หลังเครื่องบินเทคออฟ ฟู่เจิงยังคงจมดิ่งอยู่กับการทำงาน มีเพียงตอบว่าไม่ต้องการในตอนที่แอร์โฮสเตสถามว่าเขาต้องการเครื่องดื่มหรืออาหารหรือไม่อิเลียมองฟู่เจิงทีหนึ่ง เธอกัดริมฝีปากแล้วเอ่ยกับแอร์โฮสเตสด้วยน้ำเสียงหวานหยาดเยิ้มว่า “ขอนมให้ฉันแก้วหนึ่งค่ะ”พูดจบเธอก็ชำเลืองมองไปทางฟู่เจิง ทว่าเห็นฟู่เจิงยังคงมองหน้าจอของโน้ตบุ๊กอย่างใจจดใจจ่ออยู่อย่างเดิม ไม่มีวี่แววว่าจะสนใจเธอเลยอิเลียเบะปากเธออดรนทนไม่ไหวที่จะสร้างสถานการณ์เล็ก ๆ ขึ้นมาเพื่อดึงดูดความสนใจของคนข้าง ๆ ทว่าก็ยังคงไม่ได้ผลอยู่ดีผ่านไปครึ่งชั่วโมง เธอก็ขอข้าวกล่องกับแอร์โฮสเตสอีกครั้งหลังกินเสร็จก็ให้แอร์โฮสเตสมาช่วยเก็บขยะเมื่อเห็นฟู่เจิงยังสนใจอยู่กับงานอย่างเดิม ภายใต้ความร้อนใจของอิเลีย เธอก็คิดออกวิธีหนึ่งเธอล้วงลิปสติกกับกระจกออกมาจากในกระเป๋า แสร้งทำเป็นเติมหน้าทันใดนั้นเธอก็ทำเป็นหลุดมือ ลิปสติกในมือหล่นลงบนพื้น กลิ้งไปข้างเท้าของฟู่เจิงอิเลียกระตุกริมฝีปาก พลันทำเป็นเรียบเฉยแล้วเอ่ยกับฟู่เจิงว่า “คุณผู้ชายคะ ช่วยเก็บลิปสติกให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ?”ในที่สุดฟู่เจิงก็ตอบสนองเขาเบนความสนใจออกมาจากงาน ม
ส่วนคุณหญิงกับฟู่ซือฝานเพิ่งกลับเจียงเฉิงมาเมื่อสองวันก่อน ยังไม่ได้เจอฟู่เจิงฟู่เจิงฉวยโอกาสอุ้มเธอขึ้นมา พลางเอ่ยขึ้นทั้งยิ้มแย้มว่า “ลุงก็คิดถึงเธอเหมือนกัน”ฟู่ซือฝานโอบคอของฟู่เจิง แล้วจูบลงบนหน้าฟู่เจิงทีหนึ่ง ปากน้อย ๆ พูดเป็นต่อยหอยไม่หยุด “คุณลุง ๆ หนูคิดถึงคุณลุงมากจริง ๆ ก่อนหน้านี้คุณลุงไปไหนมากันแน่?”“ลุงแค่งานยุ่งแค่นั้นเอง” ฟู่เจิงปลดกระเป๋าเป้ออกให้ฟู่ซือฝานพลางอุ้มเธอเข้าไปนั่งในรถ“แล้วตอนนี้คุณลุงไม่ยุ่งแล้วเหรอคะ? ยังต้องไปอีกไหม?”ฟู่ซือฝานมองเขาอย่างอาลัยอาวรณ์ ดวงตากลมโตกะพริบปริบ ๆ“ลุงไม่ไปไหนแล้ว หลังจากนี้ก็เหมือนเมื่อก่อนโอเคไหม?”ฟู่ซือฝานฉีกยิ้มอย่างมีความสุข “โอเคค่ะ”ยิ้มไป ๆ จู่ ๆ เธอก็หงอย บนใบหน้าน้อย ๆ เผยสีหน้าของความปวดใจออกมา “แต่ว่า...คุณป้าสะใภ้ยังกลับมาไหมคะ? หืม...หนูคิดถึงคุณป้าสะใภ้”“วางใจเถอะนะ เดี๋ยวอีกสองสามวันคุณป้าสะใภ้ของเธอก็กลับมาแล้ว”ฟู่เจิงลูบศีรษะของฟู่ซือฝาน“จริงเหรอ? จริงเหรอคะ?!”ฟู่ซือฝานมองฟู่เจิงด้วยความตกตะลึง นัยน์ตาประกายวิบวับ “คุณป้าสะใภ้จะกลับมาจริง ๆ เหรอคะ?”ถามว่าจริงเหรอติดต่อกันถึงสามครั้ง เผยควา
