สามี(2)-38((ห๊ะ!!!!)) เสียงของแม่แนนและไอติมตะเบ็งดังลั่นพร้อมกันอย่างตกใจ เมื่อการมาบ้านที่ไม่ได้นัดหมายนี้เป็นข่าวที่กะทันหันเกินไปสำหรับพวกเธอที่ยังไม่รู้เรื่องราวต้นสายปลายเหตุที่เกิดขึ้น"เดี๋ยวนะคะ ทำไมแนนไม่รู้ นี่ไปคุยกันตอนไหน แล้วทำไมต้องหมั้นกับเจทเร็วขนาดนี้...ไอติมมันเกิดอะไรขึ้นลูก" แม่แนนที่กำลังงงเป็นไก่ตาแตก เธอตั้งรับไม่ทันกับสิ่งที่ได้ยิน เหตุฉไนถึงต้องรวดเร็วว่องไวขนาดนี้ทั้งที่ลูกสาวเธอเพียงอายุสิบเก้าปีเท่านั้น จะต้องมีงานหมั้นเป็นทางการแล้วหรือ"พี่รู้เรื่องลูกทุกอย่างหมดแล้ว ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้วลูกของเราก็เสียหายถึงแม้จะเป็นเพราะความตั้งใจหรือไม่ก็ตาม มันเกิดแล้วก็ต้องช่วยกันแก้ไข" พ่อเจให้เหตุผลแก่คนเป็นภรรยา"เรื่อง?...เรื่องอะไรคะพี่เจ แล้วใครเสียหาย น้องไอติมเหรอ?" แม่แนนกระวนกระวายเอ่ยถามสามีออกไปด้วยใจร้อนรน ส่วนคนที่เป็นลูกสาวได้แต่เพียงนั่งนิ่งก้มหน้ามองตักตัวเองเท่านั้น"ไอติมขอโทษค่ะคุณพ่อ" หญิงสาวที่นิ่งเงียบเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเมื่อเห็นแล้วว่าทุกอย่างเริ่มบานปลาย การกระทำที่พลั้งเผลอจนเธอทำให้ผู้เป็นพ่อและแม่นั้นต้องเสียใจ...ร่างบอบบางที่นั่ง
สามี(2)-39"คุณพ่อคุณแม่ไอติมเป็นเรียนก่อนนะคะ" เสียงแหลมแผดดังลงมาจากบนบ้านชั้นสอง พร้อมกับเสียงวิ่งลงบันได เมื่อวันนี้ไอติมตื่นสายเพราะนอนดึก สาเหตุเพราะเจทคึกคะนองโทรหาหลังจากกลับจากบ้านของไอติม คุยนานหวานหยดจนเลยเวลาเข้านอนโดยไม่รู้ตัว"เบา ๆ ลูก แล้วหนูไม่ทานข้าวเช้าเหรอคะ" แม่แนนที่กำลังเตรียมมื้อเช้า ตะโกนตามหลังลูกสาวคนโตที่รีบวิ่งไปใส่รองเท้าผ้าใบ"ไม่ค่ะคุณแม่ไอติมสายแล้ว" เธอนั่งติดพื้นสวมรองเท้าพร้อมกับพูดบอกผู้เป็นแม่"ถ้าอย่างนั้นดื่มนมหน่อย เอาแซนวิชไปด้วยแม่ทำไว้ให้" แม่แนนที่ห่วงใยลูกสาวไม่ต่างจากลูกแท้ ๆ เดินถือแก้วนมและแซนวิชมาให้ถึงที่"ขอบคุณค่ะ...อ้อคุณแม่ขาพรุ่งนี้ไอติมมีแสดงละคร อย่าลืมชวนคุณพ่อไปเป็นกำลังใจให้ไอติมด้วยนะคะ" ไอติมยกแก้วนมขึ้นดื่ม ในสมองพลันนึกออกกับกิจกรรมจึงเอ่ยย้ำกับผู้เป็นแม่ด้วยรอยยิ้มสดใส"จ้า...ลูกสาวขึ้นเวทีทั้งที่แม่ต้องไปอยู่แล้ว เจทมารับหรือหนูจะขับรถไปเอง" แม่แนนเอ่ยถามและกดจมูกหอมแก้มลูกสาวคนโต"เจทมารับค่ะ"ปี๊ด ปี๊ด! เสียงแตรรถดังส่งสัญญาณอยู่หน้าบ้าน รถยนต์ที่คุ้นตาจอดเทียบรออีกคนที่เป็นที่รักตลอดกาล"นั่นไงเจทมาพอดีเลยลูก...ตั้ง
