“พอก่อนเมียจ๋า เดี๋ยวผัวเสร็จ มานี่ค่ะ มาขี่ผัว” เขารั้งหล่อนขึ้นยืน มือรูดดุ้นยาวใหญ่ ตามองทรวดทรงองค์เอวอะร้าอร่ามของเมียรัก “น้องหนูสวยที่สุดเลยค่ะ มาขี่ผัวเถอะ ผัวอยากเป็นม้าของเมีย” นัชชายิ้มยั่วแลบลิ้นเลียริมฝีปาก รู้สึกมั่นใจในความสวยตามที่เขาบอก เพราะน้ำเสียงและสายตาของก้องภพที่มองหล่อนคือความจริง หล่อนมองดุ้นใหญ่ในมือเขา พร้อมแล้วที่จะเป็นจ๊อกกี้ ต้นขาอวบอิ่มก้าวคร่อมผู้บริหารสุดหล่อของบริษัท มือจับความแข็งแกร่งของผัวรักอย่างมั่นคง พลางขยับสะโพกผายให้ลอยเด่น เพียงพอที่จะสามารถควบคุมความแข็งแกร่งของก้องภพไว้ได้ ก่อนจะค่อยๆ ขยับต้นขาอวบอิ่มให้แยกออกจากกันกว้างขึ้น ให้ดอกไม้เบ่งบานมากสุด จากนั้นก็พาตัวเองเข้าครอบครองเขา “โอว... พี่ก้องขา... โอว... ซี้ด...” “อูย... เมียจ๋า... ผัวเสียว... โอว... กดลงมาเลยจ้ะเมียจ๋า... กดลงมา โอว... นั่นแหละ กดลงมา อูย... เมียจ๋า... กดลงมาอีก กดอีก โอว...” นัชชาซ่านเสียวมากมายจนไม่กล้ากดลงไปให้สุด ทำได้เพียงค่อยๆ ส่ายวนสะโพกโยกไปมา ค่อยๆ เคลื่อน ค่อยๆ คืบ แต่ไม่ทันใจ
เสียงนกร้องจิ๊บจิ๊บกับอากาศเย็นฉ่ำตามธรรมชาติทำให้สองร่างที่กกกอดกันและกันอยู่บนฟูกนุ่มยิ่งกระชับอ้อมกอดเข้าหากัน เพราะนอกจากผ้าห่มคลุมกายแล้วนั้น ทั่วทั้งร่างก็ไม่มีอะไรสวมใส่อีก ทว่าเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ก็ทำให้นัชชาต้องเปิดเปลือกตาขึ้นเพราะนั่นเสียงจากโทรศัพท์ของหล่อน ร่างอวบอิ่มค่อยๆ เคลื่อนออกจากอ้อมกอดอุ่น เพราะไม่อยากให้โทรศัพท์ดังนานจนรบกวนการนอนของเขา แต่ก้องภพกลับสอดท่อนแขนรอบเอวและรั้งหล่อนให้นอนลงตามเดิม “อื้อ! พี่ก้อง... หนูจะรับโทรศัพท์ค่ะ” “ไม่เอา ไม่ให้รับ เรามาฮันนีมูนนะคะ ไม่ทำงาน” “งานบริษัทใครคะ” “ไม่รู้ไม่ชี้ค่ะ ให้คนอื่นทำไปก่อน นอนต่อนะคะ อยากกอดเมียไว้แบบนี้” “อื้อ... ไม่เอาค่ะ ปล่อยนะคะ เผื่อแม่โทรมา” “ก็ได้ แต่ต้องชดเชยเวลาให้ด้วยนะ” นัชชาค้อนน้อยๆ ใส่สามีก่อนจะรีบกระเถิบตัวไปรับโทรศัพท์ โดยเอาผ้าห่มพันตัวไปด้วย และเมื่อเห็นชื่อคนโทร. เข้า รอยยิ้มกว้างก็ปรากฏ กดรับหันกลับมามองสามีพร้อมกับกรอกเสียงลงไป “ค่ะแม่... ว้าย! พี่ก้องบ้า!” ‘อะไรเหรอน้องหนู คุณ
