คำพูดประโยคเดียวของหนิงเป่ย ทำลายบรรยากาศที่กำกวมและโรแมนติกนี้ทุกคนจ้องมองที่หนิงเป่ยด้วยสายตาราวกับจะกินเลือดกินเนื้ออันเคอซินพูดอย่างเร่งรีบ: "เอาล่ะ มาเป่าเทียนกันเถอะ"เสิ่นกว่างหลินหดแขนของเขากลับมา และกลอกตาใส่หนิงเป่ยอย่างดุเดือดไอ้สารเลว แกทำลายความดีของฉันตั้งหลายครั้ง เดี้ยวฉันจะให้รางวัลแกทีหลังเองอันเคอซินเป่าเทียนและตัดเค้ก บรรยากาศค่อนข้างน่าเบื่อเล็กน้อยหลังจากกินเค้กเสร็จ เสิ่นกว่างหลินก็หยิบม้วนกระดาษออกมาแล้วพูด "เคอซิน นี่เป็นของขวัญวันเกิดที่ฉันเตรียมไว้ให้เธออย่างพิถีพิถัน หวังว่าเธอจะชอบมัน"นี่คืออะไรน่ะ?อันเคอซินพูดอย่างสงสัยเสิ่นกว่างหลินพูดว่า "ฉันได้ยินมาว่าเคอซินเป็นแฟนของนักวาดภาพจีนที่มีชื่อเสียงปรมาจารย์คูเซืน ดังนั้นฉันจึงจ่ายเงินไปจำนวนมากในการประมูลผลงานที่ภาคภูมิใจของปรมาจารย์คูเฉินคนนี้จากงานประมูลของคริสตี้ "ภาพจักจั่นฤดูร้อนร้องประสานเสียง"ว้าว!จุดไคลแม็กซ์เล็กๆ เกิดขึ้นในที่จัดงาน“ปรมาจารย์คูเซินเป็นจิตรกรจีนร่วมสมัยอันดับหนึ่ง ผลงานชิ้นใดชิ้นหนึ่งของเขาประเมินค่าไม่ได้”"ปรมาจารย์คูเซินเป็นคนแรกที่ส่งเสริมการวาดภาพจีนในระด
เสิ่นกว่างหลินหัวเราะอย่างเหน็บแนมหนิงเป่ยทำให้ตัวเองขายขี้หน้าเขาพูดว่า: "พูดตามตรง ครั้งนี้ที่งานประมูลของจาซิส ฉันได้เห็นปรมาจารย์คูเซินด้วยตาของฉันเอง""ปรมาจารย์คูเฉินเป็นคนแก่จริง ๆ ผมหงอกและไว้เครา สง่างามเหมือนไม่มีวันแก่ ไม่ใช่บางคนที่แต่งตัวโทรม ๆ แย่งชิงชื่อเสียงและผลประโยชน์"หลีชุนเหยียนพูดอย่างภาคภูมิใจ: " หนิงเป่ย ตอนนี้มีอะไรจะพูดอีกไหม?"หนิงเป่ย: "ฉันไม่เคยไปงานประมูลของคริสตี้ สิ่งที่นายเห็นคือมีคนปลอมตัวฉัน"พอได้แล้ว!อันเคอซินทนไม่ไหวแล้ว "หนิงเป่ย ปรมาจารย์คูเซินเป็นไอดอลของฉัน ฉันจะไม่ยอมให้นายดูถูกเขาเด็ดขาด"หนิงเป่ยพูด: " เคอซิน ฉันเป็นปรมาจารย์คูเซินจริงๆ ถ้าไม่เชื่อ ฉันสามารถพิสูจน์ตัวเองด้วยการวาดภาพเดี้ยวนี้"อันเคอซินพูดอย่างเหลืออด: " หนิงเป่ย นายยังไม่จบอีกเหรอ?"เสิ่นกว่างหลินหัวเราะแเยาะละพูดว่า "เอาล่ะ ในเมื่อหนิงเป่ย กระตือรือร้นที่จะพิสูจน์ตัวเอง งั้นเราก็ให้โอกาสเขากันเถอะ"“ฉันอยากเห็นว่าเขาจะวาดอะไรได้บ้าง”ในเมื่อคุณกำลังทำให้ตัวเองขายหน้า ฉันก็ได้แต่หัวเราะเยาะแกเท่านั้น ฮ่าฮ่าในไม่ช้า ปากกา หมึก กระดาษ และแท่นหมึกก็ถูกหยิบขึ้
