สำหรับหนิงเป่ยนี่เป็นข่าวดีผู้นำของนิกาย28 นิกายมาพร้อมกัน ช่วยให้ตัวเองไม่ต้องไปหาพวกเขาสิ่งเดียวที่เสียใจก็คือซือโปเทียน อดีตผู้นำของฉีเหมินไม่ได้มาด้วย ดังนั้นตัวเขาต้องลำบาก เพื่อออกเดินทางอีกครั้งเพียงแต่หนิงเป่ยชอบอยู่อย่างสงบ และตอนนี้วิลล่าก็ถูกรายล้อมไปด้วยนักสู้ที่กำลังเฝ้ารอดูความตื่นเต้น ซึ่งทำให้เขารำคาญอย่างมากเขากำลังจะไปที่กระท่อใชีพจรโอสถเ พื่อหาความสงบขณะที่กำลังจะออกไป ประตูก็ถูกเคาะเสียงของเติ้งชิงชิวดังมาจากนอกประตู“ขอโทษนะ คุณอยู่บ้านหรือเปล่า? ฉันชื่อเติ้งชิงชิวที่ได้รับการดูแลจากคุณเมื่อไม่กี่วันก่อนค่ะ คุณช่วยออกมาพบฉันหน่อยได้ไหมคะ? ฉันมีเรื่องสำคัญจะบอกคุณ”นี่มันเห็บหมาจริงๆหนิงเป่ยนั่งกลับไปที่โซฟา รอให้เธอกลับไปก่อนแล้วค่อยออกไปเมื่อเห็นว่าไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ในวิลล่า เติ้งชิงชิวก็รู้สึกผิดหวังฃเธอพูดว่า: "คุณคะ ฉันรู้ว่าคุณอยู่ในบ้าน แม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าทำไมคุณถึงปฏิเสธที่จะพบฉัน แต่ฉันก็ยังอยากจะบอกอะไรบางอย่างกับคุณค่ะ"“คุณควรรู้เกี่ยวกับการประกาศสงครามร่วมกันจากผู้นำของ 28 นิกายไหมคะ ฉันมีข้อมูลที่เชื่อถือได้ว่าไม่เพียงแต่ผู้นำ
หลังจากพูดจบ คุณเติ้งก็กดวางสายโทรศัพท์ทันทีเติ้งชิงชิวตกตะลึงอยู่ตรงนนั้นเป็นเวลานานคิดไม่ถึงส่า หนิงเป่ยจะรู้จักคนสำคัญแบบนี้เขามีคุณสมบัติอะไรถึงไปรู้จักกับอีกฝ่ายได้!แน่นอนว่าเติ้งชิงชิวจะไม่แต่งงานกับหนิงเป่ยเพียงเพราะเหตุนี้หรอก เพราะเขาไม่คู่ควร!ถึงแม้ว่าเติ้งชิงชิวจะแต่งงาน ก็จะต้องแต่งงานกับคนที่พัฒนาเฮยม่านซูหลังจากที่เติ้งชิงชิวจากไปแล้ว หนิงเป่ยก็มาที่กระท่อมชีพจรโอสถและปลูกเมล็ดสมุนไพรระดับสูงอย่างระมัดระวังเขาหล่อเลี้ยงเมล็ดพันธุ์ด้วยพลังจิตวิญญาณทุกวัน ใช้ยาฟื้นฟูรากฐานเป็นปุ๋ย และเมื่อรวมกับผลการบำรุงจากชีพจรโอสถที่แข็งแกร่ง เมล็ดพันธุ์ระดับสูงเหล่านี้ก็หยั่งรากและงอกในเวลาเพียงไม่กี่วันโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมล็ดพันธุ์ยาระดับแปดทั้งสี่เมล็ด ได้แตกแืงออกมาจากพื้นดินและมีกิ่งก้านและใบแตกหน่อหนิงเป่ยรู้สึกโล่งใจมากที่มะเร็งของอันเคอซินจะรักษาให้หายขาดเสียทีในขณะนั้นเอง ผู้ช่วยของอันเคอซินก็โทรมาหาหนิงเป่ย“คุณหนิง ประธานอันอยู่ที่บ้านคุณหรือเปล่า?”หนิงเป่ยพูดว่า: "ไม่นะ มีอะไรรึเปล่า?"ผู้ช่วยพูดว่า "วันนี้มีชายวัยกลางคนคนหนึ่งมาพบประธานอัน แล้วประธานอั