เสียงลมหายใจหอบกระเส่าของหญิงชายที่สอดประสานกันเป็นจังหวะจะโคนเร่งเร้า ดุดัน รุนแรง ราวกับมีใครกำลังสู้รบและมีคนได้รับบาดเจ็บอย่างแสนสาหัส แต่กลับไม่มีใครร้องห้าม มีแต่ยิ่งกรีดร้องให้กระแทกใส่เร็วแรงมากขึ้น เพราะคนทำและคนถูกทำต่างได้รับความสุขทางเพศเติมเต็มความอยากอันมากล้นได้อย่างเต็มที่ เสียงเตียงเหล็กดังอิดออดจากรองรับแรงกระแทกกระทั้นรุนแรงยาวนาน ทว่าความแข็งแรงของมันก็มีมากพอจะทำให้คนด้านบนไปถึงฝั่งฝันโดยไม่หักโค่นลงมาเสียก่อน เพราะนี่ไม่ใช่เตียงแรก แต่เป็นเตียงเสริมเหล็กอย่างดีตัวที่ 3 ซึ่งแข็งแรงทนทานพอจะทำให้ความเร่าร้อนในค่ำคืนนี้ลุล่วง ฝ่ามือแกร่งช้อนเข้าใต้สะโพกผายจับร่างอรชรของนางแบบมืออาชีพให้พลิกคว่ำหน้าลงกับที่นอนก่อนจะรั้งสองขาเรียวยาวลงมายืนอยู่ด้านข้างเตียงเหล็ก ทั้งที่ความยิ่งใหญ่ตามแบบลูกผสมของเขายังสอดแทรกอยู่ในโพรงฉ่ำน้ำของหล่อนอย่างไม่มีทีท่าว่าจะออก ไม่รอช้าร่างแกร่งเปล่าเปลือยก็กระหน่ำความแข็งแกร่งทะลวงทะยานไปข้างหน้าอย่างไม่รีรอให้คนด้านล่างได้ตั้งตัวหรือเตรียมใจ “โอว... อเล็กซ์ขา... ใจเย็นๆ สิคะ โรซี่ยังไม่ไปไหน
‘อเล็กซ์ เบญจธรางกูร’ หัวเสียสุดๆ จนพนักงานในออฟฟิศไม่กล้าเข้าหน้า แต่เพราะด้านล่างซึ่งเป็นโชว์รูมนั้นกำลังจัดงานเปิดตัวสุดยอดไฮเปอร์คาร์รุ่นใหม่ล่าสุด นั่นทำให้ ‘นที’ เลขาวัยดึก กล้าที่จะฝ่าด่านสายตาพิฆาตเข้ามา “ทุกอย่างพร้อมแล้วครับคุณอเล็กซ์ รอแค่คุณอเล็กซ์ลงไปเท่านั้น” นทีพูดพลางชำเลืองมองสีหน้าเจ้านายสุดหล่อ เพื่อคอยหาทางหนีทีไล่ เพราะหากอเล็กซ์ควบคุมตัวเองไม่ได้ หรือกราดเกรี้ยวจนเกินทนไหว เขาจะได้ไปขอความช่วยเหลือจากอีกคน ทว่าเจ้านายของเขากลับหลับตา ขยับฟันกัดริมฝีปากล่างไว้แน่น แค่นั้นนทีก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ เจ้านายกำลังกลั้นอารมณ์โกรธของตัวเอง ซึ่งในระยะ 2 เดือนที่ผ่านมานี้ ช่างเกิดขึ้นบ่อยครั้ง “เอ่อ...” “คุณแม่มาหรือยัง” “มาแล้วครับ ท่านทักทายกับลูกค้าท่านอื่นๆ อยู่ด้านนอก และคุณหนู...” “ออกไปได้แล้ว อีกห้านาทีจะตามลงไป” อเล็กซ์โบกมือไล่ นั่นล่ะสาเหตุเรื่องหัวเสียของเขา เพราะเจ้าหล่อน... ‘หนูนิ่ม’ หรือ ‘นิรชา’ แค่ชื่อเขายังไม่อยากได้ยินเพราะขนาดไม่ได้ยิน เจ้าหล่อนยังมีอ
