อเล็กซ์จ้องไปที่ภิกษุจาร์เซอร์ยาที่แสดงท่าทีเคารพเขาไม่ต่างกับท่านเล็กซ์แม้แต่น้อย อเล็กซ์ส่ายหน้าและเอ่ยขึ้น “เปล่า ผมไม่ได้เป็น”จาร์เซอร์ยาตบหน้าตักของเขาและพูด “ใช่แล้ว! หัตถ์อัสนีพิฆาตของวิหารแห่งแสงไม่สามารถแปลงพลังงานของจิตวิญญาณมาใช้เองได้ ท่านร็อคกี้เฟลเลอร์ต้องเป็นองค์เทพอวตารแน่ วิชาของท่านต้องกล้าแกร่งกว่าพวกนั้นแน่”อเล็กซ์ไม่เอ่ยคำใดออกไป ภิกษุรูปนี้อาจจะแก่ แต่เขาขี้ประจบสอพลอมาก เมื่อเทียบกับเล็กซ์ กันเธอร์แต่อย่างไร อเล็กซ์ก็ตัดสินใจที่จะไม่อธิบายอะไรไปมากกว่านี้ เขามองไปที่อาเซอร์และพูดว่า “พวกคุณจัดการที่เหลือได้ใช่ไหม ผมจะไปดูวอลทซ์หน่อย”อาเซอร์รู้สึกอิจฉาขึ้นมาหลังจากได้ยินประโยคนั้น แต่เขากลายเป็นคนไร้พลังเมื่ออยู่ต่อหน้าวิชาลึกลับประหลาดของอเล็กซ์ยิ่งไปกว่านั้น เขาได้รับบาดแผลจากอสูรร้ายตนนั้น สภาพของเขาจึงย่ำแย่กว่าวอลทซ์มาก แล้วอีกอย่างอเล็กซ์ก็ไม่ได้สนิทกับเขาเลย จึงไม่แปลกที่เขาจะรักษาวอลทซ์ก่อน“เกิดอะไรขึ้นข้างนอกคะ?” วอลทซ์ถามด้วยความเป็นห่วงหลังจากสังเกตเห็นอเล็กซ์เดินเข้ามา“ไม่มีอะไรมากหรอก”อเล็กซ์นั่งข้างเตียงและจ้องมองไปที่แผลบนต้นขาของเธอ
จาร์เซอร์ยากล่าวอำลาเพื่อออกจากเซนต์วิลล์อเล็กซ์ดึงท่านเล็กซ์ออกห่างจากผู้คนเพราะต้องการที่จะคุยกับเขาเพียงลำพัง “ผมมีบางอย่างต้องการให้คุณช่วย”เล็กซ์คำนับและพูด “ครับ นายท่าน”อเล็กซ์ดึงท่านเล็กซ์เข้ามาใกล้และต่อว่า “คุณอายุมากกว่าและอาวุโสกว่าผม ไม่จำเป็นต้องก้มหัวให้ทุกครั้งที่เราคุยกันก็ได้ แล้วก็เลิกเรียกผมว่า นายท่าน ได้แล้ว ผมรู้สึกจั๊กจี้ตอนโดนเรียกแบบนี้! นับจากตอนนี้ไป ขอให้เรียกผมว่า ร็อคกี้เฟลเลอร์ ก็พอครับ!”“ครับนายท่าน…ร็อคกี้เฟลเลอร์”“นี่ครับ บัตรของคุณ”อเล็กซ์คืนบัตรธนาคารสีดำที่มีเงินมูลค่าสิบพันล้านเหรียญ ท่านเล็กซ์ตกตะลึง “นี่เป็นเงินของคุณ! คุณอยู่ในวงการนี้โดยไม่มีเงินติดตัวเลยได้ไง?”อเล็กซ์ตอบกลับ “ผมโอนเงินไปบัญชีของผมแล้ว 30ล้านเหรียญ บัตรนี่มันสะดุดตาเกินไปและ10 พันล้านมันมากเกินไป ถ้าภรรยาหรือแม่เจอเข้าละก็ ผมคงไม่รู้ว่าจะอธิบายกับพวกเขาว่ายังไง! อีกอย่างถ้าผมต้องการจะใช้เงิน เดี๋ยวผมบอกให้คุณรู้อีกที”ท่านเล็กซ์พยักหน้า “ผมขอโทษครับที่ไม่ได้คิดให้ถี่ถ้วน! ความปลอดภัยของคุณนายและคุณหนูเป็นสิ่งสำคัญของพวกเรา ผมจะระวังให้มากขึ้นครับ ผมรับปากว่าผมจะ
