ดิกคินสันไม่ใช่คนเดียวที่ตกใจฝูงชนต่างตาโตและอ้าปากค้าง พวกเขาต่างพากันดันกันไปมา พยายามที่จะมองไปทีหินให้ได้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ บางคนถึงขั้นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อถ่ายรูป พวกเขาต้องการที่จะอัพเดทลงบนโลกโซเชียลเพื่อเป็นบุญตาครั้งหนึ่งในชีวิตส่วนคุณวิล เจ้าของร้านตัวเขาเริ่มกลายเป็นสีเขียวเช่นกันหลังจากที่เห็นมรกตในแร่ก้อนนั้น แม้เพียงผิวเผินเล็กน้อย เขาก็เห็นแสงเรือนรองและสีสันสดใส นี่เป็นชิ้นที่หายากที่สุด ตามมูลค่าในตลาดมันสามารถขายได้มากกว่าหนึ่งพันล้านเหรียญพวกเขากำลังพูดถึงเงินพันล้านเหรียญอยู่นะ!เขาเก็บแร่ชิ้นนี้ไว้เป็นปี ๆ แต่ก็ไม่เคยเห็นค่าของมันเลย เขาเสียใจกับการตัดสินใจอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้น การพนันขึ้นอยู่กับโชคเพียงสิ่งเดียวในฐานะที่อยู่ในอุตสาหกรรมเหมืองมาช่วงเวลาหนึ่ง แต่นี้กลับเป็นครั้งแรกที่คุณวิลเคยเห็นอัญมณีที่มีค่าขนาดนี้ทันใดนั้น ชายวัยกลางคนพูดขึ้นมา “คุณจะขายมรกตหรือเปล่า? ผมจะซื้อในราคา 800 ล้านเหรียญ!”อเล็กว์มองจ้องไปที่มรกตต่อ เขาสามารถสัมผัสได้ถึงแก่นของพลังฉีที่ถูกกักเก็บอยู่ในอัญมณี เขาพอใจและเพิกเฉยต่อข้อเสนอของชายวันกลางคนโดยสิ้นเชิง
เนื่องจากความสามารถและพัฒนาการในการต่อสู้ของวอลทซ์ทำให้เธออยากจะที่สั่งสอนบทเรียนให้กับคนน่ารังเกียจอย่างนี้ ดังนั้นเธอจึงตบเขาอย่างไม่ลังเล“นี่เฟลอร์ ก่อนหน้านี้เธอเคยแพ้ฉันไปแล้วนะ จำไม่ได้เหรอ? แขนหายแล้วเหรอ?”ก่อนหน้านี้ แขนของเฟลอร์ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีของเขาเมื่อได้ยินบทพูดแบบนั้น ฝูงชนก็ต่างพากันแยกย้ายไปทันทีแต่การต่อสู้ก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่อย่างที่ทุกคนคิดดิกคินสันเหวี่ยงขาไปทางวอทลซ์ แต่เธอก็สามารถคว้าข้อเท้ามาแล้วเหวี่ยงเขาลงไปกับพื้น แขนของดิกคินสันกระแทกและหัก เพราะกระแทกเข้ากับแร่ก้อนหนึ่ง “ให้ตายสิ! ดูเหมือนจะเก่งขึ้นมาหน่อยหนึ่งแล้วสิ!”ใบหน้าของวอทลซ์เผยรอยยิ้มที่เกิดจากความภาคภูมิใจ “เฮ้ดิกกี้ อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีกจำไว้ เออแล้วอีกอย่าง กินเข้าไปสะ ไอ้ขี้แพ้”เธอหยิบก้อนหินขนาดเล็กและยัดเข้าปากของดิกคินสัน ด้วยความคมของหินที่ให้มันบาดปากจากด้านใน และมีเลือดไหลออกมาหน้าเคย์เดนเริ่มซีดและกรามเริ่มสั่นเล็กน้อยเขาจดจำผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ อเล็กซ์ได้แล้วว่าเธอคือ นายหญิงเฟลอร์ แห่งกลุ่มบริษัท เธาซันด์ ไมล์ ก่อนหน้านี้ที่คิดจะปล้นพวกเขาให้หมดตัว กลับกลายเป็
