/ รักโบราณ / สายลับทะลุมิติ ไปเป็นคุณหนูที่ถูกทิ้ง / 5 กลับไปเยี่ยมตระกูลซุนสายหลัก

공유

5 กลับไปเยี่ยมตระกูลซุนสายหลัก

last update 최신 업데이트: 2025-04-21 20:39:38

5

กลับไปเยี่ยมตระกูลซุนสายหลัก

เฟยเมี่ยวมาถึงโรงสุราท้ายตรอกแล้ว โรงสุราแห่งนี้ไม่ใช่สถานที่คนทั่วไปรู้จักกัน คนที่มาใช้บริการที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นชาวยุทธภพที่เดินทางเข้าเมืองหลวง และอยากได้ที่พักราคาเป็นกันเองพร้อมกันนั้นแบบไม่ต้องการคนรับใช้มาก เพราะที่นี่ไม่มีเสี่ยวเอ้อให้เรียกรับใช้ มีเพียงห้องและเครื่องนอนให้เท่านั้น ทำความสะอาดวันละครั้ง มีร้านอาหารที่เน้นสุราขนาดเล็ก ให้บริการ ทว่าโรงสุราแห่งนี้มีอีกบริการหนึ่งที่คนในเครือข่ายจะรู้กัน นั่นคือ บริการหางานรับจ้างนั่นเอง เจ้าของที่นี่มีสายสัมพันธ์กว้างขวางรับงานจากใครก็ตามที่ต้องการคนทำงานแบบเงียบ ๆ และหาคนมาทำงานให้ ซึ่งเฟยเมี่ยวก็รู้บริการนี้จากสายข่าวหนึ่งในขอทาน นางจึงมารับงานไปทำบ่อยครา หาเงินเพิ่มจากที่ตระกูลซุนส่งมาให้ใช้ประจำนั่นล่ะ

“ขอข้าวสารหน่อย”

รหัสในการขอรายนามภารกิจในตอนนี้นั่นเอง

เฟยเมี่ยวส่งเงินค่าขอดูข่าวให้และรับกระดาษแผ่นใหญ่มา นางเลือกโต๊ะที่ว่างอยู่มุมร้านเพื่อไล่ดูงาน เกณฑ์การเลือกงานของเฟยเมี่ยวคือ ลงแรงแล้วต้องได้เงินคุ้มค่าเหนื่อย จะเป็นงานอันใดนางทำได้หมด

แต่ไม่ต้องกังวลนะ งานของที่นี่เลือกรับแต่งานสุจริต หรือไม่อย่างมากก็เป็นเนื้องานสีขาวออกเทาหน่อย ๆ เท่านั้น

อย่างงานที่เฟยเมี่ยวเลือกคราวนี้นางอ่านแล้วดูน่าสนใจยิ่งนัก ฮูหยินตระกูลขุนนางระดับกลางท่านหนึ่งต้องการให้

ตามหาสามีขุนนาง เขาออกไปจากจวนไม่ติดต่อกลับมาเป็นเวลาสามวันแล้ว มิใช่เรื่องแปลกที่ขุนนางคนหนึ่งจะออกจากบ้าน แต่คราวนี้เขาออกไปทำงานแล้วก็หายไปเลย ฮูหยินจึงสงสัยกลัวถูกฆ่าหรือเป็นอันตรายนั่นล่ะ จึงจ้างคนสืบข่าวสามีให้หน่อยเท่านั้น ไม่ได้อยากให้ตามกลับมาเลยหรอก

เฟยเมี่ยวตัดสินใจเลือกงานนี้ล่ะ เพราะค่าจ้างสูงดี หากนางทำสำเร็จได้กลับมาสามารถเลี้ยงเด็ก ๆ กลุ่มขอทานของตนได้เป็นปีเลย เนื้องานก็ไม่ได้ดูเสี่ยงอันตรายหรือยืดเยื้ออันใด พรุ่งนี้เฟยเมี่ยวต้องไปพบฮูหยินคนนั้นเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมอีกมาก วันนี้นางจึงไม่อยู่ที่โรงสุรานาน ได้งานแล้วก็รีบออกมาและมุ่งหน้ากลับวังหลวงทันที

ในที่สุดก็ถึงวันที่เฟยเมี่ยวต้องออกจากวังไปเยี่ยมญาติตระกูลซุนแล้ว ก่อนที่บุพการีอย่างแม่ทัพใหญ่ซุนและฮูหยินของเขาจะออกไปรบและทิ้งนางไว้คนเดียวในเมืองหลวงนั้น นอกจากมารดาของนางจะฝากให้ฮองเฮาเลี้ยงดูแล้ว ยังกำหนดวันให้กลับไปอยู่กับตระกูลซุนสายหลักอีกด้วย

โครงสร้างตระกูลซุนเท่าที่เฟยเมี่ยวรู้คือ ก่อนหน้าที่บิดาของเฟยเมี่ยวจะแยกออกมาสร้างจวนใหม่นั้น เขาอยู่กับสายหลักก่อน ก็คือพี่ชายสายเลือดเดียวกัน มียศเป็นถึงตำแหน่งท่านโหวอันได้รับสืบทอดจากท่านปู่ที่สิ้นชีวิตไปแล้วพร้อมกับตำแหน่งประมุขตระกูล มองผิวเผินอาจดูเหมือนอดีตท่านโหวเอาทุกอย่างให้บุตรชายคนโตหรือเปล่า แต่จากที่นางมีความทรงจำของร่างนี้บ้าง นางจำได้ว่าเป็นซุนเหวินเชา บิดาของนางเต็มใจยกให้เอง เพราะพี่ชายของเขานามซุนเหวินเจี๋ยนั้นสละหน้าที่ในกองทัพแล้วมาทำงานในเมืองหลวง เหมาะกับตำแหน่งเหล่านั้นมากกว่านั่นเอง

มารดาของนางไม่ได้ไปฝากตระกูลหลักเลี้ยงแต่มาฝากฮองเฮาที่เป็นสหายเลี้ยงแทนด้วยเหตุผลอันใดเฟยเมี่ยวก็พอรู้บ้างแล้ว จากการได้กลับไปเยี่ยมบ้านเมื่อปีที่แล้วมา

ตระกูลซุนสายหลักนั้นนอกจาก มีครอบครัวของท่านโหวซุนเหวินเจี๋ยแล้ว ยังมีท่านย่าที่ยังมีชีวิตอยู่อีก สตรีชราผู้นี้ล่ะที่อาจเป็นเหตุผลให้บุพการีของเฟยเมี่ยวไม่อยากนำมาฝากเลี้ยงเท่าไหร่นัก

“คารวะท่านย่า ท่านลุงเจี๋ย และท่านป้าสะใภ้ใหญ่ซูเจ้าค่ะ”

เฟยเมี่ยวโค้งคำนับหัวแนบพื้นสักพักก็ยังไม่ได้ยินเสียงใครเอ่ยให้ลุกขึ้นเลยจำต้องค้างอยู่ท่านั้น จวบจวนเสียงของท่านลุงเจี๋ยเอ่ยอนุญาตนั่นล่ะ นางถึงได้ลุกขึ้น เหล่าเลือดลมที่ไหลไปค้างที่หน้าผากไหลกลับมาตำแหน่งเดิมแทบไม่ทันเชียว

ท่านย่าผู้นี้ยังเลือดเย็นกับหลานคนนี้ไม่เสื่อมคลายจริง ๆ ท่านย่ายังไม่มองมาเลยสักวาบเดียว หากไม่มีสองสามีภรรยาคู่นี้คอยทำให้บรรยากาศดีขึ้น เฟยเมี่ยวคงขาดอากาศตายเพราะความอึดนี้เป็นแน่

“มาแล้วก็อย่าลืมไปไหว้บรรพบุรุษที่ศาลบรรพชนเล่า จะได้ไม่ลืมตระกูล ข้ามหัวตระกูลสายหลัก...”

