“ในตู้เย็นยังมีวัตถุดิบอยู่นิดหน่อย ไม่ต้องเรียกเขามาหรอก” เวินเหลียงเอ่ย“ก็ได้”สภาพอากาศในฤดูร้อนเดิมทีก็ร้อนอบอ้าวอยู่แล้ว แม้ว่าในห้องจะมีแอร์ก็ตาม ทว่าหลังออกกำลังกาย ก็ยังเหงื่อออกเต็มตัวอยู่ดี เหนียวเหนอะหนะตัวไปหมดเวินเหลียงเหลืออด เธอหมุนตัวไปหยิบเสื้อผ้าสองตัวในห้องนอน ก่อนเข้าห้องน้ำไปก็พูดทิ้งท้ายไว้ประโยคหนึ่งว่า “ฉันไปอาบน้ำก่อนนะ”เธอยังไม่ทันได้ปิดประตู ฟู่เจิงก็เบียดเข้ามาทันที “อาบด้วยกันสิ”“...”การอาบน้ำครั้งนี้กินเวลาไปเกือบหนึ่งชั่วโมงสีท้องฟ้าด้านนอกมืดลงแล้ว ภายในอะพาร์ตเมนต์เองก็เปิดไฟแล้วเวินเหลียงถูกอุ้มออกมาฟู่เจิงใช้ผ้าขนหนูห่อตัวเธอเอาไว้และอุ้มเธอไปวางบนเตียงในห้องนอนเวินเหลียงหลับตาลง เหนื่อยจนไม่อยากจะกระดิกนิ้วฟู่เจิงห่มผ้าห่มบาง ๆ ให้เธอ เขาเอ่ยขึ้นว่า “ฉันไปเอาเสื้อผ้าที่ห้องข้าง ๆ ก่อน กลับมาค่อยทำมื้อค่ำให้เธอกิน”เวินเหลียงเค้นเสียงพูดคำว่า ‘อืม’ ออกมาจากลำคอเสียงหนึ่งฟู่เจิงลุกขึ้นกลับไปยังห้องรับแขก เมื่อเห็นเสื้อเชิ้ตและชุดชั้นในของเธอที่อยู่บนพื้น เขาก็โน้มตัวลงไปเก็บขึ้นมาวางไว้ตรงปลายโซฟา เขาสวมเพียงกางเกงแล้วหยิบกุญแจไ
ฟู่เจิงไม่ได้บังคับอะไร เขาเปลี่ยนเรื่องคุยเวินเหลียงถามถึงความแค้นระหว่างเขากับตระกูลไป๋ฟู่เจิงจึงเริ่มเล่าตั้งแต่การปิดคดีอย่างลวก ๆ ภายใต้แรงกดดันจากสถานีตำรวจ จนจางกั๋วอันตอบตกลงว่าจะกลับคำสารภาพ จนไปถึงฝ่ายอัยการได้รับแรงกดดันจนทำให้ไม่สามารถทำการสืบสวนคดีใหม่อีกครั้งได้เขาตรวจสอบจนแน่ชัดว่า เบื้องหลังของเรื่องทั้งหมดนี้ฟังคำสั่งจากคนตระกูลไป๋เขาเองก็เคยคิดหาวิธีเจรจาต่อรองกับคนตระกูลไป๋ ทว่าคนตระกูลไป๋ปฏิเสธทุกอย่าง ไม่มีทีท่าว่าอยากจะต่อรองใด ๆและเกมกระดานนี้ฟู่เจิงเป็นคนเริ่ม และฟู่เจิงก็เป็นฝ่ายได้รับชัยชนะตระกูลไป๋เสียหายอย่างหนัก ไร้เรี่ยวแรงจะสนใจเรื่องนี้ได้อีกคดีถูกส่งกลับไปสืบสวนใหม่โดยทางสถานีตำรวจครั้งนี้มีคำให้การของจางกั๋วอันและเมิ่งจินถัง ฉู่ซืออี๋ไม่มีทางหนีบทลงโทษทางกฎหมายได้พ้นอย่างแน่นอน“อาเหลียง ขอโทษนะ การตายของพ่อตาเกี่ยวข้องกับพี่ใหญ่ นี่เป็นสิ่งที่ตระกูลฟู่ติดค้างเธอ เพราะงั้นไม่ว่าจะทำเพื่อพ่อตาหรือว่าพี่ใหญ่ หรือทำเพื่อตัวฉันเอง ฉันก็จะต้องสืบเรื่องนี้ให้ชัดเจนให้ได้” ฟู่เจิงเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีจริงจัง“เพียงแต่ฉันไม่ค่อยเข้าใจ ทำไมตระกูลไ
