กลับกันเป็นหลินอวี่ฉิงที่มีใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย ยิ่งมองก็ยิ่งดูจะไม่ถูกต้อง "ชั่นชั่น เธอลองดูชุดพยาบาลที่หล่อนสวมใส่สิ...ทำไมถึงดูไม่เหมือนกับพยาบาลก่อนหน้าเลย?" "กระโปรงก็ดูจะสั้นจนเกินไป! เหล่อนสวมกระโปรงสั้นขนาดนี้มาที่ห้องสามีของเธอ มาเพื่อเปลี่ยนยาจริง ๆ เหรอ?" "ไม่ได้ ฉันจะต้องตามไปถามให้รู้เรื่อง!" "หลินอวี่ฉิง..." เจียงชั่นไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี "หากเขาไม่มาเปลี่ยนยาแล้วแล้วจะมาทำไม? เธอหยุดพูดเรื่องตลกได้แล้ว!" เธอเป็นคนที่ไม่คิดมากมาตลอด นอกจากนี้แล้วต้องให้มีคนจ้องจับกู้หม่างเข้าจริง ๆ กู้หม่างก็ไม่มีทางที่จะตอบรับ สำหรับความซื่อสัตย์ของสามีตัวเองเธอมั่นใจได้เต็มร้อย "เธอนี่ดีไปซะทุกอย่าง เพียงแต่การตอบสนองด้านนี้ดูจะช้าและใสซื่อจนเกินไป!" หลินอวี่ฉิงพึมพำออกมาเสียงเบา แล้วก็มองไปทางแผ่นหลังของฮั่วจือซินอีกครั้ง ลอบจดจำรูปร่างของพยาบาลคนนี้เอาไว้ ทั้งสองคนเข้าไปในห้องผู้ป่วย เจียงชั่นวางกระเป๋าเก็บอุณหภูมิไว้บนโต๊ะแล้วก็ไปดูอาการของกู้หม่าง "วันนี้รู้สึกเป็นยังไงบ้าง? เจ็บไหม?" "คุณกลายเป็นคนละเอียดอ่อนขนาดนี้เมื่อไรกัน!" กู้หม่างยิ้งออกม
เจียงชั่นใช้ชีวิตอยู่กับชายหนุ่มเช่นนี้ทุกวัน ยังสามารถปรับตัวเข้าหากันได้จริง ๆ! หลินอวี่ฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย บังเอิญกับที่ในตอนนี้เจียงชั่นกลับมาพอดี ในมือยังมีดอกไม้ช่อหนึ่งเพิ่มเข้ามา "ฉันเห็นมันในร้านดอกไม้ด้านข้างของที่จอดรถ" เจียงชั่นยิ้มออกมาสดใส "ห้องพักผู้ป่วยจะต้องมีดอกไม้เสียหน่อยถึงจะดูมีชีวิตชีวา ก่อนหน้านั้นฉันยุ่งจนลืมไป วันนี้ถึงได้เพิ่งจะนึกขึ้นมาได้ว่าต้องซื้อดอกไม้!" เธอหาแจกันแก้วแล้วใส่ดอกไม้เข้าไปก่อนจะวางตรงขอบหน้าต่าง กู้หม่างเมื่อเห็นเธอเข้า ดวงตาก็เปลี่ยนเป็นอ่อนโยนขึ้นมาทันที เขากุมมือเล็กของเธอเบา ๆ หลินอวี่ฉิงรีบหาข้ออ้างเพื่อหลบออกไป เธอไม่ได้อยากเป็นส่วนเกินอยู่ที่นี่เสียหน่อย! ใบหน้าเล็กของเจียงชั่นแดงก่ำ ก่อนดึงมือออกมาดวงตาฉ่ำวาวจ้องมองเขาอย่างเงียบ ๆ "เมื่อคืนคุณยังไม่ได้อาบน้ำใช่ไหม? ฉันจะช่วยคุณเช็ดตัวดีกว่า" ขณะที่เธอพูดก็หันเดินออกนอกประตูไป ไม่นานก็กลับมาพร้อมกับน้ำอุ่น หลายวันมานี้ที่กู้หม่างอยู่โรงพยาบาล ทุก ๆ วันล้วนแต่เป็นเธอที่ช่วยเช็ดทำความสะอาดร่างกายเขา เธอบิดผ้าเช็ดตัว แล้วเปิดเสื้อเขาขึ้นอย่างระมัดระวัง รอยฟกช้ำบนร่าง