บนเวทีที่หมุนได้ปรากฏไฮเปอร์คาร์ไฮบริดสัญชาติอเมริกันคันหรูสีขาวมุกกับบรรดาสาวพริตตี้ในชุดสีแดงเพลิงนุ่งสั้นเสมอหูกำลังยักย้ายส่ายสะโพกตามจังหวะเสียงดนตรีร็อกดิบดุเข้ากับคอนเซปต์รถ ก่อนที่ไฟทั้งห้องจะมืดดับลงและสาดส่องไปที่ด้านหนึ่งของเวที เสียงดนตรีกระหึ่มขึ้นอีกครั้งแต่ครั้งนี้มาพร้อมกับเสียงหวานๆ แต่ให้ความรู้สึกดิบเถื่อนๆ ทว่าน่าฟัง หวานแต่ดิบให้อารมณ์ประมาณ ‘ช็อกโกแลตเคลือบสตรอเบอร์รี่’ เสียงปรบมือกึกก้องเมื่อนักร้องสาวขับขานบทเพลงสากลพร้อมกับโยกเอวย้ายสะโพกมหึมาตามจังหวะเร่าร้อน เส้นผมสีทองสะบัดพลิ้วตามแรงขับเคลื่อน ชุดสีดำเป็นตาข่ายซีทรูมีลูกไม้ตกแต่งแค่ปิดเต้าอวบใหญ่และช่วงใต้สะดือกับเหนือสะโพกนอกนั้นล้วนจินตนาการได้ทั้งสิ้น โดยเฉพาะบั้นท้ายที่ส่ายไปมา นั่นทำให้เขาทนไม่ได้อีกแล้ว “อเล็กซ์ จะไปไหน” เสียงเรียกจากด้านหลังทำให้เขาชะงัก “คุณแม่...” “ว่ายังไง แม่ถามว่าจะไปไหน ยังไม่ถึงคิวของลูกนี่นา” ฝ่ามือกำแน่น ดวงตากร้าวมองไปบนเวที อยากจะขึ้นไปกระชากหล่อนให้ลงมาแต่เพราะแม่ยืนอยู่ตรงนี้ พร้อมส่งรอยยิ้มเป็นต่อม
หล่อนมีความสุขกับการกิน แต่หล่อนก็ออกกำลังกาย ดังนั้นไม่ว่าหล่อนจะกินมากแค่ไหน หล่อนก็เบิร์นออกจนสัดส่วนคงที่ แค่หล่อนไม่เคยผอมเท่านั้นแหละ ยังคงที่คืออวบแน่นดังเดิม แต่หล่อนอยากให้เขามองหล่อนบ้าง อยากให้มองที่หล่อนเป็นหล่อน มองสาวอวบอ้วนอย่างหล่อนบ้างสักครั้ง ไม่ต้องถึงกับพิศวาส แค่มองว่าน่ารักบ้างก็พอ เพราะหล่อนเป็นอย่างนั้นมานานแล้ว ผู้ชายหล่อลากดินที่หล่อนแอบติดตามเขาในหน้าข่าวเศรษฐกิจมาตลอดตั้งแต่รู้ว่าเขาเป็นลูกชายของคุณป้า แต่เขาสิไม่เคยสนใจหล่อนเลยด้วยซ้ำ จวบจนได้มาอาศัยอยู่รวมคฤหาสน์ ความหวังว่าเขาจะเมตตาที่หล่อนไร้ที่พึ่ง กลับกลายเป็นตรงกันข้าม เพราะเขาไม่ญาติดีกับหล่อนเลย แต่คนไม่เจียมไขมันของตัวเองก็แอบคิดแอบฝันให้เขามองหล่อนในสักวัน ภาวนาทุกครั้งก่อนนอนให้เขาสนใจ ไปไหว้พระที่ใดก็จะขอพรให้เขาคิดถึงแต่หล่อน มีแต่หล่อนในหัวใจ ทั้งๆ ที่ไม่มีความเป็นไปได้เลย นั่นก็แค่เรื่องเพ้อฝันของผู้หญิงที่หลงรักผู้ชายโคตรหล่อข้างเดียว จะมีไหมความเป็นจริงที่เขาจะมองหล่อนอย่างที่ผู้ชายคนหนึ่งมองผู้หญิงที่เขาต้องการ นิรชามองหุ่นอวบอ้วนของตัวเองท
