ห้องทำงานของผู้เป็นสามียังเปิดสว่างจ้าแม้ว่าตอนนี้จะเริ่มดึกแล้ว เธอมองไปยังห้องทำงานของสามีก่อนจะเดินเข้าห้องตัวเอง หวังจัดการชำระร่างกายที่เหนื่อยล้ามาทั้งวัน ความตั้งใจหลังจัดการตัวเองเสร็จ คิดจะเข้าไปหาผู้เป็นสามีด้วยความห่วงใยที่มี พร้อมกับแก้วนมอุ่น ๆ ในมือ“งานใกล้เสร็จยัง” ผู้เป็นภรรยาเอ่ยถามพร้อมกับร่างกายที่เย้ายวนเดินนวยนาดเข้าไปใกล้ชายผู้เป็นสามี“ใกล้แล้วครับ ลูกหลับแล้วเหรอ?” เขาเงยหน้ามอง แล้วจึงเอ่ยถามพร้อมกับร่างของภรรยาให้นั่งลงบนตักแกร่ง วงแขนโอบรอบเอวของเธอ และซบแก้มลงต้นแขนเล็กนั้นอย่างรักใคร่“หลับแล้วค่ะ สกีอยากให้เจทเล่านิทานให้ฟัง แต่บอกแล้วว่าเจททำงานไอติมเล่าให้ฟังแป๊บเดียวก็หลับปุ๋ยเลย...อ่ะ! ดื่มนมอุ่น ๆ หน่อยนะไอติมชงมาให้” เธอยื่นแก้วนมในมือไปตรงหน้าสามีพร้อมกับยิ้มอ่อน“ไม่อยากกินมันไม่อร่อย”“ก็นมที่เจทดื่มประจำนะ รสชาติก็เหมือนเดิมจะไม่อร่อยได้ยังไงคะ?”“งั้นไอติมก็กินเองสิ ชิมดูว่ามันอร่อยจริงหรือเปล่า”เธอบอกตามจริง พร้อมกับสิ่งที่ทำให้สงสัยต่อคำปฏิเสธที่สามีเปรยออกมา แต่หารู้ไม่ว่ามันเป็นความกะล่อนของสามีเธอที่แอบแฝงเธอยกแก้วนมขึ้นมาดื่มอย่างว่าง่
สามี (2) - 1"ไอติม...วันนี้ไปดูหนังเป็นเพื่อนหน่อยสิ มีหนังเข้าใหม่เจทอยากไปแต่ไม่มีเพื่อน" ชายหนุ่มหน้าตาลูกครึ่งเอ่ยชวนเพื่อนสาวคนสนิท เมื่อทั้งสองนั้นเดินออกมาจากตัวอาคารเรียนคณะบริหาร"ดูหนังอีกแล้วเหรอ...ไอติมไปดูทีไรก็หลับอ่ะ" หญิงสาวที่สูงราวอกของชายหนุ่มเอื้อนเอ่ยพลางมองหน้าของเขา"น๊านะ...เจทบอกให้ไปเป็นเพื่อนไง ไม่อยากดูไปแล้วหลับก็ไม่ได้ว่าสักหน่อย นะติมนะ" ชายหนุ่มหยุดเดินแล้วพูดอย่างออดอ้อน การไปดูหนังที่เจทนั้นชอบเพราะได้อยู่ใกล้ชิดกับหญิงสาว มันทำให้เขานั้นสุขใจและหลับฝันดีตลอดคืน".......ตลอดเลยเลี้ยงบิงซูด้วย" ไอติมผู้ที่ไม่ค่อยชอบใจกับการดูหนัง แต่หากเพื่อนคนนี้เอ่ยขอเธอก็ไม่เคยขัดใจ เพราะตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่ เธอก็มีเพียงเจทเท่านั้นเป็นเพื่อนที่คบหาอย่างสนิทใจ"เลี้ยงได้สบายอยู่แล้ว ไอติมจะกินกี่แก้วกี่ถ้วย กินให้อ้วนไปเลยยังได้" เจทที่ไม่เคยด่าทอหรือเสียงดังในการพูดจากับเพื่อนสนิทอย่างไอติม แม้เขานั้นจะโมโหเพียงใดแต่ไม่เคยที่จะตวาดเสียงใส่สักครั้งไม่ว่าจะตอนเด็กหรือตอนโต"จริงนะ...ห้ามหลอกไอติมไม่งั้นจะไม่ไปดูหนังด้วย ชวนยังไงก็จะไม่ไปเอาช้างมาลากไอติมก็จะไม่ไปเด็