สามี (2) - 40กิจกรรมที่ทางมหาวิทยาลัยจัดขึ้น การแสดงละครเวทีที่ไอติมได้เป็นตัวแทนในการแสดง ทุกสิ่งอย่างล้วนถูกจัดเตรียมจนเรียบร้อย การซ้อมที่ยาวนานจนทำให้ไอติมนั้นสามารถทำมันออกมาได้ดีในการซ้อม เหล่านักศึกษามากมายนั่งรอชมรวมทั้งที่บุคคลจากด้านนอกทั้งผู้ปกครองและอาจารย์ เพื่อนต่างสถาบันมากมายก็เข้ามาเยี่ยมชมกิจกรรมในครั้งนี้"อ่าเจ็บเท้าจัง..." รองเท้าที่เข้าชุดเริ่มเป็นปัญหา มันบีดรัดเท้าของไอติมจนเริ่มเจ็บ จนต้องถอดวางไว้ข้างตัวและเปลือยเท้าเปล่าให้ผ่อนคลาย"น้องไอติม เป็นไงหายตื่นเต้นหรือยัง" เสียงของรุ่นพี่ที่อยู่ร่วมการซ้อมเอ่ยถามขึ้น"ยังตื่นเต้นอยู่ค่ะพี่แทน" ไอติมที่นั่งอยู่ในห้องแต่งตัวเพื่อรอเวลา เธอตอบกลับในสิ่งที่ได้ยิน"ถ้าอย่างนั้นดื่มน้ำให้ชื่นใจ จะได้หายตื่นเต้น" แทนส่งยิ้มพร้อมกับยื่นขวดน้ำเย็นให้เธอ"ขอบคุณค่ะ" ไอติมยิ้มอ่อนก่อนจะรับขวดน้ำนั้น...ขวดน้ำเย็นที่มีรอยเปิดฝา ทำให้ไอติมหวนนึกถึงคำสั่งของเจทที่บอกไว้ก่อนหน้า'อย่ารับเครื่องดื่มจากคนอื่นที่ยื่นให้ หากจำเป็นจริง ๆ ก็ดื่มน้ำที่ใหม่ไม่มีรอยแกะเปิด เพราะเจทไม่ไว้ใจใครหน้าไหนทั้งนั้น' "แล้วพี่หวานไปไหนคะ?" ไอติ
สามี(2)-41"หนอยแน่ เล่นแรงขนาดนี้เลยเหรอเนี้ย!" ขนมปังที่กำลังมาหาพี่สาวเพื่อเชยชมและให้กำลังใจ แต่กลับกลายเป็นว่าเธอเห็นคนคิดปองร้ายพี่สาวที่รัก"หืม...บังอาจมาแตะต้องพี่สาวปังเหรอ ไม่เอาไว้แน่"เธอเห็นคนที่ลอบออกมาจากห้องแต่งตัวของนักแสดงอย่างมีพิรุธสงสัย สมองที่แล่นเร็วพลันทำให้ยกมือถือขึ้นมาถ่ายภาพเก็บไว้ก่อนจะย่างกรายเข้ามาในห้องนั้นเพราะอยากรู้ แต่สิ่งที่เห็นทำให้เธอเคืองแค้น พี่สาวที่แสนดีไม่เคยคิดร้ายกับใคร แต่มีคนคิดมาดร้ายทำลายให้บาดเจ็บ"เดี๋ยวเจอปังสักตั้งยัยป้านี่! หึ๋ย" เศษใบมีดคัตเตอร์ถูกขนมปังจัดการออกจากรองเท้าพี่สาว ก่อนจะรีบวิ่งออกจากห้องนั้นไปเพื่อจัดการกับคนที่คิดร้าย.."สมกับเป็นเจ้าหญิงของเจทจริง ๆ ... เย็นนี้ของลิ้มรสเจ้าหญิงไอติมได้ไหม?" เจทที่สวมรองเท้าให้ไอติมเสร็จสิ้น พูดเย้าแหย่คนที่อยู่ใต้ความสูง คำพูดล่อแหลมที่ทำเอาคนฟังนั้นแก้มแดงระเรื่อในทันตา"เจทบ้า! พูดอะไรก็ไม่รู้" ไอติมทุบเบา ๆ ลงอกหนาของเจทแก้เขิน ตอนนี้เธอไม่กล้าแม้จะเผชิญหน้ากับเขา แววตาสีฟ้าที่จ้องมองมันทำให้เธออายจนแทบแทรกแผ่นดินแกร๊ก เสียงลูกบิดประตูดังขึ้นพร้อมกับบุคคลสองคนที่เข้ามาใหม่
