แผนการล้มเหลว เดิมทีหลินเจียหมิ่นคิดจะกลับเมืองจิงเลย ทว่าถูกฮั่วจวินซานขวางเอาไว้ฮั่วจวินซานบอกว่า “พรุ่งนี้ฉันจะไปเจียงเฉิงพอดี ถึงเวลานั้นเราค่อยกลับมาพร้อมกัน”หลินเจียหมิ่นกำลังจะตอบตกลง ทว่าได้ยินฮั่วจวินซานพูดขึ้นอีกว่า “จริงสิ ฉันจะพาอี้หน่วนไปด้วย หาเวลาไปขอโทษขอโพยเวินเหลียงซะ ถึงยังไงเรื่องนี้ก็เป็นความผิดของอี้หน่วน ถึงเวลานั้นเธอก็ไปเป็นเพื่อนอี้หน่วน แล้วก็กระชับความสัมพันธ์ของเธอแม่ลูกซะ”หลินเจียหมิ่นเบิกตาโพลงอย่างเหลือเชื่อ เธอเผยอปากเล็กน้อย พยายามรักษาความนิ่งเอาไว้ “จวินซาน คุณเองก็รู้นิสัยขี้โมโหของอี้หน่วน...”อีกอย่างคือ เพราะเรื่องเมื่อคืน เกรงว่าเวินเหลียงคงจะมองเธอออกจนทะลุปรุโปร่งแล้ว จะมาผูกความสัมพันธ์แม่ลูกลึกซึ้งกับเธอได้ยังไงกัน?ฮั่วจวินซานตัดบทคำพูดของเธอ “ก็ไอ้เพราะนิสัยขี้โมโหของเขานี่แหละ เพราะงั้นถึงต้องอบรบสั่งสอนให้ดี ๆ ให้เธอรู้จักว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ เธอทำแบบนี้มีแต่ทำให้เขาเสียนิสัย”“...ค่ะ ฉันเข้าใจแล้วค่ะ แต่ว่าทางเวินเหลียง เธอเข้าใจฉันผิดไปเยอะมาก ฉันคิดว่าคงจะไม่ยอมผ่อนปรนง่าย ๆ แน่”“นี่ ขอแค่เธอปฏิบัติกับเขาดี ๆ นาน ๆ ไป
เมื่อนึกถึงเงาร่างสูงตระหง่านดั่งต้นสน คนที่มีอนาคตสดใสคนนั้น รู้จักแบกรับหน้าที่มีความรับผิดชอบ หลินอี้หน่วนยิ่งชอบเขามากขึ้นเรื่อย ๆทว่าเมื่อนึกถึงว่าการแบกรับของฟู่เจิงก็เพื่อเวินเหลียงใบหน้าที่เต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาของหลินอี้หน่วนพลันดูดุร้ายขึ้นในทันใดทำไมกัน?ทำไมเวินเหลียงถึงได้รับความชอบจากฟู่เจิงและพี่ตงเฉิงในเวลาเดียวกัน?ทำไมหลังหย่ากันไปแล้วฟู่เจิงถึงยังรักเวินเหลียงสุดจิตสุดใจขนาดนั้น?ถ้าฟู่เจิงไปทวงคืนความยุติธรรมถึงที่หลังจากที่เธอได้รับความยากลำบากแบบนี้ได้บ้าง เธอคงรู้สึกมีความสุขมากแน่ ๆ “งั้นคุณอาคะ คุณอาจะกระชับความสัมพันธ์แม่ลูกกับเวินเหลียง แล้วรับเธอกลับมาบ้านตระกูลฮั่วจริง ๆ เหรอคะ?” หลินอี้หน่วนเขย่าแขนของหลินเจียหมิ่น พร้อมเอ่ยถามขึ้นทั้งเบะปาก“แน่นอนว่าไม่อยู่แล้ว ต่อให้ฉันจะอยาก แต่เวินเหลียงคงไม่ตกลงแน่นอน เขาไม่ใช่คนโง่สักหน่อย เธอวางใจได้เลย จะไม่มีใครมาแย่งของของเธอไปแน่นอน”หลินอี้หน่วนถอนหายใจเฮือกหนึ่ง “คุณอา คุณอาดีกับหนูจริง ๆ”หลินเจียหมิ่นยิ้มแย้ม จากนั้นก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ รอยยิ้มบนหน้าพลันแข็งทื่อไป เธอตบหลังมือของหลินอี้ห