“ฮัลโหล ฟู่เจิง?”ขณะที่เวินเหลียงกำลังลังเลว่าจะบอกฟู่เจิงยังไง สายของฟู่เจิงก็โทรเข้ามา“กินข้าวหรือยัง?”“เพิ่งกินเสร็จเลย” เวินเหลียงตอบปลายสายมีเสียงทุ้มต่ำและเต็มไปด้วยแรงดึงดูดของฟู่เจิงแว่วดังขึ้นมา ตามมาด้วยเสียงกดแป้นพิมพ์อยู่เลือนราง ราวกับกำลังทำงานนอกเวลาอยู่ “อาเหลียง จัดการงานเสร็จแล้วใช่ไหม? เมื่อไรจะกลับมา?”สองสามชั่วโมงก่อนหน้า สำนักพิมพ์นิตยสารเอารูปฉบับสมบูรณ์ของฟู่เจิง ซึ่งเป็นรูปที่เขาตัดสินใจเลือกด้วยตัวเองไปตีพิมพ์แล้วเวินเหลียงชะงักไป พลางกระตุกมุมปาก เธอเลี่ยงไม่ตอบ “ตอนนี้ฝานฝานยังอยู่บ้านใหญ่ไหม?”มือใหญ่ ๆ ที่อยู่บนแฟ้นพิมพ์ของฟู่เจิงชะงักไป เมื่อได้ยินว่าเวินเหลียงเปลี่ยนเรื่องคุยอย่างชัดเจน ในใจของเขาก็คาดเดาอะไรบางอย่างได้ เขาเม้มปากแล้วตอบไปว่า “ฉันรับเขามาแล้ว ตั๋วเครื่องบินเธอคือเที่ยวกี่โมง? ถึงเวลานั้นฉันจะได้ไปรับเธอ...อย่าบอกฉันนะว่าเธอกลับมาไม่ได้แล้ว”เวินเหลียงรู้ในทันทีว่าหนีไม่รอดแล้ว จึงถอนหายใจและทำได้เพียงสารภาพไปว่า “ช่วงนี้ฉัน...กลับไปไม่ได้จริง ๆ...”น้ำเสียงอ่อนลงเรื่อย ๆ“ทำไม?” น้ำเสียงของฟู่เจิงพลันเคร่งขรึมขึ้นมา“มีค
บทสนทนาของสองลุงหลานทั้งหมด เข้าไปในหูของเวินเหลียงผ่านไมโครโฟนเธอลอบด่าฟู่เจิงว่าจอมเสี้ยมอยู่ในใจ ปากบอกว่าเห็นด้วย ๆ ทว่าไปปลุกปั่นเจ้าตัวน้อยให้มาโวยวายกับเธออีกแต่ว่าเวินเหลียงไม่ได้เจอเจ้าตัวน้อยมาระยะหนึ่งแล้ว ในใจของเธอก็มีความคิดถึงอยู่หน่อย ๆ เช่นกัน เธอพูดปลอบฝานฝานว่า “ฝานฝาน เธอวางใจนะ รอป้าจัดการการถ่ายทำครั้งนี้เสร็จแล้วจะกลับไปแน่นอน ถึงเวลานั้นเอาของขวัญไปฝากฝานฝานด้วยดีไหม?”เจ้าตัวน้อยเบะปาก “โอเคค่ะ คุณป้าคะ หนูรอคุณป้ากลับมานะคะ”เวินเหลียงคุยกับฟู่ซือฝานต่ออีกครู่หนึ่งป้าหวังอุ้มฟู่ซือฝานไปอาบน้ำเสียงเด็กน้อยในปลายสายหายไปแล้ว เหลือเพียงเสียงของชายหนุ่ม “อาเหลียง เธอ...”ยังไม่รอให้เขาพูดจบ เสียงเครื่องกลแสนเย็นชาก็แว่วดังมาจากปลายสาย ตู๊ด ๆ ๆ...ฟู่เจิง “...”เขาฉีกยิ้มอย่างจนใจก่อนจะวางโทรศัพท์ลงผ่านไปไม่ถึงสองนาที เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้งฟู่เจิงมองแจ้งเตือนที่โชว์ทีหนึ่ง นิ้วหัวแม่มือรีบสไลด์ปุ่มกดรับสายสีเขียวทันที “ฮัลโหล?”“ประธานใหญ่ฟู่คะ เลขาของคุณเซี่ยตอบกลับมาแล้วค่ะ” เสียงของเลขาหยางแว่วดังมาจากปลายสาย“ว่าไงบ้าง?”“พรุ่งนี้ตอน
