเพราะไม่อยากให้ความหวังอีกคนและไม่อยากทำให้ตัวเองใจอ่อน แต่จะไล่คนที่เลือดชุ่มเช่นนั้นกลับไปโดยไม่ทำอะไรเลยคงไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก“ทำแผลที่นี่ก็ได้” แววตาของฟ่านเฉิงเฉิงเปลี่ยนเป็นสดใสจนหวงอิ่งจื่อรู้สึกว่านางเป็นคนโหดร้ายเสียอย่างนั้น“แต่ข้าไม่มีชุดเปลี่ยน” ชายหนุ่มเอ่ยออกมาเสียงเบา“ข้ามี” ไปอาบน้ำก่อนเถอะ แล้วเดี๋ยวข้าจะทำแผลให้”ฟ่านเฉิงเฉิงอาบน้ำด้วยจิตใจที่ค่อนข้างสับสน เขารู้ว่าหวงอิ่งจื่อหนีเขามาและนางก็ไม่ได้เอาอะไรมามากนัก เพราะขนาดชุดหลายชุ
บทที่25ไม่นึกเลยว่าเรื่องจะกลายเป็นเช่นนี้ได้ ทั้ง ๆ ที่ควรเป็นนางไม่ใช่หรืออย่างไรที่ร้องไห้คร่ำครวญที่ต้องตกระกำลำบากนานนับปี แต่ทำไมคนที่มีท่าทางเช่นนั้นกลับเป็นฟ่านเฉิงเฉิงไปได้“ฟ่านเฉิงเฉิง” หวงอิ่งจื่อเอ่ยชื่ออีกฝ่ายด้วยน้ำเสียหนักใจ “ฟังข้าหน่อยเถอะ ถึงจะไม่อยากฟัง หากได้ฟังทั้งหมดแล้วยังไม่ยกโทษให้ก็บอกข้าหน่อยว่าข้าควรทำเช่นไร” เพราะสายตาที่เว้าวอนหวงอิ่งจื่อที่อุ้มลูกอยู่จึงพยักหน้าเบา ๆ“ข้าอาจจะไม่ใช่คนที่พูดจาชัดเจนนัก แต่ก่อนที่จะออกจากบ้านมาข้าได้คุยกับท่านแม่แล้ว ที่จริงข้าเองก็ไม่ได้กลับที่ตระกูลฟ่านเท่า ๆ กับเจ้า” คำนั้นทำให้หวงอิ่งจื่อตกใจ แต่เมื่อนึกว่าอีกฝ่ายอาจจะให้หลีซูเหยาจัดการเรื่องในจวนใบหน้าของหญิงสาวก็แอบบึ้งตึง“แล้วท่านย่าใครจะดูแล”“ท่านแม่เป็นสะใภ้หน้าที่ดูแลท่านย่าก็ควรเป็นของท่านแม่ตั้งแต่ตน ก่อนออกจากบ้านมาข้าคุยกับท่านแม่แล้ว นางเข้าใจผิดหลาย ๆ เรื่องแต่...”“บางเรื่องท่านแม่ก็เลือกที่จะเชื่อเช่นนั้นใช่หรือไม่” หวงอิ่งจื่อถามออกไปตรง ๆ บ้าง เพราะนางรู้ดีว่าที่จากมาส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะแม่ของสามี“อิ่งจื่อ ข้ายอมใช้แซ่เจ้า เป็นหวงก็ได้ หากจะได้อ
บทที่24ในที่สุดวันที่แม่ทัพฟ่านเฉิงเฉิงต้องมาถึงเมืองท่าแห่งนี้ก็มาถึงเพียงแต่คนที่ร่วมขบวนนั้นกลับเป็นคนที่หลาย ๆ คนในเมืองท่าแห่งนี้รู้จักดีแล้วเหล่าทหารต่างร้องโอดครวญกันมากมายเพราะหลายคนนินทาเรื่องแม่ทัพฟ่านกับเจ้าตัวไปเลยด้วยซ้ำ“ท่านแม่ทัพข้าผิดไปแล้ว” ฟ่านเฉิงเฉิงหัวเราะน้อย ๆ “ข้าได้บอกว่าจะเอาโทษเจ้าหรือไม่เล่า แค่เลี้ยงอาหารร้านแม่นางหวงก็เพียงพอแล้ว”ท่าทางของชายหนุ่มที่ไม่เหมือนกับข่าวลือทำให้หลาย ๆ คนที่เริ่มสนิทกับคุณชายแปลกหน้าที่ยามนี้กลายเป็นแม่ทัพแห่งแคว้นอดไม่ได้ที่จะถามไปตรง ๆ“ท่านแม่ทัพข้าไม่นึกเลยว่าท่านจะมาร่วมโต๊ะกับพวกเราเช่นนี้ เมื่อก่อนเคยได้ข่าวว่าท่านค่อนข้างที่จะ...” ฟ่านเฉิงเฉิงยกยิ้ม “เพราะข้าหาคนที่ข้าต้องการจะหาเจอแล้ว” เรื่องของเขาไม่ได้เป็นเรื่องที่ปกปิดใครก็รู้ว่าเขากำลังตามหาภรรยาที่หนีไปหลายคนบอกว่าเขาพาสาวงามเข้าตระกูล จนภรรยาทนไม่ได้จึงได้หนีไป บ้างก็บอกว่าภรรยาของเขาหนีไปกับชู้ แน่นอนว่าเรื่องไม่ดีเช่นนั้นคงมาจากหลีซูเหยาเป็นแน่แต่เพราะเหตุนั้นจึงทำให้ทุกคนรู้เรื่องส่วนตัวของเขา และเขาก็ไม่คิดจะปิดเพราะอย่างน้อยมันอาจจะทำให้เขาหาภรรยาเจ
