”โครงการนี้ต้องการคนมีฝีมือจากสถาบันออกแบบของมหาวิทยาลัยหยางเฉินและเหยาโม่ก็เป็นผู้อำนวยการ” ฮั่วจือสิงแค่นเสียง “หรือจะบอกว่าโครงการนี้เหมือนเนื้อชิ้นใหญ่ ทุกคนต่างก็อยากได้ส่วนแบ่ง แน่นอนว่าตระกูลเหยาก็ต้องไม่ยอมพลาดโอกาส”“และเพราะว่าเหยาม่านหนิงไม่อยากจะพลาดโอกาสได้ใกล้ชิดกับคุณด้วยใช่ไหม? แบบนี้เธอก็จะมีข้ออ้างไปที่ตระกูลเหยาได้ทุกวันเพื่อจะคุยเรื่องงานกับคุณ”ฮั่วจือสิงชำเลืองมองเขา สายตาคมกล้าทำให้เขาหุบปากเงียบเหมือนกับว่าเมื่อกี้ไม่ได้พูดอะไรออกมาลี่หลีซานหัวเราะหลังจากเขาหัวเราะเสร็จ ก็ตบบ่าฮั่วจือสิงอย่างเคร่งขรึม “พูดตามตรงแม้ว่าผมจะเป็นประธานของบริษัทบันเทิงแล้วก็พอมีหน้ามีตาในเมืองหลวงบ้างเวลาพวกตระกูลรวย ๆ รวมตัวกัน แค่คุณออกปากมาผมจะทำให้เต็มที่”“ขอบคุณ” ฮั่วจือสิงตบข้อมือเขาเบา ๆ“แต่ลู่หลี่ซาน นายก็คงไม่รู้ว่าฉันก็ทำงานให้คนอื่นเหมือนกันใช่ไหม?”“หือ?”“ทายสิว่าใครเป็นประธานอยู่หลังอสังหาและบริษัทสองแห่งชื่อตงหมิงกับเหล่นอันน่ะ?”ลู่หลี่ซานอึ้งไปแต่ว่าด้วยหัวสมองอันชาญฉลาดของเขา ทำให้สามารถรู้คำตอบได้ทันทีคนที่ทำให้ฮั่วจือสิงพูดอย่างหน้าชื่นตาบานได้ว่า
ชั้นบนสุดของอาคารฮั่วการประชุมนั้นเคร่งเครียดมากเพราะว่ามีฮั่วเหวินหยวนมาเข้าร่วมด้วยฮั่วเหวินหยวนนั่งอยู่ที่โต๊ะประชุม เขาใส่ชุดยาวแบบจีนทำจากผ้าซาตินสีดำ และผมยวงเงินของเขาก็เพิ่มความน่าเกรงขาม แม้ว่าเขาจะแก่ชราแต่ว่าดวงตาก็ยังกระจ่างใส ทั้งร่างของเขาแผ่กลิ่นอายสงบนิ่งและเป็นใหญ่ออกมาเขามองฮั่วจือสิงและถามเสียงเข้มว่า “การส่งต่องานกับฟู่กรุ๊ปเรียบร้อยแล้วเหรอ?”“เรียบร้อยแล้วครับ” ฮั่วจือสิงตอบเรียบ ๆ “ท่านประธานฟู่ตอนนี้เป็นหุ้นส่วนหลักของหยูเฟิงมีเดีย”“ดี” ฮั่วเหวินหยวนพยักหน้า ดวงตาฉายแววซับซ้อน “ฉันหวังว่าบริษัทจะทำผลงานได้ดีในมือของประธานฟู่”ไม่นับเรื่องที่เขาไม่ลงรอยกับตระกูลฟู่ในอดีต ฮั่วเหวินหยวนก็ทำธุรกิจมานาน เขาก็เลยสามารถแยกแยะได้อีกอย่างผลประโยชน์ที่ตระกูลฮั่วและฟู่มีร่วมกันก็พัวพันมากมาย และฮั่วจือสิงเองก็เป็นลูกแท้ ๆ ของฟู่ซิ่วอวี้ ด้วยความสัมพันธ์เช่นนี้ จึงเป็นไปไม่ได้ที่ตระกูลฮั่วจะเหินห่างจากตระกูลฟู่ได้ในเมื่อแยกกันไม่ได้ ก็ทำไมไม่ทำงานด้วยกันเพื่อหาโอกาสดี ๆ ในอนาคตล่ะฮั่วเหวินหยวนนิ่วหน้าและมองฮั่วจือสิงอย่างจดจ้อง ทุกอย่างนั้นพูดง่ายและเขาก็พอใ