มองแค่ปราดเดียวฟู่เจิงก็รู้ความคิดของอิเลียอย่างถ่องแท้เธออยากเข้าใกล้เขา แต่เธอหยิ่งยโส แถมเคยถูกเขาพูดจาละลาบละล้วงไปครั้งหนึ่ง ไม่สามารถแบกหน้ามาตามตื๊ออย่างก่อนหน้านี้ได้ ทำได้เพียงพูดอย่างเลี่ยง ๆ ดูย้อนแย้งกันอย่างเห็นได้ชัดพฤติกรรมแบบนี้ ครั้งล่าสุดที่ฟู่เจิงเคยเจอคือตอนที่ยังอยู่มัธยมปลายหญิงสาวคนหนึ่งหาข้ออ้างเอาอาหารเช้ามาให้เขา หลังถูกเขาปฏิเสธ สีหน้าก็แดงกึ่งหนึ่งขาวซีดกึ่งหนึ่ง จากนั้นชิงอาหารเช้าไปแล้วเอ่ยขึ้นอย่างดุเดือดว่า: ไม่กินก็ไม่กิน ฉันไม่ได้อยากจะให้สักหน่อย!หญิงสาวกลับไปนั่งยังที่นั่งของตัวเองอย่างหงุดหงิด ตอนเข้าเรียนก็เอาปากกาด้ามหนึ่งไปถามเขาว่า: นี่ นี่ใช่ปากกาของนายหรือเปล่า? ฉันเก็บได้ที่พื้นเมื่อกี้แค่เห็นก็รู้ได้ในทันที อิเลียเติบโตมาด้วยการถูกโอ๋จากคนในครอบครัวสำหรับฟู่เจิงแล้วคนแบบนี้ก็ยังเป็นเด็กในสายตาเขา เขาไม่มีทางคิดอะไรกับเด็กอยู่แล้ว“แน่นอนว่ามีเรื่องสำคัญสิ” เขาตอบพูดก็เหมือนไม่พูดอิเลียเดือดดาลจะตายอยู่แล้วเธอยังคิดจะถามอะไรอีกนิดหน่อย แล้วพูดคุยกับเขาอีกสักสองสามประโยค ทว่าก็กลัวเขาจะตำหนิเธอมีตาแต่ไร้แววอีกมีเสียงฝีเท้า
อิเลียทำได้เพียงพูดคุยกับเธออย่างอดกลั้นนิสัยเดิมเอาไว้ แสร้งทำเป็นเรียบร้อยเคร่งขรึมหลังผอ.แนะนำเสร็จก็เอ่ยถามขึ้นว่า “คุณอิเลีย คุณอยากมีอะไรอยากทำความเข้าใจหรือเปล่าคะ?”ในที่สุดอิเลียก็ได้โอกาสเอ่ยปาก “ฉันอยากดูสภาพแวดล้อมของห้องเรียนหน่อยน่ะค่ะ”“ได้ค่ะ ฉันจะพาคุณไปเดี๋ยวนี้นะคะ ตอนนี้เด็ก ๆ กำลังเข้าเรียนกันอยู่ พวกเราไปฟังระดับการสอนของคุณครูเรานอกห้องเรียนได้ รับรองว่าคุณต้องพอใจแน่ค่ะ”อิเลียพยักหน้าก่อนจะรีบสาวเท้าตามไปอยู่เบื้องหลังผอ.ผอ.นำอิเลียมายังข้างหน้าต่างนอกห้องเรียนชั้นอนุบาลสาม ก่อนจะแนะนำกับเธอด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “คุณครูเจียงที่อยู่ด้านในเป็นคุณครูโรงเรียนอนุบาลที่เก่งมาก ๆ เคยได้รับรางวัลดีเด่นระดับเมือง...”อิเลียตัดบทพูดของเธอ “ลูกของเพื่อนฉันเพิ่งอายุสี่ขวบ หลังกลับมาน่าจะขึ้นอนุบาลสอง”ผอ.เข้าใจความหมายของเธอ “ได้ค่ะ ฉันจะพาคุณไปดูนะคะ”ชั้นอนุบาลสองมีสองห้อง ผอ.พาอิเลียมายังหน้าห้องอนุบาลสองทับหนึ่ง ปากพลางแนะนำอะไรไปเรื่อยเปื่อยอิเลียไม่ได้ฟังเลย เธอกวาดสายตาไปมองเหล่าเด็ก ๆ ที่อยู่ในห้องเรียนอย่างช่ำชอง ในใจแอบนับอยู่เงียบ ๆ หนึ่ง สอง สาม...
