เมื่ออลิซเงยหน้าขึ้นไปมอง ก็เห็นอิเลียถูกทึ้งหัวกดไปบนพื้น มือทั้งสองถูกถังซือซือใช้เชือกมัดเอาไว้ ขาทั้งสองข้างไร้เรี่ยวแรงจะดิ้นเวินเหลียงขี่ไปบนตัวของอิเลียเลย เธอบีบคางของอิเลียเอาไว้ แล้วสะบัดมือไปบนหน้าของอิเลียสองเพียะ!มีโอกาสดีขนาดนี้ เวินเหลียงย่อมคิดบัญชีรวมทั้งแค้นเก่าแค้นใหม่อยู่แล้ว!อลิซ “...”เครื่องบินของซีซาร์ใกล้จะลงจอดแล้ว เธอไม่อยากไปเจอเขาทั้งใบหน้าที่ถูกตบตีจนบวมแดง“อ๊า ๆ ๆ พวกแกคอยดูเถอะ...ฉันจะต้องฆ่าพวกแกให้ได้...ปล่อยฉันนะ...ฉันจะให้คุณลุงยิงเป้าสังหารพวกแกซะ! พวกแกคอยดูเถอะ! อ๊า ๆ เฟย์แกมันคนชั้นต่ำ...!”อิเลียร้องไห้โหยหวนอยู่บนพื้น น้ำเสียงเล็กแหลมโตมาขนาดนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้รับการปฏิบัติอย่างรุนแรงขนาดนี้!หากไม่ได้ชำระแค้นนี้ เธอสาบานว่าจะไม่เป็นคน!!เธอจะต้องให้คุณลุงจับพวกมันเข้าคุกแล้วยิงเป้าประหารให้ได้!เสียงของอิเลียดึงดูดให้คนผ่านไปผ่านมาสองสามคนเข้ามามุงดูรถที่ถูกทุบที่อยู่ข้าง ๆ คือมาเซราติ เหล่าผู้คนที่ผ่านไปผ่านมารู้ได้ในทันทีว่าเรื่องนี้พวกเขายุ่งไม่ได้ ได้แต่ยืนดูอยู่ข้าง ๆ ไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งมีคนอัดวิดีโอเอาไว้
นิสัยอารมณ์ร้อนแบบนี้ สมควรถูกตบแล้ว!รถขับไม่ได้แล้ว อิเลียคิดว่าค่อยเรียกคนมาลากรถไปซ่อมหลังจากกลับไปแล้ว เธอต่อสายโทรออกเรียกคนขับรถมารับเธอหลังวางสาย อิเลียก็หันไปเห็นอลิซที่อยู่ข้าง ๆ ทันใดนั้นก็นึกอะไรบางอย่างออก อิเลียมองเธออย่างเย็นชา “เมื่อกี้ฉันถูกตบอยู่ตั้งนานขนาดนั้น เธอทำอะไรอยู่บนรถ?”ใบหน้าอลิซเผยความปั้นยากออกมา “ฉันอยากลงรถไปช่วยเธอ แต่คิดไม่ถึงว่าประตูรถฝั่งฉันจะถูกเศษกระจกขัดเอาไว้ ฉันต้องออกแรงเยอะมากถึงจะเปิดประตูออกได้ แถมยังไม่ทันได้ระวังถูกเศษกระจกบาดมือเข้า...”พูดจบ เธอก็โชว์มือที่ถูกเศษกระจกบาดให้ดูเหมือนกับรอยหมึกดำที่หยดลงกระดาษขาวสะอาดแผ่นหนึ่ง เห็นได้ชัดเป็นอย่างมากในตอนนี้เองอิเลียถึงได้สงบลง ไม่ได้พูดอะไรอีก“อิเลีย เดี๋ยวรถมารับแล้วเราจะไปไหนกันเหรอ?”“ไปไหนน่ะเหรอ?” สีหน้าอิเลียเคร่งขรึม พร้อมแสยะยิ้มออกมาทีหนึ่ง “แน่นอนว่ากลับบ้านน่ะสิ ให้คุณลุงฉันรับหน้าที่จัดการแทนฉัน!”อลิซลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยเตือนว่า “เที่ยวบินของซีซาร์จะถึงแล้วไม่ใช่เหรอ?”อิเลียชะงักไปเกือบลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิทแล้ว!เธอเอ่ยขึ้นอย่างเคียดแค้นว่า “งั้นเร