สามี(2)-42...การแสดงบนเวทีเริ่มขึ้น เสียงปรบมือกระหึ่มเสียงดังลั่น ผู้ชมมากมายล้วนทำให้ไอติมนั้นตื่นเต้น เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อเรียกความมั่นใจ"สู้ ๆ " เจทที่ยืนข้างเวทีส่งสัญญาณเป็นกำลังพร้อมทำท่าทางประกอบชูสองนิ้วและส่งยิ้มละมุนเป็นกำลังใจให้ไอติม"........" เธอพยักหน้าและยิ้มให้เจท ก่อนสายตาจะมองเห็นคนในครอบครัวที่นั่งมองคอยให้กำลังใจไม่ต่างกัน...ตัวละครที่อยู่บนเวทีเริ่มทำหน้าที่และบทบาทของใครของมัน ทุกอย่างค่อย ๆ เดินไปเรื่อย ๆ ตามเนื้อเรื่องของคนกำกับ ไอติมแสดงออกมาได้ดี บางทีมีเสียงปรบมือดังลั่นเป็นกำลังใจฉากสุดท้ายที่ใกล้จบลงทำให้ไอติมนั้นรู้สึกผ่อนคลาย การฝึกซ้อมที่นานพอทำให้เธอนั้นไม่ทำผิดพลาดแม้แต่น้อย แต่....'ทำไมพระเอกถูกเปลี่ยนตัวเป็นพี่แทน?'...ไอติมที่มองเห็นตัวละครหลักเกิดความสงสัย แต่ไม่ได้พูดพร่ำออกไปแค่สบถลำพังในใจเท่านั้น เธอยังคงแสดงละครไปเรื่อย ๆ ตามบทที่ได้รับ ความกังวลเริ่มมีเมื่อสายตาเห็นเจทที่จ้องมองด้วยแววตาราวโรจน์ดั่งโกรธเคืองมือหนากำแน่นจนแขนแกร่งเกร็งแข็งทื่อ ไอติมที่กำลังยื่นมือข้างซ้ายไปตรงหน้าพระเอกด้วยบทของการแสดง สายตาของเธอสื่อความหมายว
สามี(2)-43 ตุบ! ผั๊วะ ผั๊วะ ตุบตับเจทที่เห็นภาพตำตายิ่งทำให้เลือดขึ้นหน้าเร็วไว ขายาววิ่งตรงด้วยความโมโห สิ่งที่เห็นเจทเข้าใจดีรุ่นพี่ก็แค่อยากปั่นประสาทเขาเล่น เจทประชิดตัวรุ่นพี่ที่ชื่อแทนทันที กระโดดยกขาเล็งมาอย่างตรงเป้าถึบเข้าเอวสอบของแทนจนเซถลา แทนที่ไม่คิดว่าเจทจะประชิดตัวเร็วไว จนเขาไม่ทันได้ตั้งตัวพลาดท่าให้แก่เจทไอติมที่ถูกแรงของแทนเหวี่ยงจนก้นกระแทกพื้น รองเท้าส้นสูงที่ใส่ทำให้ข้อเท้าของเธอนั้นแพลงเมื่อเสียหลักล้ม "อ๊ะ!! โอ๊ะ ๆ" ภาพตรงหน้าที่เห็นแม้เจทจะเป็นฝ่ายได้เปรียบแต่เธอไม่อยากให้เจทนั้นได้รับบาดเจ็บ พยายามหยัดตัวลุกยืนแต่ก็ไม่สามารถฝืนความเจ็บได้"ไอ้เวรระยำ กล้าทำกับแฟนกูเหรอ ห๊ะ!!" ร่างสูงโปร่งดวงตาสีฟ้าที่ตอนนี้ตาขาวแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงอย่างเลือดขึ้นหน้า ตามคาบคร่อมคนที่ไม่ทันตั้งตัวพร้อมกับสาดหมัดหนักเต็มเบ้าหน้าของแทนจนบอบช้ำ"เจท!" ไอติมพยายามเรียกหวังเตือนสติแต่ก็ไม่คิดจะฟังเธอสักนิดผั๊วะ ผั๊วะ"มีมือคนเดียวหรือไงวะ" แทนที่ได้จังหวะพอดิบพอดี กระแทกเข่าแรงจนเจทพลาดท่า จนกระดอนออกจากตัวแทน ทีเผลอที่แทนได้เปรียบรีบประชิดตัวเจทคร่อมร่างกำคอเสื้อแน่น ต่อยเข้าปา
สามี(2)-44"ขอโทษที่รุนแรงใส่..." เจทไล้นิ้วมือเช็ดน้ำตาให้คนตรงหน้า เพ่งพิศจ้องมองด้วยแววตาแห่งรัก และค่อย ๆ เคลื่อนคล้อยริมฝีปากประกบจูบอย่างดูดดื่มลึกซึ้ง คนที่ตราตรึงต่อการสัมผัสหลับตาพริ้มอย่างซาบซึ้งยินยอมให้เจททำตามแต่ใจต้องการมือหนาทำงานซุกซนลูบไล้ไปตามผิวขาวเนียนใสของไอติม คนตัวเล็กที่ยินยอมนั่งนิ่งบนแท่นอ่าง กำแน่นตรงสาบเสื้อของเจทอย่างเกร็ง ๆ แต่ก็ไม่ขัดขืนต่อการกระทำของเจทเรียวลิ้นอุ่นสอดชอนไชในโพรงปาก