. เมื่ออเล็กซ์มาถึงที่เฮล แองเจิลซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของกลุ่มบริษัท เธาซันด์ ไมล์ ตอน 13.30น ลูกน้องสองสามคนกำลังรอเขาอยู่ที่ประตู ทันทีที่พวกเขาสังเกตเห็นอเล็กซ์ พวกเขาก็โค้งคำนับด้วยความเคารพ “ยินดีต้อนรับครับ นายท่านอเล็กซ์!”อเล็กซ์เริ่มชินกับการเรียกเช่นนี้และพยักหน้า “ท่านเล็กซ์ อยู่ที่ไหน?”“นายท่านเล็กซ์ รออยู่ด้านในครับท่าน”นายท่านเล็กซ์ดูดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับตอนที่ปีศาจดูดพลังและเลือดเนื้อของเขาไป แก้มของเขาแดงเล็กน้อยและดูเหมือนว่าเขาจะแข็งแรงมากขึ้นพอตัวอเล็กซ์สะดุดเข้ากับกลิ่นหอมของยาแผนโบราณ เขาสามารถบอกได้อย่างน่าอัศจรรย์ว่ามีส่วนของสมุนไพรชนิดใดบ้างและอัตราส่วนเท่าไรถึงจะมีกลิ่นเช่นนี้… นี่เป็นอีกความสามารถหนึ่งที่เขาได้มาจากสุดยอดคัมภีร์แห่งแพทยศาสตร์ในตัวยามีโสม ขึ้นฉ่ายป่า สมุนไพรจีน บัวหิมะ และสมุนไพรราคาแพงอื่น ๆ อีกมากมาย ดูเหมือนว่านายท่านเล็กซ์กำลังใช้ยาพวกนี้เพื่อช่วยฟื้นฟูการไหลเวียนของเลือดถึงแม้ว่าจะใช้ในปริมาณที่น้อยนิดก็ตาม แต่มันก็เข้มข้นมาก นั่นคือเหตุผลที่ใบหน้าของนายท่านเล็กซ์แดงระเรื่อเมื่ออเล็กซ์ มาถึงที่นี่นายท่านเล็กซ์ ก็ยิ้มด้วยความดี
“หา? อาเซอร์ เชิญพระคุณท่าน จาร์เซอร์ยาแห่งโอโบลฮา นุเวมมาจริง ๆ เหรอ?”ท่านเล็กซ์หันไป ตกตะลึงกับการปรากฎตัวของพรภิกษุะ รอยยิ้มสดใสปรากฎขึ้นบนใบหน้าทันทีที่เขายกมือไหว้แสดงความเคารพ “นมัสการครับพระคุณท่านจาร์เซอร์ยาที่เคารพ! เป็นเกียรติอย่างสูงที่ท่านมายังบ้านเล็ก ๆ แห่งนี้ ต้องขอโทษด้วย บ้านของกระผมอาจจะดูเล็กไปหน่อย”อเล็กซ์ไม่เคยเห็นท่านเล็กซ์สุภาพอ่อนน้อมขนาดนี้มาก่อนเขานิ่งไปและคิดว่า ‘พระรูปนี้มีพลังอำนาจอะไรเหรอ?’ในระหว่างที่จ้องมองอย่างถ้วนถี่ เขาสังเกตุเห็นอะไรบางอย่างพระรูปนี้มีพลังฉีแฝงที่แข็งแรงอยู่พอสมควร และมีพลังที่พอตัวเลย เป็นครั้งแรกเลยที่อเล็กซ์เห็นคนที่เหมือนกับเขาและอดที่จะรู้สึกสงสัยไม่ได้ เขาอยากสัมผัสพลังฉีของพระรูปนี้ให้มากเท่าที่สามารถทำได้แต่ในขณะที่จ้องมองเข้าไป เขาก็ต้องพบกับความผิดหวังพระรูปนี้ได้ฝึกฝนพลังฉีของเขา แต่เมื่อเทียบกับพลังฉีของอเล็กซ์ พลังของเขาไม่แข็งแกร่งเท่าพลังของอเล็กซ์เลย พลังของพระรูปนี้เทียบแล้วเท่ากับแค่มดตัวหนึ่งเท่านั้นเองอเล็กซ์ได้รับการฝึกฝนพลังฉีมาจากบรรพบุรุษ แม้จะใช้พลังไปแล้วหนึ่งในสาม แต่เขาก็สามารถพัฒนาพลังของเ
