“เหนื่อยไหมคะ” นัชชาปรือตาขึ้นมองผู้ชายที่บัดนี้ได้ชื่อว่าเป็นสามีหล่อนเต็มตัว ผู้ชายที่ทำให้หล่อนเจ็บปวดปานจะขาดใจ แต่ก็เป็นผู้ชายที่ทำให้หล่อนสุขครั้งแล้วครั้งเล่าจนกรีดร้องไม่หยุด หล่อนขยับเข้าไปซบอกแน่นของเขา “หายแล้วค่ะ” บอกเขาก่อนจะยิ้มหวาน เมื่อเขาเองก็กอดหล่อนแนบแน่น ในเวลานี้หล่อนรู้แล้วว่ารูปร่างไม่เป็นอุปสรรคสำหรับการร่วมรักเลยสักนิด เสียงกระเส่าของเขายังดังชัดในหัวใจ ‘โอว... มันเหลือเกิน เอามัน โอว... เอามัน...’ เขาร่ำร้องทุกครั้งที่กระแทกแทรกดุ้นลงมาหา พร้อมกับเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่น นั่นคือความมันสุดติ่ง เขาทำให้หล่อนมั่นใจในรูปร่างของตัวเองขึ้นมาเป็น 100% เพราะรูปร่างอวบอิ่มไปทั้งเนื้อทั้งตัวที่ใครต่อใครมองว่าอ้วน แต่เขาไม่ได้เห็นแบบนั้น เขาทำให้หล่อนดูสวยมากในวันนี้ เพราะเขาพูดให้แขกที่มาร่วมงาน รวมทั้งเพื่อนๆ ในบริษัทที่อาจจะเคยนินทาหล่อน ได้เข้าใจแล้วว่าเขารักหล่อนตั้งแต่แรกพบ เขาเองที่เป็นฝ่ายตามติดหล่อน เช้าถึงเย็นถึงให้หล่อนรับเขาเป็นแฟน เขาทำให้ผู้หญิงอ
เสียงดนตรีบรรเลงเพลงแจ๊สที่ดังออกมาจากห้องจัดเลี้ยงด้านในทำให้หญิงสาวที่มองเงาสะท้อนของตัวเองอยู่ในบานกระจกใหญ่ยิ้มอย่างเอียงอาย เพราะภาพสะท้อนนั้นเป็นภาพของหญิงสาวที่แต่งกายด้วยชุดเจ้าสาวสวยงามหมดจดทั้งตัว ผมยาวถูกรวบเกล้าสูงประดับดอกไม้กระจิริดพองาม ใบหน้าแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางอย่างประณีต จนหล่อนไม่คิดว่าตัวเองจะสวยได้ถึงเพียงนี้ ชุดเจ้าสาวสีขาวเป็นชุดเดรสเกาะอกสั้นเหนือเข่า เกาะอกเป็นแบบเรียบเพื่อขับเน้นทรวงอวบอิ่มให้ยิ่งเด่น ช่วงเอวเข้ารูป ด้านหลังมีโบว์อันใหญ่ติดไว้ทำให้ด้านหน้าดูเล็กลง และชุดที่สั้นเหนือเข่าก็ทำให้ช่วงขาของหล่อนดูยาวมากขึ้น องค์ประกอบของชุดที่ตัดเย็บด้วยแพทเทินประณีตทำให้หล่อนดูมีทรวดทรงองค์เอว สัดส่วน 36 32 36 ของหล่อน ดูราวจะสมส่วน หล่อนกลายเป็นผู้หญิงหุ่นอวบอั๋น น่ากิน ตามที่เขาบอกจริงๆ ‘ตรงไหนกันที่อ้วน ไม่มีเลย อิ่มไปทั้งเนื้อทั้งตัวแบบนี้ พี่ชอบที่สุดเลยค่ะ กอดอุ่นจะตาย แล้วคืนนี้ พี่จะกอดทั้งคืนคอยดูสิ’ หล่อนยิ้มให้กับเงาสะท้อนของตัวเองในกระจกอีกครั้ง มีความสุขเหลือเกิน ใครจะคิดฝันว