สามี(2)-2"เจท...หอมว่าจะชวนเจทไปดูหนัง เห็นว่าเจทชอบเลยชวน" น้ำหอมเพื่อนห้องเดียวกันสมัยอนุบาล แยกย้ายจากกันไปเรียนต่างที่นานหลายปี แต่พอเข้ามหาวิทยาลัยกลับได้มาพบเจอกันอีกครั้งอย่างบังเอิญ"ขอโทษนะน้ำหอม พอดีเรามีนัดแล้ว" ชายหนุ่มพูดขึ้นด้วยความลนลาน สายตามองตามเพื่อนสนิทที่เดินไม่เหลียวหลัง ตรงไปยังรถยนต์ที่จอดอยู่"อย่างนั้นเหรอ...นัดกับไอติมเหรอ?" น้ำหอมเอ่ยถามพร้อมยิ้มอย่างเป็นมิตรหว่านเสน่ห์ มือไม้เกาะเกี่ยวลำแขนแกร่งอย่างถือวิสาสะ"ใช่เรานัดไอติมไว้เเล้ว...ไปก่อนนะ" เจทพูดจบพร้อมแกะมือของน้ำหอมออกเร็วไวแล้วรีบวิ่งตามไอติมไปติด ๆ สีหน้าของเธอก่อนจากมา ใบหน้าที่นิ่งขรึม สายตากร้าวดุดันปนเศร้าเมื่อเห็นน้ำหอมเดินเข้ามา...ทีท่าเช่นนี้เจทไม่ค่อยชอบใจ เขาชอบไอติมผู้ร่าเริงสดใสยิ้มเก่งในแบบที่ผ่านมา"เจท! เจท! เดี๋ยวก่อนเจท!...อีไอติม!" เสียงแหลมแผดดังตามหลัง กำมือแน่นอย่างเจ็บแค้นที่ถูกชายหนุ่มที่หมายตาปฏิเสธ แม้น้ำเสียงจะดังจนเขาได้ยินชัด แต่ก็ไม่คิดจะหันกลับไปมอง สองขารีบสับวิ่งเร็วไว อยากถึงตัวเพื่อนเกลอที่หน้าบึ้งเง้างอน...ชายหนุ่มรับรู้อย่างลึกซึ้งว่าไอติมไม่ชอบหน้าน้ำหอม เหตุก
สามี(2) - 3"เจทจะขอโทษทำไม?...เจทไม่ได้ทำอะไรผิด" หญิงสาวหันหน้าไปเอ่ยถามคนที่กำลังบังคับพวงมาลัยรถ"ก็อยากขอโทษ...ถ้าพูดขอโทษแล้วไอติมหายโกรธ เจทยอม..." ชายหนุ่มลูกครึ่งเอ่ยบอกพลางมือบังคับพวงมาลัยไปด้วย"ไอติมไม่ได้โกรธ...แค่ไม่ชอบน้ำหอม เห็นหน้าเธอแล้วไอติมอารมณ์เสีย" เธอให้เหตุผลในแบบที่คิด อารมณ์ที่เป็นแสดงออกมาทางแววตาชัดเจน...เจทที่มองหน้าหญิงสาวเริ่มใจชื้น แต่ก็ยังไม่เต็มร้อย เมื่อใบหน้าสวยนั้นยังไร้รอยยิ้ม"เจทอยากให้ไอติมยิ้ม...เจทไม่ชอบเลยเวลาไอติมหน้าบึ้ง" ชายหนุ่มพูดอย่างใจเย็นแต่น้ำเสียงที่เอื้อนเอ่ยออกมาบ่งบอกว่าเขาแคร์เธอที่สุด...พื้นที่ของหัวใจของเขาจะไม่มีใครมาทับซ้อนแทนที่เธอได้"อยากให้ไอติมยิ้มเหรอ?" หญิงสาวที่นั่งเคียงข้างเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าและน้ำเสียงเรียบนิ่ง"อืม" เจทเอ่ยสั้น ๆ พร้อมกับจอดรถสนิท"ชาไข่มุกแก้วหนึ่ง" หญิงสาวที่เห็นสีหน้าเพื่อนห่อเหี่ยวไม่สดใส เธออยากให้เขาเป็นเพื่อนที่ยิ้มร่า ไม่อยากให้เขาหน้าเศร้าเช่นกัน"แค่นั้นเหรอ?" ชายหนุ่มเอ่ยถามออกมาอย่างฉงนใจ การเรียกร้องที่แสนจะเล็กน้อยเพียงนี้แลกกับรอยยิ้มสดใส ทำไมเขาจะยอมไม่ได้ ในเมื่อยอมให้เธอทุกอย่า