อเล็กซ์เหมือนควันจะออกหู เพราะยายอ้วนพูดเหมือนว่านี่น้อยไป มากกว่านี้หล่อนก็โป๊ได้ “เป็นเด็กเป็นเล็กอย่าให้มันแรดมากนัก เดี๋ยวจะท้องก่อนเรียนจบ และถ้าคิดว่าชุดนี้มันไม่โป๊ ทำไมเธอไม่แก้ผ้าเต้นซะเลยล่ะฮะ! ทุเรศที่สุด!” เสียงตะคอกถามก่อนฝ่ามือแข็งราวคีมเหล็กจะคว้าหมับที่ข้อมือพร้อมกระชากเร็วให้เดินตาม ทั้งหมดนั่นทำให้นิรชาชะงัก หล่อนถูกเขาด่า ด่าแรงไม่มีชิ้นดี เขาว่าหล่อนแรด จะท้องก่อนเรียนจบ ทำไมไม่แก้ผ้าเต้น คืออะไร... เขาโกรธหล่อนทำไม หรือเพราะหล่อนอ้วนเขาเลยเห็นหล่อนน่าเกลียด ผิดกับสาวๆ พริตตี้ที่เขาชื่นชมว่าสวย เป็นครั้งแรกที่นิรชาได้นั่งรถสปอร์ตคันหรูของเขา ทั้งที่หล่อนน่าจะตื่นเต้นดีใจที่มีโอกาสนี้ ได้เป็นตุ๊กตาหน้ารถของเขาเพียง 1 ครั้ง นั่นคงทำให้หล่อนเก็บไปฝันได้อีกหลายปี แต่สถานการณ์จริงกลับไม่เป็นอย่างนั้นในเมื่อเขาเพิ่งด่าหล่อนแรงๆ แล้วยังขับรถเร็วปานเหาะเพื่อกลับบ้าน แต่... นี่ไม่ใช่ทางกลับบ้าน ดวงตากลมโตกวาดมองรอบด้าน เส้นทางนี้กำลังออกนอกเมือง เขาพาหล่อนขึ้นทางด่วนในเส้นทางลงใต้ “พี่อเล็กซ์คะ นี่เราจะ
เอี๊ยดดดด... ทันทีที่รถจอดนิรชาไม่รอช้า หล่อนปลดล็อกประตูเพื่อจะลงไปให้ไวก่อนที่ฝ่ามือแข็งๆ นั้นจะคว้าไว้ได้ทัน ด้านนอกมืดมิด เห็นแสงไฟลิบๆ อยู่ไม่ไกล และหล่อนต้องไปขอความช่วยเหลือจากที่นั่น สมองสั่งการให้หล่อนวิ่ง วิ่งให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้คนที่ตะโกนอยู่ด้านหลังตามทัน เพราะหล่อนจะไม่ยอมตายแน่ แค่เขาไม่รักก็แทบบ้าแล้ว จะต้องมาตายเพราะถูกเขาฆ่าอีก หล่อนไม่ยอมหรอก หล่อนไม่อยากให้เขาติดคุก “หนูนิ่ม! หยุดเดี๋ยวนี้นะ ฉันบอกให้หยุด หนูนิ่ม!” “ไม่! ช่วยด้วยค่ะ ใครก็ได้ช่วยด้วยค่ะ มีคนจะฆ่าฉัน ช่วยด้วย!” เสียงตะโกนไล่หลังสั่นประสาทจนหล่อนต้องวิ่งให้เร็วสุด แสงไฟนั่นอยู่ไม่ไกล โรงเรือนหรือบ้านไม้ขนาดใหญ่นั้นหล่อนใกล้ถึงแล้ว อีกนิดเดียวเท่านั้น หล่อนจะขอให้คนด้านในช่วย ทว่าโรงเรือนที่ฝาทำจากไม้ไผ่ตีเป็นแผ่นหน้ากระดานนี้ไม่ใช่บ้านคนแน่แต่คงเป็นที่เก็บอะไรสักอย่างเพราะหล่อนตะโกนร้องขนาดนี้ยังไม่มีคนออกมา นิรชาวิ่งอ้อมหาที่ที่พอจะซ่อนตัวได้หรือไม่ก็ต้องวิ่งไปตามเส้นทางที่คิดว่าจะเจอบ้านคน ยังไงเสียหล่อนก็จะไม่ยอมให้
เสียงพูดในคลิปถูกแทนที่ด้วยบทเพลงแห่งความรัก จากนั้นก็เป็นภาพถ่ายแรกที่คริตแอบถ่ายสมิดา ภาพหล่อนเคี้ยวขนมเต็มปาก ภาพหล่อนหาว ภาพหล่อนทำหน้ามุ่ยเพราะร้อน ภาพหล่อนกอดน้องหมีตัวโต จนมาถึงภาพในธีมวาเลนไทน์ ซึ่งความหมายของภาพก็มีเพียงเจ้าบ่าวเจ้าสาวเท่านั้นที่รู้ เพราะเป็นวันแรกที่ความรักเบ่งบาน เสียงปรบมือดังกึกก้องเมื่อคริตจูงมือเจ้าสาวขึ้นไปบนเวที สายตาเจ้าบ่าวที่มองเจ้าสาว