หนิงเป่ยพยักหน้า: “ใช่”เป็นไปไม่ได้!เสิ่นกว่างหลินพูดว่า "เครือข่ายร้านขายยาเหรินคังกว่า 150 แห่ง มูลค่าหลายร้อยล้าน แกจะเอาเงินมาเยอะแยะขนาดนี้ที่ไหนมาซื้อได้?"หลีชุนเหยียน คว้าสัญญาโอนกรรมสิทธิและอ่านอย่างละเอียดหลังจากนั้นไม่นานเธอก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ "มันเป็นของจริง!"ฝูงชนก็โกลาหลทันทีของขวัญ 50 ล้านจากเสิ่นกว่างหลินก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ผู้คนทึ้งแต่หนิงเป่ยมอบของขวัญชิ้นใหญ่ราคาหลายร้อยล้านและยังเป็นทรัพย์สินของจริงสิ่งนี้มีประโยชน์มากกว่าการวาดภาพมากเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ของขวัญของเสิ่นกว่างหลินถือว่า "กระจอก" ไปเลยดูไม่ออกจริง ๆ ว่าชายข้าวนุ่มคนนี้ยังมีมือที่ใหญ่ขนาดนี้เมื่อทุกคนมองดูเขาอีกครั้ง ก็ไม่มีการดูถูกเหยียดหยามอีกต่อไปผู้ชายคนนี้ปิดบังตัวเองไว้อย่างดีหนิงเป่ยคืนสัญญาและยื่นให้อันเคอซิน "เคอซิน รับมันไปเถอะ"กระแสความอบอุ่นไหลผ่านหัวใจของอันเคอซินไม่ใช่ว่าของขวัญชิ้นนี้มีค่าเกินไป แต่หนิงเป่ยยังจําวันเกิดของตัวเองและเตรียมของขวัญอย่างพิถีพิถันนั่นแสดงว่าเขายังห่วงใยตัวเองอยู่แต่เธอยังคงปฏิเสธ: "ไม่ได้ ไม่ได้ ของขวัญชิ้นนี้แพงเกินไป ฉัน
ยกย่องและเชิดชูคนอื่น แต่มาถึงหนิงเป่ยกลับกลายเป็นการให้กำลังใจแบบขอไปที อันเคอซินตูรู้สึกกระอักกระอ่วนแทนหนิงเป่ยบางคนก็อดหัวเราะไม่ได้และรัเบิดเสียงหัสเราะออกมาหนิงเป่ยขี้เกียจที่จะสนใจหวังเค่อเหว่ย เขาก็เหมือนกับหลี่ชุนเหยียนเป็นคนหัวสูงที่มีชื่อเสียงศาสตราจารย์หวังเค่อเหว่ยสังเกตเห็น "ภาพจักจั่นฤดูร้อนร้องประสานเสียง" ที่ถูกโยนลงบนพื้นเขาตกใจมากจึงหยิบ "ภาพจักจั่นฤดูร้อนร้องประสานเสียง" ขึ้นมา: "โอ้พระเจ้า นี่ไม่ใช่ผลงานชิ้นเอกของปรมาจารย์คูเซินหรอกเหรอ? ทำไมเธอถึงโยนมันลงพื้น น่าเสียของจริงๆ"ศาสตราจารย์หวังเค่อเหว่ยเป็นแฟนตัวยงของปรมาจารย์คูเซิน และสมาคมวิจัยศึกษาปรมาจารย์คูเซินก็ก่อตั้งโดยเขา เขาดํารงตําแหน่งประธานด้วยตัวเองเมื่อเห็นผลงานของปรมาจารย์คูเซินถูกโยนลงมากองกับพื้น ก็เกิดความปวดใจ และระมัดระวังในการเช็ดฝุ่นที่อยู่ด้านบนเสิ่นกว่างหลินอธิบายอย่างรีบร้อน "ศาสตราจารย์หวัง ภาพวาดนี้เป็นของปลอม คุณไม่จําเป็นต้องสนใจหรอก"ของปลอม?เป็นไปได้ยังไงกัน!ศาสตราจารย์หวังเค่อเหว่ยพูด "พลังแบบนี้ ลายเส้นแบบนี้ มองยังไงเก็หมือนของจริง"เขารีบหยิบแว่นขยายออกมาและสังเก