คนที่ฟู่เจิงส่งไปเมียนมาร์กลับมาพร้อมกับข่าวดีที่แท้จางกั๋วอันก็แต่งงานมีลูกอยู่ที่เมียนมาร์ตามที่คนของฟู่เจิงบอก พวกเขาไปยังที่อยู่ของจางกั๋วอันในย่างกุ้ง สอบถามกับคนแถวนั้นถึงได้รู้ว่าหลังจางกั๋วอันถูกพวกจี้ตันพาตัวไป ภรรยาและลูกของจางกั๋วอันเองก็ถูกคนอีกกลุ่มหนึ่งพาตัวไปเช่นกันฟู่เจิงคาดเดาว่า พวกคนที่พาตัวภรรยากับลูกของจางกั๋วอันไปน่าจะเป็นคนของฮั่วตงเฉิง ฉะนั้นหลังจากที่พวกเขาจับตัวจางกั๋วอันได้ที่ชายแดน ก็ใช้ภรรยาและลูกของเขามาข่มขู่เขาอย่างถูกจังหวะและเป็นขั้นเป็นตอน จากนั้นค่อยส่งตัวเขาให้ทางตำรวจอย่าง ‘ใจดี’หากคิดลงไปให้ลึกอีกหน่อย ตอนที่จางกั๋วอันหนีไปจากเงื้อมมือจี้ตันที่ชายแดน ไม่แน่ว่าอาจเป็นแผนของคนของฮั่วตงเฉิงก็ได้ เพื่อให้ได้เข้าใกล้จางกั๋วอันและข่มขู่เขาคงเป็นเพราะจัดการเรื่องสำเร็จไปแล้วเกินครึ่ง พวกคนที่ลักพาตัวภรรยาและลูกของจางกั๋วอันไปเหล่านั้นจึงการ์ดตก ถูกคนที่ฟู่เจิงส่งไปอาศัยช่องโหว่ช่วยภรรยาและลูกของจางกั๋วอันออกมา และพาตัวกลับมาทั้งหมด ตอนนี้ถูกกักตัวอยู่ในที่ลับ รอการสั่งการของฟู่เจิงฟู่เจิงไปเจอภรรยาและลูกของจางกั๋วอันด้วยตัวเอง จากนั้นก็ไปยื่น
เวินเหลียงรีบหลบไปข้างทางรถตู้ขับผ่านข้างกายเธอไปเวินเหลียงชำเลืองมองไปทีหนึ่ง เห็นประตูด้านข้างของรถตู้เปิดอยู่ในสมองเธอมีแสงฟ้าแลบประกายขึ้นมาลำแสงหนึ่ง เสียงกริ่งเตือนดังขึ้น ทว่าหลบหลีกไม่ทันแล้วมีคนโผล่ออกมาจากตัวรถ จากนั้นก็จับตัวเธอขึ้นไปอย่างรวดเร็วฉับพลัน ก่อนจะใช้มือสับเข้าที่ท้ายทอยเธออย่างแรงตรงหน้าเวินเหลียงมืดไปหมด เธอหมดสติไปสี่ทุ่มแล้ว คนขับรถเห็นเวินเหลียงยังไม่ลงมา จึงต่อสายโทรออกหาเวินเหลียงไม่มีคนรับสายตอนที่คนขับรถถูกเวินเหลียงรับเข้ามาทำงาน เป็นช่วงที่เธอยุ่งที่สุด ปกติจะทำโอทีหรือเข้าสังคมจนถึงห้าทุ่มตอนนี้เพิ่งสี่ทุ่ม คนขับรถคิดแค่ว่าเวินเหลียงยังยุ่งอยู่ คงไม่ได้สนใจจะรับสายผ่านไปหลายนาที เขาก็ต่อสายโทรออกไปอีกครั้งก็ยังไม่มีคนรับสายในตอนนี้เองคนขับรถถึงรู้สึกถึงความผิดปกติเล็กน้อย เขาจึงล็อกรถแล้วขึ้นลิฟต์ไปดู ประตูใหญ่ของมูลนิธิถูกล็อกเรียบร้อยแล้วในใจเขาเต้นตึกตัก ๆ ขึ้นเสียงหนึ่ง เขายืนต่อสายโทรออกหาเวินเหลียงอยู่หน้าประตู ก็ยังไม่มีคนรับสายเช่นเดิมคนขับรถรู้สึกฉงนเล็กน้อย เขารีบไปขอดูภาพกล้องวงจรปิดที่ห้องควบคุมกล้องวงจรปิดของตึ