“แกพาเจียงชั่นไปเจอแม่แกแล้วเหรอ?” ฮั่วเหวินหยวนถาม“พบกันแล้วครับ” ฮั่วจือสิงตอบ “แม่ผมชอบเธอมาก”“เหอะ” ฮั่วจ้านเหอยิ้มร้าย “จือสิง คุณเจียงนี่สุดยอดจริง ๆ เธอใช้วิธีไหนมารับมือคนจู้จี้เรื่องมากอย่างประธานฟู่ได้?”แววตาฮั่วจือสิงมืดครึ้มที่ลุงสองพูดไม่คิดออกมาแบบนี้ ไม่ได้เพราะต้องการจะให้ปู่มีภาพจำว่าเจียงชั่นเป็นพวกมากเล่ห์หรือไง?ฮั่วเหวินหยวนนั้นก็ไม่พอใจพื้นเพของเจียงชั่นอยู่แล้ว และตอนนี้เขาก็จะยิ่งแปะป้ายว่าเธอเป็นพวกมากเล่ห์อีก ทำให้ยิ่งยากที่ปู่จะยอมรับเธอฮั่วจือสิงสูดลมหายใจลึกและหัวเราะเบา ๆ “ชั่นชั่นเข้าได้ดีกับแม่ผม ดีกว่าลุงรองมากเลย”“แกว่ายังไงนะ?” ฮั่วจ้านเหอนิ่วหน้า “ฮั่วจือสิงพูดมาซิ ทำไมถึงโยนเรื่องนี้มาใส่ฉันได้”“ผมก็แค่พูดความจริง”ฮั่วจือสิงยิ้มเหมือนไม่ยิ้ม และเขาก็หมุนปากกาช้า ๆ “ลุงรอง ดูเหมือนว่าที่ทำงานกับแม่ผมมาหลายปีก็ไม่ได้รับคำชมอะไรจากแม่ผมเลยนี่?”“แม้ว่าแม่จะเลือกมาก แต่สายตาเวลามองคนก็ไม่เคยพลาด แทนที่จะมาเหน็บแนมแบบนี้ ลุงรองไปเรียนรู้จากชั่นชั่นว่าทำยังไงให้มีความสัมพันธ์ที่ราบรื่นกับแม่ผมได้จะดีกว่า แบบนั้นจะเป็นประโยชน์กับการพัฒนาใ
ฮั่วจ่านเฮ่อเบิกตาโตทันทีที่ได้ยิน“ดูเหมือนว่าไม่ว่าจะเอาบริษัทในเครือคืนหรือไล่แกออกจากตำแหน่ง ก็ไม่มีผลกับแกเลยสินะ” ฮั่วเหวินหยวนเอ่นอย่างเยือกเย็น “แกไม่ต้องมาที่บริษัทอีก โครงการต่าง ๆ ที่อยู่ในมือฉันจะแบ่งไปให้ลูกหลานคนอื่นในตระกูลฮั่วซะ!”“จือสิง ไปจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย ทำหน้าที่ผู้สืบทอดที่ดีจะได้ไม่เกิดข้อผิดพลาดอะไรอีก!”“ครับ” ฮั่วจือสิงยิ้มเล็กน้อยด้วยแผนการบางอย่างในใจยังมีลูกพี่ลูกน้องหลายคนในตระกูลฮั่วที่ยังเป็นคนที่มีคุณภาพและน่าเชื่อถืออยู่“ส่วนพื้นที่ชานเมืองฝั่งตะวันตก” ฮั่วเหวินหยวนหยุดคิด “จือสิงเป็นคนดูแลทั้งหมด ไม่มีข้อยกเว้นอะไรทั้งนั้น”ฮั่วจือสิงคลี่ยิ้มบาง ๆด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำในการประชุมคณะกรรมการ ตอนนี้ฮั่วจ่านเฮ่อถูกไล่ออกจากตำแหน่งอีกครั้งนี่ถือเป็นการขจัดอุปสรรคออกไปแล้วส่วนหนึ่ง แต่แม้ว่าฮั่วจ่านเฮ่อจะหายไปแต่ตระกูลเหยาก็ยังอยู่“คุณปู่” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงทุ้ม “ในเมื่อลุงสองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแล้ว ส่วนตระกูลเหยา...”“ตระกูลเหยาก็ยังเป็นหุ้นส่วนรายใหญ่ของเรา” ผู้เป็นปู่มอง“ฉันรู้ว่าแกกำลังคิดอะไร” แววตาของฮั่วเหวินหยวนเต็มไปด้วยคว