ทั้งท่านเล็กซ์และอาเซอร์เบิกตากว้าง พวกเขาแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองจาร์เซอร์ยาเหลือบมองไปทางอเล็กซ์ หวังว่าเขาจะตกตะลึงและประหลาดใจเช่นกัน แต่ชายหนุ่มก็ยังคงนั่งกินขนม หัวเราะคิกคักเหมือนว่าเขากำลังเพลิดเพลินกับคณะละครสัตว์ตรงหน้าภิกษุเดือดดาลมากเสียจนเกือบจะทำพลาดในการร่ายคาถา แต่เขาก็พยายามที่สงบสติอารมณ์และตะโกนออกไปเพื่อควบคุมเครื่องรางให้ไปยังจุดที่วอลทซ์โดนกัดเครื่องรางซึมเข้าไปในแผลทันทีที่ถึงจุดที่เป็นแผล และในพริบตาเดียว เครื่องรางก็แตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย จุดคล้ำที่ต้นขาของวอทลซ์ค่อย ๆ จางหายทันทีเช่นกัน“วอลทซ์ รู้สึกยังไงบ้าง?” อาเซอร์ถามวอลทซ์ด้วยความเป็นห่วง“ดีขึ้นนิดหน่อย” วอลทซ์ค่อย ๆ ตอบแต่ถึงอย่างนั้น เธอดูเหมือนจะป่วยและไม่สบายตัว“พิษที่อยู่ในร่างกายของเธอค่อนข้างแรง แม้แต่พลังของอาตมา ก็เป็นไปได้ยากที่จะกำจัดมันออกไปทั้งหมดภายในวันเดียว แต่ถึงอย่างงั้นก็ไม่ต้องเป็นห่วง อาตมาจะสามารถรักษาเธอได้ภายในหนึ่งอาทิตย์” จาร์เซอร์ยาพูดอาเซอร์เร่งรีบเข้าหาภิกษุทันที “ขอบคุณมากครับที่ช่วยพวกเรา พระอาจารย์”ท่านเล็กซ์ก็ขอบคุณเขาอย่างมากเช่นกัน “สิ่งนั้นมันดีม
“อ๊า! ผีหลอก!”“ช่วยด้วย!”ทุกคนต่างเริ่มร้องออกมาอย่างสุดเสียง ไม่มีใครหน้าไหนที่สามารถยืนนิ่งกับเหตุการณ์ชวนสยองอย่างนี้ได้กะโหลกก่อตัวขึ้นจากควันสีดำที่ควบคุมโดยอาจารย์วาร์ดู ทันทีที่เสียงตะโกนดังขึ้นเพียงหนึ่งครั้ง วิญญาณกะโหลกพุ่งเข้าไปกัดเข้าที่แขนของอาเซอร์ แม้ว่าจะตอบโต้ด้วยร่างกายราวสัตว์ป่าของเ แต่เขาก็ไม่สามารถทนความเจ็บปวดที่เกิดจากวิญญาณร้ายได้อาเซอร์เริ่มร้องอย่างเจ็บปวดและและรู้สึกว่าวิญญาณภายในกายของเขากำลังสั่นสะท้านวิญญาณร้ายกำลังสูบทั้งเลือดและจิตวิญญาณ ทำให้อาเซอร์ทุรนทุรายไปด้วยเนื่องจากได้รับคำเชิญให้มาที่นี่ จาร์เซอร์ยาจึงทนนิ่งเฉยไม่ได้ เขาแผดเสียงไปทางวิญญาณร้ายและพูด “อย่าได้ทำอะไรผู้บริสุทธิ์นะ เจ้าสิ่งชั่วร้าย! แกทำให้ข้าไม่มีทางเลือกนอกจากกำจัดแก!”จาร์เซอร์ยาหยิบเครื่องรางอีกหนึ่งชิ้นออกมาและร่ายพลังฉีของเขาลงไป อักษรที่อยู่บนเครื่องรางส่องแสงออกมากลางอากาศ“เอานี่ไปกินซะ!”เขาโยนเครื่องรางไปยังวิญญาณร้ายอเล็กซ์เฝ้ามองอย่างตั้งใจ แต่แฝงความสงสัยเช่นกัน ถึงแม้ว่าเขาเรียนรู้วิธีการต่าง ๆ มากมายจาก 4 สุดยอดคัมภีร์แห่งแพทยศาสตร์ ไม่ว่าเขาจะมีประ
