สามี(2) - 29“เจทจะเข้าบ้านก่อนไหม?” เสียงหวานของไอติมเอ่ยถามเมื่อการรถยนต์จอดสนิทตรงหน้าบ้านของเธอ“อืม เดี๋ยวไปไหว้พ่อกับแม่ด้วย” เจทให้คำตอบพร้อมรอยยิ้มที่ทรงเสน่ห์“ปังถึงบ้านแล้ว....โอ้!!! น้องฉัน ตาย ๆ เจทห้ามมอง! หันหน้าหนี” ไอติมเรียกน้องสาวที่นั่งตรงเบาะด้านหลังต้องร้องตกใจพร้อมเบิกตาโต เมื่อท่านอนที่แสนจะวาบหวิวอย่างเผลอลืมตัวและไร้ความเป็นกุลสตรีทำให้เธอนั้นส่ายหัวอย่างเอือมระอา ขาเรียวยาวของเด็กสาวขนมปังตั้งชันพาดพิงกับพนักพิงหลังอีกขาหย่อนลง กระโปรงนักเรียนกลีบรอบถลกจนมาถึงต้นขาขาวเนียน“เจทไม่ได้มองเลย” เจทบอกออกไปตามความจริง เขาไม่ได้มองท่าทางของน้องสาวไอติมแม้เสี้ยวหางตาตั้งแต่เห็นแว๊บหนึ่งผ่านกระจกมองหลัง ด้วยท่าทางการนอนที่ไม่เรียบร้อยจึงละสายตาตั้งแต่ตอนนั้น“ทำไมขนมปังมันไม่เรียบร้อยเลยอ่ะ นี่ขนาดโดนพ่อกับแม่แนนดุแทบทุกวันยังซน แล้ววันนี้ยังต่อยผู้ชายอีก...ไอติมเหนื่อยแทนพ่อกับแม่เลย” ไอติมพี่สาวที่แสนจะเชื่อฟังพ่อกับแม่เอ่ยขึ้นพร้อมกับเปิดประตูลงรถหวังปลุกน้องสาวที่อยู่เพียงมัธยมต้นแต่แสบซนเหลือแสน“แต่ขนมปังไม่เคยทำร้ายใครก่อนนี่นา...เจทว่ามันต้องมีเหตุให้น้องทำแ
สามี(2)-30((มีอะไรที่พ่อไม่รู้เหรอ))* “0.0...งามศิลป์!!”...ทั้งสี่คนสะดุ้งตัวโหยงอย่างตกในเมื่อเสียงของพ่อเจนั้นดังแทรกระหว่างการสนทนาขอร้องของเด็กสาวขนมปังที่สร้างวีรกรรมในวันนี้“เอาไงดีคะแม่...ขนมปังต้องตายแน่ๆ แม่คะ แม่ช่วยที” ขนมปังที่ร้อนใจเอ่ยกระซิบผู้เป็นแม่อย่างร้อนรน แอบสอดสายตามองลอดใต้วงแขนของผู้เป็นแม่ เพ่งพิศมองฝีเท้าของพ่อเจที่เริ่มเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ“ทำผิดก็ต้องกล้ายอมรับผิดนะคะขนมปัง...แม่ไม่เคยสอนให้หนูหลีกเลี่ยงความผิดที่ตัวเองก่อ” แม่แนนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาย้ำเตือนสติลูกสาวที่เริ่มเข้าสู่วัยรุ่น“งื้อ แต่แม่คะขนมปังกลัวคุณพ่อ” เด็กสาวนึกหวั่นเพราะรู้ดีว่าพ่อเจนั้นเอาจริงแค่ไหนเมื่อลูกนั้นกระทำความผิด...เพราะเหตุการณ์ที่ผ่านมาทำให้เธอนั้นนึกกลัวอยู่มากที่ถูกลดค่าขนมกักบริเวณ ไม่ได้ออกไปไหนอยู่เพียงบ้านเท่านั้นซึ่งมันทำให้เธออึดอัดแทบบ้า“ทำไมไม่ยอมเข้าบ้านกัน พ่อยืนมองอยู่นานแล้วเลยออกมาตาม” พ่อเจที่เดินเข้ามายืนเคียงข้างภรรยาเอ่ยถามพร้อมกวาดสายตามองคนทั้งสี่ด้วยความสงสัย เพราะสีหน้าที่แสดงออกมาของทั้งขนมปัง ไอติมและเจทนั้นมีความพะวงแอบซ่อนอยู่“ไอติมกำล
