“อือ…” เธอพยักหน้าออกมา ถึงแม้ว่าจะผิดหวังเล็กน้อยแต่ว่าเรื่องงานสำคัญกว่า “ก็ได้ ถ้าอย่างนั้นมีเวลาคืนนี้ก็เข้ามา”“ตกลง” เขาลูบผมเธอ “ผมจะช่วยคุณถือของกลับไป”“ไม่เป็นไร! เพียงแค่กุ้งล็อบสเตอร์ตัวหนึ่งแล้วก็ผักนิดหน่อย ฉันทำเองได้ อีกอย่างตอนนี้ที่บ้านก็มีแขกอยู่ ฉันยังต้องรอสักหน่อยถึงจะกลับไปได้”“มีแขก?” ฮั่วจือสิงตะลึงไป ปกติแล้วแม่ของเจียงชั่นไปมาหาสู่กับคนอื่นน้อยมาก แล้วทำไมจู่ ๆ ถึงได้มีแขกขึ้นมาได้“อืม เป็นเพื่อนสนิทของแม่ฉันก่อนหน้านั้น” เจียงชั่นยิ้มแล้วพูดออกมา “คุณป้าที่สง่างามมากคนหนึ่ง”ฮั่วจือสิงพยักหน้า และไม่ได้คิดอะไรมากเขาประคองไหล่ของเธอ สองตาจ้องมองไปยังเธอ พูดเสียงกระซิบ “ชั่นชั่น ผมวางแผน…จะให้คุณพบกับแม่ผม”ทันใดนั้นหัวใจของเจียงชั่นเต็มไปด้วยความกังวล“คุณวางใจได้” เขาพูดเสียงอ่อนโยน “ผมจะใช้วิธีการที่เหมาะสมที่สุดจัดการความสัมพันธ์ของพวกคุณ ไม่มีทางสร้างความลำบากให้คุณ”เจียงชั่นรู้สึกแย่ “เป็นฉันที่ทำให้คุณลำบากแล้วใช่ไหม…”“พูดอะไรโง่ ๆ!” เขาลูบไปที่หัวเล็ก ๆ ยิ้มออกมาจาง ๆ “สุดสัปดาห์นี้เป็นวันครบรอบวันแต่งงานของพ่อแม่ไป๋จิ่งหยวน ตระกูลฮั่วจะ
เจียงชั่นตะลึงไป ได้ยินเสียงซุบซิบรอบตัว ก็รู้สึกลำบากใจเป็นอย่างมากหยวนเทาที่พูดอยู่กลอกตาไปมาอย่างเย่อหยิ่ง ผู้ช่วยทั้งหลายช่วยเคลียร์ทางให้กับเขา รีบร้อนเดินไปยังประตูใหญ่ในตอนที่เดินไปนั้นไม่รู้ว่าจงใจหรือไม่ มีผู้ช่วยคนหนึ่งกระแทกเข้ากับเจียงชั่น ร่างกายเล็ก ๆ ของเจียงชั่นสูญเสียการทรงตัวไป อีกเพียงนิดก็เกือบจะล้มลงไป อุปกรณ์ที่ใช้ในการสัมภาษณ์พากันตกลงบนพื้น“ทำอะไรน่ะ!” ตากล้องพูดออกมาอย่างโกรธ ๆเจียงชั่นหยุดเขาเอาไว้ “ช่างเถอะ…”“แล้วพวกชนชั้นสูงในวอลสตรีทหล่ะ! วอลสตรีทก็มีคนแบบนี้เหรอ?”“เอาละ อย่ามาทะเลาะกับพวกเขาที่นี้เลย” เจียงชั่นพูดเสียงต่ำ “งานที่มีคนเยอะแบบนี้ พวกเราไม่มีข้อได้เปรียบเลย หากว่ายังก่อเรื่องต่อไปก็อาจจะวุ่นวายจนกลายเป็นเรื่องตลกขึ้นมาก็ได้ หรือว่านายอยากจะให้บรรณาธิการดุด่าเอา?”“ไม่อย่างนั้นนายก็กลับไปก่อน” เจียงชั่นครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “รออีกเดี๋ยวฉันจะคิดหาวิธี ดูว่าจะสามารถเข้าไปนั่งในงานได้อย่างไร!”ตากล้องถอนหายใจออกมาอย่างแรง ยังมีงานอื่นในสำนักพิมพ์ เขาจึงจำทำได้เพียงตามที่เธอบอก หันหลังแล้วจากไปเจียงชั่นรู้สึกได้ว่าสายตารอบ ๆ เธอพุ่ง