สามี (2) - 4...การนอนหลับใหลในโรงหนังที่มีแสงไฟจากหน้าจอสาดส่องกระทบใบหน้าสาว ใบหน้าขาวผ่องพร้อมกับดวงตากลมโตปิดสนิทหนุนหัวไหล่แกร่ง ความใกล้ชิดของใบหน้าหญิงสาวที่เจทนั้นแอบหลงรักมานาน เขามองเธอด้วยรอยยิ้มและแววตาของความสุขล้นใจ แค่เพียงมีเธอเคียงใกล้เขาก็เปี่ยมล้นในหัวใจมากแล้ว...สายตาคมจ้องมองใบหน้าสาวพร้อมกับค่อย ๆ เคลื่อนมืออย่างเชื่องช้าเรียวนิ้วหนาแตะลงแผ่วเบาลงกลีบปากสวยอมชมพู แม้อยู่ในแสงไฟสลัวเขาก็มองออก ก่อนจะขยับเคลื่อนย้ายไปยังสัดส่วนของใบหน้าสาวที่นอนหลับสนิท แม้จะเสียงดังของหนังที่กำลังฉายแต่หญิงสาวเพื่อนเกลอไม่วายแม้จะลืมตาตื่น...ความในใจที่ชายหนุ่มนั้นมีอย่างลึกซึ้ง ใบหน้าสวยที่แน่นิ่งทำให้เขานั้นใจสั่นไหว ใบหน้าคมคายขยับเข้าไปใกล้ก่อนจะใช้ปลายจมูกสัมผัสแผ่วเบาสูดดมกลิ่นหอมตรงหน้าผากนูนเข้าสู่ปอด หลับตาพริ้มรับสัมผัสนั้นอย่างลึกซึ้งให้ตราตรึงแกหัวใจของเขา("เจทรักไอติมนะ") เสียงพร่ำในใจเอื้อนเอ่ยเมื่อละปลายจมูกจากเนื้อผิวสาวในระยะประชิด จ้องมองคนที่หลับสนิทด้วยแววตาซึ้งด้วยรัก หันหน้ามองดูหนังที่ฉายต่อด้วยรอยยิ้ม แค่ได้ใกล้ชิดเพียงเสี้ยวเวลานาทีก็ทำให้เขานั้นมีความส
สามี (2) - 5"เจท~~ เดี๋ยว~~" ไอติมเอ่ยทักพร้อมจับลำแขนแกร่งรั้งไว้ เมื่อหนังฉายจบแล้วทั้งสองเดินออกมา แต่ว่าเหมือนเจทนั้นเดินมุ่งไปยังลานจอดรถ"อะไรเหรอ?" เจทหันหน้ามายิ้มแล้วพูดเสียงเรียบ"ลืมอะไรหรือเปล่า" หญิงสาวเอ่ยอย่างอย่างต้องการย้ำเตือนความจำ คำสัญญาที่ให้ไว้เหมือนชายหนุ่มนั้นจะลืม"เปล่านะ ... ก่อนออกจากโรงหนังเจทเอามาหมดแล้ว ไม่ได้ลืมอะไร" เจทตอบหน้าใสซื่อ ที่แสดงเสแสร้งตอนนี้คืออยากกลั่นแกล้งเพื่อนเกลอเท่านั้น"เจทอ่ะ" ไอติมทำเสียงนอย ใบหน้าบึ้งตึงดั่งคนงอนเมื่อคำสัญญาก่อนมาดูหนังไม่จีรังในความคาดหวังของเธอ"มีอะไรหรือเปล่า หรือว่าไอติมหิวข้าว" เจทยังคงถามต่อ สายตาที่มองมาตัดพ้อและเศร้าสลด เจทที่เห็นสีหน้าของไอติมที่บึ้งตึงปากยู่แทบชนจมูกอย่างที่เธอทำในวัยเด็ก ทำเจทนั้นอยากปล่อยเสียงหัวเราะลั่นกับการที่กลั่นแกล้งเธอ"ไม่หิว! ไม่อะไรทั้งนั้น!....กลับบ้าน! เชอะ!" ไอติมผู้เง้างอนพูดกระแทกเสียงแล้วเดินกระทืบเท้าออกมาอย่างไม่รีรอ ไม่วายสะบัดหน้าค้อนสายตาใส่เจททิ้งท้าย"หึ หึ~~" เจทที่มองตามหลังคนที่เดินหนีต้องหลุดขำกับคำพูดและท่าทางของเพื่อนหญิง...เขาไม่ได้ลืมสิ่งแลกเปลี่ยนแต่เ
สามี (2) - 6เขียน : พลอยแก้ว"สวัสดีค่ะพี่ๆ เรียกไอติมมามีอะไรหรือเปล่าคะ?" ไอติมที่ถูกรุ่นพี่ในคณะเรียกพบ เธอเอ่ยสวัสดีอย่างนอบน้อมและยกมือไหว้อย่างให้ความเคารพ ยิงคำถามกับการเรียกหานี้ต่อรุ่นพี่ทันที"อ่าไอติมมาพอดีเลย นั่ง ๆ พี่มีอะไรจะบอกเรา""มีอะไรหรือคะพี่หวาน" ไอติมนั่งลงเก้าอี้ที่รุ่นพี่ชื่อหวานเชื้อเชิญและเอ่ยถามย้ำอีกครั้งอย่างสงสัย"คือทางมหาวิทยาลัยจะจัดกิจกรรมแล้วมันมีการแสดงละครเวที ทางอธิการบดีให้แต่ละคณะส่งตัวแทนร่วมแสดง พวกพี่เลยเห็นว่าบทนี้น้องไอติมเหมาะมาก ว่าไหมแทน?" รุ่นพี่ชื่อหวานบอกกล่าวถึงจุดประสงค์และหันไปถามความเห็นของเพื่อนอีกคนที่นั่งตรงข้ามไอติม"ห๊า ไอติมเนี้ยนะ...