แชร์

บทที่ 62

ผู้แต่ง: เอเวอร์กรีน ฉิน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
บริตทานี ร็อคกี้เฟลเลอร์ หมดสติและนอนอยู่บนเตียงนานกว่าครึ่งปี ในระหว่างนั้นมีเพียงแค่สายน้ำเกลือเท่านั้นที่พยุงชีวิตของเธอให้ผ่านไปได้ในแต่วัน

แม้ว่าจะฟื้นคืนสติ แต่เธอก็ใช้เวลาไม่น้อยในการพักฟื้นเพื่อในร่างกายกลับมาสมบูรณ์ดังเดิม

ด้วยเหตุนี้ อเล็กซ์ ร็อคกี้เฟลเลอร์ ออกใบสั่งยาเพื่อช่วยเร่งกระบวนการการฟื้นฟูของเธอ

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากไม่มีใบประกอบวิชาชีพแพทย์ เขาจึงไม่สามารถที่จะซื้อยาที่จำเป็นต่อการรักษา จากร้านขายยาและโรงพยาบาลได้ มีเพียงคุณหมอเชอริล โคนีย์ เท่านั้นที่จะช่วยได้ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจโทรหาเธอ

เชอริลอยู่ที่โรงพยาบาลตอนที่พวกเราพูดคุยและตกลงกัน ยิ่งไปกว่านั้น เธอทึ้งกับการรักษาของอเล็กซ์เป็นอย่างมาก

เขาขับรถ M8 มุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลด้วยความเร็วสูง จึงถึงจุดหมายในไม่ช้า

เชอริลกำลังคุยกับครอบครัวของผู้ป่วยภายในห้องทำงาน อเล็กซ์รู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมากเมื่อได้ยินเสียงอันอ่อนโยนและท่าทางที่สง่างามของเธอ

แต่ในทางกลับกัน โดโรธี แอสเส็กซ์

เป็นเวลานานแล้วที่อเล็กซ์ไม่ได้รับความอบอุ่นจากเธอ การละเลยและความเฉยชาเกิดขึ้นในทุก ๆ วัน และด้วยเบียทริซและแคลร์ แอสเล็กซ์เก
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 63

    โดโรธีตบหน้า แอสเส็กซ์ อเล็กซ์ ร็อคกี้เฟลเลอร์ อย่างเต็มแรง ชายหนุ่มมองเธอด้วยความประหลาดใจในขณะที่เชอริล โคนีย์อุทานออกมา “คุณตบเขาทำไม!”โดโรธีจ้องเขม็งไปยังหมอหญิงที่สวมใส่ชุดกราวน์และเอ่ยออกไป “มีปัญหาอะไรงั้นเหรอ? ห๊ะ? เรายังคงเป็นสามีภรรยากันอยู่ หมายความว่าเธอก็ไม่ใช่ใครนอกจาก ชู้!”ตอนนี้มีพยาบาลรอที่จะพบคุณหมอเชอริลอยู่ เธอสีหน้างุนงงทันทีหลังจากเห็นเหตุการณ์สิ่งที่เธอคิดได้มีแค่คุณหมอเชอริล โคนีย์ หลานสาวของหมอที่เก่งที่สุดในรัฐแคริฟอร์เนียและคนดังของโรงพยาบาลเราเล่นชู้กันอยู่อเล็กซ์ขมวดคิ้วและมองไปยังพยาบาลคนนั้น เขารีบดึงโดโรธีออกมาและอธิบาย “หยุดไร้สาระเสียที ไม่มีเรื่องอะไรระหว่างผมกับคุณหมอโคนีย์ทั้งนั้น!”โดโรธีสะบัดมือของเธอ “อย่ามาแตะต้องตัวฉัน! เมื่อกี้คุณกำลังจะทำอะไรกันแน่ ห๊ะ? ฉันเห็นหมดทุกอย่าง!”พวกเขากลายเป็นจุดสนใจของพยาบาลสองสามคนที่อยู่ตรงนั้นอเล็กซ์เข้าใจถึงผลที่จะตามมา หากปล่อยทุกอย่างทิ้งไว้แบบนี้ อเล็กซ์และโดโรธีที่เดินตามอยู่ด้านหลังเดินมุ่งหน้าออกไปพร้อมตะโกน “ขอโทษด้วยครับ คุณหมอโคนีย์! ผมหวังพึ่งคุณเรื่องแม่ผมอยู่! ภรรยาของผมคงจะเชื่อเรื่อ