ฉันชื่อ “นัชชา” ค่ะ ปีนี้อายุ 25 ปี ตก ‘เบญจเพส’ พอดี คุณคงอยากรู้ว่า ‘เบญจเพส’ แล้วฉันกลัวอะไรไหม ก็มีเรื่องกลัวอยู่นะ แต่คุณคงกำลังคิดว่า ฉันกลัวอาถรรพ์อะไรพรรค์นั้นใช่ไหม ไม่อะ ฉันไม่กลัว ไม่เชื่อด้วยซ้ำ แต่แม่ฉันสิ สารพัดจะพาฉันไปสะเดาะเคราะห์ ทั้งไปไหว้พระ รดน้ำมนต์ พกผ้ายันต์ติดตัว ห้อยพระเครื่อง บวชชีพราหมณ์ สารพัดสารพันที่แม่ทั้งพาไปและทั้งบังคับให้ฉันไปทำ รวมทั้งต้องถ่ายรูปส่งมาให้ดูเป็นหลักฐานด้วยว่าฉันไปทำมาแล้วจริงๆ และที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับเบญจเพสก็คือ เรื่อง ‘ดวง’ นั่นแหละ ไม่ว่าญาติพี่น้องหรือเพื่อนฝูงจะบอกว่าหมอดูที่ไหนแม่นเวอร์ ทายแม่นสุด แม่ฉันต้องดั้งด้นไปให้ถึง จากนั้นก็ช่วยทำบุญค่าครูหลักร้อยไปจนถึงหลักพัน เพื่อให้ได้มาซึ่งคำทำนายสำหรับลูกสาวตัวน้อยๆ ของแม่เสมอ และคำทำนายหนักอึ้ง จนฉันไม่อยากไปทำงานก็คือ ‘น้องหนู! ลูกหนูตัวน้อยๆ ของแม่ น้องหนูจ๋า พ่อหมอดูตาทิพย์ท่านบอกแม่ว่า เบญจเพสนี้ดวงน้องหนูจะรุ่ง! พุ่งแรง น้องหนูจะหมดเคราะห์หมดโศก และจะได้ลาภเป็นสัตว์สองเท้า!’ ฉันคว
“ขอโทษด้วยนะครับที่มาสาย โชคดีของผมที่คุณน้องหนูช่วยนำมา ไม่งั้นผมสายแย่เลย” เสียงทุ้มๆ ของผู้ชายที่ดังอยู่ด้านหลังทำให้นัชชาชะงัก ความร้อนราวจะแผ่ซ่านไปทั่วทั้งกาย แม้ขณะนี้เขาจะปล่อยมือออกจากรอบเอวหนาๆ ของหล่อนแล้วก็ตาม แต่ความอุ่นซ่านราวจะยังอยู่ คล้ายว่าเขาจะโอบกอดหล่อนไว้ “คุณน้องหนูเชิญนั่งเลยครับ เดี๋ยวเราเริ่มประชุมได้เลย” “เอ่อ... ค่ะ ขอโทษทุกท่านด้วยนะคะ ที่ทำให้ต้องรอ” นัชชาตอบรับเขา ก่อนจะหันไปขอโทษขอโพยผู้เข้าร่วมประชุมคนอื่นๆ ไม่มีสีหน้าตำหนิจากใคร มีแต่สีหน้าจริงจังพร้อมสำหรับการประชุม เพราะคนที่เอ่ยอ้างว่าหล่อนพามานั้นเขาคือ ‘คุณก้องภพ’ รองประธานบริษัท หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ลูกชายของท่านประธาน เจ้าของที่นี่ไง หล่อนหย่อนกายอวบๆ ลงนั่งในเก้าอี้ว่างฝั่งซ้ายมือของเขา เพราะนี่คือการประชุมวางนโยบายของฝ่ายจัดซื้อประจำไตรมาสที่ 3 ซึ่งคนเตรียมข้อมูลพรีเซ้นท์คือหล่อน และเขาที่ส่งยิ้มน้อยๆ พร้อมผายมือมาด้านหน้า นั่นคือสัญญาณให้หล่อนเริ่มต้นได้เลย นัชชาโค้งศีรษะเพียงนิด ยิ้มแหยน้อยๆ ในเชิงขออภัย แต่