สามี(2)-31“วันนี้พ่อว่าลูกสาวอีกคนของพ่อแปลกไปนะ” ผู้เป็นพ่อเอ่ยขึ้นหลังจากที่ทานมื้อเย็นเสร็จเรียบร้อย ลูกสาวตัวน้อยสุดท้องนิ่งเงียบไม่ค่อยพูดจาอย่างเก่า เอาแต่นั่งก้มหน้าทานข้าวดั่งตั้งใจ จวบจนตอนนี้ก็ยังไม่วายละสายตาจากสิ่งอื่น เมื่อรวมตัวในห้องรับแขกก่อนถึงเวลาแยกย้ายขึ้นนอน ลูกสาวคนโตนอนหนุนตักผู้เป็นแม่ให้เกาหลัง สายตาของไอติมจ้องมองจอโทรทัศน์ที่กำลังฉายละครตอนเย็น ส่วนลูกสาวคนเล็กเปิดหนังสือการ์ตูนที่เธอชอบอ่านอย่างตั้งใจ...ผิดจากปกติที่จะเข้ามาออเซาะคลอเคลียผู้เป็นพ่ออย่างน่ารัก“..............” ไม่มีใครโต้ตอบประโยคของพ่อเจ แม่แนนและลูกสาวคนโตทำได้เพียงมองหน้ากันเท่านั้นเมื่อสิ้นประโยคของผู้นำครอบครัว“ขนมปัง!!” พ่อเจตวาดเสียงลั่นเมื่อไม่มีใครโต้ตอบ เลยต้องเอ่ยชื่อเจาะจงที่เป้าหมาย“คะพ่อ?” ขนมปังสะดุ้งตกใจกับเสียงลั่นของพ่อเจ หนังสือการ์ตูนสุดโปรดถึงกับร่วงหลุดมือกองลงพื้น เธอได้ยินคำพูดทุกคำแต่แสร้งแกล้งไม่ได้ยินหรือสนใจ รู้ดีอยู่ในอกว่าผู้เป็นพ่อนั้นหมายถึงเธอ“มีอะไรจะพูดกับพ่อไหม?” ผู้เป็นพ่อย้อนถามเป็นนัยน์หวังให้ลูกสาวคนเล็กยอมปริปากสารภาพกับสิ่งที่ก่อด้วยตัวเอง“ไม่น
สามี(2)-31.2-(เตียงสั่น)"ตกลงคืนนี้ว่าไงจ๊ะที่รัก รู้สึกว่าร่างกายอยากปะทะมาก" เสียงทุ้มแสนกลของพ่อเจเอ่ยขึ้น เมื่อลูกสาวทั้งสองนั้นเดินลับสายตาขึ้นไปยังบนบ้านชั้นสองแล้ว"อะไรของพี่เจคะเนี้ย ทะลึ่งใหญ่แล้วนะ" แม่แนนต่อว่าอย่างเขินอายเมื่อสายตาของสามีนั้นส่อความเจ้าเล่ห์แสนกล"หิวเมีย" พ่อเจกระซิบลงข้างหูของแม่แนนอีกครั้ง ก่อนจะดึงกระชากแขนภรรยาให้เดินตามขึ้นไปยังห้องนอน เมื่อลับสายตาของลูกทั้งสองพ้นแล้ว"...อื้ม พี่เจ" ทันทีที่เข้ามาในห้องนอนที่แสนกว้าง ร่างกายหนาของพ่อเจโอบกอดรวบรัดร่างของแม่แนนให้แนบชิด ใช้ขาดันประตูให้ปิดลงทันที พร้อมปากอุ่นที่ปรี่บดจูบกลีบปากอวบอย่างเร่าร้อน"หื้ม...ว่าไงครับ" ปากตอบแต่มือนั้นก็หยอกเย้าตรงความสาว บดบี้เม็ดเกสรที่มันสร้างความเสียวซ่านจนเเม่แนนบิดเร้าอย่างหลบหลีก"พอ~ แล้ว อร๊า~~ มั้งคะ อ่า อื้ม~" แม่แนนพยายามร้องห้ามแผ่วเบา ทั้งที่ร่างกายไม่เคยเป็นไปตามปากว่า แค่เพียงมือหนาของสามีสัมผัสก็สร้างกระสันในกายให้ร้อนรุ่มได้ทันตา"แบบนี้ พอได้เหรอ.. ไม่ต้องการผัวคนนี้เหรอ หื้ม" คำพูดหยอกล้อในระยะประชิดกับลมหายใจอุ่นของพ่อเจที่กระทบกับผิวหน้า แม้ว่าเวลา