อเล็กซ์ต่อว่าตนเองและรีบขับรถไปยังแอสเส็กซ์วิลล่า เขาอดไม่ได้ที่จะบ่นพึมพำในใจระหว่างทางไปที่นั่น‘จะใครไปรู้ว่าแคลร์ก็เล่นพนันหินหยกที่ถนนแอนทีคเหมือนกัน? เธอจะเห็นไหมนะ? ถ้าเธอรู้ว่าผมได้ของหายากอย่างมรกตแก้วจากแน่ทั้งสามที่เราซื้อมา เธอต้องบังคับให้เรามอบมันให้ เหมือนที่ทำมาตลอด!’โชคไม่ดีที่อเล็กซ์กลับเจอชั่วโมงเร่งด่วนในรัฐแคลิฟอร์เนียเพราะถนนทุกเส้นมีรถติดอย่างคับคั่งอเล็กซ์ใช้เวลาสี่สิบห้านาทีก่อนที่ถึงแอสเส็กซ์วิลล่าในขณะที่ถึงทางเข้า เขาเห็นว่าสมาชิกทั้งสามคนอยู่กันพร้อมหน้าด้านในบ้านยังมีผู้ชายสองคนและผู้หญิงอีกหนึ่งคนอีกด้วย อเล็กซ์จำผู้หญิงคนนั้นได้ ผู้หญิงวัยกลางคนและเป็นเพื่อนสนิทของแคลร์ พวกเขาอยู่ด้วยกันบ่อยครั้ง เขายังจำได้เลือนลางว่าชื่อของเธอคือ ลูเซีย วิทนีย์ลูเซียกำลังพูดกับแคลร์อยู่ “นี่แคลร์ แบรนดอน เขาเป็นคนดีนะ ฉันเห็นเขามาตั้งแต่ยังเล็กรู้ไหม? เขาเป็นผู้จัดการแผนกของหลายบริษัทและรายได้ทั้งหมดของเขามากกว่าสิบล้านเชียวนะ จะไปหาแบบนี้ได้ที่ไหนอีก? เธอไม่ต้องคืนเงินห้าล้านก็ได้แค่ตอบตกลงก็พอ เราจะเป็นครอบครัวเดียวกัน ใช่ไหม?”อเล็กซ์เริ่มโกรธทันทีที่ได้
แคลร์กระโดดออกจากเก้าอี้พร้อมเบิกตากว้าง “อะไรนะ? รถคันนี้ราคายี่สิบล้าน? แกเอาเงินขนาดไหนมาจากไหน?” อเล็กซ์ไม่ได้สนใจคำพูดของแคลร์สิ่งที่เขาต้องการคือแค่จัดการปัญหาและรีบกลับบ้านโดยเร็วที่สุด เขายังคงต้องการที่จะค้นคว้าเกี่ยวกับเตาแปรแร่ธาตุ “ขอดูหลักฐานการกู้ยืมเงินและส่งเลขที่บัญชีให้ผมด้วย ผมจะคืนเงินส่วนที่เธอติดไว้ให้”ลูเซียจ้องมองเขาอย่างเหลือเชื่อ “แกมีเงินขนาดนั้นเหรอ? ทุกคนต่างรู้ดีว่าแกอ้อนวอนและคร่ำครวญขอเงินหนึ่งล้านเหรียญ อย่าทำอวดดีไปหน่อยเลยถ้าแกรับผิดชอบไม่ไหว!”อเล็กซ์เหลือบมองลูเซียอย่างเย็นชาราวกับว่าจ้องเข้าไปในจิตวิญญาณของเธอ ทำให้เธอขนลุก หนาวสั่นลงจนถึงกระดูกดำ“ลูเซีย แม่ยายของผมอาจจะไม่ใช่คนที่ฉลาดที่สุด แต่อย่าคิดแม้แต่จะหลอกเธอ ถ้าผมรู้ว่าพวกคุณสองคนรวมหัวกันเพื่อหลอกหลวงทั้งเธอและเงินของเธอ คุณไม่ตายดีแน่ ไม่มีใครช่วยหนุนหลังให้คุณได้หรอก” อเล็กซ์พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาแคลร์กระทืบเท้า “แกเรียกใครว่าโง่?”อเล็กซ์เมินเสียงตะโกนของอีกครั้ง“ไอ้เด็กเหลือขอ แกกล้าขุ่มขู่พวกเราเหรอ?” สามีของลูเซีย ซึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ เธอยกแขนของเขาขึ้นเพื่อฟาดอเล็กซ์อเล