แน่นอนว่าอิเลียไม่มีทางพูดความจริงอยู่แล้ว “เรื่องที่ซิดนีย์ที่ฉันเคยเล่าให้พี่ฟังก่อนหน้านี้น่ะ คนที่แย่งนาฬิกาไปก็คือพวกเขาสองคน สองวันก่อนฉันเจอเพื่อนของเฟย์ที่ห้าง เขาจำฉันได้เลยหยามฉัน ฉันแค้น วันนี้พอเจอพวกเขา ก็เลยอยากขู่ให้พวกเขากลัวสักหน่อย สุดท้ายพวกเธอก็มาทุบรถของฉัน แถมยังกดฉันไว้บนพื้นแล้วตบฉันด้วย!”ใครจะรู้ได้ว่ากลับเห็นเยี่ยนหวยขมวดคิ้ว “ใครใช้ให้เธอไปขู่เขาล่ะ?!”เมื่อได้ยินว่าเป็นเรื่องที่ซิดนีย์ ในใจเขาก็รู้แน่ชัดทันทีว่าเป็นเวินเหลียงกับซือซือตอนนั้นถึงเขาจะยังไม่ได้กลับประเทศ ทว่าก็คอยติดตามเฟซบุ๊กของถังซือซืออยู่ตลอด มักเข้าไปส่องบ่อย ๆ จึงรู้ว่าเธอเคยไปซิดนีย์เป็นเพื่อนเวินเหลียงมาก่อนเธอไม่มีทางปล่อยให้ตัวเองถูกเอาเปรียบ ทว่าก็ไม่มีทางหยามคนอื่นโดยไม่มีเหตุผล เรื่องนี้ต้องมีที่มาที่ไปแน่นอนนอกจากนี้ ที่บอกว่าขู่ให้ตกใจจากปากของอิเลียไม่น่าเชื่อถือเลยแม้แต่น้อยมนุษย์เราล้วนเลือกที่จะพูดในด้านที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเอง ก็เหมือนกับที่ก่อนหน้านี้อิเลียเคยให้คนไปทำให้คนอื่นขาหักข้างหนัก แต่ดันบอกว่าคนคนนั้นได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยอิเลียไม่กล้าเชื่อ “ต่อให
และมาครั้งนี้อีก อิเลียถูกตบตีจนอยู่ในสภาพนี้ เขากลับยังเข้าข้างเฟย์!ดูท่าคิดจะเขี่ยเฟย์ออกไปจากใจเขา ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย!อิเลียกลับไปที่บ้านของเซี่ยเจินทั้งใบหน้าแบบนี้เซี่ยเจินมีลูกชายหนึ่งคนลูกสาวหนึ่งคน ลูกชายแต่งงานและย้ายออกไปกับภรรยาแล้ว ส่วนลูกสาวไปเรียนแลกเปลี่ยนอยู่ที่ต่างประเทศเซี่ยเจินงานยุ่งรัดตัว คุณนายเซี่ยเองก็ดำรงตำแหน่งสำคัญอยู่ในกระทรวงหนึ่ง ที่บ้านจึงมักไม่ค่อยมีคนอยู่เมื่อถึงตอนค่ำ สองสามีภรรยาเซี่ยเจินก็กลับมา อิเลียอดรนทนไม่ไหวที่จะเล่าเหตุการณ์ให้เซี่ยเจินฟัง และซ่อนเร้นปัจจัยที่ไม่เป็นผลดีกับตัวเองเอาไว้ เธอเอ่ยขึ้นอย่างออดอ้อนว่า “คุณลุงคุณป้าคะ พวกคุณลุงต้องจัดการให้หนูนะคะ!”คุณนายเซี่ยลูบหว่างคิ้วพร้อมมองเซี่ยเจินอย่างเหนื่อยล้าเซี่ยเจินเงยหน้ามองอิเลียภายใต้บุคลิกภายนอกที่สง่างามและอบอุ่น นัยน์ตาทั้งสองลึกซึ้งจนยากจะคาดเดา แฝงความรู้สึกกดดันที่แข็งแกร่งเอาไว้ ราวกับไม่ว่าความลับใดก็ไม่มีที่ให้ปิดบังเมื่ออยู่ต่อหน้าเขาหมัดของอิเลียถูกกำเข้าหากันแน่นโดยไม่รู้ตัว ในมือมีเหงื่อซึมขึ้นมาชั้นหนึ่ง“คุณลุง...”“ทั้งหมดที่เธอพูดมาเป็นความจริงหรื
