โจวเจิ้งกั๋วเตือนโจวไห่ถงว่า "ไห่ถง ครั้งนี้ฉันช่วยเขาได้ แต่แกต้องอยู่ห่างจากเขาไว้ในอนาคต"“ไม่อย่างนั้น คนที่แบบนี้ที่ไม่เคยเห็นโลกมาก่อนนี้ จะทำให้แกตายก่อนวัยอันควร”โจวไห่ถงพูด: "หนูจะเก็บไปคิดค่ะฃ"ในเวลานี้ ขบวนรถก็ขับไปตามบนถนนทางใต้ และหยุกจอดอยู่หน้าจิ่วโจวอินเตอร์เนชั่นแนลขบวนรถนี้ไม่ด้อยไปกว่าขบวนของโจวเจิ้งกั๋วเลยประตูรถของมอร์เซเดส-มายบัคหัวขบวนนำเปิดออก และทันใดนั้นอันเคอซินกับชายชราในชุดสไตล์ถังก็ลงมาอย่างไม่คาดคิดหนิงเป่ยขมวดคิ้ว: “ทำไมเธอถึงมาที่นี่?”อันเคอซินพาชายชราในชุดสไลต์ถังมาที่จิ่วโจวอินเตอร์เนชั่นแนลเธอกล่าวทักทายโจวไห่ถงก่อน: "ประธานโจว ขอโทษที่รบกวนค่ะ ฉันมาหาหนิงเป่ยพอดีว่ามีเรื่องนิดหน่อยค่ะ "อืม!โจวไห่ถงพยักหน้าเบาๆอันเคอซินมองไปที่หนิงเป่ย: " หนิงเป่ย ฉันขอโทษสำหรับเรื่องของหร่วนเสี่ยวหลิงเมื่อวานนี้ ฉันเข้าใจคุณผิดไปค่ะ"ไม่เป็นไรหนิงเป่ยพูดอย่างใจเย็นโดยไม่มีอารมณ์ร่วมใดๆความเฉยเมยของเขา ทำให้อันเคอซินรู้สึกยิ่งผิดหวังมากขึ้นเธอพูดว่า: " หนิงเป่ย ฉันขอแนะนำคนให้คุณรู้จักค่ะ คนนี้คือคุณฮวาแห่งตงเฉิง ฉันเชิญเขามาช่วยคุณจัดการป
หนึ่งในนั้นคือรองประธาน คุณชายรองฉาง ที่เขาพ้นจากขีดอันตรายและถูกพันด้วยผ้าพันแผล ถึงอย่างไรก็ตาม เขายังคงยืนกรานที่จะมาดูพานสื่อไห่สังหารหนิงเป่ยด้วยตาของเขาเองอีกคนรูปร่างอ้วนเล็กน้อย หน้าตาใจดี น่าจะเป็นพานสื่อไห่เมื่อคุณชายรองฉางเห็นศัตรูของเขา ดวงตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีแดง: "คุณชายสื่อ ผมอยากจะฆ่าหนิงเป่ยด้วยมือของผมเอง!"พานสื่อไห่พยักหน้า: “เข้าใจแล้ว”เขากวาดสายตามองกองทัพศัตรูอย่างใจเย็นและพูดว่า: " หนิงเป่ย ฉันประเมินแกต่ำไปจริงๆ ถึงขนาดเชิญโจวเจิ้งกั๋วและฮวาซ่งมาช่วยแกด้วย"แววตาของหนิงเป่ยเย็นชา: "แกจะไปรู้ได้ไงว่าฉันกำลังคิดอะไรอยู่ตอนนี้?"อะไรนะ?หนิงเป่ย: "ฉันกำลังคิดว่าจะให้บทลงโทษกับแกอย่างไรดี เพื่อให้สาสมกับความทุกข์ทรมานที่น้องสาวของฉันไ้ด้รับ"ฮ่าฮ่า!ฝูงชนระเบิดเสียงหัวเราะออกมา: "ด้วยผู้คนที่มึงพามาเหรอ?"โจวเจิ้งกั๋วและฮวาซ่งรีบร้อนทันทีโจวเจิ้งกั๋วตำหนิหนิงเป่ยและพูดว่า "หนิงเป่ย หุบปาก ทำไมแกถึงพูดกับคุณชายสื่อ? รีบขอโทษเร็วเข้า"ฮวาซ่งอธิบาย: "คุณชายพานสื่อ อย่าเข้าใจผิด จุดประสงค์ที่เรามาในวันนี้คือการเจรจาอย่างสันติกับคุณ และพวกเราไม่มีเจตนา
พวกเขาไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทําไมพวกเขาถึงไม่สังเกตเห็นคนจํานวนมากมายที่แฝงตัวเข้ามาในกองทัพของพวกเขาเจอกับผีแล้วจริงๆแล้วคนเหล่านี้คือใคร?ในเวลาเดียวกันในคฤหาสน์ถงเหริน คนของหอการค้าสี่ทะเลก็ล้มลงเป็นกองๆหากสังเกตให้ดีๆ จะเห็น "ภูติผี" จำนวนนับไม่ถ้วนเดินเพ่นพ่านอยู่ในฝูงชนพวกเขาเป็นเหมือนยมฑูต ทุกที่ที่เดินผ่าน แม้แต่หญ้าก็เหี่ยวเฉาพวกเขาฆ่าคนอย่างรวดเร็ว ขนาดที่อีกฝ่ายล้มลงก่อนที่จะมีเวลากรีดร้องด้วยซ้ำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีเพียงเสียงมีดกรีดเนื้อ พร้อมกับกลิ่นเลือดตลบอบอวลไปทั่วบริเวณเมื่อพานสื่อไห่เห็นเหตุการณ์ศรีษะระเบิดออกมีนักฆ่าจำนวนมากแอบเข้าปะปนเข้ามาในทีมของเขา และพวกเขาก็ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำพวกมัน...พวกมันเป็นผีเหรอ!“ฆ่า ฆ่ามันให้ฉัน!” พานสื่อไห่ตะโกนด้วยเสียงแหบแห้งสงครามใหญ่กำลังจะปะทุขึ้นมาถ้าจะบอกว่าเป็นสงครามใหญ่ สู้บอกว่าเป็นการทารุณฆ่าฝ่ายเดียวยังจะดีกว่าคนของหอการค้าสี่ทะเลเมื่ออยู่ต่อหน้า "ภูติผี" ไม่สามารถตอบโต้ได้ และทำได้เพียงถูกบดขยี้เท่านั้นแม้แต่ปรมาจารย์ที่พานสื่อไห่ภาคภูมิใจนั้นก็หวาดกลัวขี้แตกขี้แตน ต้องการวิ่งหนีแต่กลับถูกภูติผีฆ่
นายน้อยหลาน!หนิงเป่ยพูด: "นายน้อยหลานคนนี้เป็นใคร? บอกกูมาเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยละเอียด"พานสื่อไห่กล่าวว่า: "นายน้อยหลาน คือลูกชายคนโตของตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองหลานหลิง หลานชิวเซิง"“ห้าปีก่อน หอการค้าสี่ทะเลของฉันยังคงเป็นหอการค้าเล็กๆ ที่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก และต้องดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด”"อยู่มาวันหนึ่ง จู่ๆ หลานชิวเซิงก็มาเยี่ยมฉันและบอกว่าคฤหาสน์ถงเหรินของฉัน มีสภาพแวดล้อมที่ดีและต้องการใช้มันสักสองสามวัน""นี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะได้มีชื่อเสียง ผมตอบตกลงไปอย่างไม่ลังเล"อ“ในคืนนั้นเขายืมคฤหาส์ เขาหลอกน้องสาวของคุณให้มาที่นี่ เขาทรมานเธอ จนเกือบจะฆ่าเธอด้วยซ้ำ”“เขาทรมานน้องสาวคุณทั้งคืน พอรุ่งสาง ก็มีเฮลิคอปเตอร์สี่ลำทยอยมาทีละคัน อลพเป็นชายสี่คนในชุดดำที่ลงมา จากนั้นหลานชิวเซิงก็มอบน้องสาวของคุณให้กับชายชุดดำ”หนิงเป่ยกำหมัดแน่นหลานชิวเซิงทรมานน้องสาวของเขาทั้งคืน เธอทนกับอะไรมา?พานสื่อไห่พูดว่า “ตอนนั้นฉันทำได้เพียงรักษาความปลอดภัยภายนอกของคฤหาสน์ ฉันเห็นชายชุดดำจากระยะไกล ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าพวกเขาเป็นใคร”“อีกอย่าง ฉันได้ยินมาว่านายน้อยหลานเป็นโรคจิต เป็นขันทีตั้ง
ทั้งสองสบตากันและรีบวิ่งออกไปพร้อมกัน ต้องการไปช่วยหนิงเป่ยแต่ไม่คาดคิดทันทีที่ทั้งสองสาวออกไป ก็เห็นหนิงเป่ยนำกองทัพใหญ่กลับมาพอดีหนิงเป่ยและคนเหล่านั้นไม่มีรอยขีดข่วน ร่างกายสะอาดและเรียบร้อย ไม่มีร่องรอยการต่อสู้แม้แต่น้อยผู้หญิงสองคนสับสน เกิดอะไรขึ้นกันแน่?โจวไห่ถงถามอย่างร้อนร้น: " หนิงเป่ย พานสื่อไห่ปล่อยคุณไปเพื่อเห็นแก่คุณลุงและคุณฮวาหรือเปล่า?"หนิงเป่ยพูด: "พานสื่อไห่และหอการค้าสี่ทะเลถูกกวาดล้างแล้ว"เรื่องจริงหรือโกหก!อันเคอซินเต็มไปด้วยความสงสัยโจวเจิ้งกั๋วพูดว่า "ใช่แล้ว หอการค้าสี่ทะเลได้หายไปแล้ว"“จริงด้วยไห่ถง สัญญาฉบับนี้คืนให้แกแล้วกัน และเอาไปทำลายได้ด้วยตัวเอง”"ฉันคิดแล้วเกี่ยวกับเรื่องนี้ และรู้สึกว่าจิ่วโจวอินเตอร์เนชั่นแนล ควรอยู่ในมือของแกต่อไป เพื่อที่จะพัฒนาให้ดีได้อีก"เขาคืนสัญาเสร็จแล้ว ก็นำคนกลับไปอย่างเร่งรีบโจวไห่ถง: "..."ฮวาซ่งพูดกับอันเคอซินว่า: " เคอซิน ฉันต้องขอตัวก่อน"“ยังมีอีก ฉันขอถอดคำพูดก่อนหน้านี้ อันที่จริงแล้วคุณและ หนิงเป่ยเป็นคู่ที่สวรรค์สร้างขึ้น ไม่ว่ายังไงคุณต้องจับหนิงเป่ยไว้ให้ได้”“และฉันยังจะช่วยคุณแก้ปัญห
โจวไห่ถง: "ไร้สาระ แน่นอนว่าฉันไปโรงพยาบาลค่ะ"หนิงเป่ย: "เอาล่ะ ประธานโจวหยุดแกล้งได้แล้วครับ ฉันเพิ่งตรวจสอบดูแล้ว และคุณแข็งแรงดี และไม่ได้ป่วยอะไรเลย"อ่าเมื่อถูกจับได้ หน้าของโจวไห่ถงก็เปลี่ยนเป็นสีแดงแน่นอนว่า เธอไม่ยอมรับว่าเธอแค่แกล้งทำเธอพูดอย่างเรียบๆ : "เมื่อกี้ฉันเพิงกินยาไปค่ะ และตอนนี้ฉันก็สบายดี"“งั้นส่งฉันกลับบ้านก่อนแล้วกัน ฉันจะไปเอาของค่ะ”โอเคหนิงเป่ยไม่เข้าใจจริงๆ การแกล้งป่วยของโจวไห่ถงเมื่อกี้จุดประสงค์ที่แท้จริงคืออะไร แต่เขาก็ไม่สนใจที่จะถามเพิ่มเติมบรรยากาศก็จะอึดอัดเล็กน้อยโจวไห่ถงเป็นคนทำลายความเงียบ: "หนิงเป่ย คุณกับอันเคอซิน หย่าร้างกันแล้ว แต่ทำไมยังมีเยื่อใยให้แก่กัน แบบนี้ดีแล้วเหรอคะ?"หื้ม?จากคำพูดของ โจวไห่ถง หนิงเป่ยสัมผัสได้ถึงความอิจฉาเมื่อนึกย้อนกลับไปตอนที่โจวไห่ถงแกล้งเป็นป่วย เธออิจฉาเพียงเพราะต้องไปส่งอันเคอซินกลับบ้าน ดังนั้นเธอจึงแกล้งทำเป็นป่วยแบบจงใจมันเป็นไปได้หัวใจของผู้หญิงก็ลึกเหมือนท้องทะเลหนิงเป่ยพูด: "นี่เป็นเรื่องเป็นส่วนตัว ผมขอไม่ตอบครับ"โจวไห่ถง: "อย่าลืมที่ฉันพูดไว้ก่อนหน้านี้ ครั้งนี้ฉันเป็นคนช่ว