สามี(2)-32"สวัสดีครับพี่แจง...พ่อเจอยู่ไหมครับ" เจทที่เข้ามาในบริษัทเอ่ยทักและยกมือไหว้เลขาหน้าห้องด้วยความคุ้นเคยกัน ก่อนจะเอ่ยถามถึงพ่อของแฟน"อยู่จ้ะ เจทมีอะไรเหรอ...แล้วน้องไอติมไม่มาเหรอ" เลขาหน้าห้องเอ่ยถาม"ไม่มาครับ...พอดีผมมีธุระสำคัญขอพบพ่อได้ไหมครับ" เจทเอื้อนเอ่ยอีกครั้ง เพราะสิ่งที่ทำลงไปมันทำให้เขาพะวง เหตุการณ์ที่เจาะจงตั้งใจทำต่อลูกสาวที่รักของพ่อเจทำให้เจทกังวลไม่น้อย...ลูกผู้ชายทำแล้วต้องกล้ายอมรับแม้ผลจะออกมาแบบไหน และพ่อเจคงมีเหตุผลมากพอที่จะตัดสินใจเมื่อได้ฟัง"พี่ขอแจ้งพี่เจก่อนนะ" เลขาหน้าห้องเอ่ยบอกอย่างเป็นมิตร"...ขอบคุณครับ" เจทเปรยยิ้มละมุนและจับจ้องเพ่งมองไปยังคนที่ต่อสายโทรศัพท์ไปยังพ่อบังเกิดเกล้าของแฟนสาวด้วยใจจดจ่อ...เรื่องราวที่ก่อเกิดทำให้ภายใจหัวใจกระสับกระส่าย ลูกผู้ชายอย่างเจทที่ไม่อยากแอบหลบซ่อนการกระทำ อยากสารภาพต่อสิ่งที่ล่วงล้ำกายสาวไปแล้ว แม้พ่อของผู้หฯงที่รักจะตำหนิต่อว่า เขาก็พร้อมจะก้มหน้ายอมอย่างชายชาตรี และรู้ดีมั่นใจว่าพ่อของเธอต้องมีเหตุผลเพียงพอและเข้าใจกับสิ่งที่เขาทำ 'เขาหลงรักเธอมาเนิ่นนานด้วยใจบริสุทธิ์'"พี่เจให้น้องเจทเข้าไปพบ
สามี(2)-33...หลังจากที่ไล่เจทกลับบ้านไปเรียบร้อย สิ่งที่ได้รับฟังทำให้คนเป็นพ่อไหววูบอยู่มากเคืองโกรธต่อการกระทำแม้จะพยายามเข้าใจว่ามันสามารถเกิดขึ้นได้ตามยุคและสมัย แต่พ่อเจที่เลี้ยงลูกสาวคนโตมาตั้งแต่ยังแบเบาะก็ทานทนไม่ไหว ห่วงใยลูกสาวอยู่ไม่น้อยพยายามพูดด้วยความใจเย็นด้วยวุฒิภาวะที่มากพอ แม้ในใจนั้นท้อและหดหู่เพียงใดกับสิ่งที่ได้ยิน...เย็นของวันทำงานพ่อเจรีบตรงดิ่งกลับบ้านทันทีด้วยหัวใจที่ร้อนรุ่มดั่งไฟสุมอยู่ในอก รถยนต์จอดสนิทในลานจอดรถในบริเวณบ้าน หนุ่มใหญ่วัยสี่สิบกว่าเดินย่างกรายด้วยความสุขุมเข้าสู่ตัวบ้าน มองไปยังโต๊ะอาหารที่มีภรรยาแสนดีจัดเตรียมมื้อเย็นด้วยรอยยิ้ม โดยที่ภรรยาไม่ทันมองว่าสามีนั้นกลับมาถึงบ้านแล้ว"หื้ม...ห๊อมหอม" พ่อเจที่ค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้ภรรยา ปรี่ประชิดโอบกอดจากทางด้านหลัง ฝังจมูกคมสูดดมแก้มระเรื่อของภรรยาอย่างรักใคร่"หืมอะไรกันคะ...มาตอนไหนแนนไม่ได้ยินเสียงรถเลย" แม่แนนที่ถูกหอมแก้มไม่ทักท้วงตำหนิยอมให้สามีกระทำแต่โดยดี หันหน้าเอ่ยถามสามีด้วยเสียงหวาน"เพิ่งมาครับ...แล้วนี่ทำอะไรเยอะแยะ" พ่อเจที่มองเห็นอาหารมากมายด้วยฝีมือของภรรยาจึงเอ่ยถาม เมื่ออาหาร
สามี (2) - 34"คุณพ่อสุดที่รักของขนมปังทำไมถึงใกล้เป็นประสาทละคะ?" เด็กสาวขนมปังเอ่ยแซวผู้เป็นพ่อ ที่นั่งนิ่งมือกุมขมับแม้จะรู้ดีว่าพ่อนั้นพูดประชดเธอ แต่ด้วยความแก่นแก้วจึงทำนิ่งไม่สนใจ เอ่ยถามออกไปอย่างไร้เดียงสา".........." พ่อเจทำเพียงหันมองหน้าลูกสาวคนเล็กที่ยังกกกอดจากทางด้านหลังไม่ปล่อยวาง สายตามองหน้าเธออย่างระอาเหนื่อยหน่าย"แนะ ถามก็ไม่ตอบ ปังห่วงคุณพ่อนะคะ" เธอยังคงออดอ้อนต่อไป การกระทำที่อยู่ในสายตาของผู้เป็นแม่และพี่สาว