“อ้อ ที่แท้คุณก็คือคุณหมอเสิ่น?”หลินอวี่ฉิงรีบเก็บมือกลับที่จะจับมือกับเขาทันที “พ่อสื่อผู้ยิ่งใหญ่ของเจียงชั่นกับกู้หม่าง?”เสิ่นเซียวไม่ได้สังเกตว่าอารมณ์ในแววตาของเธอดูจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย และเขามักจะรู้สึกว่าหน้าที่พ่อสื่อนี้เขาทำได้ถูกต้องและก็คิดเสมอว่าตนเองทำได้สำเร็จ เป็นการแต่งงานที่มีความสุขดังนั้นเขาจัดเสื้อกาวน์ขาว น้ำเสียงมีความภาคภูมิใจอยู่เล็กน้อย ยิ้มแล้วมองไปที่เธอ “ใช่แล้วครับ เอ่อ อันที่จริงผมเองก็ไม่ได้ช่วยเหลืออะไร วาสนาของำวกเขาเป็นฟ้าที่ลิขิตไว้ ผมก็เพียงแต่…”“นี่ยังไม่เรียกว่าช่วยเหลือหรอกเหรอ?” หลินอวี่ฉิงขัดคำของเขา ขึ้นเสียงสูง “คุณหมอเสิ่นช่างถ่อมตนจริง ๆ!”เสิ่นเซียวขมวดคิ้ว ถึงได้รู้สึกว่าท่าทีของเธอไม่ถูกต้อง“คุณหมอเสิ่น คุณเป็นหมอ! หน้าที่ของคุณก็คือไม่ใช่ช่วยเหลือชีวิตคนและรักษาอาการบาดเจ็บเหรอ? ทำไมถึงได้รู้สึกว่าคุณเหมือนกับคุณป้าที่ไม่มีเรื่องอะไรทำพวกนั้น ไปช่วยเขาเป็นพ่อสื่อไปทั่ว…”“การจับคู่นี่ก็ช่างมันเถอะ คุณนี่ช่างเป็นคนดีจริง ๆ!” หลิวอวี่ฉิงอดไม่ได้ที่จะพูดกระทบกระเทียบ “และด้วยเงื่อนไขของกู้หม่างนั้น คุณยกเจียงชั่นให้แต่งงานไปกับเข
"ใช่แล้ว! กิจการของตระกูลเจียงถือเป็นอันดับหนึ่ง บริษัทของพวกเราเองก็ถือว่าเป็นน้องใหม่ น้องใหม่สามารถได้ส่วนแบ่งจากพี่ใหญ่ก็ถือว่าไม่เลว!" "ที่ไหนกันคะ" เจียงเหยายิ้มแล้วมองไปที่พวกเขา "ทุกคนชมกันเกินไปแล้ว อันที่จริงก่อนที่จะมาคุณพ่อก็ได้กำชับฉันเอาไว้ บอกว่าการร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นการฝึกมือของฉัน เพราะอย่างไรแล้วต่อไปก็ต้องรับช่วงกิจการของตระกูลต่อ! หากว่ามีที่ตรงส่วนไหนที่ทำไม่ถูกต้อง ขอให้รุ่นพี่ทุกท่านอดทนและชี้แนะฉันด้วย!" ทันใดนั้นในห้องประชุมก็เงียบสงบลง เจียงชั่นรู้สึกได้ถึงสายตาที่แปลกประหลาดของทุกคน ในใจเย้ยหยันออกมา สิ่งที่เจียงเหยาพูดออกมาแบบนี้ ก็คือบอกกับทุกคนว่า ต่อไปในตระกูลเจียงก็จะไม่มีเรื่องอะไรที่เกี่ยวข้องกับลูกนอกสมรสอย่างเธออีก ถึงแม้ว่าจะเป็นบุตรสาวตระกูลเจียง แต่เธอก็จะไม่ได้เงินแม้แต่สตางค์เดียว! ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ต่อไปเธอในตระกูลเจียงก็คงจะยากที่จะมีตัวตนแล้ว คนเหล่านี้คุ้นชินกับการเลือกข้างคนที่ถูกยกย่องมีหน้ามีตา เธอไม่เป็นที่รักในตระกูลเจียง ในบริษัทเองก็จะไม่ได้รับความเคารพเช่นกัน เจียงชั่นสูดลมหายใจลึก ยิ้มจาง ๆ แล้วมองไปทางเจียงเหยา