หนิงเป่ยฉวยโอกาสคว้ากระบอกปืนมา และทั้งสองฝ่ายก็เริ่มต่อสู้กันแวบตาเดียว โจวไห่ถงก็ควักปืนออกจากเอวทันทีและยิงไปที่ ซางเปียวปัง!กระสุนพุ่งเข้าใส่ข้อมือของซางเปียว และเขาก็ล้มลงกับพื้นอ๊ากกกกก!ซางเปียวกรีดร้องและล้มลงกับพื้น กลิ้งไปมาพร้อมจับข้อมือของเขาเอาไว้หนิงเป่ยมองไปที่โจวไห่ถง และมุมปากของเขาก็กระตุกผู้หญิงแบบไหนกันที่จะออกไปไหนพร้อมกับถือปืนไว้ และยิงฆ่าผู้คนโดยไม่ประหม่า?โจวไห่ถงเหยียบซางเปียว แล้วจ่อปืนไปที่หัวของเขา: "บอกลาซะ แกมีเวลาเหลือไม่มากแล้ว"ซางเปียวร้องไห้ "ประธานโจว โปรดไว้ชีวิตผมด้วย"“เห็นแก่ที่ผมปกป้องคุณมาหลายปี ได้โปรดให้โอกาสผมสักครั้ง”โจวไห่ถง โกรธมากจนยิงออกไปโดยไม่ลังเลและทำให้ขาข้างหนึ่ง ซางเปียว: "ไอ้สารเลว คุณคิดว่าฉันไม่รู้จริงๆ ว่าคุณกำลังติดตามฉันอยู่ เพราะสมคบคิดกับหอการค้าสี่ทะเล เพื่อเทคโอเวอร์บริษัทฉัน นี่เรียกว่าปกป้องฉันเหรอ?”ซางเปียวตกอยู่ในห่วงความเจ็บปวดและขอร้องว่า "ประธานโจว โปรดไว้ชีวิตผมด้วย ผมจะบอกความลับ 1 เรื่องให้คุณ"“เชื่อผมเถอะ ความลับนี้สำคัญมากกับคุณ”โจวไห่ถง: "ไหนเล่าให้ฉันฟังหน่อยสิ"ซางเปียว: "จริงๆ
ครั้งแรกที่เขาเห็นอันเคอซิน ประหลาดใจและหัวใจก็เต้นแรงไม่เคยคาดคิดว่ายังจะมีคนสวยเช่นนี้ในโลกด้วยอันเคอซินสังเกตเห็นการจ้องมองที่ละลาบละล้วงจากหลานชิวเซิง และทันใดนั้นก็ในใจก็รู้สึกถึงบางสิ่งที่ไม่ดีบางอย่างเธอแกล้งทําเป็นใจเย็นและพูดว่า "หยางซื่อเจี๋ย เรามาคุยหารือหนี้ก้อนนั้นกันเถอะค่ะ"“คุณจะแก้ปัญหายังไรคะ?”หยางซื่อเจี๋ยพูดว่า: "ถ้าคุณให้ร่วมมือกับผม หนี้ก้อนนั้นก็จะหายไปในคราวเดียว"อันเคอซินดีใจมาก: "ได้ค่ะ คุณต้องการให้ฉันร่วมมือกับคุณอย่างไร?"หยางซื่อเจี๋ย: "ก่อนอื่นคุณควรมารับใช้นายน้อยหลาน ให้เขารู้สึกสบายตัว"สีหน้าอันเคอซินเปลี่ยนไปอย่างรุนแรง: " หยางซื่อเจี๋ย คุณมันไร้ยางอาย!"หยางซื่อเจี๋ยยักไหล่: "ไม่ว่าคุณจะพูดอะไร ตราบใดที่วันนี้นายน้อยหลานมีความสุข มัก็ไม่สำคัญอะไรว่าคุณจะด่าผมว่าสัตว์เดรัจฉานก็ตาม"ไสหัวออกไป!อันเคอซินสาปแช่งด้วยความโกรธ หันหลังกลับและจะเดินจากไปแต่เมื่อเธอกำลังหันหลังกลับ บอดี้การ์ดชุดดำแถวหนึ่งลุกขึ้นยืนและขวางประตูทางออกไว้จนมิดเปิดประตูนะ!อันเคอซินต้องการพยายามพาตัวเองออกไปแต่บอดี้การ์ดเหล่านั้นไม่ใช่หญ้า แล้วเธอจะออกไปได
เขามองหนิงเป่ยขึ้นๆ ลงๆ และเห็นรูปลักษณ์ที่ไม่ธรรมดาของอีกฝ่าย เขาพูดอย่างเย็นชา "เท่าที่ฉันรู้ มีเพียงเทพสงครามผู้ยิ่งใหญ่ในโลกนี้เท่านั้นที่สมควรได้รับยาชีเฉียวหลิงหลง แกจะเอาคุณสมบัติอะไรมาแลกสมบัตินี้?"“ในความคิดของฉัน เห็นได้ชัดว่าแกขโมยมันไปจากท่านเทพสงคราม ฉันต้องการคืนมันให้กับเจ้าของเดิมตอนนี้”เมื่อพูดแบบนั้นจบ เฟิงเฟยหยางก็เดินออกไปรนหาที่ตาย!หนิงเป่ยหลบและหยุดตรงหน้าเฟิงเฟยหยาง: "วันนี้เป็นงานหมั้นของเซียวลู่ ฉันไม่อยากเห็นเลือด แกควรทำตามที่ฉันบอกแต่โดยดี"ไอ้นรก!