ในระหว่างทางกลับบ้าน อเล็กซ์ยังคงนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างจาร์เซอร์ยากับวาร์ดูภิกษุจาร์เซอร์ยามีพลังฉีที่แข็งแรงพอสมควร และวาร์ก็มีพลังงานที่คล้ายคลึงกันไหลเวียนอยู่ในร่างกายแต่ทว่าพลังนั้นกลับเป็นพลังที่ดูชั่วร้ายและน่าสะพรึงกลัวพวกเขาหมายถึงอะไรกันนะ ‘บรรลุจุดสูงสุด’?ในตอนนั้น วาร์ดูสบประมาทจาร์เซอร์ยาในขณะที่เขาควบคุมวิญญาณร้าย ว่าจาร์เซอร์ยายังไม่บรรจุดสูงสุด อเล็กซ์พยายามคิดหาคำตอบแต่ก็คิดไม่ออกสืบเนื่องจากสิ่งที่เขาได้รับมาจากบรรพบุรุษ การฝึกฝนจะทำให้พลังฉีของเขาเพิ่มมากขึ้น เมื่อฝึกฝนจนถึงขั้นที่สี่ เขาก็จะได้รับพลังที่แข็งแกร่มากขึ้น‘อืม เห็นน่าสนใจเลย ‘บรรลุจุดสูงสุด’ อะไรนั่นคงไม่แข็งแกร่งเท่ากับพลังที่บรรพบุรุษให้มา’ อเล็กซ์คิดในขณะที่ขับรถกลับเมเปิ้ลวิลล่าแต่เขาต้องหยุดชะงักทันทีที่เขาเข้าไปภายในบ้านในตอนนั้นมีผู้ชายร่างใหญ่ถือมีดสีทองกำลังนั่งอยู่ที่โซฟา เขานั่งจิบไวน์แดงในขณะที่ดูโทรทัศน์อย่างใจเย็น‘เฮ้ย ใครวะเนี้ย? เป็นเพื่อนแม่เหรอ?’ทันใดนั้น เขาก็สังเกตเห็นบริตทานีนอนหมดสติอยู่ข้างโต๊ะกาแฟ สามารถเห็นได้ทันทีว่าหน้าข้างหนึ่งของเธอมีรอยตบและบวมช
อเล็กซ์ยกแขนขึ้นและเหวี่ยงหมัดเช่นเดียวกัน เขาเคลื่อนไหวอย่างว่องไว ราวกับว่าร่างกายของเขาทำมาจากปุยนุ่นแต่เมื่อหมัดของทั้งคู่ชนกัน บร็อครับรู้ได้ถึงพลังงานอันแข็งแกร่งบางอย่างหลั่งไหลออกมาจากหมัดของอเล็กซ์ ทันใดนั้นก็เกิดเสียงจากกระดูกของบร็อคดังลั่นราวว่าแขนของเขากำลังจะหัก ตามมาด้วยไฟฟ้าสถิตทำให้ร่างกายของเขาค่อย ๆ ชา บร็อคมองไปที่แขนที่บิดเบี้ยวของเขา ที่หลุดหย่อนออกจากไหล่ของเขา ต่อมาเขาก็ไม่สามารถรับรู้ถึงความเจ็บปวดอีกต่อไป เขาไม่อยากเชื่อในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอเล็กซ์ที่เปรียบเสมือนมดปลวกตัวหนึ่งหักแขนของเขาได้“นี่…ไม่ใช่เรื่องจริง!” อเล็กซ์เอื้อมมือไปจับแขนอีกข้างของบร็อคและจับแน่นและอีกครั้งหนึ่ง ที่ข้อมือของเขาก็หักอีกข้าง จากนั้นเขาก็ลงมาหักขาของเขาเช่นเดียวกันหมัดสุดท้ายของอเล็กซ์ทำให้การต่อสู้นี้รู้ผลชี้ขาดในทันทีในระยะเวลา 5 วินาที บร็อคที่แสดงทีท่าอวดดีเปรียบตนเองเป็นดั่งพระเจ้า ก็กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไร้ประโยชน์บร็อค เริ่มต้นกระอักเลือดและล้มลงด้วยความเจ็บปวดทรมานในท้ายที่สุด เขาเริ่มต้นกลายเป็นอัมพาตและต้องการให้ทุกอย่างจบลง“ทำไม…ทำไมแกถึงแข็งเกร่ง