ผอ.มองตามสายตาของอิเลียไป เห็นเธอเอาแต่จ้องฟู่ซือฝานอยู่ตลอด จึงเอ่ยแนะนำว่า “นั่นเป็นลูกของบ้านประธานใหญ่ฟู่ซื่อกรุ๊ปค่ะ ฉลาดรู้ประสามาก ๆ ไม่ต้องบอกเลยว่าไร้กังวลเลยแค่ไหน”ผอ.ชื่นชมฟู่ซือฝานอยู่ยกหนึ่งในโรงเรียนอนุบาลมีเด็กที่ภูมิหลังของครอบครัวมั่นคงอยู่สองสามคน ไม่ทำอะไรไม่เป็นไร ก็เจ้าอารมณ์ เอะอะ ๆ ก็ร้องไห้ฟู่ซือฝานเข้ามาเรียนกลางคันส่วนใหญ่เด็กที่ย้ายโรงเรียนมามักจะอยู่ที่โรงเรียนเดิมไม่ได้ ผอ.เตรียมการรับแพ็คระเบิดเอาไว้เรียบร้อยแล้ว รอครูอนุบาลสองมาร้องทุกข์กับเธอเท่านั้นแต่คิดไม่ถึงเลยว่าเหล่าคุณครูคนหนึ่งชอบฟู่ซือฝานมากกว่าอีกคน ทุกครั้งที่เข้าสอนมักจะชอบเธอยกหนึ่งอีกอย่างเด็กคนนี้เองก็มีมารยาททีเดียว ทุกครั้งที่เจอผอ.ก็มักจะทักทายเธอตลอดอย่างเช่นตอนนี้ ฟู่ซือฝานไม่ได้ไปเล่นกับเพื่อนคนไหน ทว่าเมื่อเห็นผอ.ก็เดินเข้ามาทักทายกับเธอ “คุณน้าผอ.สวัสดีค่ะ”น้ำเสียงเด็กน้อยแสนไร้เดียงสา ทั้งเชื่อฟังและทั้งอ่อนโยน หัวใจของคุณน้าผอ.ก็ละลายไปหมดแล้ว “หนูฝานฝาน ทำไมหนูไม่ไปเล่นกับเพื่อน ๆ ล่ะ?”“หนู...หนูจะไปเดี๋ยวนี้ค่ะ”ฟู่ซือฝานมองอิเลียที่อยู่ข้าง ๆ ผอ. อย่างประหลา
“ได้รับการไหว้วานจากคุณอาของผม?” ฟู่เจิงพูดซ้ำอีกรอบหนึ่ง ในน้ำเสียงเผยความสงสัยออกมา“ใช่ค่ะ ฉันกับคุณฟู่สนิทกัน ไม่เชื่อคุณก็โทรไปถามเธอสิคะ!”อิเลียเอ่ยขึ้นฉะฉาน “ครั้งนี้ฉันกลับมาเยี่ยมญาติ เธอเลยให้ฉันช่วยมาดูคุณหญิงกับฝานฝานให้เธอหน่อย”ฟู่เจิงเงยหน้ามองเธอ ทว่าไม่ได้พูดอะไร ละเลยจากสายตานั้นไม่ได้ง่าย ๆ แต่ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่อิเลียถูกมองจนระส่ำระส่าย จำใจนั่งอยู่ที่เดิมพลางเบือนสายตาหนี แล้วเอ่ยกับฟู่ซือฝานว่า “ฝานฝาน เธอคิดถึงคุณย่าของเธอหรือเปล่า?”ฟู่ซือฝานมองไปที่ฟู่เจิง ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้า“อาเจิง” คุณหญิงมองฟู่เจิงอย่างไม่เห็นด้วยถึงยังไงอิเลียก็เป็นแขก มิหนำซ้ำยังมาเยี่ยมเธออีก ยังไงก็ต้องรับรองฟู่เจิงก้มหน้าก้มตา ไม่ได้พูดอะไรอีก ก่อนจะนั่งลงบนโซฟาเดี่ยวข้าง ๆป้าแม่บ้านออกมาจากห้องครัว แล้วบอกชื่ออาหารที่ฟู่เจิงและฟู่ซือฝานชอบกินสองสามอย่าง ก่อนจะถามขึ้นอีกว่า “คุณอิเลีย คุณชอบทานอะไรคะ? ฉันทำให้คุณได้ค่ะ”ดูจากความหมายของป้าแม่บ้าน คุณหญิงตัดสินใจว่าจะให้อิเลียอยู่กินข้าวเที่ยงที่นี่ต่อตั้งแต่ก่อนที่พวกเขาจะมาแล้วอิเลียมาโดยการอ้างว