ไม่มั้งคะพี่หวาน พี่แทน ไอติมทำไม่เป็นหรอกค่ะ...สละสิทธิ์นะงานนี้" ไอติมรีบปฏิเสธส่ายหน้ารัวเร็ว เธอไม่ถนัดกับการแสดงอะไรทั้งสิ้น ทำไม่เป็นเลยด้วยซ้ำจะเอาปัญญาที่ไหนไปแสดงต่อหน้าคนมากมายให้ได้ดู"มันเรียนรู้กันได้นะน้องไอติม...เดี๋ยวมีคนมาสอนให้ พวกที่มั่นใจว่าไอติมทำได้แน่นอน" รุ่นพี่ชื่อแทนเอ่ยขึ้นอย่างมั่นใจ เพราะไอติมนั้นถูกเลือกด้วยใบหน้าที่เหมาะมากกับรูปลักษณ์ของตัวละครที่ได้อ่านบทแล้ว"
สามี (2) - 7"อุ๊ย!! เจท ไอติมตกใจหมดเลย...ขวัญเอ้ยขวัญมา" ไอติมที่เดินก้มหน้าก้มตาไม่ได้มองทาง ร้องตกใจมือทาบอกเมื่อเจทเดินมาดักหน้าตรงทางเดินที่ตรงไปยังลานจอดรถ"......." ไม่มีคำพูดใดออกมาจากปากชายหนุ่ม นอกจากสายตาคมที่จ้องมองนิ่งเรียบ"เจท!" หญิงสาวที่เริ่มมีสติกลับมา เรียกขานคนที่ยืนตรงหน้า"........" แต่เขายังคงนิ่งเหมือนเดิมไม่พูดไม่จา"เจท!!...เป็นอะไรหรือเปล่า" เมื่อไม่มีทีท่าขยับนอกจากดวงตาที่จ้องมอง ไอติมจึงสัมผัสลงแขนแกร่งนั้นให้เขารู้สึกตัว"ฮึ! ทำไมต้องเสียงดังด้วยล่ะไอติม" ชายหนุ่มที่ยืนเหม่อสติไม่อยู่กับตัว ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อหญิงสาวเพิ่มระดับเสียงในการเรียกขาน"ไอติมเรียกเจทนานแล้วนะ...เจทไม่สบายหรือเปล่า" หญิงสาวก้าวขาขยับเข้าไปใกล้ ใช้มืออังหน้าผากวัดอุณหภูมิ สายตามองหน้าชายหนุ่มที่ตัวสูงอย่างห่วงใย"เปล่า ๆ เจทสบายดี...แล้วนี่ไอติมจะกลับหรือยัง" เจทรีบดึงสติกลับมาแล้วเอ่ยถามทันที พร้อมกับจับข้อมือเล็กของไอติมก่อนจะปล่อยให้เป็นอิสระ"จะกลับแล้ว" หญิงสาวเอ่ยบอกให้เขารับรู้"งั้นเดี๋ยวเจทไปส่ง" หน้าที่ประจำที่เจทนั้นทำ การรับส่งหญิงสาวให้ถึงบ้านอย่างปลอดภัย ด้วยการฝาก
ห้องทำงานของผู้เป็นสามียังเปิดสว่างจ้าแม้ว่าตอนนี้จะเริ่มดึกแล้ว เธอมองไปยังห้องทำงานของสามีก่อนจะเดินเข้าห้องตัวเอง หวังจัดการชำระร่างกายที่เหนื่อยล้ามาทั้งวัน ความตั้งใจหลังจัดการตัวเองเสร็จ คิดจะเข้าไปหาผู้เป็นสามีด้วยความห่วงใยที่มี พร้อมกับแก้วนมอุ่น ๆ ในมือ“งานใกล้เสร็จยัง” ผู้เป็นภรรยาเอ่ยถามพร้อมกับร่างกายที่เย้ายวนเดินนวยนาดเข้าไปใกล้ชายผู้เป็นสามี“ใกล้แล้วครับ ลูกหลับแล้วเหรอ?” เขาเงยหน้ามอง แล้วจึงเอ่ยถามพร้อมกับร่างของภรรยาให้นั่งลงบนตักแกร่ง วงแขนโอบรอบเอวของเธอ และซบแก้มลงต้นแขนเล็กนั้นอย่างรักใคร่“หลับแล้วค่ะ สกีอยากให้เจทเล่านิทานให้ฟัง แต่บอกแล้วว่าเจททำงานไอติมเล่าให้ฟังแป๊บเดียวก็หลับปุ๋ยเลย...