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 64

    อเล็กซ์ ร็อคกี้เฟลเลอร์อยากออกไปรับสาย แต่มันคงจะทำให้เขาดูมีความผิดเขาอธิบาย “คุณหมอโคนีย์โทรมาน่ะ ผมต้องการที่จะให้เธอช่วยเตรียมใบสั่งยา”เขาไม่ควรอธิบายอะไรเพิ่มอีก ทันใดนั้นโดโรธี แอสเส็กซ์พูดแทรกขึ้น “คุณจะเปิดลำโพงหรือเปล่า?”“เปิดสิ” อเล็กซ์ตอบ“สวัสดีครับคุณหมอโคนีย์!” เขาทักทายหลังจากที่รับสายและเปิดลำโพงสนทนาแต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เชอริลตอบเขาด้วยน้ำเสียงจิกกัดเล็กน้อย “ทำไมถึงเรียกฉันว่า คุณหมอโคนีย์ ล่ะ? เรียกแค่เชอริลก็พอ ไหน ๆ เราก็ไม่ได้อยู่ในโรงพยาบาลแล้ว”อเล็กซ์สะดุ้งเขาสังเกตรังสีอำมหิตจากโดโรธี“อืม คุณมีอะไรจะคุยกับผมเหรอครับ?”“ฉันก็แค่อยากจะรู้….ว่าคุณไม่เป็นไรใช่ไหม?”อเล็กซ์ตอบ “แน่นอน! ไม่ต้องห่วง”เชอริลยิ้ม “ภรรยาเก่าของคุณนี่เล่นใหญ่ไม่เบาเลย ว่าไหม? ฉันก็ตกใจกลัวนิดหน่อย แล้วเธอเป็นยังไงกันบ้าง? ฉันคิดว่าพวกเธอหย่ากันแล้วเสียอีก แล้วทำไมถึงยังเข้ามายุ่งเรื่องของคุณอยู่อีก?”นั่นเป็นเชือกฟางเส้นสุดท้ายก่อนที่โดโรธีจะระเบิดออกมาเธอแย่งโทรศัพท์จากมือเขาและตะโกน “ฟังนะ ฉันไม่ใช่ภรรยาเก่าของเขา! เราไม่ได้หย่ากันและไม่มีวัน! ยอมแพ้ซะเถอะ!

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 65

    หนึ่งชั่วโมงต่อมา ณ คฤหาสน์แอสเส็กซ์โดโรธีกลับมาด้วยสีหน้าอมทุกข์หลังจากได้เห็นสีหน้าของลูกสาว แคลร์ แอสเส็กซ์ แสดงท่าทีพึงพอใจเป็นอย่างยิ่งและพูดเชิงเย้ยหยัน “เป็นอย่างที่บอกใช่ไหม? ศาลเปิดพรุ่งนี้ตอนเช้าโมงเช้า เราจะไปเขียนคำร้องฟ้องหย่ากันทันที”“จะไม่มีการหย่าเกิดขึ้นทั้งนั้นค่ะ” โดโรธีพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาแคลร์ลุกยืนขึ้นทันที “โดโรธี ทำไมถึงหลงมันได้ขนาดนี้? มันมีดีอะไร? ทั้ง ๆ ที่มันทำกับลูกขนาดนี้? ดูนี่ แม่รู้ว่า สปาร์ค ร็อคกี้เฟลเลอร์ชอบลูก พรุ่งนี้แม่จะคุยกับเขาให้”“คุณแม่ นี่เป็นอะไรไปคะ? ลืมไปแล้วเหรอคะว่าไอ้เลวนั้นทำอะไรกับหนูไว้?”“อย่างน้อยเขาก็ดีกว่าอเล็กซ์! มันนอกจากใจลูก!” แคลร์ตอบโดโรธีขึ้นบันไดไปอย่างเกรี้ยวกราดโดยไม่ตอบอะไรแม้แต่นิดเดียว และเธอก็ไม่มีอารมณ์จะรับประทานมื้อค่ำด้วยตอนนี้เป็นเวลาหนึ่งทุ่มตรงเมื่อโดโรธีได้รับสายจากเชอร์แมน ฟอร์ด “คุณหนูแอสเส็กซ์สำนักงานใหญ่โทรมาเพื่อนัดประชุมสำคัญในวันพรุ่งนี้เวลาเก้าโมงเช้าที่บริษัทของเรา คณะกรรมการจะส่งตัวแทนของเขามาทั้งหมดสามคน และผู้บริหารสูงสุดของบริษัทต้องเข้าร่วมด้วย การประชุมจะจัดขึ้นที่ห้อง