มารดาของซุนเหวินเชาบิดาของนางเปิดปากทีก็ไม่วายแขวะคนที่ไม่รู้เรื่องไม่รู้ราวกับความบาดหมางนี้สักนิดอย่างนาง  ปีที่แล้วนางกลับมาเยี่ยมจวนหลักแห่งนี้เป็นเวลาเจ็ดวันแทบขาดใจ อึดอัดเสียยิ่งอยู่ในวัง เพราะบ่าวรับใช้ที่ท่านย่าผู้นี้ส่งมาดูแลเฟยเมี่ยวเป็นการส่วนตัวนั้นล้วนเหมือนถูกสั่งให้มาพร่ำบ่นเรื่องที่ตระกูลสายรองอย่างนางข้ามหน้าข้ามตาไป ทำให้เฟยเมี่ยวที่ไม่รู้เรื่องความบาดหมางใดใดเริ่มจับทางได้เลยล่ะ

ตามจริงแล้วหากบุพการีของนางจะไม่เอานางไปออกทัพที่ชายแดนด้วยนั้นควรจะฝากญาติด้วยกันเลี้ยงมากกว่าฝากฮองเฮาที่ไม่ได้มีความสัมพันธ์ใดนอกจากเป็นสหายใช่ไหมเล่า

นั่นล่ะ แต่มารดาของนางก็เลือกฝากให้ฮองเฮาเลี้ยงแทน นางไม่รู้หรอกนะว่าทำอย่างไรถึงทำให้ท่าย่ายอมได้แต่ผลที่ตามมาก็คือ มีข่าวลือไม่ดีเกี่ยวกับสายหลักว่าไม่มีความสามารถพอ หรือบางข่าวลือก็เอ่ยทำนองว่าสายรองกับสายหลักไม่ถูกกัน อันใดทำนองนี้ทำให้ ท่านย่าไม่พอใจนั่นเอง

แต่เฟยเมี่ยวเพียงทำตามที่ผู้ใหญ่จัดการนางไม่รู้เรื่องนี้เสียหน่อยไยเอาความไม่พอใจเหล่านั้นมาลงที่นางได้เล่า เฮ้อ

“เจ้าค่ะท่านย่า อย่างนั้นหลานขอตัวไปห้องบรรพบุรุษก่อนนะเจ้าคะ”

“ไม่ได้มานานเกือบปีก็อยู่คำนับบรรพบุรุษมากหน่อยเล่า เดี๋ยวให้บ่าวไปดูแลอยู่ข้างนอก”

ดูท่าแล้วตลอดเจ็ดวันนี้เฟยเมี่ยวคงต้องนอนที่ศาลบรรพชนตลอดเลยล่ะมั้ง เพราะท่านย่าเล่นไม่กำหนดวันสิ้นสุดอีกทั้งยังบอกให้คนมาเฝ้าอีกด้วย แต่เฟยเมี่ยวไม่ยอมทรมานนานเพียงนั้นหรอกนะ นางพอเตรียมทางหนีทีไล่ไว้บ้างแล้ว

“หลานยินดีคำนับจนเหล่าบรรพชนซาบซึ้งเจ้าคะ เพียงแต่ฮองเฮาได้ฝากฝังให้หลานไปเอาของที่จวนตระกูลซุนสายรอง และอาจต้องรีบกลับไปวังหลวงเจ้าค่ะ ไม่รู้ว่าฮองเฮาทรงรีบใช้ของสิ่งนั้นหรือไม่”

เป็นเพียงข้ออ้างของเฟยเมี่ยวเท่านั้น เจ็ดวันนี้นางคิดจะไปนอนที่จวนตระกูลซุนสายรองและออกไปทำงานที่รับมาเมื่อวานพอดี ครบกำหนดวันเยี่ยมบ้านค่อยกลับวังไป

“เหอะ เอาตามเจ้าเถอะ แต่อย่างน้อยก็คุกเข่าคำนับเสียหนึ่งคืนก็แล้วกัน อย่างไรเสียตระกูลซุนสายหลักก็ไม่อยู่ในสายตาของคนสายรองอยู่แล้ว”

เฟยเมี่ยวฉีกยิ้มจืดเจื่อนไม่โต้ตอบไป นางรอจนท่านย่าบ่นจนเหนื่อยก็ค่อยออกมา เดินตามบ่าวคนหนึ่งไปที่ศาล

บรรพชนตอนนี้เข้าช่วงบ่ายของวันแล้ว บรรยากาศในห้องนี้จึงไม่ได้วังเวงและน่ากลัวมากนัก อย่างน้อยบ่าวคนนั้นก็นำที่รองกันเจ็บเข่ามาให้เฟยเมี่ยวก็แล้วกัน

มาเป็นคราที่สองแล้ว สำหรับศาลบรรพชนของตระกูลซุนนี้ เป็นห้องสี่เหลี่ยมที่ใหญ่กว่าห้องของเรือนหลักอีก เต็มไปด้วยป้ายวิญญาณของบรรพบุรุษมีทั้งเขียนคือ นาม ตำแหน่งก่อนตายและชีวประวัติเล็กน้อย อ่านไปมาก็เพลินเหมือนกัน ปีก่อนนั้นนางเพิ่งอยู่ในยุคนี้ไม่นานยังอ่านตัวหนังสือของยุคนี้ไม่ออกทุกตัว แม้จะมีทักษะความรู้ของเฟยเมี่ยวคนก่อนบ้างแต่ก็ยังไม่คุ้นชินอยู่ดี คืนนี้อย่างไรก็ต้องนอนที่นี่นางอ่านชีวประวัติให้หมดเสียเลย

เมื่อคืนเฟยเมี่ยวกินมื้อเย็นและนอนในศาลบรรพชนนั่นล่ะ ตอนแรกเกือบจะไม่ได้กินมื้อเย็นแล้ว ดีที่บ่าวของท่านป้าสะใภ้ใหญ่นำมาให้ช่วงดึก นางเลยพอมีรองท้องบ้าง

“ลาก่อนเจ้าค่ะ ขอบคุณท่านป้าสะใภ้มาก ไว้หลานมีโอกาสจะมาเยี่ยมนะเจ้าคะ”

ป้าซูเม่ยยิ้มส่งนางขึ้นรถม้าของวังหลวงมา แม้ทั้งลุงและป้าสะใภ้จะไม่ได้แสดงออกถึงท่าทีขับไล่นางเท่าท่านย่า แต่ก็ไม่น่าจะยินดีหรอก ดูจากอาหารที่นางได้เมื่อวานก็ช่วยเพียงรองท้องคลายหิวเท่านั้น มิได้ทำให้อิ่ม

นางคิดไม่ผิดที่หาข้ออ้างเพื่อไม่พักที่นี่ รถม้าขับไปส่ง

เฟยเมี่ยวที่จวนตระกูลซุนสายรอง อันคือจวนที่บิดาและมารดาของร่างนี้ซื้อไว้ก่อนจากเมืองหลวงไปกับพี่ชายและน้องชาย ทิ้งเฟยเมี่ยวไว้กับฮองเฮา

ในจวนแห่งนี้ก็เงียบสงบดี ไม่มีเหล่าบรรดาเจ้านาย มีเพียงบ่าวไพร่อันมีหน้าที่ดูแลทำความสะอาดจวนเท่านั้น อำนาจสูงสุดก็เป็นท่านพ่อบ้านฉิงนั่นล่ะ ด้วยความที่เฟยเมี่ยวไม่ได้บอกคนที่นี่ก่อนว่าจะมาจึงไม่มีใครทำความสะอาดห้องของเฟยเมี่ยวไว้

นางเดินเข้าจวนมาก็ตรงเข้าไปห้องนอนเลย บ่าวอย่างมู่กวาที่ตามมาด้วยจากวังหลวงนางก็ให้ไปพักผ่อนแล้วเช่นกัน

“คุณหนูรองต้องการอันใดเพิ่มไหมเจ้าคะ”

“ไม่หรอก ข้ามาอาศัยอยู่เท่านั้นหากจะกินหรือต้องการอันใดจะให้พี่มู่ไปบอก ไม่ต้องมาถามอันใด”

บ่าวของจวนตระกูลซุนเอ่ยถามก่อนที่เฟยเมี่ยวจะปิดประตูห้องไป อย่างไรนางก็เพียงกลับมาเก็บของและจะออกไปข้างนอกทันทีอยู่แล้วจึงไม่ต้องการคนมายุ่งในเขตของห้องตนเท่าใดนัก

ณ โรงน้ำชาซูฮวา สถานที่ที่นางนัดเจ้าของงานไว้ ห้องส่วนตัวถูกจองไว้โดยฮูหยินขุนนางเจ้าของงาน เฟยเมี่ยวในชุดบุรุษในนามแฝงว่า มี่เฟิง เดินเข้าห้องไป  ฮูหยินท่านนั้นก็รออยู่ก่อนแล้ว

ฮูหยินเจ้าของงานนี้น่าจะอายุประมาณสามสิบกว่าเห็นจะได้ สีหน้าเต็มไปด้วยความวิตกกังวล และคงไม่สบายใจอย่างมากตลอดหลายวันมานี้แน่ เพราะเกิดร่องจาง ๆ ที่หว่างคิ้ว ดูท่าแล้วฮูหยินผู้นี้คงกังวลเรื่องที่สามีหายไปจริง แปลกใจที่ไยไม่ไปแจ้งกับทางการแต่มาจ้างคนอื่นสืบหาแทนนั่นล่ะ เฟยเมี่ยวคิดว่านางคงมีความกังวลอื่นมากกว่าจนไม่อาจเปิดเผยต่อคนของทางการได้  นางคงจะได้รู้ในวันนี้กระมัง

“ท่านคือคนรับงานนี้หรือ ?”