หยวนเทารีบวิ่งเข้ามาด้วยความตื่นตระหนก “ประธานฟู่ นี่…”ใบหน้าของฟู่ซิ่วอวี้ไร้ซึ่งอารมณ์ พูดออกมาอย่างเย็นชา “เมื่อกี้นี้นายเพิ่งจะชนเข้ากับลูกฉัน แม้แต่คำขอโทษก็ไม่มี?”หยวนเทานิ่งอึ้งไป นานกว่าจะถามออกมาอย่างอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ออกมา “นี่…คุณผู้หญิงท่านนี้คือ…”“องค์หญิงที่มีค่าที่สุดในฟู่กรุ๊ปของฉัน!” ฟู่ซิ่วอวี้พูดออกมาอย่างเย็นชา “เข้าใจไหม?”เมื่อพูดจบแล้วเธอไม่แม้แต่จะคิดมองยังเขา แล้วพาตัวเจียงชั่นออกไปจากศูนย์กลางทางการเงินทั้งสองคนมายังร้านกาแฟด้านนอกฟู่ซิ่วอวี้ไม่รู้ว่าเจียงชั่นชอบดื่มอะไร ก็เลยสั่งกาแฟมาทุกชนิดเจียงชั่นจะห้ามไว้ก็ห้ามเอาไว้ไม่ได้ คุณป้าท่านนี้ดูใจดีจนเกินไป ทำให้เธอรู้สึกทำอะไรไม่ถูก“คุณป้า เมื่อกี้นี้ต้องขอบคุณคุณมากจริง ๆ ค่ะ” เธอพูดออกมาอย่างจริงใจ“เรื่องเล็กน้อยนะ มีอะไรให้ต้องขอบคุณกัน!”ฟู่ซิ่วอวี้ยิ้มหรี่ตามองไปยังเธอ ทว่าเด็กคนนี้เหมือนว่าจะมีเรื่องอะไรในใจ “ชั่นชั่น เป็นอะไรไป?”“ไม่มีอะไรค่ะ” เจียงชั่นฝืนยิ้มออกมา ยังไม่รู้ว่าบทสัมภาษณ์นี้จะเขียนอะไรออกมาดีฟู่ซิ่วอวี้คิดอยู่ครู่หนึ่ง เพียงแค่เดาก็เดาได้ “เรื่องงานสัมภาษณ์ยังไม่เสร็จใ
เจียงชั่นอึดอัดขึ้นมา “ก็พอมีค่ะ…”“มีแฟนหนุ่มแล้วเหรอ?”เจียงชั่นพยักหน้า“แล้วเมื่อไหร่จะเลิกกัน?”เจียงชั่น “...”ฟู่ซิ่วอวี้อึ้งไปพระเจ้า ทำไมถึงได้เผลอพูดความในใจออกมาได้!“อ่อ ไม่ใช่!” เธอรีบเปลี่ยนคำพูดแล้วยิ้มออกมา “เอ่อ ความหมายของป้าก็คือ ตอนนี้เธอยังอายุน้อยแล้วก็งดงามมาก โอกาสเลือกยังมีอีกมาก ไม่จำเป็นต้องแขวนตัวเองเอาไว้บนต้นไม้ต้นเดียว!”เจียงชั่นเบิกตากว้างมองยังเธอพระเจ้า ทำไมถึงได้พูดผิดออกมาอีกแล้ว!ฟู่ซิ่วอวี้กัดริมฝีปาก วันนี้ดูจะผิดไปจากปกติ เมื่อพบกับองค์หญิงน้อยก็ถึงขั้นพูดออกมาไม่เป็นแล้ว!