เมื่อได้ยินเข้า ผู้อำนวยการจางแผนกการตลาดก็รีบขยิบตาให้กับลูกน้องของตัวเอง อย่างไรก็ตามเจียงเหยากลับยิ้มเย็นแล้วมองไปที่เจียงชั่น "ฉันจำได้ว่าผู้อำนายการเจียงชงชาเสิร์ฟเก่งมาก ถ้าอย่างนั้นก็รบกวนเธอช่วยชงชาให้ฉันหน่อย!" สายตาของทุกคนเลื่อนไปจับจ้องที่เจียงชั่น ดูเหมือนว่าปัญหาระหว่างลูกสาวที่ถูกต้องตามกฏหมายและลูกนอกสมรส คงไม่อาจจะคืนดีกันได้ เจียงชั่นลุกขึ้นเหลือบมองไปยังเธอ แล้วเดินตรงไปยังห้องน้ำชาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ เปลือกตาของไต้เหว่ยกระตุกขึ้น เมื่อคิดถึงเรื่องก่อนหน้านั้นที่มีคนคิดจะรวมบริษัทของไป๋จิ่งหยวนและเย่เชินเข้าด้วยกัน ทั่วทั้งกายเขาก็เหงื่อไหลพลั่ก เขาเพิ่งจะลุกขึ้นไปรั้งเจียงชั่นเอาไว้ อย่างไรก็ตามเมื่อกลับมาคิดอีกทีหนึ่ง ก็ไม่แน่ว่านั่นอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญ? บางทีทั้งสองบริษัทเดิมก็คิดที่จะรวมเข้าด้วยกันแล้ว เพียงแต่ว่าบังเอิญมาเกิดขึ้นในตอนที่เจียงชั่นเกิดเรื่องก็เท่านั้น... อย่างไรเสียเบื้องหลังของเจียงชั่นนั้นเป็นปริศนา แต่เบื้องหลังของเจียงเหยานั้นวางกระจ่างอยู่ตรงหน้า เขาไม่อาจไปล่วงเกินบุตรสาวคนสำคัญนี้ได้เพียงเพื่อลูกนอกสมรส ไต้เหว่ยนั่งลงอีก
เจียงชั่นนิ่งเงียบแล้วเดินไปด้านหน้า แล้วดึงแขนของเจียงเหยาเบาๆ เจียงเหยาที่คิดจะเคลื่อนไหว ก็ถูกสายตาของเธอหยุดเอาไว้ ปกติแล้วยากที่จะพบเจียงชั่นมีท่าทีที่ดุร้ายเช่นนี้ แต่ตอนนี้เธอเองก็ไม่ใช่กระต่ายน้อยที่จะปล่อยให้คนอื่นรังแกได้ หัวใจของเจียงเหยาสั่นไหว มุมปากกระตุกสองครั้ง ไม่กล้าที่จะส่งเสียงออกมา หรือว่าจะเป็นเพราะอยู่กับคนอย่างกู้หม่างนานไป สองสามีภรรยาเลปรับเข้าหากัน เจียงชั่นที่อ่อนโยนและขี้ขลาดมาโดยตลอดได้รับกลิ่นอายอันเย็นชามาด้วย“เธอคิดจะทำอะไร?”“พี่สาว” เจียงชั่นกดเสียงลงต่ำ ดวงตาดำขลับคู่นั้นเผยบารมีออกมาอยู่หลายส่วน “ฉันเป็นตัวแทนของบริษัท พี่ก็เป็นตัวแทนของคุณพ่อ เป็นตัวแทนของเจียงกรุ๊ป! พี่มาทำตัวไม่มีเหตุผลแบบนี้ คิดอยากจะให้คุณพ่ออับอายขายขี้หน้าหรือยังไง?”เจียงเหยามองเธออย่างตกตะลึงไป ก่อนจะกำหมัดอย่างแรง“น้ำชาในแก้วเมื่อกี้หากว่ามันสาดถูกตัวฉันเข้า ในบริษัทมีคนมากมายคงจะเอาไปพูดกัน จะต้องมีคนที่ชอบดูเรื่องสนุกเอาวีดีโอออกไปเผยแพร่ เจียงกรุ๊ปในฐานะฝ่ายเอรู้สึกอับอาย ก็เลยโจมตีพนักงานฝ่ายบีเป็นการส่วนตัว ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็รู้ได้ว่าจะต้องเป็นหัวข้อข่าว
กู้หม่างยิ้มออกมาจาง ๆ “โรงแรมตี้หาว”เจียงชั่นกลืนน้ำลายลงไป ยกมุมปากขึ้นอย่างไม่เต็มใจนักเขานี่ช่างไม่เกรงใจจริง ๆ ทุกครั้งที่ออกไปทานอาหารข้างนอกนอกจากโรงแรมตี้หาวแล้วก็ไม่ยอมไปที่ใดเลย…แต่เมื่อเห็นแก่ที่เขาเพิ่งจะหายจากอาการบาดเจ็บ ก็ถือเสียว่าเป็นการบำรุงร่างกายให้เขาก็แล้วกัน!