เบียทรีซจ้องไปยังโทรศัพท์ของเธอและเปิดกลุ่มแชทขึ้นมา จากนั้นก็เจอกับคลิปวิดีโอที่พูดถึงทั้งโดโรธีและแคลร์ขยับเข้ามาใกล้เพื่อดูคลิปวิดีโอด้วยกันแม้แต่โดโรธีที่เป็นประธานของบริษัท แอสเส็กซ์ ประจำสาขาทางเมืองตอนใต้ เธอก็ยังสนใจการทำเงินจากห้าล้านเหรียญเป็นห้าพันล้าน ใจของเธอเต้นไม่เป็นจังหวะ เธออยากที่จะเห็นว่าเจ้าชายการพนันหินหยกเก่งขนาดไหนเธอดูสนใจอุตสาหกรรมการพนันหินหยกทันตาก่อนหน้านี้ เธอมีเพื่อนคนหนึ่งที่ชอบการพนันหินหยกมาก แต่ตอนนี้เขาสูญเสียทุกอย่างไป หนี้สินของพวกเขาอยู่ทั่วทุกแห่ง และสิ่งเดียวที่ทำได้ในตอนนั้นคือละทิ้งชีวิตและซ่อนตัวจากหนี้สินก้อนโต แม้ในตอนนี้ก็ไม่มีใครหาพวกเขาเจอ...ดังนั้น โดโรธีเลยรู้ว่าการพนันหินหยกเป็นยังไง มันต้องอาศัยโชคอย่างเดียวจริง ๆ แม้แต่เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยที่สุดก็ยังไม่สามารถบอกได้ว่าด้านในของแร่มีหยกจริง ๆ หรือเปล่าโดยที่ไม่ต้องตัดพวกมันอย่างไรก็ตาม เจ้าชายการพนันหินคนนี้กลับได้มรกตหายากมาจากแร่ทั้งสามที่เขาซื้อ‘โชคช่วยหรือเปล่านะ?’‘ถ้าใช่ เขาต้องเป็นคนที่โชคดีที่สุดมากแน่ ๆ!’เบียทริซอธิบายอย่างตื่นเต้น “คนทั่วไปไม่สามารถแยกแยะแร่ท
ทั้งแคลร์และเบียทริซไม่ได้เหลือช่วยได้เท่าที่ควร พวกเขามีแต่จะนำความหายนะมาให้โดโรธีเท่านั้นแคลร์ชี้ไปที่อเล็กซ์ “เรายังไม่ได้ทำอะไรกินเลย ไปทำอะไรมาให้พวกเรากินหน่อย!”โดโรธีพูด “คุณไม่ต้องทำหรอก มันค่อนข้างดึกแล้ว ไปหาอะไรกินข้างนอกกันเถอะ ฉันจะเลี้ยงสุกี้หม้อไฟทุกคนเอง”ทันใดนั้น แคลร์หันไปทางอเล็กซ์และพูด “นายออกไปได้แล้ว เราไม่เลี้ยงมื้อค่ำให้คนนอก”เบียทริซเสริม “ที่จริงแล้ว เราไม่ใช่คนใจบุญขนาดนั้น”โดโรธีกำลังจะคุมสติไม่อยู่ ‘อเล็กซ์มาที่นี้เพื่อช่วยเหลือพวกเรา ต้องเสียเงินห้าล้านเพราะแม่ ทำไมแม่ถึงพูดกับเขาอย่างนิ่งเฉยได้ขนาดนี้นะ? ไม่ละลายใจบ้างเลยเหรอ?’ก่อนที่โดโรธีจะทันได้พูด อเล็กซ์ก็พูดขึ้นมา “ไม่เป็นไรครับ ยังไงผมก็มีเรื่องที่ต้องทำอยู่แล้ว ผมจะกลับแล้ว โดโรธี...คุณอย่ากดดันตัวเองมากเกินไปนะ ถ้าคุณไม่มีเงินพอ ผมจะหาวิธีมาช่วย”แคลร์โกรธ “แกจะหาทางมาช่วยงั้นเหรอ? แล้วมันคืออะไรล่ะ? เช็คปลอมอีกเหรอ? แกเป็นได้แค่คนขี้แพ้เท่านั้นแหละ ไปสะ! ฉันรำคาญเกินทนที่ต้องมาเห็นหน้าแก”อเล็กซ์คิดในใจ ‘ผู้หญิงคนนี้ชั่งไม่มีเหตุผลเอาสะเลย’เขาไม่ต้องการที่เสียพลังงานเพื่อเถียงก
อเล็กซ์พยายามดึงเตาโบราณออกจากหัวและก็สำเร็จจากนั้นเขาก็รีบวิ่งไปที่โต๊ะ และเริ่มร่างบางอย่างลงไปที่สมุดบันทึก สองวันที่ผ่านมา เขาใช้สมุดหมดไปเจ็ดเล่มด้วยกัน ทั้งหมดเต็มไปด้วยสัญลักษณ์แปลก ๆ ที่วอลทซ์ไม่คุ้นเคย“ฉันน่ะชอบเด็กที่ตั้งใจเรียนเอามาก ๆ เลยค่ะ พี่ดูเท่มากเลยตอนกำลังตั้งใจทำงาน!”