ฟู่เจิงมุ่งหน้าเดินเข้าไปในห้องทำงาน เขานั่งลงบนโซฟาในโซนรับรองแขกภายใต้การแนะนำแสนเป็นมิตรของอาเฉียวอาเฉียวรีบออกไปหาฮั่วจวินซานทันที คนรับใช้ยกถาดเข้ามาเสิร์ฟน้ำชาฟู่เจิงส่งสัญญาณให้เธอวางไว้บนโต๊ะ พร้อมลวดมองประเมินการจัดเรียงโดยรวมภายในห้องทำงาน ก่อนจะชักสายตากลับอาเฉียวมองไปที่ประตูห้องนอน หลังได้รับอนุญาตเขาก็ผลักประตูเข้ามา “คุณผู้ชายครับ เขามาแล้วครับ”ฮั่วจวินซานเปลี่ยนไปสวมชุดสูทสะอาดเรียบร้อยแล้ว เขากำลังจัดปกเสื้ออยู่ “เขาได้พูดอะไรไหม?”สีหน้าของอาเฉียวเคร่งเครียด “เมื่อกี้ผมถามลองเชิงดูแล้ว เขาบอกแค่ว่ามีเรื่องจะหารือกับคุณผู้ชายครับ พอถามเขาว่าเรื่องอะไรเขาก็ไม่ตอบ”อาเฉียวอายุปูนนี้แล้ว ตอนเด็ก ๆ ตามติดอยู่ข้างกายฮั่วจวินซาน ผ่านร้อนผ่านหนาวมาไม่น้อย จนกลายเป็นตาแก่แสนเจ้าเล่ห์คนหนึ่ง ไม่ว่าต้องเผชิญหน้ากับอะไรเขาก็ไม่สะทกสะท้านแล้วเมื่อครู่ฟู่เจิงมองเขาทีหนึ่ง ทว่ากลับทำให้เขามีความรู้สึกประหม่าที่พบเจอได้ยากมากสมแล้วที่เป็นลูกชายของคุณผู้ชาย ช่างเป็นคนที่โดดเด่นในฝูงชนจริง ๆ“นายไปทำงานต่อเถอะ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้แหละ”“อ้อ ครับ”ฝีเท้าของฮั่วจวินซานหยุดอย
ลมหายใจของฮั่วจวินซานติดขัดมิน่าล่ะตอนที่เขาได้ยินอู๋เจิ้งเหวินพูดถึงชื่อ ‘เวินเหลียง’ ถึงได้รู้สึกคุ้น ๆแม้เขาจะคอยสนใจฟู่เจิงอยู่ตลอด แต่ยังไงก็ไม่ได้เลี้ยงอยู่ข้างกาย บวกกับภารกิจรัดตัว จึงไม่ได้สนใจอะไรขนาดนั้น ใช่ว่าจะรู้ไปเสียทุกเรื่องเขารู้แค่ว่าปีที่แล้วเรื่องส่วนตัวของฟู่เจิงถูกพาดหัวข่าวบันเทิงอยู่บ่อย ๆ วิดีโอสัมภาษณ์ของฟู่เจิงเหล่านั้นเขาเองก็ดูมาคร่าว ๆ รู้ว่าฟู่เจิงแต่งงานกับหลานบุญธรรมของตระกูลฟู่ แล้วหลังจากนั้นก็หย่ากัน ทว่าเดิมทีเขาจำชื่อของหลานสาวบุญธรรมคนนั้นไม่ได้ที่แท้ก็เป็นเวินเหลียงนี่เองเห็นแววตาเขาฟู่เจิงก็พูดขึ้นอีกว่า “ถึงเราจะหย่ากันแล้ว แต่ก่อนจากไปคุณปู่ได้สั่งเสียเอาไว้ว่า ให้ผมดูแลเธอดี ๆ สองวันก่อนคนตระกูลอู๋ก็เพิ่งมา แถมยังเอาเพื่อนของเธอไปขู่เธอ จนถูกผมจัดการกลับไป ใครจะไปรู้ว่าเพิ่งผ่านไปไม่กี่วัน คุณนายหลินของคุณก็มาหาเวินเหลียงอีก”มิน่าล่ะคนตระกูลอู๋ถึงได้กลับมาจากเจียงเฉิงทั้งมือเปล่า แล้วเพ่งความสนใจไปที่หลินอี้หน่วนแทน ที่แท้ก็เจอฟู่เจิงกระแทกกลับมานี่เอง“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง” ฮั่วจวินซานฉีกยิ้ม “เรื่องนี้ง่ายมาก เดี๋ยวฉันจะให
ดูท่าแล้วไม่ได้มายอมรับเป็นพ่อลูกแน่ฮั่วจวินซานเล่าเรื่องทั้งหมดคร่าว ๆอาเฉียวเอ่ยขึ้นด้วยความฉงน “ไม่คิดเลยว่าจะบังเอิญขนาดนี้? นึกไม่ถึงเลยจริง ๆ...แต่ว่าคุณฟู่ออกหน้าให้คุณเวินนั่นขนาดนี้ คงมีความคิดที่จะกลับมาแต่งงานกันใหม่ใช่ไหมครับ?”ฮั่วจวินซานเองก็ดูออก แม้ฟู่เจิงจะอ้างว่าเวินเหลียงอยู่ในนามหลานสาวบุญธรรมของตระกูลฟู่ แต่เขาก็ปกป้องเวินเหลียงในทุกเรื่อง มองแค่ปราดเดียวก็รู้แล้วว่าเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่และเป็นเพราะแบบนี้ฮั่วจวินซานถึงได้เดือดดาลคราวก่อนตอนที่เขาย้อนถามฮั่วตงเฉิง ฮั่วตงเฉิงยอมรับเองกับปากว่าเขาชอบเวินเหลียงเขาอยู่ที่เจียงเฉิงนานขนาดนั้น หาเรื่องฟู่เจิงตั้งหลายครั้งหลายครา จะไม่รู้เชียวเหรอว่าเวินเหลียงเป็นอดีตภรรยาของฟู่เจิง? จะไม่รู้เชียวเหรอว่าฟู่เจิงคิดจะแต่งงานใหม่กับเวินเหลียง?ทว่าเขาก็ยังคงเข้าใกล้เวินเหลียงอย่างเดิมแล้วในเรื่องพวกนี้มีมากน้อยแค่ไหนที่ทำเพราะชอบเวินเหลียง แล้วมีมากน้อยแค่ไหนที่ทำเพราะคิดหาเรื่องฟู่เจิง?“ตงเฉิงล่ะ? ให้เขามาพบฉันหน่อย”“ครับ”อาเฉียวไม่รู้ว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับฮั่วตงเฉิง ยังคิดว่าที่ฮั่วจวินซานเรียกฮั่ว
หลินเจียหมิ่นได้รับสายของฮั่วจวินซาน เขาใช้ให้เธอกลับเมืองจิงก่อนเธอไม่เข้าใจ “ยังไม่ได้หนังสือยอมความเลย ทำไมถึงให้กลับไปแล้วล่ะคะ?”ฮั่วจวินซานเอ่ยถามขึ้นว่า “เวินเหลียงเป็นลูกสาวของเธอใช่ไหม?”หลินเจียหมิ่นเงียบไปทันทีฮั่วจวินซานพูดขึ้นอีกว่า “เธอไปพูดอะไรกับเขา?”หลินเจียหมิ่น “ก็ไม่ได้พูดอะไรนะคะ แค่บอกเรื่องตัวตนของเขา”ฮั่วจวินซานคิดว่าที่ฟู่เจิงพูดเป็นเรื่องจริง “เมื่อกี้ฟู่เจิงมาที่บ้านตระกูลฮั่วด้วยตัวเอง บอกว่าเวินเหลียงเสียใจจนหมดสติไป เขาเลยมาเพื่อทวงความยุติธรรมให้เธอ เพราะงั้นเธอไม่ต้องไปหาเขาแล้ว”“แต่ว่า อี้หน่วนจะทำยังไง...”“ฉันรู้ว่าเธอสนิทกับอี้หน่วนมาก แต่เรื่องนี้เธอเป็นคนทำผิดก่อน ถึงยังไงเวินเหลียงก็เป็นลูกของเธอ ทำไมเธอต้องไปทำให้เขาลำบากใจด้วย? อดีตสามีของเธอก็ตายไปแล้ว เด็กไม่รู้อีโหน่อีเหน่ด้วย ต่อให้เธอไม่รักเขา ก็อย่าไปทำร้ายจิตใจเด็กมันเลย”หลินเจียหมิ่นกัดริมฝีปาก ก่อนจะพูดอธิบายว่า “ฉัน...ฉันเองก็ไม่มีทางเลือกแล้วเหมือนกัน จะทนดูอี้หน่วนถูกคนตระกูลอู๋พาตัวไปต่อหน้าต่อตาไม่ได้”เรื่องที่พ่อของเวินเหลียงคือฉู่เจี้ยนจวิน อธิบายได้ว่าหลินเจียหม