หลังฟู่เจิงออกมาจากคุกอย่างสวัสดิภาพ งานแต่งงานของฟู่เซิงและเซี่ยหมิ่นก็ถูกกำหนดขึ้นมาอีกครั้งทว่าท้องของเซี่ยหมิ่นออกอย่างชัดเจนแล้วงานแต่งงานจัดอย่างเรียบง่ายหนึ่งคิดว่าเจ้าสาวเข้าพิธีทั้งท้องโต ผิวเผินดูไม่งามนักสองกลัวว่าหากซับซ้อนเกินไป เจ้าสาวจะเหนื่อยและกระทบไปถึงลูกในท้องของเธอเซี่ยหมิ่นไม่พอใจ ทว่าเธอก็ไม่มีสิทธิ์ออกเสียงอะไรอีกอย่างหากเธอยืนกรานจะจัดให้ใหญ่กว่านี้อีกหน่อย ก็จะเห็นได้ชัดว่าเธอราวกับไม่สนใจลูกอย่างนั้นรถเจ้าบ่าวออกเดินทางจากเจียงเฉิงตีห้ากว่า ๆ หลังรับเจ้าสาวกลับมาก็เป็นเวลาแปดโมงแล้วเซี่ยหมิ่นสวมชุดแต่งงานซิ่วเหอสีแดงที่แสนงดงามและประณีต ส่วนฟู่เซิงอยู่ในชุดสูทเรียบไร้รอยยับ ทั้งสองคนนั่งอยู่ด้วยกัน กำลังคำนับอยู่ท่ามกลางเสียงตะโกนของผู้หลักผู้ใหญ่หลังจากนั้นฟู่เซิงก็ประคองเซี่ยหมิ่นเข้าไปในห้องหอเวินเหลียงในฐานะคนตระกูลฟู่ เธอต้อนรับแขกที่มาส่งตัวเจ้าสาวอยู่กับซูชิงอวิ๋นและบรรดาสะใภ้ญาติสนิทสิบโมงกว่า ทุกคนก็ออกเดินทางไปยังโรงแรมพร้อมกันแม้จะบอกว่าจัดพิธีแต่งงานอย่างเรียบง่าย ทว่าโรงแรมที่จัดงานแต่งงาน การตกแต่งทั้งหมด ยังคงโอ่อ่าตระกา
เธอเพิ่งมารู้เอาตอนนี้เอง ไม่คิดว่าจะเป็นลูกพี่ลูกน้องของเวินเหลียงพ่อของเวินเหลียงจากไปแล้ว เธอถูกตระกูลฟู่รับเลี้ยง เรียกว่าลูกพี่ลูกน้องต้องเป็นคนตระกูลฟู่แน่นอนเพราะฉะนั้น วันนี้ฟู่เจิงเองก็อยู่ที่งานด้วยเมื่อนึกถึงข้อตกลงที่เธอเคยทำร่วมกับฟู่เจิง เซี่ยหมิ่นก็ชำเลืองมองเวินเหลียงที่อยู่ข้าง ๆ ทีหนึ่ง พลางกำหมัดขึ้นมาโดยไม่ทันได้รู้ตัว ในใจเกิดความกระวนกระวายขึ้นมาเวินเหลียงนำทั้งสองคนเข้าไปในโถง เรียกให้พวกเขาหาที่นั่งนั่งลงเมื่อเห็นว่าแขกมากันพอประมาณแล้ว เวินเหลียงถึงได้เดินไปยังโต๊ะกลมที่อยู่ข้างเวทีรูปตัวทีคนที่นั่งอยู่ในโต๊ะนี้เป็นคนตระกูลฟู่ มีคุณหญิง ซูชิงอวิ๋น ฟู่รุ่ย และยังมีบรรดาสะใภ้ญาติสนิทอีกสองสามคนฟู่ชิงเยว่นั่งอยู่ทางซ้ายของคุณหญิงเมื่อเวินเหลียงมาถึงยังข้างโต๊ะ ก็มาหยุดตรงที่นั่งที่มีเก้าอี้คั่นจากฟู่ชิงเยว่หนึ่งที่นั่ง เธอลากเก้าอี้ออกมาและนั่งลงไป ที่นั่งตรงกลางซึ่งติดกับฟู่ชิงเยว่นั้นเว้นเอาไว้ให้ฟู่เจิงฟูชิงเยว่มองเวินเหลียงทีหนึ่ง ก่อนจะหัวเราะเยาะออกมาไม่มีมารยาทเลยสักนิด!เสียงนั้นดึงดูดบรรดาญาติสะใภ้ให้มองมาที่เวินเหลียงอย่างคลุมเครือ
เจ้าสาวสวมชุดแต่งงานแสนหรูหรา เดินประคองลูกคนรองของตระกูลเซี่ยเข้ามาจากด้านนอกหลังเจ้าบ่าวและเจ้าสาวแลกแหวนกันเรียบร้อยแล้ว ก็ลงมาด่านล่างเวทียกน้ำชาให้กับพ่อสามีแม่สามีและพ่อตาแม่ยายตำแหน่งของเซี่ยมู่อยู่ฝั่งตรงกันข้าม ถูกกระเช้าดอกไม้อันสวยงามบนเวทีตัวทีบังพอดิบพอดี ได้ยินเพียงเสียงหลังยกน้ำชาเสร็จ เจ้าบ่าวเจ้าสาวก็ขึ้นไปถ่ายรูปรวมกับผู้ใหญ่ทั้งสี่ท่านเซี่ยมู่กะพริบตาทำไมแม่ของผู้จัดการฟู่ถึงได้หน้าตาเหมือนป้าเจ้าของบ้านที่เธออยู่เลยนะ?