“ในเมื่อมาร่วมงานกันอย่างจริงใจ งั้นฉันจะพูดตรง ๆ เลยนะคะ ฉากหลังในรูปกับชุดของคุณอิเลียไม่เข้ากันเลยค่ะ สลับซับซ้อนเกินไป ซับซ้อนถึงขั้นยุ่งเหยิงไปหมด จะส่งผลต่อสัดส่วนตรงกลางในภาพ ทำให้ภาพแออัดกันเกินไปค่ะ”“ก็ฉันชอบฉากหลังแบบนี้”“...”เวินเหลียงมองสีหน้าที่แฝงไปด้วยรอยยิ้มของอิเลีย ก็รู้ในทันทีว่าเปลี่ยนไม่ได้ง่าย ๆ แน่ “โอเคค่ะ ฉันทราบแล้วค่ะ”เวินเหลียงใช้ให้ผู้ช่วยไปจัดฉากหลัง“ต้องใช้เวลาจัดฉากหลัง งั้นเราไปถ่ายฉากหลังอื่นก่อนนะคะ” เวินเหลียงเอ่ย “ทำแบบนี้จะประหยัดเวลาได้มากที่สุด ฉันอยากให้การถ่ายรูปออกมาราบรื่น คุณอิเลียจะต้องเห็นด้วยอย่างแน่นอน”อิเลียแสยะยิ้มเบา ๆ พลางฝืนตอบตกลงไปการเผชิญหน้าครั้งที่สองพอขืนผ่านไปได้ทว่าก็เกิดปัญหาขณะถ่ายรูปอีกแล้วไม่รู้ว่าอิเลียตั้งใจหรือเปล่า ท่าโพสต์ที่เวินเหลียงใช้ให้เธอทำตาม เธอมักรู้สึกว่าขาดอีกนิด จนทำให้ผลของการถ่ายภาพออกมาไม่เป็นเหมือนอย่างที่คิดเอาไว้ทว่าเวินเหลียงอยากนำให้ถ่ายออกมาได้เป็นอย่างที่หวัง จึงต้องเตือนและแนะนำอยู่หลายต่อหลายครั้ง ใช้เวลาไปไม่น้อยเลยทีเดียวทั้งเช้า ถ่ายรูปที่ทำให้เวินเหลียงพอใจออกมาได้ไม
เมื่อมาถึงห้องทำงานของลิเลียน เวินเหลียงก็เล่าตามความจริงไป ผลงานที่เธอถ่ายทำให้อิเลียพอใจไม่ได้ ขอให้ลิเลียนเปลี่ยนช่างภาพให้อิเลียใหม่ก่อนหน้านี้เรื่องแบบนี้ก็เคยเกิดขึ้นในขณะทำงานมาแล้วเช่นกัน มีช่างภาพที่รังเกียจลูกค้าเรื่องเยอะ ลูกค้าบางรายก็รังเกียจที่ระดับของช่างภาพต่ำอิเลียเป็นเพื่อนของวิลเลียม ลิเลียนเองก็รู้จักเธอก่อนหน้านี้หากอิเลียจะถ่ายรูป นั่นต้องให้วิลเลียมออกโรงเองเสมอ ทว่าครั้งนี้อิเลียจงใจมาหาเธอ ระบุให้เฟย์เป็นคนถ่ายให้ ลิเลียนก็รู้สึกไม่ชอบมาพากลแล้วตอนนี้เมื่อเห็นเฟย์มาหาเธอ ลิเลียนก็เข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมาในทันทีอิเลียและเฟย์เคยบาดหมางกันแม้เฟย์จะเพิ่งเข้ามาไม่นาน ทว่าลิเลียนเคยเห็นผลงานของเธอ รู้สึกว่าเธอเป็นช่างภาพฝีมือดีที่หาได้ยากส่วนอิเลีย เป็นคุณหนูเพียงคนเดียวของตระกูลวิลสัน ดื้อด้านเอาแต่ใจ ต้องถูกคนคอยเอาใจระบุให้เฟย์ไปเป็นช่างภาพให้ ทว่าดันไม่พอใจในผลงานของเธอลิเลียนคาดเดาได้ว่าอิเลียกำลังต้องการทำให้เฟย์ตกที่นั่งลำบากแน่พวกเธอเคยบาดหมางเรื่องอะไรกัน ลิเลียนไม่อาจรู้ได้ ทว่าตอนนี้เฟย์เป็นพนักงานของสตูดิโอ เธอจะเห็นอิเลียเอาสตูดิโอและ