“ก็พอได้ยินมาบ้างครับ”“เวินเหลียงเป็นลูกสาวของฉันกับอดีตสามี หลายปีก่อนอดีตสามีฉันใช้ความรุนแรง ฉันต้องพยายามอย่างหนักถึงหย่ากับเขาได้ เพื่อหนีการตอแยของเขาเลยออกมาจากบ้านเกิดตัวเอง ฉันไม่มีทางเลือกเลยต้องทิ้งเขาเอาไว้ หลายปีมานี้ฉันรู้สึกติดค้างในใจมาก ๆ เมื่อกี้พ่อเธอบอกฉันว่า ให้ฉันพาเวินเหลียงกลับไปที่ตระกูลฮั่ว และชดเชยความผูกพันแม่ลูกให้ดี”ฮั่วตงเฉิงกระตุกยิ้มมุมปากใจความสำคัญของเธออยู่ที่ประโยคสุดท้าย...พาเวินเหลียงกลับมาตระกูลฮั่ว เป็นความคิดของฮั่วจวินซานฮั่วตงเฉิงใช้เข่าคิดก็ยังรู้ และรู้ว่าพ่อเก็บตกของตนผู้นี้คิดอะไรอยู่คิดจะให้เวินเหลียงกลายเป็นน้องสาวของเขา ด้วยวิธีการแบบนี้จะทำให้เขาวางมือได้?อย่าหวังเลยเป็นคนฉลาดกันทั้งนั้น หลินเจียหมิ่นไม่มีทางพูดเรื่องพวกนี้ขึ้นมาโดยไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยหรอกฮั่วตงเฉิงหัวเราะพร้อมถามกลับไปว่า “ความหมายของคุณน้าหลินคือ?”“อันที่จริงพ่อเธอไม่รู้เรื่องอะไร เวินเหลียงกับฉันแยกจากกันมายี่สิบกว่าปีแล้ว มีความผูกพันแม่ลูกกันที่ไหนล่ะ? ไม่เกลียดฉันก็ถือว่าบุญแล้ว กลับกันถ้าเป็นอี้หน่วน ฉันเห็นเขาเติบโตมา ฉลาดหัวดี หลายปีมานี้เขาก็
ร้านอาหารประดับตกแต่งหรูหรา ทั่วทั้งภายในห้องรับรองมีกลิ่นหอมจาง ๆเมื่อเห็นหลินเจียหมิ่น เวินเหลียงก็นึกถึงชาติกำเนิดของตัวเอง ในใจหนักอึ้ง เธอวางกระเป๋าลงด้วยใบหน้าที่ไร้ซึ่งอารมณ์ ก่อนจะลากเก้าอี้ออกมาและนั่งลงตรงหน้าหลินเจียหมิ่นหลินเจียหมิ่นชี้กับข้าวที่ตั้งเต็มโต๊ะ ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “คราวก่อนเวลาน้อย คราวนี้ฉันสั่งอาหารมาสองสามอย่าง เรามากินไปคุยไปก็แล้วกัน”“ไม่ต้องหรอกค่ะ มีอะไรก็พูดมาเลยเถอะ” เวินเหลียงนั่งพิงพนักพิง ไม่อยากพูดอะไรกับหลินเจียหมิ่นให้มากความเลยจริง ๆ “ฉันกับถังซือซือยกโทษให้อู๋ฮ่าวหรันได้ แต่ว่าคุณต้องแสดงความจริงใจออกมาก่อน”ในเมื่อจะยอมความ ก็ต้องกอบโกยผลประโยชน์ให้ได้มากที่สุดหลินเจียหมิ่นเลิกคิ้ว ไม่คิดว่าจะมีความน่าปลื้มปีติที่อยู่เหนือความคาดหมาย เธอฉีกยิ้มพลางเอ่ยว่า “เสี่ยวเหลียง ทำแบบนี้สิถึงจะถูก ผู้เข้าใจสถานการณ์คือผู้เฉลียวฉลาด วางใจเถอะนะ ฉันจะไม่ปฏิบัติกับเธออย่างไม่ยุติธรรมแน่นอน”ไม่รู้ทำไมเวินเหลียงรู้สึกว่าในห้องรับรองมันร้อน ๆ นิดหน่อยเธอเงยหน้ามองขึ้นไปทีหนึ่ง เปิดฮิตเตอร์ไว้ด้วย มิน่าล่ะเวินเหลียงปลดกระดุมที่คอ “งั้นคุณก็ว่ามาส
“ที่คุณบอกว่ามันสายไปแล้วเมื่อกี้หมายความว่ายังไง?” เวินเหลียงเอ่ยถามขึ้น “พวกเขาเริ่มหาเรื่องคุณแล้วเหรอ?”“ครั้งนี้ฉันเดินทางไปเมืองจิง ตั้งใจไปที่บ้านตระกูลฮั่วโดยเฉพาะ ประธานใหญ่ฮั่วรับปากแล้วว่าจะไม่ตอแยเธอกับถังซือซืออีก”เวินเหลียงกระตุกรอยยิ้มมุมปาก การกระทำของฟู่เจิงรวดเร็วมากจริง ๆ “เพราะงั้น...”