ทันใดนั้นบรรยากาศโดยรอบก็เงียบลง เจียงชั่นมองมือเล็ก ๆ ของตัวเองแล้วไม่ได้เอ่ยอะไรฟู่ซิ่วหยูและหยิ่นเหวินซีมองหน้ากันแล้วยิ้มเบา ๆตอนนี้พวกเขาน่าจะต้องการเวลาส่วนตัว“ฟางฮั่นเราไปที่อื่นกันเถอะ” ฟู่ซิ่วหยูเอ่ยฟางฮั่นจึงรีบเตรียมรถให้ทันทีมีเพียงไป๋จิ่งหยวนที่ยังคงยืนมองพวกเขาอยู่อย่างนั้น“นี่พี่สามพี่สะใภ้” เขาหัวเราะ “พวกพี่ไม่ต้องเตรียมอะไรเลย ผมเตรียมไว้ให้หมดแล้วล่ะ มาแค่ตัวก็พร้อมอยู่ได้”เจียงชั่นมองตาฮั่วจือสิงเขาเองก็ประหม่าเล็กน้อย “ถ้าคุณไม่ต้องการผมก็จะไม่บังคับ”เจียงชั่นตะลึงแล้วหัวเราะออกมาอย่างไม่รู้ตัวจะไม่บังคับ ตั้งแต่รู้ตัวตนที่แท้จริงของเขา คำเหล่านี้ก็มักจะติดปากฮั่วจือสิงอยู่เสมอแต่เขาจะรู้ไหมว่าบางครั้งเธอก็อยากจะให้เขาบังคับเธอบ้างสักหน่อย...แม้บางครั้งเธอจะต่อต้าน แต่ก็ยังยืนหยัดที่จะจับมือเธออย่างแน่นหนาบางคนก็บอกว่าเวลาที่เรารักใครร่างกายจะให้คำตอบที่ตรงไปตรงมาที่สุดตอนนี้การเต้นของหัวใจเจียงชั่นแทบจะเต้นออกมานอกอก แก้มเริ่มแดงจัดราวกับคนที่มีไข้จากการกระทำฮั่วจือสิงเดาไม่ออกเลยว่าเธอกำลังคิดอะไร เขาเริ่มรู้สึกหลงทางเช่นกันดูเหมือ
“เป็นภรรยาของคุณชายสามนี่ไม่ง่ายเลยจริง ๆ” เจียงชั่นมองเขาอย่างสนุกสนานเขามีหน้าตาทางสังคมและตำแหน่งที่สูงส่ง เป็นคนที่ต้องแบกรับความรุ่งโรจน์ของตระกูลเอาไว้ จึงไม่แปลกที่จะดึงดูดสายตาอิจฉาและไม่เป็นมิตรมาสู่ตัวเองมากมายคนในตระกูลฮั่วต่างก็ไม่กล้าที่จะต่อรองกับเขา“ฉันคงไม่สาสมารถพาตัวเองไปอยู่ในจุดที่อันตรายได้” เธอมองตาเขา “และฉันก็ไม่สามารถทำให้คุณเสียสมาธิเพราะฉันได้เหมือนกัน”“ชั่นชั่น..” ฮั่วจือสิงเอ่ยเบา ๆเขารู้ว่าผู้หญิงที่เขารักเป็นคนฉลาดและแข็งแกร่ง ไม่ได้อ่อนแออย่างภาพลักษณ์ที่คนอื่นมองทั้งเขาและเธอต่างก็มีความสามารถ หากอยู่ด้วยกันก็จะส่งเสริมซึ่งกันและกันเป็นอย่างดีความสัมพันธ์ที่ทั้งสองฝ่ายเท่าเทียมกันคือความรักที่สวยงามที่สุด“สรุปว่า...” ไป๋จิ่งหยวนที่มองอยู่ใกล้ ๆ เอ่ยขึ้น “พวกพี่สองคนจะอยู่ด้วยกันไหมเนี่ย?”“เอาเถอะน่าพี่สะใภ้ คืนนี้ก็อยู่ที่นี่แหละนะ ไม่งั้นความพยายามทั้งหมดของผมก็สูญเปล่าน่ะสิ”“ว่าไงนะ?” เจียงชั่นถามอย่างสงสัย “ความพยายามอะไรงั้นเหรอ?”ไป๋จิ่งหยวนหัวเราะแล้วเกาหัวเบา ๆ“งั้น...ผมจะพาไปดูแล้วกัน”ทั้งสองเดินตามไป๋จิ่งหยวนเข้าไปในวิล
ฮั่วจือสิงใส่สร้อยนั้นมาพอดีจึงยกขึ้นมาเทียบกับสิ่งที่เจียงชั่นถือมันเหมือนกันจริง ๆ เหมือนกระทั่งกระดิ่งและรูปแบบการทอทั้งสองสบตาแล้วพยักหน้าให้กันโดยที่ไม่พูดอะไรอีก จากนั้นฮั่วจือสิงก็จูงมือเจียงชั่นออกไปอย่างรวดเร็วทั้งสองขับรถไปยังที่พักแถวน้ำพุร้อนที่มาครั้งก่อน สายลมที่พัดผ่านมีกลิ่นเค็มของน้ำทะเลเล็กน้อย หลังจากนั้นทั้งสองก็เดินไปบนถนนบนภูเขาที่คดเคี้ยว ทว่าไม่นานก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคย“ชะตาชีวิตของผู้หญิงคนนี้ค่อนข้างดีนะ”“อืม..