ฟู่เจิงฉีกยิ้มเล็กน้อย “เวินเสี่ยวเหลียง ตัวเองทำได้แต่ไม่ให้คนอื่นทำ?”“ทำไม? คุณไม่ยอมเหรอ?” เวินเหลียงเลิกคิ้วฟู่เจิงคุกเข่าข้างหนึ่งลงบนเตียงแล้วโน้มตัวเข้ามา “ขอฉันดูหน่อยว่าถ่ายเป็นยังไงบ้าง”เวินเหลียงจับภาพได้ดีมากกระทั่งว่ารูปนี้มีแรงดึงมากกว่าภาพพวกนั้นที่ถ่ายกับกล้องของเพื่อนช่างภาพเมื่อวานเสียอีก“ไม่เลวทีเดียวใช่ไหม?” เวินเหลียงมองเขาทีหนึ่ง ใบหน้าน้อย ๆ เต็มไปด้วยการขอร้องให้ชื่นชมฟู่เจิงเลิกคิ้ว “ถ้าฉันเลือกรูปนี้ไปไว้บนนิตยสารจะเป็นยังไง?”“ไม่ได้” เวินเหลียงปฏิเสธเสียงแข็ง“ทำไมถึงไม่ได้ล่ะ”เวินเหลียงเก็บโทรศัพท์ แล้วเอ่ยขึ้นด้วยทีท่าสง่าผ่าเผย “นิตยสารที่คุณขึ้นปกเป็นนิตยสารการเงิน รูปนี้ไม่เข้ากับทีม ถ้าคุณขึ้นปกนิตยสารบันเทิงค่อยว่าไปอย่าง”นี่เป็นการหวงเอาไว้เป็นการส่วนตัวของเธอแต่ก็ฟังดูมีเหตุผลอยู่เล็กน้อยฟู่เจิงติดกระดุมของเสื้อเชิ้ตจนถึงเม็ดสุดท้ายด้านบนสุดเวินเหลียงมองเขาทีหนึ่ง ใจเธอเต้นขึ้นมา เธอตะเกียกตะกายลุกขึ้นจากเตียงเดินไปห้องรับแขกพลางเอ่ยด้วยว่า “โทรศัพท์แบตหมด ฉันไปเอาที่ชาร์ตก่อน”ฟู่เจิงไม่ได้รู้สึกถึงความผิดปกติ ดึงเนกไทที่พา
แสงแดดปกคลุมไปบนตัวเขา สะท้อนเงาอันงดงามบนผนัง ลำแสงยิ่งช่วยขับให้เด่นจนใบหน้าเขาเป็นมุมมนและชัดเจน ใบหน้าอย่างกับแกะสลักออกมาหัวใจเวินเหลียงเต้นเร็วขึ้น เธอกดชัตเตอร์ต่อเนื่องสองสามภาพอย่างรวดเร็ว หูแดงเล็กน้อย “แบบนี้แหละ ต่อเลย ปลดกระดุมของเสื้อเชิ้ต”เวินเหลียงปรับระยะโฟกัสตามที่เธอบอก ฟู่เจิงดึงเนกไทออกพลางมองเธอราวกับยิ้มแต่ไม่ได้ยิ้มพร้อมเลิกคิ้ว ไม่พูดไม่จา ปลดกระดุมตรงส่วนอกออกทีละเม็ด ๆ การกระทำทั้งช้าและทั้งสง่างามเขากำลังอ่อยเธอเสื้อเชิ้ตสีขาวคลายออกทีละนิด ๆลมหายใจของเวินเหลียงหนักอึ้งขึ้นเล็กน้อยหน้าอกแสนล่ำบึกนั่น กล้ามเนื้อที่เห็นได้ชัดเป็นลูก ๆ ด้านบนยังมีหยดน้ำใส ๆ เกาะอยู่สองสามหยด มันไหลลงไปตามร่อง และค่อย ๆ ไหลหายลงไปในกางเกงสูทเวินเหลียงกลั้นลมหายใจเอาไว้ และกดชัดเตอร์อย่างรวดเร็วสถานการณ์ในตอนนี้ราวกับสูญเสียการควบคุมเล็กน้อยสองมือของฟู่เจิงจับผ้าตรงหน้าอกอาไว้ ก่อนจะถอดเสื้อเชิ้ตออกอย่างฉับไว แล้วสะบัดโยนไปบนพื้นร่างท่อนบนของเขาเปลือยเปล่า ส่วนร่างกายท่อนล่างสวมกางเกงสูทเอาไว้ ภายใต้การวาดของแสงอาทิตย์ พละกำลังของเพศชายและความป่าเถื่อนถูกแสด
ฟู่เจิงชำเลืองมองเธอชืด ๆ ทีหนึ่ง ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดฝีเท้า มองด้วยแววตาเห็นเป็นคนแปลกหน้าสุด ๆ “จำไม่ได้”สีหน้าอิเลียแข็งทื่อ เธอรีบร้อนเอ่ยเตือนขึ้นว่า “คุณลืมไปแล้วเหรอคะ? เราเคยเจอกันครั้งหนึ่งบนเที่ยวบินที่บินไปซิดนีย์ คุณนั่งข้างฉันในชั้นเฟิร์สคลาส”“ขอโทษด้วยนะครับ จำไม่ได้จริง ๆ”ฟู่เจิงเดินเข้าไปในห้องน้ำชายด้วยสีหน้าดังเดิมเขายังเย็นชาเหมือนกับครั้งก่อนเป๊ะ ๆอิเลียผิดหวังและหัวเสียเป็นอย่างมาก ทว่าไม่ยอมละเลิกเธอยืนรออยู่หน้าห้องน้ำชายหลายนาที เมื่อเห็นฟู่เจิงเดินออกมาจากห้องน้ำทั้งมือเปียก ก็รีบสาวเท้าเข้าไปขวางเอาไว้ทันที “คุณจำฉันไม่ได้ก็ไม่เป็นไรค่ะ ฉันอยากรู้จักกับคุณ ฉันชื่ออิเลีย วิลสัน”เมื่อพูดถึงนามสกุลของตน อิเลียก็เน้นเสียงและเชิดคางขึ้นฝีเท้าของฟู่เจิงชะงัก คิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อย พร้อมกวาดสายตามองประเมินอิเลียตั้งแต่หัวจรดเท้าสองที “ผมจำคุณได้แล้ว”“จริงเหรอคะ?”บนใบหน้าของอิเลียเผยสีหน้าตื่นตระหนกปนดีใจออกมา ทว่าในใจกลับมีความไม่สบอารมณ์และเซ็งขึ้นมาเล็กน้อยทีแรกเขาจำไม่ได้ ทว่าพอเธอบอกชื่อเสียงเรียงนามไปก็จำขึ้นมาได้เสียอย่างนั้น ช่างบังเอิญ
เธออยากรู้ใจจะขาด ตกลงเขาเป็นใครกันแน่ถึงกล้าไม่เห็นตระกูลวิลสันอยู่ในสายตาขนาดนี้!“ครับ ผมจะพยายามสืบออกมาให้เร็วที่สุด” ผู้จัดการขานรับอิเลียออกมาจากห้องทำงานผู้จัดการแล้วก็กลับไปยังห้องรับรองของตน เธอสังเกตลักษณะห้อง ก่อนจะเปิดหน้าต่างและนั่งลงบนโซฟาตรงหน้าหน้าต่างเธอนั่งตรงนี้มองเห็นหน้าประตูห้อง 203 ได้พอดีอลิซไม่เข้าใจ “อิเลีย เธอเปิดหน้าต่างทำไมเหรอ?”“ไม่มีอะไรหรอก แค่รู้สึกอุดอู้นิดหน่อยน่ะ” อิเลียเอ่ยขึ้นชืด ๆก่อนหน้านี้บรรดาผู้ชายเหล่านั้นรู้ตัวตนของเธอ ไม่มีใครไม่ประจบสอพลอเยินยอเธอ อิเลียทำตัวสูงส่งอยู่เหนือทุกคนมาตลอด ปากบอกรังเกียจพวกเขา ทว่าในใจเพลิดเพลินกับรสชาติของการถูกคนประจบอย่างมากทว่าตอนนี้เธอเป็นฝ่ายชวนคุยก่อน ไม่เพียงถูกเขาปฏิเสธ หลังจากที่เธอบอกตระกูลของตนเองไป คนคนนั้นยังพูดจาถากถางใส่อีก ช่างน่าอัปยศอดสูจริง ๆ!อิเลียจะให้คนอื่นรู้ได้ยังไง?“อ้อ งั้นก็เปิดเถอะ”อิเลียจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ภายในช่วงเวลาสองสามนาที เธอมองไปข้างนอกหลายต่อหลายครั้งอลิซมองไปข้างนอกสองสามทีตามสายตาของอิเลีย ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น“อิเลีย เธอกำลังมองอะไรอยู่เหรอ
อิเลียหวนนึกไปถึงภาพที่เห็นในร้านอาหารอีกครั้งเขาจูงมือของหญิงสาวอย่างสนิทสนม ไร้ซึ่งการกระทำเกินจำเป็นใด ๆ ระหว่างทั้งสองคนมีความสนิทสนมที่ออกมาจากภายในอย่างหนึ่งเห็นได้ชัดว่าเขามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเฟย์ในฐานะคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลวิลสัน อิเลียต้องการอะไรก็ต้องได้อย่างนั้น คนที่ชอบเธอตามจีบเธอมีนับไม่ถ้วน ทว่าไม่เข้าตาอิเลียเลยสักคนตอนนี้ในที่สุดก็มีผู้ชายที่เข้าตาเธอได้สักที