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 66

    เชอร์แมน ฟอร์ดหักหลังเธอโดโรธี แอสเส็กซ์รู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก ตลอดเวลาที่ผ่านมา เธอช่วยเหลือเชอร์แมนมาจนทำให้เธอมาถึงจุด ๆ นี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นโอกาสที่เธอได้เข้ามาจัดการงานต่าง ๆ ในบริษัททันทีที่เรียนจบ หรือเรื่องหนี้สินก็ตาม นั่นก็เป็นความช่วยเหลือของโดโรธีมาโดยตลอดแต่ท้ายที่สุด เชอร์แมนก็ตัดสินใจเลือกเอ็มม่า แอสเส็กซ์ และเล่นสกปรกกับโดโรธีแบบนี้ เธออับอายเหลือเกินในการประชุมที่สำคัญอย่างนี้คนทรยศเอ็มม่า ลูกสาวของแอนเดอร์สันและยังเป็นบุคคลที่ลือกันว่าจะมาทำหน้าที่ผู้จัดการคนใหม่แทนโดโรธี เธอมองไปยังลูกพี่ลูกน้องเธอพร้อมยิ้มเย้ย “คุณหนูโดโรธี ฉันเชื่อว่าเลขาของคุณบอกข้อมูลที่ถูกต้องนะคะ ฉันเดาว่าคุณคงนอนเพลินไปหน่อย โธ่ ลูกชายที่ถูกทอดทิ้งของร็อคกี้เฟลเลอร์หอบสัญญาก้อนใหญ่มาวางไว้ตรงหน้าเรา แต่เธอกลับพังมันลงไปไม่เหลือชิ้นดี ฉันรู้ว่าเธอคงจะเสียใจไม่ใช่น้อย ก็เลยเลือกที่จะปลอบใจตัวเองด้วยการนอนซมอยู่บนเตียง แต่ยังไง ก็อย่าเอาแต่จมปลักอยู่กับมันสิ เธอมีบริษัทที่ต้องดูแลนะ”สีหน้าของโดโรธีเยือกเย็นราวกับสายลมฤดูหนาว “เอ็มม่า แอสเส็กซ์ เลิกพูดจาไร้สาระเสียที! คุณไม่ได้อยู่ในคณะผู

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 67

    จากนั้นเธอก็เดินออกไปไม่นาน พนักงานทุกคนภายในบริษัทก็ได้รับเมลล์ว่าด้วยเรื่อง “โดโรธี แอสเส็กซ์ถูกเชิญออกเนื่องจากไร้ความสามารถ เอ็มม่า แอสเส็กซ์ขึ้นรับตำแหน่งแทน” หลายคนรู้สึกว่าโดโรธีถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม โดยเฉพาะกับคนที่ทำงานเคียงข้างโดโรธีตั้งแต่ต้น และรู้ว่าเธอทุ่มเทให้กับบริษัทมากขนาดไหนแต่…หญิงสาวพร้อมกับข้าวของส่วนตัวเดินออกจากบริษัท ไร้ซึ่งคำบอกลาใด ๆ ทุกคนต่างก้มหน้าลงราวกับว่าเธอไร้ตัวตนเมื่อเธอก้าวออกมาจากที่ทำงาน น้ำตาก็ไหลรินออกมาเชอร์แมน ฟอร์ด กำลังรอเธออยู่ที่ทางออก“ฉันทำดีกับเธอมากขนาดนี้ แล้วทำไมต้องหักหลังฉันด้วย?” โดโรธีถามออกไป เธอหมดแล้วซึ่งความเชื่อใจใบหน้าของเชอร์แมนเผยรอยยิ้มที่เย็นยะเยือก “ฉันขอเลือกข้างที่ดีกว่า จะมาโทษว่าฉันโกหกคุณมันก็ไม่ถูกเสียทีเดียว โทษที่เป็นพวกอ่อนหัด ไร้ค่า ของตระกูลแอสเส็กซ์เสียดีกว่า ”“ก็หวังว่าเธอจะไม่เสียใจกับการตัดสินใจนี้นะ” โดโรธีพยักหน้า“แน่นอน โล่งสักที!” เชอร์แมนหันหลังเดินจากไป เธอแกว่งสะโพกอย่างภาคภูมิใจณ สำนักงานใหญ่ของบริษัทก่อสร้าง แอสเส็กซ์ จำกัดเลขานุการสาวสวยเร่งรีบมาเคาะประตูของประธา

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 68

    “อะไรนะ? หมายความว่าเธอคือลูกสาวของชาร์ลส์ คาร์เตอร์ ประธานบริษัทเวย์ลอน อสังหาริมทรัพย์น่ะเหรอ?”โดโรธีบริหารธุรกิจเกี่ยวกับวัสดุก่อสร้างและ 70% ของรายได้ที่ครอบครัวแอสเส็กซ์ได้รับนั้นก็มาจาก บริษัทเวย์ลอน อสังหาริมทรัพย์ ดังนั้น ไม่มีทางที่เธอจะไม่รู้จักชาร์ลส์อย่างไรก็ตาม ชาร์ลส์ไม่เคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับเธอมาก่อนในขณะนั้น ด้วยความตกใจ เธอไม่เอ่ยคำใดออกไป สายตาที่ว่างเปล่าจ้องมองไปยังโซอี้ คาร์เตอร์อยู่อย่างนั้นในขณะนั้นโซอี้มองไปยังโดโรธี เธอถามอย่างไร้เดียงสา “คุณเป็นภรรยาของคุณลุงร็อคกี้เฟลเลอร์เหรอคะ? พวกคุณไม่ได้หย่ากันแล้วเหรอคะ?”และอีกครั้ง โดโรธีรู้สึกงุนงง “ทำไมเธอถึง...สวัสดีจ่ะ โซอี้ ฉันชื่อว่าโดโรธี แอสเส็กซ์ เรียกฉันว่าน้าโดโรธีก็ได้นะ และก็ เราไม่ได้หย่ากันจ่ะ”ปากของโซลอี้คว่ำลงทันทีพร้อมกับถอนหายใจ “เฮ้อ ทำไมถึงไม่หย่ากันนะ? แบบนี้ หนูก็ไม่ได้แต่งงานกับคุณลุงร็อคกี้เฟลเลอร์สิ น่าบื่อจัง!”โดโรธีตะลึงตาค้างอเล็กซ์รีบอธิบาย “โดโรธี เธอยังเป็นเด็กอยู่ เธอยังไม่ประสีประสาอะไรเกี่ยวกับการหย่าเลย อย่าใส่ใจมันมากนักเลย”โซอี้เถียงเสียงดัง “ทำไมหนูจะไม่รู้? หน