วอลทซ์อธิบายว่า “แฟรงค์ อัคคาร์โด เป็นประธานของบริษัท วัลตาเมรี ในแคลิฟอร์เนีย มีอำนาจเทียบเท่ากับพ่อบุญธรรมในด้านชื่อเสียงในวงการใต้ดิน แต่เขาไม่ค่อยเปิดเผยข้อมูลสักเท่าไหร่ เลยค่อนข้างที่จะเป็นคนลึกลับ มีอยู่ช่วงหนึ่งที่มีเรื่องขัดแย้งภายในบริษัทวัลตาเมรี และเกือบจะพ่ายแพ้ แต่อยู่ ๆ เขาก็หายตัวไปแล้วก็ไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้อีกเลย”“ก่อนหน้านี้ อาเซอร์พ่ายแพ้ให้กับเขา” เธอพูดในขณะที่มือของเธอชี้ไปยังบร็อค“อ๋อ?” อเล็กซ์หันไปหาบร็อคเช่นกัน ในขณะที่เคาะนิ้วลงบนโต๊ะกาแฟไปด้วย‘ถ้าแฟรงค์ อัคคาร์โดมีอำนาจขนาดนี้ แล้วทำไมมือขวาของเขาถึงมาทำงานเป็นบอดี้การ์ดให้กับจอห์น ร็อคกี้เฟลเลอร์ล่ะ? พวกเขาไม่แม้แต่จะเกี่ยวข้องกันเลย’‘ที่แม่พูดมาก็เหมือนจะถูก จอห์นจะต้องปิดบังบางอยู่ชั่วร้ายอยู่แน่ ๆ’‘มันจะเกี่ยวข้องกับการตายของพ่อก็ได้สินะ?’ อเล็กซ์ครุ่นคิดในขณะที่เขาเหลือบมองบร็อคด้วยความอาฆาตแค้นเขาเดินเข้าหาบร็อคและคุกเข่าลง “บอกหน่อย ทำไมแกถึงไปทำงานให้จอห์นล่ะ? จอห์นเป็นคนฆ่าพ่อของฉันเหรอ? แกกำลังเล่นละครอะไรอยู่กันแน่?”บร็อคได้แต่ยิ้มและเงียบอเล็กซ์ยิ้มเยาะและจิ้มนิ้วของเขาลงระหว่าง
ก่อนที่วอลทซ์จะพูดสวนขึ้นมา อเล็กซ์พูดต่อ “หน้าอกข้างขวาของคุณได้รับบาดเจ็บมาก่อนหน้านี้ใช่ไหม? คุณเลยรู้สึกเจ็บอยู่บ่อย ๆ ใต้ซี่โครงด้านขวาซี่ที่สาม มันจะส่งผลกับการฝึกของคุณนะ ทุกครั้งที่คุณพยายามควบคุมพลัง ความรู้สึกเจ็บปวดก็จะแล่นไปยังปอด”วอลทซ์ตกตะลึง “คุณรู้ได้ยังไง?”อเล็กซ์ค่อย ๆ ตอบ “ผมรักษาให้คุณได้นะ อาจจะช่วยให้คุณได้พัฒนาทักษะการต่อสู้อีกด้วย แต่ถ้าคุณไม่อยากจะมาเป็นคนรับใช้ให้ผม ก็ช่วยไม่ได้”ตาของวอลทซ์เป็นประกายและรีบพูด “ฉันจะทำ ฉันทำแน่นอน!”หลังจากหยุดพูดไปชั่วครู่ เธอก็พูดขึ้นมาอย่างเขินอาย “แต่…ฉันไม่รู้จักวิธีรับใช้บนเตียงนะ”อเล็กซ์อยากที่จะแกล้งเธออีกหน่อย ‘เรื่องนั้น เดี๋ยวผมสอนให้!’ เขาคิดในใจแต่เขาเก็บความคิดนั้นไว้และเมินเฉย “แม้ว่าคุณจะรู้ ผมก็ไม่ให้คุณทำหรอก รีบจัดการตรงนี้ก่อนเถอะ”วอลทซ์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโทรสั่งการให้คนของเธอมาเก็บกวาดที่เกิดเหตุ เพื่อคลายความกังวลให้อเล็กซ์อเล็กซ์พยักหน้าพร้อมหันไปทางศพและพูดว่า “บร็อค มันต้องการที่จะลักพาตัวฉันกับแม่ไปหาจอห์น”วอลทซ์โกรธ “ทำตัวมีปัญหาเอง เขาเลือกจบแบบนี้ สมควรแล้วล่ะ”อเล็กซ์แสยะยิ้ม “ถ
อเล็กซ์เอามือไขว้หลังและเงยหน้ามองลูกพี่ลูกน้องของเขา เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากถอนหายใจก่อนหน้านี้ คนพวกนี้ยังให้เกียรติเขาและยังเรียกเขา พี่ชาย อยู่เลย แต่เพราะเหตุการณ์ล่าสุด ลูกพี่ลูกน้องที่เคยสนิทอย่างแครอลกลับกลายเป็นเกลียดขี้หน้า และดูถูกเขาราวกับว่าเธออยากจะเหยียบเขาให้เละคาเท้าของเธอเอง‘เฮ้อ ในเมื่อทำอย่างกับว่าฉันเป็นแค่ขยะอย่างนี้แล้ว ฉันจะยึดติดกับอดีตที่ผ่านมาทำไม?’