ปลายลิ้นกระดกลากเลียบนเพดานปากสาวอย่างหยอกเย้า การสัมผัสภายในปากที่หนักเน้นซาบซ่านทำให้ไอติมสะท้านในกายจนแทบควบคุมตัวเองไม่ไหว กลีบปากอุ่นของเจทดูดดึงเรียวลิ้นของไอติมอย่างเร่าร้อน"อื้อ" เสียงแค้นในลำคอบ่งบอกว่าไอติมนั้นแทบหมดแรงลมหายใจ เจทบดจูบอย่างร้อนแรงไม่มีเว้นช่องว่างให้อากาศได้เข้าไปจ๊วบ จู๊บ เสียงบดจูบดังขับขาน ร่างกายทั้งสองที่ไม่อาจทัดทานในความรู้สึกภายในได้ไหว มือหนาค่อย ๆ จัดการกับเสื้อผ้าของไอติมจนหลุดร่วงกองลงพื้นอย่างไม่คิดไยดีเจทจับขาเรียวให้เกี่ยวเอวสอบก่อนจะโอบอุ้มคนตัวเล็กแแล้วพาเดินไปยังเตียงนอนแสนนุ่มนิ่มในขณะที่ปากก็ยังคงทำงานไม่หยุดยั้ง บดจูบดูดดึ
สามี(2)-45วันที่แสนจะดีใจ วันที่เฝ้ารอคอยด้วยใจมุ่งมั่น คนที่สถานะเลื่อนจากเพื่อนเป็นคนรัก หัวใจที่ปักหลักไม่เปลี่ยนแปลง คืบคลานผันกลายมาเป็นคู่หมั้นคู่ชีวิตในเวลานี้ งานแต่งงานหลังจากที่คนทั้งสองจบการศึกษา หน้าที่การงานที่สานต่อจากครอบครัวจนอยู่ตัวไม่มีสิ่งใดต้องเป็นกังวลอีกต่อไป ศัตรูที่เคยบาดหมางก็เลือนหายตั้งแต่ที่มีเรื่องกันในหลายปีที่ผ่านมา ทุกอย่างดำเนินชีวิตไปด้วยความราบรื่นและสุขใจตราบเท่าทุกวันนี้"วันนี้ลูกสาวของพ่อสวยที่สุด" พ่อเจเข้ามาทักทายลูกสาวคนโตด้วยใจรัก รอยยิ้มที่แสนเปี่ยมล้นในหัวใจ เผยต่อสายตาของลูกสาวจนเธอนั้นน้ำตาคลอ ใบหน้าของพ่อที่เป็นความสุขของเธอ"ไอติมรักคุณพ่อนะคะ...ขอบคุณที่ไม่ทอดทิ้ง และเลี้ยงไอติมมาจนถึงทุกวันนี้" ไอติมโอบกอดผู้เป็นพ่อด้วยความซาบซึ้งใจ ก่อนจะละตัวออกห่าง ค่อย ๆ นั่งลงกับพื้นก้มกราบเท้าผู้เป็นพ่อด้วยใจกตัญญูรู้ซึ้งในพระคุณ"พ่อรักหนู หนูคือดวงใจและเป็นแก้วตาของพ่อ" พ่อเจนั่งยอง ๆ ลง และค่อย ๆ ประคองลูกสาวที่อยู่ในชุดไทยสีทองส่องประกายระยิบระยับให้ยืนเต็มความสูง เธอดูสวยงามดุจนางในวรรณคดีมือหนาของผู้เป็นพ่อไล้เช็ดน้ำตาที่อาบชื้นใบหน้าลูก
ห้องทำงานของผู้เป็นสามียังเปิดสว่างจ้าแม้ว่าตอนนี้จะเริ่มดึกแล้ว เธอมองไปยังห้องทำงานของสามีก่อนจะเดินเข้าห้องตัวเอง หวังจัดการชำระร่างกายที่เหนื่อยล้ามาทั้งวัน ความตั้งใจหลังจัดการตัวเองเสร็จ คิดจะเข้าไปหาผู้เป็นสามีด้วยความห่วงใยที่มี พร้อมกับแก้วนมอุ่น ๆ ในมือ“งานใกล้เสร็จยัง” ผู้เป็นภรรยาเอ่ยถามพร้อมกับร่างกายที่เย้ายวนเดินนวยนาดเข้าไปใกล้ชายผู้เป็นสามี“ใกล้แล้วครับ ลูกหลับแล้วเหรอ?” เขาเงยหน้ามอง แล้วจึงเอ่ยถามพร้อมกับร่างของภรรยาให้นั่งลงบนตักแกร่ง วงแขนโอบรอบเอวของเธอ และซบแก้มลงต้นแขนเล็กนั้นอย่างรักใคร่“หลับแล้วค่ะ สกีอยากให้เจทเล่านิทานให้ฟัง แต่บอกแล้วว่าเจททำงานไอติมเล่าให้ฟังแป๊บเดียวก็หลับปุ๋ยเลย...