แสงจันทร์เลือนรางสาดส่องเข้ามาตรงหน้าประตูมีผู้ชายเตี้ยไว้ผมสั้นแค่คืบนิ้วคนหนึ่งยืนอยู่ เขาใช้สายตาอย่างดูสินค้ามองประเมินเวินเหลียง ก่อนจะหันไปพูดกับคนที่อยู่เบื้องหลังว่า “ดูท่าไม่เลวเลยทีเดียว น่าจะขายได้ราคาดี”เวินเหลียงหวั่นใจเป็นอย่างมากนี่เธอเจอพ่อค้าค้ามนุษย์เข้าแล้วเหรอ?เวินเหลียงนึกถึงผู้หญิงที่ถูกจับตัวไปขายยังพื้นที่ห่างไกลเหล่านั้น คนหนึ่งประสบพบเจอมาน่าสังเวทใจกว่าอีกคน หากเป็นแบบนี้จริง ๆ เกรงว่าตายไปยังดีเสียกว่ามีชีวิตอยู่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังหน้าตาซีดเซียว ทั้งตัวดูสกปรกมอมแมม มองไปดูผมเผ้าหนวดเคราเหมือนไม่ได้ตัดโกนมานานแล้ว ในน้ำเสียงมีความไม่สบอารมณ์อยู่เล็กน้อย “รีบเอาเงินมาซะ”เวินเหลียงรู้สึกคุ้นตาอยู่สองสามส่วนในหัวพลันวาบภาพขึ้นมา นัยน์ตาเธอหดตัวลง พลางจ้องผู้ชายที่สกปรกมอมแมมด้านนอกนั่นนั่นมัน...เมิ่งจินถัง!เนื่องจากหมายจับและการสืบสวนของทางตำรวจ จึงได้วางกำลังคนไว้ที่แต่ละสถานีรถไฟ แต่ละป้ายรถสาธารณะและตามทางแยกทางด่วน เมิ่งจินถังไม่สามารถออกจากเจียงเฉิงได้ จึงทำได้เพียงหาที่ซ่อนตัวไปทั่วสองวันก่อน มีคนหาที่อยู่ของเขาเจอ ใช้ให้เขาออกไปทำ
“เธอเห็นฉันโง่เหรอ? อย่าเสียแรงเปล่าเลย”ชายคนเตี้ยจ้องเวินเหลียงพลางแสยะยิ้มผู้หญิงคนนี้สวยมากจริง ๆ ดูมีออร่า ไม่แน่ที่บ้านอาจเป็นคนมีเงินจริง ๆทว่ายังไงขายออกไปจะยิ่งปลอดภัยกว่าหน่อยไม่อย่างนั้นใครจะรู้ได้ว่าหลังจากเธอได้รับอิสระไปแล้วจะแจ้งตำรวจให้คนมาจับเขาหรือเปล่า?ชายหนุ่มเดินหน้าเข้ามาใกล้ ก่อนจะผลักเวินเหลียงให้ล้มหลง เดิมทีเวินเหลียงที่ถูกมัดมือมัดเท้าเอาไว้ไม่มีทางลุกขึ้นมาได้อยู่แล้วเธอรีบพูดออกไปว่า “แกทำได้แค่ขายฉันไปในหมู่บ้านไกลปืนเที่ยง มีแต่ตาเฒ่าที่ไม่มีปัญญาแต่งเมียทั้งนั้น จะขายได้เงินสักเท่าไรกันเชียว? แต่ถ้าแกปล่อยฉันไป สองล้านห้า ห้าล้านฉันก็ให้แกได้ทั้งนั้น!”เมื่อชายหนุ่มได้ยินดังนั้นฝีเท้าก็หยุดชะงักลงเธอพูดถูก ทำไมคนพวกนั้นจะต้องซื้อเมียล่ะ?เนื่องจากครอบครัวยากจน แถมตัวเขายังไม่มีความสามารถอะไรอีก จึงไม่มีใครยอมแต่งงานด้วยอย่าเห็นแก่ว่านังผู้หญิงคนนี้อยู่หน้าตาสะสวยเลย อย่างมากก็ขายได้แค่ไม่กี่หมื่นเท่านั้น มากกว่านี้ตาเฒ่าเหล่านั้นก็จ่ายไม่ไหวจริง ๆ นี่อาจเป็นเงินทรัพย์สินทั้งหมดที่พวกเขาสะสมมาอย่างยากลำบากหลายปีแล้วอีกอย่างหลายปีมานี้กา
ตอนที่เมิ่งจินถังขายเธอให้เขากลัวว่าเขาจะไม่กล้ารับช่วงต่อ จึงไม่ได้บอกตัวตนของเวินเหลียง และไม่ได้บอกเรื่องความแค้นของเขากับเวินเหลียงไป บอกแค่ว่าตัวเองไม่ได้กินข้าวมานาน ไปเห็นเธอเดินอยู่บนถนนคนเดียวจึงคิดแผนชั่วขึ้นมา และลักพาตัวเธอมาพอคนมันเข้าตาจน ไม่ว่าอะไรก็ทำได้ทั้งนั้นชายหนุ่มเห็นท่าทางของเมิ่งจินถังก็เดาได้ในทันทีว่าเขากำลังหลบตำรวจอยู่ จึงไม่ได้สงสัยว่าคำพูดของเขาจริงหรือโกหกเวินเหลียงจะบอกชื่อแซ่ของตัวเองไม่ได้ชายหนุ่มต้องการรู้ชื่อของตน เพียงคิดแค่อยากจะตรวจเช็กว่าที่บ้านเธอมีเงินจริง ๆ หรือเปล่าทว่าหากเกิดหาเจอไปถึงตัวฟู่เจิง หลังรู้ว่าฟู่เจิงเป็นใคร ไม่แน่ว่าชายหนุ่มอาจถลกหนังเธอเลยก็ได้ถึงยังไงที่ตัวฟู่เจิงก็มีประวัติคดีติดตัวที่เคยเกิดขึ้นจริงอยู่...ปีนั้นมีคนจับฉู่ซืออี๋แฟนเขาไปขู่เขา สุดท้ายเขาก็ไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ จากการข่มขู่ซ้ำยังแจ้งตำรวจเลยอีกต่างหากชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นเวินเหลียงก็พูดต่อว่า “เสื้อโค้ตที่อยู่บนตัวฉันมือสองได้ราคาหนึ่งหมื่นห้าพันบาท ถ้าแกไม่เชื่อลองเอาเสื้อโค้ตตัวนี้ไปถามที่ตลาดมือสองก่อนก็ได้ นอกจากนี้ฉันชื่อถังซือซือ พ่อฉันชื่
หลังชายหนุ่มยืนยันแล้วว่าเวินเหลียงไม่ได้โกหก เขาก็โยนโทรศัพท์ให้น้องชายคนนั้น “ดูท่าน่าจะไม่ผิด ตอนนี้พวกเราต้องวางแผนให้ดี หลังได้เงินมาแล้วก็ไปจากที่นี่ หลีกเลี่ยงลมปะทะหน้า”“ได้ครับ” น้องชายคนนั้นรีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “พี่ พี่คิดจะทำยังไง? โทรหาพ่อเธอคืนนี้เลย?”ชายหนุ่มครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ถึงตอบกลับน้องชายคนนั้นว่า “ใช้ซิมใหม่ ปล่อยให้พวกเขารวบรวมเงินก่อน เราค่อยจัดแจงหาลู่ทางหนี แล้วอีกสองวันค่อยหาที่แลกของกัน”“ครับ ๆ ๆ”น้องชายคนนั้นเอาซิมใหม่แผงหนึ่งลงมาจากบนรถ จากนั้นก็เปลี่ยนใส่โทรศัพท์มือถือเนื่องจากพวกเขาทำงานแบบนี้ เพราะกลัวว่าจะถูกระบุตำแหน่ง จึงต้องเปลี่ยนเบอร์มือถือตลอดเวลาชายหนุ่มถือโทรศัพท์กลับเข้าไปในห้องพลางจ้องเวินเหลียงเวินเหลียงมองชายหนุ่มด้วยความระแวงพร้อมกลั้นลมหายใจเอาไว้“เอาละ ฉันไม่แตะต้องเธอก็ได้ บอกเบอร์พ่อเธอมา ขอแค่ฉันได้เงินมาแล้ว ฉันปล่อยตัวเธอไปแน่” ชายหนุ่มเอ่ยเวินเหลียงลอบถอนหายใจเฮือกหนึ่ง “ฉันบอกนายได้เลย ถ้าฉันได้เจอพ่อฉันแล้วกระทั่งโน้มน้าวให้เขาถอนแจ้งความก็ยังได้ แต่แกต้องรับรองความปลอดภัยของฉัน ห้ามทำร้ายฉันเป็นอันขาด”ชา
อิเลียลุกขึ้นพรวด พลางมองเยี่ยนหวยอย่างเหลือเชื่อ“ถ้าเธอยังเห็นฉันเป็นพี่ชายของเธออยู่ ก็เชื่อฟังฉัน แล้วกลับไปเมืองฟิลาเดลเฟียพรุ่งนี้ซะ!” เยี่ยนหวยนั่งตัวตรงพลางเงยหน้ามองเธออยู่บนโซฟา“ฉันไม่กลับ!” อิเลียเดือดดาลจนแค่นเสียงฮึออกมาทีหนึ่ง ก่อนจะกลับไปนั่งตรงมุมโซฟา “อยากกลับพี่ก็กลับไปเองซะเลยสิ!”“ฟู่เจิงไม่ใช่คนดี ต่อให้ระหว่างพวกเธอมีลูกด้วยกัน เขาก็ไม่มีทางคบกับเธอ”ก่อนหน้านี้ฟู่เจิงเคยมีเรื่องอื้อฉาวว่ามีชู้ ตอนนี้ก็มีอดีตภรรยาที่มีความสัมพันธ์คลุมเครือมาอีกคน ขอให้เป็นผู้ใหญ่ที่รักลูกสาว ก็จะไม่มีวันเลือกเขาทั้งนั้น“พี่รู้ได้ยังไงว่าเขาไม่ใช่คนดี? พี่รู้ได้ไงว่าเขาจะไม่คบกับฉัน? วันนี้ตอนเที่ยงเรายังไปกินข้าวด้วยกันอยู่เลย!”