เขาค่อย ๆ พูด “ตาแก่นั้นเป็นอัมพาตเหรอ? แหม่ เร็วดีเหมือนกันนะ คงเป็นเพราะอย่างนี้สินะ เขาถึงเรียกว่ากรรมตามสนอง!”แครอลโกรธ “ว่ายังไงนะ? กล้าดียังไงถึงพูดถึงคุณปู่อย่างนี้? นี่แกยังเป็นคนอยู่หรือเปล่าหรือกลายเป็นสัตว์ไปแล้ว? ไหน ๆ พ่อแกก็เป็นสัตว์ อย่างนั้นแกก็คงไม่ต่างอะไรจากเขา!”ทันใดนั้นอเล็กซ์ยกแขนของเขาขึ้นและฟาดตบเข้าที่หน้าของแคลรอล และเริ่มบวดแดงจากแรงตบท่าทีของอเล็กซ์เย็นชาและดวงตาของเขาเชือดเชือนทุกคน “ตอนเธอแค่เก้าขวบ บ้านของเธอไฟลุกไหม้และเริ่มรุนแรงขึ้น แม้แต่พ่อแม่ของเธอก็ทิ้งเธอไว้ข้างในนั้น บอกมาหน่อย ใครกันที่เสี่ยงชีวิตไปช่วยเธอ? ก็สัตว์ที่เธอพูดถึงนั้นแหละ! ไม่เกี่ยวหรอกว่าจะเป็นพ่อฉันห
เขายังจดจำรอยยิ้มที่สดใสของพ่อเขาได้ ราวกับว่าเขาอยู่ตรงนี้ข้าง ๆ เขา ยิ่งอเล็กซ์นึกถึงก็ยิ่งทำให้อเล็กซ์เศร้าใจ“พ่อครับ พ่อเป็นคนเลือกและซื้อที่นี้ ดังนั้นที่นี้เป็นที่ของพ่อ!”“ลูกของพ่อจะเอาคืนให้พ่อเอง” อเล็กซ์พึมพำกับตัวเองเขาหลับตาลง จมอยู่กับความคิดตัวเองตอนที่จอห์นกลับมาถึงคฤหาสน์ก็ปาเข้าไปห้าโมงเย็นเสียแล้ว ด้วยความกระหายเลือด เขาโทษอเล็กซ์และบริตทานีที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้พ่อและลูกของเขาเป็นอย่างนี้ เขาต้องการที่จะระบายอารมณ์กับสองคนนั้นแต่เมื่อเขาถึงทางเข้า เขาเห็นการ์ดทั้งสองเฟรดอ้าปาก จอห์นผลักเขาไปด้านข้างและถามอย่างเย็นชา “ไอ้ชั้นต่ำ อเล็กซ์มาที่นี้เหรอ?”เฟรดไม่กล้าที่จะขัดคำสั่งเขาและตอบ “เขาอยู่ที่นี้ครับ”“ดีมาก” จอห์นพูดและรีบเข้าไปด้านในคฤหาสน์ เขาคิดหาหลายวิธีที่จะทรมานพวกเขาแม่ลูกแต่เมื่อเขาเดินเข้าไปด้านในคฤหาสน์ ไม่มีใครอยู่ที่นั้นเลย ไม่แม้แต่บร็อค มีแต่อเล็กซ์ที่กำลังนั่งจิบชาและนั่งอยู่บนเก้าอี้ของนายท่านที่ตรงนั้นเป็นที่ของ บิล หัวหน้าตระกูลร็อคกี้เฟลเลอร์จอห์นโกรธมากกว่าเดิม “ใครให้แกไปนั่งตรงนั้น? ใครเอาชาให้แกกิน? ลุกออกไปซะ!”อเล็กซ์จ
“คุณคิดว่าผมอยากรอจริง ๆ เหรอ? ค่าผ่าตัดอย่างน้อยก็ต้องหมดเกือบครึ่งล้าน อีกทั้ง ความเสี่ยงต่อการผ่าตัดก็สูงไม่น้อยเลยด้วย โอกาสรอดคือห้าสิบห้าต่อห้าสิบ ผมอาจจะตายระหว่างผ่าตัดก็ได้ ใครจะไปรู้ล่ะ? อีกอย่าง คุณเองก็รู้ว่าสภาพครอบครัวของผมเป็นยังไง ถ้ามีเรื่องร้ายอะไรเกิดขึ้นกับผม ทั้งแม่แล้วก็น้องสาวผมจะอยู่กันยังไง? แต่ไม่เป็นไรหรอกครับ ไม่ต้องพูดอะไรให้มากความแล้ว ผมจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ ผมมีพัสดุอีกเยอะต้องส่งตอนเที่ยงด้วย” เจ้าของร้านพลันถอนหายใจ พร้อมกับดวงตาเต็มซึ่งไปด้วยความเห็นอกเห็นใจ ดูเหมือนว่านี่จะเป็นโศกนาฏกรรมอีกเรื่องหนึ่ง “เดี๋ยวก่อน!” อเล็กซ์พูดขึ้น "นายเชื่อใจฉันไหมล่ะ?" ชายหนุ่มพลันนิ่งไปเกือบสามวินาที ทันใดนั้น เขาก็พลันเผยยิ้มและพยักหน้า "ฉันเชื่อ ในฐานะเพื่อนของคุณโยเวล คุณคงไม่มีเวลาว่างมาหลอกลวงคนต่ำต้อยอย่างผมหรอก” อเล็กซ์ยืนขึ้น “งั้นก็เชื่อใจฉัน แล้วฉันจะช่วยนายเอง” อเล็กซ์เดินเข้าไปและกางนิ้ว พร้อมกับวางนิ้วหนึ่งไว้เหนือขมับของชายหนุ่ม ตรงนั้นคือตำแหน่งของเนื้องอกซึ่งอยู่ใต้กะโหลกศีรษะของลุค ทันใดนั้น นิ้วของอเล็กซ์ก็ส่องประกายราวกับสีของหยก รา
ในระหว่างนั้น ชายหนุ่มที่สำลักบะหมี่ก่อนหน้าก็หันกลับลงไปนั่งที่โต๊ะของตัวเอง "คุณหนูโยเวล... นักร้องสาวแห่งแคลิฟอร์เนีย? จริงเหรอ?” ทันใดนั้นเอง ใครสักคนก็แอบหยิบโทรศัพท์ออกมาและค้นหาชื่อของนักร้องสาวแห่งแคลิฟอร์เนีย ทว่า ทั้งรูปภาพและผลลัพธ์มากมายต่างก็ปรากฏขึ้นมา อันที่จริง มิเชลล์มักจะทำตัวเป็นเป้าสายตาของสาธารณะชน และไม่ได้พวกใจพวกปาปารัสซี่เท่าไหร่นัก อีกทั้ง คนในตระกูลโนเวลเองก็ไม่ได้สนใจในตัวมิเชลล์ด้วยเช่นกัน เธออยากจะเป็นอะไรก็เป็นไป ด้วยเหตุนั้น มันจึงเป็นเรื่องง่ายไม่น้อยเลยที่จะมองหาคนอย่างเธอ ไม่นานนัก ใครสักคนก็ตะโกนขึ้นมา... "มันเป็นความจริง! ทั้งหมดคือเรื่องจริง! เธอคนนี้คือคุณหนูโยเวลตัวจริงเสียงจริง คุณมิเชลล์ โยเวลยังไงล่ะ!” “ใช่แล้ว! ยังไงก็เถอะ คุณหนูโยเวลอุตส่าห์มากินสตูว์ถึงที่ร้านทั้งที ฉัน... ฉันชักอยากจะขอเธอถ่ายรูปหน่อยแล้วสิ” “นายตาบอดหรือยังไงกัน? ดูเธอสิ เธอกำลังโกรธอยู่นะ ทำไมถึงอยากเข้าไปขอเธอถ่ายรูปตอนนี้กันล่ะ?” หลังจากที่ชายคนนั้นตบตัวเองไปมากกว่าสิบครั้ง แจ็คก็พูดขึ้น "รู้จักผมด้วยงั้นเหรอ?" ชายคนนั้นพยักหน้า แจ็คถามขึ้นอีก
อันที่จริง อเล็กซ์ต้องการที่จะรักษาแจ็คก็เพราะเขาช่วยตนในเรื่องเอกสาร ทันใดนั้น อเล็กซ์เผยยิ้มและกล่าวคำพูดออกมา “คุณเทรนต์ครับ การช่วยชีวิตใครสักคนอาจต้องใช้โชคชะตา แต่ถ้ามีกำลังสงสัยอะไรอยู่ ก็ไม่เป็นไรครับ คุณสามารถไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลได้ตลอดเวลาเลย แต่ยังไงเสีย คุณคงต้องรีบหน่อยแล้วแหละ เพราะนิ่วในไตของคุณตอนนี้อยู่ในตำแหน่งที่แย่มาก คุณอาจะติดเชื้อได้เลยล่ะ" ทว่า ทุกคนก็พลันหัวเราะออกมาอีกครั้ง 'นายไม่ได้ใช้เครื่องอัลตราซาวนด์หรือเครื่องเอ็กซ์เรย์เลยด้วยซ้ำ อีกทั้ง ชีพจรก็ไม่ได้ตรวจ นายจะรู้ได้ยังไงกันว่านิ่วในไตนั้นอยู่ในตำแหน่งดีหรือร้าย? นายมีดวงตาเอ็กซ์เรย์หรือยังไงกัน?' สำหรับคราวนี้ มิเชลล์เองก็พลันเบิกตากว้างเช่นกัน เธอเอาแขนพาดหน้าอกด้วยความสงสัย “อเล็กซ์ นายมีดวงตาเอ็กซ์เรย์ด้วยงั้นเหรอ?” อเล็กซ์ไม่สนใจเธอเลย ทว่า ไม่นานนัก แจ็คก็พูดขึ้น "คุณร็อคกี้เฟลเลอร์ครับ ผมเชื่อใจคุณ” ยังไงเสีย อเล็กซ์เองก็ไม่ได้จะใช้มีดผ่าตัดอยู่แล้ว ดังนั้น แจ็คจึงรู้สึกว่ามันก็คุ้มที่จะลอง อเล็กซ์ไม่พูดอะไรต่อ ไม่นานนัก เขาก็วางมือเอาไว้บนแผล พร้อมกับสอดพลังฉีเข้าไปในร่างกายของ