“เพราะงั้นหลินเจียหมิ่นก็ได้ข่าวจากประธานใหญ่ฮั่วแล้ว แต่ยังตัดสินใจด้วยตัวเอง ถ้าเธอตอบตกลง ความพยายามของฉันก็เสียเปล่าสิ”ฟู่เจิงชำเลืองมองเธอทีหนึ่งเวินเหลียงเบือนสายตาอย่างลุกลี้ลุกลน ยังคงพูดออกมาอย่างมีเหตุผล “ทำไมคุณไม่รีบบอกฉันให้มันเร็ว ๆ ล่ะ ถ้าคุณบอกฉัน ฉันก็คงจะไม่...”“ถ้าฉันบอกกับเธอเร็ว ๆ แล้วเธอจะรับความช่วยเหลือของฉันเหรอ?”เวินเหลียง: “...”เธอถอนหายใจเฮือกหนึ่งอาจเป็นไปได้ จริง ๆ ไม่จำเป็นต้องขีดเส้นกับฟู่เจิงให้ชัดเจนขนาดนั้นก็ได้เพราะว่าสิ่งที่เธอติดค้างเขา ยากจะคืนให้ทั้งหมด ขืนติดค้างไปมากกว่านี้ก็ไม่รู้จะคืนยังไงแล้วก็เหมือนกับบางคน ตอนที่ติดเงินหลายพันบาท ก็พยายามคิดหาวิธีคืนเงิน จนกระทั่งติดไปหลายหมื่นหลายแสน กระทั่งนอนราบเฉย ๆ ไปเลย อยากจะทำย
ลมหายใจของเวินเหลียงหนักอึ้งขึ้นเรื่อย ๆ เธอไม่มีกะจิตกะใจจะไปคิดแล้วว่าทำไมตัวเธอถึงเป็นแบบนี้ ขณะสวมกอดผู้ชายที่หุ่นราวกับนายแบบแถวหน้าตรงหน้า ก็อดไม่ได้ที่จะลูบคลำลมหายใจของฟู่เจิงติดขัด เขาโอบกอดร่างบิดไปบิดมาของเวินเหลียงไว้แน่นเมื่อรถยนต์แล่นเข้าไปในลานจอดรถชั้นใต้ดิน เขาก็รีบอุ้มเวินเหลียงลงมาจากรถและเดินเข้าไปในลิฟต์อย่างอดรนทนไม่ไหวฟู่เจิงอุ้มเวินเหลียงไปยังชั้นสิบเก้าบ้านของตนเลยในขณะนั้นป้าหวังกำลังทำความสะอาดอยู่ในห้องรับแขก ส่วนฟู่ซือฝานกำลังเข้าห้องน้ำอยู่ในห้องน้ำเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู ป้าหวังก็เงยหน้าขึ้นไปมอง เห็นเพียงฟู่เจิงเดินเข้ามาพร้อมอุ้มผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ในอ้อมอก เขามุ่งตรงไปที่ห้องนอนเลยป้าหวังเพียงชำเลืองมองทีหนึ่ง ก็จำได้ในทันทีว่านั่นคือเวินเหลียง เธอเหงื่อออกเต็มศีรษะ หน้าแดงก่ำไปหมด ราวกับเป็นไข้กึ่งหนึ่ง ป้าหวังรีบวางไม้กวาดแล้วเอ่ยขึ้นว่า “คุณผู้ชาย นี่คุณผู้หญิงเป็นไข้เหรอคะ? ฉันจะไปเอายาลดไข้มานะคะ”ทีแรกฟู่เจิงคิดจะเอ่ยปากห้าม ทว่าเมื่อคำพูดมาอยู่ข้างปากแล้วเขากลับเปลี่ยนคำพูดเสียอย่างนั้น “เอาไปให้ที่ห้องนอนนะครับ แล้วก็เอากาน้ำอุ่นเข
อิเลียลุกขึ้นพรวด พลางมองเยี่ยนหวยอย่างเหลือเชื่อ“ถ้าเธอยังเห็นฉันเป็นพี่ชายของเธออยู่ ก็เชื่อฟังฉัน แล้วกลับไปเมืองฟิลาเดลเฟียพรุ่งนี้ซะ!” เยี่ยนหวยนั่งตัวตรงพลางเงยหน้ามองเธออยู่บนโซฟา“ฉันไม่กลับ!” อิเลียเดือดดาลจนแค่นเสียงฮึออกมาทีหนึ่ง ก่อนจะกลับไปนั่งตรงมุมโซฟา “อยากกลับพี่ก็กลับไปเองซะเลยสิ!”“ฟู่เจิงไม่ใช่คนดี ต่อให้ระหว่างพวกเธอมีลูกด้วยกัน เขาก็ไม่มีทางคบกับเธอ”ก่อนหน้านี้ฟู่เจิงเคยมีเรื่องอื้อฉาวว่ามีชู้ ตอนนี้ก็มีอดีตภรรยาที่มีความสัมพันธ์คลุมเครือมาอีกคน ขอให้เป็นผู้ใหญ่ที่รักลูกสาว ก็จะไม่มีวันเลือกเขาทั้งนั้น“พี่รู้ได้ยังไงว่าเขาไม่ใช่คนดี? พี่รู้ได้ไงว่าเขาจะไม่คบกับฉัน? วันนี้ตอนเที่ยงเรายังไปกินข้าวด้วยกันอยู่เลย!”