เมื่อเห็นอิเลียดื้อดึง ในใจของเยียนหวยก็รู้สึกไม่ได้ดั่งใจ เขาแสยะยิ้มออกมาทีหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยว่า “พวกเธอไม่ได้ไปกินข้าวด้วยกันตามลำพัง แต่ฟู่ซือฝานอยู่ข้าง ๆ ใช่ไหม?”ในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ ฟู่เจิงจะมากินข้าวกับอิเลียตามลำพังได้ยังไง? นอกเสียจากเขาคิดจะเลิกกับเวินเหลียงจริง ๆ“...ใช่ ก็เขาเป็นลูกของพวกเรานี่” เมื่อเห็นว่าถูกเดาทางถูก อิเลียก็พูดอึ
แต่หลังจากเดินตามแผนแล้วถึงได้พบว่า นี่มันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลยถ้าพ่อแม่คุณลุงคุณป้ารู้ว่าเธอมีลูกนอกสมรสข้างนอก ต้องเข้ามาแทรก และไม่แน่ว่าจะพาตัวเธอกับลูกกลับไป“อิเลีย ผมเข้าใจนะครับคุณในฐานะแม่แท้ ๆ คุณอยากรีบกระชับความสัมพันธ์กับฝานฝาน แต่ก็อย่าตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูก โดยเฉพาะมักจะไปหาฝานฝานที่โรงเรียนอนุบาล แบบนี้จะส่งผลกระทบกับชีวิตของเธอได้นะครับ”“ฉันรู้แล้วค่ะ ต่อไปจะไม่ไปหาเขาที่โรงเรียนอนุบาลอีก ฉันเห็นว่าคุณกินน้อยมาก อาหารที่เหลือไม่ถูกปากหรือเปล่า?”ฟู่เจิง “...ก่อนมาผมกินมาบ้างแล้ว”หลังกินข้าวเที่ยงเสร็จ ฟู่ซือฝานรบเร้าขอกลับกับฟู่เจิงเธอล้วงกลยุทธ์ร้องไห้งอแงชักดิ้นชักงออยู่ที่พื้นของเด็กห้าขวบออกมาอย่างล้ำลึก ไม่มีเหตุผล ทว่าอิเลียฝืนเธอไม่ได้อิเลียทำได้เพียงกลับไปที่บ้านของเซี่ยเจิน“อิเลีย เธอกลับมาแล้วเหรอ?”เมื่อเห็นอลิซนั่งอยู่บนโซฟา อิเลียเดินมานั่งลง “เป็นยังไงบ้าง? ครั้งนี้เธอไปเมืองซีกับซีซาร์ ได้แสร้งทำเป็นเจอโดยบังเอิญ แล้วไปกินข้าวกับเขาอะไรหรือเปล่า?”อลิซเบะปาก “เปล่า”“ทำไมล่ะ? โอกาสดีขนาดนั้นทำไมเธอไม่คว้าเอาไว้?”“เขางานยุ่งมาก ฉันกล
อิเลียจัดผมด้วยท่าทางราวกับไม่มีเจตนาอื่น หน้าตาเผยความตื่นเต้นออกมาดูท่าเธอจะเลือกวิธีถูกจริง ๆในตอนนี้เธอเพิ่งเข้าใกล้ฟู่ซือฝานไม่เท่าไร ท่าทีของฟู่เจิงเขาก็ผ่อนคลายลงเยอะแล้วผ่านไปยี่สิบนาที ฟู่เจิงก็ปรากฏตัวขึ้นในห้องรับรองนี่เป็นการเจอกันครั้งที่สองหลังจากวันนั้นเขานั่งลงข้าง ๆ ฟู่ซือฝาน พลางพยักหน้าให้อิเลียเบา ๆ “รบกวนแล้ว ไม่ถือสาที่ผมมาร่วมโต๊ะด้วยใช่ไหม?”