ลูกคนโตตระกูลเซี่ยเองก็จำได้ เขากดเสียงต่ำเอ่ยกับเซี่ยมู่ว่า “เซี่ยมู่ ลูกว่าคนนั้นเหมือนเจ้าของบ้านเราไหม?”“เหมือนมากค่ะ”หลังเสร็จพิธีแต่งงาน เจ้าบ่าวเจ้าสาวก็ลงจากเวที พนักงานเสิร์ฟเริ่มเสิร์ฟอาหารเจ้าสาวกำลังตั้งท้องอยู่ จึงไม่จำเป็นต้องยกเหล้า แค่ให้เจ้าบ่าวออกหน้าดื่มเป็นเพื่อนผู้ใหญ่ตระกูลเซี่ยสองแก้วหลังดื่มกับคนโต๊ะหนึ่งเสร็จ ฟู่เซิงก็วางแก้วเหล้าไว้บนถาด และหมุนตัวเดินไปยังโต๊ะต่อไปตามการชี้นำของผู้ใหญ่ทันใดนั้นก็เห็นเงาร่างแสนคุ้นเคยข้างโต๊ะ ฝีเท้าของเขาชะงักไปครู่หนึ่ง เขาหรี่ตามองเซี่ยมู่ จากนั้นก็เห็นลูกชายคนโตตระกูลเ
“แน่ใจว่าเป็นเลือดของเธอ?”“ของเธอนั่นแหละครับ ไม่เชื่อคุณก็ไปดูกล้องวงจรปิดสิ!” พนักงานเสิร์ฟคนนั้นตอบฟู่เยว่เพียงฉีกยิ้มทว่าไม่ได้พูดอะไรต่อ จากนั้นก็ล้วงบัตรเอทีเอ็มใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อแล้วส่งให้พนักงานเสิร์ฟ “ไม่มีรหัส”พูดจบเธอก็เอาขวดแก้วใส่เข้าไปในกระเป๋าเสื้อ ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไป...“เราขอตัวกลับก่อนนะ”หลังเวินเหลียงขึ้นไปบนรถก็บอกกับคนขับรถว่า “ออกไปดูหน่อยค่ะว่าแถวนี้มีคลินิกหรือเปล่า”คนขับรถขานรับก็สตาร์ตรถขับออกไปวันนี้ฤกษ์งามยามดี คนที่จัดงานแต่งมีเยอะเป็นพิเศษใกล้ ๆ โรงแรมทุกที่เต็มไปด้วยรถยนต์ส่วนตัว รถติดหนักถนนเส้นนี้เป็นถนนไม่ยาวมาก ทว่าใช้เวลาเดินทางถึงสิบนาทีเวินเหลียงตั้งใจดูบาดแผลของตัวเอง ทั้งหมดมีสี่จุด บนน่องหนักที่สุดเธอขมวดคิ้วเล็กน้อยจู่ ๆ ก็รู้สึกปวดที่ท้อวขึ้นมา เจ็บไม่มากทว่าทำให้เธอเหงื่อเย็นไหลท่วม“เดี๋ยวก่อนค่ะ ไปโรงพยาบาลดีกว่าค่ะ” เธอนั่งพิงเบาะหลังพร้อมเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนแรงยังไงไปตรวจสักหน่อยแล้วกันดังนั้นคนขับรถจึงกลับหัวไปโรงพยาบาลเวินเหลียงบอกอาการของตัวเองกับพยาบาลซักประวัติอย่างละเอียด พยาบาลซักประวัติมองเ
อิเลียลุกขึ้นพรวด พลางมองเยี่ยนหวยอย่างเหลือเชื่อ“ถ้าเธอยังเห็นฉันเป็นพี่ชายของเธออยู่ ก็เชื่อฟังฉัน แล้วกลับไปเมืองฟิลาเดลเฟียพรุ่งนี้ซะ!” เยี่ยนหวยนั่งตัวตรงพลางเงยหน้ามองเธออยู่บนโซฟา“ฉันไม่กลับ!” อิเลียเดือดดาลจนแค่นเสียงฮึออกมาทีหนึ่ง ก่อนจะกลับไปนั่งตรงมุมโซฟา “อยากกลับพี่ก็กลับไปเองซะเลยสิ!”“ฟู่เจิงไม่ใช่คนดี ต่อให้ระหว่างพวกเธอมีลูกด้วยกัน เขาก็ไม่มีทางคบกับเธอ”ก่อนหน้านี้ฟู่เจิงเคยมีเรื่องอื้อฉาวว่ามีชู้ ตอนนี้ก็มีอดีตภรรยาที่มีความสัมพันธ์คลุมเครือมาอีกคน ขอให้เป็นผู้ใหญ่ที่รักลูกสาว ก็จะไม่มีวันเลือกเขาทั้งนั้น“พี่รู้ได้ยังไงว่าเขาไม่ใช่คนดี? พี่รู้ได้ไงว่าเขาจะไม่คบกับฉัน? วันนี้ตอนเที่ยงเรายังไปกินข้าวด้วยกันอยู่เลย!”