เจียงชั่นเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกไปที่โรงแรมกับกู้หม่างแขกที่เข้ามายังโรงแรมตี้หาวนั้นมีมากมาย แต่แปลกที่ตรงโต๊ะข้างหน้าต่างนั้นกลับไม่มีใครนั่งเมื่อทั้งสองเข้าไป พนักงานเสิร์ฟก็นำพวกเขาไปที่นั่งข้างหน้าต่างอย่างสุภาพ“สามี เป็นที่พวกเราเคยนั่งสองครั้งก่อนหน้านั้นอีกแล้ว!” เจียงชั่นรู้สึกประหลาดใจ พนักงานที่นี้เอาใจใส่ดีมาก พวกเราเพิ่งจะมาเพียงแค่สองครั้งเท่านั้น ก็รู้ว่าพวกเราชอบนั่งตรงไหนซะแล้ว?”กู้หม่างยิ้มออกมาแต่ไม่พูดอะไร เหลือบมองเมนูอาหารก่อนจะส่งให้กับพนักงาน แล้วสบสายตากับพนักงานเสิร์ฟพนักงานเสิร์ฟเองก็จำเขาได้ รู้ว่าเขามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับไป๋จิ่งหยวน ฉะนั้นจึงรีบเข้าไปแจ้งให้พ่อครัวทราบไม่นานอาหารก็เสิร์ฟจนครบ เจียงชั่นลองชิมแล้วก็รู้สึกประหลาดใจ เธอค่อนข้างชอบรสหวาน และอาหารทุ
ดวงตาของกู้หม่างเป็นประกาย มองเธอด้วยความสนใจ“กิจการของตัวเอง?”“ใช่แล้ว! หากว่าสามารถลงทุนทำอะไรระหว่างที่ทำงานไปด้วยได้ ทำเป็นงานเสริม ก็ถือว่าเป็นรายได้อีกทางหนึ่ง!”เจียงชั่นเริ่มวางแผนอย่างจริงจัง “ถึงแม้ว่าจะเปิดแค่ร้านเล็ก ๆ หรือว่าแผงลอย นั่นก็ถือว่าเป็นธุรกิจของตัวเอง ตัวเองเป็นเจ้านายมีสิทธิ์ตัดสินใจได้ นั่นคงจะดีมาก!”“หากว่าคุณมีเงินก้อนหนึ่งสามารถนำมาลงทุนได้จริง คุณอยากจะทำอะไรมากที่สุด?”เจียงชั่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ใบหน้าเหมือนกับสาวน้อยที่ฝันกลางวันอยู่“เอ่อ…หากว่ามีเงินมากหน่อย ฉันก็อยากจะซื้อห้างสักแห่ง ทุก ๆ วันมีลูกค้าเข้าเต็ม! ฮิฮิ แต่ว่าคงจะเป็นไปไม่ได้ ถ้าพูดถึงที่พอจะเป็นไปได้หน่อย ก็คือประหยัดเงินแล้วเปิดร้านกาแฟเล็ก ๆ มีหน้าต่างบานใหญ่สูงจากพื้นจรดเพดาน และยังมีสวนเล็ก ๆ ที่ปลูกดอกไอริสเต็มไปหมด จากนั้นฉันก็นั่งบดกาแฟอยู่ตรงเคาท์เตอร์ อบขนมปัง ทั่วทั้งห้องเต็มไปด้วยกลิ่นของกาแฟและกลิ่นของหวาน!”“เพียงแค่นี้เหรอ?”“อืม!”“ตกลง” กู้หม่างยกริมฝีปากขึ้นยิ้มเบา ๆ “ผมรู้แล้ว”เจียงชั่นตะลึงไป จากนั้นก็ได้สติขึ้นมาทันทีจากจินตนาการเมื่อครู่นี้น้ำเสียงของก
เจียงชั่นยิ้มแล้วไม่ตอบอะไรโมนาจึงรู้สึกตระหนกขึ้นมาถังอี้หรานเป็นผู้กำกับที่มีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมนี้ ภาพยนตร์ทุกเรื่องที่เขากำกับล้วนแต่ได้รับรางวัลในระดับนานาชาติไม่เพียงแค่มีชื่อเสียงในประเทศ แต่ยังมีชื่อเสียงในวงการภาพยนตร์ระดับนานาชาติอีกด้วยทุกคนในวงการต่างก็กระตือรือร้นที่จะได้เข้าไปอยู่ในทีมของถังอี้หรานแน่นอนว่าโมนาเองก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ถังอี้หรานเป็นผู้หญิงที่มีความสามารถ ทุกคนรู้จักกันดีว่าเธอหยิ่งแค่ไหน แน่นอนว่าแม้แต่ดารายอดนิยมอย่างเธอถังอี้หรานก็ไม่แยแสแต่ตอนนี้...