อ่ะ! ดื่มนมอุ่น ๆ หน่อยนะไอติมชงมาให้” เธอยื่นแก้วนมในมือไปตรงหน้าสามีพร้อมกับยิ้มอ่อน“ไม่อยากกินมันไม่อร่อย”“ก็นมที่เจทดื่มประจำนะ รสชาติก็เหมือนเดิมจะไม่อร่อยได้ยังไงคะ?”“งั้นไอติมก็กินเองสิ ชิมดูว่ามันอร่อยจริงหรือเปล่า”เธอบอกตามจริง พร้อมกับสิ่งที่ทำให้สงสัยต่อคำปฏิเสธที่สามีเปรยออกมา แต่หารู้ไม่ว่ามันเป็นความกะล่อนของสามีเธอที่แอบแฝงเธอยกแก้วนมขึ้นมาดื่มอย่างว่าง่
สี่ปีผ่านไปเด็กน้อยเติบใหญ่ไปตามกาลเวลา จนตอนนี้อยู่ในวัยที่กำลังหัดพูดและช่างสงสัย เป็นหลานชายของบ้านที่ทุกคนนั้นรักและเอ็นดูที่สุด เพราะความน่ารักของเด็กชาย ใบหน้าของลูกเสี้ยวที่มีเคล้าของผู้เป็นพ่อประปราย ทำให้เด็กชายนั้นดูน่ารักน่าเอ็นดูตลอดเวลาสี่ปีที่ผ่านมามีเรื่องวุ่นวายให้เธอและครอบครัวนั้นปวดหัว เพราะความมักมากของอาไฟที่ทำให้ต้องมีการดัดนิสัยกันมากมาย กว่าจะมามีครอบครัวที่สมบูรณ์ก็กินเวลาไปนานหลายปี แต่สุดท้ายพ่อเสือก็สิ้นลายกลับกลายมาเป็นลูกแมวที่แสนเชื่อง และยังมีเมียเด็กรุ่นราวคราวเดียวกับกลาน แถมยังมีเด็กหญิงอันดาผู้น่ารักสดใส เธอเป็นที่รักของทุก ๆ คน ส่วนนิสัยของเธอนั้นไม่ต้องพูดถึง เธอได้พ่อมาเต็ม ๆ แต่เหมือนจะมากกว่าเสียด้วยซ้ำ แต่ก็มีบางมุมที่อ่อนไหวง่ายดั่งกับผู้เป็นแม่ และเธอก็มักจะมาเที่ยวเล่นกับเด็กชายสกีเป็นประจำ"มัมสกีอยากหาน้าปัง" เด็กชายตัวน้อยเอ่ยบอกผู้เป็นแม่ ที่ตอนนี้อยู่ในครัวเตรียมมื้อเช้า เขามักเป็นแบบนี้ประจำเพราะติดคุณน้าขนมปังที่สดใส ผูกพันจนใกล้ชิดกันมาแต่ไหนแต่ไร"วันนี้น้าปังไม่อยู่ครับคนเก่ง" คุณแม่ไอติมย่อตัวลงต่ำ แล้วลูบหัวลูกชายตัวน้อยอย่างอ่
การแต่งงานที่เป็นสัญลักษณ์ยืนยันต่อการใช้ชีวิตคู่ มันคือการเริ่มต้นของชีวิตที่ต้องจับมือเดินเคียงข้างกันไป ไม่ว่าจะพบเจออุปสรรคอะไรจะต้องฝ่าฟันมันไปให้ได้ และจะต้องเชื่อใจซึ่งกันและกัน ความรักของคนทั้งสองที่มีให้กันยังคงมั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง จนบัดนี้ล่วงเลยเวลามานานเป็นปี และพวกเขากำลังจะมีทายาทตัวน้อยหลังจากที่พยายามผลิตจนตอนนี้สำเร็จผลแล้ว"เจทคะ...เสร็จหรือยัง" ไอติมเรียกขานผู้เป็นสามี เพราะว่าวันนี้มีนัดฉลองวันเกิดให้กับน้องสาวที่ก้าวขึ้นสู่อายุสิบแปดปีบริบูรณ์"เสร็จแล้วครับ" เจทที่อยู่ในชุดธรรมดา แค่เสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ก็ทำให้เขาดูดีได้ เพราะรูปลักษณ์ภายนอกดีเป็นทุนเดิม"หล่อจังเลยค่ะคุณพ่อเจท" ไอติมเอ่ยแซวผู้เป็นสามีพร้อมฉีกยิ้มสวยส่งให้"วันนี้คุณแม่ก็สวย" ต่างคนก็ต่างชมกันไปมาตามประสาคนที่รักกันเสมอต้นเสมอปลาย“จุ๊บ!! สามีน่ารักจริง ๆ เลย” ไอติมเขย่งเท้าแล้วแตะจูบริมฝีปากของผู้เป็นสามี กิริยาเช่นนี้พวกเขามักแสดงออกเป็นประจำจนคุ้นชิน“เนี้ยก็ชอบทำให้รักตลอดเลย เจทจะไปไหนได้ล่ะครับ หื้ม” ผู้เป็นสามีแนบหน้าผากชิดกับหญิงสาว ปลายจมูกถูกเสียดสีไปมา เป็นความน่ารักของคนทั้งสองที่ยัง