“ขอรับ เรียกข้าว่ามี่เฟิงได้เลยขอรับ ฮูหยินหลี่”

พอฮูหยินหลี่เห็นเฟยเมี่ยวก็ดูเหมือนอยากเปลี่ยนคนรับงานเป็นคนอื่นทันใดเลย คงเพราะนางดูอ่อนเยาว์ กลัวทำงานให้ไม่ได้  แต่เฟยเมี่ยวไม่สนใจท่าทีเหยียดหยามของคนตรงหน้า นางสนใจเพียงทำงานเท่านั้น

“ก่อนหายตัวไปฮูหยินหลี่ช่วยเล่าคร่าว ๆ เกี่ยวกับสิ่งที่ท่านหลี่ทำให้ฟังหน่อยได้ไหมขอรับ โดยเฉพาะสิ่งที่เขาดูทำผิดไปจากวันอื่น ๆ”

ท่าทีอึกอักเหมือนคนไม่อยากเล่าของฮูหยินหลี่นั้นเฟยเมี่ยวแก้ด้วยการนั่งคอยนิ่ง ๆ แต่ดวงตาจ้องมองเจ้าของงานอย่างกดดันแทน นางคิดว่าสตรีผู้นี้แม้ไม่อยากให้นางทำงานให้ แต่ก็ไม่น่ามีทางเลือกอื่นแล้วหรอก ในที่สุดก็ต้องยอมเปิดปากอยู่ดี

“นายท่านก็ออกไปทำงานแต่เช้าตรู่ทุกวัน กลับมาก็ดึกดื่นโดยเฉพาะช่วงเดือนนี้ มีบางวันที่เขาไม่กลับในตอนกลางคืนแต่อย่างไรวันรุ่งขึ้นก็กลับมาอยู่ดี อีกทั้งหลายวันมานี้นายท่านก็ใช้เงินเยอะขึ้นด้วย”

“ฮูหยินเคยคุยกับเขาเรื่องนี้หรือไม่ขอรับ”

“เคยในช่วงแรก ๆ แต่เขาก็มักจะโมโหกลับมา พร้อมเอ่ย บอกว่าเขาทำงานหนักเครียดเพราะพวกข้าอยู่แล้ว อันใดทำนองนั้นน่ะ”

สีหน้าของฮูหยินหลี่บ่งบอกได้ว่ามีบางอย่างที่นางยังเล่าไม่หมด อีกทั้งสังเกตจากชุดและกริยาการเดิน นั่ง ของสตรีผู้นี้แล้ว นางดูเป็นคนขี้กลัว หรือไม่มีความไม่มั่นใจในตนเองบางอย่างอยู่แล้ว ทั้งที่เป็นฮูหยินเอกแต่กลับดูหวาดกลัวไม่ภาคภูมิอย่างที่ควรเป็น ดังนั้นเฟยเมี่ยวจึงสันนิฐานว่าสถานะของฮูหยินหลี่ในจวนต้องไม่ใช้ผู้มีอำนาจมากเท่าไหร่นักแน่ อาจมีอนุอื่นหรือไม่ก็แม่สามีคอยกดข่มไว้...

แต่ข้อมูลจวนตระกูลหลี่ที่นางได้รับมาจากโรงสุราท้ายตรอกคร่าว ๆนั้นบอกไว้ว่าในจวนมีภรรยาคนเดียว เพราะฉะนั้นต้องเป็นผลมาจากแม่สามีนั่นล่ะ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้ฮูหยินหลี่ไม่อยากไปแจ้งทางการเรื่องสามีหายไปก็เป็นได้

“อย่างนั้นเพื่อให้สืบเรื่องต่อได้ข้าต้องรบกวนฮูหยินหลี่ช่วยนำบัญชีรายการใช้จ่ายเงินของสามีท่านมาให้ข้าหน่อยแล้ว”

อาจเพราะร้อนใจฮูหยินหลี่จึงรีบนำใบรายการใช้จ่ายของสามีมาให้เฟยเมี่ยวทันทีในวันต่อมา พวกนางนัดกันที่เดิม

นางไล่สายตาตรวจดูรายการร้านที่ท่านหลี่ใช้จ่ายไปชั่วครู่ก็เงยหน้าถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง

“ช่วงนี้ฮูหยินมีไปออกงานบ่อยเลยหรือขอรับ”

เพราะในรายจ่ายนั้นมีบันทึกไว้ว่าใช้จ่ายซื้อชุดที่ร้านชุดสตรีสำหรับชนชั้นสูงด้วย หากเป็นเพียงขุนนางขั้นต่ำคนหนึ่งแล้วอีกทั้งดูจากการแต่งตัวของฮูหยินหลี่ไม่น่าสวมชุดจากร้านนั้นในชีวิตประจำวัน ต้องสวมออกงานทางการหรือใหญ่เท่านั้น

“ไม่เลย หากเจ้าสงสัยว่านายท่านจะซื้อชุดให้สตรีอื่นนั้น ข้าเคยได้คำตอบแล้วว่าเขามักซื้อชุดไปเป็นของกำนัลให้ขุนนางชั้นผู้ใหญ่ที่ทำงานด้วยน่ะ เจ้าคงเห็นว่าเขามิได้ไปรับชุดด้วยตนเองแต่ให้ทางร้านส่งให้ทั้งหมด”

“ขอรับ อย่างนั้นข้าน้อยขอยืมใบสั่งชุดนี้ก่อนนะขอรับ”

เฟยเมี่ยวดูใบรายการนั้นต่ออีกหน่อยก็แยกย้ายกับฮูหยินหลี่มา นางเดินทางไปยังร้านขายชุดสตรีที่เขียนไว้ในใบรายจ่ายเพื่อสอบถามสิ่งที่ตนข้องใจอยู่เล็กน้อย

นางถามแบบอ้อม ๆ เรื่องจุดหมายที่ชุดเหล่านั้นไปส่งก็ตัดสินใจว่าจะลองหาเบาะแสเพิ่มจากข้อสังเกตจุดนี้นั่นเอง

ปลายทางของชุดนี้ล้วนถูกส่งไปนอกเมืองหลวงยังเมืองซีเปียน ที่ประหลาดคือจุดหมายมิใช่จวนขุนนางอันใดแต่เป็นโรงเตี๊ยมในเมืองนั้นต่างหาก

ด้วยความที่เวลาที่เฟยเมี่ยวจะมีอิสระอยู่นอกวังหลวงนั้นน้อยลงทุกที นางจึงตัดสินใจออกนอกเมืองในวันนั้นเลย เฟยเมี่ยวอาศัยนามแฝงเป็นชาวยุทธภพนามมี่เฟิงออกทำงาน สวมชุดบุรุษสีขาวพิสุทธิ์เดินทางด้วยรถม้ารับจ้างมุ่งหน้าไปเมืองซีเปียนใช้เวลาราวสองวันก็เข้ามาในเมืองทันก่อนประตูปิดพอดี