ทำให้สาวพลัสไซส์ทุกคนมีความหวัง แค่หล่อนสวยในแบบฉบับของตัวเอง สวยด้วยทัศนคติการใช้ชีวิต แค่นั้นผู้ชายดีๆ ก็ตกถึงท้อง.. ในห้องหอ... “ที่รัก... อื้อ... น้องไม่ไหวแล้วนะคะ โอว... ซี้ด... พี่จ๋า... ไม่ไหวแล้ว... น้องไม่ไหวแล้ว...” สมิดาแอ่นร่างขึ้นสูงเปล่งเสียงครวญครางไม่ขาดปาก สะโพกใหญ่ก็ส่ายร่อนไม่หยุด เพราะลิ้นร้อนชอนลึกจนหล่อนทนอยู่เฉยไม่ไหว ต้องส่ายร่อนสะโพกให้เคลื่อนไหวอยู่ตลอด ทว่ายิ่งส่ายร่อนมากเท่าไร ก็คล้ายกับว่าลิ้นร้อนจะสอดใส่และชอนเข้าลึกมากยิ่งขึ้น “โอว... ที่รักขา... โอว... ซี้ด... เสียว... โอว... น้องเสียว ซี้ด... เสียว...” ความเสีย
ดวงตากลมโตมีแววหวาดหวั่นมองเจ้าของร้านซึ่งเป็นสาวเจ้าเนื้อไม่ต่างจากหล่อน “บอกว่าประมาณสิบโมงน่ะค่ะ” หล่อนตอบอ้อมแอ้มเพราะนี่ก็ 10 โมงแล้วแต่ยังไม่เห็นวี่แวว “แล้วเราจะรู้ได้ยังไงคะ ว่าคนไหนอะพี่ติ๊นา” ทุกสายตามองตรงมายังหล่อน ก็ใช่น่ะสิ เพราะไม่เคยมีใครเห็นหน้าตาของคริสติน่ามาก่อน ภาพแทนตัวในสื่อออนไลน์ที่คริสติน่าใช้จะเป็นภาพสาวอ้วนแต่งตัวเปรี้ยว และทุกคนก็เคารพในความเป็นส่วนตัวของกันและกัน จึงไม่เคยมีใครถามถึงหน้าตาที่แท้จริง แม้แต่เพศก็ไม่มีใครรู้ ทั้งเวลาที่คริสติน่าโทร.หาหล่อน ก็ไม่เคยเปิดกล้อง รู้แต่ว่าเสียงที่ได้ยินเป็นผู้หญิงค่อนข้างมีอายุเท่านั้น“พี่ติ๊นาบอกว่าจะใส่ชุดสีแดงค่ะ บอกว่าแดงแรงฤทธิ์ เห็นปุ๊บ พวกเราจะรู้ทันทีว่าเป็นพี่เขา” “หือ... แต่นี่ไม่เห็นมีใครแต่งแดงสักคนเลยนะ” สมิดามองออกไปด้านนอกอีกครั้ง ไม่มีวี่แววเลยว่าจะมีใครแต่งแดงเดินเข้ามา “น้องสะดิ้งลองโทร.หาสิ” “โทร.หลายรอบแล้วค่ะพี่ ปิดเครื่อง” “ฮะ! ตายล่ะ แล้วถ้าพี่ติ๊นาไม่มา เราจะทำไงล่ะ โน่น! นักข่าวรอกั
ร่างเปลือยลุกขึ้นจากเตียง ตรงไปหยิบกางเกงขาสั้นที่ถอดกองอยู่ ล้วงเอาโทรศัพท์ออกมา เขาต้องสั่งเตรียมงานของวันพรุ่งนี้ ‘ธีมวาเลนไทน์ พร้อมถ่าย 6 โมงเย็น’ นั่นคือข้อความที่ส่งออกไป ก่อนที่ร่างเปลือยจะเคลื่อนเข้าหาเตียงนอน แทรกร่างเข้าใต้ผ้าห่มนวมผืนเดียวกันกับหล่อน แต่ไม่มีสิ่งใดจะอุ่นเท่ากายเนื้อที่เขากอดอยู่นี้ กอดตระกองร่างอวบอิ่มที่นอนตะแคงข้างเผยให้เห็นแผ่นหลังขาวนวลเนียนและหัวไหล่น่าจูบน่าหอม แต่เขากลับ... “อื้อ... พี่คริต...” “ขอโทษจ้ะ นอนต่อนะ” คริตกอดกระชับเอวเจ้าเนื้อแนบเข้าหาลำตัวของเขา พลางมองรอยฟันจางๆ ที่หัวไหล่ของสมิดา ก่อนจะจูบทับลงไปอีกครั้ง..