วอลทซ์นั่งลงบนโต๊ะและตักไอศครีมเพื่อป้อนเข้าปากของอเล็กซ์ อเล็กซ์ที่กำลังมีสมาธิกับการเขียน เขาจึงเมินเธอโดยสิ้นเชิง หลังจากที่เขียนตราสัญลักษณ์ทั้งหมดที่นึกขึ้นได้ลงไปเรียบร้อย เขาก็ได้วางปากกาลงและถอนหายใจอย่างโล่งอกราวกับได้ภูเขาออกจากอกจากนั้นเขาก็รู้สึกกระหายน้ำมาก ไอศรีมหนึ่งช้อนไม่เพียงพอเต็มความกระหายนั้น เขาเลยหยิบไอศครีมทั้งถังไปแล้วกินมันจนหมดเกลี้ยง“พี่คะ ฉันอิ่มจนกินต่อไปไม่ไหว ฉันก็เลยบ้วนที่เหลือกลับลงไป”อเล็กซ์ค้างไปหลังจากได้ยินประโยคนั้นเขาจึงพ่นไอศครีมรสมิ้นต์เข้าไปที่หน้าของวอลทซ์ทันทีหลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง อเล็กซ์เริ่มที่จะดำเนินการซ่อมเตาแปรธาตุโทรม ๆ อเล็กซ์เข้าใจตราสัญลักษณ์โบราณได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากมันค่อนข้างจะอยู่ในระดับที่สูงพอสมควร เขาพบว่าตร
“ไม่มีปัญหา แค่ส่งเวลากับสถานที่มา เดี๋ยวผมไปครับ” อเล็กซ์ยิ้ม“ฉันไปรับคุณได้นะ”“ไม่เป็นไรหรอกครับ เส้นทางแถวนี้ค่อนข้างลำบาก”“ก็ได้!” เชอริลพูดขึ้น “อย่าเข้าใจผิดนะ ฉันชวนเพราะว่าคุณปู่อยากจะเจอคุณเท่านั้น!”อเล็กซ์ค้าง “ไม่เลย ผมรู้ว่าคุณไม่ได้มีเจนตาอย่างอื่นหรอก”“ฉัน... รีบมาแล้วกันนะ ฉันต้องวางแล้ว!” แก้มของเชอริลตอนนี้ที่กลายเป็นสีชมพูระเรื่อ เธอดูหงุดหงิดเล็กน้อย‘หมายความว่าอะไรที่บอกว่าเจตนาอย่างอื่น?’หลังจากที่ได้รับที่อยู่แล้ว อเล็กซ์ก็ค้นหาที่อยู่บนอินเทอร์เน็ต เห็นได้ชัดว่าเชอริลอาศัยอยู่ในบริเวณเมืองทางตอนใต้ของแคลิฟอร์เนียหลังจากที่บอกบริตทานีเกี่ยวกับคำเชิญแล้ว เขาก็ได้ไปดูดกลืนพลังฉีจากมรกตเพื่อเพิ่มพลังให้กับตัวเองเชอริลที่กำลังเลือกชุดอยู่หน้ากระจก เสื้อผ้ามากมายกระจัดกระจายอยู่ทั่วห้องแต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีชุดไหนที่ถูกใจเธอทันใดนั้น ผู้หญิงชราคนหนึ่งได้เดินเข้ามาและยิ้มหวานให้เธอ “เชอริลกำลังเลือกชุดเหรอจ๊ะ น่าสนใจดีว่าไหม?”เชอริลที่สีหน้าดูผิดหวังพูดขึ้น “คุณย่าคะ ไม่มีชุดไหนเหมาะกับหนูเลยค่ะ”ผู้หญิงชรากอดแขนของเชอริล “โอ๋ หลานย่ากำลังโตเป็นสาว
“คุณคิดว่าผมอยากรอจริง ๆ เหรอ? ค่าผ่าตัดอย่างน้อยก็ต้องหมดเกือบครึ่งล้าน อีกทั้ง ความเสี่ยงต่อการผ่าตัดก็สูงไม่น้อยเลยด้วย โอกาสรอดคือห้าสิบห้าต่อห้าสิบ ผมอาจจะตายระหว่างผ่าตัดก็ได้ ใครจะไปรู้ล่ะ? อีกอย่าง คุณเองก็รู้ว่าสภาพครอบครัวของผมเป็นยังไง ถ้ามีเรื่องร้ายอะไรเกิดขึ้นกับผม ทั้งแม่แล้วก็น้องสาวผมจะอยู่กันยังไง? แต่ไม่เป็นไรหรอกครับ ไม่ต้องพูดอะไรให้มากความแล้ว ผมจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ ผมมีพัสดุอีกเยอะต้องส่งตอนเที่ยงด้วย” เจ้าของร้านพลันถอนหายใจ พร้อมกับดวงตาเต็มซึ่งไปด้วยความเห็นอกเห็นใจ ดูเหมือนว่านี่จะเป็นโศกนาฏกรรมอีกเรื่องหนึ่ง “เดี๋ยวก่อน!” อเล็กซ์พูดขึ้น "นายเชื่อใจฉันไหมล่ะ?" ชายหนุ่มพลันนิ่งไปเกือบสามวินาที ทันใดนั้น เขาก็พลันเผยยิ้มและพยักหน้า "ฉันเชื่อ ในฐานะเพื่อนของคุณโยเวล คุณคงไม่มีเวลาว่างมาหลอกลวงคนต่ำต้อยอย่างผมหรอก” อเล็กซ์ยืนขึ้น “งั้นก็เชื่อใจฉัน แล้วฉันจะช่วยนายเอง” อเล็กซ์เดินเข้าไปและกางนิ้ว พร้อมกับวางนิ้วหนึ่งไว้เหนือขมับของชายหนุ่ม ตรงนั้นคือตำแหน่งของเนื้องอกซึ่งอยู่ใต้กะโหลกศีรษะของลุค ทันใดนั้น นิ้วของอเล็กซ์ก็ส่องประกายราวกับสีของหยก รา
ในระหว่างนั้น ชายหนุ่มที่สำลักบะหมี่ก่อนหน้าก็หันกลับลงไปนั่งที่โต๊ะของตัวเอง "คุณหนูโยเวล... นักร้องสาวแห่งแคลิฟอร์เนีย? จริงเหรอ?” ทันใดนั้นเอง ใครสักคนก็แอบหยิบโทรศัพท์ออกมาและค้นหาชื่อของนักร้องสาวแห่งแคลิฟอร์เนีย ทว่า ทั้งรูปภาพและผลลัพธ์มากมายต่างก็ปรากฏขึ้นมา อันที่จริง มิเชลล์มักจะทำตัวเป็นเป้าสายตาของสาธารณะชน และไม่ได้พวกใจพวกปาปารัสซี่เท่าไหร่นัก อีกทั้ง คนในตระกูลโนเวลเองก็ไม่ได้สนใจในตัวมิเชลล์ด้วยเช่นกัน เธออยากจะเป็นอะไรก็เป็นไป ด้วยเหตุนั้น มันจึงเป็นเรื่องง่ายไม่น้อยเลยที่จะมองหาคนอย่างเธอ ไม่นานนัก ใครสักคนก็ตะโกนขึ้นมา... "มันเป็นความจริง! ทั้งหมดคือเรื่องจริง! เธอคนนี้คือคุณหนูโยเวลตัวจริงเสียงจริง คุณมิเชลล์ โยเวลยังไงล่ะ!” “ใช่แล้ว! ยังไงก็เถอะ คุณหนูโยเวลอุตส่าห์มากินสตูว์ถึงที่ร้านทั้งที ฉัน... ฉันชักอยากจะขอเธอถ่ายรูปหน่อยแล้วสิ” “นายตาบอดหรือยังไงกัน? ดูเธอสิ เธอกำลังโกรธอยู่นะ ทำไมถึงอยากเข้าไปขอเธอถ่ายรูปตอนนี้กันล่ะ?” หลังจากที่ชายคนนั้นตบตัวเองไปมากกว่าสิบครั้ง แจ็คก็พูดขึ้น "รู้จักผมด้วยงั้นเหรอ?" ชายคนนั้นพยักหน้า แจ็คถามขึ้นอีก
อันที่จริง อเล็กซ์ต้องการที่จะรักษาแจ็คก็เพราะเขาช่วยตนในเรื่องเอกสาร ทันใดนั้น อเล็กซ์เผยยิ้มและกล่าวคำพูดออกมา “คุณเทรนต์ครับ การช่วยชีวิตใครสักคนอาจต้องใช้โชคชะตา แต่ถ้ามีกำลังสงสัยอะไรอยู่ ก็ไม่เป็นไรครับ คุณสามารถไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลได้ตลอดเวลาเลย แต่ยังไงเสีย คุณคงต้องรีบหน่อยแล้วแหละ เพราะนิ่วในไตของคุณตอนนี้อยู่ในตำแหน่งที่แย่มาก คุณอาจะติดเชื้อได้เลยล่ะ" ทว่า ทุกคนก็พลันหัวเราะออกมาอีกครั้ง 'นายไม่ได้ใช้เครื่องอัลตราซาวนด์หรือเครื่องเอ็กซ์เรย์เลยด้วยซ้ำ อีกทั้ง ชีพจรก็ไม่ได้ตรวจ นายจะรู้ได้ยังไงกันว่านิ่วในไตนั้นอยู่ในตำแหน่งดีหรือร้าย? นายมีดวงตาเอ็กซ์เรย์หรือยังไงกัน?' สำหรับคราวนี้ มิเชลล์เองก็พลันเบิกตากว้างเช่นกัน