อ่ะ! ดื่มนมอุ่น ๆ หน่อยนะไอติมชงมาให้” เธอยื่นแก้วนมในมือไปตรงหน้าสามีพร้อมกับยิ้มอ่อน“ไม่อยากกินมันไม่อร่อย”“ก็นมที่เจทดื่มประจำนะ รสชาติก็เหมือนเดิมจะไม่อร่อยได้ยังไงคะ?”“งั้นไอติมก็กินเองสิ ชิมดูว่ามันอร่อยจริงหรือเปล่า”เธอบอกตามจริง พร้อมกับสิ่งที่ทำให้สงสัยต่อคำปฏิเสธที่สามีเปรยออกมา แต่หารู้ไม่ว่ามันเป็นความกะล่อนของสามีเธอที่แอบแฝงเธอยกแก้วนมขึ้นมาดื่มอย่างว่าง่
สี่ปีผ่านไปเด็กน้อยเติบใหญ่ไปตามกาลเวลา จนตอนนี้อยู่ในวัยที่กำลังหัดพูดและช่างสงสัย เป็นหลานชายของบ้านที่ทุกคนนั้นรักและเอ็นดูที่สุด เพราะความน่ารักของเด็กชาย ใบหน้าของลูกเสี้ยวที่มีเคล้าของผู้เป็นพ่อประปราย ทำให้เด็กชายนั้นดูน่ารักน่าเอ็นดูตลอดเวลาสี่ปีที่ผ่านมามีเรื่องวุ่นวายให้เธอและครอบครัวนั้นปวดหัว เพราะความมักมากของอาไฟที่ทำให้ต้องมีการดัดนิสัยกันมากมาย กว่าจะมามีครอบครัวที่สมบูรณ์ก็กินเวลาไปนานหลายปี แต่สุดท้ายพ่อเสือก็สิ้นลายกลับกลายมาเป็นลูกแมวที่แสนเชื่อง และยังมีเมียเด็กรุ่นราวคราวเดียวกับกลาน แถมยังมีเด็กหญิงอันดาผู้น่ารักสดใส เธอเป็นที่รักของทุก ๆ คน ส่วนนิสัยของเธอนั้นไม่ต้องพูดถึง เธอได้พ่อมาเต็ม ๆ แต่เหมือนจะมากกว่าเสียด้วยซ้ำ แต่ก็มีบางมุมที่อ่อนไหวง่ายดั่งกับผู้เป็นแม่ และเธอก็มักจะมาเที่ยวเล่นกับเด็กชายสกีเป็นประจำ"มัมสกีอยากหาน้าปัง" เด็กชายตัวน้อยเอ่ยบอกผู้เป็นแม่ ที่ตอนนี้อยู่ในครัวเตรียมมื้อเช้า เขามักเป็นแบบนี้ประจำเพราะติดคุณน้าขนมปังที่สดใส ผูกพันจนใกล้ชิดกันมาแต่ไหนแต่ไร"วันนี้น้าปังไม่อยู่ครับคนเก่ง" คุณแม่ไอติมย่อตัวลงต่ำ แล้วลูบหัวลูกชายตัวน้อยอย่างอ่
การแต่งงานที่เป็นสัญลักษณ์ยืนยันต่อการใช้ชีวิตคู่ มันคือการเริ่มต้นของชีวิตที่ต้องจับมือเดินเคียงข้างกันไป ไม่ว่าจะพบเจออุปสรรคอะไรจะต้องฝ่าฟันมันไปให้ได้ และจะต้องเชื่อใจซึ่งกันและกัน ความรักของคนทั้งสองที่มีให้กันยังคงมั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง จนบัดนี้ล่วงเลยเวลามานานเป็นปี และพวกเขากำลังจะมีทายาทตัวน้อยหลังจากที่พยายามผลิตจนตอนนี้สำเร็จผลแล้ว"เจทคะ...เสร็จหรือยัง" ไอติมเรียกขานผู้เป็นสามี เพราะว่าวันนี้มีนัดฉลองวันเกิดให้กับน้องสาวที่ก้าวขึ้นสู่อายุสิบแปดปีบริบูรณ์"เสร็จแล้วครับ" เจทที่อยู่ในชุดธรรมดา แค่เสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ก็ทำให้เขาดูดีได้ เพราะรูปลักษณ์ภายนอกดีเป็นทุนเดิม"หล่อจังเลยค่ะคุณพ่อเจท" ไอติมเอ่ยแซวผู้เป็นสามีพร้อมฉีกยิ้มสวยส่งให้"วันนี้คุณแม่ก็สวย" ต่างคนก็ต่างชมกันไปมาตามประสาคนที่รักกันเสมอต้นเสมอปลาย“จุ๊บ!! สามีน่ารักจริง ๆ เลย” ไอติมเขย่งเท้าแล้วแตะจูบริมฝีปากของผู้เป็นสามี กิริยาเช่นนี้พวกเขามักแสดงออกเป็นประจำจนคุ้นชิน“เนี้ยก็ชอบทำให้รักตลอดเลย เจทจะไปไหนได้ล่ะครับ หื้ม” ผู้เป็นสามีแนบหน้าผากชิดกับหญิงสาว ปลายจมูกถูกเสียดสีไปมา เป็นความน่ารักของคนทั้งสองที่ยัง