หวังเค่อเหว่ยว่า "ถ้าจะบอกว่าไม่มีคุณสมบัติ ก็คือฉันที่ไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเป็นลูกศิษย์ของปรมาจารย์คูเฉิน"ทุกคนในที่เกิดเหตุหน้าแดงมากกว่าคนอื่นๆตอนนี้พวกเขาสามารถแน่ใจได้ว่าหนิงเป่ยเป็นปรมาจารย์คูเซินที่มีชื่อเสียงจริงๆเมื่อกี้พวกเขายังหัวเราะเยาะว่าหนิงเป่ยเป็นผู้ชายบอบบางตอนนี้ดูเหมือนว่าตัวตลกจะเป็นตัวพวกเขาเองภาพวาดหนึ่งภาพสามารถเทียบเท่ากับเงินเดือนหรือผลกำไรบริษัทพวกเขาได้หลายปีแล้วไม่น่าแปลกใจที่ของขวัญราคาหลายนร้อยล้านมูบมอบทันทีที่เขาบอกว่ามีให้ เขามีเงินทุนที่จะทำเช่นนั้นจริงๆมันก็แค่การวาดรูปเพิ่มไม่กี่รูปเท่านั้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลีชุนเหยียน สายตาที่มองหนิงเป่ยเต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งฤดูใบไม้ผลิจะต้องแต่งงานกับหนิงเป่ย และปล่อยให้เขาวาดภาพให้เธอทุกวัน ความฝันของเธอที่จะเป็นมหาเศรษฐียังห่างไกลอีกไหม?อย่างไรก็ตามหนิงเป่ยวาดภาพหนึ่ง ใช้เวลาเพียงสิบนาทีเท่านั้นฝูงชนล้อมรอบหนิงเป่ยราวกับดาวล้อมเดือน เมินเสิ่นกว่างหลินไปอย่างสมบูรณ์เสิ่นกว่างหลินพ่ายแพ้อย่างหมดท่าเขามองไปที่หนิงเป่ยด้วยจิตสังหาร: หนิงเป่ย แกต้องตาย!สำหรับคนจากเทียนหลง การฆ่าคนนั้นง่าย
และดูเหมือนว่าเธอจะได้รับบาดอย่างมากหนิงเป่ยรีบก้าวเข้าไปตรวจสอบสถานการณ์ทันทีในเวลานี้มีเงาสีดําอีกสองเงาข้ามกําแพง และลอดเข้าไปในลานของบ้านพวกเขาทั้งสองเห็นหนิงเป่ย ต่างฝ่ายก็ประหลาดใจเล็กน้อย มองหน้ากันแล้วพยักหน้าเล็กน้อยวินาทีต่อมา ทั้งคู่เข้าโจมตีหนิงเป่ยพร้อมกันไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาตามล่าเติ้งชิงชิวรนหาที่ตาย!หนิงเป่ยระเบิดพลังความมืดออกมา ต่อยทั้งคู่ไปคนละหมัดปังๆ!เมื่อเผชิญกับความแข็งแกร่งของหนิงเป่ย ทั้งสองไร้แรงที่จะต้านทานและถูกหนิงเป่ยซัดจนปลิวไปหลังจากตกลงพื้นแล้ว ทั้งสองก็อดไม่ได้ที่จะกระอักเลือดหนิงเป่ยพูดอย่างเย็นชา: "บอกชื่อของแกมา แล้วฉันจะช่วยฆ่าพวกแกแบบไม่ทรมาน"ทั้งสองมองหน้ากันด้วยสายตาตกตะลึง“ปรมาจารย์ อย่างน้อยก็ปรมาจารย์ชั้นนำ ”"พวกเราคงหนีไม่รอดแล้ว"“ภารกิจล้มเหลว ฆ่าตัวตาย!”หลังจากพูดแล้ว พวกเขาทั้งสองไม่ลังเลที่จะแทงตัวเองเข้าที่ท้องด้วยมีด แล้วคว้านท้องตัวเองลำไส้ทะลักออกมามีเลือดไหลกระจาย และทั้งคู่ก็สิ้นลมหายใจในทันทีพวกเขาลงมือกันเร็วเกินไป และหนิงเป่ยก็ไม่สามารถหยุดพวกเขาได้ทันเวลา“การฆ่าตัวตายโดยวิธีคว้านท้องวิธ