"เจท วันนี้น้ำอุ่นเข้ามาสมัครงานแล้วนะ ไอติมดีใจมากเลยจะได้มีคนช่วยงานอาไฟแล้ อาไฟจะได้ไม่เหนื่อย"หญิงสาวที่นั่งทานข้าวอยู่ในร้านอาหารกับสามีเอ่ยขึ้นด้วยท่าทางที่แสนจะดีใจกับการมาร่วมงานของรุ่นน้องที่เธอเอ็นดู แม้จะไม่ค่อยได้เอ่ยถึง แต่ทั้งสองก็ผูกพันกัน"เหรอ ดีแล้วล่ะ" เจทว่าขึ้นพร้อมกับตักข้าวเข้าปาก"เจทว่าน้ำอุ่นจะทำงานกับอาไฟไหวไหมอ่ะ ไอติมกลัวว่าน้ำอุ่นจะทนไม่ไหว เพราะอาไฟค่อนข้างจริงจังกับงานมาก ๆ""น่าจะได้นะ จากที่เห็นน้องน่าจะมีความอดทนดีเลยทีเดียว" ความกังวลใจทำให้เธอต้องเอ่ยถามผู้เป็นสามีออกไป แล้วเจทก็ให้คำตอบในทันที"ไอติมก็ว่าแบบนั้นแหละ...แล้วกับข้าวอร่อยไหมคะ?"เธอตอบอย่างเห็นตาม แล้วจึงเอ่ยถามถึงอาหารตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม"อร่อย แต่ไม่สู้กินเมีย เอ๊ย!! กินกับเมียที่บ้าน"“เจท!! พูดบ้าอะไรเนี้ย อายคนอื่นบ้างไหม?”เจทพูดแซวพร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ไอติมเธอต่อว่าเขา พร้อมกับฟาดมือลงแขนแกร่งนั้นอย่างลงโทษ คำพูดแซวมันทำให้เธอเขินอาย เพราะอยู่ในที่สาธารณะ มองซ้ายมองขวาเพื่อดูว่ามีใครได้ยินหรือไม่ แล้วจึงจ้องตาเขม็งข่มขู่ผู้เป็นสามี“ล้อเล่นครับ ไม่เอาไม่ทำหน้าแบบนั้น หน้า
การฮันนีมูนจบสิ้นในระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ของหลายเดือนที่ผ่านมา กลับเข้าสู่การทำงานสานต่อธุรกิจของครอบครัวอย่างเต็มตัว ทั้งเจทและไอติมได้เข้ามาทำงานกับผู้เป็นพ่อจนชำนาญ ตามความถนัดของแต่ละคน และพ่อเจก็ฝึกฝนจนคนทั้งคู่นั้นเก่งพอที่จะทำงานได้โดยไม่ต้องมีพ่อเจคอยแนะนำแบบแต่ก่อนLineLineLineเสียงของการแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันสีเขียวดังขึ้น เรียกความสนใจของคนที่กำลังนั่งก้มหน้าก้มตาทำงานที่กองท่วมหัว“น้ำอุ่น”เมื่อเห็นว่าเป็นใครที่เฝ้ารอตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่ที่ได้พบเจอกันในต่างแดนเธอก็เฝ้ารอด้วยความหวังจากรุ่นน้องที่เอ็นดู เห็นดังนั้นจึงรีบตอบกลับทันทีไอติม : “ดีใจที่น้ำอุ่นทักมา สบายดีไหม?”ไอติมพิมพ์ถามกลับบ้าน พร้อมกับรอยยิ้มของความหวังและห่วงใยรุ่นน้องที่ทักมาน้ำอุ่น : “สบายดีค่ะ พี่ไอติมสบายดีเหมือนกันใช่ไหม?”ไอติม : “สบายดีมาก ๆ เลยจ้า การทักมาครั้งนี้พี่จะได้รับข่าวดีหรือเปล่าน้อ”ทั้งสองคนพิมพ์ตอบโต้กันไปมา งานที่คั่งค้างของไอติมถูกเมินไปชั่วครู่ เมื่อเธอมีสิ่งที่สนใจมากกว่าน้ำอุ่น : “ยังว่างให้หนูทำงานด้วยไหมคะ?”ไอติม : “ดีใจจัง พี่รอเรามานานแล้ว ยังว่างอยู่หน้าที่เด
เมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการ ทั้งคู่จึงเดินออกมาเพื่อมุ่งหน้ากลับสู่ที่พัก การมาเที่ยวพักผ่อนทำให้กระชับความสัมพันธ์ของคนทั้งสองให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม พวกเขาเธอเรียบไปตามทางเดินที่มีผู้คนพลุกพล่านมากมาย แสงไฟในยามราตรีดูสวยงามตระกานตา เดินมาเรื่อย ๆ จนเกือบจะถึงที่พักพลางหยอกล้อพูดคุยกันอย่างสนุกสนานตามประสาปึก!“อ๊ะ!!”“ขอโทษค่ะ”เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้นเป็นภาษาอังกฤษและก้มหัวอย่าง เมื่อเธอนั้นเดินมาชนกับหญิงสาวที่เดินเกาะแขนของผู้เป็นสามี“น้ำอุ่น”“พี่ไอติม บังเอิญจังเลยค่ะ ดีใจจัง”“นี่พี่เจทค่ะ สามีของพี่...เจทนี่น้ำอุ่นค่ะเป็นรุ่นน้องของไอติม เจทจำได้ไหม ที่ไอติมเคยเล่าให้ฟังว่าน้องน่ารักมาก”“อ่อ จำได้ ๆ สวัสดีครับ”“สวัสดีค่ะพี่เจท”ไอติมทักท้วงทันทีเมื่อเงยหน้ามองแล้วพบเจอกับคนรู้จัก ทั้งคู่มีอาการตกใจไม่ต่างกันกับการพบเจอในต่างแดน ไอติมรีบแนะนำสามีให้รู้จักกับรุ่นน้อง แม้จะเรียนอยู่ที่เดียวกันแต่เจทผู้ที่ไม่ค่อยสนใจใคร นอกจากผู้หญิงที่ชื่อไอติมเพียงคนเดียว ทั้งสองคนทักทายกันด้วยรอยยิ้มอย่างเป็นมิตรด้วยสีหน้าระรื่น“แล้วน้ำอุ่นมาเที่ยวเหรอ...พอดีพี่กับเจทมาฮันนีมูล
เวลาเลยผ่านไปเกือบสองชั่วโมง ชายหนุ่มที่รู้สึกตัวก่อนนอนมองหน้าหญิงสาวที่หลับสนิทด้วยรอยยิ้ม บ้างก็หอมแก้ม บ้างก็จูบปากของเธอ อยากจะปลุกเธอด้วยเสียงแต่ก็ไม่อยากจะทำ เพราะเหมือนเธอนั้นจะต้องการการพักผ่อนที่เพียงพอ“อื้อ เจทอย่ากวนสิ”“ก็นอนไปสิ”เธอพูดบอกด้วยน้ำเสียงงัวเงีย และพลิกตัวนอนตะแคงหันหลังให้เขา แต่ก็ไม่วายเขายังตามมาแนบชิดและวอแวกับร่างกายของเธออยู่ร่ำไป“ก็เจทกวน ไอติมนอนไม่ได้”“งั้นก็ตื่น เราจะได้ออกไปหาอะไรกินกัน”เธอชักสีหน้าหงุดหงิดใส่เขา หันจ้องหน้าตาเขม็งอย่างนึกรำคาญ แต่ก็ไม่อยากพูดคำนี้ออกไป เพราะกลัวจะผิดใจกันจนเกิดการทะเลาะและน้อยใจ จึงเลือกที่จะเลี่ยงต่อคำพูดที่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่ดี“งื้อ แต่ไอติมยังง่วงอยู่เลย”“เดี๋ยวกินข้าวก่อนแล้วค่อยมานอนต่อ”หญิงสาวทำสีหน้าง้ำงอ เมื่อการพักผ่อนที่เธอต้องการนั้นถูกเขารบกวน จนต้องยอมตื่นแต่โดยดี ชายผู้เป็นสามีบอกกล่าวและระดมจูบปากเธออย่างหยอกเย้าแสนรัก“ห้ามกวนอีกนะ” เธอชี้หน้าข่มขู่“อ๊ะ โอเค ๆ ไม่กวนคืนนี้คืนนึงก็ได้ เพราะถือว่าวันนี้เจทได้กินไอติมแล้ว”“ชิ! ไปแต่งตัวดีกว่า” เธอสะบัดเสียงใส่ ก่อนจะลงจากเตียงด้วยร่างกายที