ทำเอาคนทั้งสองนั้นยิ้มและบางคราวก็หัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าของพ่อเจที่ดูเอือมระอาสุด ๆ ส่ายหัวไปมาก่อนจะลุกยืนแล้วเดินขึ้นบ้าน"แนนพี่ขอพาราด้วยนะ ตามเอาไปให้ที่ห้องพี่จะนอนพัก" พ่อเจพูดทิ้งท้ายแม้กำลังก้าวขาเดินขึ้นบันไดบ้าน"ค่ะคุณพ่อ" แม่แนนตะโกนตอบรับคำสั่งด้วยรอยยิ้ม"ฮั่นแน่" ขนมปังแสนซนชี้นิ้วส่ายไปมาและเอ่ยแซวตามหลังผู้เป็นพ่อด้วยความแสบสรร สายตาหันเหมองหน้าผู้เป็นแม่ด้วยรอยยิ้มกริ่ม ยิ่งรอยยิ้มของขนมปังยิ่งทำให้ผู้เป็นแม่นั้นเขินอาย"อะไรขนมปัง อย่ายิ้มแล้วมองแม่แบบนั้น" แม่แนนออกตัวพูดก่อนจะปัดมือลูกสาวคนเล็กที่ชี้นิ้วส่ายไปมา เดินเลี่ยงไปเอายาให้แ
สามี(2)-35...เวลามื้ออาหารเย็นทุกคนในบ้านรวมตัวกันเพื่อรอแขกที่นัดแนะ อาหารที่จัดเต็มโต๊ะด้วยฝีมือของแม่แนน อาหารที่หล่อเลี้ยงคนในครอบครัวมานานหลายปี กินตอนนี้หรือตอนไหนก็ทำให้คนในบ้านอิ่มท้องและถูกปาก"อาไฟ" ไอติมที่เดินลงมาจากบนชั้นสองของบ้าน มองเห็นคุณอาที่เธอรักเดินมาบรรจบพร้อมเธอ หญิงสาวอันเป็นที่รักเอ่ยเรียกพร้อมเดินเข้าไปใกล้ยกมื้อไหว้ส่งยิ้มด้วยความยินดี"ว่าไงหลานสาวคนสวย ยิ่งโตยิ่งสวยนะเนี้ย" อาไฟที่ยังดูดีวางมือบนหัวหลานสาวกล่าวชมดั่งที่เคยทำ แม้จะเห็นเธออยู่บ่อยครั้งก็ไม่วายพูดแบบเดิม"ไอติมเขิน...วันนี้แม่แนนทำอาหารเยอะมาก ไอติมว่าอาไฟกินข้าวอร่อยแน่ ๆ เลยค่ะ" ไอติมเดินคล้องแขนพาอาของเธอไปยังห้องรับรอง เอ่ยบอกด้วยสิ่งที่ตาเห็น ฝีมือปลายจวักของแม่แนนหากใครได้ชิมต้องหลงใหล"แบบนี้อาอ้วนแน่เลย""อ้วนอาไฟก็หล่อค่ะ" หลานสาวคนโตเอ่ยชมดั่งสิ่งที่ตาเห็น"แล้วนี่ขนมปังไปไหน?" ไฟเอ่ยถามเมื่อไม่เห็นหลานสาวอีกคน"สวัสดีค่ะพี่ไฟ ขนมปังยังไม่ลงมาคงอาบน้ำอยู่ค่ะ" แม่แนนทักทายและบอกเล่าถึงลูกสาวอีกคน"เดี๋ยวไอติมไปตามให้ค่ะ" ไอติมเสนอตัวอาสา((ขนมปังมาแล้วจ้า))เสียงแหลมแผดดังลั่นจนคนที
ห้องทำงานของผู้เป็นสามียังเปิดสว่างจ้าแม้ว่าตอนนี้จะเริ่มดึกแล้ว เธอมองไปยังห้องทำงานของสามีก่อนจะเดินเข้าห้องตัวเอง หวังจัดการชำระร่างกายที่เหนื่อยล้ามาทั้งวัน ความตั้งใจหลังจัดการตัวเองเสร็จ คิดจะเข้าไปหาผู้เป็นสามีด้วยความห่วงใยที่มี พร้อมกับแก้วนมอุ่น ๆ ในมือ“งานใกล้เสร็จยัง” ผู้เป็นภรรยาเอ่ยถามพร้อมกับร่างกายที่เย้ายวนเดินนวยนาดเข้าไปใกล้ชายผู้เป็นสามี“ใกล้แล้วครับ ลูกหลับแล้วเหรอ?” เขาเงยหน้ามอง แล้วจึงเอ่ยถามพร้อมกับร่างของภรรยาให้นั่งลงบนตักแกร่ง วงแขนโอบรอบเอวของเธอ และซบแก้มลงต้นแขนเล็กนั้นอย่างรักใคร่“หลับแล้วค่ะ สกีอยากให้เจทเล่านิทานให้ฟัง แต่บอกแล้วว่าเจททำงานไอติมเล่าให้ฟังแป๊บเดียวก็หลับปุ๋ยเลย...