เพียงแต่ว่าโอกาสในชีวิตแต่งงานยังไม่ดีนัก เดี๋ยวก็ต้องเลิกกัน”เจียงชั่นเร่งฝีเท้าเดินเข้าไปใกล้ภาพที่เห็นตรงนั้นคือหญิงชราที่กำลังดูลายมือให้กับนักท่องเที่ยวคนหนึ่ง ที่สีหน้าไม่รู้ว่าควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดีเจียงชั่นยืนนิ่ง “แต่เดี๋ยววันหนึ่งก็จะมีความสุขนะ”นี่คือสิ่งทีหญิงชราบอกทั้งสองในตอนแรกไม่ใช่หรือ?“สร้อยข้อมือสองเส้นนี้เก็บเอาไว้นะ” หญิงชราหยิบเชือกสีแดงที่มีระฆังเล็ก ๆ ห้อยอยู่ให้ “ในอนาคตหากวันหนึ่งแยกจากกัน สร้อยข้อมือเส้นนี้ก็จะบอกให้รู้ว่าแต่ละเส้นอยู่ตรงไหน…”ฮั่วจือสิงตกตะลึงที่แท้ไม่ว่ากับใครก็พูดแบบนี้หมดเลยสิน
ตอนนี้ทั้งเจียงชั่นและฮั่วจือสิงต่างก็จะตั้งรกรากอยู่ที่ซีหยวนแม้ว่าไป๋จิ่งหยวนจะจัดเตรียมทุกอย่างแล้ว แต่เจียงชั่นก็รู้สึกว่าบ้านของตนก็ควรจัดการทุกอย่างเองให้เรียบร้อยดังนั้นในขณะที่ทำการส่งงานต่อในสำนักพิมพ์แล้วจะมาเริ่มงานใหม่ที่หยู่เฟิงมีเดีย ช่วงเวลาว่างสองสามวันมานี้เธอก็ตระเวนไปยังที่ต่าง ๆ ในเมืองเพื่อซื้อข้าวของเครื่องใช้บางอย่างเองโดยค่าใช้จ่ายเป็นฮั่วจือสิงที่รับผิดชอบให้ทั้งหมดหลังจากที่การประชุมจบลง ฮั่วจือสิงก็รับรู้ได้ถึงแรงสั่นของโทรศัพท์ มันมีข้อความแจ้งเตือนการใช้บัตรเครดิตอย่างต่อเนื่องเขาจึงขมวดคิ้วเล็กน้อย ทว่าในแววตากลับเต็มไปด้วยความสุขที่ผ่านมาเขาไม่ค่อยเห็นเจียงชั่นซื้อข้าวของอะไร แต่พอได้ลงมือซื้อเมื่อไหร่เธอก็ช้อปปิ้งเก่งไม่เบาขืนเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ รายจ่ายแต่ละเดือนมีแต่ละดิ่งลง ชะตากรรมเขาจะเหมือนกับลู่หลี่ซานหรือเปล่าที่จะมีเงินไม่พอซื้อบุหรี่สักซอง?ฮั่วจือสิงคิดอยู่ในใจผู้อำนวยการแผนกที่กำลังรายงานการทำงานอยู่เงยหน้าขึ้นมาเห็นสีหน้าของเขาก็ตื่นตระหนก “คะ คุณชาย?”ไม่รู้ว่าเขาควรจะร้องไห้ออกมาดีไหมที่เห็นหน้าของเจ้านายตัวเองแบบนั้น
เจียงชั่นยิ้มแล้วไม่ตอบอะไรโมนาจึงรู้สึกตระหนกขึ้นมาถังอี้หรานเป็นผู้กำกับที่มีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมนี้ ภาพยนตร์ทุกเรื่องที่เขากำกับล้วนแต่ได้รับรางวัลในระดับนานาชาติไม่เพียงแค่มีชื่อเสียงในประเทศ แต่ยังมีชื่อเสียงในวงการภาพยนตร์ระดับนานาชาติอีกด้วยทุกคนในวงการต่างก็กระตือรือร้นที่จะได้เข้าไปอยู่ในทีมของถังอี้หรานแน่นอนว่าโมนาเองก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ถังอี้หรานเป็นผู้หญิงที่มีความสามารถ ทุกคนรู้จักกันดีว่าเธอหยิ่งแค่ไหน แน่นอนว่าแม้แต่ดารายอดนิยมอย่างเธอถังอี้หรานก็ไม่แยแสแต่ตอนนี้...“เมื่อกี้นี้คุณโทรหาถังอี้หรานจริง ๆ เหรอ?”