หลีชุนฮวาคำราม: "เขาเป็นพ่อชั่วๆ ของเคอซิน ไม่หรอก เขาเลวร้ายยิ่งเท่าสัตว์เสียอีก!"สีหน้าหนิงเป่ยค่อยๆ กลายเป็นจริงจังแน่นอนว่าเขารู้จักพ่อของอันเคอซินพ่อของเธอเป็นคลั่งไคล้วรยุทธและจะทำทุกอย่างเพื่อยกระดับความแข็งแกร่งของเขาเมื่ออันเคอซินกับอันกั๋วเหว่ยยังเป็นเด็ก พ่อของเธอทิ้งภรรยาและลูกๆ และทิ้งบ้านเกิด ว่ากันว่าเขาถูกวิหารเทพนักรบชัดชวญ และเข้าร่วมกับวิหารเทพนักรบตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่โผล่หน้ากลับมา และไม่เคยทำหน้าที่พ่อเลยแม้แต่วันเดียวไม่คาดคิดในช่วงเวลาที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ เขาจะโผล่หน้ามาและพาอันเคอซินไปด้วยหนิงเป่ยสงสัยว่าการกระทำของเขาน่าจะได้รับคำสั่งจากวิหารเทพนักรบ และสำหรับจุดประสงค์ของการกระทำนี้ คือต้องมาเอาเฮยม่านซูจากตัวเขาหนิงเป่ยปลอบใจ: "ไม่ห้องห่วง ผมจะพาเคอซินกลับมาอย่างปลอดภัยและไม่ยอมให้เกิดเรื่องอันตรายอย่างแน่นอน"หลีชุนฮวากัดฟันพูดด้วยความโกรธ: " หนิงเป่ย ฉันไม่เคยขออะไรแกเลย แต่คราวนี้ฉันขอร้องแก"“ฉันรู้ว่าแกต่อสู้เก่ง หากแกพบไอ้สารเลวไร้หัวใจคนนั้น ช่วยฉันจัดการเขาที! ถ้าจะฆ่าก็ฆ่าไปเลย”“ถ้านายสามารถทำได้ ฉันพิจารณาให้นายแต่งงานกับเค
ยาฟื้นฟูรากฐาน!ยาฟื้นฟูรากฐานเพียงเม็ดเดียว ก็เพียงพอที่จะทำให้เกิดความวุ่นวายทั่วทั่งยุทธภพได้แต่อีกฝ่ายกลับคว้าออกมากำใหญ่ ใส่เอาไว้กระเป๋าเสื้อโดยไม่มีการป้องกันใดๆ แถมยังใช้พวกมันเป็นปุ๋ยด้วย...รวยแล้ว... ไม่สิ ได้รวยข้ามคืนแล้ว!ทำไมไม่เคยเจอว่ามีคนร่ำรวยแบบนี้ในต้าเซี่ยมาก่อนเมื่อเทียบกับหนิงเป่ยแล้ว พวกเขาเป็นเพียงคนยากจนที่น่าสงสาร!เสียงของหูฮั่นชานสั่นเครือเล็กน้อย: " หนิงเป่ย ในนามของวิหารเทพนักรบ ฉันสั่งให้แกส่งวิหารเทพนักรบมาให้ฉันเดี๋ยวนี้"หนิงเป่ย: “เพื่ออะไร?”หูฮั่นชานพูดว่า: "ฉันสามารถตัดสินใจแทนเทพสงครามและอนุญาตให้แกเข้าร่วมวิหารเทพนักรบได้""เมื่อแกเข้าร่วมวิหารเทพนักรบแล้ว แกจะสามารถอยู่ในอันดับที่สูงกว่าหมู่นักสู้ทั่วไป 99% และสามารถเรียกลมเรียกฝนได้อีก มีอำนาจทุกอย่าง..."หนิงเป่ย: "ขอโทษที ฉันไม่มีนิสัยชอบปฏิบัติต่อคนอื่นเหมือนสุนัข"“นอกจากนี้ เจ้าเหลืองของฉันก็ยังกินอิ่มเลย ฉันก็เลยไม่มียาฟื้นฟูรากฐานสำหรับพวกแก”“เจ้าเหลือง มานี่สิ”สุนัขพื้นเมืองในชนบทสีน้ำตาลวิ่งมา กระดิกหัวและหางหนิงเป่ยป้อนยาฟื้นฟูรากฐานทั้งหมดให้เจ้าเหลืองตู้ม!สม