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

관련 챕터

  • สายลับทะลุมิติ ไปเป็นคุณหนูที่ถูกทิ้ง   6 การชุมนุมลึกลับที่หอโคมแดง

    6การชุมนุมลึกลับที่หอโคมแดงเฟยเมี่ยวไปยังโรงเตี๊ยมที่ชุดของนายท่านตระกูลหลี่สั่งให้ไปส่ง นางเปิดห้องพักหนึ่งห้องและลงมานั่งสั่งกับข้าวสองสามอย่างในโรงเตี๊ยมนั้นเอง ที่รวมตัวของคนในสมัยนี้ก็เหมือนอย่างทวิตเตอร์สมัยที่มีอินเทอร์เน็ตอย่างไรอย่างนั้น ต่างเพียงเป็นสังคมที่แคบกว่าเท่านั้น อยากรู้เรื่องไหนก็ต้องพาตนเองไปอยู่ในคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้น ๆสิ่งที่เฟยเมี่ยวรู้มาใหม่จากฝีปากชาวโรงเตี๊ยมนั่นก็คือ ช่วงนี้มีขุนนางจากหลายเมืองเดินทางมาพักที่เมืองซีเปียนนี้มากกว่าปรกติ มีหลายเหตุผลที่ชาวโรงเตี๊ยมเดาไปต่าง ๆ นานา ซึ่งเฟยเมี่ยวก็เก็บเหตุผลเหล่านั้นไว้ในคลัง ส่วนตัวนางนั้นก็ต้องสอบถามหาความจริงกันต่อไป“เสี่ยวเอ้ออย่าเพิ่งไป ข้าถามอันใดหน่อยสิ”เฟยเมี่ยวรั้งไว้ด้วยคำพูดไม่พอ หากอยากให้ปากเปิดด้วยนางต้องง้างด้วยเงิน เฟยเมี่ยววางเงินก้วนไว้นิดหน่อยก็ทำให้เสี้ยวเอ้อตาวาวได้แล้ว“นายท่านว่ามาเลยขอรับ”“ช่วงนี้มีขุนนางต่างเมืองแห่มาพักที่นี่เยอะมากเลยหรือ ?”“ใช่แล้วขอรับ ที่โรงเตี๊ยมอื่นก็มีมากเช่นเดียวกัน”แปลกจริงนั่นล่ะ หากช่วงนี้มีจัดเทศกาลใดก็ว่าไปอย่าง...“ข้าเดินทางมายังไม่เคยเห็

    최신 업데이트 : 2025-04-21
  • สายลับทะลุมิติ ไปเป็นคุณหนูที่ถูกทิ้ง   7 สิ่งที่ควรมีก็ไม่มี อย่าได้โอ้อวดเกินตัว

    7สิ่งที่ควรมีก็ไม่มี อย่าได้โอ้อวดเกินตัว“ข้ามีการแสดงหนึ่งมาช่วยให้พวกนายท่านพิจารณากันเจ้าค่ะ ถือว่าเป็นการพักสายตากับของสวย ๆ งาม ๆ แล้วมาชมความแปลกตากันบ้าง...นายท่านเห็นเหรียญทองแดงในมือของข้าใช่ไหมเจ้าคะ อีกประเดี๋ยวข้างน้อยจะร่ายมนต์ทำให้เหรียญนี้หายไปทันตาเห็นเจ้าค่ะ...”สิ้นคำพูดของนางในชุดเหลืองอร่ามงดงามตาก็ถูกกลบด้วยเสียงหัวเราะจากทั่วสารทิศทันที จะดังมากโดยเฉพาะที่ชั้นล่างนี้เองแหละ แต่คนบนเวทีไม่ได้สะทกสะท้านอันใด ยังพยายามเคลื่อนไหวมือไปมาหลอกล่อคนให้มองตามพร้อมเคลื่อนย้ายส่ายสะโพกตามจังหวะเสียงพิณที่มีคนบรรเลงคลอมา“มิคิดว่าหอโคมแดงนอกเมืองอย่างนี้จะมีการแสดงแปลกประหลาดเยี่ยงนี้ด้วย ข้าน้อยว่าแม่นางคนนี้คงต้องการใช้คำพูดหลอกล่อให้คนสนใจเท่านั้นล่ะ มิได้ตั้งใจเสกมนต์อันใดหรอกขอรับ”คำพูดของบุรุษชุดสีขาวอันเป็นผู้ติดตามที่ยืนมองอยู่ข้างหลังเอ่ยตามสิ่งที่เห็น เพราะเมื่อสักครู่แม่นางชุดเหลืองทำทีเป็นทำเหรียญตกและบอกว่าหายไปแล้วอย่างต้องการเรียกเสียงขบขัน ผู้คนที่มองดูอยู่พากันเริ่มสั่นหัวมองตามแบบผ่าน ๆ ไม่จ้องเหมือนอย่างเคยแล้ว เพราะส่วนใหญ่ย่อมคิดแบบที่ผู้ติดตามชุดขาวข

    최신 업데이트 : 2025-04-21
  • สายลับทะลุมิติ ไปเป็นคุณหนูที่ถูกทิ้ง   8 กลยุทธิ์การต้มกบ (1)

    8กลยุทธิ์การต้มกบ“วันนี้เมี่ยวเมี่ยวไม่ต้องคุยเล่นเป็นเพื่อนข้าหรอก เจ้าไปอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบวัดผลเถิด”หลังฮองเฮาเสวยพระกระยาหารเช้าเสร็จก็ไล่เฟยเมี่ยว ออกไปเร็วกว่าทุกวัน ตลอดหลายวันมานี้หลังจากเฟยเมี่ยวกลับมาอาศัยอยู่ในวังปรกตินางก็ไม่พบว่าทั้งองค์รัชทายาทและองค์หญิงสามมาเสวยร่วมกันกับฮองเฮาอีกเลย เพราะเหล่าเด็กน้อยในวังต่างหมกตัวกันอ่านหนังสือเตรียมสอบวัดผลที่จะจัดขึ้นในอีกไม่ถึงสิบวันนี้น่ะสินางเหงาเกินกว่าปีที่แล้วอีก เพราะปรกติจะมีลูกสมุนของเหล่าองค์หญิงองค์ชายในวังหลวงมาแกล้งนางตลอด ช่วยให้นางอยู่ไม่สุขดีมีอันใดให้เล่น แต่ตอนนี้ช่างว่างเกินกว่าที่อดีตสายลับทำงานตัวเป็นเกลียวจะรับไหวแล้วเฟยเมี่ยวมีความจำดีมาตั้งแต่สมัยเป็นสายลับแล้ว เพราะฉะนั้นตำราที่นางได้อ่านตอนเรียนในเวลาเรียนนางก็จำได้ขึ้นใจหมดแล้วไม่จำเป็นต้องไปทบทวนอีกรอบให้เสียเวลา ลองคิดดูเถิดอาชีพสายลับหากมีความจำไม่ดีสืบเรื่องอันใดมาต้องจดใส่กระดาษเก็บไว้กันลืม หากถูกจับได้ขึ้นมาไม่ถูกฆ่าตายพร้อมหลักฐานที่จดไว้หรอกหรือ ฉะนั

    최신 업데이트 : 2025-04-21
  • สายลับทะลุมิติ ไปเป็นคุณหนูที่ถูกทิ้ง   8 กลยุทธิ์การต้มกบ (2)

    “คุณหนูซุนไม่ตามไปหรือขอรับ”ขันทีฉีที่ยืนเฝ้าดูแลความเรียบร้อยมาโดยตลอดเป็นคนสะกิดให้เฟยเมี่ยวตื่นจากภวังค์นั่นเองเมื่อครู่เขาบอกว่าจะสอนขี่ม้านางอีกด้วยอย่างนั้นหรือ ? เพียงสอนขี่ธนูนางยังขาสั่นไม่คลายเลย นางไม่ได้มีวรยุทธิ์อย่างเขาเสียหน่อย นางมีเพียงวิชาการต่อสู้และการใช้อาวุธเท่านั้น ที่สามารถปีนป่ายหลังคาได้ก็เพราะใช้ตัวช่วยที่นางสั่งช่างตีเหล็กผลิตขึ้นเฉพาะ ไหนเลยจะมีวิชาตัวเบาเยี่ยงคนที่ฝึกมาแต่เด็กได้“ชินอ๋องไม่มีกิจที่ต้องทำอื่นใดแล้วหรือเพคะ เดี๋ยวซ้อมขี่ม้าหม่อมฉันซะ...” ซ้อมเอง“ไม่มี เจ้าขึ้นม้าตัวนี้เถอะ”เฟยเมี่ยวชะงักงันทั้งที่พูดไม่จบ ตอนนี้เกิดปัญหาใหม่ขึ้นเสียแล้ว นั่นคือ ม้าตัวที่ว่าไม่ใช่ม้าตัวเดิมของนาง สีขนที่ดำทมึนและขนาดตัวม้าที่กำยำดูโดดเด่นนี้นางรู้อยู่เต็มอกว่าเป็นม้าส่วนตัวของชินอ๋องแน่นอน“ใช้ม้าของหม่อมฉันเองดีกว่าไหมเพคะ หม่อมฉันไม่บังอาจขี่ม้าของพระองค์หรอกเพคะ”บุรุษชุดดำหน้ากากก็ดำเข้ากับม้าสีดำยิ่ง นางยืนข้างม้าตัวนี้ยังรู้สึกไม่เข้ากันอย่างไรไม่รู้ แม้นในใจจะแอบตื่นเต้นที่จะได้ขี่ม้าที่ขึ้นชื่อว่าฝีเท้าเร็วเป็นหนึ่งของแคว้นรองเพียงม้าทรงของฮ่องเ