“ใช่ครับ” ผู้จัดการห่าวเหลือบมองเธอ “ผู้อำนวยการถังเพิ่งสร้างภาพยนตร์เรื่องใหม่ คุณเนี่ยซินและคุณเจียงช่วยติดต่อกับเธอแล้ว”สีหน้าของโมนาเปลี่ยนไปด้วยความรู้สึกเสียใจอย่างมาก“ผะ..ผู้ช่วยเจียง” เธอมองเจียงชั่น “ผู้กำกับถังจะมาร่วมรายการนี้ด้วยเหรอ? แต่ฉันได้ยินมาว่าเธอไม่เคยปรากฎตัวในรายการวาไรตี้เลยนะ”เจียงชั่นยิ้มและยังคงไม่พูดอะไร“มันไม่ใช่รายการวาไรตี้ธรรมดา ๆ หรอกเหรอ?!” โมนาโกรธจัดเจียงชั่นเม้มปากแล้วเอ่ยอย่างใจเย็น “ไม่สำคัญหรอกค่ะ เพ
เจียงชั่นที่กำลังดื่มน้ำ เกือบพ่นน้ำออกมาทันทีที่ได้ยินหลังจากวางสายแล้วเธอก็เดินออกไปเห็นได้ชัดว่าดาราสาวเป็นคนที่ใจร้อนมาก หญิงสาวจ้องเจียงชั่นด้วยความไม่พอใจ“นี่น่ะเหรอที่เรียกว่ามืออาชีพ กำลังทำอะไรอยู่?” โมนาตะโกน “หยู่เฟิงมีเดียก็ใหญ่โตแล้วมีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมนี้นะ จะดูแลได้ดีแน่เหรอ? เพิกเฉยต่อศิลปินแบบนี้มันไม่สุภาพเลยนะ!”ผู้จัดการห่าวทนไม่ไหว “คุณโมนามีมารยาทหน่อยได้ไหมครับ?”โมนาเหลือบมองเขา“ผู้ช่วยเจียงเป็นผู้ช่วยอาวุโสของคุณฟู่ เธอรับผิดชอบงานประชาสัมพันธ์และการฝึกอบรมต่าง ๆ ให้กับศิลปินทุกคน แม้แต่เนี่ยซินเองก็ต้องทำตามและให้ความร่วมมือกับผู้ช่วยเจียง”“คุณโมนาคิดว่าตัวเองมีสถานะที่สูงกว่าคุณเนี่ยซินงั้นสินะครับ?”ทุกคำพูดของผู้จัดการห่าวเน้นย้ำ โมนาจึงถอยหลังเล็กน้อย ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจเจียงชั่นยิ้มแล้วหยิบเอกสารจากโต๊ะขึ้นมา ในนั้นมีตารางงานของศิลปินหลายคนของบริษัท“นี่เป็นแผนการเดินทางของคุณค่ะ” เจียงชั่นยื่นเอกสารสำเนาให้กับโมนา “ในนั้นมีข้อควรระวังในการปรากฏตัวในรายการ เดี๋ยวฉันจะช่วยสื่อสารกับผู้จัดการส่วนตัวของคุณล่วงหน้า”“นีมันรายการอะไ
เจียงชั่นขมวดคิ้วพลางมองตามไปยังเสียงที่ได้ยินเธอเห็นหญิงสาวสวยแต่งตัวเรียบหรู สวมแว่นกันแดดอันใหญ่และต่างหูกับสร้อยคอที่ดูเว่อร์เดินนวยนาดเข้ามา“ไม่ได้บอกว่ามีทีมผู้บริหารที่เป็นมืออาชีพหรอกเหรอ?” เธอถอดแว่นนกันแดดอันใหญ่ออกแล้วมองเจียงชั่นด้วยท่าทางที่ไม่เป็นมิตร “แล้วอยู่ไหน?”ผู้จัดการห่าวและเจียงชั่นมองหน้ากันแล้วพยักหน้าเบา ๆเจียงชั่นยื่นมือออกมาแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “คุณโมนาใช่ไหมคะ? ฉันคือ...”โมนาแสดงท่าทีที่หยิ่งออกมา เธอไม่ยอมจับมือกับเจียงชั่นเลยเจียงชั่นจึงหยุดค้างอยู่กลางอากาศแบบนั้น ก่อนจะดึงมือกลับเงียบ ๆผู้จัดการห่าวก้าวไปข้างหน้าแล้วเอ่ย “คุณโมนาครับ นี่คือคุณเจียงชั่นผู้ช่วยอาวุโสที่หยู่เฟิงมีเดียของเรา เธอรับผิดชอบในการจัดหาศิลปิน ถ้าหากว่าคุณมีคำถามอะไร สามารถคุยกับเธอได้เลยโดยตรง”“อ้อ เจียงชั่น!” โมนายิ้มในขณะที่ก้มลงมองเล็บมือที่เพิ่งทำมาของเธอ “มีประสบการณ์หรือเปล่า? ไม่ใช่ใครก็จะดูแลฉันได้นะ”“ไม่ต้องกังวลครับคุณโมนา แม้ว่าผู้ช่วยเจียงจะไม่ได้อยู่ในวงการนี้นาน แต่ความสามารถในการทำงานของเธอโดดเด่นมาก”“ความสามารถในการทำงานหรือยั่วผู้ชายกันแน่ที่โดด