เมื่อเห็นอิเลียดื้อดึง ในใจของเยียนหวยก็รู้สึกไม่ได้ดั่งใจ เขาแสยะยิ้มออกมาทีหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยว่า “พวกเธอไม่ได้ไปกินข้าวด้วยกันตามลำพัง แต่ฟู่ซือฝานอยู่ข้าง ๆ ใช่ไหม?”ในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ ฟู่เจิงจะมากินข้าวกับอิเลียตามลำพังได้ยังไง? นอกเสียจากเขาคิดจะเลิกกับเวินเหลียงจริง ๆ“...ใช่ ก็เขาเป็นลูกของพวกเรานี่” เมื่อเห็นว่าถูกเดาทางถูก อิเลียก็พูดอึ
แต่หลังจากเดินตามแผนแล้วถึงได้พบว่า นี่มันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลยถ้าพ่อแม่คุณลุงคุณป้ารู้ว่าเธอมีลูกนอกสมรสข้างนอก ต้องเข้ามาแทรก และไม่แน่ว่าจะพาตัวเธอกับลูกกลับไป“อิเลีย ผมเข้าใจนะครับคุณในฐานะแม่แท้ ๆ คุณอยากรีบกระชับความสัมพันธ์กับฝานฝาน แต่ก็อย่าตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูก โดยเฉพาะมักจะไปหาฝานฝานที่โรงเรียนอนุบาล แบบนี้จะส่งผลกระทบกับชีวิตของเธอได้นะครับ”“ฉันรู้แล้วค่ะ ต่อไปจะไม่ไปหาเขาที่โรงเรียนอนุบาลอีก ฉันเห็นว่าคุณกินน้อยมาก อาหารที่เหลือไม่ถูกปากหรือเปล่า?”ฟู่เจิง “...ก่อนมาผมกินมาบ้างแล้ว”หลังกินข้าวเที่ยงเสร็จ ฟู่ซือฝานรบเร้าขอกลับกับฟู่เจิงเธอล้วงกลยุทธ์ร้องไห้งอแงชักดิ้นชักงออยู่ที่พื้นของเด็กห้าขวบออกมาอย่างล้ำลึก ไม่มีเหตุผล ทว่าอิเลียฝืนเธอไม่ได้อิเลียทำได้เพียงกลับไปที่บ้านของเซี่ยเจิน“อิเลีย เธอกลับมาแล้วเหรอ?”เมื่อเห็นอลิซนั่งอยู่บนโซฟา อิเลียเดินมานั่งลง “เป็นยังไงบ้าง? ครั้งนี้เธอไปเมืองซีกับซีซาร์ ได้แสร้งทำเป็นเจอโดยบังเอิญ แล้วไปกินข้าวกับเขาอะไรหรือเปล่า?”อลิซเบะปาก “เปล่า”“ทำไมล่ะ? โอกาสดีขนาดนั้นทำไมเธอไม่คว้าเอาไว้?”“เขางานยุ่งมาก ฉันกล
อิเลียจัดผมด้วยท่าทางราวกับไม่มีเจตนาอื่น หน้าตาเผยความตื่นเต้นออกมาดูท่าเธอจะเลือกวิธีถูกจริง ๆในตอนนี้เธอเพิ่งเข้าใกล้ฟู่ซือฝานไม่เท่าไร ท่าทีของฟู่เจิงเขาก็ผ่อนคลายลงเยอะแล้วผ่านไปยี่สิบนาที ฟู่เจิงก็ปรากฏตัวขึ้นในห้องรับรองนี่เป็นการเจอกันครั้งที่สองหลังจากวันนั้นเขานั่งลงข้าง ๆ ฟู่ซือฝาน พลางพยักหน้าให้อิเลียเบา ๆ “รบกวนแล้ว ไม่ถือสาที่ผมมาร่วมโต๊ะด้วยใช่ไหม?”