เธอมองคนรับใช้ที่อยู่ข้าง ๆ อิเลียทีหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “คุณอิเลียคะ ใครขโมยไปยังไม่รู้แน่ชัด ไม่งั้นฉันไปดูกล้องวงจรปิดให้ไหมคะ?”อิเลียเห็นลิเลียนถูกทำให้ลำเอียง จึงชี้ไปที่เวินเหลียงแล้วยืนกรานเอ่ยขึ้นว่า “ลิเลียน ฉันเชื่อใจแอนน์ เธอไม่มีทางขโมยสร้อยคอของฉันแน่ ๆ ต้องเป็นเฟย์แน่นอน! ฉันจะค้นตัวคุณ!”แอนน์คือชื่อของคนรับใช้“ค้นตัว?” ภายใต้รอยยิ้มของเวินเหลียง เธอมองอิเลียด้วยนัยน์ตาเปล่งประกาย “คุณอิเลียคะ ฉันไม่มีเวลามาเล่นเกมพวกนี้กับคุณหรอกนะคะ ถ้าจะค้นตัวฉัน ก็เอาหลักฐานออกมาสิคะ ไม่อย่างนั้นถือดียังไงฉันต้องให้คุณมาค้นตัวอย่างไม่มีเหตุผลด้วย?”ก่อนที่อิเลียจะพูด เวินเหลียงก็พูดดักเธอไว้ก่อน พร้อมทั้งชี้หน้าแอนน์และเอ่ยว่า “เขาเป็นคนของคุณ ไม่นับว่าเป็นพยาน”ลิเลียนพูดขึ้นอีกว่า “ยังไงไปตรวจดูกล้องวงจรปิดเถอะค่ะ ไม่แน่ว่าอาจจะหล่นแล้วถูกคนอื่นเก็บไปก็ได้นะคะ”อิเลียคิดจะพูดอะไรบางอย่าง ทว่าในจังหวะนี้เองก็มีชายหนุ่มสวมชุดลำลองคนหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกเมื่อเห็นว่าในห้องทำงานมีคนอยู่มากมายขนาดนี้ เขาก็พลันตกตะลึงไป พร้อมกับกวาดสายตาไปที่ทุกคน ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นว่า “นี
“คุณเวิน ผลการตรวจพบว่าคุณมีผนังมดลูกบางแต่กำเนิด ทารกในครรภ์ผิดปกติ ต้องระวังเรื่องการกินการออกกำลังในปกติมากหน่อยนะคะ”หมอกำชับพลางจ่ายยา ก่อนจะยื่นบัตรไป “นี่ค่ะ ไปรับยาได้เลย”“ค่ะ ขอบคุณค่ะ คุณหมอ” เวินเหลียงรับบัตรมาแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนหมอกำชับเธออีกคำ “ต้องระวังนะคะ อย่าเห็นเป็นเรื่องไม่สำคัญล่ะ!”ผนังมดลูกบางทำให้แท้งง่าย ผู้หญิงตั้งครรภ์หลาย ๆ คนพอแท้งลูกแล้วก็ตั้งครรภ์ไม่ได้อีก“ขอบคุณค่ะคุณหมอ ฉันจะระวังนะคะ” เวินเหลียงยิ้มน้อย ๆ พร้อมพยักหน้าแต่งงานมาสามปี ไม่มีใครรอคอยการมาของเด็กคนนี้มากไปกว่าเธออีกแล้ว เธอต้องปกป้องเขาอย่างดีแน่นอนหลังจากรับยา เวินเหลียงออกมาจากตึกแผนกผู้ป่วยนอกและกลับขึ้นรถคนขับรถสตาร์ตรถ มองเธอจากกระจกหลัง “คุณผู้หญิงครับ เที่ยวบินของคุณผู้ชายคือบ่ายสามโมง ยังมีเวลาอีกยี่สิบนาที จะไปสนามบินเลยไหมครับ?”“ไปสิ”พอนึกถึงว่าอีกยี่สิบนาทีก็จะได้เจอเขา ใบหน้าเวินเหลียงปรากฏรอยยิ้มหวานนิด ๆ ในใจเริ่มอดรนทนไม่ไหวแล้วฟู่เจิงไปดูงานเกือบเดือนแล้ว เธอคิดถึงเขามาก ๆระหว่างทางเธออดใจไม่ไหว หยิบผลตรวจครรภ์ออกมาจากกระเป๋าดูแล้วดูอีก วางมือบนท้องน้อ