อิเลียลุกขึ้นพรวด พลางมองเยี่ยนหวยอย่างเหลือเชื่อ“ถ้าเธอยังเห็นฉันเป็นพี่ชายของเธออยู่ ก็เชื่อฟังฉัน แล้วกลับไปเมืองฟิลาเดลเฟียพรุ่งนี้ซะ!” เยี่ยนหวยนั่งตัวตรงพลางเงยหน้ามองเธออยู่บนโซฟา“ฉันไม่กลับ!” อิเลียเดือดดาลจนแค่นเสียงฮึออกมาทีหนึ่ง ก่อนจะกลับไปนั่งตรงมุมโซฟา “อยากกลับพี่ก็กลับไปเองซะเลยสิ!”“ฟู่เจิงไม่ใช่คนดี ต่อให้ระหว่างพวกเธอมีลูกด้วยกัน เขาก็ไม่มีทางคบกับเธอ”ก่อนหน้านี้ฟู่เจิงเคยมีเรื่องอื้อฉาวว่ามีชู้ ตอนนี้ก็มีอดีตภรรยาที่มีความสัมพันธ์คลุมเครือมาอีกคน ขอให้เป็นผู้ใหญ่ที่รักลูกสาว ก็จะไม่มีวันเลือกเขาทั้งนั้น“พี่รู้ได้ยังไงว่าเขาไม่ใช่คนดี? พี่รู้ได้ไงว่าเขาจะไม่คบกับฉัน? วันนี้ตอนเที่ยงเรายังไปกินข้าวด้วยกันอยู่เลย!”เมื่อเห็นอิเลียดื้อดึง ในใจของเยียนหวยก็รู้สึกไม่ได้ดั่งใจ เขาแสยะยิ้มออกมาทีหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยว่า “พวกเธอไม่ได้ไปกินข้าวด้วยกันตามลำพัง แต่ฟู่ซือฝานอยู่ข้าง ๆ ใช่ไหม?”ในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ ฟู่เจิงจะมากินข้าวกับอิเลียตามลำพังได้ยังไง? นอกเสียจากเขาคิดจะเลิกกับเวินเหลียงจริง ๆ“...ใช่ ก็เขาเป็นลูกของพวกเรานี่” เมื่อเห็นว่าถูกเดาทางถูก อิเลียก็พูดอึ
แต่หลังจากเดินตามแผนแล้วถึงได้พบว่า นี่มันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลยถ้าพ่อแม่คุณลุงคุณป้ารู้ว่าเธอมีลูกนอกสมรสข้างนอก ต้องเข้ามาแทรก และไม่แน่ว่าจะพาตัวเธอกับลูกกลับไป“อิเลีย ผมเข้าใจนะครับคุณในฐานะแม่แท้ ๆ คุณอยากรีบกระชับความสัมพันธ์กับฝานฝาน แต่ก็อย่าตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูก โดยเฉพาะมักจะไปหาฝานฝานที่โรงเรียนอนุบาล แบบนี้จะส่งผลกระทบกับชีวิตของเธอได้นะครับ”“ฉันรู้แล้วค่ะ ต่อไปจะไม่ไปหาเขาที่โรงเรียนอนุบาลอีก ฉันเห็นว่าคุณกินน้อยมาก อาหารที่เหลือไม่ถูกปากหรือเปล่า?”ฟู่เจิง “...ก่อนมาผมกินมาบ้างแล้ว”หลังกินข้าวเที่ยงเสร็จ ฟู่ซือฝานรบเร้าขอกลับกับฟู่เจิงเธอล้วงกลยุทธ์ร้องไห้งอแงชักดิ้นชักงออยู่ที่พื้นของเด็กห้าขวบออกมาอย่างล้ำลึก ไม่มีเหตุผล ทว่าอิเลียฝืนเธอไม่ได้อิเลียทำได้เพียงกลับไปที่บ้านของเซี่ยเจิน“อิเลีย เธอกลับมาแล้วเหรอ?”เมื่อเห็นอลิซนั่งอยู่บนโซฟา อิเลียเดินมานั่งลง “เป็นยังไงบ้าง? ครั้งนี้เธอไปเมืองซีกับซีซาร์ ได้แสร้งทำเป็นเจอโดยบังเอิญ แล้วไปกินข้าวกับเขาอะไรหรือเปล่า?”อลิซเบะปาก “เปล่า”“ทำไมล่ะ? โอกาสดีขนาดนั้นทำไมเธอไม่คว้าเอาไว้?”“เขางานยุ่งมาก ฉันกล
อิเลียจัดผมด้วยท่าทางราวกับไม่มีเจตนาอื่น หน้าตาเผยความตื่นเต้นออกมาดูท่าเธอจะเลือกวิธีถูกจริง ๆในตอนนี้เธอเพิ่งเข้าใกล้ฟู่ซือฝานไม่เท่าไร ท่าทีของฟู่เจิงเขาก็ผ่อนคลายลงเยอะแล้วผ่านไปยี่สิบนาที ฟู่เจิงก็ปรากฏตัวขึ้นในห้องรับรองนี่เป็นการเจอกันครั้งที่สองหลังจากวันนั้นเขานั่งลงข้าง ๆ ฟู่ซือฝาน พลางพยักหน้าให้อิเลียเบา ๆ “รบกวนแล้ว ไม่ถือสาที่ผมมาร่วมโต๊ะด้วยใช่ไหม?”