“ข้าเคยเห็นจากท่านตาของข้า ท่านไปท่องเที่ยวมาหลายที่ จึงได้รู้จักของพวกนี้” เธอโกหกเขาออกไป“ข้านับถือท่านตาของเจ้าเสียจริง ท่านคงจะชอบท่องเที่ยวมาก” น้อยคนนักที่จะท่องเที่ยวไปไกลถึงที่แห่งนั้น นางกำลังโกหกเขาอยู่ แต่นางคงจะมีเหตุผลของนาง เขาก็จะไม่ถามต่อ“เจ้าต้องการสิ่งนั้นเท่าไหร่ ข้าคงมีให้เจ้าไม่เยอะ เพราะคนที่นี่ก็ไม่ค่อยรู้จักของสิ่งนั้น ข้าจึงไม่ได้เอาพวกมันมาเยอะมากนัก” เขาเอามาไว้ให้แม่ของเขากินเท่านั้น และเอาติดไว้ที่ร้านค้าของเขาบ้างอีกเล็กน้อย ถ้าใครกินไม่เป็นก็อาจจะไม่ชอบได้“ท่านมีเท่าไหร่ ข้าซื้อของท่านทั้งหมด ท่านยังกลับไปที่ต่างแดนอีกหรือไม่” “คงอีกนานกว่าที่ข้าจะกลับไป เพราะข้าเพิ่งจะกลับมาจากที่นั้นวันนี้ เจ้าเดินขึ้นมาดูว่าของสิ่งนี้ใช่สิ่งที่เจ้าต้องการหรือไม่” เธอเดินตามเขาขึ้นไปดูของบนเรือ บนเรือลำนี้มีพื้นที่กว้างมาก เธอคิดว่าเขาต้องเดินทางขนสินค้าไปหลายที่ การเดินเรือสมัยนี้ ถ้าเดินทางไปหลายที่ก็ไม่ง่ายเท่าไหร่เลย เขาพาเธอเดินไปดูสิ่งที่เธอต้องการ “นี่ใช่สิ่งที่เจ้าต้องการหรือไม่ แต่ข้านำมันมาแค่อย่างละสองตะกร้าเท่านั้น” เธอมองของที่เขาบอก มีแค่อย่
เหมยฮวาเดินไปดูตรงที่พี่ลี่หลินบอก เธอเห็นว่าเป็นหอยมุก ที่นอนอ้าปากของมันอยู่ตรงโขดหิน ตรงบริเวณนี้ไม่มีคนมาเดินเท่าไหร่นัก จึงไม่มีใครมาพบกับหอยมุกที่อยู่บริเวณนี้“นี่คือหอยมุก เราเก็บกันเถอะ หอยมุกจะมีมุกอยู่ด้านใน เราสามารถเอาไปขายทำเครื่องประดับได้” เธอกับพี่ลี่หลินช่วยกันเก็บหอยมุกจนหมด ด้านข้างของหอยมุก เธอยังเจอหอยเป๋าฮื้ออีกสามตัว วันนี้เธอโชคดีเสียจริง“นี่คือหอยอะไรเจ้าคะ ทำไมหน้าตาถึงไม่ค่อยน่ากินเลย” “พี่ลี่หลินตาไม่ดีเสียแล้ว นี่เขาเรียกว่าหอยเป๋าฮื้อ เป็นหอยที่ราคาแพงมาก เอาไปทำยาหรือเอาไปกินก็ได้เหมือนกัน เอาไว้ข้าจะทำหอยเป๋าฮื้อตุ๋นน้ำแดงให้พี่ลี่หลินกิน” “ของแพงเช่นนี้เราเอาไปขายกันดีกว่าเจ้าคะ” เธอรู้ว่ามันแพงมาก ก็ไม่อยากเอาพวกมันไปกิน เธออยากเอาไปขายมากกว่า“อะไรที่เราไม่เคยกินก็ต้องลองกินนะพี่ลี่หลิน เราจะได้ไปบอกกับคนอื่นได้ เงินหาเมื่อไหร่ข้าก็หาได้ แต่หอยตัวนี้ไม่รู้พวกเราจะเจอมันอีกเมื่อไหร่ ท่านไม่อยากลองกินมันหรือ” “ข้าแล้วแต่นายหญิงเจ้าคะ ท่านให้ข้ากินข้าก็จะกิน” “ดีแล้ว เราเดินไปดูหลีชางกันดีกว่า เราเดินออกมาไกลมากแล้ว” เธอเดินย้อนกลับไปที