    최신 업데이트 : 2025-04-22
  • สายลับทะลุมิติ ไปเป็นคุณหนูที่ถูกทิ้ง   9 ผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิด

    9ผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิดวันสอบวัดผลสำหรับเหล่าองค์หญิงองค์ชายและสหายขุนนางที่มาร่ำเรียนด้วยมาถึงแล้ว วันนี้เฟยเมี่ยวถูกปลุกแต่เช้าจากนางกำนัลส่วนตัวที่ฮองเฮาส่งมาดูแลนางแต่ปีก่อนนาม อิงอิง เวลาที่เฟยเมี่ยวต้องไปเข้าเฝ้าเชื้อพระวงศ์ต่าง ๆ ล้วนต้องมีอิงอิงประกบเพื่อควบคุมมารยาทโดยตลอด วันนี้ก็เช่นกัน นางถูกจับล้างเนื้อล้างตัวแต่เช้า แต่งตัวจัดเต็มกว่าทุกวัน ทั้งเครื่องประดับบนหัวและตามตัวไม่ขาดพอจัดการเรียบร้อยเฟยเมี่ยวก็ถูกลากขึ้นเกี้ยวที่นานครั้งจะได้ขึ้น พร้อมอิงอิงและมู่กว่าเดินตามหลังมาเนื่องจากเฟยเมี่ยวเป็นเพียงลูกขุนนางที่ถูกฝากมาให้ฮองเฮาเลี้ยงดูเวลาเดินไปไหนมีนางกำนัลสองคนก็ถือว่าเยอะแล้ว ต่างจากเหล่าองค์หญิงองค์ชายที่เป็นเจ้าของวัง เดินทางไปไหนทีมีคนติดตามเป็นขบวน แต่สำหรับเฟยเมี่ยแล้ว นางว่ายิ่งน้อยยิ่งดีจะได้ทำอันใดสะดวกหน่อยไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง เอาตัวเองรอดพอไม่ต้องหาทางคอยดูบ่าวที่อาจถูกลากมาเกี่ยวด้วยยามถูกลงโทษ“ฮองเฮาทรงคาดหวังกับการสอบครานี้ของคุณหนูมากนะเจ้าคะ พระองค์ให้ทรงถ่ายทอดรับสั่งมาว่า หากคุณหนูซุนทำคะแนนสอบได้ดีจะมีรางวัลมอบให้ด้วยนะเจ้าคะ”อิงอิงที่นานทีมา

    최신 업데이트 : 2025-04-22
  • สายลับทะลุมิติ ไปเป็นคุณหนูที่ถูกทิ้ง   10 องค์หญิงสาม ธิดาคนโปรดและ ซุนเฟยเมี่ยว คุณหนูที่บุพการีทอดทิ้ง !

    10องค์หญิงสาม ธิดาคนโปรดและ ซุนเฟยเมี่ยว คุณหนูที่บุพการีทอดทิ้ง !การสอบรอบบ่ายถูกจัดที่ลานฝึกซ้อมในวังหลวงนี่เอง ฝ่ายพิธีการช่วยจัดอุปกรณ์สำหรับการสอบทักษะต่าง ๆ แยกไว้แล้ว โดยจะมีที่นั่งรอบเวทีสำหรับให้เหล่าครอบครัวของลูกหลานขุนนางที่เข้าร่วมสอบมาชมได้ และก่อนเวลาเริ่มการสอบ ทั้งฮ่องเต้และชินอ๋องนั้นมาเข้าร่วมตัดสินด้วยก็มาประทับยังที่เรียบร้อยแล้วการสอบภาคปฏิบัตินี้จะเหมารวมทุกศาสตร์ดังต่อไปนี้ วาดภาพ แต่งกลอน เล่นดนตรี ยิงธนู และขี่ม้า โดยให้ผู้เข้าสอบสามารถเลือกแสดงสิ่งที่ได้เรียนรู้มาอย่างน้อยสองศาสตร์ คะแนนที่ได้จะมาจากไท่ฝูและแขกกิตติกรรมศักดิ์ทั้งสองคนเป็นผู้ให้หลังจากเสร็จสิ้นการแสดงความสามารถ เมื่อได้คะแนนแล้วก็นำไปรวมกับคะแนนช่วงเช้าเป็นอันเสร็จสิ้นองค์รัชทายาทหวงลู่เลือกทักษะแต่งกลอนและขี่ม้าได้คะแนนเต็มสิบทุกคนยกเว้นชินอ๋องที่ให้เพียงแปดคะแนนและฮ่องเต้ให้เก้าคะแนน ส่วนองค์หญิงสามนั้นเลือกบรรเลงพิณและแต่งกลอน ได้เก้าคะแนนจากทุกคนยกเว้นชินอ๋องที่ให้เพียงห้าคะแนนเท่านั้น และคนทำการสอบคนสุดท้ายคือเฟยเมี่ยวเอง นางเลือกศาสตร์การวาดภาพและขี่ม้า ได้เก้าคะแนนจากทุกคนไม่เว้นแม

    최신 업데이트 : 2025-04-22
  • สายลับทะลุมิติ ไปเป็นคุณหนูที่ถูกทิ้ง   11 ข่าวดีในรอบเกือบสองปีที่นางไม่ต้องการ

    11ข่าวดีในรอบเกือบสองปีที่นางไม่ต้องการ“คารวะท่านหญิงเฟยเมี่ยวเจ้าค่ะ”นางกำนัลที่เดินสวนมากับเฟยเมี่ยวหยุดยืน ย่อคารวะชั่วครู่และหยุดให้นางเดินก่อนพวกตนค่อยเดินผ่านไป บ่าวที่ตามหลังเฟยเมี่ยวคราวนี้นอกจากมู่กวา บ่าวร่างใหญ่อันเป็นบ่าวคนโปรดที่ตามติดนางเสมอก็มีนางกำนัลอิงอิง หรือพี่อิงที่ เฟยเมี่ยวเรียกเป็นการส่วนตัวนางได้รับคำสั่งของฮ่องเต้ว่าให้ไปเข้าเฝ้าหลังเสร็จจากเข้าเฝ้าฮองเฮาแล้ว นับแต่วันที่นางได้แสดงตัวอย่างโดดเด่นต่อหน้าพระพักตร์ก็ถูกเรียกมาสัปดาห์ละสองถึงสามครั้งได้ จนมีข่าวลือในวังหลวงแล้วว่านางคือท่านหญิงคนโปรดของฮ่องเต้ตามจริงนางถูกเรียกไปเพราะจ้าวฮ่องเต้ได้รู้จากองค์รัชทายาทหวงลู่ว่านางเล่นหมากล้อมได้แปลกและเอาชนะเขาได้หลายครานั่นเอง ไม่รู้ไปเอ่ยถึงนางอย่างไรกลายเป็นคนที่ต้องคอยเล่นหมากล้อมกับฮ่องเต้ยามเครียดกลับกลายเป็นหน้าที่เฟยเมี่ยวเสียได้ นางมาไล่ต้อนหวงลู่คราหลังจึงได้รู้ว่าเขาเอ่ยถึงนางเพื่อให้มารับไม้ต่อเพราะเขาต้องการหนีภาระนี้นั่นล่ะจ้าวฮ่องเต้พระองค์นี้เหมือนมีวิธีการแก้เครียดจากการทำงานโดยการเล่นหมากล้อมจนกว่าจะสบายใจ บางทีหวงลู่ถูกรับสั่งให้เล่นด้วย เค