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 69

    ต่อมา โดโรธีเห็นบริตทานียืนอยู่กับชายหญิงคู่นึง เธอเคยเห็นรูปชายคนนั้นมาก่อน เขาคือชาร์ลส์ คาร์เตอร์ ข้างๆ กัน มีหญิงสวยสง่ายืนอยู่ ไม่ต้องเดาก็บอกได้ว่าเธอคือภรรยาของชาร์ลส์ เฮลี่ย์ ลอว์สันในขณะนั้นชาร์ล์และเฮลี่ย์กำลังช่วยบริตทานีในห้องครัวเมื่อเห็นภาพนั้น โดโรธีอ้าปากค้าง“คุณแม่! คุณแม่หายดีแล้ว! ดีเลยค่ะ!” โดโรธีพูด“โดโรธี” บริตทานียิ้มรับ “โห ใจดีจังเลยท มีของติดไม้ติดตีมือมาให้แม่เต็มไปหมดเลย ไม่ต้องซื้อมาให้ลำบากก็ได้นะจ๊ะ”บริตทานีมีความคิดที่มีต่อโดโรธีแตกต่างออกไป ตลอดเวลาที่ผ่านมา เธอได้ยินเรื่องว่า ลูกชายเขาไปอาศัยอยู่ในครอบครัวแอสเส็กซ์ ถูกใช้เยี่ยงทาส และยังต้องอับอายเพราะแม่สะใภ้อีก เธอจะไม่โกรธได้อย่างไรกัน ในเมื่อเขาเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเธอ? อย่างไรก็ตาม อเล็กซ์พูดถึงโดโรธีในแง่ดีมาโดยตลอด เขาพูดเสมอว่า ทั้งหมดมันเป็นเพียงข่าวลือ และเขาก็ไม่ใช่คนที่สิ้นไร้ไม้ตอกอย่างใครเขาคาดคิด บริตทานีตัดสินใจปล่อยเรื่องทั้งหมดไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากได้ยินว่าโดโรธีแทงเข้าที่หน้าอกของตนเองเพื่อรักษางานแต่งเอาไว้“นี่ อเล็กซ์! มานี่เร็ว มาเป็นลูกมือช่วยฉันทำอาหารหน่

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 70

    ชาร์ลส์ต้องเลือกที่จะรีบปฏิเสธทันที ถ้าเกิดเป็นก่อนที่เขาจะพบโดโรธีตอนนี้อเล็กซ์และโดโรธีหลังจากที่คืนดีกัน พวกเขาตัดสินใจไม่หย่ากันแล้ว ดังนั้นชาร์ลส์ก็อยากที่จะฟังความคิดเห็นของอเล็กซ์อีกด้วยหลังจากอเล็กซ์ได้ยินอย่างนั้น เขาก็รู้สึกประหลาดใจ เขาไม่คิดว่าชาร์ลส์จะทำเพื่อเขามากขนาดนี้ แต่เขาก็ต้องส่ายหัวทันทีที่ได้ยินชื่อ “เอ็มม่า แอสเส็กซ์” “ก่อนหน้านี้ภรรยาของผมถูกไล่ออกจากบริษัทและคนที่มาแทนที่ก็ดูเหมือนจะเป็นเอ็มม่า แอสเส็กซ์ คนนี้”“อะไรนะ?” ชาร์ลส์ตกใจ เขาไม่คิดเลยว่าโดโรธีจะถูกไล่ออกจากบริษัทก่อสร้าง แอสเส็กซ์ จำกัด แม้ว่าเธอจะเป็นคนในครอบครัวแอสเส็กซ์ก็ตาม อเล็กซ์ยิ้มอย่างอัดอั้นใจ “มันเป็นความผิดของผมเอง ตอนนี้โดโรธีต้องรับผิดชอบแทนผม เพราะเมื่อไม่กี่วันก่อน ผมสร้างปัญญาให้กับโจแอนน์จนเธอขุ่นเคืองใจ”ในขณะนั้น ได้มีสายเข้าปรากฎชื่อของ ‘เบียทริซ แอสเส็กซ์’ บนหน้าจอโทรศัพท์ของเขาหลังจากใช้เวลาสักครู่หนึ่ง เขาก็ตัดสินใจรับโทรศัพท์แต่เสียงที่เขาได้ยินเป็นเสียงของแคลร์ “นี่ อเล็กซ์ โดโรธีอยู่กับแกหรือเปล่า?” “มีเรื่องสำคัญอะไรไหมครับ? ถ้าไม่อย่างงั้น ผมจะวางสาย”