เฟิงเฟยหยางหยุดพูดกับหนิงเป่ย และต่อยเขาโดยตรง: "ฉันบอกไปแล้วว่าใครขวางฉันจะต้องตาย!"หนิงเป่ยยื่นมือออกไปอย่างใจเย็น จับหมัดของเฟิงเฟยหยางอย่างง่ายดาย จากนั้นบีบมันเบา ๆพึ้ด!เสียงระเบิดอันน่าเบื่อดังก้องไปทั่วห้องหมัดของเฟิงเฟยหยางถูกหนิงเป่ยบีบจนแหลก และเยาชีเฉียวหลิงหลงในฝ่ามือของเขาก็แตกเป็นผงเช่นกันอ๊าก!เฟิงเฟยหยางอุทาน: "ยาชีเฉียวหลิงหลง ยาชีเฉียวหลิงหลงของฉัน!"ปฏิกิริยาตอบกลับแรกของเขาคือยาชีเฉียวหลิงหลงแทนที่จะเป็นมือที่ถูกขยี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ายาชีเฉียวหลิงหลงนั้นน่าดึงดูดใจเพียงใด
แม้ว่าพวกเขาจะไม่ใช่ผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ แต่พวกเขาก็ยังมีความเข้าใจเรื่องยาอยู่บ้างในโลกของศิลปะการต่อสู้โบราณ เม็ดยาระดับ 4 ถือเป็นจุดสุดยอดแล้ว และระดับ 5 และระดับ 6 ยังหายากอีกด้วยแต่ตอนนี้มียาเจ็ดระดับปรากฏขึ้นแล้ว...มันเป็นไปไม่ได้เหรอ? อาจารย์เฟิงยอมรับความผิดพลาดหรือไม่?หลี่เสี่ยวเว่ยรีบพูดว่า: "อาจารย์เฟิง ท่านคงจำผิดแล้ว พวกมันคือก้อนถั่วน้ำตาล ขยะที่คนชนบทส่งมาให้..."เพ้อเจ้อแม่แกสิ!เฟิงเฟยหยางสาปแช่งด้วยความโกรธ “ฉันจะพลาดได้ยังไง! พวกแกต่างหากที่บ้า ที่คิดว่ายาระเด็บเจ็ดเป็นขยะและโยนมันลงในถังขยะ!”ก่อนที่ทุกคนจะตกตะลึง เฟิงเฟยหยางก็พูดอย่างรวดเร็ว: "หลี่ฉางหยวน นายยินดีจะมอบยยาชีเฉียวหลิงหลงนี่ให้ฉันหรือเปล่า?""ฉันยินดีแลกเปลี่ยนกับทรัพย์สินทั้งหมดของฉัน!"เปี้ยง!บริเวณนั้นระเบิดออกพวกเขารู้ว่ายาะดับที่เจ็ดนั้นมีค่า แต่พวกเขาไม่ได้คาดคิดว่ามันจะล้ำค่าขนาดนี้เฟิงเฟยหยางควบคุมโรงงานแปรรูปสมุนไพรที่ใหญ่ที่สุดในต้าเซี่ย โดยมีอุตสาหกรรมต่างๆ ทั่วโลกและมีมูลค่าตลาดหลายนับพันล้านเขายินดีมอบทรัพย์สินทั้งหมดเพื่อแลกกับยาชีเฉียวหลิงหลงนี้ยาชีเฉียวหลิงหลงแค่
หลี่ชางหยวนปลอบใจเขา: "แขกรับเชิญคนสุดท้ายที่ฉันเชิญยังมาไม่ถึง เมื่อแขกคนสุดท้ายมาถึงเย่หงและคนอื่น ๆ จะต้องหลีกทางแน่นอน"โอ้?หลี่เซียวเว่ยพูดด้วยความสนใจอย่างยิ่ง: "พ่อครับ พ่อเชิญใครมาอีก?"หลี่ชางหยวนพูดว่า: "ปรมาจารย์เฟิง เฟิงเฟยหยาง"อะไรนะ!หลี่เซียวเว่ยตกตะลึงเกินกว่าจะวัดได้: "พ่อกำลังพูดถึงปรมาจารย์เฟิงเฟยหยาง ผู้อาวุโสที่ยิ่งใหญ่ของนิกายฉีเหมินใช่ไหม แพทย์จักรพรรดิชั้นยอดที่เคยรับใช้ราชาผู้เฒ่าในพระราชวังต้องห้าม?"หลี่ฉางหยวนพยักหน้า: "ถูกต้อง"หลี่เซียวเว่ยยิ้มออกมาทันที: "ปรมาจารย์เฟิงเฟยหยางเคยรับใช้ ราชาผู้เฒ่าในพระราชวังต้องห้าม แม้ว่าเขาจะเกษียณไปแล้วพร้อมกับความสำเร็จอันล้นหลาม แต่อิทธิพลของเขายังคงมีอยู่"“เมื่อเทียบกับปรมาจารย์เฟิงเฟยหยางแล้ว เย่หงและคนอื่น ๆ ก็เหมือนกับตัวตลก!”