“คุณน้องหนู...” “คะ” เขาเรียกชื่อหล่อน แต่ไม่พูดอะไรอีก เรียกแล้วก็จ้องหน้านิ่งแต่มีรอยยิ้ม จากนั้นเจ้าของร่างสูงก็ลุกขึ้นยืน นั่นทำให้หล่อนต้องลุกขึ้นตาม แต่เขากลับก้าวเข้าใกล้ พร้อมเอื้อมมือมากระชับบ่าหนาแน่นและกดให้หล่อนนั่งลงตามเดิม นัชชาหายใจไม่ทั่วท้อง หล่อนคาดเดาไม่ถูกว่าคุณก้องภพจะทำอะไร จะตำหนิ... หรือ... จะทำอะไร สถานการณ์และสายตาเขาที่มองมาทำให้หล่อนรู้สึกแปลกๆ แม้หล่อนจะอ้วนแต่หล่อนก็เป็นเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ ที่มีเซ้นท์เรื่องความรัก จะเป็นไปได้หรือที่คำหมอดูจะเป็นจริง “คุณน้องหนู” “คะ... คุณก้องภพมีอะไรกับหนูอีกหรือเปล่าคะ หรือจะใช้ให้หนูทำอะไร ก็บอกมาได้เลยนะคะ หนูยินดีทำให้ทุกอย่างค่ะ” ใบหน้าหล่อที่ค้อมลงมาใกล้ ทำให้หล่อนต้องถามออกไป ทั้งๆ ที่อยากจะเผยอปากรับจูบแรกจากเขา แต่หล่อนไม่อยากมโนไปไกลกว่านี้ แค่นี้หล่อนก็หาทางกลับจากดาวอังคารไม่ถูกแล้ว ทว่าคำถามที่หลุดออกจากริมฝีปากสีชมพูสุขภาพดีนั้น กลับทำให้หล่อนอึ้ง ทุกอย่างหยุดการเคลื่อนไหว แม้แต่ลมหายใจของหล่อนเอง “คะ... คุณก้องภพ ถามว่าอะไ
นัชชาไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว หล่อนกำลังเคลิ้มฝัน หล่อนกำลังล่องลอยไปถึงสวรรค์ที่หล่อนไม่เคยไปถึง และหล่อนกำลังลอยได้ เนิ่นนานทีเดียวกว่าเขาจะถอนปากออกและนั่นก็ทำให้หล่อนซุกซบอยู่ที่อกแน่นของเขา หล่อนไร้แรงแม้แต่จะพยุงตัวเอง จนเขากระชับที่เอวและยกหล่อนขึ้นนั่งบนโต๊ะประชุม นัชชารับรู้ว่าร่างกายของหล่อนร้อนผ่าวโดยเฉพาะที่ใบหน้านั้นร้อนซาบซ่านไปหมด หล่อนไม่รู้ว่าควรจะปฏิบัติตัวอย่างไร ไม่กล้ามองหน้าเขา จึงได้แต่ก้มหน้านิ่ง แต่คุณก้องภพก็ไม่ทำให้หล่อนเขินอายนาน ปลายนิ้วของเขาเคลื่อนมาเชยปลายคางให้หล่อนแหงนหน้าขึ้นมองเขา แต่หล่อนไม่กล้ามองจึงเลือกหลับตาเสีย “น้องหนูคะ เป็นแฟนกับพี่แล้วนะคะ” นั่นแหละหล่อนเบิกตากว้างมองเขาทันที ทั้งที่ความร้อนพุ่งซ่าน “ไม่นะคะ น้องหนูยังไม่ได้ตอบรับนะคะ” “จูบเมื่อกี้... พี่ถือว่าน้องหนูตอบรับแล้วนะคะ ต่อไปนี้เป็นแฟนพี่แล้ว ห้ามมองคนอื่น ห้ามกรี๊ดคนอื่น พี่อนุญาตให้มองแต่พี่และกรี๊ดพี่ได้คนเดียวเท่านั้น และตอนเช้าพี่ก็จะไปรับที่บ้านนะคะ ห้ามปฏิเสธเพราะนี่คือหน้าที่ของแฟน” “คุณก้อง