บทล่าสุด

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 200

    “คุณคิดว่าผมอยากรอจริง ๆ เหรอ? ค่าผ่าตัดอย่างน้อยก็ต้องหมดเกือบครึ่งล้าน อีกทั้ง ความเสี่ยงต่อการผ่าตัดก็สูงไม่น้อยเลยด้วย โอกาสรอดคือห้าสิบห้าต่อห้าสิบ ผมอาจจะตายระหว่างผ่าตัดก็ได้ ใครจะไปรู้ล่ะ? อีกอย่าง คุณเองก็รู้ว่าสภาพครอบครัวของผมเป็นยังไง ถ้ามีเรื่องร้ายอะไรเกิดขึ้นกับผม ทั้งแม่แล้วก็น้องสาวผมจะอยู่กันยังไง? แต่ไม่เป็นไรหรอกครับ ไม่ต้องพูดอะไรให้มากความแล้ว ผมจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ ผมมีพัสดุอีกเยอะต้องส่งตอนเที่ยงด้วย” เจ้าของร้านพลันถอนหายใจ พร้อมกับดวงตาเต็มซึ่งไปด้วยความเห็นอกเห็นใจ ดูเหมือนว่านี่จะเป็นโศกนาฏกรรมอีกเรื่องหนึ่ง “เดี๋ยวก่อน!” อเล็กซ์พูดขึ้น "นายเชื่อใจฉันไหมล่ะ?" ชายหนุ่มพลันนิ่งไปเกือบสามวินาที ทันใดนั้น เขาก็พลันเผยยิ้มและพยักหน้า "ฉันเชื่อ ในฐานะเพื่อนของคุณโยเวล คุณคงไม่มีเวลาว่างมาหลอกลวงคนต่ำต้อยอย่างผมหรอก” อเล็กซ์ยืนขึ้น “งั้นก็เชื่อใจฉัน แล้วฉันจะช่วยนายเอง” อเล็กซ์เดินเข้าไปและกางนิ้ว พร้อมกับวางนิ้วหนึ่งไว้เหนือขมับของชายหนุ่ม ตรงนั้นคือตำแหน่งของเนื้องอกซึ่งอยู่ใต้กะโหลกศีรษะของลุค ทันใดนั้น นิ้วของอเล็กซ์ก็ส่องประกายราวกับสีของหยก รา

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 199

    ในระหว่างนั้น ชายหนุ่มที่สำลักบะหมี่ก่อนหน้าก็หันกลับลงไปนั่งที่โต๊ะของตัวเอง "คุณหนูโยเวล... นักร้องสาวแห่งแคลิฟอร์เนีย? จริงเหรอ?” ทันใดนั้นเอง ใครสักคนก็แอบหยิบโทรศัพท์ออกมาและค้นหาชื่อของนักร้องสาวแห่งแคลิฟอร์เนีย ทว่า ทั้งรูปภาพและผลลัพธ์มากมายต่างก็ปรากฏขึ้นมา อันที่จริง มิเชลล์มักจะทำตัวเป็นเป้าสายตาของสาธารณะชน และไม่ได้พวกใจพวกปาปารัสซี่เท่าไหร่นัก อีกทั้ง คนในตระกูลโนเวลเองก็ไม่ได้สนใจในตัวมิเชลล์ด้วยเช่นกัน เธออยากจะเป็นอะไรก็เป็นไป ด้วยเหตุนั้น มันจึงเป็นเรื่องง่ายไม่น้อยเลยที่จะมองหาคนอย่างเธอ ไม่นานนัก ใครสักคนก็ตะโกนขึ้นมา... "มันเป็นความจริง! ทั้งหมดคือเรื่องจริง! เธอคนนี้คือคุณหนูโยเวลตัวจริงเสียงจริง คุณมิเชลล์ โยเวลยังไงล่ะ!” “ใช่แล้ว! ยังไงก็เถอะ คุณหนูโยเวลอุตส่าห์มากินสตูว์ถึงที่ร้านทั้งที ฉัน... ฉันชักอยากจะขอเธอถ่ายรูปหน่อยแล้วสิ” “นายตาบอดหรือยังไงกัน? ดูเธอสิ เธอกำลังโกรธอยู่นะ ทำไมถึงอยากเข้าไปขอเธอถ่ายรูปตอนนี้กันล่ะ?” หลังจากที่ชายคนนั้นตบตัวเองไปมากกว่าสิบครั้ง แจ็คก็พูดขึ้น "รู้จักผมด้วยงั้นเหรอ?" ชายคนนั้นพยักหน้า แจ็คถามขึ้นอีก