“ไม่ถือสา นั่งเถอะค่ะ”สีหน้าของอิเลียเย็นชา ราวกับยังอยู่ต่อหน้าคุณหญิงและฟู่ชิงเยว่ครั้งก่อน เธอไม่ได้โกรธที่ฟู่เจิงปฏิเสธเธออย่างไร้ความปรานี“งานผมยุ่งมาก ยากที่จะใส่ใจคุณกับฝานฝานได้มากขนาดนั้น”“ฝานฝานเป็นลูกของฉัน นี่เป็นสิ่งที่สมควรอยู่แล้ว ฉันไม่รู้ว่าคุณจะมา ก็เลยสั่งอาหารไปสุ่ม ๆ เดี๋ยวอาหารมาเสิร์ฟคุณก็ดูแล้วกันว่าอยากจะสั่งเพิ่มไหม”“ผมไม่เลือกกิน” ฟู่เจิงตอบจากนั้นพนักงานก็เริ่มมาเสิร์ฟอาหารฟู่เจิงมองเนื้อแพะที่มาเสิร์ฟเต็มโต๊ะ เขาเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก้มหน้าไปมองฟู่ซือฝานฟู่ซือฝานก้มศีรษะน้อย ๆ อย่างกระวนกระวายอิเลียหยิบตะเกียบขึ้นมา “ไม่ต้องเกรงใจ กินเลยค่ะ”ฟู่เจิงลังเลอยู่ครู่หนึ่
เจียงเฉิงเที่ยงวันศุกร์ อิเลียไปรับฟู่ซือฝานออกไปกินข้าวเที่ยงที่คฤหาสน์ย่านซิงเหอวานเธอฉีกยิ้มพลางพูดกับฟู่ซือฝานว่า “เมื่อวานแม่ว่าจะไปรับหนูที่โรงเรียนอนุบาล จู่ ๆ ก็นึกถึงคำพูดของหนูเมื่อครั้งก่อนได้ ก็เลยมาวันนี้ วันนี้ตอนบ่ายแม่จะพาหนูไปเล่นดี ๆ เป็นยังไงจ๊ะ?”ฟู่ซือฝานเอียงคอพลางครุ่นคิด “ตอนบ่ายหนูต้องทำการบ้าน แค่กินข้าวเที่ยงก็พอแล้วค่ะ”“ก็ได้ งั้นหนูคิดไว้หรือเปล่าว่าอยากกินอะไร?”“ไปร้านอาหารที่มีเมนูเนื้อแพะแนะนำแล้วกันค่ะ” ฟู่ซือฝานเอ่ยขึ้นด้วยทีท่าจริงจัง “วันนี้คุณลุงบอกว่าจะไปกินข้าวเที่ยงเป็นเพื่อนหนู ไม่รู้ว่าจะมาไหม”นัยน์ตาอิเลียวาบความปลื้มปีติออกมา “จริงเหรอ?”“เขาเคยบอกไว้แบบนี้ค่ะ คุณน้าคะ ที่คุณน้ารับหนูออกมา ไม่ใช่เป็นเพราะอยากกระชับความสัมพันธ์กับหนูสองต่อสองเหรอคะ? ทำไมถึงหวังให้คุณลุงมาด้วยล่ะคะ?”เจ้าตัวน้อยเอ่ยถามขึ้นด้วยใบหน้าจริงจัง“น้า...น้ามีเรื่องอยากพูดคุยกับพ่อของหนูน่ะ แล้วก็หวังว่าเราจะได้กินข้าวด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัว” อิเลียรีบหาข้ออ้างทันทีเจ้าเด็กคนนี้ หูตาเฉียบแหลมจริง ๆ“อ้อ”“น้าจะหาร้านอาหารเนื้อแพะเดี๋ยวน
“เรียกฉันทำไม?” เยี่ยนหวยมองเธอด้วยสีหน้าไร้เดียงสา“ตอนนี้มันฤดูร้อน”ผ่านฤดูใบไม้ผลิมาแล้ว“ฉันแค่นึกถึงวันนั้นที่ไปติวให้เธอแล้วเจอแม่เธอเข้าโดยบังเอิญ เธอคิดไปถึงไหน?” เยี่ยนหวยเลิกคิ้วถังซือซือชะงักไปมีครั้งหนึ่งตอนที่เธอติวอยู่ในบ้าน แล้วบังเอิญเจอแม่ของเธอเข้าจริง ๆ แต่นั่นมันเรื่องตอนเทอมที่สองเยี่ยนหวยต้องจงใจพูดถึงวันนั้นตอนเทอมแรกแน่ ๆ ให้เธอเข้าใจผิดถ้าเธอชี้ไปเลยว่าเยี่ยนหวยจำผิด ก็จะเข้าแผนของเยี่ยนหวย เหมือนว่าเธอยังไม่เคยลืมเรื่องในอดีต คิดถึงเรื่องราวเหล่านั้นของเธอกับเยี่ยนหวยอยู่ตลอด“ตอนนี้ไม่ใช่ฤดูร้อนเหรอ? นายคิดไปถึงไหนอีก?” เธอปัดตกเรื่องนี้ไปอย่างมั่นใจทันทีหลังพูดจบ เธอก็หมุนตัวเดินไปด้านหน้าต่อ “ไม่พูดแล้ว รีบไปร้านถัดไปเถอะ”อยู่ข้างนอกจนถึงสี่ทุ่ม ทั้งสองคนถึงกลับไปยังโรงแรมด้วยกันถังซือซืออยากเรียกรถกลับไปเอง ไม่อยากให้เยี่ยนหวยไปส่งเธอเยี่ยนหวยจึงเอ่ยไปตามตรงว่า “ฉันพักอยู่ที่โรงแรมเดียวกันกับเธอ”ถังซือซือ “...”