“ชั่นชั่น…” เธอหมดแรงที่จะอธิบายออกมา “อันที่จริงแล้วความหมายของป้าก็คือ…”“คุณป้าไม่จำเป็นต้องอธิบายแล้ว ฉันเข้าใจ” เจียงชั่นยิ้มออกมาอย่างสุภาพ “แต่ว่าฉันไม่มีทางที่จะเลิกกับแฟนฉัน ฉันรักเขามาก ในใจของฉันเขาก็คือสามีของฉัน”“ฉันจะอยู่กับเขาไปตลอดชีวิต!”ฟู่ซิ่วอวี้ชะงักไป นิ่งเงียบไม่พูดอะไรออกมาเธอผิดหวังมากจริง ๆ นี่ไม่ใช่เท่ากับบอกเธอว่า ลูกชายของคุณไม่มีหวังแล้วอย่างนั้นเหรอ?เอ่อ ตลอดชีวิต…ตรงจุดนี้ถือว่าได้รับสืบทอดมาจากหยินเหวินซีจริง ๆ เป็นคนที่ด
รถของฮั่วจือสิงค่อย ๆ ขับเข้าสู่ถนนของตระกูลไป๋เขากุมมือของเจียงชั่นมาตลอดทาง ยิ้มจาง ๆ แล้วพูดกับเธอ “ไม่ต้องเป็นกังวลไป คนของตระกูลไป๋เข้าหาได้ง่าย คุณดูไป๋จิ่งหยวนก็รู้แล้ว”“พ่อแม่ของเขาก็เป็นคนอบอุ่นและใจดี เป็นคนที่มีอุปนิสัยดี”เจียงชั่นประหลาดใจ “ถ้าอย่างนั้นพวกเขาจะปรับตัวให้เข้ากับแผนการตลาดยังไงกัน?”ฮั่วจือสิงลูบผมของเธอ “ใช้ความไม่เปลี่ยนแปลงรับมือกับการเปลี่ยนแปลง นี่เป็นวิธีการอยู่รอดที่ดีที่สุด”“เพราะฉะนั้นอีกเดี๋ยวฉันพบกับแม่ของคุณ ก็ใช้การไม่เปลี่ยนแปลงรับมือกับทุกความเปลี่ยนแปลงไปยังงั้นเหรอ?” เจียงชั่นยิ้มออกมา “รักษาตัวตนเอาไว้ ใช้ความซื่อสัตย์ที่สุดไปเผชิญหน้ากับเธอ ฉันคิดว่าเธอก็คงจะยอมรับฉันได้”“แน่นอน”ฮั่วจือสิงโน้มกายลง แล้วลูบไปที่ปลายจมูกของเธอ กลิ่นหอมบนร่างกายของเธอลอยมาทางจมูกเขา ทันใดนั้นเขาก็ฟุ้งซ่านไปชั่วครู่ มือใหญ่แตะไปที่เอวของเธอ ก่อนจะเริ่มรู้สึกกระสับกระส่ายขึ้นมา…“อย่าทำแบบนี้…” เจียงชั่นผลักเขาเบา ๆฮั่วจือสิงยิ้มออกมาอย่างซุกซน ริมฝีปากของเขานัวเนียอยู่ที่ริมฝีปากเธอราวกับแมลงปอฟางฮั่นที่อยู่ด้านหน้าเมื่อได้ยินเสียงความเคลื่อ
ฟู่ซิ่วอวี้ดีใจเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อครู่นี้เธอพบเข้ากับฮั่วจือสิงที่เตรียมจะไปเปลี่ยนชุดตรงระเบียง เจ้าลูกชายสารเลวนี่กลับบอกเธอว่าคืนนี้เขาพาคุณเจียงอะไรนั่นมาด้วย…ฟู่ซิ่วอวี้อีกเพียงนิดก็เกือบจะโมโหจนระเบิดออกมา แล้วพูดกับเขาออกมาอย่างรุนแรง “ฮั่วจือสิง ถ้าแกกล้าพาผู้หญิงคนนั้นเข้าบ้านฉันมา ต่อไปมีเธอก็ไม่มีฉัน มีฉันต้องไม่มีเธอ!”