“ไม่ถือสา นั่งเถอะค่ะ”สีหน้าของอิเลียเย็นชา ราวกับยังอยู่ต่อหน้าคุณหญิงและฟู่ชิงเยว่ครั้งก่อน เธอไม่ได้โกรธที่ฟู่เจิงปฏิเสธเธออย่างไร้ความปรานี“งานผมยุ่งมาก ยากที่จะใส่ใจคุณกับฝานฝานได้มากขนาดนั้น”“ฝานฝานเป็นลูกของฉัน นี่เป็นสิ่งที่สมควรอยู่แล้ว ฉันไม่รู้ว่าคุณจะมา ก็เลยสั่งอาหารไปสุ่ม ๆ เดี๋ยวอาหารมาเสิร์ฟคุณก็ดูแล้วกันว่าอยากจะสั่งเพิ่มไหม”“ผมไม่เลือกกิน” ฟู่เจิงตอบจากนั้นพนักงานก็เริ่มมาเสิร์ฟอาหารฟู่เจิงมองเนื้อแพะที่มาเสิร์ฟเต็มโต๊ะ เขาเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก้มหน้าไปมองฟู่ซือฝานฟู่ซือฝานก้มศีรษะน้อย ๆ อย่างกระวนกระวายอิเลียหยิบตะเกียบขึ้นมา “ไม่ต้องเกรงใจ กินเลยค่ะ”ฟู่เจิงลังเลอยู่ครู่หนึ่
เจียงเฉิงเที่ยงวันศุกร์ อิเลียไปรับฟู่ซือฝานออกไปกินข้าวเที่ยงที่คฤหาสน์ย่านซิงเหอวานเธอฉีกยิ้มพลางพูดกับฟู่ซือฝานว่า “เมื่อวานแม่ว่าจะไปรับหนูที่โรงเรียนอนุบาล จู่ ๆ ก็นึกถึงคำพูดของหนูเมื่อครั้งก่อนได้ ก็เลยมาวันนี้ วันนี้ตอนบ่ายแม่จะพาหนูไปเล่นดี ๆ เป็นยังไงจ๊ะ?”ฟู่ซือฝานเอียงคอพลางครุ่นคิด “ตอนบ่ายหนูต้องทำการบ้าน แค่กินข้าวเที่ยงก็พอแล้วค่ะ”“ก็ได้ งั้นหนูคิดไว้หรือเปล่าว่าอยากกินอะไร?”“ไปร้านอาหารที่มีเมนูเนื้อแพะแนะนำแล้วกันค่ะ” ฟู่ซือฝานเอ่ยขึ้นด้วยทีท่าจริงจัง “วันนี้คุณลุงบอกว่าจะไปกินข้าวเที่ยงเป็นเพื่อนหนู ไม่รู้ว่าจะมาไหม”นัยน์ตาอิเลียวาบความปลื้มปีติออกมา “จริงเหรอ?”“เขาเคยบอกไว้แบบนี้ค่ะ คุณน้าคะ ที่คุณน้ารับหนูออกมา ไม่ใช่เป็นเพราะอยากกระชับความสัมพันธ์กับหนูสองต่อสองเหรอคะ? ทำไมถึงหวังให้คุณลุงมาด้วยล่ะคะ?”เจ้าตัวน้อยเอ่ยถามขึ้นด้วยใบหน้าจริงจัง“น้า...น้ามีเรื่องอยากพูดคุยกับพ่อของหนูน่ะ แล้วก็หวังว่าเราจะได้กินข้าวด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัว” อิเลียรีบหาข้ออ้างทันทีเจ้าเด็กคนนี้ หูตาเฉียบแหลมจริง ๆ“อ้อ”“น้าจะหาร้านอาหารเนื้อแพะเดี๋ยวน
“เรียกฉันทำไม?” เยี่ยนหวยมองเธอด้วยสีหน้าไร้เดียงสา“ตอนนี้มันฤดูร้อน”ผ่านฤดูใบไม้ผลิมาแล้ว“ฉันแค่นึกถึงวันนั้นที่ไปติวให้เธอแล้วเจอแม่เธอเข้าโดยบังเอิญ เธอคิดไปถึงไหน?” เยี่ยนหวยเลิกคิ้วถังซือซือชะงักไปมีครั้งหนึ่งตอนที่เธอติวอยู่ในบ้าน แล้วบังเอิญเจอแม่ของเธอเข้าจริง ๆ แต่นั่นมันเรื่องตอนเทอมที่สองเยี่ยนหวยต้องจงใจพูดถึงวันนั้นตอนเทอมแรกแน่ ๆ ให้เธอเข้าใจผิดถ้าเธอชี้ไปเลยว่าเยี่ยนหวยจำผิด ก็จะเข้าแผนของเยี่ยนหวย เหมือนว่าเธอยังไม่เคยลืมเรื่องในอดีต คิดถึงเรื่องราวเหล่านั้นของเธอกับเยี่ยนหวยอยู่ตลอด“ตอนนี้ไม่ใช่ฤดูร้อนเหรอ? นายคิดไปถึงไหนอีก?” เธอปัดตกเรื่องนี้ไปอย่างมั่นใจทันทีหลังพูดจบ เธอก็หมุนตัวเดินไปด้านหน้าต่อ “ไม่พูดแล้ว รีบไปร้านถัดไปเถอะ”อยู่ข้างนอกจนถึงสี่ทุ่ม ทั้งสองคนถึงกลับไปยังโรงแรมด้วยกันถังซือซืออยากเรียกรถกลับไปเอง ไม่อยากให้เยี่ยนหวยไปส่งเธอเยี่ยนหวยจึงเอ่ยไปตามตรงว่า “ฉันพักอยู่ที่โรงแรมเดียวกันกับเธอ”ถังซือซือ “...”นี่ไม่ใช่ครั้งแรกแล้วคราวก่อนตอนที่เวินเหลียงถ่ายรูปเยี่ยนหวยรูปแรกที่เมืองฟิลาเดลเฟีย เวินเหลียงก็ถามว่าช่วงนี้เยี่ยนหวย