นี่ไม่ใช่ครั้งแรกแล้วคราวก่อนตอนที่เวินเหลียงถ่ายรูปเยี่ยนหวยรูปแรกที่เมืองฟิลาเดลเฟีย เวินเหลียงก็ถามว่าช่วงนี้เยี่ยนหวย
เมืองซีในฐานะเมืองใหญ่ของเจียงหนาน ประเภทของกินเล่นมีมากมาย ของกินเอกลักษณ์ที่ขึ้นชื่อไปทั่วประเทศอาทิ เต้าหู้เหม็น ไส้กรอกยักษ์ เส้นหมีเฝิ่น กุ้งเผ็ดเป็นต้นถังซือซือเคยมาเมืองซีตอนมาทำงานต่างถิ่นก่อนหน้านี้ เวลาค่อนข้างกระชั้นชิด จึงทำได้เพียงเดินช็อปปิงที่อื่น แต่เพิ่งเคยมาถนนคนเดินที่นี่เป็นครั้งแรกเธอซื้อไส้กรอกยักษ์สองชิ้นก่อน และแบ่งให้เยี่ยนหวยหนึ่งชิ้นกินไปได้เพียงครึ่งเดียว ถังซือซือก็หยุดอยู่ตรงหน้าร้านขายขนมฉือปา เธอกลืนน้ำลายแล้วถามขึ้นว่า “รู้ไหมคะว่าตรงไหนมีถังขยะบ้าง?”“ที่เหลือเธอไม่กินแล้วเหรอ?”“อืม”“ไม่อร่อย?”“ไม่ใช่ อร่อยมาก แต่ว่ายังมีของอร่อยอื่น ๆ อีกเยอะแยะ ฉันอยากเก็บท้องเอาไว้”เยี่ยนหวย “...”“เอามาให้ฉันก็ได้” เยี่ยนหวยรับไส้กรอกครึ่งชิ้นที่เหลืออยู่มาจากในมือของเธอ ก่อนจะเติมเข้าไปในท้องอย่างไม่มีภาระใด ๆถังซือซือซื้อขนมฉือปาแล้วเธอทำตัวอย่างกับโจร แต่ละร้านไม่ยอมปล่อยไปเลย ทว่าก็ชิมเพียงสองสามคำ ทั้งหมดที่เหลือก็โยนให้เยี่ยนหวยอย่างสบายใจเยี่ยนหวยเพลิดเพลินกับพฤติกรรมพรรค์นี้ ในใจเข้าใจได้ในทันที ราวกับกลับไปเมื่อเจ็ดปีก่อนหลังเรียนอย
“มันเรื่องอะไรกันแน่?”ก่อนหน้านี้ที่เยี่ยนหวยอยู่ที่เจียงเฉิง กลับไม่ได้สังเกตเท่าไรว่าอิเลียกำลังทำอะไรอยู่ เธอออกไปข้างนอกทุกวัน เยี่ยนหวยคิดเพียงแค่ว่าเธอกำลังไปเที่ยวเล่นถังซือซือไม่ใช่คนที่จะกุเรื่องมั่วซั่ว เธอพูดแบบนี้ ต้องรู้อะไรบางอย่างแน่ ๆ“พูดไปแล้วก็ยาว ตอนแรกฟู่ชิงเยว่อาของฟู่เจิงรับเลี้ยงเด็กกำพร้าอยู่ที่เมืองนอก ตอนนี้อายุห้าขวบแล้ว ปีที่แล้วอาเหลียงแท้ง แล้วฟู่ชิงเยว่ติดธุระพอดี เลยส่งเด็กคนนั้นกลับประเทศมาให้ฟู่เจิงดูแลช่วงหนึ่ง ฟู่เจิงเลยให้เด็กคนนั้นอยู่ในประเทศไปเลยเพื่อง้ออาเหลียง ปกติจะมาอยู่เป็นเพื่อนอาเหลียง และเด็กคนนั้นเองก็เข้าไปอยู่ในทะเบียนบ้านของฟู่เจิง แต่ว่า...”เยี่ยนหวยเดาเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อไปออกแล้ว จึงรับช่วงเอ่ยขึ้นต่อว่า “แต่ว่าจู่ ๆ ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวบอกว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นลูกของฟู่เจิงกับอิเลีย?”“ใช่ รายละเอียดฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน เหมือนว่าจะเกี่ยวข้องกับอาของฟู่เจิงนิดหน่อย เธอรู้ตัวตนของเด็กผู้หญิงคนนั้นมาตั้งแต่แรก และไม่ชอบอาเหลียงมาโดยตลอด ยังไงตอนนี้อาเหลียงก็อยู่กับฉัน เขากับฟู่เจิงทะเลาะกันอีกแล้ว”เยี่ยนหวยเอ่ยควา