“ฉันเอง”“คุณดื่มมาเหรอ...”“อืม ดื่มกับเพื่อนมานิดหน่อย”เสียงฝักบัวดังมาจากห้องน้ำ เวินเหลียงขมวดคิ้วพลิกตัว เพราะนอนหลับไม่สนิทฟูกข้างตัวยุบลงมือใหญ่ข้างหนึ่งตกลงบนตรงเอวของเธอ ก่อนจะค่อย ๆ ลูบไล้ไปตามโค้งเว้าอันสวยงามช้า ๆ“อื้อ...คืนนี้ไม่ได้...” เวินเหลียงหลับตาห้ามเขาทั้งสะลึมสะลือเพราะกลัวกระทบกระเทือนกับลูกตามสัญชาตญาณมือใหญ่หยุดชะงักอยู่บนหลังของเธอ “งั้นนอนเถอะ”เวินเหลียงเพลียจริง ๆ ไม่นานนักจึงหลับสนิทเช้าตรู่ ตอนที่เวินเหลียงตื่นขึ้นมา ข้างตัวปราศจากไออุ่นแล้ว มีเพียงผ้าปูเตียงที่ยับเล็กน้อย ซึ่งบ่งบอกว่าเมื่อคืนคนข้างตัวได้กลับมาเธอนึกเสียใจนิด ๆ ทำไมเมื่อคืนถึงหลับไปได้นะ?ไม่เป็นไร บอกวันนี้ก็เหมือนกันหลังจากเวินเหลียงอาบน้ำเสร็จก็เดินไปที่ห้องแต่งตัว เลือกสูทสีขาวให้ฟู่เจิง และเลือกเนกไทสีแดงเพราะคิดว่าเรื่องที่ตัวเองท้องถือเป็นเรื่องมงคลเรื่องหนึ่ง หลังจากนั้นก็นำไปวางบนเตียงนอนฟู่เจิงกลับจากการวิ่งยามเช้าแล้ว และกำลังนั่งอยู่บนโซฟาในชุดลำลอง เมื่อเงยหน้าเห็นเวินเหลียงที่กำลังลงมาจากบันไดจึงวางเอกสารในมือลง “กินข้าวเถอะ”จบมื้ออาหารเช้า เวินเหล
สามปีมานี้ แม้พวกเขาจะไม่ได้ประกาศให้คนนอกรู้ แต่ก็ไม่ต่างจากสามีภรรยาทั่วไปทุกเช้าเธอจะเลือกสูทพร้อมเนกไทให้เขาแล้วไปบริษัทด้วยกันกลางคืนต่างคนต่างแยกย้ายไปรับรองลูกค้าออกกำลังกายก่อนนอนเป็นประจำ อาบน้ำด้วยกันในบางครั้ง รวมถึงจูบราตรีสวัสดิ์ของทุกคืนก็ไม่เคยขาดเขาไม่เคยพลาดของขวัญวันครบรอบวันแต่งงาน วันวาเลนไทน์และวันเกิด เธออยากได้อะไรเขาก็มอบให้ตามที่ปรารถนาทั้งหมดความโรแมนติก ความพิธีรีตอง เขาล้วนทำให้ครบหมดทุกอย่างเขาทำทุกเรื่องที่สามีสมบูรณ์แบบคนหนึ่งพึงกระทำแม้แต่ตัวเธอเองยังนึกว่าชีวิตจะมีความสุขแบบนี้ไปเรื่อย ๆแต่ฉู่ซืออี๋กลับมาแล้วดังนั้นทุกอย่างจึงต้องจบลงฉะนั้นเสียงผู้หญิงในสายเมื่อวานก็คงจะเป็นฉู่ซืออี๋พวกเขาติดต่อกันมานานแล้วเหรอ?ทริปดูงานหนึ่งเดือนนี้ พวกเขาอยู่ด้วยกันตลอดเหรอ?เมื่อวานพวกเขากลับมาด้วยกันเหรอ?เมื่อคืนเขาอยู่เป็นเพื่อนฉู่ซืออี๋เหรอ?พอนึกถึงเรื่องพวกนี้ ก้นบึ้งหัวใจเวินเหลียงก็เย็นเยียบ คล้ายกับฟู่เจิงเฉือนเลือดเฉือนเนื้อเธอทีละนิดจนขาดแหว่งไม่มีชิ้นดี“เวินเหลียง เธอวางใจเถอะ ถึงเราจะหย่ากัน แต่เธอก็ยังเป็นคนตระกูลฟู่ เป็นน