“ข้าจะขายสูตรให้ท่านหนึ่งร้อยตำลึงทอง สูตรนี้ข้าจะไม่ไปเผยแพร่ที่ไหน แต่ข้าจะขอทำกินเฉพาะในบ้านของข้าเท่านั้น และข้ายังแถมสูตรน้ำจิ้มรสเด็ดของข้าให้ท่านอีกด้วย ข้าขอบอกไว้ก่อน สูตรน้ำจิ้มนี้ใครก็ทำกินได้ทั้งนั้น ไม่ใช่สิทธิ์ของร้านท่านผู้เดียว” หญิงสาวผู้นี้พูดง่ายเสียจริง แบบนี้น่าซื้อขายด้วยกันหน่อย แถมเขายังได้สูตรน้ำจิ้มมาฟรีอีกด้วย ไม่เป็นอะไร แค่เขาได้ของมาก็พอแล้ว เขาค่อยเอาไปให้แม่ครัวปรับใช้ดู“ขอบคุณท่านมาก หวังว่าครั้งหน้าพวกเราจะได้ซื้อขายสูตรอาหารกันอีก ถ้าท่านมีสูตรอาหารใหม่ๆ มาขายที่ข้าได้เสมอ ข้ารับซื้อสูตรของท่านทุกอย่าง” เธอยิ้มแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรเขา เธอยืมกระดาษเขา แต่เธอใช้ดินสอที่เธอพบมาเองเขียนสูตรอาหารแทน เธอไม่ถนัดใช้พู่กันเสียเท่าไหร่นัก“นี่สูตรที่ท่านต้องการ ยามโหย่วข้าจะเข้าไปทำอาหารให้แม่ครัวของท่านดูเป็นตัวอย่าง ขอแค่ท่านเตรียมของให้พร้อมตามที่ข้าเขียนก็พอ” “ได้ขอรับข้าจะเตรียมของให้พร้อม รอท่านมาทำอาหาร” เขาพูดเสร็จก็เอาเงินจ่ายให้นางไปหนึ่งร้อยตำลึงทอง และเซ็นสัญญากันเรียบร้อยเธอพูดคุยทุกอย่างเสร็จแล้ว ก็ออกมาจากห้อง เธอกลับไปที่ห้องนอนของตัวเอ
อี้เฉิงเขาได้ยินแบบนั้นก็โกรธมาก นี่นางเป็นคนฆ่าท่านแม่ของเขาหรือ เสียดายที่ท่านแม่เคยรักและเอ็นดูนางยิ่งนัก ตอนแรกเขาก็นึกสงสารนางอยู่บ้าง ตอนนี้จากความสงสารที่เขามี มีแต่ความแค้นเท่านั้น!“พวกเจ้าทะเลาะกันเสร็จหรือยัง จะได้ไปทะเลาะกันต่อในนรก จะพูดกันทำไมให้มากความพวกเจ้ามันก็เลวเหมือนกันทั้งคู่” หนิ่งเซียนมองไปทางอี้เฉิง เธอวางยาอี้เฉิงก่อนที่เขาจะมาที่นี่แล้ว ปานนี้ทำไมยายังไม่ออกฤทธิ์อีก เธอนิ่งคิดทำหน้าสงสัยอี้เฉิงสังเกตเห็นอาการของหนิ่งเซียนพอดี เขาก็หัวเราะออกมา “เจ้าคงสงสัยว่าทำไมยาที่เจ้าวางใส่อาหารให้ข้ากินอยู่ทุกวัน ถึงไม่ออกฤทธิ์เสียที เจ้ามันโง่อย่างที่สามีของเจ้าบอกนั่นแหละ ใช้วิธีเหมือนกันเป็นครั้งที่สอง เจ้าคิดว่าข้ายังจะไว้ใจเจ้าได้อีกหรือ” “เจ้าแกล้งโกหกข้า เจ้าแกล้งทำเป็นรักข้า เจ้าลงทุนถึงขนาดทำให้ข้าตายใจด้วยการไปบอกเลิกคนรักของเจ้า” “ถ้าข้าไม่ทำแบบนั้นเจ้าจะเชื่อข้าหรือไร ข้าก็ต้องเล่นละครให้มันสมจริงหน่อย เหมือนกับที่พวกเจ้าทำ” อี้เฉิงมองพวกเขาด้วยสายตาเย็นชา เขายิ้มมุมปากสมเพชทั้งสองคนตรงหน้า“เจ้าไม่ตายด้วยพิษแล้วอย่างไร เจ้าก็ต้องตายด้วยดาบของข้าอย
“มีใครอยู่ไหมขอรับ” หลีชางตะโกนร้องเรียกอยู่หน้าประตูบ้านหลังหนึ่ง ที่ไม่ใหญ่เท่าไหร่นัก“มาแล้ว ใครกันมาเรียกข้า เสียงไม่คุ้นเลย” ผู้ใหญ่บ้านเปิดประตูออกมา ก็พบคนอยู่สามคน“พวกเจ้าเป็นใคร มาหาข้าเรื่องอะไร?” “ข้าชื่อเหมยฮวามาจากเมืองหลวง พอดีข้าไปเที่ยวริมทะเลของหมู่บ้านท่าน และข้าเกิดถูกใจที่ดินตรงนั้นไม่ทราบท่านพอขายให้ข้าได้หรือไม่” พวกเจ้าอยากมาซื้อที่ดินหรือ เข้ามานั่งคุยข้างในกันก่อน” หลายคนมาถามซื้อที่ดินกับเขาหลายครั้ง พอได้ฟังสาเหตุแล้ว ก็ไม่มีใครซื้อที่ดินตรงนั้นอีกเลย ทุกคนที่อยากซื้อก็หายกันไปเธอมานั่งตรงโต๊ะในบ้านของผู้ใหญ่ เธอมองดูไปรอบๆ ก็เห็นว่าบ้านของผู้ใหญ่เป็นบ้านไม่ใหญ่เท่าไหร่นัก แต่พอดูดีกว่าบ้านหลังอื่นอยู่บ้าง หมู่บ้านนี้ไม่ค่อยมีบ้านหลังใหญ่เหมือนกับหมู่บ้านท่าเรือที่เธอไปมา“ข้าชื่อหวังตง เป็นผู้ใหญ่บ้านของหมู่บ้านน้ำเค็มแห่งนี้ เจ้าสนใจที่ดินติดทะเลตรงที่มีเนินสูงสวยๆ ตรงนั้นใช่หรือไม่ มีคนมาถามซื้อกับข้าหลายครั้งแล้ว แต่ก็ขายไม่ออกเสียทีเธอก็สงสัยที่ตรงนั้นสวยมาก จะต้องมีคนแย่งกันซื้อไม่ตกมาถึงมือของเธอแน่“ทำไมพวกเขาถึงไม่ซื้อกัน หรือที่ตรงนั้
ตอนนี้เป็นเวลาเกือบเย็น ผู้ใหญ่บ้านได้ขอตัวกลับบ้านไปตั้งนานแล้ว พวกเธอเดินดูทะเลแถวนั้นอยู่อีกสักพัก ก็กลับไปที่โรงเตี๊ยมที่เดิม เธอเดินเข้ามาในโรงเตี๊ยมก็ต้องแปลกใจ ที่มีคนเข้ามานั่งกินอาหารกันมากมายและทุกโต๊ะ เธอจะเห็นต้มยำกุ้งเป็นอาหารจานหลักของที่นี่ เธอเจอกับหลงจู๊ เขาทักทายด้วยการยิ้มให้เธอการเอาสูตรอาหารมาเผยแพร่ก็คงไม่เป็นอะไร เพราะประเทศจีนยุคนี้เป็นยุคที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ เธอจึงไม่กลัวที่จะเอาข้อมูลออกมาเผยแพร่ หรือเธอจะเขียนหนังสือสักเล่มดี เกี่ยวกับสัตว์น้ำทะเล ในเมื่อเธอก็มีข้อมูลจากโทรศัพท์อยู่แล้ว หรือบางทีเธออาจจะสั่งซื้อหนังสือสัตว์น้ำทะเลจากร้านค้าของเธอ เรื่องนี้เธอจะกลับไปลองคิดดูอีกครั้งเมื่อเธอว่าง“นายหญิงพรุ่งนี้ท่านจะกลับไปที่เมืองหลวงเลยไหมเจ้าคะ” ลี่หลินถามนายหญิง เธอจะได้จัดเตรียมของได้ถูกหมู่บ้านเธอก็เที่ยวดูมาหมดแล้ว เหลือแค่หมู่บ้านหาปลาที่เธอยังไม่ได้ไป เธอคิดว่าคงยังไม่กลับพรุ่งนี้ เพราะเธอต้องไปหาซื้อของก่อน พรุ่งนี้เธอจะไปที่หมู่บ้านหาปลาก่อนก็แล้วกัน“พรุ่งนี้ยังไม่กลับ พรุ่งนี้เราจะไปเช่ารถม้าที่สำนักคุ้มภัย และก็จ้างคนไว้ อีกวันเราถึงค่อ
เธอเดินทางถึงเมืองหลวงในอีกสิบห้าวัน เธอไปร้านสรรค์สร้างเพื่อเอากุญแจร้านค้าที่เธอฝากเอาไว้ และก็พากันกลับไปที่ร้านค้าเครื่องหอม เธอเดินดูความเรียบร้อยอีกครั้ง ช่างจางเหว่ยไม่เคยทำให้เธอผิดหวังเลย ร้านที่เขาปรับปรุงตรงกับความต้องการของเธอทั้งหมด ไม่แตกต่างจากร้านที่อยู่เมืองสงบสุขมากนัก เธอวางแผนว่าจะอยู่จนกว่าทุกอย่างเข้าที่เข้าทางเสียก่อน ถึงจะกลับไปที่เมืองสงบสุข เธอต้องหาซื้อบ้าน และหาทาสเพิ่มอีกสองคนเอาไว้เฝ้าร้านที่อยู่ทางนี้ เมื่อเธอตรวจดูความเรียบร้อยทั้งหมดแล้ว ก็กลับไปที่โรงเตี๊ยมก้งเยว่ที่เธอได้เช่าทิ้งเอาไว้ เธอต้องมีบ้านอยู่ที่นี่สักหลังหรือไม่ หรือเธอจะรับลูกจ้างมาขายของที่ร้านของเธอดี แบบไปเช้าเย็นกลับ เมื่อเธอได้บ้าน เธอค่อยหาซื้อทาสมาเพิ่มอีก เธอเก็บของทุกอย่างที่ซื้อมาเอาไว้ในห้องว่างในร้านค้าของเธอก่อน และของส่วนมากเธอเก็บไว้ในช่องเก็บของ รวมถึงอาหารสดด้วยตอนนี้เธอเดินทางมาโรงเตี๊ยมก้งเยว่ ที่เธอได้เช่าทิ้งเอาไว้ก่อนที่เธอจะเดินทางไปเมืองทางใต้ลูกจ้างของโรงเตี๊ยมมองเห็นคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาในร้าน เขาก็ออกไปต้อนรับ พอสังเกตคนกลุ่มนั้นดีๆ ก็เป็นกลุ่มคนที่เคยเช่าห
นายหน้าพาเธอนั่งเกวียนม้าเข้ามาที่ถนนรื่นเริง รถม้าขับพาเธอเข้ามาตามถนน เธอยังผ่านร้านค้าของเธอ ตลอดทางที่ผ่านเข้ามา มีร้านค้าอยู่หลายร้าน แต่ยิ่งเข้าไปลึกเท่าไรก็จะเห็นว่าเป็นบ้านคนเสียมากกว่า นายหน้าขับเกวียนม้าพาเธอมาจนถึงบ้านหลังสุดท้าย เป็นบ้านชั้นเดียว มีหลายห้อง ด้านหลังของบ้าน มีพื้นที่โล่งและมีบ่อน้ำอยู่ บ้านหลังนี้ทำไมถึงว่าง เธอสงสัยอยู่บ้าง แต่เธอถูกใจบ้านหลังนี้ เพราะมันเป็นทางเดียวกันกับร้านค้าของเธอ แถมยังมีหลายห้องนอนอีกด้วย เธอต้องให้ช่างจางเหว่ยมาสร้างที่ทำสบู่ และเตาอบขนม มีพื้นที่ว่างแบบนี้เธอชอบ ต้องเปลี่ยนห้องน้ำใหม่ทั้งหมด ยังคงต้องซ่อมแซมอีกเยอะ“บ้านหลังนี้ทำไมถึงว่างหรือ ไม่ใช่ว่าท่านบอกกับข้า ว่าหาบ้านแถวนี้ยากไม่ใช่หรือ” “บ้านหลังนี้ มีประวัติ เจ้ากลัวผีหรือไม่” “ท่านจะบอกว่ามีคนตายในบ้านหลังนี้” “ใช่แล้วบ้านหลังนี้ เป็นบ้านของบัณฑิตผู้หนึ่ง เขาสอบติด และได้ย้ายไปอยู่ที่อื่น แต่แม่ของเขาไม่ได้ตามไปอยู่ด้วย จนมาวันหนึ่ง หญิงชราผู้นั้นก็นอนตายไปเฉยๆ เจ้ายังจะซื้อบ้านหลังนี้อยู่อีกหรือไม่” ถ้ามีคนอยู่เยอะ เธอก็ไม่ได้กลัวเรื่องผีอยู่แล้ว และอีกอย่างก็ไ
“ข้ารู้ว่าข้าผิดไปแล้ว ข้าไม่อยากเสียเจ้าไป” อี้เฉิงด้วยอารมณ์ที่ช่วงนี้เขาอ่อนไหวอยู่แล้ว เขาพูดพร้อมกับมีน้ำตาซึมออกมาเหมยฮวาที่เห็นเขาเป็นแบบนั้นก็ไม่ได้นึกสงสารอะไรเขา นางเดินหลบทางให้เขา และจะเข้าห้องของนางอี้เฉิงเห็นแบบนั้น ก็คุกเข่าลง ตรงหน้าของเหมยฮวา “ข้าขอโทษ ข้ามันโง่เอง เจ้าหายโกรธข้าได้หรือไม่” คนที่เดินเข้าออกในโรงเตี๊ยมต่างมองมาที่ทั้งสองคนด้วยสายตาที่มีความหมาย บางคนก็ชี้มือมาทางอี้เฉิง และหัวเราะกันสนุกปาก แต่อี้เฉิงก็ไม่ได้สนใจสายตาของคนพวกนั้น เขาสนใจแค่ผู้หญิงตรงหน้าของเขาเท่านั้น“ท่านไม่อายหรือ ที่ท่านต้องมานั่งคุกเข่าให้ผู้หญิงที่ท่านทิ้ง และใช้คำพูดทำร้ายจิตใจของเธอ ท่านคงไม่ใช้คำพูดไม่กี่คำของท่านเพื่อให้ข้าคืนดีด้วยหรอกนะ!?” “ข้ารู้ ข้ามันผิดเอง ข้าเป็นคนพูดทำร้ายจิตใจเจ้า ข้าทำให้เจ้าเสียใจ แต่ทุกอย่างมันมีเหตุผล” “ถ้าทุกอย่างมีเหตุผล และเจ้าคิดถึงใจของข้าสักนิด เจ้าคงไม่เลือกที่จะทำแบบนั้นหรอก” เธอพูดเสร็จ เธอก็เดินออกมา ปล่อยให้อี้เฉิงคุกเข่าอยู่ตรงนั้นต่อไปเธอเดินกลับไปในห้องพร้อมกับความสับสนที่เกิดขึ้นมาภายในใจของเธอ ว่าเขากลับมาทำไม ในเมื
เหมยฮวากลับมาที่โรงเตี๊ยม หลังจากที่เธอกินข้าวกันเสร็จแล้ว เธอคิดว่าเธอจะลองค้นหาเค้ก หรือขนมรูปแบบใหม่ๆ มาทำตอนเปิดร้านของเธอเสียหน่อย และวันที่เธอเปิดร้าน เธอก็จะทำเค้กกล้วยหอมแบบง่ายเพื่อแจกให้ผู้คน เพื่อทำให้ร้านค้าของเธอเป็นที่รู้จักเธอเปิดดูวิดีโอในโทรศัพท์ เกี่ยวกับคุณแม่ท้องแรก เธอเปิดเพลงให้ลูกน้อยของเธอฟัง เธอเอามือลูบท้องที่นูนออกมาอย่างเห็นได้ชัด นี่เธอกำลังจะเป็นแม่คนครั้งแรก เธอจะดูแลเด็กคนนี้ให้ดี ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์หลังจากที่ เธอตกลงสร้างร้านและตบแต่งของภายในร้านของเธอ ตอนนี้ช่างได้ทำการสร้างร้านค้าบนชั้นสามของเธอมาได้ครึ่งทางแล้ว เหลืออีกแค่ไม่กี่วันเท่านั้น ร้านค้าของเธอก็จะเสร็จเสียที ในระหว่างที่รอให้ร้านทำเสร็จอยู่นั้น เธอก็มองหาสิ่งของใหม่ๆ มาขายภายในร้านของเธอ ตอนนี้ร้านเครื่องหอมที่เธอทำอยู่ มีสบู่ ครีมอาบน้ำ ครีมทาผิว และยังมีน้ำหอม เธอทำลิปบำรุงริมฝีปาก แต่เธอยังไม่ได้ทำลิปทาปากสีสวยๆ มาขายเลย เธอคิดว่าจะเริ่มทำลิปที่ทาแล้วให้ริมฝีปากดูน่าดึงดูด ขึ้นมาเธอมองดูแต้มในโทรศัพท์ที่เหลืออยู่แค่สองพันแต้มเท่านั้น เธอค้นหาวิธีทำลิปแบบแท่งซึ่งไม่มีขายในยุคนี้ เธอ
“ที่จริงข้าอยากได้ แค่สองสามคน ตอนนี้ข้าอยากได้ หญิงสาม ชายอีกสองคน ข้ามาคิดดูแล้ว ข้าอยากไปดูทาสตอนที่สร้างบ้านเสร็จเสียก่อนดีกว่า ข้าไม่รู้ว่าซื้อมาแล้วจะให้พวกเขาไปอยู่ที่ไหน พวกเราสามคน รวมทั้งป้าลี่ซื้อที่กำลังจะตามมาอีกคนก็คงจะพอแล้ว เอาไว้เมื่อทุกอย่างทำเสร็จทั้งหมดแล้ว ข้าค่อยไปหาซื้อทาสก็แล้วกัน” “เป็นความคิดที่ดีเจ้าคะนายหญิง ข้าไม่อยากให้ท่านทำอะไรกระชั้นชิดมากเกินไปนัก” เธอพูดคุยปรึกษากับพี่ลี่หลินมาตลอดทาง จนมาถึงร้านขายเครื่องเรือนพอดี“พี่เหมยฮวา ถึงร้านขายเครื่องเรือนแล้วขอรับ” หลังจากที่เสียงของหลีชางดังขึ้น เธอก็เดินเข้าไปดูภายในร้าน ที่มีโต๊ะหลายรูปแบบ แต่ก็ไม่ใช่แบบที่เธอต้องการอยู่ดี“ร้านของท่านมีของเท่านี้หรือ มีแบบโต๊ะและเก้าอี้อีกหรือไม่” “ร้านของข้ามีเท่านี้ ท่านอยากได้แบบไหนหรือ ข้าจะได้ดูว่ามีหรือไม่” เป็นชายอายุหกสิบหน้าตาใจดี พูดตอบเธอกลับมา เธอจึงรู้สึกสบายใจที่ได้พูดคุยกับเขา“ข้าต้องการเก้าอี้แบบนี้ มีหรือไม่” ดีที่เธอวาดแบบเก้าอี้และแบบโต๊ะเอาไว้แล้ว“ข้าไม่เคยเห็นของแบบนี้ที่ไหนเลย แต่ถ้าท่านอยากได้แบบนี้ ข้าก็สามารถทำให้ท่านได้ แต่ข้าต
“หลีชางเจ้าบังคับม้าช้าๆ หน่อย นายหญิงกำลังท้องอ่อนๆ เจ้าต้องระวังให้มาก” “ข้าเข้าใจแล้วขอรับพี่ลี่หลิน ข้าจะบังคับรถม้าให้ช้า และเบาที่สุดเลย” ลี่หลินได้ยินแบบนั้น เธอก็สบายใจ“ข้าบอกนายหญิงแล้ว ว่านายหญิงไม่เป็นอะไรหรอกเจ้าคะ ตอนนี้นายหญิงสบายใจหรือยังเจ้าคะ” “ข้าคงคิดมากไปจริงๆ นั่นแหละ ขอบคุณพี่ลี่หลินมากที่มาหาหมอเป็นเพื่อนข้า” “ข้ามีหน้าที่ดูแลนายหญิงอยู่แล้วเจ้าคะ นายหญิงเรียกใช้ข้าได้ตลอดเวลาเลย” เธอพลาดโอกาสมีลูกไปแล้ว เธอจะต้องดูแลนายน้อยที่กำลังจะเกิดมาให้ดี เสียดายก็แต่ว่า นายหญิงเลิกกับนายท่านไปเสียแล้ว ทำให้นายหญิงต้องเป็นหญิงม่ายลูกติด ซึ่งคนอื่นอาจจะมองนายหญิงไม่ดีได้ เธอหันไปมองนายหญิง ช่างน่าสงสารเสียจริง นายหญิงของเธอช่างอาภัพนัก“ถ้าข้าท้องแบบนี้ การเดินทางกลับเมืองสงบสุขก็คงต้องเลื่อนออกไปเสียแล้ว ข้าไม่อยากให้ลูกของข้าต้องเป็นอะไรระหว่างการเดินทาง” “ดีแล้วเจ้าคะ ให้แม่ของข้ามา ท่านจะได้ดูแลนายหญิงได้ นายหญิงจะได้ไม่ต้องเป็นกังวล และเราต้องหาหมอทำคลอดเอาไว้ก่อนด้วย” “มีหลายอย่างที่ข้าต้องเตรียมพร้อมมากเลยสินะ ถ้าอย่างนั้น บ้านของข้าต้องทำห้องเตรียมไว
วันนี้เธอมีนัดกับช่างจางเหว่ เพื่อมาทำการประปรุงบ้านที่เธอเพิ่งซื้อมา เธอนัดกับช่างจางเหว่ยไว้ที่ร้านค้าของเธอ ช่วงนี้เธอรู้สึกแปลกกับร่างกายของเธอ เพราะเธอกินข้าวได้เยอะขึ้น แถมอยากกินของที่มีรสจัด และตอนนี้เธอมีหน้าท้องที่ป่องออกมา ประจำเดือนของเธอก็ไม่มานานมากแล้ว ตอนที่ประจำเดือนของเธอไม่มาครั้งแรก เธอก็ไม่ได้สงสัยอะไร เพราะร่างกายของเธอก็ไม่ได้แข็งแรงมากนัก ประจำเดือนจะมาบ้างไม่มาบ้างเป็นปกติ แต่ครั้งนี้ไม่มาติดต่อกันหลายเดือนแล้วหรือว่าเธอจะท้อง เพราะเธอมีอะไรกับอี้เฉิงครั้งสุดท้ายก่อนที่เขาจะจากไปก็เป็นเวลาสี่เดือนกว่าแล้ว เธอจะท้องหรือ เธอก็ไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกัน เพราะเธอก็ไม่รู้เรื่องพวกนี้เท่าไหร่นัก ถ้าเธอท้องแล้วทำไมเธอถึงไม่มีอาการอะไรเลย เธอจะปรึกษาใครได้บ้าง พี่ลี่หลินน่าจะพอรู้ เพราะพี่ลี่หลินเคยแต่งงานมาก่อน แถมพี่ลี่หลินก็เป็นผู้หญิงเหมือนกับเธอ นางก็น่าจะเข้าใจเธอที่สุดเธอเดินออกมาจากนอกห้องนอน เธอเดินไปหาพี่ลี่หลินในครัว เธอเห็นพี่ลี่หลินกำลังทำอาหารอยู่ เธอรอจนกว่าพี่ลี่หลินทำอาหารจนเสร็จแล้ว จึงเรียกพี่ลี่หลินออกมาคุย“พี่ลี่หลินท่านว่างหรือยัง” “นายหญิงม