มันคือขนมของเขานั่นเองพลังฉีของเขาผสานรวมกับขนมที่อยู่ในปาก พุ่งตรงไปยังปากของวิญญาณร้าย ปากของมันถูกปิดผนึกแน่นหนา และถูกสะกดไว้ด้วยคาถาอาคมขลัง“ห๊ะ เกิดอะไรขึ้น?” ทุกคนตกตะลึงวิญญาณร้ายไม่เคยหยุดโจมตีกลางคันแบบนี้มาก่อนอาจารย์วาร์ดูเขย่าขวดของวิญญาณอย่างแรง ตะโกนซ้ำไปซ้ำมา วิญญาณร้ายไม่สนใจคำสั่งของเขาเลย ราวกับว่ามันไม่เชื่อฟังเขาอีกต่อไปอเล็กซ์พูดขึ้น “เป็นวิญญาณที่ชั่วร้ายจริง ๆ แกคงฆ่าคงไปหลายคนแล้วสินะ แกคงจะอยู่บนโลกใบนี้ต่อไปไม่ได้เสียแล้ว”เขากัดที่นิ้วด้านขวาของเขาแล้ววาดสัญลักษณ์ลงบนฝ่ามือข้างซ้ายด้วยเลือด สัญลักษณ์ดูจะเป็นสัญลักษณ์ที่ค่อนข้างโบราณด้วยเขาทาบสัญลักษณ์ไปที่วิญญาณร้าย ทำให้เกิดแสงสว่างเจิดจ้าจากภายในพร้อมกับเสียงฟ้าร้องดังสนั่นหัตถ์อัสนีพิฆาต เป็นทักษะอีกอย่างหนึ่งที่อเล็กซ์เรียกออกมาเพื่อเอาชนะวิญญาณร้าย วิญญาณสูงกรีดร้องด้วยความทุกข์ทรมานก่อนที่จะกลายเป็นหมอกควันสีดำพร้อมถูกดูดกลืนโดยบทมนต์คาถา นี่เป็นวิชาที่น่าเหลือเชื่อมากเพราะเขาสามารถขับไล่และชำระวิญญาณให้ กลายเป็นพลังงานบริสุทธิ์ของตนเองอเล็กซ์สามารถรู้สึกถึงพลังงานบริสุทธิ์ที่ไหลเข้
อเล็กซ์จ้องไปที่ภิกษุจาร์เซอร์ยาที่แสดงท่าทีเคารพเขาไม่ต่างกับท่านเล็กซ์แม้แต่น้อย อเล็กซ์ส่ายหน้าและเอ่ยขึ้น “เปล่า ผมไม่ได้เป็น”จาร์เซอร์ยาตบหน้าตักของเขาและพูด “ใช่แล้ว! หัตถ์อัสนีพิฆาตของวิหารแห่งแสงไม่สามารถแปลงพลังงานของจิตวิญญาณมาใช้เองได้ ท่านร็อคกี้เฟลเลอร์ต้องเป็นองค์เทพอวตารแน่ วิชาของท่านต้องกล้าแกร่งกว่าพวกนั้นแน่”อเล็กซ์ไม่เอ่ยคำใดออกไป ภิกษุรูปนี้อาจจะแก่ แต่เขาขี้ประจบสอพลอมาก เมื่อเทียบกับเล็กซ์ กันเธอร์แต่อย่างไร อเล็กซ์ก็ตัดสินใจที่จะไม่อธิบายอะไรไปมากกว่านี้ เขามองไปที่อาเซอร์และพูดว่า “พวกคุณจัดการที่เหลือได้ใช่ไหม ผมจะไปดูวอลทซ์หน่อย”อาเซอร์รู้สึกอิจฉาขึ้นมาหลังจากได้ยินประโยคนั้น แต่เขากลายเป็นคนไร้พลังเมื่ออยู่ต่อหน้าวิชาลึกลับประหลาดของอเล็กซ์ยิ่งไปกว่านั้น เขาได้รับบาดแผลจากอสูรร้ายตนนั้น สภาพของเขาจึงย่ำแย่กว่าวอลทซ์มาก แล้วอีกอย่างอเล็กซ์ก็ไม่ได้สนิทกับเขาเลย จึงไม่แปลกที่เขาจะรักษาวอลทซ์ก่อน“เกิดอะไรขึ้นข้างนอกคะ?” วอลทซ์ถามด้วยความเป็นห่วงหลังจากสังเกตเห็นอเล็กซ์เดินเข้ามา“ไม่มีอะไรมากหรอก”อเล็กซ์นั่งข้างเตียงและจ้องมองไปที่แผลบนต้นขาของเธอ
จาร์เซอร์ยากล่าวอำลาเพื่อออกจากเซนต์วิลล์อเล็กซ์ดึงท่านเล็กซ์ออกห่างจากผู้คนเพราะต้องการที่จะคุยกับเขาเพียงลำพัง “ผมมีบางอย่างต้องการให้คุณช่วย”เล็กซ์คำนับและพูด “ครับ นายท่าน”อเล็กซ์ดึงท่านเล็กซ์เข้ามาใกล้และต่อว่า “คุณอายุมากกว่าและอาวุโสกว่าผม ไม่จำเป็นต้องก้มหัวให้ทุกครั้งที่เราคุยกันก็ได้ แล้วก็เลิกเรียกผมว่า นายท่าน ได้แล้ว ผมรู้สึกจั๊กจี้ตอนโดนเรียกแบบนี้! นับจากตอนนี้ไป ขอให้เรียกผมว่า ร็อคกี้เฟลเลอร์ ก็พอครับ!”