อาหารเย็นฝีมือแฟนลูกสาวทำให้แม่เจริญอาหารสุดๆ กินจนอิ่มแปล้ จากนั้นก็ขอตัวไปนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์ เพื่อเปิดโอกาสให้เขากับหล่อนคุยกัน ซึ่งก็เป็นแบบนี้แทบจะทุกวัน แม้จะแค่ 2 อาทิตย์ แต่เขากลับสนิทสนมกับที่บ้านของหล่อนจนกลายเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัว ‘น้องหนูคะ’ ‘คะพี่ก้อง’ หล่อนมองมือตัวเองที่เขาเอื้อมมากุมไว้ ขณะเดินเล่นกันอยู่ในสวนเล็กๆ ข้างบ้าน สีหน้าท่าทางของเขา มองรู้ว่ามีเรื่องจะคุยด้วย ‘พี่ก้องมีอะไรหรือเปล่าคะ คุยกับหนูได้ทุกเรื่องค่ะ’ ‘พี่อยากคุยกับน้องหนูเรื่อง... แต่งงาน’ ‘คะ?’ นี่จะการันตีความแม่นของพ่อหมออีกเรื่องใช่ไหม ‘พี่รู้ว่ามันเร็วไป พี่รู้ว่าน้องหนูอาจจะยังไม่พร้อม อาจจะกลัวการใช้ชีวิตคู่ แต่พี่พร้อมนะ พี่พร้อมที่จะดูแลน้องหนูเป็นอย่างดี’ เขาที่พูดรัวเร็ว ไม่เหมือนคุณก้องภพ ผู้บริหารที่สุขุม ดูดี ทุกจังหวะการก้าวเดินและพูดคุย ‘น้องหนู ปีนี้พี่อายุสามสิบห้าแล้วนะคะ’ ‘สามสิบห้าแล้วเหรอคะ อุ้ย... หนูขอโทษค่ะ พี่ก้องพูดต่อเลยค่ะ’ ‘ก็พี่สามสิบห้า
แม่จูงมือหล่อนออกจากห้องน้ำ ฝ่ามือของแม่ที่กระชับมือหล่อนแน่นชื้นไปด้วยเหงื่อ แม่ก็ตื่นเต้นไม่ต่างจากหล่อน “แม่...” “อะไรหรือน้องหนู” แม่หันมองหล่อน นัชชาโผเข้ากอดแม่ไว้แน่น “หนูขอบคุณแม่นะ ที่แม่ทำให้หนูมีวันนี้” “แม่สิต้องขอบใจน้องหนูที่ทำให้แม่มีวันนี้เหมือนกัน แม่มีความสุขมากที่สุด อากง อาม่า อาโก และญาติๆ เราก็มีความสุข น้องหนูรู้ไหม มีแต่คนอิจฉาลูกที่ได้เจ้าบ่าวทั้งหล่อทั้งรวย และที่สำคัญ เขารักลูกของแม่มาก นี่แหละที่ทำให้แม่มีความสุขที่สุด” “ไม่น่าเชื่อเลยนะแม่ หมอดูของแม่แม่นมาก” “ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อล่ะ และอีกเรื่องที่แม่อยากให้น้องหนูเชื่อในคำทำนาย” หล่อนมองแม่ตาแป๋วรอฟัง “คำทำนายแรกที่ว่าลูกจะได้แต่งงานภายในหนึ่งเดือนเป็นจริงแล้ว จริงอย่างไม่น่าเชื่อด้วยใช่ไหม ทีนี้ก็เหลืออีกหนึ่งคำทำนายนะ นั่นคือ ลูกจะหมดเคราะห์หมดโศก จะมีแต่ความสุข จำคำของแม่ไว้นะน้องหนู ไม่มีใครทำร้ายเราได้นอกจากความคิดของเราเอง วันนี้ลูกได้ผู้ชายที่รักลูกมาเป็นคู่ชีวิต วันต่อๆ ไป ลูกก็ต้องทำตัวให้ส