“ฮึ่ม เฟิงเซียวหลู่ เฟิงหยวนเจิ้ง พวกแกสมควรที่จะถูกเหยียบย่ำใต้ฝ่าเท้าของเราเท่านั้น!”เมื่อพูดถึงโจโฉ โจโฉก็มาในที่สุดเฟิงเฟยหยางก็มาถึงหลี่ฉางหยวนกับหลี่เซี่ยวเว่ยรีบต้อนรับเขาทันที"การมาเยือนของปรมาจารย์เฟิงทำให้สถานที่แห่งนี้เปล่งประกายเหลือเกิน!"“ท่านปรมาจารย์เฟิง
หนิงเป่ย: "ฉันคิดว่าพวกคุณเข้าใจผิดแล้ว วันนี้เป็นงานหมั้นของเซี่ยวหลู่ พวกคุณจะมาให้ของขวัญกับฉันทำไม?"เย่หงและคนอื่น ๆ เข้าใจทันทีและเดินไปหาเฟิงเซียวหลู่ทุกคนในงานเลี้ยงเป็นบ้าคลั่งไปกันหมดคุณพระ พวกเรากำลังเห็นอะไร!ผู้นำจังหวัดกลุ่มนี้โค้งคำนับให้สามัญชน แถมเรียกเขาว่า "คุณ" อีกให้ตายเถอะ นี่คือคนธรรมดาจริงๆ เหรอ?นี่คงไม่ใช่คนใหญ่คนโตในกลุ่มลับหรอกนะเย่หงและคนอื่นๆ ล้อมรอบเป็นวงกลมรอบตัวเฟิงเซียวหลู่“เซียวหลู่ วันนี้เป็นวันหมั้นของเธอ พวกลุงไม่มีอะไรจะให้เธอ ดังนั้นของขวัญเล็กๆ น้อยๆ จึงไม่ใช่การแสดงความเคารพ”“ไม่เป็นไรหรอกถ้าพวกลุงงๆ ดื่มอีกสองแก้วทีหลัง ฮ่าๆ”ด้วยเหตุนี้ เย่หงและคนอื่นๆ จึงมอบของขวัญที่พวกเขาเตรียมไว้ให้เย่หงและคนอื่น ๆ ร่ำรวยมากและมอบของขวัญฟุ่มเฟือยให้พวกเขาทั้งหมดมีภาพเขียนพู่กันและภาพวาดของคนดัง เครื่องสำอางหรูหรา เครื่องประดับ และอื่นๆ อีกมากมายของขวัญที่ถูกที่สุดก็เริ่มต้นที่หลักล้านโดยเฉพาะสร้อยคอเพชรสิบห้ากะรัตที่เย่หงมอบให้นั้นมีมูลค่าเกือบ 50 ล้านแหวนเพชรห้ากะรัตของหลี่เซียวเว่ยดูเหมือนตัวตลกเมื่ออยู่ตรงหน้าสร้อยคอเพชรเส้นนี
ใบหน้าของหลี่เสี่ยวเว่ยและหลี่ชางหยวนเหมือนโดนตบกลางสี่แยกในโอกาสที่ทุกคนรอคอยนี้ สามัญชนคนนี้กลับก้าวออกมาข้างหน้าเพื่อมอบของขวัญ ซึ่งมันทำให้พวกเขารู้สึกอับอายจริงๆยิ่งไปกว่านั้น หลี่เซียวเว่ยยังเห็นว่าเฟิงเซียวหลู่ดูเหมือนจะมีความรู้สึกคลุมเครือกับคสามัญชนคนนี้อีกเขาตัดสินใจสั่งสอนบทเรียนให้กับหนิงเป่ยเขาเดินขึ้นไปหยิบยาชีเฉียวหลิงหลง ศึกษาอย่างละเอียดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดขึ้นมา "ขอบคุณครับสำหรับของขวัญราคาแพงเช่นนี้ พวกเราชอบมันมาก"มีแขกในงานถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น: "เซียวเหว่ยบอกว่าของขวัญชิ้นนี้มีราคาแพง ดังนั้นยาลูกกลอนชิ้นนี้จึงต้องมีค่ามาก"หลีเซียวเว่ยพูด: "ฉันเห็นมันตอนที่ฉันเรียนอยู่ต่างประเทศ ยาลูกกลอนนี้ขายในต่างประเทศในราคา 5000 บาทต่อหนึ่งกิโลกรัม"พึ้ด!ทุกคนก็หัวเราะเสียงดังลั่นกิโลกรัมละ 5,000 บาท แค่เจ็ดเม็ดนี้ก็ไม่มีมูลค่าถึง 2500 บาทด้วยซ้ำเขากล้าที่จะมอบของขวัญเน่าๆ แบบนี้ได้ยังไง นี่ไม่ใช่การดูถูกเฟิงเซียวหลู่กับเฟิงหยวนเจิ้งหรอกหรือ?ในฐานะผู้ว่าฯ ที่มีเกียรติ เฟิงหยวนเจิ้งจะเชิญสามัญชนคนนี้มาร่วมงานหมั้นได้อย่างไรนี่ไม่ใช่การลดระดับของพวก