ทุกอย่างถูกเอื้ออำนวยต่อการตอบสนอง เสื้อผ้าที่อยู่บนตัวถูกจัดการออกจากตัวจนหลุดร่วงด้วยฝีมือของชายหนุ่ม ความงามที่อยู่ตรงหน้ามันทำให้เขายิ้มกริ่ม จับช้อนร่างกายเสลาให้ลุกแล้วนั่งพิงกับหัวเตียงนอน ใช้หมอนรองหลังให้แก่เธอ“??” การกระทำนี้มันทำให้เธอนั้นเกิดความงุนงง“อะไรครับที่รัก” เขาเอ่ยปากถาม เมื่อเห็นสีหน้าของเธอขมวดคิ้วแทบชนกัน“อะไร?” เธอเอ่ยถามด้วยความสงสัย เมื่อเขานั้นจับสองขาของเธอให้ตั้งฉาก แล้วแยกออกสุดความกว้าง“อยากเห็นภาพสวย ๆ ที่เมียรักช่วยตัวเองบ้าง” เขาพูดออกมาอย่างไม่มีความรู้สึกสะทกสะท้านใด ๆ“บ้า! ไม่เอาหรอกไอติมไม่เคยทำ”แต่สิ่งที่เธอได้ยินนั้นทำเอาตกใจ ดวงตาเบิกกว้าง ไม่คิดว่าสามีของเธอจะคิดทำอะไรแบบนี้ จนเธอนั้นต้องรีบหุบขาแนบชิดเพราะเขินอาย“หึ”“เจท!”เขายกยิ้มมุมปากร้ายกาจ ก่อนจะประชิดคาบคร่อมเอวบาง แล้วคุกเข่าต่อหน้าเธอ ทำให้สิ่งที่ยิ่งใหญ่ประจันต่อสายตา กลิ่นของราคะกระทบเข้ากับจมูกของหญิงสาว มันทำให้เธอนั้นตกใจต่อการกระทำที่แปลกใหม่นี้ของผู้เป็นสามี“เปลี่ยนบ้างอะไรบ้าง กลัวเมียเบื่อแล้วไปหาผัวใหม่” เขาโน้มตัวลงต่ำแล้วกระซิบข้างหูเธอเบา ๆ“อื้อ”แล้วไม่นานกล
“ชอบไหม?”เสียงนุ่มละมุนเอ่ยถาม เมื่อสายตาของทั้งคู่ยืนมองบรรยากาศโดยรอบที่พักที่ปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวสะอาดตา ชายหนุ่มยืนกอดภรรยาสาวจากด้านหลัง วางคางลงไหล่ของเธอ และบางจังหวะก็หอมดอมดมตามผิวคอผิวแก้มอย่างที่เคยทำ“ชอบ มันสวยมาก ๆ เลย ไอติมอยากมาที่นี่นานแล้วแต่ว่าก็ไม่มีโอกาสสักที”มือเรียวของเธอลูบแก้มสากแผ่วเบา หันเอียงมาส่งยิ้ม ก่อนจะแตะจูบปากเขาแสดงความรักและแทนคำขอบคุณ“ทำไมไม่บอกเจทล่ะครับ แค่ไอติมพูดเจทก็พร้อมจะพามานะ” เขายิ้มให้และพูดออกมาชิดหูเธอ“แต่ว่าตอนนั้นเราแค่เพื่อนกันไง ไอติมไม่กล้ารบกวนเจทหรอก” เธอออกไปตามสิ่งที่รู้สึกจริงในอดีตที่ผ่านมา“ต่อจากนี้ ถ้าไอติมมีอะไรที่ต้องการให้บอก ไม่ต้องเกรงใจเจทหรอกนะ เพราะเจทจะทำหน้าที่สามีให้ดีที่สุด อยากไปไหนจะพาไปให้หมดเลยดีไหม? รักติมนะ”คำพูดที่เธอเปรยออกมา สิ่งที่ได้ยินมันทำให้เขานั้นกระชับกอดเธอแน่นขึ้น กอดให้เธอได้รับรู้ถึงความรู้สึกที่เขามีให้ว่ามันเปี่ยมล้นไปทั้งใจที่เขามี“รวยว่างั้น?” หญิงสาวเธอเอ่ยแซว“จะว่าอย่างงั้นก็ได้อะนะ แต่จะว่าไปก็ไม่ถึงรวยหรอก ถ้าบอกว่ามีกินมีใช้ก็น่าจะพอมั้ง”เขาพูดขึ้นอย่างถ่อมตน แล้วหอมลงแก้