“เมื่อกี้นี้คุณโทรหาถังอี้หรานจริง ๆ เหรอ?”“ใช่ครับ” ผู้จัดการห่าวเหลือบมองเธอ “ผู้อำนวยการถังเพิ่งสร้างภาพยนตร์เรื่องใหม่ คุณเนี่ยซินและคุณเจียงช่วยติดต่อกับเธอแล้ว”สีหน้าของโมนาเปลี่ยนไปด้วยความรู้สึกเสียใจอย่างมาก“ผะ..ผู้ช่วยเจียง” เธอมองเจียงชั่น “ผู้กำกับถังจะมาร่วมรายการนี้ด้วยเหรอ? แต่ฉันได้ยินมาว่าเธอไม่เคยปรากฎตัวในรายการวาไรตี้เลยนะ”เจียงชั่นยิ้มและยังคงไม่พูดอะไร“มันไม่ใช่รายการวาไรตี้ธรรมดา ๆ หรอกเหรอ?!” โมนาโกรธจัดเจียงชั่นเม้มปากแล้วเอ่ยอย่างใจเย็น “ไม่สำคัญหรอกค่ะ เพ
เจียงชั่นที่กำลังดื่มน้ำ เกือบพ่นน้ำออกมาทันทีที่ได้ยินหลังจากวางสายแล้วเธอก็เดินออกไปเห็นได้ชัดว่าดาราสาวเป็นคนที่ใจร้อนมาก หญิงสาวจ้องเจียงชั่นด้วยความไม่พอใจ“นี่น่ะเหรอที่เรียกว่ามืออาชีพ กำลังทำอะไรอยู่?” โมนาตะโกน “หยู่เฟิงมีเดียก็ใหญ่โตแล้วมีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมนี้นะ จะดูแลได้ดีแน่เหรอ? เพิกเฉยต่อศิลปินแบบนี้มันไม่สุภาพเลยนะ!”ผู้จัดการห่าวทนไม่ไหว “คุณโมนามีมารยาทหน่อยได้ไหมครับ?”โมนาเหลือบมองเขา“ผู้ช่วยเจียงเป็นผู้ช่วยอาวุโสของคุณฟู่ เธอรับผิดชอบงานประชาสัมพันธ์และการฝึกอบรมต่าง ๆ ให้กับศิลปินทุกคน แม้แต่เนี่ยซินเองก็ต้องทำตามและให้ความร่วมมือกับผู้ช่วยเจียง”“คุณโมนาคิดว่าตัวเองมีสถานะที่สูงกว่าคุณเนี่ยซินงั้นสินะครับ?”ทุกคำพูดของผู้จัดการห่าวเน้นย้ำ โมนาจึงถอยหลังเล็กน้อย ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจเจียงชั่นยิ้มแล้วหยิบเอกสารจากโต๊ะขึ้นมา ในนั้นมีตารางงานของศิลปินหลายคนของบริษัท“นี่เป็นแผนการเดินทางของคุณค่ะ” เจียงชั่นยื่นเอกสารสำเนาให้กับโมนา “ในนั้นมีข้อควรระวังในการปรากฏตัวในรายการ เดี๋ยวฉันจะช่วยสื่อสารกับผู้จัดการส่วนตัวของคุณล่วงหน้า”“นีมันรายการอะไ
เจียงชั่นขมวดคิ้วพลางมองตามไปยังเสียงที่ได้ยินเธอเห็นหญิงสาวสวยแต่งตัวเรียบหรู สวมแว่นกันแดดอันใหญ่และต่างหูกับสร้อยคอที่ดูเว่อร์เดินนวยนาดเข้ามา“ไม่ได้บอกว่ามีทีมผู้บริหารที่เป็นมืออาชีพหรอกเหรอ?” เธอถอดแว่นนกันแดดอันใหญ่ออกแล้วมองเจียงชั่นด้วยท่าทางที่ไม่เป็นมิตร “แล้วอยู่ไหน?”ผู้จัดการห่าวและเจียงชั่นมองหน้ากันแล้วพยักหน้าเบา ๆเจียงชั่นยื่นมือออกมาแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “คุณโมนาใช่ไหมคะ? ฉันคือ...”