หลี่เซียวเว่ยดุเฟิงเซียวหลู่ด้วยเสียงต่ำ: "เซียวหลู่ มีแขกผู้มีเกียรติมากมายอยู่ที่นี่ ทำไมเธอถึงทักทายสามัญชนแบบเขาด้วยล่ะ"“หลังจากนี้อย่าลืมเว้นระยะห่างจากเขา ทางที่ดีอย่าคุยกับเขาเลย จะได้ไม่เสียหน้า”เฟิงเซียวหลู่: "เข้าใจแล้ว"แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ห่างไกลกัน แต่หนิงเป่ยที่กินยาชีเฉียวหลิงหลงไป ประสาทการฟังของเขาก็ดีกว่าคนทั่วไปมาก ดังนั้นเขาจึงยังคงได้ยินการสนทนาของพวกเขาอย่างชัดเจนหนิงเป่ยยิ้มอย่างขมขื่นแล้วโทรหาเย่หง ผู้นำจังหวัดและขอให้เขาพาคนสองสามคนมาสนับสนุนเฟิงเซียวหลู่หากหลี่เซียวเว่ยไม่ถูกจัดการในวันนี้ ชีวิตของเฟิงเซียวหลู่จะยุ่งยากขึ้นในอนาคตเย่หงที่อยู่ปลายสายโทรศัพท์ก็รับสายของหนิงเป่ย และรู้สึกยินดีทันทีคนใหญ่คนโตอย่างหนิงเป่ย เชิญพวกเขาเข้าร่วมงานเลี้ยงหมั้นเป็นการส่วนตัว นี่ถือเป็นเกียรติของพวกเขาอย่างยิ่งเย่หงวางงานทั้งหมดทันทีและเรียกสมาชิกทุกคนในทีมจังหวัดมางานเลี้ยงแน่นอนว่าของขวัญชิ้นใหญ่ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ไม่นานแขกเกือบทั้งหมดก็มาถึงและเริ่มงานเลี้ยงหมั้นอย่างเป็นทางการพิธีกรกล่าวสุนทรพจน์บนเวที จากนั้นคู่บ่าวสาวก็แลกแหวนเพชรกันบนเวทีสิ่งท
“หากพวกเขาต้องการเห็นพวกสามัญชนจำนวนมากแบบนี้มาโผล่ที่นี่ ไม่รู้ว่าพวกเขาจะคิดยังไงกับฉัน”เฟิงหยวนเจิ้งรู้สึกอับอายเล็กน้อย: "ผู้เฒ่าหลี่ คุณหนิงช่วยชีวิตฉันไว้... "ได้ๆหลี่ฉางหยวนโบกมืออย่างไม่อดทน: "คราวหน้าอย่าทำแบบนี้อีก ถ้าพวกสามัญชนมาอีก ก็จัดให้พวกเขานั่งที่ห้องโถงด้านข้าง"“อย่าให้แขกผู้มีเกียรติที่ฉันเชิญมาเห็นพวกเขาก็พอ”เฟิงเซียวหลู่อับอายขายหน้ามากเธอสังเกตท่าทีของหนิงเป่ยอย่างระมัดระวัง: " หนิงเป่ย คุณจะไม่โกรธใช่ไหม?"หนิงเป่ยส่ายหัว: “ไม่”เขาเบื่อหน่ายที่จะรู้จักคนประเภทนี้งั้นก็ดีแล้วเมื่อเห็นว่าหนิงเป่ยไม่โกรธ เฟิงเซียวหลู่ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก: "พวกเขาก็เป็นแบบนั้น เป็นกลุ่มคนหัวสูง แต่อย่าใจแคบกับพวกเขาเลย"หนิงเป่ยถาม “เซียวหลู่ ทำไมฉันไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าคุณมีแฟน”เห้อ!เฟิงเซียวหลู่ถอนหายใจลากยาว พร้อมความเศร้าสร้อยในสีหน้าข: "เรื่องมันยาวน่ะ"“หนิงเป่ย คุณยังจำครั้งก่อนที่คุณตีเย่เฉิน ลูกชายของผู้นำจังหวัดในงานประมูลได้หรือเปล่าคะ?”หนิงเป่ยพยักหน้า: “แน่นอน ผมจำได้”ครั้งล่าสุดที่หนิงเป่ยและเฟิงเซียวหลู่ไปร่วมงานประมูล เพื่อประมูลทรัพย