เมื่อเห็นอิเลียดื้อดึง ในใจของเยียนหวยก็รู้สึกไม่ได้ดั่งใจ เขาแสยะยิ้มออกมาทีหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยว่า “พวกเธอไม่ได้ไปกินข้าวด้วยกันตามลำพัง แต่ฟู่ซือฝานอยู่ข้าง ๆ ใช่ไหม?”ในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ ฟู่เจิงจะมากินข้าวกับอิเลียตามลำพังได้ยังไง? นอกเสียจากเขาคิดจะเลิกกับเวินเหลียงจริง ๆ“...ใช่ ก็เขาเป็นลูกของพวกเรานี่” เมื่อเห็นว่าถูกเดาทางถูก อิเลียก็พูดอึ
แต่หลังจากเดินตามแผนแล้วถึงได้พบว่า นี่มันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลยถ้าพ่อแม่คุณลุงคุณป้ารู้ว่าเธอมีลูกนอกสมรสข้างนอก ต้องเข้ามาแทรก และไม่แน่ว่าจะพาตัวเธอกับลูกกลับไป“อิเลีย ผมเข้าใจนะครับคุณในฐานะแม่แท้ ๆ คุณอยากรีบกระชับความสัมพันธ์กับฝานฝาน แต่ก็อย่าตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูก โดยเฉพาะมักจะไปหาฝานฝานที่โรงเรียนอนุบาล แบบนี้จะส่งผลกระทบกับชีวิตของเธอได้นะครับ”“ฉันรู้แล้วค่ะ ต่อไปจะไม่ไปหาเขาที่โรงเรียนอนุบาลอีก ฉันเห็นว่าคุณกินน้อยมาก อาหารที่เหลือไม่ถูกปากหรือเปล่า?”ฟู่เจิง “...ก่อนมาผมกินมาบ้างแล้ว”หลังกินข้าวเที่ยงเสร็จ ฟู่ซือฝานรบเร้าขอกลับกับฟู่เจิงเธอล้วงกลยุทธ์ร้องไห้งอแงชักดิ้นชักงออยู่ที่พื้นของเด็กห้าขวบออกมาอย่างล้ำลึก ไม่มีเหตุผล ทว่าอิเลียฝืนเธอไม่ได้อิเลียทำได้เพียงกลับไปที่บ้านของเซี่ยเจิน“อิเลีย เธอกลับมาแล้วเหรอ?”เมื่อเห็นอลิซนั่งอยู่บนโซฟา อิเลียเดินมานั่งลง “เป็นยังไงบ้าง? ครั้งนี้เธอไปเมืองซีกับซีซาร์ ได้แสร้งทำเป็นเจอโดยบังเอิญ แล้วไปกินข้าวกับเขาอะไรหรือเปล่า?”อลิซเบะปาก “เปล่า”“ทำไมล่ะ? โอกาสดีขนาดนั้นทำไมเธอไม่คว้าเอาไว้?”“เขางานยุ่งมาก ฉันกล
อิเลียจัดผมด้วยท่าทางราวกับไม่มีเจตนาอื่น หน้าตาเผยความตื่นเต้นออกมาดูท่าเธอจะเลือกวิธีถูกจริง ๆในตอนนี้เธอเพิ่งเข้าใกล้ฟู่ซือฝานไม่เท่าไร ท่าทีของฟู่เจิงเขาก็ผ่อนคลายลงเยอะแล้วผ่านไปยี่สิบนาที ฟู่เจิงก็ปรากฏตัวขึ้นในห้องรับรองนี่เป็นการเจอกันครั้งที่สองหลังจากวันนั้นเขานั่งลงข้าง ๆ ฟู่ซือฝาน พลางพยักหน้าให้อิเลียเบา ๆ “รบกวนแล้ว ไม่ถือสาที่ผมมาร่วมโต๊ะด้วยใช่ไหม?”