โมนาแสดงท่าทีที่หยิ่งออกมา เธอไม่ยอมจับมือกับเจียงชั่นเลยเจียงชั่นจึงหยุดค้างอยู่กลางอากาศแบบนั้น ก่อนจะดึงมือกลับเงียบ ๆผู้จัดการห่าวก้าวไปข้างหน้าแล้วเอ่ย “คุณโมนาครับ นี่คือคุณเจียงชั่นผู้ช่วยอาวุโสที่หยู่เฟิงมีเดียของเรา เธอรับผิดชอบในการจัดหาศิลปิน ถ้าหากว่าคุณมีคำถามอะไร สามารถคุยกับเธอได้เลยโดยตรง”“อ้อ เจียงชั่น!” โมนายิ้มในขณะที่ก้มลงมองเล็บมือที่เพิ่งทำมาของเธอ “มีประสบการณ์หรือเปล่า? ไม่ใช่ใครก็จะดูแลฉันได้นะ”“ไม่ต้องกังวลครับคุณโมนา แม้ว่าผู้ช่วยเจียงจะไม่ได้อยู่ในวงการนี้นาน แต่ความสามารถในการทำงานของเธอโดดเด่นมาก”“ความสามารถในการทำงานหรือยั่วผู้ชายกันแน่ที่โดด
“ไอ้สารเลว! แกมันน่ารังเกียจ”สีหน้าของหยินรั่วหงแดงจัดฮั่วจ่านเฮ่อมองกลับด้วยรอยยิ้ม ภายใต้แววตาเจ้าเล่ห์มีความชั่วร้ายอยู่เต็มเปี่ยมเครื่องบินส่วนตัวของฮั่วจือสิงตกจริง แต่หยินรั่วหงไม่รู้เรื่องนี้ในตอนนั้นเขาพบกับฮั่วจ่านเฮ่อที่งานเลี้ยงหลายแห่ง พวกเขาเป็นเพียงคนที่รู้จักกันเท่านั้นนอกเหนือจากการฝึกฝนด้านการแพทย์และเภสัชกรรมแล้ว ตระกูลหยินในหนานหยางยังเปิดสนามบินพลเรือนอีกด้วย สนามบินขนาดใหญ่หลายแห่งในหนานหยางอยู่ภายใต้การควบคุมของตระกูลหยินดังนั้นฮั่วจ่านเฮ่อจึงมีแผนนี้ขึ้นมา ทว่าเขาซ่อนความจริงนี้จากหยินรั่วหง ก่อนจะใช้อุบายในการใช้ช่างเทคนิคเข้ามาทำอะไรบางอย่างกับเครื่องบินของฮั่วจือสิง...จากนั้นเขาก็แกล้งทำกรรมธรรม์ก้อนใหญ่แล้วบอกหยินรั่วหงว่าเงินหลายล้านจะตกเป็นของเขาหยินรั่วหงไม่คิดมาก่อนว่าตัวเองจะกลายเป็นผู้ร้ายในการก่ออาชญากรรมที่เลวร้ายในครั้งนี้ด้วย“ประธานหยิน ถ้าเรื่องนี้ถูกพูดออกไป จะไม่มีใครฟังคำอธิบายของคุณหรอกนะ เพราะพวกเขาจะคิดว่าคุณเป็นคนที่ร่วมทำร้ายฮั่วจือสิงเหมือนกัน”“เมื่อถึงเวลาชื่อเสียงและความมั่นคงของคุณก็จะถูกทำลายลงไป”หยินรั่วหงหายใจเข
“ใช่”ฮั่วจือสิงขมวดคิ้วด้วยสีหน้าที่จริงจังขึ้นมาเล็กน้อย “ผมไม่ได้บอกเรื่องนี้กับชั่นชั่น ดังนั้นอย่าพูดเรื่องนี้เลยนะ...”“เกิดอะไรขึ้น?” “ช่วงนี้อาการบาดเจ็บที่ขา...มันมีอาการนิดหน่อยน่ะ”เสิ่นเซียวตกใจ รีบพาเขาไปเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดทันที“ไม่มีอะไรหรอก” ฮั่วจือสิงตบไหล่อีกฝ่าย “มันน่าจะกำเริบ ก่อนหน้านี้ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ช่วงนี้อากาศเย็นลงมาก ก็จะเจ็บมากหน่อย”“ผมจำได้ว่าตอนนั้นคุณให้ยาผม ทั้งแบบกินแล้วก็แบบทา มันได้ผลดีมากนะ..วันนี้ก็เลยอยากจะให้สั่งยาเพิ่ม”เสิ่นเซียวลังเลอยู่นาน โดยที่ไม่พูดอะไร“มีอะไรรึเปล่า?”ฮั่วจือสิงนึกสงสัยว่าแพทย์อาจจะไม่สามารถสั่งยาได้ง่ายดายอย่างทีคิด?“จือสิง” เสิ่นเซียวมองเขาแล้วเม้มปากแน่น ในที่สุดก็ตัดสินใจเอ่ยออกมา “ที่จริงผม..ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคือยาอะไร”“ว่าไงนะ?” ฮั่วจือสิงประหลาดใจ “แต่ตอนนั้นคนที่ให้ยากับผมคือคุณนะ”“ใช่ แต่ยานั่นมีคนมอบให้คุณอีกที”ฮั่วจือสิงยิ่งเกิดความสับสนมากขึ้นเสิ่นเซียวถอนหายใจแล้วบอกความจริงทั้งหมด“คุณลองคิดดูสิ ถึงผมจะจบจากโรงเรียนแพทย์มา แต่ตอนนั้นผมไม่ได้เป็นหมอมานานแล้ว ไม่เคยผ่า