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 198

    อันที่จริง อเล็กซ์ต้องการที่จะรักษาแจ็คก็เพราะเขาช่วยตนในเรื่องเอกสาร ทันใดนั้น อเล็กซ์เผยยิ้มและกล่าวคำพูดออกมา “คุณเทรนต์ครับ การช่วยชีวิตใครสักคนอาจต้องใช้โชคชะตา แต่ถ้ามีกำลังสงสัยอะไรอยู่ ก็ไม่เป็นไรครับ คุณสามารถไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลได้ตลอดเวลาเลย แต่ยังไงเสีย คุณคงต้องรีบหน่อยแล้วแหละ เพราะนิ่วในไตของคุณตอนนี้อยู่ในตำแหน่งที่แย่มาก คุณอาจะติดเชื้อได้เลยล่ะ" ทว่า ทุกคนก็พลันหัวเราะออกมาอีกครั้ง 'นายไม่ได้ใช้เครื่องอัลตราซาวนด์หรือเครื่องเอ็กซ์เรย์เลยด้วยซ้ำ อีกทั้ง ชีพจรก็ไม่ได้ตรวจ นายจะรู้ได้ยังไงกันว่านิ่วในไตนั้นอยู่ในตำแหน่งดีหรือร้าย? นายมีดวงตาเอ็กซ์เรย์หรือยังไงกัน?' สำหรับคราวนี้ มิเชลล์เองก็พลันเบิกตากว้างเช่นกัน เธอเอาแขนพาดหน้าอกด้วยความสงสัย “อเล็กซ์ นายมีดวงตาเอ็กซ์เรย์ด้วยงั้นเหรอ?” อเล็กซ์ไม่สนใจเธอเลย ทว่า ไม่นานนัก แจ็คก็พูดขึ้น "คุณร็อคกี้เฟลเลอร์ครับ ผมเชื่อใจคุณ” ยังไงเสีย อเล็กซ์เองก็ไม่ได้จะใช้มีดผ่าตัดอยู่แล้ว ดังนั้น แจ็คจึงรู้สึกว่ามันก็คุ้มที่จะลอง อเล็กซ์ไม่พูดอะไรต่อ ไม่นานนัก เขาก็วางมือเอาไว้บนแผล พร้อมกับสอดพลังฉีเข้าไปในร่างกายของ

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 197

    ผู้หญิงที่พูดขึ้นนั้นนั่งอยู่ข้างหลังอเล็กซ์ ดูเหมือนว่าเธอจะอายุราวสามสิบปีแล้ว ผู้หญิงคนนั้นได้ยินการสนทนาของพวกเขาตั้งแต่เข้ามานั่งใกล้ ๆ แล้ว ผู้หญิงคนนั้นนั่งฟังพวกเขาตั้งแต่ตอนที่มิเชลล์บอกว่าเธอจะจับพริสซิลล่ามาอยู่บนเตียงของอเล็กซ์ ผู้หญิงคนนั้นรู้สึกดูถูกเหยียดหยามทั้งสองอย่างถึงที่สุด อันที่จริง เธออยากจะเรียกตำรวจมาจับพวกเขาด้วยซ้ำ แต่ทว่า เธอก็รู้สึกโล่งใจที่อเล็กซ์ปฏิเสธข้อเสนอไป ต่อมา เธอก็ได้ยินทั้งสองพูดถึงบริษัทเธาซันด์ลีฟ เธอได้ยินมิเชลล์พูดว่าตัวเองนั้นสามารถขอใบอนุญาตได้เลยเพียงแค่เอ่ยวาจา และทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ผู้หญิงคนนั้นก็แทบจะพ่นสตูว์เนื้อรสเผ็ดออกมาทางปาก อันที่จริง เธอเองก็เพิ่งรู้เรื่องเกี่ยวกับบริษัทเธาซันด์ลีฟ สามีของเธอขายวัสดุก่อสร้างอยู่ที่นั่น แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงตัวแทนจำหน่ายรายย่อยที่ทำงานภายใต้แฟรนไชส์ของรัฐแคลิฟอร์เนีย แต่เธอก็รู้ดีว่าเจ้าของบริษัทเธาซันด์ลีฟก็คือตระกูลโยเวล ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในรัฐแคลิฟอร์เนีย อีกทั้ง บริษัทยังได้รับการโฆษณาเป็นอย่างดีอีกด้วย ทว่า สามีของเธอก็ได้แจกจ่ายวัสดุก่อสร้างอยู่ตั้งหลายร