อ่ะ! ดื่มนมอุ่น ๆ หน่อยนะไอติมชงมาให้” เธอยื่นแก้วนมในมือไปตรงหน้าสามีพร้อมกับยิ้มอ่อน“ไม่อยากกินมันไม่อร่อย”“ก็นมที่เจทดื่มประจำนะ รสชาติก็เหมือนเดิมจะไม่อร่อยได้ยังไงคะ?”“งั้นไอติมก็กินเองสิ ชิมดูว่ามันอร่อยจริงหรือเปล่า”เธอบอกตามจริง พร้อมกับสิ่งที่ทำให้สงสัยต่อคำปฏิเสธที่สามีเปรยออกมา แต่หารู้ไม่ว่ามันเป็นความกะล่อนของสามีเธอที่แอบแฝงเธอยกแก้วนมขึ้นมาดื่มอย่างว่าง่
สี่ปีผ่านไปเด็กน้อยเติบใหญ่ไปตามกาลเวลา จนตอนนี้อยู่ในวัยที่กำลังหัดพูดและช่างสงสัย เป็นหลานชายของบ้านที่ทุกคนนั้นรักและเอ็นดูที่สุด เพราะความน่ารักของเด็กชาย ใบหน้าของลูกเสี้ยวที่มีเคล้าของผู้เป็นพ่อประปราย ทำให้เด็กชายนั้นดูน่ารักน่าเอ็นดูตลอดเวลาสี่ปีที่ผ่านมามีเรื่องวุ่นวายให้เธอและครอบครัวนั้นปวดหัว เพราะความมักมากของอาไฟที่ทำให้ต้องมีการดัดนิสัยกันมากมาย กว่าจะมามีครอบครัวที่สมบูรณ์ก็กินเวลาไปนานหลายปี แต่สุดท้ายพ่อเสือก็สิ้นลายกลับกลายมาเป็นลูกแมวที่แสนเชื่อง และยังมีเมียเด็กรุ่นราวคราวเดียวกับกลาน แถมยังมีเด็กหญิงอันดาผู้น่ารักสดใส เธอเป็นที่รักของทุก ๆ คน ส่วนนิสัยของเธอนั้นไม่ต้องพูดถึง เธอได้พ่อมาเต็ม ๆ แต่เหมือนจะมากกว่าเสียด้วยซ้ำ แต่ก็มีบางมุมที่อ่อนไหวง่ายดั่งกับผู้เป็นแม่ และเธอก็มักจะมาเที่ยวเล่นกับเด็กชายสกีเป็นประจำ"มัมสกีอยากหาน้าปัง" เด็กชายตัวน้อยเอ่ยบอกผู้เป็นแม่ ที่ตอนนี้อยู่ในครัวเตรียมมื้อเช้า เขามักเป็นแบบนี้ประจำเพราะติดคุณน้าขนมปังที่สดใส ผูกพันจนใกล้ชิดกันมาแต่ไหนแต่ไร"วันนี้น้าปังไม่อยู่ครับคนเก่ง" คุณแม่ไอติมย่อตัวลงต่ำ แล้วลูบหัวลูกชายตัวน้อยอย่างอ่
การแต่งงานที่เป็นสัญลักษณ์ยืนยันต่อการใช้ชีวิตคู่ มันคือการเริ่มต้นของชีวิตที่ต้องจับมือเดินเคียงข้างกันไป ไม่ว่าจะพบเจออุปสรรคอะไรจะต้องฝ่าฟันมันไปให้ได้ และจะต้องเชื่อใจซึ่งกันและกัน ความรักของคนทั้งสองที่มีให้กันยังคงมั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง จนบัดนี้ล่วงเลยเวลามานานเป็นปี และพวกเขากำลังจะมีทายาทตัวน้อยหลังจากที่พยายามผลิตจนตอนนี้สำเร็จผลแล้ว"เจทคะ...เสร็จหรือยัง" ไอติมเรียกขานผู้เป็นสามี เพราะว่าวันนี้มีนัดฉลองวันเกิดให้กับน้องสาวที่ก้าวขึ้นสู่อายุสิบแปดปีบริบูรณ์"เสร็จแล้วครับ" เจทที่อยู่ในชุดธรรมดา แค่เสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ก็ทำให้เขาดูดีได้ เพราะรูปลักษณ์ภายนอกดีเป็นทุนเดิม"หล่อจังเลยค่ะคุณพ่อเจท" ไอติมเอ่ยแซวผู้เป็นสามีพร้อมฉีกยิ้มสวยส่งให้"วันนี้คุณแม่ก็สวย" ต่างคนก็ต่างชมกันไปมาตามประสาคนที่รักกันเสมอต้นเสมอปลาย“จุ๊บ!! สามีน่ารักจริง ๆ เลย” ไอติมเขย่งเท้าแล้วแตะจูบริมฝีปากของผู้เป็นสามี กิริยาเช่นนี้พวกเขามักแสดงออกเป็นประจำจนคุ้นชิน“เนี้ยก็ชอบทำให้รักตลอดเลย เจทจะไปไหนได้ล่ะครับ หื้ม” ผู้เป็นสามีแนบหน้าผากชิดกับหญิงสาว ปลายจมูกถูกเสียดสีไปมา เป็นความน่ารักของคนทั้งสองที่ยัง