เมืองซีในฐานะเมืองใหญ่ของเจียงหนาน ประเภทของกินเล่นมีมากมาย ของกินเอกลักษณ์ที่ขึ้นชื่อไปทั่วประเทศอาทิ เต้าหู้เหม็น ไส้กรอกยักษ์ เส้นหมีเฝิ่น กุ้งเผ็ดเป็นต้นถังซือซือเคยมาเมืองซีตอนมาทำงานต่างถิ่นก่อนหน้านี้ เวลาค่อนข้างกระชั้นชิด จึงทำได้เพียงเดินช็อปปิงที่อื่น แต่เพิ่งเคยมาถนนคนเดินที่นี่เป็นครั้งแรกเธอซื้อไส้กรอกยักษ์สองชิ้นก่อน และแบ่งให้เยี่ยนหวยหนึ่งชิ้นกินไปได้เพียงครึ่งเดียว ถังซือซือก็หยุดอยู่ตรงหน้าร้านขายขนมฉือปา เธอกลืนน้ำลายแล้วถามขึ้นว่า “รู้ไหมคะว่าตรงไหนมีถังขยะบ้าง?”“ที่เหลือเธอไม่กินแล้วเหรอ?”“อืม”“ไม่อร่อย?”“ไม่ใช่ อร่อยมาก แต่ว่ายังมีของอร่อยอื่น ๆ อีกเยอะแยะ ฉันอยากเก็บท้องเอาไว้”เยี่ยนหวย “...”“เอามาให้ฉันก็ได้” เยี่ยนหวยรับไส้กรอกครึ่งชิ้นที่เหลืออยู่มาจากในมือของเธอ ก่อนจะเติมเข้าไปในท้องอย่างไม่มีภาระใด ๆถังซือซือซื้อขนมฉือปาแล้วเธอทำตัวอย่างกับโจร แต่ละร้านไม่ยอมปล่อยไปเลย ทว่าก็ชิมเพียงสองสามคำ ทั้งหมดที่เหลือก็โยนให้เยี่ยนหวยอย่างสบายใจเยี่ยนหวยเพลิดเพลินกับพฤติกรรมพรรค์นี้ ในใจเข้าใจได้ในทันที ราวกับกลับไปเมื่อเจ็ดปีก่อนหลังเรียนอย
“มันเรื่องอะไรกันแน่?”ก่อนหน้านี้ที่เยี่ยนหวยอยู่ที่เจียงเฉิง กลับไม่ได้สังเกตเท่าไรว่าอิเลียกำลังทำอะไรอยู่ เธอออกไปข้างนอกทุกวัน เยี่ยนหวยคิดเพียงแค่ว่าเธอกำลังไปเที่ยวเล่นถังซือซือไม่ใช่คนที่จะกุเรื่องมั่วซั่ว เธอพูดแบบนี้ ต้องรู้อะไรบางอย่างแน่ ๆ“พูดไปแล้วก็ยาว ตอนแรกฟู่ชิงเยว่อาของฟู่เจิงรับเลี้ยงเด็กกำพร้าอยู่ที่เมืองนอก ตอนนี้อายุห้าขวบแล้ว ปีที่แล้วอาเหลียงแท้ง แล้วฟู่ชิงเยว่ติดธุระพอดี เลยส่งเด็กคนนั้นกลับประเทศมาให้ฟู่เจิงดูแลช่วงหนึ่ง ฟู่เจิงเลยให้เด็กคนนั้นอยู่ในประเทศไปเลยเพื่อง้ออาเหลียง ปกติจะมาอยู่เป็นเพื่อนอาเหลียง และเด็กคนนั้นเองก็เข้าไปอยู่ในทะเบียนบ้านของฟู่เจิง แต่ว่า...”เยี่ยนหวยเดาเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อไปออกแล้ว จึงรับช่วงเอ่ยขึ้นต่อว่า “แต่ว่าจู่ ๆ ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวบอกว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นลูกของฟู่เจิงกับอิเลีย?”“ใช่ รายละเอียดฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน เหมือนว่าจะเกี่ยวข้องกับอาของฟู่เจิงนิดหน่อย เธอรู้ตัวตนของเด็กผู้หญิงคนนั้นมาตั้งแต่แรก และไม่ชอบอาเหลียงมาโดยตลอด ยังไงตอนนี้อาเหลียงก็อยู่กับฉัน เขากับฟู่เจิงทะเลาะกันอีกแล้ว”เยี่ยนหวยเอ่ยควา