“ไอ้สารเลว! แกมันน่ารังเกียจ”สีหน้าของหยินรั่วหงแดงจัดฮั่วจ่านเฮ่อมองกลับด้วยรอยยิ้ม ภายใต้แววตาเจ้าเล่ห์มีความชั่วร้ายอยู่เต็มเปี่ยมเครื่องบินส่วนตัวของฮั่วจือสิงตกจริง แต่หยินรั่วหงไม่รู้เรื่องนี้ในตอนนั้นเขาพบกับฮั่วจ่านเฮ่อที่งานเลี้ยงหลายแห่ง พวกเขาเป็นเพียงคนที่รู้จักกันเท่านั้นนอกเหนือจากการฝึกฝนด้านการแพทย์และเภสัชกรรมแล้ว ตระกูลหยินในหนานหยางยังเปิดสนามบินพลเรือนอีกด้วย สนามบินขนาดใหญ่หลายแห่งในหนานหยางอยู่ภายใต้การควบคุมของตระกูลหยินดังนั้นฮั่วจ่านเฮ่อจึงมีแผนนี้ขึ้นมา ทว่าเขาซ่อนความจริงนี้จากหยินรั่วหง ก่อนจะใช้อุบายในการใช้ช่างเทคนิคเข้ามาทำอะไรบางอย่างกับเครื่องบินของฮั่วจือสิง...จากนั้นเขาก็แกล้งทำกรรมธรรม์ก้อนใหญ่แล้วบอกหยินรั่วหงว่าเงินหลายล้านจะตกเป็นของเขาหยินรั่วหงไม่คิดมาก่อนว่าตัวเองจะกลายเป็นผู้ร้ายในการก่ออาชญากรรมที่เลวร้ายในครั้งนี้ด้วย“ประธานหยิน ถ้าเรื่องนี้ถูกพูดออกไป จะไม่มีใครฟังคำอธิบายของคุณหรอกนะ เพราะพวกเขาจะคิดว่าคุณเป็นคนที่ร่วมทำร้ายฮั่วจือสิงเหมือนกัน”“เมื่อถึงเวลาชื่อเสียงและความมั่นคงของคุณก็จะถูกทำลายลงไป”หยินรั่วหงหายใจเข
“ใช่”ฮั่วจือสิงขมวดคิ้วด้วยสีหน้าที่จริงจังขึ้นมาเล็กน้อย “ผมไม่ได้บอกเรื่องนี้กับชั่นชั่น ดังนั้นอย่าพูดเรื่องนี้เลยนะ...”“เกิดอะไรขึ้น?” “ช่วงนี้อาการบาดเจ็บที่ขา...มันมีอาการนิดหน่อยน่ะ”เสิ่นเซียวตกใจ รีบพาเขาไปเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดทันที“ไม่มีอะไรหรอก” ฮั่วจือสิงตบไหล่อีกฝ่าย “มันน่าจะกำเริบ ก่อนหน้านี้ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ช่วงนี้อากาศเย็นลงมาก ก็จะเจ็บมากหน่อย”“ผมจำได้ว่าตอนนั้นคุณให้ยาผม ทั้งแบบกินแล้วก็แบบทา มันได้ผลดีมากนะ..วันนี้ก็เลยอยากจะให้สั่งยาเพิ่ม”เสิ่นเซียวลังเลอยู่นาน โดยที่ไม่พูดอะไร“มีอะไรรึเปล่า?”ฮั่วจือสิงนึกสงสัยว่าแพทย์อาจจะไม่สามารถสั่งยาได้ง่ายดายอย่างทีคิด?“จือสิง” เสิ่นเซียวมองเขาแล้วเม้มปากแน่น ในที่สุดก็ตัดสินใจเอ่ยออกมา “ที่จริงผม..ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคือยาอะไร”“ว่าไงนะ?” ฮั่วจือสิงประหลาดใจ “แต่ตอนนั้นคนที่ให้ยากับผมคือคุณนะ”“ใช่ แต่ยานั่นมีคนมอบให้คุณอีกที”ฮั่วจือสิงยิ่งเกิดความสับสนมากขึ้นเสิ่นเซียวถอนหายใจแล้วบอกความจริงทั้งหมด“คุณลองคิดดูสิ ถึงผมจะจบจากโรงเรียนแพทย์มา แต่ตอนนั้นผมไม่ได้เป็นหมอมานานแล้ว ไม่เคยผ่า