“ครับนายท่าน…ร็อคกี้เฟลเลอร์”“นี่ครับ บัตรของคุณ”อเล็กซ์คืนบัตรธนาคารสีดำที่มีเงินมูลค่าสิบพันล้านเหรียญ ท่านเล็กซ์ตกตะลึง “นี่เป็นเงินของคุณ! คุณอยู่ในวงการนี้โดยไม่มีเงินติดตัวเลยได้ไง?”อเล็กซ์ตอบกลับ “ผมโอนเงินไปบัญชีของผมแล้ว 30ล้านเหรียญ บัตรนี่มันสะดุดตาเกินไปและ10 พันล้านมันมากเกินไป ถ้าภรรยาหรือแม่เจอเข้าละก็ ผมคงไม่รู้ว่าจะอธิบายกับพวกเขาว่ายังไง! อีกอย่างถ้าผมต้องการจะใช้เงิน เดี๋ยวผมบอกให้คุณรู้อีกที”ท่านเล็กซ์พยักหน้า “ผมขอโทษครับที่ไม่ได้คิดให้ถี่ถ้วน! ความปลอดภัยของคุณนายและคุณหนูเป็นสิ่งสำคัญของพวกเรา ผมจะระวังให้มากขึ้นครับ ผมรับปากว่าผมจะ
ในระหว่างทางกลับบ้าน อเล็กซ์ยังคงนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างจาร์เซอร์ยากับวาร์ดูภิกษุจาร์เซอร์ยามีพลังฉีที่แข็งแรงพอสมควร และวาร์ก็มีพลังงานที่คล้ายคลึงกันไหลเวียนอยู่ในร่างกายแต่ทว่าพลังนั้นกลับเป็นพลังที่ดูชั่วร้ายและน่าสะพรึงกลัวพวกเขาหมายถึงอะไรกันนะ ‘บรรลุจุดสูงสุด’?ในตอนนั้น วาร์ดูสบประมาทจาร์เซอร์ยาในขณะที่เขาควบคุมวิญญาณร้าย ว่าจาร์เซอร์ยายังไม่บรรจุดสูงสุด อเล็กซ์พยายามคิดหาคำตอบแต่ก็คิดไม่ออกสืบเนื่องจากสิ่งที่เขาได้รับมาจากบรรพบุรุษ การฝึกฝนจะทำให้พลังฉีของเขาเพิ่มมากขึ้น เมื่อฝึกฝนจนถึงขั้นที่สี่ เขาก็จะได้รับพลังที่แข็งแกร่มากขึ้น‘อืม เห็นน่าสนใจเลย ‘บรรลุจุดสูงสุด’ อะไรนั่นคงไม่แข็งแกร่งเท่ากับพลังที่บรรพบุรุษให้มา’ อเล็กซ์คิดในขณะที่ขับรถกลับเมเปิ้ลวิลล่าแต่เขาต้องหยุดชะงักทันทีที่เขาเข้าไปภายในบ้านในตอนนั้นมีผู้ชายร่างใหญ่ถือมีดสีทองกำลังนั่งอยู่ที่โซฟา เขานั่งจิบไวน์แดงในขณะที่ดูโทรทัศน์อย่างใจเย็น‘เฮ้ย ใครวะเนี้ย? เป็นเพื่อนแม่เหรอ?’ทันใดนั้น เขาก็สังเกตเห็นบริตทานีนอนหมดสติอยู่ข้างโต๊ะกาแฟ สามารถเห็นได้ทันทีว่าหน้าข้างหนึ่งของเธอมีรอยตบและบวมช
“คุณคิดว่าผมอยากรอจริง ๆ เหรอ? ค่าผ่าตัดอย่างน้อยก็ต้องหมดเกือบครึ่งล้าน อีกทั้ง ความเสี่ยงต่อการผ่าตัดก็สูงไม่น้อยเลยด้วย โอกาสรอดคือห้าสิบห้าต่อห้าสิบ ผมอาจจะตายระหว่างผ่าตัดก็ได้ ใครจะไปรู้ล่ะ? อีกอย่าง คุณเองก็รู้ว่าสภาพครอบครัวของผมเป็นยังไง ถ้ามีเรื่องร้ายอะไรเกิดขึ้นกับผม ทั้งแม่แล้วก็น้องสาวผมจะอยู่กันยังไง? แต่ไม่เป็นไรหรอกครับ ไม่ต้องพูดอะไรให้มากความแล้ว ผมจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ ผมมีพัสดุอีกเยอะต้องส่งตอนเที่ยงด้วย” เจ้าของร้านพลันถอนหายใจ พร้อมกับดวงตาเต็มซึ่งไปด้วยความเห็นอกเห็นใจ ดูเหมือนว่านี่จะเป็นโศกนาฏกรรมอีกเรื่องหนึ่ง “เดี๋ยวก่อน!” อเล็กซ์พูดขึ้น "นายเชื่อใจฉันไหมล่ะ?" ชายหนุ่มพลันนิ่งไปเกือบสามวินาที ทันใดนั้น เขาก็พลันเผยยิ้มและพยักหน้า "ฉันเชื่อ ในฐานะเพื่อนของคุณโยเวล คุณคงไม่มีเวลาว่างมาหลอกลวงคนต่ำต้อยอย่างผมหรอก” อเล็กซ์ยืนขึ้น “งั้นก็เชื่อใจฉัน แล้วฉันจะช่วยนายเอง” อเล็กซ์เดินเข้าไปและกางนิ้ว พร้อมกับวางนิ้วหนึ่งไว้เหนือขมับของชายหนุ่ม ตรงนั้นคือตำแหน่งของเนื้องอกซึ่งอยู่ใต้กะโหลกศีรษะของลุค ทันใดนั้น นิ้วของอเล็กซ์ก็ส่องประกายราวกับสีของหยก รา
ในระหว่างนั้น ชายหนุ่มที่สำลักบะหมี่ก่อนหน้าก็หันกลับลงไปนั่งที่โต๊ะของตัวเอง "คุณหนูโยเวล... นักร้องสาวแห่งแคลิฟอร์เนีย? จริงเหรอ?” ทันใดนั้นเอง ใครสักคนก็แอบหยิบโทรศัพท์ออกมาและค้นหาชื่อของนักร้องสาวแห่งแคลิฟอร์เนีย ทว่า ทั้งรูปภาพและผลลัพธ์มากมายต่างก็ปรากฏขึ้นมา อันที่จริง มิเชลล์มักจะทำตัวเป็นเป้าสายตาของสาธารณะชน และไม่ได้พวกใจพวกปาปารัสซี่เท่าไหร่นัก อีกทั้ง คนในตระกูลโนเวลเองก็ไม่ได้สนใจในตัวมิเชลล์ด้วยเช่นกัน เธออยากจะเป็นอะไรก็เป็นไป ด้วยเหตุนั้น มันจึงเป็นเรื่องง่ายไม่น้อยเลยที่จะมองหาคนอย่างเธอ ไม่นานนัก ใครสักคนก็ตะโกนขึ้นมา... "มันเป็นความจริง! ทั้งหมดคือเรื่องจริง! เธอคนนี้คือคุณหนูโยเวลตัวจริงเสียงจริง คุณมิเชลล์ โยเวลยังไงล่ะ!” “ใช่แล้ว! ยังไงก็เถอะ คุณหนูโยเวลอุตส่าห์มากินสตูว์ถึงที่ร้านทั้งที ฉัน... ฉันชักอยากจะขอเธอถ่ายรูปหน่อยแล้วสิ” “นายตาบอดหรือยังไงกัน? ดูเธอสิ เธอกำลังโกรธอยู่นะ ทำไมถึงอยากเข้าไปขอเธอถ่ายรูปตอนนี้กันล่ะ?” หลังจากที่ชายคนนั้นตบตัวเองไปมากกว่าสิบครั้ง แจ็คก็พูดขึ้น "รู้จักผมด้วยงั้นเหรอ?" ชายคนนั้นพยักหน้า แจ็คถามขึ้นอีก
อันที่จริง อเล็กซ์ต้องการที่จะรักษาแจ็คก็เพราะเขาช่วยตนในเรื่องเอกสาร ทันใดนั้น อเล็กซ์เผยยิ้มและกล่าวคำพูดออกมา “คุณเทรนต์ครับ การช่วยชีวิตใครสักคนอาจต้องใช้โชคชะตา แต่ถ้ามีกำลังสงสัยอะไรอยู่ ก็ไม่เป็นไรครับ คุณสามารถไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลได้ตลอดเวลาเลย แต่ยังไงเสีย คุณคงต้องรีบหน่อยแล้วแหละ เพราะนิ่วในไตของคุณตอนนี้อยู่ในตำแหน่งที่แย่มาก คุณอาจะติดเชื้อได้เลยล่ะ" ทว่า ทุกคนก็พลันหัวเราะออกมาอีกครั้ง 'นายไม่ได้ใช้เครื่องอัลตราซาวนด์หรือเครื่องเอ็กซ์เรย์เลยด้วยซ้ำ อีกทั้ง ชีพจรก็ไม่ได้ตรวจ นายจะรู้ได้ยังไงกันว่านิ่วในไตนั้นอยู่ในตำแหน่งดีหรือร้าย? นายมีดวงตาเอ็กซ์เรย์หรือยังไงกัน?' สำหรับคราวนี้ มิเชลล์เองก็พลันเบิกตากว้างเช่นกัน เธอเอาแขนพาดหน้าอกด้วยความสงสัย “อเล็กซ์ นายมีดวงตาเอ็กซ์เรย์ด้วยงั้นเหรอ?” อเล็กซ์ไม่สนใจเธอเลย ทว่า ไม่นานนัก แจ็คก็พูดขึ้น "คุณร็อคกี้เฟลเลอร์ครับ ผมเชื่อใจคุณ” ยังไงเสีย อเล็กซ์เองก็ไม่ได้จะใช้มีดผ่าตัดอยู่แล้ว ดังนั้น แจ็คจึงรู้สึกว่ามันก็คุ้มที่จะลอง อเล็กซ์ไม่พูดอะไรต่อ ไม่นานนัก เขาก็วางมือเอาไว้บนแผล พร้อมกับสอดพลังฉีเข้าไปในร่างกายของ