“ไม่ถือสา นั่งเถอะค่ะ”สีหน้าของอิเลียเย็นชา ราวกับยังอยู่ต่อหน้าคุณหญิงและฟู่ชิงเยว่ครั้งก่อน เธอไม่ได้โกรธที่ฟู่เจิงปฏิเสธเธออย่างไร้ความปรานี“งานผมยุ่งมาก ยากที่จะใส่ใจคุณกับฝานฝานได้มากขนาดนั้น”“ฝานฝานเป็นลูกของฉัน นี่เป็นสิ่งที่สมควรอยู่แล้ว ฉันไม่รู้ว่าคุณจะมา ก็เลยสั่งอาหารไปสุ่ม ๆ เดี๋ยวอาหารมาเสิร์ฟคุณก็ดูแล้วกันว่าอยากจะสั่งเพิ่มไหม”“ผมไม่เลือกกิน” ฟู่เจิงตอบจากนั้นพนักงานก็เริ่มมาเสิร์ฟอาหารฟู่เจิงมองเนื้อแพะที่มาเสิร์ฟเต็มโต๊ะ เขาเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก้มหน้าไปมองฟู่ซือฝานฟู่ซือฝานก้มศีรษะน้อย ๆ อย่างกระวนกระวายอิเลียหยิบตะเกียบขึ้นมา “ไม่ต้องเกรงใจ กินเลยค่ะ”ฟู่เจิงลังเลอยู่ครู่หนึ่
เจียงเฉิงเที่ยงวันศุกร์ อิเลียไปรับฟู่ซือฝานออกไปกินข้าวเที่ยงที่คฤหาสน์ย่านซิงเหอวานเธอฉีกยิ้มพลางพูดกับฟู่ซือฝานว่า “เมื่อวานแม่ว่าจะไปรับหนูที่โรงเรียนอนุบาล จู่ ๆ ก็นึกถึงคำพูดของหนูเมื่อครั้งก่อนได้ ก็เลยมาวันนี้ วันนี้ตอนบ่ายแม่จะพาหนูไปเล่นดี ๆ เป็นยังไงจ๊ะ?”ฟู่ซือฝานเอียงคอพลางครุ่นคิด “ตอนบ่ายหนูต้องทำการบ้าน แค่กินข้าวเที่ยงก็พอแล้วค่ะ”“ก็ได้ งั้นหนูคิดไว้หรือเปล่าว่าอยากกินอะไร?”“ไปร้านอาหารที่มีเมนูเนื้อแพะแนะนำแล้วกันค่ะ” ฟู่ซือฝานเอ่ยขึ้นด้วยทีท่าจริงจัง “วันนี้คุณลุงบอกว่าจะไปกินข้าวเที่ยงเป็นเพื่อนหนู ไม่รู้ว่าจะมาไหม”นัยน์ตาอิเลียวาบความปลื้มปีติออกมา “จริงเหรอ?”“เขาเคยบอกไว้แบบนี้ค่ะ คุณน้าคะ ที่คุณน้ารับหนูออกมา ไม่ใช่เป็นเพราะอยากกระชับความสัมพันธ์กับหนูสองต่อสองเหรอคะ? ทำไมถึงหวังให้คุณลุงมาด้วยล่ะคะ?”เจ้าตัวน้อยเอ่ยถามขึ้นด้วยใบหน้าจริงจัง“น้า...น้ามีเรื่องอยากพูดคุยกับพ่อของหนูน่ะ แล้วก็หวังว่าเราจะได้กินข้าวด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัว” อิเลียรีบหาข้ออ้างทันทีเจ้าเด็กคนนี้ หูตาเฉียบแหลมจริง ๆ“อ้อ”“น้าจะหาร้านอาหารเนื้อแพะเดี๋ยวน
“เรียกฉันทำไม?” เยี่ยนหวยมองเธอด้วยสีหน้าไร้เดียงสา“ตอนนี้มันฤดูร้อน”ผ่านฤดูใบไม้ผลิมาแล้ว“ฉันแค่นึกถึงวันนั้นที่ไปติวให้เธอแล้วเจอแม่เธอเข้าโดยบังเอิญ เธอคิดไปถึงไหน?” เยี่ยนหวยเลิกคิ้วถังซือซือชะงักไปมีครั้งหนึ่งตอนที่เธอติวอยู่ในบ้าน แล้วบังเอิญเจอแม่ของเธอเข้าจริง ๆ แต่นั่นมันเรื่องตอนเทอมที่สองเยี่ยนหวยต้องจงใจพูดถึงวันนั้นตอนเทอมแรกแน่ ๆ ให้เธอเข้าใจผิดถ้าเธอชี้ไปเลยว่าเยี่ยนหวยจำผิด ก็จะเข้าแผนของเยี่ยนหวย เหมือนว่าเธอยังไม่เคยลืมเรื่องในอดีต คิดถึงเรื่องราวเหล่านั้นของเธอกับเยี่ยนหวยอยู่ตลอด“ตอนนี้ไม่ใช่ฤดูร้อนเหรอ? นายคิดไปถึงไหนอีก?” เธอปัดตกเรื่องนี้ไปอย่างมั่นใจทันทีหลังพูดจบ เธอก็หมุนตัวเดินไปด้านหน้าต่อ “ไม่พูดแล้ว รีบไปร้านถัดไปเถอะ”อยู่ข้างนอกจนถึงสี่ทุ่ม ทั้งสองคนถึงกลับไปยังโรงแรมด้วยกันถังซือซืออยากเรียกรถกลับไปเอง ไม่อยากให้เยี่ยนหวยไปส่งเธอเยี่ยนหวยจึงเอ่ยไปตามตรงว่า “ฉันพักอยู่ที่โรงแรมเดียวกันกับเธอ”ถังซือซือ “...”นี่ไม่ใช่ครั้งแรกแล้วคราวก่อนตอนที่เวินเหลียงถ่ายรูปเยี่ยนหวยรูปแรกที่เมืองฟิลาเดลเฟีย เวินเหลียงก็ถามว่าช่วงนี้เยี่ยนหวย