ทว่าดันมีเจ้าของแล้ว แถมยังพูดจาไม่ไว้หน้าเธออีกด้วยอิเลียถอนหายใจทั้งจิตใจล่องลอย ในใจราวกับถูกหินก้อนใหญ่อุดเอาไว้ ทั้งแน่นทั้งตึงจนเจ็บปวดเธอเสิร์ชเจอในอินเทอร์เน็ตว่าฟู่เจิงเป็นคนเจียงเฉิง สำนักงานใหญ่ของฟู่ซื่อกรุ๊ปก็อยู่ที่เจียงเฉิงบ้านคุณลุงก็เป็นคนเจียงเฉิงเหมือนกันอิเลียนึกเสียดายเล็กน้อยก่อนหน้านี้ตอนที่แม่กลับไปอยู่ที่เจียงเฉิงระยะสั้น ๆ หลายครั้ง ทำไมเธอไม่ยอมตามไปด้วยนะ?ถ้าเธอตามไปด้วย จะได้รู้จักฟู่เจิงก่อนหรือเปล่านะ?อิเลียที่อารมณ์ไม่ดีนัดอลิซออกมาดื่มเหล้าตอนที่อลิซมาถึง อิเลียได้เริ่มดื่มไปแล้ว เหล้าที่อยู่ในขวดบนโต๊ะลดลงไปครึ่งน้อย ๆ แล้วเธอขมวดคิ้วเข้าหากันย คำว่าอาร
อิเลียหน้าแดงก่ำ เธอกัดริมฝีปากแน่น “อลิซ ขอบใจเธอจริง ๆ นะ! ถ้าไม่ได้เธอปลอบใจฉัน กลัวว่าฉันคงยอมแพ้ไปแล้วจริง ๆ เธอเป็นพี่สะใภ้ที่ดีของฉันจริง ๆ! รอฉันกระชากโฉมหน้าที่แท้จริงของเฟย์ออกมาแล้ว จะบอกความจริงกับพี่แน่นอน เขาต้องชอบเธอแน่!”เธอจะต้องแย่งฟู่เจิงมาจากมือของเฟย์ให้ได้ และโอ้อวดต่อหน้าเฟย์ให้เต็มที่!เธอจะต้องทำให้ฟู่เจิงแพ้ทางเธอให้ได้ แก้แค้นที่พูดจาละลาบละล้วงเธอ!“อย่าพูดแบบนี้สิ ฉันไม่ได้หวังอะไรจากเธอนะ เธอเป็นเพื่อนของฉัน ฉันก็แค่อยากให้เธอสมหวัง มีความสุขไปตลอดชีวิต” อลิซฉีกยิ้มเธอรู้จักอิเลียดีสุด ๆ!ตั้งแต่เด็กอิเลียอยากได้อะไรก็ต้องได้ ตราบใดที่เป็นของที่ตนอยากได้ ก็มักจะคิดหาวิธีฉกชิงมาอยู่ในมือเธอเพียงแค่จุดความคิดของอิเลียออกมา และสนับสนุนอิเลียเท่านั้นไม่อย่างนั้นอิเลียไม่มีทางตอบตกลงเร็วขนาดนี้หรอก!ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นมีฐานะอะไร ถึงทำให้คุณหนูใหญ่ที่สูงส่งเสียยิ่งกว่าฟ้าอย่างอิเลียใจเต้นได้ในจังหวะนี้เอง อลิซก็เห็นเงาร่างที่แสนคุ้นเคยสายหนึ่งเธอตบบ่าของอิเลีย “อิเลีย เธอดูสิ ใช่เขาหรือแปล่า?”เมื่ออิเลียมองไปตามสายตาของอลิซ ก็เห็นฟู่เจิงเดินเ
อิเลียลุกขึ้นพรวด พลางมองเยี่ยนหวยอย่างเหลือเชื่อ“ถ้าเธอยังเห็นฉันเป็นพี่ชายของเธออยู่ ก็เชื่อฟังฉัน แล้วกลับไปเมืองฟิลาเดลเฟียพรุ่งนี้ซะ!” เยี่ยนหวยนั่งตัวตรงพลางเงยหน้ามองเธออยู่บนโซฟา“ฉันไม่กลับ!” อิเลียเดือดดาลจนแค่นเสียงฮึออกมาทีหนึ่ง ก่อนจะกลับไปนั่งตรงมุมโซฟา “อยากกลับพี่ก็กลับไปเองซะเลยสิ!”“ฟู่เจิงไม่ใช่คนดี ต่อให้ระหว่างพวกเธอมีลูกด้วยกัน เขาก็ไม่มีทางคบกับเธอ”ก่อนหน้านี้ฟู่เจิงเคยมีเรื่องอื้อฉาวว่ามีชู้ ตอนนี้ก็มีอดีตภรรยาที่มีความสัมพันธ์คลุมเครือมาอีกคน ขอให้เป็นผู้ใหญ่ที่รักลูกสาว ก็จะไม่มีวันเลือกเขาทั้งนั้น“พี่รู้ได้ยังไงว่าเขาไม่ใช่คนดี? พี่รู้ได้ไงว่าเขาจะไม่คบกับฉัน? วันนี้ตอนเที่ยงเรายังไปกินข้าวด้วยกันอยู่เลย!”