เธอเอาแขนพาดหน้าอกด้วยความสงสัย “อเล็กซ์ นายมีดวงตาเอ็กซ์เรย์ด้วยงั้นเหรอ?” อเล็กซ์ไม่สนใจเธอเลย ทว่า ไม่นานนัก แจ็คก็พูดขึ้น "คุณร็อคกี้เฟลเลอร์ครับ ผมเชื่อใจคุณ” ยังไงเสีย อเล็กซ์เองก็ไม่ได้จะใช้มีดผ่าตัดอยู่แล้ว ดังนั้น แจ็คจึงรู้สึกว่ามันก็คุ้มที่จะลอง อเล็กซ์ไม่พูดอะไรต่อ ไม่นานนัก เขาก็วางมือเอาไว้บนแผล พร้อมกับสอดพลังฉีเข้าไปในร่างกายของ
ผู้หญิงที่พูดขึ้นนั้นนั่งอยู่ข้างหลังอเล็กซ์ ดูเหมือนว่าเธอจะอายุราวสามสิบปีแล้ว ผู้หญิงคนนั้นได้ยินการสนทนาของพวกเขาตั้งแต่เข้ามานั่งใกล้ ๆ แล้ว ผู้หญิงคนนั้นนั่งฟังพวกเขาตั้งแต่ตอนที่มิเชลล์บอกว่าเธอจะจับพริสซิลล่ามาอยู่บนเตียงของอเล็กซ์ ผู้หญิงคนนั้นรู้สึกดูถูกเหยียดหยามทั้งสองอย่างถึงที่สุด อันที่จริง เธออยากจะเรียกตำรวจมาจับพวกเขาด้วยซ้ำ แต่ทว่า เธอก็รู้สึกโล่งใจที่อเล็กซ์ปฏิเสธข้อเสนอไป ต่อมา เธอก็ได้ยินทั้งสองพูดถึงบริษัทเธาซันด์ลีฟ เธอได้ยินมิเชลล์พูดว่าตัวเองนั้นสามารถขอใบอนุญาตได้เลยเพียงแค่เอ่ยวาจา และทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ผู้หญิงคนนั้นก็แทบจะพ่นสตูว์เนื้อรสเผ็ดออกมาทางปาก อันที่จริง เธอเองก็เพิ่งรู้เรื่องเกี่ยวกับบริษัทเธาซันด์ลีฟ สามีของเธอขายวัสดุก่อสร้างอยู่ที่นั่น แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงตัวแทนจำหน่ายรายย่อยที่ทำงานภายใต้แฟรนไชส์ของรัฐแคลิฟอร์เนีย แต่เธอก็รู้ดีว่าเจ้าของบริษัทเธาซันด์ลีฟก็คือตระกูลโยเวล ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในรัฐแคลิฟอร์เนีย อีกทั้ง บริษัทยังได้รับการโฆษณาเป็นอย่างดีอีกด้วย ทว่า สามีของเธอก็ได้แจกจ่ายวัสดุก่อสร้างอยู่ตั้งหลายร
อันที่จริง เบียทริซเองก็กลัวว่าตัวเองจะไม่สามารถเอาชีวิตรอดในมหาวิทยาลัยได้หากจะต้องเปิดโปงพวกเขาทั้งสอง ทันทีที่ทั้งคู่มาถึงลานจอดรถ อเล็กซ์ก็ตระหนักได้ว่ามิเชลล์นั้นซื้อรถสปอร์ตสุดหรูแอสตันมาร์ตินสีแดงให้กับตน โครงสร้างสุดเท่ของรถสปอร์ตคนนี้ค่อนข้างทันสมัย แต่มันไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ขับผ่านถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่ออย่างแน่นอน “โทษทีนะ พอดีฉันหารุ่น M8 ที่นายต้องการไม่ได้เลยน่ะ ตอนนี้ไม่มีรุ่นนั้นเหลืออยู่ในแคลิฟอร์เนียเลยด้วย ยังไงก็เถอะ นายก็ใช้คันนี้พลาง ๆ ไปก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวถ้าของเข้าแล้ว ฉันจะไปซื้อรุ่น M8 มาคืนให้” 'ดูเธอสิ ช่างมีน้ำใจเหลือเกิน' เธอสามารถซื้อรถหรูราคาหลายแสนได้ราวกับว่าซื้อลูกโป่ง “ก็ได้!” อเล็กซ์ไม่เรื่องมากกับเรื่องรถยนต์อยู่แล้ว ทั้งสองเดินทางไปยังร้านอาหารสตูว์รสจัดจ้าน มิเชลล์นึกประหลาดใจ “นายอยากทำกับฉันแบบนี้จริง ๆ เหรอ?” อเล็กซ์ตอบกลับ “ตอนแรกฉันจะรักษาพริสซิลล่า แต่เธอดันกลับบ้านไปก่อน ยังไงเสีย ตอนนี้เรามาสั่งอะไรง่ายๆ กินกันดีกว่า” “นี่นายกำลังพยายามตามจีบพริสซิลล่าอยู่หรือเปล่าเนี่ย? อันที่จริง ฉันช่วยนายได้นะรู้ไหม? ฉันทำให้เธ