    최신 업데이트 : 2025-04-23
  • สายลับทะลุมิติ ไปเป็นคุณหนูที่ถูกทิ้ง   12 รับไออุ่นที่เมี่ยวเมี่ยวควรได้รับ

    12รับไออุ่นที่เมี่ยวเมี่ยวควรได้รับในที่สุดวันที่กองทัพของซุนเหวินเชาที่ได้รับชัยชนะก็เดินทางถึงเมืองหลวงแล้ว เหล่าชาวเมืองต่างยืนเต็มสองข้างทางโห่ร้องแสดงความยินดี บุรุษใบหน้าคมเข้มสวมชุดเกาะดูองอาจขี่ม้านำขบวนผู้นั้นน่าจะคือซุนเหวินเชา บิดาของเฟยเมี่ยวเอง ส่วนบุรุษที่หน้าตาละม้ายคล้ายกัน ขี่ม้าตามมาคงเป็นพี่ชายของนางกระมัง เขามีนามว่าเฟยหลง และคนในรถม้าที่ตามหลังมานางเห็นคนข้างในเปิดม้านตรงหน้าต่างออกดู เป็นมารดาของนางนามหลิงฟาง โอบกอดคนบนตักแน่นแย้มยิ้มรับเสียงโห่ร้องไปด้วยกัน น้องชายของนางนาม เฟยฉี เขาอายุเพียงสิบปี ใบหน้าดูอ่อนวัยอยู่เลย แต่ก็ได้ไปร่วมรบกับครอบครัวแล้วจากที่เคยคิดว่าไม่ใช่ครอบครัวของนางเองเสียหน่อย เป็นครอบครัวของเฟยเมี่ยวคนเดิมต่างหาก แต่พอได้มองเห็นพวกเขามีความสุขในขณะที่นางต้องฝ่าฟันเอาตัวเองให้รอดในวังหลวงแล้วก็รู้สึกเศร้าและน้อยใจอยู่เหมือนกันอาจเป็นเพราะอารมณ์ตกค้างจากเฟยเมี่ยวคนเดิมกระมัง...“ท่านแม่ทัพซุนช่างเก่งกล้าเสียยิ่งกว่าใคร อีกทั้งยังโชคดีสุด ๆ ที่ได้บุตรชายถึงสองคน อนาคตย่อมไม่ต่างจากผู้เป็นบิดาแน่แท้”“จริงอย่างเจ้าว่า ข้าน่ะอยากเป็นซุนฮูหยิ

    최신 업데이트 : 2025-04-24

최신 챕터

  • สายลับทะลุมิติ ไปเป็นคุณหนูที่ถูกทิ้ง   บทส่งท้าย

    บทส่งท้าย“ถวายพระพรชินอ๋องพะยะค่ะ”คนตระกูลซุนที่ออกมาต้อนรับยังไม่ทันลงไปทำความเคารพที่พื้นก็ต้องชะงักลงก่อนเพราะคำพูดแปลกประหลาดผู้สูงศักดิ์ที่มาใหม่นั่นเอง“ไม่ต้องเคารพถึงเพียงนั้นหรอกท่านว่าที่พ่อตา...”เฟยเมี่ยวอึ้งเช่นเดียวกันกับคนอื่น เพราะเขาไม่เห็นบอกนางล่วงหน้าให้ทำใจก่อนเล่า ใครจะคิดว่าอยู่ที่ดีก็ยกขบวนหมั้นหมายมาโดยไม่แจ้งล่วงหน้า“ท่านอ๋องหมายความอันใดหรือ ? กระหม่อมไม่เข้าใจ”ขนาดไม่เข้าใจของบิดานางนะเนี่ย น้ำเสียงยังแข็งกร้าวขึ้นเปลี่ยนไปจากตอนแรกมากเลยดูท่าการเป็นอริอย่างเช่นข่าวลือบิดาของนางจะอินเกินจนเข้ากระแสเลือดไปแล้วกระมัง“ก็วันนี้ข้ามาสู่ขอเมี่ยวเมี่ยวไปเป็นพระชายาเอกอย่างไรเล่า เดี๋ยวก็คงจะได้เรียกพ่อตาแล้วในอนาคต”เฟยเมี่ยวเห็นประกายไฟระหว่างสองสายตาที่จ้องกันอยู่ตอนนี้ของแม่ทัพใหญ่ซุนเหวินเชาและชินอ๋องขึ้นมาลาง ๆ แล้ว ดีที่มารดาของนางรีบเข้ามายืนขวางหน้าซุนเหวินเชาเสียก่อน“ท่านอ๋องมาแล้วก็เชิญข้างในจวนก่อนเถอะเพคะ เรื่องนี้คงต้องคุยกันอีกยาว...”“ไม่ให้แต่ง อย่างไรก็ไม่ให้แต่ง !!!”“ใช่ขอรับ ลูกไม่ให้แต่งเช่นกัน!!”สองพ่อลูกตระกูลซุนตะโกนแทบจะพร้อมกันต่อ

  • สายลับทะลุมิติ ไปเป็นคุณหนูที่ถูกทิ้ง   24 ตัดขาด

    24ตัดขาดภายในห้องรับรองตระกูลซุนสายรอง มีเจ้าของจวนนั่งเรียงหน้าเครียด โดยเฉพาะซุนเหวินเชา แม่ทัพไร้พ่ายที่หน้านิ่งแผ่รังสีความไม่พอใจ จนทำให้เหล่าแขกของจวนที่นั่งรวมกันอยู่ฝั่งที่นั่งแขกพากันนั่งเกร็งจนเฟยเมี่ยวที่มองอยู่แทบกลั้นขำไม่ไหวเหล่าแขกที่ว่าคือ พวกตระกูลซุนสายหลักนั่นเอง มีท่านลุงซุนโหว ท่านป้าสะใภ้ซูเม่ย และท่านย่า พวกเขามาคราวนี้เพื่อมาขอขมา ให้สายรองให้อภัยกับเรื่องที่เกิดขึ้น“อาเหวิน เจ้าก็ให้อภัยพี่ชายเจ้าหน่อยเถอะ อย่างไรก็คนตระกูลซุนเช่นเดียวกัน”ท่านย่าเอ่ยเสียงอ่อน รอยยิ้มเหี่ยวย่นของหญิงชราผู้นี้จืดเจื่อนยิ่งนัก แต่ก็ทำใจดีสู้เสือเอ่ยทั้งที่น้ำเสียงติดสั่นระริกจากรังสีกดดันของแม่ทัพไร้พ่าย“ท่านแม่มิคิดหรือเจ้าคะ หากอาเมี่ยวรักษาไม่ทันจะเป็นเช่นไร ท่านพี่สะใภ้นั้นอาจถูกหลอกใช้ก็จริง แต่ว่าอย่างไรเสียเมื่อไม่รู้แหล่งที่มาดีดีไยต้องเสี่ยงให้บุตรสาวของข้ากินด้วย หรือว่าเพราะไม่ใช่บุตรสาวของตนจึงจะให้กินอันใดก็ได้”“ไม่เลย ๆ น้องสะใภ้อย่าได้เข้าใจผิด ข้าไม่ได้ตั้งใจทำร้ายใครทั้งสิ้น เจ้าอย่าได้คิดเช่นนั้น ทว่าอย่างไรบุตรสาวเจ้าก็ไม่เป็นอันใดนี่ เจ้าสบายดีใช่ไหมอาเ