ผู้หญิงที่พูดขึ้นนั้นนั่งอยู่ข้างหลังอเล็กซ์ ดูเหมือนว่าเธอจะอายุราวสามสิบปีแล้ว ผู้หญิงคนนั้นได้ยินการสนทนาของพวกเขาตั้งแต่เข้ามานั่งใกล้ ๆ แล้ว ผู้หญิงคนนั้นนั่งฟังพวกเขาตั้งแต่ตอนที่มิเชลล์บอกว่าเธอจะจับพริสซิลล่ามาอยู่บนเตียงของอเล็กซ์ ผู้หญิงคนนั้นรู้สึกดูถูกเหยียดหยามทั้งสองอย่างถึงที่สุด อันที่จริง เธออยากจะเรียกตำรวจมาจับพวกเขาด้วยซ้ำ แต่ทว่า เธอก็รู้สึกโล่งใจที่อเล็กซ์ปฏิเสธข้อเสนอไป ต่อมา เธอก็ได้ยินทั้งสองพูดถึงบริษัทเธาซันด์ลีฟ เธอได้ยินมิเชลล์พูดว่าตัวเองนั้นสามารถขอใบอนุญาตได้เลยเพียงแค่เอ่ยวาจา และทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ผู้หญิงคนนั้นก็แทบจะพ่นสตูว์เนื้อรสเผ็ดออกมาทางปาก อันที่จริง เธอเองก็เพิ่งรู้เรื่องเกี่ยวกับบริษัทเธาซันด์ลีฟ สามีของเธอขายวัสดุก่อสร้างอยู่ที่นั่น แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงตัวแทนจำหน่ายรายย่อยที่ทำงานภายใต้แฟรนไชส์ของรัฐแคลิฟอร์เนีย แต่เธอก็รู้ดีว่าเจ้าของบริษัทเธาซันด์ลีฟก็คือตระกูลโยเวล ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในรัฐแคลิฟอร์เนีย อีกทั้ง บริษัทยังได้รับการโฆษณาเป็นอย่างดีอีกด้วย ทว่า สามีของเธอก็ได้แจกจ่ายวัสดุก่อสร้างอยู่ตั้งหลายร
อันที่จริง เบียทริซเองก็กลัวว่าตัวเองจะไม่สามารถเอาชีวิตรอดในมหาวิทยาลัยได้หากจะต้องเปิดโปงพวกเขาทั้งสอง ทันทีที่ทั้งคู่มาถึงลานจอดรถ อเล็กซ์ก็ตระหนักได้ว่ามิเชลล์นั้นซื้อรถสปอร์ตสุดหรูแอสตันมาร์ตินสีแดงให้กับตน โครงสร้างสุดเท่ของรถสปอร์ตคนนี้ค่อนข้างทันสมัย แต่มันไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ขับผ่านถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่ออย่างแน่นอน “โทษทีนะ พอดีฉันหารุ่น M8 ที่นายต้องการไม่ได้เลยน่ะ ตอนนี้ไม่มีรุ่นนั้นเหลืออยู่ในแคลิฟอร์เนียเลยด้วย ยังไงก็เถอะ นายก็ใช้คันนี้พลาง ๆ ไปก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวถ้าของเข้าแล้ว ฉันจะไปซื้อรุ่น M8 มาคืนให้” 'ดูเธอสิ ช่างมีน้ำใจเหลือเกิน' เธอสามารถซื้อรถหรูราคาหลายแสนได้ราวกับว่าซื้อลูกโป่ง “ก็ได้!” อเล็กซ์ไม่เรื่องมากกับเรื่องรถยนต์อยู่แล้ว ทั้งสองเดินทางไปยังร้านอาหารสตูว์รสจัดจ้าน มิเชลล์นึกประหลาดใจ “นายอยากทำกับฉันแบบนี้จริง ๆ เหรอ?” อเล็กซ์ตอบกลับ “ตอนแรกฉันจะรักษาพริสซิลล่า แต่เธอดันกลับบ้านไปก่อน ยังไงเสีย ตอนนี้เรามาสั่งอะไรง่ายๆ กินกันดีกว่า” “นี่นายกำลังพยายามตามจีบพริสซิลล่าอยู่หรือเปล่าเนี่ย? อันที่จริง ฉันช่วยนายได้นะรู้ไหม? ฉันทำให้เธ