“ทุกคนไม่เห็นจำเป็นต้องเป็นกังวลเลย ข้าก็ไม่ได้เป็นอะไรเสียหน่อย การบังคับเกวียนม้าก็ไม่ได้ยากเท่าไหร่นัก ข้าทำได้อยู่แล้ว” ทำไมพวกเขาทุกคนที่รู้ว่าเธอบังคับเกวียนม้าเอง ต้องมีอาการตกใจเช่นนี้กันด้วย ทั้งๆ ที่มันก็ไม่ได้ยากเท่าไหร่เลย“นายหญิงถ้าท่านเป็นอะไรไปพวกข้าก็จะลำบากเช่นกันนะเจ้าคะ เห็นแก่พวกข้าเถอะนะ ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ท่านบังคับเกวียนม้าได้หรือไม่ได้เจ้าคะ แต่วันนี้ท่านเพิ่งซื้อม้ามาใหม่ ม้าตัวนั้นยังไม่คุ้นชินกับท่าน มันอาจจะทำร้ายท่านได้” “ข้ายอมพวกเจ้าแล้ว ต่อไปข้าจะไม่ทำเช่นนี้อีกแล้ว พอใจพวกเจ้าแล้วหรือยัง” เธอก็ลืมคิดถึงเรื่องนี้ไป ม้าตัวนี้เธอเพิ่งซื้อมาใหม่ ดีที่มันไม่ดุร้าย เธอก็ทำอะไรใจร้อนเสียจริง“พอใจแล้วเจ้าคะ” “พอใจแล้วพี่เหมยฮวา” ทั้งสองคนตอบพร้อมกัน“เลิกคุยเรื่องนี้เสียที ข้าได้บ้านที่ถูกใจแล้ว ข้าจะให้ช่างจางเหว่ย เข้าไปปรับปรุง และเราค่อยเข้าไปอยู่ที่นั่นกัน ข้ายังต้องหาทาสมาเรียนรู้การทำงาน และสอนงานอีก” ที่เธอไม่จ้างคนงานมาทำงาน ก็เพราะว่าเธอจะไม่ต้องกังวลว่าทาสเหล่านั้นจะหักหลังเธอหรือไม่ หรือจะเอาสูตรการทำสบู่หรือของใช้ของเธอไปเผยแพร่ที่ไหน ถ้า
นายหน้าพาเธอนั่งเกวียนม้าเข้ามาที่ถนนรื่นเริง รถม้าขับพาเธอเข้ามาตามถนน เธอยังผ่านร้านค้าของเธอ ตลอดทางที่ผ่านเข้ามา มีร้านค้าอยู่หลายร้าน แต่ยิ่งเข้าไปลึกเท่าไรก็จะเห็นว่าเป็นบ้านคนเสียมากกว่า นายหน้าขับเกวียนม้าพาเธอมาจนถึงบ้านหลังสุดท้าย เป็นบ้านชั้นเดียว มีหลายห้อง ด้านหลังของบ้าน มีพื้นที่โล่งและมีบ่อน้ำอยู่ บ้านหลังนี้ทำไมถึงว่าง เธอสงสัยอยู่บ้าง แต่เธอถูกใจบ้านหลังนี้ เพราะมันเป็นทางเดียวกันกับร้านค้าของเธอ แถมยังมีหลายห้องนอนอีกด้วย เธอต้องให้ช่างจางเหว่ยมาสร้างที่ทำสบู่ และเตาอบขนม มีพื้นที่ว่างแบบนี้เธอชอบ ต้องเปลี่ยนห้องน้ำใหม่ทั้งหมด ยังคงต้องซ่อมแซมอีกเยอะ“บ้านหลังนี้ทำไมถึงว่างหรือ ไม่ใช่ว่าท่านบอกกับข้า ว่าหาบ้านแถวนี้ยากไม่ใช่หรือ” “บ้านหลังนี้ มีประวัติ เจ้ากลัวผีหรือไม่” “ท่านจะบอกว่ามีคนตายในบ้านหลังนี้” “ใช่แล้วบ้านหลังนี้ เป็นบ้านของบัณฑิตผู้หนึ่ง เขาสอบติด และได้ย้ายไปอยู่ที่อื่น แต่แม่ของเขาไม่ได้ตามไปอยู่ด้วย จนมาวันหนึ่ง หญิงชราผู้นั้นก็นอนตายไปเฉยๆ เจ้ายังจะซื้อบ้านหลังนี้อยู่อีกหรือไม่” ถ้ามีคนอยู่เยอะ เธอก็ไม่ได้กลัวเรื่องผีอยู่แล้ว และอีกอย่างก็ไ