เมืองซีในฐานะเมืองใหญ่ของเจียงหนาน ประเภทของกินเล่นมีมากมาย ของกินเอกลักษณ์ที่ขึ้นชื่อไปทั่วประเทศอาทิ เต้าหู้เหม็น ไส้กรอกยักษ์ เส้นหมีเฝิ่น กุ้งเผ็ดเป็นต้นถังซือซือเคยมาเมืองซีตอนมาทำงานต่างถิ่นก่อนหน้านี้ เวลาค่อนข้างกระชั้นชิด จึงทำได้เพียงเดินช็อปปิงที่อื่น แต่เพิ่งเคยมาถนนคนเดินที่นี่เป็นครั้งแรกเธอซื้อไส้กรอกยักษ์สองชิ้นก่อน และแบ่งให้เยี่ยนหวยหนึ่งชิ้นกินไปได้เพียงครึ่งเดียว ถังซือซือก็หยุดอยู่ตรงหน้าร้านขายขนมฉือปา เธอกลืนน้ำลายแล้วถามขึ้นว่า “รู้ไหมคะว่าตรงไหนมีถังขยะบ้าง?”“ที่เหลือเธอไม่กินแล้วเหรอ?”“อืม”“ไม่อร่อย?”“ไม่ใช่ อร่อยมาก แต่ว่ายังมีของอร่อยอื่น ๆ อีกเยอะแยะ ฉันอยากเก็บท้องเอาไว้”เยี่ยนหวย “...”“เอามาให้ฉันก็ได้” เยี่ยนหวยรับไส้กรอกครึ่งชิ้นที่เหลืออยู่มาจากในมือของเธอ ก่อนจะเติมเข้าไปในท้องอย่างไม่มีภาระใด ๆถังซือซือซื้อขนมฉือปาแล้วเธอทำตัวอย่างกับโจร แต่ละร้านไม่ยอมปล่อยไปเลย ทว่าก็ชิมเพียงสองสามคำ ทั้งหมดที่เหลือก็โยนให้เยี่ยนหวยอย่างสบายใจเยี่ยนหวยเพลิดเพลินกับพฤติกรรมพรรค์นี้ ในใจเข้าใจได้ในทันที ราวกับกลับไปเมื่อเจ็ดปีก่อนหลังเรียนอย
“มันเรื่องอะไรกันแน่?”ก่อนหน้านี้ที่เยี่ยนหวยอยู่ที่เจียงเฉิง กลับไม่ได้สังเกตเท่าไรว่าอิเลียกำลังทำอะไรอยู่ เธอออกไปข้างนอกทุกวัน เยี่ยนหวยคิดเพียงแค่ว่าเธอกำลังไปเที่ยวเล่นถังซือซือไม่ใช่คนที่จะกุเรื่องมั่วซั่ว เธอพูดแบบนี้ ต้องรู้อะไรบางอย่างแน่ ๆ“พูดไปแล้วก็ยาว ตอนแรกฟู่ชิงเยว่อาของฟู่เจิงรับเลี้ยงเด็กกำพร้าอยู่ที่เมืองนอก ตอนนี้อายุห้าขวบแล้ว ปีที่แล้วอาเหลียงแท้ง แล้วฟู่ชิงเยว่ติดธุระพอดี เลยส่งเด็กคนนั้นกลับประเทศมาให้ฟู่เจิงดูแลช่วงหนึ่ง ฟู่เจิงเลยให้เด็กคนนั้นอยู่ในประเทศไปเลยเพื่อง้ออาเหลียง ปกติจะมาอยู่เป็นเพื่อนอาเหลียง และเด็กคนนั้นเองก็เข้าไปอยู่ในทะเบียนบ้านของฟู่เจิง แต่ว่า...”เยี่ยนหวยเดาเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อไปออกแล้ว จึงรับช่วงเอ่ยขึ้นต่อว่า “แต่ว่าจู่ ๆ ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวบอกว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นลูกของฟู่เจิงกับอิเลีย?”“ใช่ รายละเอียดฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน เหมือนว่าจะเกี่ยวข้องกับอาของฟู่เจิงนิดหน่อย เธอรู้ตัวตนของเด็กผู้หญิงคนนั้นมาตั้งแต่แรก และไม่ชอบอาเหลียงมาโดยตลอด ยังไงตอนนี้อาเหลียงก็อยู่กับฉัน เขากับฟู่เจิงทะเลาะกันอีกแล้ว”เยี่ยนหวยเอ่ยควา