“ไม่ถือสา นั่งเถอะค่ะ”สีหน้าของอิเลียเย็นชา ราวกับยังอยู่ต่อหน้าคุณหญิงและฟู่ชิงเยว่ครั้งก่อน เธอไม่ได้โกรธที่ฟู่เจิงปฏิเสธเธออย่างไร้ความปรานี“งานผมยุ่งมาก ยากที่จะใส่ใจคุณกับฝานฝานได้มากขนาดนั้น”“ฝานฝานเป็นลูกของฉัน นี่เป็นสิ่งที่สมควรอยู่แล้ว ฉันไม่รู้ว่าคุณจะมา ก็เลยสั่งอาหารไปสุ่ม ๆ เดี๋ยวอาหารมาเสิร์ฟคุณก็ดูแล้วกันว่าอยากจะสั่งเพิ่มไหม”“ผมไม่เลือกกิน” ฟู่เจิงตอบจากนั้นพนักงานก็เริ่มมาเสิร์ฟอาหารฟู่เจิงมองเนื้อแพะที่มาเสิร์ฟเต็มโต๊ะ เขาเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก้มหน้าไปมองฟู่ซือฝานฟู่ซือฝานก้มศีรษะน้อย ๆ อย่างกระวนกระวายอิเลียหยิบตะเกียบขึ้นมา “ไม่ต้องเกรงใจ กินเลยค่ะ”ฟู่เจิงลังเลอยู่ครู่หนึ่
เจียงเฉิงเที่ยงวันศุกร์ อิเลียไปรับฟู่ซือฝานออกไปกินข้าวเที่ยงที่คฤหาสน์ย่านซิงเหอวานเธอฉีกยิ้มพลางพูดกับฟู่ซือฝานว่า “เมื่อวานแม่ว่าจะไปรับหนูที่โรงเรียนอนุบาล จู่ ๆ ก็นึกถึงคำพูดของหนูเมื่อครั้งก่อนได้ ก็เลยมาวันนี้ วันนี้ตอนบ่ายแม่จะพาหนูไปเล่นดี ๆ เป็นยังไงจ๊ะ?”ฟู่ซือฝานเอียงคอพลางครุ่นคิด “ตอนบ่ายหนูต้องทำการบ้าน แค่กินข้าวเที่ยงก็พอแล้วค่ะ”“ก็ได้ งั้นหนูคิดไว้หรือเปล่าว่าอยากกินอะไร?”“ไปร้านอาหารที่มีเมนูเนื้อแพะแนะนำแล้วกันค่ะ” ฟู่ซือฝานเอ่ยขึ้นด้วยทีท่าจริงจัง “วันนี้คุณลุงบอกว่าจะไปกินข้าวเที่ยงเป็นเพื่อนหนู ไม่รู้ว่าจะมาไหม”นัยน์ตาอิเลียวาบความปลื้มปีติออกมา “จริงเหรอ?”“เขาเคยบอกไว้แบบนี้ค่ะ คุณน้าคะ ที่คุณน้ารับหนูออกมา ไม่ใช่เป็นเพราะอยากกระชับความสัมพันธ์กับหนูสองต่อสองเหรอคะ? ทำไมถึงหวังให้คุณลุงมาด้วยล่ะคะ?”เจ้าตัวน้อยเอ่ยถามขึ้นด้วยใบหน้าจริงจัง“น้า...น้ามีเรื่องอยากพูดคุยกับพ่อของหนูน่ะ แล้วก็หวังว่าเราจะได้กินข้าวด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัว” อิเลียรีบหาข้ออ้างทันทีเจ้าเด็กคนนี้ หูตาเฉียบแหลมจริง ๆ“อ้อ”“น้าจะหาร้านอาหารเนื้อแพะเดี๋ยวน
“เรียกฉันทำไม?” เยี่ยนหวยมองเธอด้วยสีหน้าไร้เดียงสา“ตอนนี้มันฤดูร้อน”ผ่านฤดูใบไม้ผลิมาแล้ว“ฉันแค่นึกถึงวันนั้นที่ไปติวให้เธอแล้วเจอแม่เธอเข้าโดยบังเอิญ เธอคิดไปถึงไหน?” เยี่ยนหวยเลิกคิ้วถังซือซือชะงักไปมีครั้งหนึ่งตอนที่เธอติวอยู่ในบ้าน แล้วบังเอิญเจอแม่ของเธอเข้าจริง ๆ แต่นั่นมันเรื่องตอนเทอมที่สองเยี่ยนหวยต้องจงใจพูดถึงวันนั้นตอนเทอมแรกแน่ ๆ ให้เธอเข้าใจผิดถ้าเธอชี้ไปเลยว่าเยี่ยนหวยจำผิด ก็จะเข้าแผนของเยี่ยนหวย เหมือนว่าเธอยังไม่เคยลืมเรื่องในอดีต คิดถึงเรื่องราวเหล่านั้นของเธอกับเยี่ยนหวยอยู่ตลอด“ตอนนี้ไม่ใช่ฤดูร้อนเหรอ? นายคิดไปถึงไหนอีก?” เธอปัดตกเรื่องนี้ไปอย่างมั่นใจทันทีหลังพูดจบ เธอก็หมุนตัวเดินไปด้านหน้าต่อ “ไม่พูดแล้ว รีบไปร้านถัดไปเถอะ”อยู่ข้างนอกจนถึงสี่ทุ่ม ทั้งสองคนถึงกลับไปยังโรงแรมด้วยกันถังซือซืออยากเรียกรถกลับไปเอง ไม่อยากให้เยี่ยนหวยไปส่งเธอเยี่ยนหวยจึงเอ่ยไปตามตรงว่า “ฉันพักอยู่ที่โรงแรมเดียวกันกับเธอ”ถังซือซือ “...”นี่ไม่ใช่ครั้งแรกแล้วคราวก่อนตอนที่เวินเหลียงถ่ายรูปเยี่ยนหวยรูปแรกที่เมืองฟิลาเดลเฟีย เวินเหลียงก็ถามว่าช่วงนี้เยี่ยนหวย