บทที่23ดวงตาของหวงอิ่งจื่อที่มองเลยมาเห็นเข้ากับชายหนุ่มที่คุ้นเคยก็เบิกตาโต “วางเอาไว้ตรงนั้นได้เลยเจ้าค่ะ” นางทำเป็นไม่สนใจสายตาอาวรที่มองมาทุกอย่างในร้านยังคงเป็นไปแบบเดิม ฟ่านเฉิงเฉิงเดินไปหยิบของเหมือนกับคนอื่นตามคำแนะนำของชายกลางคนที่เขาเพิ่งรู้ว่าชื่อลุงเฉิน ชายหนุ่มเลี้ยงจนลุงเฉินบอกว่าตนเองกินไม่ได้อีกต่อไป และเมื่อเขาเห็นว่าเหล่าทหารที่มีคำนินทาถึงแม่ทัพที่กำลังจะเดินทางมาเดินไปล้างจานช่วยหญิงสาวเก็บโต๊ะเขาก็ทำตาม จนเมื่อทุกคนเดินออกไปแล้วนั่นแหละเขาถึงได้หยิบเอาปิ่นที่พกติดตัวตลอดออกมา“อิ่งจื่อ” ชายหนุ่มเอ่ยทักอย่างไม่ปิดบัง เพราะเขาแน่ใจว่าอีกฝ่ายจำได้ว่าเขาเป็นใคร “ไม่ได้พบกันนานเลยนะเจ้าคะ” ใบหน้าที่เอ่ยคำเหล่านั้นออกมาโดยไม่เปลี่ยนสีหน้าไปแม้แต่น้อยทำให้ชายหนุ่มที่มองกังวล“ข้าเอาของมาคืน” ฟ่านเฉิงเฉิงไม่รู้จะพูดอะไร มีหลายอย่างที่เขาอยากเอ่ยกับหญิงสาว แต่พอเจอเข้าจริง ๆ กลับนึกไม่ออกเสียอย่างนั้น“ข้าคงรับคืนไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ นี่คงถือได้ว่าเป็นสินสอดของหมั้น ข้าน้อยเป็นฝ่ายเดินออกมาจากตระกูลฟ่าน ของที่ตระกูลฟ่านมอบให้คงไม่กล้าเก็บเอาไว้” ฟ่านเฉิงเฉิงกำมือแน่น“นี
บทที่22หวงอิ่งจื่อแทบจะทำอะไรไม่ถูกหลังจากนั้น มือไม่แทบจะประคองตะหลิวเอาไว้ไม่อยู่ โชคดีที่แต่ละโต๊ะที่เข้ามาตอนนี้ได้รับอาหารกันไปหมดแล้ว วันนี้นางไม่มีสมาธิจริง ๆ จากเรื่องที่ได้ยิน แต่เหล่าทหารและไต้ก๋งเรือที่มาแวะกินอาหารประจำก็เข้าใจหญิงสาวที่ต้องเลี้ยงลูกเพียงลำพังนั้น ทำได้เท่าที่หวงอิ่งจื่อทำทุกคนก็ชื่นชมนางจะแย่อยู่แล้ว“พวกข้าช่วยล้างจานไหมแม่นางหวง” เหล่าทหารต่างอาสาเพราะหลายครั้งนางก็ทั้งลดราคาและให้มาจ่ายหลังจากเบี้ยหวัดออก ราวกับว่านี่คือบ้านอีกหลังสำหรับทหารที่ต้องใช้ชีวิตในสถานที่ที่ค่อนข้างอยู่ได้ยากแห่งนี้ที่นี่ไม่มีค่ายทหาร เพราะส่วนมากก็นอนกันบนเรือ แต่การทำเช่นนั้นก็ลำบากหลายอย่าง แต่เพราะต้องออกเรือทันทีที่เกิดเรื่อง อาหารในเรือก็มีให้ตามสมควร แต่ก็ต้องยอมรับว่าการได้กินอาหารฝีมือแม่นางหวงที่เหมือนกับคนเมืองหลวงมันทำให้พวกเขาหายคิดถึงบ้านและเรื่องเหล่านั้นก็เป็นเหมือนกันกับพวกไต้ก๋งเรือนที่ต้องออกไปหาปลาหรือขนส่งสินค้าร้านของหวงอิ่งจื่อจึงโด่งดังมากที่นี่ แม้ว่าจะต้องจัดการเองหลายอย่างเพราะหญิงสาวต้องดูแลบุตรของตนก็ตาม แต่สิ่งที่ได้ก็เรียกว่าคุ้ม“พรุ่งนี้พ