หนิงเป่ยไม่รู้ว่าจะตอบคำถามนี้อย่างไรอยู่สักครู่หนึ่งคำถามแปลกๆ ที่ถามว่า ฉันจะรู้จักกับตัวเองได้ยังไง?ในที่สุดเขาก็หาคำตอบเจอ: "ฉันเคยเลี้ยงข้าวเขามาก่อน"เติ้งชิงชิวก็ตระหนักได้ว่า: "ไม่น่าแปลกใจเลย ขอฉันพูดดักไว้ก่อนเลยนะ นายไม่มีคุณสมบัติที่จะติดต่อกับคนคนนั้นได้"“ยังไงก็ตามหนิงเป่ย นายช่วยอะไรฉันหน่อยได้ไหม?”หนิงเป่ย: “อะไร?”เติ้งชิงชิวพูด: "ฉันสงสัยว่านายเคยได้ยินหรือเปล่าว่าซือโปเทียน อดีตผู้นำของนิากยฉีเหมินกำลังจะเป็นผู้นำนิกายฉีเหมิน 28 นิกาย เข้ามาเพื่อปิดล้อมและจัดการกับเจ้าของวิลล่าจือจินหมายเลข 1 นี้"“ซือโปเทียนเพิ่งบรรลุไปอีกระดับ และความแข็งแกร่ก็ถึงระดับจักรพรรดิแห่งปรมาจารย์แล้ว”“จักรพรรดิแห่งปรมาจารย์คือระดับที่เทียบได้กับเทพสงคราม ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีผู้นำนิกายหลักอีก 28 คนที่คอยสนับสนุน เจ้าของวิลล่าจื่อจินหมายเลข 1 คงจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาอย่างแน่นอน”“นายช่วยฉันโน้มน้าวเขาและขอให้เขาหลีกเลี่ยงอันตรายนี้ ฉันช่วยเขาจัดช่องทางหลบหนีและการเดินทางเอง”จากนั้นหนิงเป่ยก็จำได้ว่า วันนี้เป็นวันที่ซือโปเทียนประกาศท้าทายตัวเองไว้ไม่มีปัญหาหรอก มันยังไม่
หลานเฟิงหวง: "เธอควรขอบคุณเจ้านายของฉันนะ"ใช่ๆ!เติ้งชิงชิวรีบหันกลับมาและขอบคุณหนิงเป่ยกับความมีน้ำใจหนิงเป่ยยังคงต้องไปศึกษาสิ่งของที่แม่ทิ้งไว้ต่อจากความพยายามของเขา ในที่สุดเขาก็ประสบความสำเร็จในการค้นพบ "ความทรงจำ" ที่ไม่ใช่ของตัวเขา และยังวิชาสายฟ้าสะเทือนยุทธภพแม้ว่าจะมีความแตกต่างเพียงคำเดียวระหว่างวิชาสายฟ้าสะเทือนยุทธภพและหมัดสายฟ้า พลังที่ปล่อยออกมานั้นแตกต่างกันอย่างมากผู้ฝึกตนโบราณแบ่งออกเป็นสี่ระดับ: นภา ธรณี มืดและสว่าง โดยที่ระดับหนึ่งแทนคือระดับนภาหมัดสายฟ้าเป็นวิชาระดับสว่างซึ่งต่ำที่สุด ในขณะที่เทคนิคสายฟ้ามหานภาเป็นวิชาระดับมืดหนิงเป่ยใช้เวลาถึงสี่วันสี่คืนในการฝึกฝนวิชาสายฟ้าสะเทือนยุทธภพ“สายฟ้าฟาด จงมา!”ตู้ม!สายฟ้าฟาดลงบนท้องฟ้าที่สดใส และลำแสงของสายฟ้าก็ฟาดตกลงมาจากกลางอากาศ ทำลายวิลล่าที่อยู่ใกล้เคียงกลายเป็นซากปรักหักพังพลังนี้มีมากกว่าหมัดสายฟ้าถึงห้าเท่า!ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีสายฟ้าเล็กๆ ปะทุออกมาจากร่างมนุษย์ซึ่งกลืนกินแก่นแท้อย่างมากวิชาสายฟ้าสะเทือนยุทธภพ เรีกยฟ้าร้องมาจากกลางท้องฟ้า ซึ่งใช้พลังงานเพียงเล็กน้อยเท่านั้นหนิงเป่ยไม่