เมืองซีในฐานะเมืองใหญ่ของเจียงหนาน ประเภทของกินเล่นมีมากมาย ของกินเอกลักษณ์ที่ขึ้นชื่อไปทั่วประเทศอาทิ เต้าหู้เหม็น ไส้กรอกยักษ์ เส้นหมีเฝิ่น กุ้งเผ็ดเป็นต้นถังซือซือเคยมาเมืองซีตอนมาทำงานต่างถิ่นก่อนหน้านี้ เวลาค่อนข้างกระชั้นชิด จึงทำได้เพียงเดินช็อปปิงที่อื่น แต่เพิ่งเคยมาถนนคนเดินที่นี่เป็นครั้งแรกเธอซื้อไส้กรอกยักษ์สองชิ้นก่อน และแบ่งให้เยี่ยนหวยหนึ่งชิ้นกินไปได้เพียงครึ่งเดียว ถังซือซือก็หยุดอยู่ตรงหน้าร้านขายขนมฉือปา เธอกลืนน้ำลายแล้วถามขึ้นว่า “รู้ไหมคะว่าตรงไหนมีถังขยะบ้าง?”“ที่เหลือเธอไม่กินแล้วเหรอ?”“อืม”“ไม่อร่อย?”“ไม่ใช่ อร่อยมาก แต่ว่ายังมีของอร่อยอื่น ๆ อีกเยอะแยะ ฉันอยากเก็บท้องเอาไว้”เยี่ยนหวย “...”“เอามาให้ฉันก็ได้” เยี่ยนหวยรับไส้กรอกครึ่งชิ้นที่เหลืออยู่มาจากในมือของเธอ ก่อนจะเติมเข้าไปในท้องอย่างไม่มีภาระใด ๆถังซือซือซื้อขนมฉือปาแล้วเธอทำตัวอย่างกับโจร แต่ละร้านไม่ยอมปล่อยไปเลย ทว่าก็ชิมเพียงสองสามคำ ทั้งหมดที่เหลือก็โยนให้เยี่ยนหวยอย่างสบายใจเยี่ยนหวยเพลิดเพลินกับพฤติกรรมพรรค์นี้ ในใจเข้าใจได้ในทันที ราวกับกลับไปเมื่อเจ็ดปีก่อนหลังเรียนอย
“มันเรื่องอะไรกันแน่?”ก่อนหน้านี้ที่เยี่ยนหวยอยู่ที่เจียงเฉิง กลับไม่ได้สังเกตเท่าไรว่าอิเลียกำลังทำอะไรอยู่ เธอออกไปข้างนอกทุกวัน เยี่ยนหวยคิดเพียงแค่ว่าเธอกำลังไปเที่ยวเล่นถังซือซือไม่ใช่คนที่จะกุเรื่องมั่วซั่ว เธอพูดแบบนี้ ต้องรู้อะไรบางอย่างแน่ ๆ“พูดไปแล้วก็ยาว ตอนแรกฟู่ชิงเยว่อาของฟู่เจิงรับเลี้ยงเด็กกำพร้าอยู่ที่เมืองนอก ตอนนี้อายุห้าขวบแล้ว ปีที่แล้วอาเหลียงแท้ง แล้วฟู่ชิงเยว่ติดธุระพอดี เลยส่งเด็กคนนั้นกลับประเทศมาให้ฟู่เจิงดูแลช่วงหนึ่ง ฟู่เจิงเลยให้เด็กคนนั้นอยู่ในประเทศไปเลยเพื่อง้ออาเหลียง ปกติจะมาอยู่เป็นเพื่อนอาเหลียง และเด็กคนนั้นเองก็เข้าไปอยู่ในทะเบียนบ้านของฟู่เจิง แต่ว่า...”เยี่ยนหวยเดาเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อไปออกแล้ว จึงรับช่วงเอ่ยขึ้นต่อว่า “แต่ว่าจู่ ๆ ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวบอกว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นลูกของฟู่เจิงกับอิเลีย?”“ใช่ รายละเอียดฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน เหมือนว่าจะเกี่ยวข้องกับอาของฟู่เจิงนิดหน่อย เธอรู้ตัวตนของเด็กผู้หญิงคนนั้นมาตั้งแต่แรก และไม่ชอบอาเหลียงมาโดยตลอด ยังไงตอนนี้อาเหลียงก็อยู่กับฉัน เขากับฟู่เจิงทะเลาะกันอีกแล้ว”เยี่ยนหวยเอ่ยควา