เธอเดินทางถึงเมืองหลวงในอีกสิบห้าวัน เธอไปร้านสรรค์สร้างเพื่อเอากุญแจร้านค้าที่เธอฝากเอาไว้ และก็พากันกลับไปที่ร้านค้าเครื่องหอม เธอเดินดูความเรียบร้อยอีกครั้ง ช่างจางเหว่ยไม่เคยทำให้เธอผิดหวังเลย ร้านที่เขาปรับปรุงตรงกับความต้องการของเธอทั้งหมด ไม่แตกต่างจากร้านที่อยู่เมืองสงบสุขมากนัก เธอวางแผนว่าจะอยู่จนกว่าทุกอย่างเข้าที่เข้าทางเสียก่อน ถึงจะกลับไปที่เมืองสงบสุข เธอต้องหาซื้อบ้าน และหาทาสเพิ่มอีกสองคนเอาไว้เฝ้าร้านที่อยู่ทางนี้ เมื่อเธอตรวจดูความเรียบร้อยทั้งหมดแล้ว ก็กลับไปที่โรงเตี๊ยมก้งเยว่ที่เธอได้เช่าทิ้งเอาไว้ เธอต้องมีบ้านอยู่ที่นี่สักหลังหรือไม่ หรือเธอจะรับลูกจ้างมาขายของที่ร้านของเธอดี แบบไปเช้าเย็นกลับ เมื่อเธอได้บ้าน เธอค่อยหาซื้อทาสมาเพิ่มอีก เธอเก็บของทุกอย่างที่ซื้อมาเอาไว้ในห้องว่างในร้านค้าของเธอก่อน และของส่วนมากเธอเก็บไว้ในช่องเก็บของ รวมถึงอาหารสดด้วยตอนนี้เธอเดินทางมาโรงเตี๊ยมก้งเยว่ ที่เธอได้เช่าทิ้งเอาไว้ก่อนที่เธอจะเดินทางไปเมืองทางใต้ลูกจ้างของโรงเตี๊ยมมองเห็นคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาในร้าน เขาก็ออกไปต้อนรับ พอสังเกตคนกลุ่มนั้นดีๆ ก็เป็นกลุ่มคนที่เคยเช่าห
ตอนนี้เป็นเวลาเกือบเย็น ผู้ใหญ่บ้านได้ขอตัวกลับบ้านไปตั้งนานแล้ว พวกเธอเดินดูทะเลแถวนั้นอยู่อีกสักพัก ก็กลับไปที่โรงเตี๊ยมที่เดิม เธอเดินเข้ามาในโรงเตี๊ยมก็ต้องแปลกใจ ที่มีคนเข้ามานั่งกินอาหารกันมากมายและทุกโต๊ะ เธอจะเห็นต้มยำกุ้งเป็นอาหารจานหลักของที่นี่ เธอเจอกับหลงจู๊ เขาทักทายด้วยการยิ้มให้เธอการเอาสูตรอาหารมาเผยแพร่ก็คงไม่เป็นอะไร เพราะประเทศจีนยุคนี้เป็นยุคที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ เธอจึงไม่กลัวที่จะเอาข้อมูลออกมาเผยแพร่ หรือเธอจะเขียนหนังสือสักเล่มดี เกี่ยวกับสัตว์น้ำทะเล ในเมื่อเธอก็มีข้อมูลจากโทรศัพท์อยู่แล้ว หรือบางทีเธออาจจะสั่งซื้อหนังสือสัตว์น้ำทะเลจากร้านค้าของเธอ เรื่องนี้เธอจะกลับไปลองคิดดูอีกครั้งเมื่อเธอว่าง“นายหญิงพรุ่งนี้ท่านจะกลับไปที่เมืองหลวงเลยไหมเจ้าคะ” ลี่หลินถามนายหญิง เธอจะได้จัดเตรียมของได้ถูกหมู่บ้านเธอก็เที่ยวดูมาหมดแล้ว เหลือแค่หมู่บ้านหาปลาที่เธอยังไม่ได้ไป เธอคิดว่าคงยังไม่กลับพรุ่งนี้ เพราะเธอต้องไปหาซื้อของก่อน พรุ่งนี้เธอจะไปที่หมู่บ้านหาปลาก่อนก็แล้วกัน“พรุ่งนี้ยังไม่กลับ พรุ่งนี้เราจะไปเช่ารถม้าที่สำนักคุ้มภัย และก็จ้างคนไว้ อีกวันเราถึงค่อ