ผู้หญิงที่พูดขึ้นนั้นนั่งอยู่ข้างหลังอเล็กซ์ ดูเหมือนว่าเธอจะอายุราวสามสิบปีแล้ว ผู้หญิงคนนั้นได้ยินการสนทนาของพวกเขาตั้งแต่เข้ามานั่งใกล้ ๆ แล้ว ผู้หญิงคนนั้นนั่งฟังพวกเขาตั้งแต่ตอนที่มิเชลล์บอกว่าเธอจะจับพริสซิลล่ามาอยู่บนเตียงของอเล็กซ์ ผู้หญิงคนนั้นรู้สึกดูถูกเหยียดหยามทั้งสองอย่างถึงที่สุด อันที่จริง เธออยากจะเรียกตำรวจมาจับพวกเขาด้วยซ้ำ แต่ทว่า เธอก็รู้สึกโล่งใจที่อเล็กซ์ปฏิเสธข้อเสนอไป ต่อมา เธอก็ได้ยินทั้งสองพูดถึงบริษัทเธาซันด์ลีฟ เธอได้ยินมิเชลล์พูดว่าตัวเองนั้นสามารถขอใบอนุญาตได้เลยเพียงแค่เอ่ยวาจา และทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ผู้หญิงคนนั้นก็แทบจะพ่นสตูว์เนื้อรสเผ็ดออกมาทางปาก อันที่จริง เธอเองก็เพิ่งรู้เรื่องเกี่ยวกับบริษัทเธาซันด์ลีฟ สามีของเธอขายวัสดุก่อสร้างอยู่ที่นั่น แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงตัวแทนจำหน่ายรายย่อยที่ทำงานภายใต้แฟรนไชส์ของรัฐแคลิฟอร์เนีย แต่เธอก็รู้ดีว่าเจ้าของบริษัทเธาซันด์ลีฟก็คือตระกูลโยเวล ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในรัฐแคลิฟอร์เนีย อีกทั้ง บริษัทยังได้รับการโฆษณาเป็นอย่างดีอีกด้วย ทว่า สามีของเธอก็ได้แจกจ่ายวัสดุก่อสร้างอยู่ตั้งหลายร
อันที่จริง เบียทริซเองก็กลัวว่าตัวเองจะไม่สามารถเอาชีวิตรอดในมหาวิทยาลัยได้หากจะต้องเปิดโปงพวกเขาทั้งสอง ทันทีที่ทั้งคู่มาถึงลานจอดรถ อเล็กซ์ก็ตระหนักได้ว่ามิเชลล์นั้นซื้อรถสปอร์ตสุดหรูแอสตันมาร์ตินสีแดงให้กับตน โครงสร้างสุดเท่ของรถสปอร์ตคนนี้ค่อนข้างทันสมัย แต่มันไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ขับผ่านถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่ออย่างแน่นอน “โทษทีนะ พอดีฉันหารุ่น M8 ที่นายต้องการไม่ได้เลยน่ะ ตอนนี้ไม่มีรุ่นนั้นเหลืออยู่ในแคลิฟอร์เนียเลยด้วย ยังไงก็เถอะ นายก็ใช้คันนี้พลาง ๆ ไปก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวถ้าของเข้าแล้ว ฉันจะไปซื้อรุ่น M8 มาคืนให้” 'ดูเธอสิ ช่างมีน้ำใจเหลือเกิน' เธอสามารถซื้อรถหรูราคาหลายแสนได้ราวกับว่าซื้อลูกโป่ง “ก็ได้!” อเล็กซ์ไม่เรื่องมากกับเรื่องรถยนต์อยู่แล้ว ทั้งสองเดินทางไปยังร้านอาหารสตูว์รสจัดจ้าน มิเชลล์นึกประหลาดใจ “นายอยากทำกับฉันแบบนี้จริง ๆ เหรอ?” อเล็กซ์ตอบกลับ “ตอนแรกฉันจะรักษาพริสซิลล่า แต่เธอดันกลับบ้านไปก่อน ยังไงเสีย ตอนนี้เรามาสั่งอะไรง่ายๆ กินกันดีกว่า” “นี่นายกำลังพยายามตามจีบพริสซิลล่าอยู่หรือเปล่าเนี่ย? อันที่จริง ฉันช่วยนายได้นะรู้ไหม? ฉันทำให้เธ