“เยี่ยนหวย!!”ประตูลิฟต์เปิดออก ทั้งสองคนเข้าไปกันตามลำดับ แล้วลงไปยังลานจอดรถใต้ดินตรงมุมเลี้ยว ในหัวของผู้หญิงสวมหน้ากากอนามัยวาบภาพที่เห็นเมื่อครู่ขึ้นมา หมัดที่ห้อยอยู่กำขึ้นแน่น เธอก้มหน้าทั้งดวงตาที่ประกายความอำมหิตออกมาหากเวินเหลียงอยู่ตรงนี้ คงจะจำได้แน่ ๆ ว่าผู้หญิงที่สวมหน้ากากอนามัยคนนี้ก็คืออลิซที่เธอมาเจียงเฉิง ก็เพราะเยี่ยนหวย เยี่ยนหวยมาเมืองซีเมื่อสองวันก่อน เธอเองก็ตามมาเช่นกันอิเลียถามเลขาของเยี่ยนหวย เมื่อรู้โรงแรมของเขาก็บอกกับอลิซทีแรกอลิซคิดว่าเยี่ยนหวยมาทำธุระที่เมืองซี จากนั้นก็ค่อย ๆ พบว่ามันไม่ชอบมาพากลเยี่ยนหวยไม่ยุ่งเลยสักนิดแถมยังมีเวลาไปสอบถามร้านอาหารท้องถิ่น ถนนคนเดิน จุดชมวิวของเมืองซีเป็นต้น อีกต่างหาก ไม่เหมือนมาทำงานต่างถิ่น แต่เหมือนมาเที่ยวเสียมากกว่าจนกระทั่งวันนี้ เมื่อได้เห็นภาพนั้น อลิซถึงเข้าใจทุกอย่างที่แท้คนที่ซีซาร์ชอบไม่ใช่เฟย์ แต่เป็นถังซือซือเพื่อนของเฟย์!ที่แท้เขาไม่ได้มาทำงานต่างถิ่นที่เมืองซี แต่มาเพื่อตามจีบถังซือซือ!ที่เขาสอบถามร้านอาหารและจุดชมวิวของเมืองซี ก็เพื่อพาถังซือซือไปวันนี้!ในใจอลิซอิจฉาเป็นอย่างม
เมื่อเยี่ยนหวยได้ยินดังนั้น ก็รู้ในทันทีว่าเวินเหลียงไม่ได้รักษาคำมั่นสัญญาแต่เขาก็เตรียมตัวไว้นานแล้ว วันนั้นหลังจากกลับไปก็ให้คนไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด แล้วตัดคลิปมาใส่ไว้ในโทรศัพท์เมื่อได้ยินถังซือซือถามขึ้น เขาก็รีบส่งให้เธอทันที “ก็แค่คนที่ไม่สลักสำคัญอะไรคนหนึ่ง ฉันปฏิเสธเขาไปแล้ว”ถังซือซือดูคลิปรอบหนึ่ง ก่อนจะเบะปาก “อยู่ต่างประเทศคุณเยี่ยนมีสาวมาชอบเพียบเลยนะคะ”“แต่ฉันสนใจอยากจะครอบครองแค่เธอ”“จะยอมให้ฉันครอบครองไหม คุณถัง?”เยี่ยนหวยนั่งเอี้ยวตัว แขนข้างหนึ่งพาดอยู่บนพนักพิงเก้าอี้ เขาโน้มตัวเข้ามา ตัวท่อนบนใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ กลิ่นหอมฉุยจาง ๆ และกลิ่นอายของชายหนุ่มที่มาพร้อมกับการบุกรุกโอบล้อมเธอเอาไว้เขาดันแว่นตากรอบทอง สีหน้าอบอุ่น ฉีกยิ้มทว่าก็ราวกับไม่ยิ้ม มุมปากกระตุกรอยยิ้มเล็กน้อย ค่อนข้างมีความรู้สึกประเภทหน้าเนื้อใจเสือถังซือซือเหม่อไปครู่หนึ่ง“คุณถัง?”ใบหน้าหล่อเหลาตรงหน้าขยายใหญ่ขึ้นอีกครั้ง ไออุ่นร้อนปะทะเข้ามาที่หน้า ในที่สุดถังซือซือก็ได้สติกลับมา เธอเอนหลังพลางตบหน้าอก “นายทำฉันตกใจหมด...ไป ไปเดินหาของกินเล่นกันเถอะ”เธอลุกขึ้นและเดินออกไปอย่าง