“ครับ นายน้อย” ฟางฮั่นพยักหน้าแต่หยินรั่วหงเป็นคนค่อนข้างลึกลับ ไม่ชอบปรากฎตัวต่อสาธารณะแม้แต่ในงานประมูลวันนั้น ก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้เจอหน้าเขา“ถ้านัดหมายในนามของเรา เขาจะต้องรับ” ฮั่วจือสิงคิดเรื่องนี้ไว้แล้ว“แล้ว...ในนามของคุณชายสองล่ะครับ?”“ไม่จำเป็น” ฮั่วจือสิงเม้มปาก “บอกแค่ว่าปู่อยากเจอเขา”ฟางฮั่นสะดุ้งเล็กน้อย “นี่ก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง ถ้ามีปู่ร่วมด้วย หยินรั่วหงจะไม่กล้าทำอะไร”ฮั่วจือสิงยิ้ม ก่อนจะปรับสีหน้าไปเป็นไม่พอใจอีกครั้ง“นายน้อย เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?” ฟางฮั่นรู้สึกตระหนกเล็กน้อยฮั่วจือสิงลดเสียงทันทีและเจียงชั่นก็ยังอยู่ในครัว“เปล่า” เขาขยับตัวเล็กน้อย “ก็ปัญหาเดิม ๆ”“อาการบาดเจ็บเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือเปล่าครับ?” ฟางฮั่นเป็นกังวลหลังจากเหตุการณ์เครื่องบินตก ฮั่วจือสิงได้รับบาดเจ็บหนัก แม้ตรวจแล้วทุกอย่างจะปกติดี แต่ก็มีเพียงอาการบาดเจ็บที่ขาเท่านั้นที่ยังมีผลกระทบที่ต่อเนื่องมาจนถึงตอนนี้“จริง ๆ มันก็ไม่ได้ร้ายแรง” เขายืดตัวขึ้นแล้วเอ่ยอย่างใจเย็น “ช่วงนี้อากาศเริ่มเย็นลง ก็เลยเจ็บมากเป็นบางครั้งแต่ไม่รุนแรงมาก คงจะไม่เป็นอะไรถ้าฉันพอจะปรั
เจียงชั่นหน้าแดงด้วยความเขินอาย ในขณะที่ฮั่วจือสิงกำลังโมโห เธอรีบผละออกจากเขาแล้ววิ่งเข้าไปในบ้านทันทีฟางฮั่นอ้าปากค้าง สายเกินไปแล้วที่เขาจะหนีไปอีกคน...สีหน้าของฮั่วจือสิงมืดดำราวกับมีหมึกดำ ๆ มาป้ายไว้บนหน้าเขาเดินออกไปตรงลานสนามหญ้าอย่างรวดเร็ว พลางมองฟางฮั่นด้วยแววตาที่แข็งกร้าวและเย็นชาฟางฮั่วกระตุกยิ้มแห้ง ๆ หัวใจเต้นแรงจนจะกระเด้งออกมาจากปาก“เกิดอะไรขึ้น?” เขาเอ่ยตอนนี้ฟางฮั่นลืมทุกสิ่งที่เขาต้องการจะพูดแล้ว จึงมองคนตรงหน้าด้วยแววตาว่างเปล่าความเงียบไม่กี่วินาที ทว่าความรู้สึกกลับยาวนานเป็นทศวรรษจากนั้นเจียงชั่นก็ได้ยินเสียงคำรามเข้ม ๆ ของใครบางคนดังขึ้นมา “ฟางฮั่น!”ป้าเฉินที่กำลังเลือกผักอยู่สะดุ้งแล้วรีบวิ่งออกมาจากครัวทันที“เกิดอะไรขึ้นคะ?”เจียงชั่นนั่งหัวเราะอยู่บนโซฟา“เสี่ยวฟางมีเรื่องเหรอคะ?” ป้าเฉินส่ายหน้าแล้วถอนหายใจ ก่อนจะกลับไปที่ห้องครัวพลางพึมพำกับตัวเอง “ตะเบ็งเสียงขนาดนี้ คงต้องทำซุปไว้ให้นายน้อยหน่อยแล้วล่ะนะ...”ที่สนามหญ้าเองเจ้าแมวส้มที่กินอาหารจนหมดก็กำลังเหวี่ยงร่างอ้วน ๆ ของมันไปมา ขณะที่มองชายหนุ่มทั้งสองแล้วร้องเหมียวสองสามครั้ง