“ดาวมหาลัยชนชั้นกลาง... เบียทริซ แอสเส็กซ์งั้นเหรอ?” “เธอคือ...” ทั้งแอนนาลิสและพริสซิลล่าต่างก็จ้องไปที่เบียทริซอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง หลังจากนั้น พวกเขาก็หันไปหาอเล็กซ์ จากท่าทีของทั้งสอง พวกเขาต่างก็รับรู้มาว่าอเล็กซ์เป็นแฟนของมิเชลล์ ไม่อย่างนั้น ทั้งสองจะรู้จักและจูบกันได้ยังไงล่ะ? ในตอนนี้ พวกเขาต่างก็คิดว่ามิเชลล์คงจะต้องตะคอกและทุบตีอเล็กซ์อย่างแน่นอน แม้แต่เบียทริซเองก็คิดเช่นนั้น เบียทริซเรียกอเล็กซ์ว่าพี่เขยก็เพื่อเปิดเผยตัวตนของเขาเอง อีกทั้ง เบียทริซเองก็ต้องการบอกกล่าวให้มิเชลล์รับรู้ว่าว่าอเล็กซ์เป็นชายที่แต่งงานแล้ว และแน่นอน เบียทริซในตอนนี้กำลังเล่นกับความรู้สึกของมิเชลล์อยู่ จากที่เบียทริซรู้เรื่องราวของมิเชลล์มา มิเชลล์จะต้องโมโหและทำร้ายอเล็กซ์อย่างแน่นอน แต่ทว่า กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย มิเชลล์รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ไม่นานนัก เธอก็กล่าวคำพูดขึ้น “เบียทริซ แอสเซ็กซ์ เธอเป็นน้องสะใภ้ของอเล็กซ์หรือยังไงกัน? เธอน่าจะบอกให้เร็วกว่านี้นะ! ยังไงก็เถอะ ถ้ามีใครเข้ามายุ่งวุ่นวายกับเธอ ก็เอ่ยชื่อของฉันออกไปได้เลย แล้วฉันจะมาปกป้องเธอเอง!” "อะไรก
สตีเวนเผยยิ้มเจ้าเล่ห์พร้อมกับคำรามออกมา เขาปลุกพละกำลังภายในที่น่ากลัวและชั่วร้ายออกมาอย่างฉับพลัน พร้อมกับแสงสีแดงที่กะพริบระยิบระยับในดวงตา ระหว่างที่มิเชลล์กำลังจะฟาดฝ่ามือลงไปที่สตีเวน เขาก็พลันตอบโต้การโจมตีด้วยฝ่ามือของตัวเองเช่นกัน ตู้ม! เสียงระเบิดดังก้องกังวานไปทั่วห้องโถง สตีเวนเองก็ได้เก็บซ่อนพลังพิเศษไว้ที่ในฝ่ามือของตัวเอง พลังนั้นพุ่งทะลุผ่านฝ่ามือของมิเชลล์ไป มันเป็นทักษะอันทรงพลังในฐานะจ้าวแห่งเงามรณะเลยก็ว่าได้ หรือเรียกอีกอย่างว่าทักษะแห่งการล่อลวง เพราะเหตุนั้น สตีเวนจึงไม่สนใจการโจมตีมิเชลล์มากนัก เพราะเขารู้ว่าท้ายที่สุดแล้วตนจะต้องชนะอย่างแน่นอน ในตอนนั้นเอง เขาพลันดีดนิ้วและกล่าวคำพูดขึ้นมา “หยุด!” ทว่า ทักษะแห่งชัยชนะทั้งหมดของสตีเวนกลับไม่มีผลอะไรเลยในวันนี้ มิเชลล์พุ่งเข้าใส่สตีเวนด้วยการเคลื่อนไหวที่รุนแรงและเฉียบแหลม เธอยกขาขึ้นแล้วกระแทกไปยังศีรษะของสตีเวนอย่างแรง "อะไรกัน?" อึก! สตีเวนล้มลงไปนอนกับพื้น เขาพลันกลอกตาไปมาและรู้สึกเหมือนจะเป็นลม ทันทีที่สติเริ่มจางหาย ความคิดสุดท้ายของสตีเวนก็พลันปรากฏขึ้นมาในหัว “มันจะเป็นไปได้ยังไง