"เจท วันนี้น้ำอุ่นเข้ามาสมัครงานแล้วนะ ไอติมดีใจมากเลยจะได้มีคนช่วยงานอาไฟแล้ อาไฟจะได้ไม่เหนื่อย"หญิงสาวที่นั่งทานข้าวอยู่ในร้านอาหารกับสามีเอ่ยขึ้นด้วยท่าทางที่แสนจะดีใจกับการมาร่วมงานของรุ่นน้องที่เธอเอ็นดู แม้จะไม่ค่อยได้เอ่ยถึง แต่ทั้งสองก็ผูกพันกัน"เหรอ ดีแล้วล่ะ" เจทว่าขึ้นพร้อมกับตักข้าวเข้าปาก"เจทว่าน้ำอุ่นจะทำงานกับอาไฟไหวไหมอ่ะ ไอติมกลัวว่าน้ำอุ่นจะทนไม่ไหว เพราะอาไฟค่อนข้างจริงจังกับงานมาก ๆ""น่าจะได้นะ จากที่เห็นน้องน่าจะมีความอดทนดีเลยทีเดียว" ความกังวลใจทำให้เธอต้องเอ่ยถามผู้เป็นสามีออกไป แล้วเจทก็ให้คำตอบในทันที"ไอติมก็ว่าแบบนั้นแหละ...แล้วกับข้าวอร่อยไหมคะ?"เธอตอบอย่างเห็นตาม แล้วจึงเอ่ยถามถึงอาหารตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม"อร่อย แต่ไม่สู้กินเมีย เอ๊ย!! กินกับเมียที่บ้าน"“เจท!! พูดบ้าอะไรเนี้ย อายคนอื่นบ้างไหม?”เจทพูดแซวพร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ไอติมเธอต่อว่าเขา พร้อมกับฟาดมือลงแขนแกร่งนั้นอย่างลงโทษ คำพูดแซวมันทำให้เธอเขินอาย เพราะอยู่ในที่สาธารณะ มองซ้ายมองขวาเพื่อดูว่ามีใครได้ยินหรือไม่ แล้วจึงจ้องตาเขม็งข่มขู่ผู้เป็นสามี“ล้อเล่นครับ ไม่เอาไม่ทำหน้าแบบนั้น หน้า
การฮันนีมูนจบสิ้นในระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ของหลายเดือนที่ผ่านมา กลับเข้าสู่การทำงานสานต่อธุรกิจของครอบครัวอย่างเต็มตัว ทั้งเจทและไอติมได้เข้ามาทำงานกับผู้เป็นพ่อจนชำนาญ ตามความถนัดของแต่ละคน และพ่อเจก็ฝึกฝนจนคนทั้งคู่นั้นเก่งพอที่จะทำงานได้โดยไม่ต้องมีพ่อเจคอยแนะนำแบบแต่ก่อนLineLineLineเสียงของการแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันสีเขียวดังขึ้น เรียกความสนใจของคนที่กำลังนั่งก้มหน้าก้มตาทำงานที่กองท่วมหัว“น้ำอุ่น”เมื่อเห็นว่าเป็นใครที่เฝ้ารอตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่ที่ได้พบเจอกันในต่างแดนเธอก็เฝ้ารอด้วยความหวังจากรุ่นน้องที่เอ็นดู เห็นดังนั้นจึงรีบตอบกลับทันทีไอติม : “ดีใจที่น้ำอุ่นทักมา สบายดีไหม?”ไอติมพิมพ์ถามกลับบ้าน พร้อมกับรอยยิ้มของความหวังและห่วงใยรุ่นน้องที่ทักมาน้ำอุ่น : “สบายดีค่ะ พี่ไอติมสบายดีเหมือนกันใช่ไหม?”ไอติม : “สบายดีมาก ๆ เลยจ้า การทักมาครั้งนี้พี่จะได้รับข่าวดีหรือเปล่าน้อ”ทั้งสองคนพิมพ์ตอบโต้กันไปมา งานที่คั่งค้างของไอติมถูกเมินไปชั่วครู่ เมื่อเธอมีสิ่งที่สนใจมากกว่าน้ำอุ่น : “ยังว่างให้หนูทำงานด้วยไหมคะ?”ไอติม : “ดีใจจัง พี่รอเรามานานแล้ว ยังว่างอยู่หน้าที่เด
เมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการ ทั้งคู่จึงเดินออกมาเพื่อมุ่งหน้ากลับสู่ที่พัก การมาเที่ยวพักผ่อนทำให้กระชับความสัมพันธ์ของคนทั้งสองให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม พวกเขาเธอเรียบไปตามทางเดินที่มีผู้คนพลุกพล่านมากมาย แสงไฟในยามราตรีดูสวยงามตระกานตา เดินมาเรื่อย ๆ จนเกือบจะถึงที่พักพลางหยอกล้อพูดคุยกันอย่างสนุกสนานตามประสาปึก!“อ๊ะ!!”“ขอโทษค่ะ”เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้นเป็นภาษาอังกฤษและก้มหัวอย่าง เมื่อเธอนั้นเดินมาชนกับหญิงสาวที่เดินเกาะแขนของผู้เป็นสามี“น้ำอุ่น”“พี่ไอติม บังเอิญจังเลยค่ะ ดีใจจัง”“นี่พี่เจทค่ะ สามีของพี่...เจทนี่น้ำอุ่นค่ะเป็นรุ่นน้องของไอติม เจทจำได้ไหม ที่ไอติมเคยเล่าให้ฟังว่าน้องน่ารักมาก”“อ่อ จำได้ ๆ สวัสดีครับ”“สวัสดีค่ะพี่เจท”ไอติมทักท้วงทันทีเมื่อเงยหน้ามองแล้วพบเจอกับคนรู้จัก ทั้งคู่มีอาการตกใจไม่ต่างกันกับการพบเจอในต่างแดน ไอติมรีบแนะนำสามีให้รู้จักกับรุ่นน้อง แม้จะเรียนอยู่ที่เดียวกันแต่เจทผู้ที่ไม่ค่อยสนใจใคร นอกจากผู้หญิงที่ชื่อไอติมเพียงคนเดียว ทั้งสองคนทักทายกันด้วยรอยยิ้มอย่างเป็นมิตรด้วยสีหน้าระรื่น“แล้วน้ำอุ่นมาเที่ยวเหรอ...พอดีพี่กับเจทมาฮันนีมูล
เวลาเลยผ่านไปเกือบสองชั่วโมง ชายหนุ่มที่รู้สึกตัวก่อนนอนมองหน้าหญิงสาวที่หลับสนิทด้วยรอยยิ้ม บ้างก็หอมแก้ม บ้างก็จูบปากของเธอ อยากจะปลุกเธอด้วยเสียงแต่ก็ไม่อยากจะทำ เพราะเหมือนเธอนั้นจะต้องการการพักผ่อนที่เพียงพอ“อื้อ เจทอย่ากวนสิ”“ก็นอนไปสิ”เธอพูดบอกด้วยน้ำเสียงงัวเงีย และพลิกตัวนอนตะแคงหันหลังให้เขา แต่ก็ไม่วายเขายังตามมาแนบชิดและวอแวกับร่างกายของเธออยู่ร่ำไป“ก็เจทกวน ไอติมนอนไม่ได้”“งั้นก็ตื่น เราจะได้ออกไปหาอะไรกินกัน”เธอชักสีหน้าหงุดหงิดใส่เขา หันจ้องหน้าตาเขม็งอย่างนึกรำคาญ แต่ก็ไม่อยากพูดคำนี้ออกไป เพราะกลัวจะผิดใจกันจนเกิดการทะเลาะและน้อยใจ จึงเลือกที่จะเลี่ยงต่อคำพูดที่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่ดี“งื้อ แต่ไอติมยังง่วงอยู่เลย”“เดี๋ยวกินข้าวก่อนแล้วค่อยมานอนต่อ”หญิงสาวทำสีหน้าง้ำงอ เมื่อการพักผ่อนที่เธอต้องการนั้นถูกเขารบกวน จนต้องยอมตื่นแต่โดยดี ชายผู้เป็นสามีบอกกล่าวและระดมจูบปากเธออย่างหยอกเย้าแสนรัก“ห้ามกวนอีกนะ” เธอชี้หน้าข่มขู่“อ๊ะ โอเค ๆ ไม่กวนคืนนี้คืนนึงก็ได้ เพราะถือว่าวันนี้เจทได้กินไอติมแล้ว”“ชิ! ไปแต่งตัวดีกว่า” เธอสะบัดเสียงใส่ ก่อนจะลงจากเตียงด้วยร่างกายที