ผ่านมาอีก 1 เดือน ข่าวคาวๆ เรื่องนางแบบพลัสไซส์แอบกินตับกับช่างภาพที่กระจายอยู่บนหน้าสื่อก็ไม่มีทีท่าว่าจะคลายลง ทุกสื่อเพ่งเป้าไปที่หล่อนกับคริต มีหลายรายการติดต่อขอสัมภาษณ์ แต่สมิดาไม่ได้รับปาก หล่อนบอกแต่เพียงว่าคิวไม่ว่าง ส่วนหากมีใครมาคอมเม้นท์ในสื่อออนไลน์ของหล่อน หล่อนก็จะตอบทีเล่นทีจริงว่า ‘ไม่บอก ปล่อยให้งง’ พร้อมทั้งติดแฮชแท็กเก๋ๆ ว่า #ไม่ผอมแต่อร่อ
“พี่คริต!” “ไหวไหม” “อื้อ... ไหว...” หล่อนตอบพลางจิกเล็บที่ท่อนแขนของเขา เพราะความเจ็บปวดจากตรงนั้นกำลังกระจายวาบไปสู่ส่วนต่างๆ ของร่างกาย เจ็บมากแต่รู้ว่าไม่ควรร้อง เจ็บทุกคราที่เขาขยับเขยื้อนไม่มีสิ่งใดจะลดทอนลงได้ เพราะเขายังคงเดินหน้า เชื่องช้าแต่ปวดร้าว “อื้อ... พี่คริต...” “จ๋า... สะดิ้งแน่นเหลือเกิน โอว... แน่นที่สุด โอว...” หล่อนยิ้มแห้งเมื่อได้ยินเสียงครวญครางนั้น หล่อนเจ็บ แต่กลับได้ยินเสียงแห่งความสุข “โอว... สะดิ้งจ๋า... พี่จะไปช้าๆ อืม... โอว... ซี้ด... แน่นมาก โอว...” เขาจูบซับหยาดน้ำตาของหล่อน ก่อนจะเคลื่อนมาที่ปาก จูบอ่อนหวานและดุดันหนักแน่นตามอารมณ์ จากนั้นก็แทรกเรียวลิ้นชอนไชจนสมิดาเคลิ้ม ราวจะหลงลืมความเจ็บได้ชั่วครู่ แต่เมื่อท่อนแข็งขยับสอดใส่เพิ่มเข้ามาอีก หล่อนก็ได้ต้องอดกลั้นไว้ ใบหน้าที่นิ่วลงอย่างเจ็บปวดของสมิดาทำให้เขารู้ว่าต้องปลุกเร้าหล่อนให้มากกว่านี้ ปลายลิ้นจึงลากลงมาที่เต้าอวบใหญ่ เลียไล้ บีบเคล้น และดูดดื่มปลายยอดอย่างหนักหน่วง สลับกั
คริตละปากจากความหวานฉ่ำที่อร่อยลิ้นสุดๆ เคลื่อนใบหน้าขึ้นไปหาคนที่ยังครวญครางกระเส่าจากความเสียวที่ได้รับสองครั้งติดๆ เขาอยากปลอบโยนอยากพูดให้หล่อนผ่อนคลาย ทว่าริมฝีปากที่เผยอค้างและยังมีเสียงครางเล็ดลอดกลับทำให้เขาเปลี่ยนใจ ลิ้นร้อนชอนลึกสู่อุ้งปากหวาน ตวัดพลิ้วให้หล่อนรับรู้รสชาติความหอมหวานของตัวเอง รัดรึงดึงรั้งลิ้นน้อยๆ ให้ตามติด พัวพันดุนดูดจนหล่อนครางฮือ จากนั้นหล่อนก็คล้องต้นแขนรอบลำคอเขาและเป็นฝ่ายแทรกลิ้นเข้ามาต่อสู้ “อื้อ... พี่คริต...” “จ๋า... หวาน... อืม...” “พี่คริต... อื้อ... ซี้ด... อื้อ...” คริตเคลื่อนใบหน้าคลอเคลียอยู่ที่อกอวบ โอบกระชับให้ปลายยอดทั้งสองดันชิด ก่อนจะละเลงลิ้นพลิ้วส่ายสะบัดจนสมิดาดิ้นพล่าน จากนั้นก็ลากลิ้นลงมาตามหน้าท้อง กัดเบาๆ ไปทุกส่วน ดูดเลีย เม้ม และลากลิ้นสู่ความหอมหวานอีกครั้ง “อื้อ... พี่คริต...” หล่อนร่ำร้องเพราะเขาไม่ได้ซุกหน้าลงไป แต่กลับเคลื่อนขึ้นมาหา และส่งนิ้วไปละเลง “ซี้ด... พี่คริต...” สมิดาปรือตาขึ้นมองเขา จนเขาอ