“ดาวมหาลัยชนชั้นกลาง... เบียทริซ แอสเส็กซ์งั้นเหรอ?” “เธอคือ...” ทั้งแอนนาลิสและพริสซิลล่าต่างก็จ้องไปที่เบียทริซอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง หลังจากนั้น พวกเขาก็หันไปหาอเล็กซ์ จากท่าทีของทั้งสอง พวกเขาต่างก็รับรู้มาว่าอเล็กซ์เป็นแฟนของมิเชลล์ ไม่อย่างนั้น ทั้งสองจะรู้จักและจูบกันได้ยังไงล่ะ? ในตอนนี้ พวกเขาต่างก็คิดว่ามิเชลล์คงจะต้องตะคอกและทุบตีอเล็กซ์อย่างแน่นอน แม้แต่เบียทริซเองก็คิดเช่นนั้น เบียทริซเรียกอเล็กซ์ว่าพี่เขยก็เพื่อเปิดเผยตัวตนของเขาเอง อีกทั้ง เบียทริซเองก็ต้องการบอกกล่าวให้มิเชลล์รับรู้ว่าว่าอเล็กซ์เป็นชายที่แต่งงานแล้ว และแน่นอน เบียทริซในตอนนี้กำลังเล่นกับความรู้สึกของมิเชลล์อยู่ จากที่เบียทริซรู้เรื่องราวของมิเชลล์มา มิเชลล์จะต้องโมโหและทำร้ายอเล็กซ์อย่างแน่นอน แต่ทว่า กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย มิเชลล์รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ไม่นานนัก เธอก็กล่าวคำพูดขึ้น “เบียทริซ แอสเซ็กซ์ เธอเป็นน้องสะใภ้ของอเล็กซ์หรือยังไงกัน? เธอน่าจะบอกให้เร็วกว่านี้นะ! ยังไงก็เถอะ ถ้ามีใครเข้ามายุ่งวุ่นวายกับเธอ ก็เอ่ยชื่อของฉันออกไปได้เลย แล้วฉันจะมาปกป้องเธอเอง!” "อะไรก
สตีเวนเผยยิ้มเจ้าเล่ห์พร้อมกับคำรามออกมา เขาปลุกพละกำลังภายในที่น่ากลัวและชั่วร้ายออกมาอย่างฉับพลัน พร้อมกับแสงสีแดงที่กะพริบระยิบระยับในดวงตา ระหว่างที่มิเชลล์กำลังจะฟาดฝ่ามือลงไปที่สตีเวน เขาก็พลันตอบโต้การโจมตีด้วยฝ่ามือของตัวเองเช่นกัน ตู้ม! เสียงระเบิดดังก้องกังวานไปทั่วห้องโถง สตีเวนเองก็ได้เก็บซ่อนพลังพิเศษไว้ที่ในฝ่ามือของตัวเอง พลังนั้นพุ่งทะลุผ่านฝ่ามือของมิเชลล์ไป มันเป็นทักษะอันทรงพลังในฐานะจ้าวแห่งเงามรณะเลยก็ว่าได้ หรือเรียกอีกอย่างว่าทักษะแห่งการล่อลวง เพราะเหตุนั้น สตีเวนจึงไม่สนใจการโจมตีมิเชลล์มากนัก เพราะเขารู้ว่าท้ายที่สุดแล้วตนจะต้องชนะอย่างแน่นอน ในตอนนั้นเอง เขาพลันดีดนิ้วและกล่าวคำพูดขึ้นมา “หยุด!” ทว่า ทักษะแห่งชัยชนะทั้งหมดของสตีเวนกลับไม่มีผลอะไรเลยในวันนี้ มิเชลล์พุ่งเข้าใส่สตีเวนด้วยการเคลื่อนไหวที่รุนแรงและเฉียบแหลม เธอยกขาขึ้นแล้วกระแทกไปยังศีรษะของสตีเวนอย่างแรง "อะไรกัน?" อึก! สตีเวนล้มลงไปนอนกับพื้น เขาพลันกลอกตาไปมาและรู้สึกเหมือนจะเป็นลม ทันทีที่สติเริ่มจางหาย ความคิดสุดท้ายของสตีเวนก็พลันปรากฏขึ้นมาในหัว “มันจะเป็นไปได้ยังไง