จู่ ๆ ไป๋จิ่งหยวนก็รู้สึกว่าหัวใจของตัวเองเต้นผิดจังหวะ แทบจะควบคุมเอาไว้ไม่ได้ใบหน้าที่ชัดเจนของเหยาหว่านยินสะกดเขาราวกับมีเวทย์มนตร์ ดวงตากลมคู่นั้นราวกับโลกที่ลึกลับกำลังดึงดูดให้เขาเข้าไปสำรวจไป๋จิ่งหยวนมองเธออย่างว่างเปล่า บรรยากาศโดยรอบเงียบลง ราวกับว่าทุกอย่างกำลังมุ่งความสนใจไปที่เธอลมเย็น ๆ ที่พัดกระโชกมาทำให้เหยาหว่านยินไอออกมาสองสามครั้งทำให้ไป๋จิ่งหยวนถอดเสื้อคลุมออกมาแล้วสวมให้กับเธอแทน“ไม่เป็นไร...”“ใส่เถอะ” เขาช่วยกระชับเสื้อให้กับเธอ “ไม่สบายเหรอคุณ? หรือว่าเป็นหวัด?”เหยาหว่านยินเม้มปากแล้วมองเขาเงียบ ๆตอนนี้เริ่มมีคนทะยอยออกมาจากประตูงานประมูล“ดูเหมือนงานจะจบแล้วล่ะ” ไป๋จิ่งหยวนเอ่ย “เอาล่ะ..เดี๋ยวผมไปส่ง คุณอยู่ที่ไหน?”เหยาหว่านยินชะงักแล้วส่ายหน้าเล็กน้อยทุกอย่างราวกับภาพฝัน ในตอนที่เธอตื่นเธอก็ต้องกลับสู่โลกของความเป็นจริงความจริงที่ว่าเธอเป็นลูกสาวนิรนามของตระกูลเหยา ไม่รู้ว่าจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ต่อไปอีกนานแค่ไหน ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง...ร่างบางหันหลังกลับแล้วเดินไปอย่างช้า ๆ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงคนของตระดูลเหยากำลังตามหาเธออยู่ไม่ไกล
“คุณชื่อหว่านยินเหรอ?” ไป๋จิ่งหยวนขมวดคิ้วดูสับสน “แล้วนามสกุลอะไร?”เหยาหว่านยินหลับตาลงแล้วนิ่งเงียบไป๋จิ่งหยวนจึงยิ้มกว้าง ไม่ว่าเธอจะนามสกุลอะไรแต่แค่ได้รู้จักชื่อก็ดีมากแล้ว“เอาล่ะ เดี๋ยวผมจะพาไปเดินเล่นในสวน” เขาเอ่ยพลางเดินออกไปจากประตู“นี่คุณ...”แต่ก่อนที่เขาจะออกไปได้ ร่างสูงก็ถูกเหยาหว่านยินรั้งเอาไว้เขาตะลึงก่อนจะหันกลับมามองเขายังไม่ได้ใส่กางเกง!ชายหนุ่มหน้าแดง ในขณะที่มองเหยาหว่านยินด้วยความตระหนก ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ใส่เธอดีเห็นอย่างนั้นเหยาหว่านยินก็รู้สึกขบขัน ใบหน้าที่ซีดเซียวเริ่มมีสีสันขึ้นมาทันทีไป๋จิ่งหยวนวิ่งเข้าไปในห้องแล้วรีบสวมกางเกงทันที ก่อนจะพาเหยาหว่านยินออกไปเดินเล่นในค่ำคืนของฤดใบไม้ร่วงช่างสวยงาม ภายในสวนที่ได้รับแสงแดดอบอุ่นมาตลอดทั้งวัน ยังคงมีกลิ่นอายของความอบอุ่นไปทั่วทั้งบริเวณ รอบข้างมีความเงียบสงบและมีเสียงนกนานาชนิดร้องเป็นระยะ ๆ แสงไฟดวงเล็ก ๆ ที่ตกแต่งสวยงามราวกับมีหิ่งห้อยกำลังบินอยู่เหยาหว่านยินสูดหายใจลึกแล้วหลับตาลงเบา ๆเธอยืนอยู่บนสนามหญ้าและหายใจได้อย่างอิสระ อิสระที่เธอเฝ้าใฝ่หามาทั้งชีวิต“ดีจัง” เธอหั