“เยี่ยนหวย!!”ประตูลิฟต์เปิดออก ทั้งสองคนเข้าไปกันตามลำดับ แล้วลงไปยังลานจอดรถใต้ดินตรงมุมเลี้ยว ในหัวของผู้หญิงสวมหน้ากากอนามัยวาบภาพที่เห็นเมื่อครู่ขึ้นมา หมัดที่ห้อยอยู่กำขึ้นแน่น เธอก้มหน้าทั้งดวงตาที่ประกายความอำมหิตออกมาหากเวินเหลียงอยู่ตรงนี้ คงจะจำได้แน่ ๆ ว่าผู้หญิงที่สวมหน้ากากอนามัยคนนี้ก็คืออลิซที่เธอมาเจียงเฉิง ก็เพราะเยี่ยนหวย เยี่ยนหวยมาเมืองซีเมื่อสองวันก่อน เธอเองก็ตามมาเช่นกันอิเลียถามเลขาของเยี่ยนหวย เมื่อรู้โรงแรมของเขาก็บอกกับอลิซทีแรกอลิซคิดว่าเยี่ยนหวยมาทำธุระที่เมืองซี จากนั้นก็ค่อย ๆ พบว่ามันไม่ชอบมาพากลเยี่ยนหวยไม่ยุ่งเลยสักนิดแถมยังมีเวลาไปสอบถามร้านอาหารท้องถิ่น ถนนคนเดิน จุดชมวิวของเมืองซีเป็นต้น อีกต่างหาก ไม่เหมือนมาทำงานต่างถิ่น แต่เหมือนมาเที่ยวเสียมากกว่าจนกระทั่งวันนี้ เมื่อได้เห็นภาพนั้น อลิซถึงเข้าใจทุกอย่างที่แท้คนที่ซีซาร์ชอบไม่ใช่เฟย์ แต่เป็นถังซือซือเพื่อนของเฟย์!ที่แท้เขาไม่ได้มาทำงานต่างถิ่นที่เมืองซี แต่มาเพื่อตามจีบถังซือซือ!ที่เขาสอบถามร้านอาหารและจุดชมวิวของเมืองซี ก็เพื่อพาถังซือซือไปวันนี้!ในใจอลิซอิจฉาเป็นอย่างม
เมื่อเยี่ยนหวยได้ยินดังนั้น ก็รู้ในทันทีว่าเวินเหลียงไม่ได้รักษาคำมั่นสัญญาแต่เขาก็เตรียมตัวไว้นานแล้ว วันนั้นหลังจากกลับไปก็ให้คนไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด แล้วตัดคลิปมาใส่ไว้ในโทรศัพท์เมื่อได้ยินถังซือซือถามขึ้น เขาก็รีบส่งให้เธอทันที “ก็แค่คนที่ไม่สลักสำคัญอะไรคนหนึ่ง ฉันปฏิเสธเขาไปแล้ว”ถังซือซือดูคลิปรอบหนึ่ง ก่อนจะเบะปาก “อยู่ต่างประเทศคุณเยี่ยนมีสาวมาชอบเพียบเลยนะคะ”“แต่ฉันสนใจอยากจะครอบครองแค่เธอ”“จะยอมให้ฉันครอบครองไหม คุณถัง?”เยี่ยนหวยนั่งเอี้ยวตัว แขนข้างหนึ่งพาดอยู่บนพนักพิงเก้าอี้ เขาโน้มตัวเข้ามา ตัวท่อนบนใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ กลิ่นหอมฉุยจาง ๆ และกลิ่นอายของชายหนุ่มที่มาพร้อมกับการบุกรุกโอบล้อมเธอเอาไว้เขาดันแว่นตากรอบทอง สีหน้าอบอุ่น ฉีกยิ้มทว่าก็ราวกับไม่ยิ้ม มุมปากกระตุกรอยยิ้มเล็กน้อย ค่อนข้างมีความรู้สึกประเภทหน้าเนื้อใจเสือถังซือซือเหม่อไปครู่หนึ่ง“คุณถัง?”ใบหน้าหล่อเหลาตรงหน้าขยายใหญ่ขึ้นอีกครั้ง ไออุ่นร้อนปะทะเข้ามาที่หน้า ในที่สุดถังซือซือก็ได้สติกลับมา เธอเอนหลังพลางตบหน้าอก “นายทำฉันตกใจหมด...ไป ไปเดินหาของกินเล่นกันเถอะ”เธอลุกขึ้นและเดินออกไปอย่าง