วันรุ่งขึ้นเมื่อหนิงเป่ยลืมตาก็เห็นเติ้งชิงชิวกําลังเอามีดจ่อคอตัวเองอยู่หนิงเป่ยหัวเราะอย่างขมขื่น: "นี่เป็นชาวนากับงูในชีวิตจริงหรือเปล่า?"เติ้งชิงชิวกัดฟันแล้วพูด "หยุดยิ้มกรุ่มกริ่มเถอะ ฉันขอถามนายหน่อย เมื่อคืนนายทำอะไรกับฉันหรือเปล่า?"หนิงเป่ย: "ความคิดคุณนี่ยอดไปเลย"นาย...ใบหน้าเล็กๆของเติ้งชิงชิวซีดลงด้วยความโกรธ: "ฉันขอเตือนนาย หากคนอื่นรู้เรื่องนี้ ฉันจะสับนายเป็นชิ้น ๆ และเอาไปเป็นอาหารให้สุนัขกิน"หนิงเป่ย: "วางใจได้ คุณไม่อายแต่ฉันยังอายอยู่"เติ้งชิงชิวโกรธมากจนเธออยากจะแทงเขาให้ตายจริงๆ“ฮึ่ม อย่าพูดไปตรงมาแบบนั้นสิ! ฉันแนะนำให้คุณยกเลิกการหมั้นโดยเร็วที่สุด ดอกฟ้ากับหมาวัด”หนิงเป่ย: “คุณพูดได้ว่าตัวเองเป็นหมาวัดได้ยังไง?”เติ้งชิงชิว: "..."นี่นายเป็นดอกฟ้าเหรอ?ไร้ยางอายอะไรเช่นนี้ เติ้งชิงชิวเพิ่งเคยเจอเป็นครั้งแรกหนิงเป่ยเปลี่ยนเรื่อง: "ฉันขอถามคุณว่าเมื่อคืนนี้ซามูไรญี่ปุ่นสองคนนั้นคือใคร? ทำไมพวกเขาถึงไล่ล่าคุณ?"เติ้งชิงชิว: "นี่คือความลับของ กลุ่มหลง(มังกร)ของพวกเรา ฉันบอกนายไม่ได้"หนิงเป่ย: "ให้ฉันเดานะ พวกเขามาจากเทียนหลงไบโอเทค?"เติ้งช
เติ้งชิงชิวพูด: "ฉันไม่รู้ แต่ฉันเดาว่าน่าจะต้องการสกัดสารหายากอะไรสักอย่างจากเลือดนี้""ฉันเพิ่งถ่ายรูปนี้ ยังไม่ทันได้สืบสวนต่อ ก็ถูกซามูไรญี่ปุ่นพบแล้ว"หนิงเป่ย: "ขยะ!"เติ้งชิงชิว: "..."นายต่างหากที่เป็นขยะ ทั้งครอบครัวของนายก็เป็นขยะหนิงเป่ย: "ฉันจะสืบหาความจริงของเรื่องนี้เอง"เติ้งชิงชิว: "โอเค ร่วมมือกันที่น่ายินดี"หนิงเป่ย: "ความร่วมมืออะไร? เธอยังไม่มีคุณสมบัติเลย"เติ้งชิงชิว: "ไสหัวออกไปจากที่นี่!"......เสิ่นกว่างหลินได้ส่งคนไปติดตามอันเคอซินอย่างลับๆหลังจากที่อันเคอซินเป็นลมในลิฟต์ และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เสิ่นกว่างหลินก็ได้รับข่าวและรีบไปที่โรงพยาบาลทันทีแต่เขาไม่ได้ไปเยี่ยมอันเคอซินเลยทันที เพราะเขากลับวิ่งไปที่ห้องพยาบาลในแผนกผู้ป่วยใน และแอบเก็บตัวอย่างเลือดของของอันเคอซินมาเขาเข้าไปในห้องน้ํา และหยิบน้ํายาออกมาหยดลงในตัวอย่างเลือดของอันเคอซินเลือดของอันเคอซินเปลี่ยนจากสีน้ำตาลแดงเป็นสีฟ้าอ่อนอย่างรวดเร็วเสิ่นกว่างหลินโทรออกสายหนึ่งว่า "เจ้านายครับ เลือดของอันเคอซินสามารถยืนยันได้ว่าเป็นเลือดกิเลนชนิดอ่อน"อีกฝ่ายพูดตอบกลับอย่างเย็นชา: "เลือด