"เจท วันนี้น้ำอุ่นเข้ามาสมัครงานแล้วนะ ไอติมดีใจมากเลยจะได้มีคนช่วยงานอาไฟแล้ อาไฟจะได้ไม่เหนื่อย"หญิงสาวที่นั่งทานข้าวอยู่ในร้านอาหารกับสามีเอ่ยขึ้นด้วยท่าทางที่แสนจะดีใจกับการมาร่วมงานของรุ่นน้องที่เธอเอ็นดู แม้จะไม่ค่อยได้เอ่ยถึง แต่ทั้งสองก็ผูกพันกัน"เหรอ ดีแล้วล่ะ" เจทว่าขึ้นพร้อมกับตักข้าวเข้าปาก"เจทว่าน้ำอุ่นจะทำงานกับอาไฟไหวไหมอ่ะ ไอติมกลัวว่าน้ำอุ่นจะทนไม่ไหว เพราะอาไฟค่อนข้างจริงจังกับงานมาก ๆ""น่าจะได้นะ จากที่เห็นน้องน่าจะมีความอดทนดีเลยทีเดียว" ความกังวลใจทำให้เธอต้องเอ่ยถามผู้เป็นสามีออกไป แล้วเจทก็ให้คำตอบในทันที"ไอติมก็ว่าแบบนั้นแหละ...แล้วกับข้าวอร่อยไหมคะ?"เธอตอบอย่างเห็นตาม แล้วจึงเอ่ยถามถึงอาหารตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม"อร่อย แต่ไม่สู้กินเมีย เอ๊ย!! กินกับเมียที่บ้าน"“เจท!! พูดบ้าอะไรเนี้ย อายคนอื่นบ้างไหม?”เจทพูดแซวพร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ไอติมเธอต่อว่าเขา พร้อมกับฟาดมือลงแขนแกร่งนั้นอย่างลงโทษ คำพูดแซวมันทำให้เธอเขินอาย เพราะอยู่ในที่สาธารณะ มองซ้ายมองขวาเพื่อดูว่ามีใครได้ยินหรือไม่ แล้วจึงจ้องตาเขม็งข่มขู่ผู้เป็นสามี“ล้อเล่นครับ ไม่เอาไม่ทำหน้าแบบนั้น หน้า
การฮันนีมูนจบสิ้นในระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ของหลายเดือนที่ผ่านมา กลับเข้าสู่การทำงานสานต่อธุรกิจของครอบครัวอย่างเต็มตัว ทั้งเจทและไอติมได้เข้ามาทำงานกับผู้เป็นพ่อจนชำนาญ ตามความถนัดของแต่ละคน และพ่อเจก็ฝึกฝนจนคนทั้งคู่นั้นเก่งพอที่จะทำงานได้โดยไม่ต้องมีพ่อเจคอยแนะนำแบบแต่ก่อนLineLineLineเสียงของการแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันสีเขียวดังขึ้น เรียกความสนใจของคนที่กำลังนั่งก้มหน้าก้มตาทำงานที่กองท่วมหัว“น้ำอุ่น”เมื่อเห็นว่าเป็นใครที่เฝ้ารอตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่ที่ได้พบเจอกันในต่างแดนเธอก็เฝ้ารอด้วยความหวังจากรุ่นน้องที่เอ็นดู เห็นดังนั้นจึงรีบตอบกลับทันทีไอติม : “ดีใจที่น้ำอุ่นทักมา สบายดีไหม?”ไอติมพิมพ์ถามกลับบ้าน พร้อมกับรอยยิ้มของความหวังและห่วงใยรุ่นน้องที่ทักมาน้ำอุ่น : “สบายดีค่ะ พี่ไอติมสบายดีเหมือนกันใช่ไหม?”ไอติม : “สบายดีมาก ๆ เลยจ้า การทักมาครั้งนี้พี่จะได้รับข่าวดีหรือเปล่าน้อ”ทั้งสองคนพิมพ์ตอบโต้กันไปมา งานที่คั่งค้างของไอติมถูกเมินไปชั่วครู่ เมื่อเธอมีสิ่งที่สนใจมากกว่าน้ำอุ่น : “ยังว่างให้หนูทำงานด้วยไหมคะ?”ไอติม : “ดีใจจัง พี่รอเรามานานแล้ว ยังว่างอยู่หน้าที่เด
เมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการ ทั้งคู่จึงเดินออกมาเพื่อมุ่งหน้ากลับสู่ที่พัก การมาเที่ยวพักผ่อนทำให้กระชับความสัมพันธ์ของคนทั้งสองให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม พวกเขาเธอเรียบไปตามทางเดินที่มีผู้คนพลุกพล่านมากมาย แสงไฟในยามราตรีดูสวยงามตระกานตา เดินมาเรื่อย ๆ จนเกือบจะถึงที่พักพลางหยอกล้อพูดคุยกันอย่างสนุกสนานตามประสาปึก!“อ๊ะ!!”“ขอโทษค่ะ”เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้นเป็นภาษาอังกฤษและก้มหัวอย่าง เมื่อเธอนั้นเดินมาชนกับหญิงสาวที่เดินเกาะแขนของผู้เป็นสามี“น้ำอุ่น”“พี่ไอติม บังเอิญจังเลยค่ะ ดีใจจัง”“นี่พี่เจทค่ะ สามีของพี่...เจทนี่น้ำอุ่นค่ะเป็นรุ่นน้องของไอติม เจทจำได้ไหม ที่ไอติมเคยเล่าให้ฟังว่าน้องน่ารักมาก”“อ่อ จำได้ ๆ สวัสดีครับ”“สวัสดีค่ะพี่เจท”ไอติมทักท้วงทันทีเมื่อเงยหน้ามองแล้วพบเจอกับคนรู้จัก ทั้งคู่มีอาการตกใจไม่ต่างกันกับการพบเจอในต่างแดน ไอติมรีบแนะนำสามีให้รู้จักกับรุ่นน้อง แม้จะเรียนอยู่ที่เดียวกันแต่เจทผู้ที่ไม่ค่อยสนใจใคร นอกจากผู้หญิงที่ชื่อไอติมเพียงคนเดียว ทั้งสองคนทักทายกันด้วยรอยยิ้มอย่างเป็นมิตรด้วยสีหน้าระรื่น“แล้วน้ำอุ่นมาเที่ยวเหรอ...พอดีพี่กับเจทมาฮันนีมูล
เวลาเลยผ่านไปเกือบสองชั่วโมง ชายหนุ่มที่รู้สึกตัวก่อนนอนมองหน้าหญิงสาวที่หลับสนิทด้วยรอยยิ้ม บ้างก็หอมแก้ม บ้างก็จูบปากของเธอ อยากจะปลุกเธอด้วยเสียงแต่ก็ไม่อยากจะทำ เพราะเหมือนเธอนั้นจะต้องการการพักผ่อนที่เพียงพอ“อื้อ เจทอย่ากวนสิ”“ก็นอนไปสิ”เธอพูดบอกด้วยน้ำเสียงงัวเงีย และพลิกตัวนอนตะแคงหันหลังให้เขา แต่ก็ไม่วายเขายังตามมาแนบชิดและวอแวกับร่างกายของเธออยู่ร่ำไป“ก็เจทกวน ไอติมนอนไม่ได้”“งั้นก็ตื่น เราจะได้ออกไปหาอะไรกินกัน”เธอชักสีหน้าหงุดหงิดใส่เขา หันจ้องหน้าตาเขม็งอย่างนึกรำคาญ แต่ก็ไม่อยากพูดคำนี้ออกไป เพราะกลัวจะผิดใจกันจนเกิดการทะเลาะและน้อยใจ จึงเลือกที่จะเลี่ยงต่อคำพูดที่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่ดี“งื้อ แต่ไอติมยังง่วงอยู่เลย”“เดี๋ยวกินข้าวก่อนแล้วค่อยมานอนต่อ”หญิงสาวทำสีหน้าง้ำงอ เมื่อการพักผ่อนที่เธอต้องการนั้นถูกเขารบกวน จนต้องยอมตื่นแต่โดยดี ชายผู้เป็นสามีบอกกล่าวและระดมจูบปากเธออย่างหยอกเย้าแสนรัก“ห้ามกวนอีกนะ” เธอชี้หน้าข่มขู่“อ๊ะ โอเค ๆ ไม่กวนคืนนี้คืนนึงก็ได้ เพราะถือว่าวันนี้เจทได้กินไอติมแล้ว”“ชิ! ไปแต่งตัวดีกว่า” เธอสะบัดเสียงใส่ ก่อนจะลงจากเตียงด้วยร่างกายที