ทุกอย่างถูกเอื้ออำนวยต่อการตอบสนอง เสื้อผ้าที่อยู่บนตัวถูกจัดการออกจากตัวจนหลุดร่วงด้วยฝีมือของชายหนุ่ม ความงามที่อยู่ตรงหน้ามันทำให้เขายิ้มกริ่ม จับช้อนร่างกายเสลาให้ลุกแล้วนั่งพิงกับหัวเตียงนอน ใช้หมอนรองหลังให้แก่เธอ“??” การกระทำนี้มันทำให้เธอนั้นเกิดความงุนงง“อะไรครับที่รัก” เขาเอ่ยปากถาม เมื่อเห็นสีหน้าของเธอขมวดคิ้วแทบชนกัน“อะไร?” เธอเอ่ยถามด้วยความสงสัย เมื่อเขานั้นจับสองขาของเธอให้ตั้งฉาก แล้วแยกออกสุดความกว้าง“อยากเห็นภาพสวย ๆ ที่เมียรักช่วยตัวเองบ้าง” เขาพูดออกมาอย่างไม่มีความรู้สึกสะทกสะท้านใด ๆ“บ้า! ไม่เอาหรอกไอติมไม่เคยทำ”แต่สิ่งที่เธอได้ยินนั้นทำเอาตกใจ ดวงตาเบิกกว้าง ไม่คิดว่าสามีของเธอจะคิดทำอะไรแบบนี้ จนเธอนั้นต้องรีบหุบขาแนบชิดเพราะเขินอาย“หึ”“เจท!”เขายกยิ้มมุมปากร้ายกาจ ก่อนจะประชิดคาบคร่อมเอวบาง แล้วคุกเข่าต่อหน้าเธอ ทำให้สิ่งที่ยิ่งใหญ่ประจันต่อสายตา กลิ่นของราคะกระทบเข้ากับจมูกของหญิงสาว มันทำให้เธอนั้นตกใจต่อการกระทำที่แปลกใหม่นี้ของผู้เป็นสามี“เปลี่ยนบ้างอะไรบ้าง กลัวเมียเบื่อแล้วไปหาผัวใหม่” เขาโน้มตัวลงต่ำแล้วกระซิบข้างหูเธอเบา ๆ“อื้อ”แล้วไม่นานกล
“ชอบไหม?”เสียงนุ่มละมุนเอ่ยถาม เมื่อสายตาของทั้งคู่ยืนมองบรรยากาศโดยรอบที่พักที่ปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวสะอาดตา ชายหนุ่มยืนกอดภรรยาสาวจากด้านหลัง วางคางลงไหล่ของเธอ และบางจังหวะก็หอมดอมดมตามผิวคอผิวแก้มอย่างที่เคยทำ“ชอบ มันสวยมาก ๆ เลย ไอติมอยากมาที่นี่นานแล้วแต่ว่าก็ไม่มีโอกาสสักที”มือเรียวของเธอลูบแก้มสากแผ่วเบา หันเอียงมาส่งยิ้ม ก่อนจะแตะจูบปากเขาแสดงความรักและแทนคำขอบคุณ“ทำไมไม่บอกเจทล่ะครับ แค่ไอติมพูดเจทก็พร้อมจะพามานะ” เขายิ้มให้และพูดออกมาชิดหูเธอ“แต่ว่าตอนนั้นเราแค่เพื่อนกันไง ไอติมไม่กล้ารบกวนเจทหรอก” เธอออกไปตามสิ่งที่รู้สึกจริงในอดีตที่ผ่านมา“ต่อจากนี้ ถ้าไอติมมีอะไรที่ต้องการให้บอก ไม่ต้องเกรงใจเจทหรอกนะ เพราะเจทจะทำหน้าที่สามีให้ดีที่สุด อยากไปไหนจะพาไปให้หมดเลยดีไหม? รักติมนะ”คำพูดที่เธอเปรยออกมา สิ่งที่ได้ยินมันทำให้เขานั้นกระชับกอดเธอแน่นขึ้น กอดให้เธอได้รับรู้ถึงความรู้สึกที่เขามีให้ว่ามันเปี่ยมล้นไปทั้งใจที่เขามี“รวยว่างั้น?” หญิงสาวเธอเอ่ยแซว“จะว่าอย่างงั้นก็ได้อะนะ แต่จะว่าไปก็ไม่ถึงรวยหรอก ถ้าบอกว่ามีกินมีใช้ก็น่าจะพอมั้ง”เขาพูดขึ้นอย่างถ่อมตน แล้วหอมลงแก้