“ครับ นายน้อย” ฟางฮั่นพยักหน้าแต่หยินรั่วหงเป็นคนค่อนข้างลึกลับ ไม่ชอบปรากฎตัวต่อสาธารณะแม้แต่ในงานประมูลวันนั้น ก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้เจอหน้าเขา“ถ้านัดหมายในนามของเรา เขาจะต้องรับ” ฮั่วจือสิงคิดเรื่องนี้ไว้แล้ว“แล้ว...ในนามของคุณชายสองล่ะครับ?”“ไม่จำเป็น” ฮั่วจือสิงเม้มปาก “บอกแค่ว่าปู่อยากเจอเขา”ฟางฮั่นสะดุ้งเล็กน้อย “นี่ก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง ถ้ามีปู่ร่วมด้วย หยินรั่วหงจะไม่กล้าทำอะไร”ฮั่วจือสิงยิ้ม ก่อนจะปรับสีหน้าไปเป็นไม่พอใจอีกครั้ง“นายน้อย เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?” ฟางฮั่นรู้สึกตระหนกเล็กน้อยฮั่วจือสิงลดเสียงทันทีและเจียงชั่นก็ยังอยู่ในครัว“เปล่า” เขาขยับตัวเล็กน้อย “ก็ปัญหาเดิม ๆ”“อาการบาดเจ็บเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือเปล่าครับ?” ฟางฮั่นเป็นกังวลหลังจากเหตุการณ์เครื่องบินตก ฮั่วจือสิงได้รับบาดเจ็บหนัก แม้ตรวจแล้วทุกอย่างจะปกติดี แต่ก็มีเพียงอาการบาดเจ็บที่ขาเท่านั้นที่ยังมีผลกระทบที่ต่อเนื่องมาจนถึงตอนนี้“จริง ๆ มันก็ไม่ได้ร้ายแรง” เขายืดตัวขึ้นแล้วเอ่ยอย่างใจเย็น “ช่วงนี้อากาศเริ่มเย็นลง ก็เลยเจ็บมากเป็นบางครั้งแต่ไม่รุนแรงมาก คงจะไม่เป็นอะไรถ้าฉันพอจะปรั
เจียงชั่นหน้าแดงด้วยความเขินอาย ในขณะที่ฮั่วจือสิงกำลังโมโห เธอรีบผละออกจากเขาแล้ววิ่งเข้าไปในบ้านทันทีฟางฮั่นอ้าปากค้าง สายเกินไปแล้วที่เขาจะหนีไปอีกคน...สีหน้าของฮั่วจือสิงมืดดำราวกับมีหมึกดำ ๆ มาป้ายไว้บนหน้าเขาเดินออกไปตรงลานสนามหญ้าอย่างรวดเร็ว พลางมองฟางฮั่นด้วยแววตาที่แข็งกร้าวและเย็นชาฟางฮั่วกระตุกยิ้มแห้ง ๆ หัวใจเต้นแรงจนจะกระเด้งออกมาจากปาก“เกิดอะไรขึ้น?” เขาเอ่ยตอนนี้ฟางฮั่นลืมทุกสิ่งที่เขาต้องการจะพูดแล้ว จึงมองคนตรงหน้าด้วยแววตาว่างเปล่าความเงียบไม่กี่วินาที ทว่าความรู้สึกกลับยาวนานเป็นทศวรรษจากนั้นเจียงชั่นก็ได้ยินเสียงคำรามเข้ม ๆ ของใครบางคนดังขึ้นมา “ฟางฮั่น!”ป้าเฉินที่กำลังเลือกผักอยู่สะดุ้งแล้วรีบวิ่งออกมาจากครัวทันที“เกิดอะไรขึ้นคะ?”เจียงชั่นนั่งหัวเราะอยู่บนโซฟา“เสี่ยวฟางมีเรื่องเหรอคะ?” ป้าเฉินส่ายหน้าแล้วถอนหายใจ ก่อนจะกลับไปที่ห้องครัวพลางพึมพำกับตัวเอง “ตะเบ็งเสียงขนาดนี้ คงต้องทำซุปไว้ให้นายน้อยหน่อยแล้วล่ะนะ...”ที่สนามหญ้าเองเจ้าแมวส้มที่กินอาหารจนหมดก็กำลังเหวี่ยงร่างอ้วน ๆ ของมันไปมา ขณะที่มองชายหนุ่มทั้งสองแล้วร้องเหมียวสองสามครั้ง