“เยี่ยนหวย!!”ประตูลิฟต์เปิดออก ทั้งสองคนเข้าไปกันตามลำดับ แล้วลงไปยังลานจอดรถใต้ดินตรงมุมเลี้ยว ในหัวของผู้หญิงสวมหน้ากากอนามัยวาบภาพที่เห็นเมื่อครู่ขึ้นมา หมัดที่ห้อยอยู่กำขึ้นแน่น เธอก้มหน้าทั้งดวงตาที่ประกายความอำมหิตออกมาหากเวินเหลียงอยู่ตรงนี้ คงจะจำได้แน่ ๆ ว่าผู้หญิงที่สวมหน้ากากอนามัยคนนี้ก็คืออลิซที่เธอมาเจียงเฉิง ก็เพราะเยี่ยนหวย เยี่ยนหวยมาเมืองซีเมื่อสองวันก่อน เธอเองก็ตามมาเช่นกันอิเลียถามเลขาของเยี่ยนหวย เมื่อรู้โรงแรมของเขาก็บอกกับอลิซทีแรกอลิซคิดว่าเยี่ยนหวยมาทำธุระที่เมืองซี จากนั้นก็ค่อย ๆ พบว่ามันไม่ชอบมาพากลเยี่ยนหวยไม่ยุ่งเลยสักนิดแถมยังมีเวลาไปสอบถามร้านอาหารท้องถิ่น ถนนคนเดิน จุดชมวิวของเมืองซีเป็นต้น อีกต่างหาก ไม่เหมือนมาทำงานต่างถิ่น แต่เหมือนมาเที่ยวเสียมากกว่าจนกระทั่งวันนี้ เมื่อได้เห็นภาพนั้น อลิซถึงเข้าใจทุกอย่างที่แท้คนที่ซีซาร์ชอบไม่ใช่เฟย์ แต่เป็นถังซือซือเพื่อนของเฟย์!ที่แท้เขาไม่ได้มาทำงานต่างถิ่นที่เมืองซี แต่มาเพื่อตามจีบถังซือซือ!ที่เขาสอบถามร้านอาหารและจุดชมวิวของเมืองซี ก็เพื่อพาถังซือซือไปวันนี้!ในใจอลิซอิจฉาเป็นอย่างม
เมื่อเยี่ยนหวยได้ยินดังนั้น ก็รู้ในทันทีว่าเวินเหลียงไม่ได้รักษาคำมั่นสัญญาแต่เขาก็เตรียมตัวไว้นานแล้ว วันนั้นหลังจากกลับไปก็ให้คนไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด แล้วตัดคลิปมาใส่ไว้ในโทรศัพท์เมื่อได้ยินถังซือซือถามขึ้น เขาก็รีบส่งให้เธอทันที “ก็แค่คนที่ไม่สลักสำคัญอะไรคนหนึ่ง ฉันปฏิเสธเขาไปแล้ว”ถังซือซือดูคลิปรอบหนึ่ง ก่อนจะเบะปาก “อยู่ต่างประเทศคุณเยี่ยนมีสาวมาชอบเพียบเลยนะคะ”“แต่ฉันสนใจอยากจะครอบครองแค่เธอ”“จะยอมให้ฉันครอบครองไหม คุณถัง?”เยี่ยนหวยนั่งเอี้ยวตัว แขนข้างหนึ่งพาดอยู่บนพนักพิงเก้าอี้ เขาโน้มตัวเข้ามา ตัวท่อนบนใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ กลิ่นหอมฉุยจาง ๆ และกลิ่นอายของชายหนุ่มที่มาพร้อมกับการบุกรุกโอบล้อมเธอเอาไว้เขาดันแว่นตากรอบทอง สีหน้าอบอุ่น ฉีกยิ้มทว่าก็ราวกับไม่ยิ้ม มุมปากกระตุกรอยยิ้มเล็กน้อย ค่อนข้างมีความรู้สึกประเภทหน้าเนื้อใจเสือถังซือซือเหม่อไปครู่หนึ่ง“คุณถัง?”ใบหน้าหล่อเหลาตรงหน้าขยายใหญ่ขึ้นอีกครั้ง ไออุ่นร้อนปะทะเข้ามาที่หน้า ในที่สุดถังซือซือก็ได้สติกลับมา เธอเอนหลังพลางตบหน้าอก “นายทำฉันตกใจหมด...ไป ไปเดินหาของกินเล่นกันเถอะ”เธอลุกขึ้นและเดินออกไปอย่าง