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 196

    อันที่จริง เบียทริซเองก็กลัวว่าตัวเองจะไม่สามารถเอาชีวิตรอดในมหาวิทยาลัยได้หากจะต้องเปิดโปงพวกเขาทั้งสอง ทันทีที่ทั้งคู่มาถึงลานจอดรถ อเล็กซ์ก็ตระหนักได้ว่ามิเชลล์นั้นซื้อรถสปอร์ตสุดหรูแอสตันมาร์ตินสีแดงให้กับตน โครงสร้างสุดเท่ของรถสปอร์ตคนนี้ค่อนข้างทันสมัย ​​แต่มันไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ขับผ่านถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่ออย่างแน่นอน “โทษทีนะ พอดีฉันหารุ่น M8 ที่นายต้องการไม่ได้เลยน่ะ ตอนนี้ไม่มีรุ่นนั้นเหลืออยู่ในแคลิฟอร์เนียเลยด้วย ยังไงก็เถอะ นายก็ใช้คันนี้พลาง ๆ ไปก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวถ้าของเข้าแล้ว ฉันจะไปซื้อรุ่น M8 มาคืนให้” 'ดูเธอสิ ช่างมีน้ำใจเหลือเกิน' เธอสามารถซื้อรถหรูราคาหลายแสนได้ราวกับว่าซื้อลูกโป่ง “ก็ได้!” อเล็กซ์ไม่เรื่องมากกับเรื่องรถยนต์อยู่แล้ว ทั้งสองเดินทางไปยังร้านอาหารสตูว์รสจัดจ้าน มิเชลล์นึกประหลาดใจ “นายอยากทำกับฉันแบบนี้จริง ๆ เหรอ?” อเล็กซ์ตอบกลับ “ตอนแรกฉันจะรักษาพริสซิลล่า แต่เธอดันกลับบ้านไปก่อน ยังไงเสีย ตอนนี้เรามาสั่งอะไรง่ายๆ กินกันดีกว่า” “นี่นายกำลังพยายามตามจีบพริสซิลล่าอยู่หรือเปล่าเนี่ย? อันที่จริง ฉันช่วยนายได้นะรู้ไหม? ฉันทำให้เธ

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 195

    “ดาวมหาลัยชนชั้นกลาง... เบียทริซ แอสเส็กซ์งั้นเหรอ?” “เธอคือ...” ทั้งแอนนาลิสและพริสซิลล่าต่างก็จ้องไปที่เบียทริซอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง หลังจากนั้น พวกเขาก็หันไปหาอเล็กซ์ จากท่าทีของทั้งสอง พวกเขาต่างก็รับรู้มาว่าอเล็กซ์เป็นแฟนของมิเชลล์ ไม่อย่างนั้น ทั้งสองจะรู้จักและจูบกันได้ยังไงล่ะ? ในตอนนี้ พวกเขาต่างก็คิดว่ามิเชลล์คงจะต้องตะคอกและทุบตีอเล็กซ์อย่างแน่นอน แม้แต่เบียทริซเองก็คิดเช่นนั้น เบียทริซเรียกอเล็กซ์ว่าพี่เขยก็เพื่อเปิดเผยตัวตนของเขาเอง อีกทั้ง เบียทริซเองก็ต้องการบอกกล่าวให้มิเชลล์รับรู้ว่าว่าอเล็กซ์เป็นชายที่แต่งงานแล้ว และแน่นอน เบียทริซในตอนนี้กำลังเล่นกับความรู้สึกของมิเชลล์อยู่ จากที่เบียทริซรู้เรื่องราวของมิเชลล์มา มิเชลล์จะต้องโมโหและทำร้ายอเล็กซ์อย่างแน่นอน แต่ทว่า กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย มิเชลล์รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ไม่นานนัก เธอก็กล่าวคำพูดขึ้น “เบียทริซ แอสเซ็กซ์ เธอเป็นน้องสะใภ้ของอเล็กซ์หรือยังไงกัน? เธอน่าจะบอกให้เร็วกว่านี้นะ! ยังไงก็เถอะ ถ้ามีใครเข้ามายุ่งวุ่นวายกับเธอ ก็เอ่ยชื่อของฉันออกไปได้เลย แล้วฉันจะมาปกป้องเธอเอง!” "อะไรก

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 194

    สตีเวนเผยยิ้มเจ้าเล่ห์พร้อมกับคำรามออกมา เขาปลุกพละกำลังภายในที่น่ากลัวและชั่วร้ายออกมาอย่างฉับพลัน พร้อมกับแสงสีแดงที่กะพริบระยิบระยับในดวงตา ระหว่างที่มิเชลล์กำลังจะฟาดฝ่ามือลงไปที่สตีเวน เขาก็พลันตอบโต้การโจมตีด้วยฝ่ามือของตัวเองเช่นกัน ตู้ม! เสียงระเบิดดังก้องกังวานไปทั่วห้องโถง สตีเวนเองก็ได้เก็บซ่อนพลังพิเศษไว้ที่ในฝ่ามือของตัวเอง พลังนั้นพุ่งทะลุผ่านฝ่ามือของมิเชลล์ไป มันเป็นทักษะอันทรงพลังในฐานะจ้าวแห่งเงามรณะเลยก็ว่าได้ หรือเรียกอีกอย่างว่าทักษะแห่งการล่อลวง เพราะเหตุนั้น สตีเวนจึงไม่สนใจการโจมตีมิเชลล์มากนัก เพราะเขารู้ว่าท้ายที่สุดแล้วตนจะต้องชนะอย่างแน่นอน ในตอนนั้นเอง เขาพลันดีดนิ้วและกล่าวคำพูดขึ้นมา “หยุด!” ทว่า ทักษะแห่งชัยชนะทั้งหมดของสตีเวนกลับไม่มีผลอะไรเลยในวันนี้ มิเชลล์พุ่งเข้าใส่สตีเวนด้วยการเคลื่อนไหวที่รุนแรงและเฉียบแหลม เธอยกขาขึ้นแล้วกระแทกไปยังศีรษะของสตีเวนอย่างแรง "อะไรกัน?" อึก! สตีเวนล้มลงไปนอนกับพื้น เขาพลันกลอกตาไปมาและรู้สึกเหมือนจะเป็นลม ทันทีที่สติเริ่มจางหาย ความคิดสุดท้ายของสตีเวนก็พลันปรากฏขึ้นมาในหัว “มันจะเป็นไปได้ยังไง