  • สายลับทะลุมิติ ไปเป็นคุณหนูที่ถูกทิ้ง   23 ไปหาหลักฐาน

    23ไปหาหลักฐานเมื่อเป็นเรื่องความเป็นไประดับแคว้น พอเฟยเมี่ยวไปปรึกษากับชินอ๋องนางก็เพิ่งได้รู้ว่าเขากำลังติดตามเรื่องมีคนลักลอบจำหน่ายฝิ่นอยู่เช่นเดียวกัน พอเฟยเมี่ยวเอาสิ่งที่นางสืบมาโดยตลอดผนวกเข้ากับความจริงจากปากมารดามันทำให้เฟยเมี่ยวสงสัยไปที่ตระกูลซุนสายหลักโดยเฉพาะท่านป้าซูเม่ยทันที พอเอ่ยขอให้ชินอ๋องไปติดตามและสืบเชิงลึกที่ตระกูลหลิงก็พบเบาะแสบางอย่างที่พุ่งไปว่าเขาอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบค้าฝิ่นจริง โดยประมุขตระกูลหลิงที่เป็นถึงหัวหน้ากรมตุลาการหากลักลอบขายฝิ่นย่อมสะเทือนต่อแคว้นมากแน่ตอนนี้ขอเพียงหาหลักฐานมาก็สามารถจับกุมตัวการหลักแล้ว สิ่งที่ชินอ๋องกำลังทำอยู่ตอนนี้คือติดตามคนของตระกูลหลิงที่มีการเดินทางไปมาที่ชายแดนกับเมืองต่าง ๆ โดยแน่นอนว่าเฟยเมี่ยวขอติดตามมาด้วยซึ่งตอนแรกบิดานางจะไม่ให้ไปแต่เพราะชินอ๋องเอ่ยปากและบอกว่าให้พี่ใหญ่ตามมาด้วยได้ เฟยเมี่ยวจึงมีโอกาสได้ติดตามไปชายแดนเยี่ยงตอนนี้“อาเมี่ยวไหวหรือไม่อีกไม่ไกลก็ได้เข้าเมืองแล้ว”พี่ใหญ่เอ่ยถามนางมาตลอดทางทุก ๆ ครึ่งชั่วยาม เขาเป็นห่วงนางเกินไปจนเฟยเมี่ยวเหนื่อยจะตอบแล้ว คงเพราะการเดินทางครานี้รีบเร่งจนมิอ

  • สายลับทะลุมิติ ไปเป็นคุณหนูที่ถูกทิ้ง   22 ไหน้ำส้มใครแตกกันนะ

    22ไหน้ำส้มใครแตกกันนะวันนี้เฟยเมี่ยวออกจากจวนไปร่วมงานชมดอกไม่ที่ตระกูลไป๋จัดขึ้น นางมาถึงก็มีเหล่าคุณหนูที่ยังไม่ออกเรือนมาบ้างแล้ว พอเลี่ยงเหลียงซูเห็นเฟยเมี่ยวเข้างานมาก็รีบมาเดินด้วยกันทันที ทำให้เฟยเมี่ยวไม่เดินเหงาคนเดียวอีกต่อไปรอเวลาผ่านไปจนเริ่มงานชมดอกไม้แล้ว บ่าวตระกูลไป๋จึงมาเชิญเหล่าคุณหนูไปยังลานนั่งล้อมโต๊ะที่มีชาดอกไม้กลิ่นหอมกรุ่นวางตรงหน้า เป็นการให้ลิ้มรสชาก่อนที่จะไปยังสวนเพื่อชมดอกไม้นั่นล่ะ“ชาดีทีเดียว หนิงอันยังมีรสนิยมดีเยี่ยงเดิมนะ”ท่านหญิงเจียวจินเอ่ยชมเป็นคนแรก แล้วคุณหนูคนอื่น ๆ ก็เอ่ยชมตามมาอีกไม่ขาดส่วนเฟยเมี่ยวนั้นมิได้มางานชมดอกไม้เพียงหาสหาย แต่นางต้องการมารับข่าวสารจากวงสตรีด้วย โดยเฉพาะเรื่องที่พี่ใหญ่สงสัยว่าตระกูลซุนสายหลักกำลังสู่ขอท่านหญิงตรงหน้านี้อยู่“ขอบคุณเจ้าค่ะ ท่านหญิงถูกใจข้าน้อยก็เบาใจลงมากเลยเจ้าค่ะ”หนิงอันยิ้มหวานน้อมรับคำชม บทสนทนาของเหล่าสตรีลื่นไหลอย่างหยุดไม่อยู่ ส่วนเฟยเมี่ยวนั้นก็มีคุยบ้างเป็นครั้งคราวไม่ให้เงียบและแปลกพวกเกินไป แต่ไม่มีใครเอ่ยเข้าประเด็นที่เฟยเมี่ยวอยากรู้เลย“ว่าแต่ท่านหญิงเจียวจินผ่านวัยปักปิ่นมาแล้ว ค

  • สายลับทะลุมิติ ไปเป็นคุณหนูที่ถูกทิ้ง   21 ลอบเข้าตำหนักเฮยลู่

    21ลอบเข้าตำหนักเฮยลู่จากการที่มีข่าวลือในวันต่อมาว่ามีกลุ่มโจรซุ่มทำร้ายซุนฮูหยินที่ขอบเมืองหลวง สิ่งที่ชาวเมืองเดาไปต่าง ๆ นานา ก็คือกลุ่มโจรนั้นอาจเป็นคนของชินอ๋องก็ได้ เหตุเพราะการที่สองฝ่ายไม่ลงรอยกันนั่นเองเฟยเมี่ยวที่คุ้นชินกลยุทธ์การสร้างข่าวเท็จนี้มองออกทันที นางอยากไขข้อสงสัยมากจนตัดสินใจว่าจะไปสอบถามความจริงจากตัวการใหญ่ ทำให้ดึกคืนนั้นเองเฟยเมี่ยวในชุดดำล้วนอาศัยทางลับที่ตนสร้างไว้สมัยอยู่ในวังเข้ามาได้ในที่สุด นางพุ่งตรงไปยังตำหนักเฮยลู่ อันเป็นตำหนักที่มีเวรยามรัดกุมที่สุดจนนางไม่สามารถมีคนของตนในตำหนักแห่งนี้ได้เลยที่น่าแปลกคือ ตอนนี้เฟยเมี่ยวแอบเข้ามาจนจะถึงตำหนักหลักส่วนในแล้ว นางยังไม่เจอทหารเฝ้ายามเลยสักคน เฟยเมี่ยวคิดว่าตนเองอาจกำลังหลงกลไกการเฝ้ายามซับซ้อนอยู่นางจึงรีบหมุนตัวรีบกลับกลังทางเดิมเสียก่อนที่จะถูกจับได้ทันที“เมี่ยวเมี่ยวจะหนีอีกแล้ว เข้ามาไม่ใช่เพราะคิดถึงข้าหรือ ยังไม่ทันเจอก็จะกลับเสียแล้ว...”นั่นอย่างไร ที่แท้ชินอ๋องผู้นี้ก็คิดว่านางต้องมาหาเขาอยู่แล้ว ทหารเฝ้ายามจึงหายไปหมดเช่นนี้เมื่อเจอตัวการที่นางต้องการเจอแล้ว อันใดคือต้องหนีกันเล่า !“ทห

  • สายลับทะลุมิติ ไปเป็นคุณหนูที่ถูกทิ้ง   20 อยากแสร้งเป็นลมล้มสลบให้ไม่ต้องพบหน้าใครอีก

    20อยากแสร้งเป็นลมล้มสลบให้ไม่ต้องพบหน้าใครอีกงืม ๆ“เช้าแล้วหรือ?...”“ใช่ เช้าแล้ว เมี่ยวเมี่ยวตื่นแล้ว ขี้เซายิ่งนัก”หืม นางไม่ได้นอนอยู่ในห้องคนเดียวหรือไร ไยรู้สึกเหมือนเสียงพูดเมื่อครู่เกิดขึ้นที่ข้างหูนางนี้เองกันนะ ลมที่พัดผ่านใบหูมันชวนให้จั๊กกะจี้จนต้องย่นคอหนีทั้งที่ยังหลับตา ไหนจะสัมผัสบางอย่างที่คลอเคลียแก้มจนทนไม่ไหวต้องลืมตาขึ้นดูแล้วค่อยหลับอีกคราก็แล้วกัน“ท่านอ๋องมาอยู่นี่ได้อย่างไร ! โอ๊ะ”ไม่สิ ตอนนี้นางนอนอยู่ในป่านี่นา นางลืมไปเสียได้ คงเพราะเมื่อวานเหนื่อยมากจนหลับไม่รู้เรื่องแน่เลย“แล้วไยถึงถูกท่านกอดได้ !! ปล่อยนะ”ได้สติแล้วเฟยเมี่ยวก็สังเกตว่าตนเองถูกเต๋อรุ่ยกอดอยู่ แก้มของนางแนบคางของเขาจนรู้สึกประหลาดไปหมด แต่แรงกอดรัดของคนที่บาดเจ็บนั้นเฟยเมี่ยวสู้ไม่ไหวจริง นี่ขนาดเขาบาดเจ็บนะแรงยังมากเพียงนี้เลย ไม่อยากจะคิดยามปรกติจะแรงเยอะเพียงใด แต่ที่แน่นอนคือแรงสตรีตัวเล็กอย่างนางสู้เขาไม่ได้แน่นอน“เมี่ยว ๆ กอดข้าเองนะ อีกทั้งยังกอดไม่ปล่อยอีกด้วย ข้าเลยต้องนอนรออยู่เยี่ยงนี้อย่างไรล่ะ”“แต่เมื่อคืนหม่อมฉันไม่ได้นอนท่านี้ หม่อมฉันเพียงให้ความอบอุ่นแก่พระองค์ผ่า