จู่ ๆ ไป๋จิ่งหยวนก็รู้สึกว่าหัวใจของตัวเองเต้นผิดจังหวะ แทบจะควบคุมเอาไว้ไม่ได้ใบหน้าที่ชัดเจนของเหยาหว่านยินสะกดเขาราวกับมีเวทย์มนตร์ ดวงตากลมคู่นั้นราวกับโลกที่ลึกลับกำลังดึงดูดให้เขาเข้าไปสำรวจไป๋จิ่งหยวนมองเธออย่างว่างเปล่า บรรยากาศโดยรอบเงียบลง ราวกับว่าทุกอย่างกำลังมุ่งความสนใจไปที่เธอลมเย็น ๆ ที่พัดกระโชกมาทำให้เหยาหว่านยินไอออกมาสองสามครั้งทำให้ไป๋จิ่งหยวนถอดเสื้อคลุมออกมาแล้วสวมให้กับเธอแทน“ไม่เป็นไร...”“ใส่เถอะ” เขาช่วยกระชับเสื้อให้กับเธอ “ไม่สบายเหรอคุณ? หรือว่าเป็นหวัด?”เหยาหว่านยินเม้มปากแล้วมองเขาเงียบ ๆตอนนี้เริ่มมีคนทะยอยออกมาจากประตูงานประมูล“ดูเหมือนงานจะจบแล้วล่ะ” ไป๋จิ่งหยวนเอ่ย “เอาล่ะ..เดี๋ยวผมไปส่ง คุณอยู่ที่ไหน?”เหยาหว่านยินชะงักแล้วส่ายหน้าเล็กน้อยทุกอย่างราวกับภาพฝัน ในตอนที่เธอตื่นเธอก็ต้องกลับสู่โลกของความเป็นจริงความจริงที่ว่าเธอเป็นลูกสาวนิรนามของตระกูลเหยา ไม่รู้ว่าจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ต่อไปอีกนานแค่ไหน ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง...ร่างบางหันหลังกลับแล้วเดินไปอย่างช้า ๆ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงคนของตระดูลเหยากำลังตามหาเธออยู่ไม่ไกล
“คุณชื่อหว่านยินเหรอ?” ไป๋จิ่งหยวนขมวดคิ้วดูสับสน “แล้วนามสกุลอะไร?”เหยาหว่านยินหลับตาลงแล้วนิ่งเงียบไป๋จิ่งหยวนจึงยิ้มกว้าง ไม่ว่าเธอจะนามสกุลอะไรแต่แค่ได้รู้จักชื่อก็ดีมากแล้ว“เอาล่ะ เดี๋ยวผมจะพาไปเดินเล่นในสวน” เขาเอ่ยพลางเดินออกไปจากประตู“นี่คุณ...”แต่ก่อนที่เขาจะออกไปได้ ร่างสูงก็ถูกเหยาหว่านยินรั้งเอาไว้เขาตะลึงก่อนจะหันกลับมามองเขายังไม่ได้ใส่กางเกง!ชายหนุ่มหน้าแดง ในขณะที่มองเหยาหว่านยินด้วยความตระหนก ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ใส่เธอดีเห็นอย่างนั้นเหยาหว่านยินก็รู้สึกขบขัน ใบหน้าที่ซีดเซียวเริ่มมีสีสันขึ้นมาทันทีไป๋จิ่งหยวนวิ่งเข้าไปในห้องแล้วรีบสวมกางเกงทันที ก่อนจะพาเหยาหว่านยินออกไปเดินเล่นในค่ำคืนของฤดใบไม้ร่วงช่างสวยงาม ภายในสวนที่ได้รับแสงแดดอบอุ่นมาตลอดทั้งวัน ยังคงมีกลิ่นอายของความอบอุ่นไปทั่วทั้งบริเวณ รอบข้างมีความเงียบสงบและมีเสียงนกนานาชนิดร้องเป็นระยะ ๆ แสงไฟดวงเล็ก ๆ ที่ตกแต่งสวยงามราวกับมีหิ่งห้อยกำลังบินอยู่เหยาหว่านยินสูดหายใจลึกแล้วหลับตาลงเบา ๆเธอยืนอยู่บนสนามหญ้าและหายใจได้อย่างอิสระ อิสระที่เธอเฝ้าใฝ่หามาทั้งชีวิต“ดีจัง” เธอหั