เมื่อเห็นอิเลียดื้อดึง ในใจของเยียนหวยก็รู้สึกไม่ได้ดั่งใจ เขาแสยะยิ้มออกมาทีหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยว่า “พวกเธอไม่ได้ไปกินข้าวด้วยกันตามลำพัง แต่ฟู่ซือฝานอยู่ข้าง ๆ ใช่ไหม?”ในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ ฟู่เจิงจะมากินข้าวกับอิเลียตามลำพังได้ยังไง? นอกเสียจากเขาคิดจะเลิกกับเวินเหลียงจริง ๆ“...ใช่ ก็เขาเป็นลูกของพวกเรานี่” เมื่อเห็นว่าถูกเดาทางถูก อิเลียก็พูดอึ
แต่หลังจากเดินตามแผนแล้วถึงได้พบว่า นี่มันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลยถ้าพ่อแม่คุณลุงคุณป้ารู้ว่าเธอมีลูกนอกสมรสข้างนอก ต้องเข้ามาแทรก และไม่แน่ว่าจะพาตัวเธอกับลูกกลับไป“อิเลีย ผมเข้าใจนะครับคุณในฐานะแม่แท้ ๆ คุณอยากรีบกระชับความสัมพันธ์กับฝานฝาน แต่ก็อย่าตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูก โดยเฉพาะมักจะไปหาฝานฝานที่โรงเรียนอนุบาล แบบนี้จะส่งผลกระทบกับชีวิตของเธอได้นะครับ”“ฉันรู้แล้วค่ะ ต่อไปจะไม่ไปหาเขาที่โรงเรียนอนุบาลอีก ฉันเห็นว่าคุณกินน้อยมาก อาหารที่เหลือไม่ถูกปากหรือเปล่า?”ฟู่เจิง “...ก่อนมาผมกินมาบ้างแล้ว”หลังกินข้าวเที่ยงเสร็จ ฟู่ซือฝานรบเร้าขอกลับกับฟู่เจิงเธอล้วงกลยุทธ์ร้องไห้งอแงชักดิ้นชักงออยู่ที่พื้นของเด็กห้าขวบออกมาอย่างล้ำลึก ไม่มีเหตุผล ทว่าอิเลียฝืนเธอไม่ได้อิเลียทำได้เพียงกลับไปที่บ้านของเซี่ยเจิน“อิเลีย เธอกลับมาแล้วเหรอ?”เมื่อเห็นอลิซนั่งอยู่บนโซฟา อิเลียเดินมานั่งลง “เป็นยังไงบ้าง? ครั้งนี้เธอไปเมืองซีกับซีซาร์ ได้แสร้งทำเป็นเจอโดยบังเอิญ แล้วไปกินข้าวกับเขาอะไรหรือเปล่า?”อลิซเบะปาก “เปล่า”“ทำไมล่ะ? โอกาสดีขนาดนั้นทำไมเธอไม่คว้าเอาไว้?”“เขางานยุ่งมาก ฉันกล
อิเลียจัดผมด้วยท่าทางราวกับไม่มีเจตนาอื่น หน้าตาเผยความตื่นเต้นออกมาดูท่าเธอจะเลือกวิธีถูกจริง ๆในตอนนี้เธอเพิ่งเข้าใกล้ฟู่ซือฝานไม่เท่าไร ท่าทีของฟู่เจิงเขาก็ผ่อนคลายลงเยอะแล้วผ่านไปยี่สิบนาที ฟู่เจิงก็ปรากฏตัวขึ้นในห้องรับรองนี่เป็นการเจอกันครั้งที่สองหลังจากวันนั้นเขานั่งลงข้าง ๆ ฟู่ซือฝาน พลางพยักหน้าให้อิเลียเบา ๆ “รบกวนแล้ว ไม่ถือสาที่ผมมาร่วมโต๊ะด้วยใช่ไหม?”