“ดาวมหาลัยชนชั้นกลาง... เบียทริซ แอสเส็กซ์งั้นเหรอ?” “เธอคือ...” ทั้งแอนนาลิสและพริสซิลล่าต่างก็จ้องไปที่เบียทริซอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง หลังจากนั้น พวกเขาก็หันไปหาอเล็กซ์ จากท่าทีของทั้งสอง พวกเขาต่างก็รับรู้มาว่าอเล็กซ์เป็นแฟนของมิเชลล์ ไม่อย่างนั้น ทั้งสองจะรู้จักและจูบกันได้ยังไงล่ะ? ในตอนนี้ พวกเขาต่างก็คิดว่ามิเชลล์คงจะต้องตะคอกและทุบตีอเล็กซ์อย่างแน่นอน แม้แต่เบียทริซเองก็คิดเช่นนั้น เบียทริซเรียกอเล็กซ์ว่าพี่เขยก็เพื่อเปิดเผยตัวตนของเขาเอง อีกทั้ง เบียทริซเองก็ต้องการบอกกล่าวให้มิเชลล์รับรู้ว่าว่าอเล็กซ์เป็นชายที่แต่งงานแล้ว และแน่นอน เบียทริซในตอนนี้กำลังเล่นกับความรู้สึกของมิเชลล์อยู่ จากที่เบียทริซรู้เรื่องราวของมิเชลล์มา มิเชลล์จะต้องโมโหและทำร้ายอเล็กซ์อย่างแน่นอน แต่ทว่า กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย มิเชลล์รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ไม่นานนัก เธอก็กล่าวคำพูดขึ้น “เบียทริซ แอสเซ็กซ์ เธอเป็นน้องสะใภ้ของอเล็กซ์หรือยังไงกัน? เธอน่าจะบอกให้เร็วกว่านี้นะ! ยังไงก็เถอะ ถ้ามีใครเข้ามายุ่งวุ่นวายกับเธอ ก็เอ่ยชื่อของฉันออกไปได้เลย แล้วฉันจะมาปกป้องเธอเอง!” "อะไรก
สตีเวนเผยยิ้มเจ้าเล่ห์พร้อมกับคำรามออกมา เขาปลุกพละกำลังภายในที่น่ากลัวและชั่วร้ายออกมาอย่างฉับพลัน พร้อมกับแสงสีแดงที่กะพริบระยิบระยับในดวงตา ระหว่างที่มิเชลล์กำลังจะฟาดฝ่ามือลงไปที่สตีเวน เขาก็พลันตอบโต้การโจมตีด้วยฝ่ามือของตัวเองเช่นกัน ตู้ม! เสียงระเบิดดังก้องกังวานไปทั่วห้องโถง สตีเวนเองก็ได้เก็บซ่อนพลังพิเศษไว้ที่ในฝ่ามือของตัวเอง พลังนั้นพุ่งทะลุผ่านฝ่ามือของมิเชลล์ไป มันเป็นทักษะอันทรงพลังในฐานะจ้าวแห่งเงามรณะเลยก็ว่าได้ หรือเรียกอีกอย่างว่าทักษะแห่งการล่อลวง เพราะเหตุนั้น สตีเวนจึงไม่สนใจการโจมตีมิเชลล์มากนัก เพราะเขารู้ว่าท้ายที่สุดแล้วตนจะต้องชนะอย่างแน่นอน ในตอนนั้นเอง เขาพลันดีดนิ้วและกล่าวคำพูดขึ้นมา “หยุด!” ทว่า ทักษะแห่งชัยชนะทั้งหมดของสตีเวนกลับไม่มีผลอะไรเลยในวันนี้ มิเชลล์พุ่งเข้าใส่สตีเวนด้วยการเคลื่อนไหวที่รุนแรงและเฉียบแหลม เธอยกขาขึ้นแล้วกระแทกไปยังศีรษะของสตีเวนอย่างแรง "อะไรกัน?" อึก! สตีเวนล้มลงไปนอนกับพื้น เขาพลันกลอกตาไปมาและรู้สึกเหมือนจะเป็นลม ทันทีที่สติเริ่มจางหาย ความคิดสุดท้ายของสตีเวนก็พลันปรากฏขึ้นมาในหัว “มันจะเป็นไปได้ยังไง