เวินเหลียงกอดโทรศัพท์มือถือ ปวดใจจนหายใจไม่ออกที่แท้พอฟู่เจิงลงจากเครื่องบินก็พาฉู่ซืออี๋ไปเจอกับเพื่อนของเขานี่เองพวกเขารู้และอวยพรกันทุกคนมีแต่เธอที่ถูกครอบอยู่ในกะลาและสามปีมานี้ การแต่งงานของพวกเขา มีแต่คนตระกูลฟู่ที่รู้เขาไม่เคยพาเธอไปเจอเพื่อนของเขาเลย แม้ว่าจะเจอบ้าง แต่ทุกคนต่างก็คิดว่าเธอเป็นลูกบุญธรรมตระกูลฟู่โดยปริยาย“คุณผู้หญิงครับ?”คนขับรถมาถึงโรงจอดรถเพื่อมาเป็นสารถี เห็นรถของเวินเหลียงยังอยู่จึงเรียกด้วยความสงสัยเวินเหลียงปาดน้ำตาอย่างว่องไว ทำเป็นไม่ได้ยินและสตาร์ตรถออกไปทันทีเวินเหลียงจะไม่ใช้อารมณ์ส่วนตัวในการทำงานตอนนี้เธอจึงได้แต่ใช้การทำงานเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเองเมื่อเวินเหลียงหาอีเมลของฟู่เจิงพบ จึงอัพโหลดแผนงานลงในอีเมลแล้วกดส่งแพล็บเดียวฟู่เจิงก็ตอบกลับสั้นกระชับเหมือนทุกที ‘ผ่าน หลังจากนี้เธอคอยจับตาดูให้มากหน่อยแล้วกัน’เวินเหลียงหยุดชะงักครู่หนึ่ง พิมพ์คำว่า ‘ได้’ ส่งไปแล้วมอบหมายงานอย่างรวดเร็วหลังจากเลิกงานตอนเย็น เวินเหลียงก็ได้รับข้อความจากฟู่เจิง ‘คืนนี้มีธุระ เธอกลับไปก่อน’เวินเหลียงเม้มริมฝีปาก ในใจเกิดความรู้สึกเจ็
เวินเหลียงรู้สึกแสบบริเวณปลายจมูก ภาพตรงหน้าถูกปกคลุมด้วยม่านน้ำตา หัวใจทุกข์ระทมขื่นขมอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเธอไม่เคยเห็นท่าทางอ่อนโยนอย่างนี้ของฟู่เจิงเลย แต่งงานกันสามปีเขามักเมินเฉยใส่เธอเสมอเธอมักปลอบใจตัวเองว่าเขาเป็นคนอย่างนี้เองโกหกจนแม้แต่ตัวเองเธอก็ยังเชื่อเวลานี้เธอเห็นแล้วว่าเขาก็อ่อนโยนเป็นเหมือนกัน เพียงแค่มอบให้กับผู้หญิงอีกคนหนึ่งเท่านั้นพวกเขาเดินผ่านหน้ารถของเธอไป เขาไม่ได้สังเกตว่านั่นคือรถของเธอ และแน่นอนว่าไม่เคยสังเกตตัวเธอเช่นกัน“คุณผู้หญิง กลับมาแล้วเหรอคะ กลางคืนจะกิน...”แม่บ้านเห็นหยดน้ำตาบนใบหน้าของเวินเหลียงแวบ ๆ ยังไม่ทันพูดจบก็เห็นเธอเข้าห้องนอนไปเลย จึงไม่กล้าถามอีกเวินเหลียงทรุดหลังพิงกับประตู ลำคอรู้สึกถึงรสชาติขมเฝื่อนอย่างไม่มีที่สิ้นสุดหลังจากอดกลั้นมาทั้งวันในที่สุดเธอก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไป ม่านน้ำตาเอ่อขึ้นมาในเบ้าตาอย่างรวดเร็ว มันมากเสียจนล้นออกมาจากขอบตาและไหลลงตามพวงแก้มเธอปวดหัวใจมาก ปวดมากจริง ๆหลังจากที่พ่อแม่แยกทางกัน เธอก็ทนรับกับความทุกข์ของครอบครัวพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวมากพอแล้ว เธอจึงไม่อยากให้ลูกของเธอต้องเป็นเหมือนกั