  • สายลับทะลุมิติ ไปเป็นคุณหนูที่ถูกทิ้ง   19 ทำตัวเหมือนอาฉีคนที่สอง

    19ทำตัวเหมือนอาฉีคนที่สองเดินต่อมาเรื่อย ๆ ก็เจอเข้ากับถ้ำกลางป่าเข้า ตอนแรกที่มองเห็นตัวผนังถ้ำนั้นไม่คิดว่าจะมีทางเข้าหรอก เฟยเมี่ยวให้ ชินอ๋องยืนรอสักครู่ก่อน นางค่อยเดินไปสำรวจดู จึงพบทางเข้าขนาดไม่ใหญ่มากอยู่ ดีที่มีเถาวัลย์และใบไม้เขียวขจีปกทับจนเกือบมองไม่ออกเลย นางกลับมาพาชินอ๋องเข้าไปนั่งพักด้านใน และไม่ลืมใช้เหล่าเถาวัลย์เกลี่ยปิดทางเข้าเช่นเดิมหน้าหนาวแล้วยามกลางคืนอากาศยิ่งหนาวไปใหญ่ หากนั่งโดยมีเพียงเสื้อผ้าที่สวมตลอดคืนมีหวังทั้งนางและคนป่วยต้องเป็นไข้หนาวสั่นตายอยู่ที่นี่เป็นแน่“พระองค์ไหวไหมเพคะ”เฟยเมี่ยวมองใบหน้าภายใต้หน้ากากที่มีเหงื่อเกาะเต็มหน้า หน้าของเขา ปากของเขาล้วนซีดขาวไปหมด ดูท่าจะรอให้ออกไปแล้วค่อยให้หมอหลวงนำลูกธนูออกก็คงไม่ทันแล้ว นางคงต้องจัดการเรื่องนั้นเอง ด้วยอุปกรณ์ที่นางพกมาติดกายไว้ตลอดตั้งแต่รู้ว่าจะต้องเข้าป่าก็เพียงพอให้ช่วยชินอ๋องได้อยู่“ข้าไหว เมี่ยวเมี่ยวนั่งพักก่อนเถอะ เจ้าวิ่งวุ่นมาตลอดแล้ว”เต๋อรุ่ยพูดไม่เกินจริง ตลอดทางมานี้นางทั้งใช้หัวคิดและแรงกายพาเขามาที่นี่อย่างไม่หยุดพัก ท่าทีคล่องแคล่วว่องไวนี้เขาที่มีวรยุทธ์ยังรู้สึกยกย่องเ

  • สายลับทะลุมิติ ไปเป็นคุณหนูที่ถูกทิ้ง   18 เรื่องไม่คาดฝัน

    18เรื่องไม่คาดฝันเช้าวันต่อมา...งานล้อมป่าล่าสัตว์เริ่มแล้ว เสียดายที่งานนี้ให้เฉพาะบุรุษเข้าร่วมเท่านั้น ส่วนสตรีนั้นจะไปรวมกันอีกที่เพื่อชมดอกไม้บานท่ามกลางอากาศเย็นเยี่ยงนี้แทนดีที่ตอนนางมาได้เจอกันอดีตสหายอย่างคุณหนูเลี่ยง เหลียงซู และเดินคุยไปอีกหน่อยก็เจอหนิงอันยืนกับท่านหญิงเจียวจิน ซึ่งมีคุณหนูที่นางเจอที่บอน้ำพุร้อนเมื่อคืนยืนอยู่ด้วย การชมดอกไม้ยามนี้จึงไม่เหงาอีกต่อแล้ว“เจ้าสองคนอาจยังไม่รู้จักกัน นี่ท่านหญิงเฟยเมี่ยว บุตรสาวท่านแม่ทัพใหญ่ซุน และนี่คุณหนูซีอิ๋ง ตระกูลหวัง”“คารวะท่านหญิงเจ้าค่ะ”เฟยเมี่ยวพยักหน้าตอบรับ พอนางรู้เรื่องที่คุณหนูซีอิ๋งทำเมื่อวานก็ทำให้ไม่สามารถมองใบหน้านางแล้วไม่คิดเรื่องเมื่อวานได้เลย อีกทั้งดูเหมือนจะคุณหนูนางนี้จะยังไม่หายเสียใจ เพราะนางดูหมดแรงและดวงตาแดงช้ำเหมือนคนร้องไห้หนัก“พวกเราไปดูดอกไม้ทางนู้นเถอะ เห็นเขาว่ากันว่างามยิ่งนัก”เฟยเมี่ยวเดินตามเหล่าคุณหนูไปเพราะอย่างไรเสียนางก็ไม่ได้มีเป้าหมายชมดอกไม้ใดเป็นพิเศษอยู่แล้ว ทว่านางคิดผิดเสียแล้ว เพราะตรงที่ดอกไม้บานย่อมตามด้วยมีคนมาดูมากซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือองค์หญิงสามลู่เอิน คู่อริขอ

  • สายลับทะลุมิติ ไปเป็นคุณหนูที่ถูกทิ้ง   17 จวนตากอาการที่มีบ่อน้ำพุร้อน

    17จวนตากอาการที่มีบ่อน้ำพุร้อนเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวช่วงกลางอากาศเย็นสบายตลอดทั้งวัน จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมยิ่งสำหรับการออกล่าสัตว์ กรมพระราชพิธีจัดงานล้อมป่าล่าสัตว์ประจำปีขึ้นมาเพื่อให้เหล่าบุรุษลูกขุนนางเข้าร่วมเพื่อความสนุกสนาน แข่งกันล่าสัตว์ชิงรางวัลจากฮ่องเต้ และประโยชน์โดยอ้อม นั่นก็คือนำสัตว์ที่ได้จากการล่าไปแจกจ่ายให้ชาวบ้านในช่วงที่ปลูกพืชพันธุ์เป็นอาหารได้น้อยพอดีแน่นอนตระกูลฝ่ายบู๊อย่างตระกูลซุนสายรอง อันมีประมุขเป็นซุนเหวินเชา แม่ทัพไร้พ่าย ย่อมต้องเข้าร่วมด้วย มีพี่ใหญ่ และเฟยเมี่ยว ส่วนสายหลักก็มาเช่นกัน นำโดยซุนเหวินเจี๋ย หรือท่านซุนโหว ป้าสะใภ้ และบุตรชายที่เพิ่งกลับมาจากไปศึกษาที่สำนักศึกษาบนภูเขามาพอดี เฟยเมี่ยวเรียกเขาว่า ญาติผู้พี่ซุน จือหลิน ...พี่จือด้วยความที่ป่าที่จัดเป็นป่าขนาดใหญ่ฝั่งตะวันออกของแคว้น เป็นป่าที่ตั้งอยู่ไกลออกจากเมืองหลวงไม่มากใช้เวลาเดินทางด้วยรถม้าเพียงหนึ่งชั่วยามครึ่งเท่านั้น จึงมีทั้งขุนนางพร้อมครอบครัวเข้าร่วมงานประจำปีนี้มาก ทยอยกันไป ขอเพียงให้ทันวันเริ่มงานเท่านั้น ส่วนใหญ่ขุนนางขั้นสูงมักซื้อจวนทิ้งไว้แล้ว หากใครไม่มีก็จะมีบร

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status