“ไม่ถือสา นั่งเถอะค่ะ”สีหน้าของอิเลียเย็นชา ราวกับยังอยู่ต่อหน้าคุณหญิงและฟู่ชิงเยว่ครั้งก่อน เธอไม่ได้โกรธที่ฟู่เจิงปฏิเสธเธออย่างไร้ความปรานี“งานผมยุ่งมาก ยากที่จะใส่ใจคุณกับฝานฝานได้มากขนาดนั้น”“ฝานฝานเป็นลูกของฉัน นี่เป็นสิ่งที่สมควรอยู่แล้ว ฉันไม่รู้ว่าคุณจะมา ก็เลยสั่งอาหารไปสุ่ม ๆ เดี๋ยวอาหารมาเสิร์ฟคุณก็ดูแล้วกันว่าอยากจะสั่งเพิ่มไหม”“ผมไม่เลือกกิน” ฟู่เจิงตอบจากนั้นพนักงานก็เริ่มมาเสิร์ฟอาหารฟู่เจิงมองเนื้อแพะที่มาเสิร์ฟเต็มโต๊ะ เขาเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก้มหน้าไปมองฟู่ซือฝานฟู่ซือฝานก้มศีรษะน้อย ๆ อย่างกระวนกระวายอิเลียหยิบตะเกียบขึ้นมา “ไม่ต้องเกรงใจ กินเลยค่ะ”ฟู่เจิงลังเลอยู่ครู่หนึ่
เจียงเฉิงเที่ยงวันศุกร์ อิเลียไปรับฟู่ซือฝานออกไปกินข้าวเที่ยงที่คฤหาสน์ย่านซิงเหอวานเธอฉีกยิ้มพลางพูดกับฟู่ซือฝานว่า “เมื่อวานแม่ว่าจะไปรับหนูที่โรงเรียนอนุบาล จู่ ๆ ก็นึกถึงคำพูดของหนูเมื่อครั้งก่อนได้ ก็เลยมาวันนี้ วันนี้ตอนบ่ายแม่จะพาหนูไปเล่นดี ๆ เป็นยังไงจ๊ะ?”ฟู่ซือฝานเอียงคอพลางครุ่นคิด “ตอนบ่ายหนูต้องทำการบ้าน แค่กินข้าวเที่ยงก็พอแล้วค่ะ”“ก็ได้ งั้นหนูคิดไว้หรือเปล่าว่าอยากกินอะไร?”“ไปร้านอาหารที่มีเมนูเนื้อแพะแนะนำแล้วกันค่ะ” ฟู่ซือฝานเอ่ยขึ้นด้วยทีท่าจริงจัง “วันนี้คุณลุงบอกว่าจะไปกินข้าวเที่ยงเป็นเพื่อนหนู ไม่รู้ว่าจะมาไหม”นัยน์ตาอิเลียวาบความปลื้มปีติออกมา “จริงเหรอ?”“เขาเคยบอกไว้แบบนี้ค่ะ คุณน้าคะ ที่คุณน้ารับหนูออกมา ไม่ใช่เป็นเพราะอยากกระชับความสัมพันธ์กับหนูสองต่อสองเหรอคะ? ทำไมถึงหวังให้คุณลุงมาด้วยล่ะคะ?”เจ้าตัวน้อยเอ่ยถามขึ้นด้วยใบหน้าจริงจัง“น้า...น้ามีเรื่องอยากพูดคุยกับพ่อของหนูน่ะ แล้วก็หวังว่าเราจะได้กินข้าวด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัว” อิเลียรีบหาข้ออ้างทันทีเจ้าเด็กคนนี้ หูตาเฉียบแหลมจริง ๆ“อ้อ”“น้าจะหาร้านอาหารเนื้อแพะเดี๋ยวน
“เรียกฉันทำไม?” เยี่ยนหวยมองเธอด้วยสีหน้าไร้เดียงสา“ตอนนี้มันฤดูร้อน”ผ่านฤดูใบไม้ผลิมาแล้ว“ฉันแค่นึกถึงวันนั้นที่ไปติวให้เธอแล้วเจอแม่เธอเข้าโดยบังเอิญ เธอคิดไปถึงไหน?” เยี่ยนหวยเลิกคิ้วถังซือซือชะงักไปมีครั้งหนึ่งตอนที่เธอติวอยู่ในบ้าน แล้วบังเอิญเจอแม่ของเธอเข้าจริง ๆ แต่นั่นมันเรื่องตอนเทอมที่สองเยี่ยนหวยต้องจงใจพูดถึงวันนั้นตอนเทอมแรกแน่ ๆ ให้เธอเข้าใจผิดถ้าเธอชี้ไปเลยว่าเยี่ยนหวยจำผิด ก็จะเข้าแผนของเยี่ยนหวย เหมือนว่าเธอยังไม่เคยลืมเรื่องในอดีต คิดถึงเรื่องราวเหล่านั้นของเธอกับเยี่ยนหวยอยู่ตลอด“ตอนนี้ไม่ใช่ฤดูร้อนเหรอ? นายคิดไปถึงไหนอีก?” เธอปัดตกเรื่องนี้ไปอย่างมั่นใจทันทีหลังพูดจบ เธอก็หมุนตัวเดินไปด้านหน้าต่อ “ไม่พูดแล้ว รีบไปร้านถัดไปเถอะ”อยู่ข้างนอกจนถึงสี่ทุ่ม ทั้งสองคนถึงกลับไปยังโรงแรมด้วยกันถังซือซืออยากเรียกรถกลับไปเอง ไม่อยากให้เยี่ยนหวยไปส่งเธอเยี่ยนหวยจึงเอ่ยไปตามตรงว่า “ฉันพักอยู่ที่โรงแรมเดียวกันกับเธอ”ถังซือซือ “...”นี่ไม่ใช่ครั้งแรกแล้วคราวก่อนตอนที่เวินเหลียงถ่ายรูปเยี่ยนหวยรูปแรกที่เมืองฟิลาเดลเฟีย เวินเหลียงก็ถามว่าช่วงนี้เยี่ยนหวย