ตุ๊บ! ท่ามกลางเสียงอึกทึกครึกโครมของฝูงชน มิเชลล์ก็กระโดดข้ามราวขึ้นไปบนเวทีประลอง ระหว่างที่มิเชลล์ขึ้นไปยืนบนเวทีประลอง หน้าอกขนาดมหึมาของเธอก็พลันกระเพื่อมขึ้นลงไม่หยุด ทุกคนต่างตกตะลึงและเบิกตากว้าง โดยเฉพาะเหล่านักเรียนชาย พวกเขาต่างก็ยิ่งอิจฉาอเล็กซ์มากกว่าเดิมทันทีที่เห็นเช่นนั้น มิเชลล์รีบคว้าตัวพริสซิลล่าและลากเธอมาหลบอยู่ด้านหลัง มิเชลล์จ้องไปยังชายวัยกลางคนจอมหยิ่งผยองและกล่าวคำพูดขึ้น “ฉันจะเป็นคู่ต่อสู้ของนายเอง!” พริสซิลล่าในตอนนี้ไม่กล้าที่จะอยู่บนเวทีอีกต่อไปแล้ว ด้วยเหตุนั้น เธอจึงรีบวิ่งออกไปจากลานประลอง พร้อมกับกุมมือตัวเองด้วยความหวาดกลัว อเล็กซ์ตบไหล่ของพริสซิลล่าและเผยยิ้มออกมาอย่างอบอุ่น “เธอทำดีมาก ฉันบอกแล้วว่าเธอต้องชนะ” “ฉัน... ฉันชนะการประลองจริง ๆ เหรอ?” “...” หลายต่อหลายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เริ่มจ้องมองไปที่พริสซิลล่าและกลอกตา แอนนาลิสเองก็ขมวดคิ้วและจ้องไปยังพริสซิลล่าเช่นกัน เธอไม่เข้าใจความสามารถที่ระเบิดออกมาอย่างกะทันหันของพริสซิลล่าเลยแม้แต่น้อย หลังจากนั้น เธอก็คิดเองเออเองว่าเทรเวอร์น่าจะใช้พลังของตัวเองมากเกินไป แอนนาลิสคิดหาวิธีอื่
“พูดบ้าอะไรของเธอกัน?!” ระหว่างกำลังคิดว่านี่คงเป็นแผนของชมรมซาตานที่ต้องการส่งใครสักคนขึ้นมาบนเวทีประลอง เทรเวอร์ก็รู้สึกโกรธไม่น้อย ทันใดนั้น เทรเวอร์ก็พุ่งเข้าไปหาพริสซิลล่าและฟาดฝ่ามือใส่เธอ เทรเวอร์ต้องการสยบพริสซิลล่าด้วยฝ่ามือ นั่นก็เพื่อแสดงให้เห็นถึงพละกำลังและความยิ่งใหญ่ในฐานะประธานชมรมมังกรหยก "อ๊าย!" พริสซิลล่าพลันกรีดร้องและยกมือขึ้นมาตั้งการ์ดโดยสัญชาตญาณ ทันใดนั้น กระแสพลังฉีพลันพุ่งออกมาจากร่างกายของเธอ ตุบ! เทรเวอร์พลันฟาดลงไปยังข้อมือพริสซิลล่า ทว่า เขากลับสัมผัสได้ถึงกระแสพลังจำนวนมหาศาลพุ่งตรงเข้ามา ฟิ้ว! ทันใดนั้น ร่างกายของเทรเวอร์ก็ลอยละล่องขึ้นไปกลางอากาศเหนือเวทีประลองและล้มลงกระแทกกับพื้นอย่างแรง พร้อมกับผมที่ตั้งชูอยู่เหนือศีรษะ ร่างกายของเทรเวอร์สั่นเทา เขาอ้าปากค้างราวกับมีหมอกพิษทมิฬลอยออกมาจากปาก ทุกคนในห้องโถงต่างก็เงียบไปด้วยความตกใจ พวกเขาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเลยด้วยซ้ำ มิเชลล์เองก็เบิกตากว้างเช่นกัน เธอจ้องมองดูสถานการณ์ตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา ดวงตาของแอนนาลิสพลันเบิกกว้าง เธออ้าปากค้างทันใด เธอแทบจะไม่อยากเชื่อเหตุการณ์ท