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 193

    ตุ๊บ! ท่ามกลางเสียงอึกทึกครึกโครมของฝูงชน มิเชลล์ก็กระโดดข้ามราวขึ้นไปบนเวทีประลอง ระหว่างที่มิเชลล์ขึ้นไปยืนบนเวทีประลอง หน้าอกขนาดมหึมาของเธอก็พลันกระเพื่อมขึ้นลงไม่หยุด ทุกคนต่างตกตะลึงและเบิกตากว้าง โดยเฉพาะเหล่านักเรียนชาย พวกเขาต่างก็ยิ่งอิจฉาอเล็กซ์มากกว่าเดิมทันทีที่เห็นเช่นนั้น มิเชลล์รีบคว้าตัวพริสซิลล่าและลากเธอมาหลบอยู่ด้านหลัง มิเชลล์จ้องไปยังชายวัยกลางคนจอมหยิ่งผยองและกล่าวคำพูดขึ้น “ฉันจะเป็นคู่ต่อสู้ของนายเอง!” พริสซิลล่าในตอนนี้ไม่กล้าที่จะอยู่บนเวทีอีกต่อไปแล้ว ด้วยเหตุนั้น เธอจึงรีบวิ่งออกไปจากลานประลอง พร้อมกับกุมมือตัวเองด้วยความหวาดกลัว อเล็กซ์ตบไหล่ของพริสซิลล่าและเผยยิ้มออกมาอย่างอบอุ่น “เธอทำดีมาก ฉันบอกแล้วว่าเธอต้องชนะ” “ฉัน... ฉันชนะการประลองจริง ๆ เหรอ?” “...” หลายต่อหลายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เริ่มจ้องมองไปที่พริสซิลล่าและกลอกตา แอนนาลิสเองก็ขมวดคิ้วและจ้องไปยังพริสซิลล่าเช่นกัน เธอไม่เข้าใจความสามารถที่ระเบิดออกมาอย่างกะทันหันของพริสซิลล่าเลยแม้แต่น้อย หลังจากนั้น เธอก็คิดเองเออเองว่าเทรเวอร์น่าจะใช้พลังของตัวเองมากเกินไป แอนนาลิสคิดหาวิธีอื่

  • สุดชีวาชะตาลิขิต   บทที่ 192

    “พูดบ้าอะไรของเธอกัน?!” ระหว่างกำลังคิดว่านี่คงเป็นแผนของชมรมซาตานที่ต้องการส่งใครสักคนขึ้นมาบนเวทีประลอง เทรเวอร์ก็รู้สึกโกรธไม่น้อย ทันใดนั้น เทรเวอร์ก็พุ่งเข้าไปหาพริสซิลล่าและฟาดฝ่ามือใส่เธอ เทรเวอร์ต้องการสยบพริสซิลล่าด้วยฝ่ามือ นั่นก็เพื่อแสดงให้เห็นถึงพละกำลังและความยิ่งใหญ่ในฐานะประธานชมรมมังกรหยก "อ๊าย!" พริสซิลล่าพลันกรีดร้องและยกมือขึ้นมาตั้งการ์ดโดยสัญชาตญาณ ทันใดนั้น กระแสพลังฉีพลันพุ่งออกมาจากร่างกายของเธอ ตุบ! เทรเวอร์พลันฟาดลงไปยังข้อมือพริสซิลล่า ทว่า เขากลับสัมผัสได้ถึงกระแสพลังจำนวนมหาศาลพุ่งตรงเข้ามา ฟิ้ว! ทันใดนั้น ร่างกายของเทรเวอร์ก็ลอยละล่องขึ้นไปกลางอากาศเหนือเวทีประลองและล้มลงกระแทกกับพื้นอย่างแรง พร้อมกับผมที่ตั้งชูอยู่เหนือศีรษะ ร่างกายของเทรเวอร์สั่นเทา เขาอ้าปากค้างราวกับมีหมอกพิษทมิฬลอยออกมาจากปาก ทุกคนในห้องโถงต่างก็เงียบไปด้วยความตกใจ พวกเขาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเลยด้วยซ้ำ มิเชลล์เองก็เบิกตากว้างเช่นกัน เธอจ้องมองดูสถานการณ์ตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา ดวงตาของแอนนาลิสพลันเบิกกว้าง เธออ้าปากค้างทันใด เธอแทบจะไม่อยากเชื่อเหตุการณ์ท

DMCA.com Protection Status