“แน่นอน หากแกชูขึ้นยอมแพ้ตั้งแต่ตอนนี้ ฉันอาจให้โอกาสแกอีกสักครั้ง”หนิงเป่ย: "เอาล่ะ ไปบอกเเทพสงครามและขอให้เขามาหาฉัน ฉันมีเรื่องจะถามเขา"“ถ้าเขาไม่มา ฉันคงจะต้องไปตามหาเขาเป็นการส่วนตัว”หนิงเป่ยอยากถามเทพสงครามเกี่ยวกับพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดของเขาโอหัง!หูฮั่นชานหึอย่างเย็นชา หันหลังกลับและจากไปหนิงเป่ยไม่ได้ไล่ตามหูฮั่นชานและปล่อยให้เขากลับไปแต่โดยดีใช้ให้เขาเป็นคนส่งข่าวเขาหันกลับไปและพบว่าตาหวงพยายามอย่างหนักที่จะเปิดปากของเจ้าเหลืองหนิงเป่ยรีบหยุดเขา: " ตาหวงกำลังทำอะไรอยู่?"ตาหวงพูดอย่างทุกข์ใจ: "นั่นคือยาฟื้นฟูรากฐาน แกจะเอาไปป้อนหมาได้ยังไง!"“ฉันจะลองดูว่าฉันจะทำให้มันคายออกมาได้ไหม”หนิงเป่ยพูดไม่ออก: "เอาล่ะ หยุดแย่งกับหมาได้แล้ว มาเริ่มงานของพวกเรากันดีกว่า"“ภายในเจ็ดวัน ซือโปเทียนจะนำผู้นำของ 28 นิกายมาฆ่าฉัน จากนั้นผมจะให้คุณเป็นผู้นำนิกายหวงฉีเพื่อยึดครอง 28 นิกายตกลงไหม”ตาหวงดูสับสนและพูดว่า "นี่... คงจะเป็นเรื่องยาก"นั่นคือ 28 นิกาย และใครๆ ก็รู้ว่าแค่พวกเขาพ่นน้ำลายก็ฆ่าคนได้หนิงเป่ย: "ถ้าเกิดแต่ละคนได้รับยาฟื้นฟูรากฐานคนละหนึ่งเม็ดต่อวัน และ
ดูจากสีหน้าท่าทางของหูฮั่นชานแล้ว ดูเหมือนว่าจะไม่ได้โกหกและเขาก็ยังไม่มีความกล้าที่จะหลอกลวงเทพสงครามอย่างแน่นอนเป็นไปได้สูงว่าสิ่งที่เขาพูดออกมานั้นจะเป็นความจริงไม่ต้องพูดถึงสมุนไพรระดับสูงมากมาย แค่ยาฟื้นฟูรากฐาน "เต็มกำมือ" เพียงอย่างเดียว มันก็มากพอที่จะทำให้ผู้คนบ้าคลั่งได้หากยาฟื้นฟูรากฐานจำนวนได้ตกอยู่ในมือของผู้คนแล้วนั้น มันก็จะสร้างพายุแห่งการนองเลือดได้อย่างแน่นอนใบหน้าเทพสงครามเผยความโลภ: "ยาฟื้นฟูรากฐานจำนวนมากและตั้งใจเอามันป้อนไปสุนัข บางทีเจ้าหนิงเป่ยนั่นอาจเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุ!"นักเล่นแร่แปรธาตุ!ผู้คนนั้นยิ่งตกใจมากขึ้นไปอีกแม้แต่ในโลกของผู้ฝึกตนโบราณ นักเล่นแร่แปรธาตุก็เป็นบุคคลที่ได้รับความเคารพอย่างยิ่งและพวกเขาเจอตัวยากยิ่งในโลกมนุษย์มีเพียงนักเล่นแร่แปรธาตุเพียงสองคนในวิหารเทพนักรบ แต่พวกเขาสามารถสกัดยาอายุวัฒนะระดับที่ต่ำกว่าระดับสี่ได้เท่านั้นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับ 6 พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะฝันเทพสงครามระงับความตื่นเต้นและพูดว่า: " หูฮั่นชาน ฉันสั่งให้แกไปเชื้อเชิญหนิงเป่ย และฉันจะอนุญาตให้เขาเข้าร่วมกับวิหารเทพนักรบ "“ถ้าทำผลงานได้ดี ฉ