“เยี่ยนหวย!!”ประตูลิฟต์เปิดออก ทั้งสองคนเข้าไปกันตามลำดับ แล้วลงไปยังลานจอดรถใต้ดินตรงมุมเลี้ยว ในหัวของผู้หญิงสวมหน้ากากอนามัยวาบภาพที่เห็นเมื่อครู่ขึ้นมา หมัดที่ห้อยอยู่กำขึ้นแน่น เธอก้มหน้าทั้งดวงตาที่ประกายความอำมหิตออกมาหากเวินเหลียงอยู่ตรงนี้ คงจะจำได้แน่ ๆ ว่าผู้หญิงที่สวมหน้ากากอนามัยคนนี้ก็คืออลิซที่เธอมาเจียงเฉิง ก็เพราะเยี่ยนหวย เยี่ยนหวยมาเมืองซีเมื่อสองวันก่อน เธอเองก็ตามมาเช่นกันอิเลียถามเลขาของเยี่ยนหวย เมื่อรู้โรงแรมของเขาก็บอกกับอลิซทีแรกอลิซคิดว่าเยี่ยนหวยมาทำธุระที่เมืองซี จากนั้นก็ค่อย ๆ พบว่ามันไม่ชอบมาพากลเยี่ยนหวยไม่ยุ่งเลยสักนิดแถมยังมีเวลาไปสอบถามร้านอาหารท้องถิ่น ถนนคนเดิน จุดชมวิวของเมืองซีเป็นต้น อีกต่างหาก ไม่เหมือนมาทำงานต่างถิ่น แต่เหมือนมาเที่ยวเสียมากกว่าจนกระทั่งวันนี้ เมื่อได้เห็นภาพนั้น อลิซถึงเข้าใจทุกอย่างที่แท้คนที่ซีซาร์ชอบไม่ใช่เฟย์ แต่เป็นถังซือซือเพื่อนของเฟย์!ที่แท้เขาไม่ได้มาทำงานต่างถิ่นที่เมืองซี แต่มาเพื่อตามจีบถังซือซือ!ที่เขาสอบถามร้านอาหารและจุดชมวิวของเมืองซี ก็เพื่อพาถังซือซือไปวันนี้!ในใจอลิซอิจฉาเป็นอย่างม
เมื่อเยี่ยนหวยได้ยินดังนั้น ก็รู้ในทันทีว่าเวินเหลียงไม่ได้รักษาคำมั่นสัญญาแต่เขาก็เตรียมตัวไว้นานแล้ว วันนั้นหลังจากกลับไปก็ให้คนไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด แล้วตัดคลิปมาใส่ไว้ในโทรศัพท์เมื่อได้ยินถังซือซือถามขึ้น เขาก็รีบส่งให้เธอทันที “ก็แค่คนที่ไม่สลักสำคัญอะไรคนหนึ่ง ฉันปฏิเสธเขาไปแล้ว”ถังซือซือดูคลิปรอบหนึ่ง ก่อนจะเบะปาก “อยู่ต่างประเทศคุณเยี่ยนมีสาวมาชอบเพียบเลยนะคะ”“แต่ฉันสนใจอยากจะครอบครองแค่เธอ”“จะยอมให้ฉันครอบครองไหม คุณถัง?”เยี่ยนหวยนั่งเอี้ยวตัว แขนข้างหนึ่งพาดอยู่บนพนักพิงเก้าอี้ เขาโน้มตัวเข้ามา ตัวท่อนบนใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ กลิ่นหอมฉุยจาง ๆ และกลิ่นอายของชายหนุ่มที่มาพร้อมกับการบุกรุกโอบล้อมเธอเอาไว้เขาดันแว่นตากรอบทอง สีหน้าอบอุ่น ฉีกยิ้มทว่าก็ราวกับไม่ยิ้ม มุมปากกระตุกรอยยิ้มเล็กน้อย ค่อนข้างมีความรู้สึกประเภทหน้าเนื้อใจเสือถังซือซือเหม่อไปครู่หนึ่ง“คุณถัง?”ใบหน้าหล่อเหลาตรงหน้าขยายใหญ่ขึ้นอีกครั้ง ไออุ่นร้อนปะทะเข้ามาที่หน้า ในที่สุดถังซือซือก็ได้สติกลับมา เธอเอนหลังพลางตบหน้าอก “นายทำฉันตกใจหมด...ไป ไปเดินหาของกินเล่นกันเถอะ”เธอลุกขึ้นและเดินออกไปอย่าง