ตุ๊บ! ท่ามกลางเสียงอึกทึกครึกโครมของฝูงชน มิเชลล์ก็กระโดดข้ามราวขึ้นไปบนเวทีประลอง ระหว่างที่มิเชลล์ขึ้นไปยืนบนเวทีประลอง หน้าอกขนาดมหึมาของเธอก็พลันกระเพื่อมขึ้นลงไม่หยุด ทุกคนต่างตกตะลึงและเบิกตากว้าง โดยเฉพาะเหล่านักเรียนชาย พวกเขาต่างก็ยิ่งอิจฉาอเล็กซ์มากกว่าเดิมทันทีที่เห็นเช่นนั้น มิเชลล์รีบคว้าตัวพริสซิลล่าและลากเธอมาหลบอยู่ด้านหลัง มิเชลล์จ้องไปยังชายวัยกลางคนจอมหยิ่งผยองและกล่าวคำพูดขึ้น “ฉันจะเป็นคู่ต่อสู้ของนายเอง!” พริสซิลล่าในตอนนี้ไม่กล้าที่จะอยู่บนเวทีอีกต่อไปแล้ว ด้วยเหตุนั้น เธอจึงรีบวิ่งออกไปจากลานประลอง พร้อมกับกุมมือตัวเองด้วยความหวาดกลัว อเล็กซ์ตบไหล่ของพริสซิลล่าและเผยยิ้มออกมาอย่างอบอุ่น “เธอทำดีมาก ฉันบอกแล้วว่าเธอต้องชนะ” “ฉัน... ฉันชนะการประลองจริง ๆ เหรอ?” “...” หลายต่อหลายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เริ่มจ้องมองไปที่พริสซิลล่าและกลอกตา แอนนาลิสเองก็ขมวดคิ้วและจ้องไปยังพริสซิลล่าเช่นกัน เธอไม่เข้าใจความสามารถที่ระเบิดออกมาอย่างกะทันหันของพริสซิลล่าเลยแม้แต่น้อย หลังจากนั้น เธอก็คิดเองเออเองว่าเทรเวอร์น่าจะใช้พลังของตัวเองมากเกินไป แอนนาลิสคิดหาวิธีอื่
“พูดบ้าอะไรของเธอกัน?!” ระหว่างกำลังคิดว่านี่คงเป็นแผนของชมรมซาตานที่ต้องการส่งใครสักคนขึ้นมาบนเวทีประลอง เทรเวอร์ก็รู้สึกโกรธไม่น้อย ทันใดนั้น เทรเวอร์ก็พุ่งเข้าไปหาพริสซิลล่าและฟาดฝ่ามือใส่เธอ เทรเวอร์ต้องการสยบพริสซิลล่าด้วยฝ่ามือ นั่นก็เพื่อแสดงให้เห็นถึงพละกำลังและความยิ่งใหญ่ในฐานะประธานชมรมมังกรหยก "อ๊าย!" พริสซิลล่าพลันกรีดร้องและยกมือขึ้นมาตั้งการ์ดโดยสัญชาตญาณ ทันใดนั้น กระแสพลังฉีพลันพุ่งออกมาจากร่างกายของเธอ ตุบ! เทรเวอร์พลันฟาดลงไปยังข้อมือพริสซิลล่า ทว่า เขากลับสัมผัสได้ถึงกระแสพลังจำนวนมหาศาลพุ่งตรงเข้ามา ฟิ้ว! ทันใดนั้น ร่างกายของเทรเวอร์ก็ลอยละล่องขึ้นไปกลางอากาศเหนือเวทีประลองและล้มลงกระแทกกับพื้นอย่างแรง พร้อมกับผมที่ตั้งชูอยู่เหนือศีรษะ ร่างกายของเทรเวอร์สั่นเทา เขาอ้าปากค้างราวกับมีหมอกพิษทมิฬลอยออกมาจากปาก ทุกคนในห้องโถงต่างก็เงียบไปด้วยความตกใจ พวกเขาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเลยด้วยซ้ำ มิเชลล์เองก็เบิกตากว้างเช่นกัน เธอจ้องมองดูสถานการณ์ตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา ดวงตาของแอนนาลิสพลันเบิกกว้าง เธออ้าปากค้างทันใด เธอแทบจะไม่อยากเชื่อเหตุการณ์ท