คำพูดของซือโปเทียน ทำให้ทั้งห้องระเบิดเสียงหัวเราะอันเคอซินหวังว่าจะเจอรอยแตกบนพื้นให้แทรกตัวหนีไปในตอนนี้เดิมทีเธอตั้งใจว่าจะไม่แต่งงานกับอู๋ฉีหลิง แต่พ่อของเธอ อันเสี่ยวเทียนข่มขู่เธอโดยบอกว่าหนิงเป่ยกำลังตกเป็นเป้าหมาย 28 นิกายฉีเหมินและคนพวกนั้นต้องการฆ่าเขาตอนนี้มีเพียงอู๋ฉีหลิงเท่านั้นที่สามารถช่วยหนิงเป่ยได้ถ้าเธอสัญญาจะแต่งงานกับอู๋ฉีหลิง และอู๋ฉีหลิงนั้นก็จะช่วยเหลือเธอเพื่อช่วยชีวิตของหนิงเป่ย อันเคอซินทำได้เพียงก้มหน้ายอมทำตามเท่านั้นยิ่งไปกว่านั้น เธอก็ยังป่วยเป็นมะเร็งปอดและมีเวลาเหลืออยู่ไม่มาก มันก็คุ้มค่าที่จะช่วยชีวิตหนิงเป่ยก่อนที่ตัวเองจะตายไปในเวลานี้คนรับใช้ชราเดินเข้ามา: "นายน้อยทั้งสี่ เหยื่อล่อสัตว์พร้อมแล้ว พวกท่านสามารถไปล่าสัตว์ได้แล้วครับ"ไปกันเถอะ!อู๋ฉีหลิงลุกขึ้นและเดินออกไปก่อน ตามด้วยคนอื่นๆ อีกหลายคนพื้นที่ล่าสัตว์กว้างใหญ่นั้นว่างเปล่า ยกเว้นกระท่อมที่อยู่ข้างหน้าหนึ่งร้อยเมตรหลายคนหยิบธนูและลูกธนูขึ้นมาตามลำดับ และอู๋ฉีหลิงก็ยื่นให้อันเคอซินด้วย: "นี่ ถ้าทำได้ดีก็จะได้รับรางวัลในคืนนี้"อันเคอซินรู้สึกเขินอายและไม่ได้เอื้อมมือ
หญิงสาวทั้งสี่คนหน้าซีด และขอร้องความเมตตาอย่างขมขื่นแต่นายน้อยทั้งสี่แห่งเมืองหลวงจิงตู จะฟังพวกเธอได้อย่างไร?ในสายตาของพวกเขานั้น ชีวิตของหญิงสาวทั้งสี่คนนั้นยังเทียบไม่ได้กับสัตว์เลี้ยงของตนเองด้วยซ้ำสุดท้ายแล้ว จากแรงกดดันของนายน้อยสี่แห่งเมืองหลวงจิงตู ผู้หญิงทั้งสี่คนก็ยอมเดินเข้าไปในพื้นที่ล่าสัตว์เมื่อเห็นสีหน้าหวาดกลัวของพวกเธอ สี่นายน้อยแห่งเมืองหลวงจิงตูก็รู้สึกตื่นเต้นมากยิ่งขึ้นอู๋ฉีหลิงตะโกน: "เอาล่ะ วิ่งได้!"ผู้หญิงทั้งสี่คนวิ่งไปอย่างสิ้นหวังนายน้อยทั้งสี่แห่งเมืองหลวงจิงตูง้างคันธนูและยิงธนูออกไปทันทีหม่าเสี่ยวอวิ๋นยิงโดนหัวผู้หญิงคนหนึ่งด้วยลูกธนูอู๋ฉีหลิงด่า: "เจ้าโง่เอ้ย ทำไมต้องยิงที่หัวด้วย? ยิงที่ก้นสิ อย่าบอกนะว่านายชอบศพ"ฮ่าๆๆ!ผู้คนในบริเวณรอบๆ ต่างระเบิดเสียงหัวเราะลูกธนูยิงไปทางผู้หญิงอีกสามคนแต่ในช่วงเวลาวิกฤตินี้ จู่ๆ ก็มีสายฟ้าก็ระเบิดออกมาจากอากาศ ทำให้ลูกธนูทั้งหมดแตกเป็นเสี่ยงๆอะไรวะ!เกิดอะไรขึ้น!สายฟ้าที่ผ่าลงมาอย่างที่กะทันหันนี้ทำให้นายน้อยทั้งสี่แห่งเมืองหลวงจิงตูตกใจอากาศแจ่มใสแบบดี จะมีสายฟ้าได้ยัง!ก่อนที่พวกเขา