เมืองซีในฐานะเมืองใหญ่ของเจียงหนาน ประเภทของกินเล่นมีมากมาย ของกินเอกลักษณ์ที่ขึ้นชื่อไปทั่วประเทศอาทิ เต้าหู้เหม็น ไส้กรอกยักษ์ เส้นหมีเฝิ่น กุ้งเผ็ดเป็นต้นถังซือซือเคยมาเมืองซีตอนมาทำงานต่างถิ่นก่อนหน้านี้ เวลาค่อนข้างกระชั้นชิด จึงทำได้เพียงเดินช็อปปิงที่อื่น แต่เพิ่งเคยมาถนนคนเดินที่นี่เป็นครั้งแรกเธอซื้อไส้กรอกยักษ์สองชิ้นก่อน และแบ่งให้เยี่ยนหวยหนึ่งชิ้นกินไปได้เพียงครึ่งเดียว ถังซือซือก็หยุดอยู่ตรงหน้าร้านขายขนมฉือปา เธอกลืนน้ำลายแล้วถามขึ้นว่า “รู้ไหมคะว่าตรงไหนมีถังขยะบ้าง?”“ที่เหลือเธอไม่กินแล้วเหรอ?”“อืม”“ไม่อร่อย?”“ไม่ใช่ อร่อยมาก แต่ว่ายังมีของอร่อยอื่น ๆ อีกเยอะแยะ ฉันอยากเก็บท้องเอาไว้”เยี่ยนหวย “...”“เอามาให้ฉันก็ได้” เยี่ยนหวยรับไส้กรอกครึ่งชิ้นที่เหลืออยู่มาจากในมือของเธอ ก่อนจะเติมเข้าไปในท้องอย่างไม่มีภาระใด ๆถังซือซือซื้อขนมฉือปาแล้วเธอทำตัวอย่างกับโจร แต่ละร้านไม่ยอมปล่อยไปเลย ทว่าก็ชิมเพียงสองสามคำ ทั้งหมดที่เหลือก็โยนให้เยี่ยนหวยอย่างสบายใจเยี่ยนหวยเพลิดเพลินกับพฤติกรรมพรรค์นี้ ในใจเข้าใจได้ในทันที ราวกับกลับไปเมื่อเจ็ดปีก่อนหลังเรียนอย
“มันเรื่องอะไรกันแน่?”ก่อนหน้านี้ที่เยี่ยนหวยอยู่ที่เจียงเฉิง กลับไม่ได้สังเกตเท่าไรว่าอิเลียกำลังทำอะไรอยู่ เธอออกไปข้างนอกทุกวัน เยี่ยนหวยคิดเพียงแค่ว่าเธอกำลังไปเที่ยวเล่นถังซือซือไม่ใช่คนที่จะกุเรื่องมั่วซั่ว เธอพูดแบบนี้ ต้องรู้อะไรบางอย่างแน่ ๆ“พูดไปแล้วก็ยาว ตอนแรกฟู่ชิงเยว่อาของฟู่เจิงรับเลี้ยงเด็กกำพร้าอยู่ที่เมืองนอก ตอนนี้อายุห้าขวบแล้ว ปีที่แล้วอาเหลียงแท้ง แล้วฟู่ชิงเยว่ติดธุระพอดี เลยส่งเด็กคนนั้นกลับประเทศมาให้ฟู่เจิงดูแลช่วงหนึ่ง ฟู่เจิงเลยให้เด็กคนนั้นอยู่ในประเทศไปเลยเพื่อง้ออาเหลียง ปกติจะมาอยู่เป็นเพื่อนอาเหลียง และเด็กคนนั้นเองก็เข้าไปอยู่ในทะเบียนบ้านของฟู่เจิง แต่ว่า...”เยี่ยนหวยเดาเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อไปออกแล้ว จึงรับช่วงเอ่ยขึ้นต่อว่า “แต่ว่าจู่ ๆ ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวบอกว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นลูกของฟู่เจิงกับอิเลีย?”“ใช่ รายละเอียดฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน เหมือนว่าจะเกี่ยวข้องกับอาของฟู่เจิงนิดหน่อย เธอรู้ตัวตนของเด็กผู้หญิงคนนั้นมาตั้งแต่แรก และไม่ชอบอาเหลียงมาโดยตลอด ยังไงตอนนี้อาเหลียงก็อยู่กับฉัน เขากับฟู่เจิงทะเลาะกันอีกแล้ว”เยี่ยนหวยเอ่ยควา