สมิดาอมยิ้ม หล่อนมองเขาผ่านม่านน้ำตา เขาไม่รู้ว่าหล่อนจะเชื่อคำบอกรักของเขาไหม แต่เขาจะพิสูจน์ “พี่คริต... อื้อ... พี่คริตขา... อื้อ...” สมิดาสะบัดเรือนผมไปมาจนยุ่งเหยิง หล่อนควบคุมตัวเองไม่ได้เพราะความซ่านเสียวพวยพุ่งไปทั่วร่างทำให้หล่อนขาดสติ เรือนร่างคล้ายจะทำตามทุกอย่างที่ คริตชี้นำ แค่เขาช้อนฝ่ามือเข้าใต้แผ่นหลัง เต้าอวบใหญ่ของหล่อนก็แอ่นขึ้นจนชิดติดขอบปาก หล่อนอยากให้เขากลืนกิน กัด ดูด หรือทำอะไรก็ได้ให้หล่อนผ่อนคลายจากความเสียวนี้ ทั้งที่อีกใจก็ร้องบอกว่าหล่อนอยากเสียวให้มากกว่านี้ หล่อนอยากไปให้สุด อยากให้เขาทำตามที่ต้องการ ไม่ต้องอ่อนโยนกับหล่อน “อื้อ... พี่คริต... ซี้ด... พี่คริตขา...” หล่อนดีดดิ้นตามความซ่านเสียวที่ไล้วนอยู่รอบปลายยอดสีสด เพราะเขายังคงดูดดื่มไล้เลียราวกับเม็ดเชอร์รี่ของหล่อนเอร็ดอร่อยเหลือเกิน ทว่าหล่อนกลับอยากให้เขาขยับเคลื่อนปลายลิ้นไปที่ดอกไม้สดสวย ที่จุดนั้นมีความน่าละอาย มีน้ำหวานชุ่มฉ่ำล้นทะลักจนหยาดเยิ้มออกมา และก็ทำให้หล่อนคันยิบและเจ็บจี๊ดจนต้องบดเบียดต้นขาเข้าหากัน “ซี้ด... พี่คริตขา...”
คนที่นั่งตัวแข็งตั้งแต่หล่อนแนบอกอวบกับแผ่นหลังกว้าง ราวจะแข็งมากขึ้นเมื่อหล่อนพูดจบ เขาหันขวับมองหล่อนอย่างเร็ว ฝ่ามือทาบที่หัวไหล่บีบแรง ดวงตาของเขาร้อนรน สมใจหล่อน “ให้ใคร พี่ถามว่าให้ใคร!” “ไม่ให้ใครค่ะ ให้พี่คริตคนเดียว” หล่อนยิ้มให้เขาทั้งน้ำตา หัวใจเต็มตื้นอย่างบอกไม่ถูก ยอมรับว่าใจง่าย เพราะหล่อนตกหลุมรักเขาอย่างง่ายดายเหลือเกิน ตั้งแต่เมื่อไรกันที่หล่อนเฝ้าแต่แอบมองเขาตามหน้านิตยสาร มองอย่างชื่นชมดารานายแบบหรือหนุ่มไฮโซสักคน และก็แอบฝันว่าสักวันจะได้ร่วมงานกับเขา และครั้งนี้เมื่อมีโอกาสได้ใกล้ชิด หล่อนก็ไม่รีรอที่จะอ่อยเต็มที่ ทั้งที่รักษาเนื้อรักษาตัวมาเป็นอย่างดี มีแฟนก็มากสุดแค่จูบ ไม่เคยมีใครก้าวข้ามเส้นที่ขีดไว้ เพราะหล่อนไม่เคยให้โอกาส แต่กับเขาหล่อนเปิดโอกาสเต็มที่ เพราะความรู้สึกของหัวใจไม่โกหก หล่อนรักเขา... รักตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ “นะคะพี่คริต ช่วยกินสะดิ้งที สะดิ้งอยากให้พี่คริตกิน” “สะดิ้งจะต้องเสียใจ” “พร้อมค่ะ เพราะถ้าพี่คริตไม่กิน สะดิ้งก็...” “จะกินให้เกลี้ยงเลย”