ตุ๊บ! ท่ามกลางเสียงอึกทึกครึกโครมของฝูงชน มิเชลล์ก็กระโดดข้ามราวขึ้นไปบนเวทีประลอง ระหว่างที่มิเชลล์ขึ้นไปยืนบนเวทีประลอง หน้าอกขนาดมหึมาของเธอก็พลันกระเพื่อมขึ้นลงไม่หยุด ทุกคนต่างตกตะลึงและเบิกตากว้าง โดยเฉพาะเหล่านักเรียนชาย พวกเขาต่างก็ยิ่งอิจฉาอเล็กซ์มากกว่าเดิมทันทีที่เห็นเช่นนั้น มิเชลล์รีบคว้าตัวพริสซิลล่าและลากเธอมาหลบอยู่ด้านหลัง มิเชลล์จ้องไปยังชายวัยกลางคนจอมหยิ่งผยองและกล่าวคำพูดขึ้น “ฉันจะเป็นคู่ต่อสู้ของนายเอง!” พริสซิลล่าในตอนนี้ไม่กล้าที่จะอยู่บนเวทีอีกต่อไปแล้ว ด้วยเหตุนั้น เธอจึงรีบวิ่งออกไปจากลานประลอง พร้อมกับกุมมือตัวเองด้วยความหวาดกลัว อเล็กซ์ตบไหล่ของพริสซิลล่าและเผยยิ้มออกมาอย่างอบอุ่น “เธอทำดีมาก ฉันบอกแล้วว่าเธอต้องชนะ” “ฉัน... ฉันชนะการประลองจริง ๆ เหรอ?” “...” หลายต่อหลายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เริ่มจ้องมองไปที่พริสซิลล่าและกลอกตา แอนนาลิสเองก็ขมวดคิ้วและจ้องไปยังพริสซิลล่าเช่นกัน เธอไม่เข้าใจความสามารถที่ระเบิดออกมาอย่างกะทันหันของพริสซิลล่าเลยแม้แต่น้อย หลังจากนั้น เธอก็คิดเองเออเองว่าเทรเวอร์น่าจะใช้พลังของตัวเองมากเกินไป แอนนาลิสคิดหาวิธีอื่
“พูดบ้าอะไรของเธอกัน?!” ระหว่างกำลังคิดว่านี่คงเป็นแผนของชมรมซาตานที่ต้องการส่งใครสักคนขึ้นมาบนเวทีประลอง เทรเวอร์ก็รู้สึกโกรธไม่น้อย ทันใดนั้น เทรเวอร์ก็พุ่งเข้าไปหาพริสซิลล่าและฟาดฝ่ามือใส่เธอ เทรเวอร์ต้องการสยบพริสซิลล่าด้วยฝ่ามือ นั่นก็เพื่อแสดงให้เห็นถึงพละกำลังและความยิ่งใหญ่ในฐานะประธานชมรมมังกรหยก "อ๊าย!" พริสซิลล่าพลันกรีดร้องและยกมือขึ้นมาตั้งการ์ดโดยสัญชาตญาณ ทันใดนั้น กระแสพลังฉีพลันพุ่งออกมาจากร่างกายของเธอ ตุบ! เทรเวอร์พลันฟาดลงไปยังข้อมือพริสซิลล่า ทว่า เขากลับสัมผัสได้ถึงกระแสพลังจำนวนมหาศาลพุ่งตรงเข้ามา ฟิ้ว! ทันใดนั้น ร่างกายของเทรเวอร์ก็ลอยละล่องขึ้นไปกลางอากาศเหนือเวทีประลองและล้มลงกระแทกกับพื้นอย่างแรง พร้อมกับผมที่ตั้งชูอยู่เหนือศีรษะ ร่างกายของเทรเวอร์สั่นเทา เขาอ้าปากค้างราวกับมีหมอกพิษทมิฬลอยออกมาจากปาก ทุกคนในห้องโถงต่างก็เงียบไปด้วยความตกใจ พวกเขาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเลยด้วยซ้ำ มิเชลล์เองก็เบิกตากว้างเช่นกัน เธอจ้องมองดูสถานการณ์ตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา ดวงตาของแอนนาลิสพลันเบิกกว้าง เธออ้าปากค้างทันใด เธอแทบจะไม่อยากเชื่อเหตุการณ์ท