“เยี่ยนหวย!!”ประตูลิฟต์เปิดออก ทั้งสองคนเข้าไปกันตามลำดับ แล้วลงไปยังลานจอดรถใต้ดินตรงมุมเลี้ยว ในหัวของผู้หญิงสวมหน้ากากอนามัยวาบภาพที่เห็นเมื่อครู่ขึ้นมา หมัดที่ห้อยอยู่กำขึ้นแน่น เธอก้มหน้าทั้งดวงตาที่ประกายความอำมหิตออกมาหากเวินเหลียงอยู่ตรงนี้ คงจะจำได้แน่ ๆ ว่าผู้หญิงที่สวมหน้ากากอนามัยคนนี้ก็คืออลิซที่เธอมาเจียงเฉิง ก็เพราะเยี่ยนหวย เยี่ยนหวยมาเมืองซีเมื่อสองวันก่อน เธอเองก็ตามมาเช่นกันอิเลียถามเลขาของเยี่ยนหวย เมื่อรู้โรงแรมของเขาก็บอกกับอลิซทีแรกอลิซคิดว่าเยี่ยนหวยมาทำธุระที่เมืองซี จากนั้นก็ค่อย ๆ พบว่ามันไม่ชอบมาพากลเยี่ยนหวยไม่ยุ่งเลยสักนิดแถมยังมีเวลาไปสอบถามร้านอาหารท้องถิ่น ถนนคนเดิน จุดชมวิวของเมืองซีเป็นต้น อีกต่างหาก ไม่เหมือนมาทำงานต่างถิ่น แต่เหมือนมาเที่ยวเสียมากกว่าจนกระทั่งวันนี้ เมื่อได้เห็นภาพนั้น อลิซถึงเข้าใจทุกอย่างที่แท้คนที่ซีซาร์ชอบไม่ใช่เฟย์ แต่เป็นถังซือซือเพื่อนของเฟย์!ที่แท้เขาไม่ได้มาทำงานต่างถิ่นที่เมืองซี แต่มาเพื่อตามจีบถังซือซือ!ที่เขาสอบถามร้านอาหารและจุดชมวิวของเมืองซี ก็เพื่อพาถังซือซือไปวันนี้!ในใจอลิซอิจฉาเป็นอย่างม
เมื่อเยี่ยนหวยได้ยินดังนั้น ก็รู้ในทันทีว่าเวินเหลียงไม่ได้รักษาคำมั่นสัญญาแต่เขาก็เตรียมตัวไว้นานแล้ว วันนั้นหลังจากกลับไปก็ให้คนไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด แล้วตัดคลิปมาใส่ไว้ในโทรศัพท์เมื่อได้ยินถังซือซือถามขึ้น เขาก็รีบส่งให้เธอทันที “ก็แค่คนที่ไม่สลักสำคัญอะไรคนหนึ่ง ฉันปฏิเสธเขาไปแล้ว”ถังซือซือดูคลิปรอบหนึ่ง ก่อนจะเบะปาก “อยู่ต่างประเทศคุณเยี่ยนมีสาวมาชอบเพียบเลยนะคะ”“แต่ฉันสนใจอยากจะครอบครองแค่เธอ”“จะยอมให้ฉันครอบครองไหม คุณถัง?”เยี่ยนหวยนั่งเอี้ยวตัว แขนข้างหนึ่งพาดอยู่บนพนักพิงเก้าอี้ เขาโน้มตัวเข้ามา ตัวท่อนบนใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ กลิ่นหอมฉุยจาง ๆ และกลิ่นอายของชายหนุ่มที่มาพร้อมกับการบุกรุกโอบล้อมเธอเอาไว้เขาดันแว่นตากรอบทอง สีหน้าอบอุ่น ฉีกยิ้มทว่าก็ราวกับไม่ยิ้ม มุมปากกระตุกรอยยิ้มเล็กน้อย ค่อนข้างมีความรู้สึกประเภทหน้าเนื้อใจเสือถังซือซือเหม่อไปครู่หนึ่ง“คุณถัง?”ใบหน้าหล่อเหลาตรงหน้าขยายใหญ่ขึ้นอีกครั้ง ไออุ่นร้อนปะทะเข้ามาที่หน้า ในที่สุดถังซือซือก็ได้สติกลับมา เธอเอนหลังพลางตบหน้าอก “นายทำฉันตกใจหมด...ไป ไปเดินหาของกินเล่นกันเถอะ”เธอลุกขึ้นและเดินออกไปอย่าง