ฝ่ามือของเขาก็โอบกระชับเต้าอวบใหญ่ เคล้นคลึงเบาๆ ทว่าเร้าอารมณ์จนหล่อนต้องแอ่นอกเข้าหา เพราะเขาเนิบนาบจนหล่อนอยากให้เขาทำให้รุนแรงกว่านี้ และอาการดิ้นพล่านของหล่อนก็ได้รับการตอบสนอง เมื่อบราเซียถูกถอดออกจากร่าง “ใหญ่มาก สวยมากด้วย” สมิดายกมือขึ้นป้องปิดอกของตัวเองเอาไว้ หล่อนอยากให้เขามอง อยากให้เขาเห็นความใหญ่โต แต่หล่อนก็อาย “ขอพี่กินได้ไหมครับ” อา... หล่อนจะบอกว่าไม่ได้เหรอ ในเมื่อเขารั้งฝ่ามือของหล่อนออกจากนั้นใบหน้าหล่อเหลาก็ฝังเข้ามาตรงกลางร่อง “อา... พี่คริต... อื้อ...” สมิดาครางกระเส่า เสียวจนต้องห่อไหล่ก่อนจะสะท้านเด้งขึ้นอัดส่งอกอวบใส่หน้าเขา เมื่อไรเคราสากลากไล้ไปตามเนื้อบอบบาง หล่อนส่ายสะบัดใบหน้าไม่เข้าใจความรู้สึกนี้ เพราะหล่อนเจ็บจากตอหนวดทิ่มตำ แต่หล่อนก็เสียวจนสั่นไปทั้งร่าง โดยเฉพาะ ‘ตรงนั้น’ ของหล่อนกำลังมีปฏิกิริยาตอบสนอง แค่เขาจับ จูบ ดูด เลีย หน้าอก หล่อนยังเสียวได้มากมายขนาดนี้ แล้วถ้าเขาไปต่อช่วงล่างล่ะ จะเสียวจะสั่นและจะเจ็บได้มากแค่ไหนกัน “ซี้ด... อื้อ...”
คริตประคองร่างอวบอัดให้หันหน้ามองเขา รู้ว่าหล่อนอาย แต่เขาไม่อยากรออะไรอีกแล้ว 3 ปีที่รอคอยเพราะแสดงออกไม่ได้ นั่นถือว่ามากเกินไปแล้ว และตอนนี้อีกแค่ชั่ววินาทีก็รอไม่ได้ เพราะค่ำคืนที่เขาตั้งใจสร้างให้ทุกอย่างเป็นใจไม่ได้หาง่ายๆ เริ่มตั้งแต่นัดหล่อนมาถ่ายแบบที่นี่... บ้านพักของครอบครัวเขาเอง ขอให้เพื่อนช่างภาพคนอื่นเรียกคิวน้องเมย์ในวันนี้ และทีมงานของเขาที่ดริ๊งก์กันอยู่ด้านบนนั้นด้วย ทุกอย่างเป็นใจ เหลือเพียงแต่หล่อน เขาหวังนิดๆ ว่าคืนนี้จะได้ แต่หวังมากๆ ว่าต้องได้แน่นอน ได้ทั้งตัว ทั้งหัวใจ “เป็นแฟนกันไหม” “คะ?” คริตไร้นิ้วมือขึ้นเกลี่ยข้างแก้มก่อนจะลากลงมาตามเส้นรอบปากของหล่อนอย่างช้าๆ และนุ่มนวล จากริมฝีปากบนลงมาที่ริมฝีปากล่าง หยุดที่กึ่งกลางริมฝีปาก และตอนนี้ใบหน้าเหวอๆ นั้นก็น่าจูบชะมัดและเขาก็ทนไม่ได้ ท่อนแขนเกี่ยวกระชากร่างอวบอัดเข้าใกล้ ฉกความร้อนรุ่มลงหาความหอมหวานทันที บดเบียดริมฝีปากเข้าหา จูบซับ ดูดดุน แนบแน่น แน่นอนว่าหล่อนจูบตอบ สมิดาไม่ได้ไร้เดียงสา เมื่อหล่อนคล้องแขนรอบลำคอของเขา และแหงนหน้ารับจูบดูดดื่ม ล