ทุกอย่างถูกเอื้ออำนวยต่อการตอบสนอง เสื้อผ้าที่อยู่บนตัวถูกจัดการออกจากตัวจนหลุดร่วงด้วยฝีมือของชายหนุ่ม ความงามที่อยู่ตรงหน้ามันทำให้เขายิ้มกริ่ม จับช้อนร่างกายเสลาให้ลุกแล้วนั่งพิงกับหัวเตียงนอน ใช้หมอนรองหลังให้แก่เธอ“??” การกระทำนี้มันทำให้เธอนั้นเกิดความงุนงง“อะไรครับที่รัก” เขาเอ่ยปากถาม เมื่อเห็นสีหน้าของเธอขมวดคิ้วแทบชนกัน“อะไร?” เธอเอ่ยถามด้วยความสงสัย เมื่อเขานั้นจับสองขาของเธอให้ตั้งฉาก แล้วแยกออกสุดความกว้าง“อยากเห็นภาพสวย ๆ ที่เมียรักช่วยตัวเองบ้าง” เขาพูดออกมาอย่างไม่มีความรู้สึกสะทกสะท้านใด ๆ“บ้า! ไม่เอาหรอกไอติมไม่เคยทำ”แต่สิ่งที่เธอได้ยินนั้นทำเอาตกใจ ดวงตาเบิกกว้าง ไม่คิดว่าสามีของเธอจะคิดทำอะไรแบบนี้ จนเธอนั้นต้องรีบหุบขาแนบชิดเพราะเขินอาย“หึ”“เจท!”เขายกยิ้มมุมปากร้ายกาจ ก่อนจะประชิดคาบคร่อมเอวบาง แล้วคุกเข่าต่อหน้าเธอ ทำให้สิ่งที่ยิ่งใหญ่ประจันต่อสายตา กลิ่นของราคะกระทบเข้ากับจมูกของหญิงสาว มันทำให้เธอนั้นตกใจต่อการกระทำที่แปลกใหม่นี้ของผู้เป็นสามี“เปลี่ยนบ้างอะไรบ้าง กลัวเมียเบื่อแล้วไปหาผัวใหม่” เขาโน้มตัวลงต่ำแล้วกระซิบข้างหูเธอเบา ๆ“อื้อ”แล้วไม่นานกล
“ชอบไหม?”เสียงนุ่มละมุนเอ่ยถาม เมื่อสายตาของทั้งคู่ยืนมองบรรยากาศโดยรอบที่พักที่ปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวสะอาดตา ชายหนุ่มยืนกอดภรรยาสาวจากด้านหลัง วางคางลงไหล่ของเธอ และบางจังหวะก็หอมดอมดมตามผิวคอผิวแก้มอย่างที่เคยทำ“ชอบ มันสวยมาก ๆ เลย ไอติมอยากมาที่นี่นานแล้วแต่ว่าก็ไม่มีโอกาสสักที”มือเรียวของเธอลูบแก้มสากแผ่วเบา หันเอียงมาส่งยิ้ม ก่อนจะแตะจูบปากเขาแสดงความรักและแทนคำขอบคุณ“ทำไมไม่บอกเจทล่ะครับ แค่ไอติมพูดเจทก็พร้อมจะพามานะ” เขายิ้มให้และพูดออกมาชิดหูเธอ“แต่ว่าตอนนั้นเราแค่เพื่อนกันไง ไอติมไม่กล้ารบกวนเจทหรอก” เธอออกไปตามสิ่งที่รู้สึกจริงในอดีตที่ผ่านมา“ต่อจากนี้ ถ้าไอติมมีอะไรที่ต้องการให้บอก ไม่ต้องเกรงใจเจทหรอกนะ เพราะเจทจะทำหน้าที่สามีให้ดีที่สุด อยากไปไหนจะพาไปให้หมดเลยดีไหม? รักติมนะ”คำพูดที่เธอเปรยออกมา สิ่งที่ได้ยินมันทำให้เขานั้นกระชับกอดเธอแน่นขึ้น กอดให้เธอได้รับรู้ถึงความรู้สึกที่เขามีให้ว่ามันเปี่ยมล้นไปทั้งใจที่เขามี“รวยว่างั้น?” หญิงสาวเธอเอ่ยแซว“จะว่าอย่างงั้นก็ได้อะนะ แต่จะว่าไปก็ไม่ถึงรวยหรอก ถ้าบอกว่ามีกินมีใช้ก็น่าจะพอมั้ง”เขาพูดขึ้นอย่างถ่อมตน แล้วหอมลงแก้