ฮั่วจือสิงยิ้มออกมาอย่างสบาย ๆ “แม่ เธอจะเข้าก็เข้าประตูตระกูลฮั่ว ไม่เกี่ยวกับตระกูลฟู่”ฟู่ซิ่วอวี้ถูกเขาสวนจนสะอึกเข้า จ้องมองเขากัพลางกัดฟันกรอดลูกอกตัญญูนี่!เธอโมโหเสียจนเทแชมเปญในแก้วทิ้งแล้วเดินมาทางนี้ ไม่คิดเลยว่าจะพบกับเจียงชั่นเข้า!คราวนี้ดีแล้ว องค์หญิงน้อยมาแล้ว แม้แต่สวรรค์เองก็ช่วยเธอแล้วจริง ๆ!ฟู่ซิ่วอวี้จับมือของเจียงชั่นเอาไว้ เผยรอยยิ้มของป้าที่รักออกมา ก่อนจะจ้องมองขึ้น ๆ ลง ๆ “ชั่นชั่น วันนี้ดูดีมากเลย! ชุดนี้เองก็สวยงามเหมาะกับเธอมาก!”เจียงชั่นยิ้มออกมาอย่างเขินอาย “แฟนของฉันเป็นคนเลือกให้ค่ะ”ทันใดนั้นฟู่ซิ่วอวี้ก็หน้าตึงขึ้นมา แล้วนึกเหน็บแนมแฟนหนุ่มนั่นว่าเลือกชุดไม่เข้าท่า ตาช่างไม่มีแวว ไร้รสนิยม!ทว่าไม่นานเธอก็
เหยาม่านหนิงขึ้นเสียงสูง “นี่เป็นข้อตกลงใจโดยไม่ประกาศที่ผู้อาวุโสฮั่วและเหยาสองตระกูลตกลงกันไว้!”เจียงชั่นยิ้มออกมาจาง ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “คุณเหยา ฉันมีประสบการณ์มาน้อย เหมือนคำว่า ‘ข้อตกลงใจโดยที่ไม่ประกาศ’ เรื่องนี้ฉันไม่เข้าใจเป็นอย่างมาก”“ฉันคิดว่าในเมื่อผู้ใหญ่ของทั้งสองตระกูลต่างก็รู้จักกัน เข้าใจซึ่งกันและกัน จือสิงเองก็ไม่คัดค้านแล้วละก็ แล้วทำไมถึง ‘ไม่ประกาศ’? ในเมื่อไม่ ‘ประกาศ’ ก็หมายความว่าทั้งสองตระกูลต่างก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับการแต่งงานนี้”“หรือว่าหมายความว่า” เจียงชั่นสบตาเธอ พูดออกมาทีละคำ “จือสิงไม่ได้ยอมรับเรื่องนี้เลย!”“เธอ…”ใบหน้าของเหยาม่านหนิงเดี๋ยวแดงเดี๋ยวขาวเจียงชั่นยกมือขึ้นลูบผม แหวนมรกตขนาดใหญ่เผยให้เห็นถึงความล้ำค่าและเป็นที่โปรดปราน ทิ่มแทงเข้าไปในดวงตาของเหยาม่านหนิงเธอเกลียดเป็นอย่างมาก แต่เธอรู้ดีว่าไม่ว่าจะโกรธเกลียดแค่ไหน ใบหน้าก็ไม่อาจแสดงออกมาได้เพราะที่นี่อย่างไรแล้วก็เป็นตระกูลไป๋ หากว่ามาก่อเรื่องกับเจียงชั่นที่นี้แล้ว ก็จะทำร้ายภาพลักษณ์ของตระกูลเหยาเข้าอีกทั้งฮั่วจือสิงเองก็อยู่ที่นี่ด้วย เธอไม่อาจจะทำให้เขารู้สึก
เจียงชั่นและเหยาม่านหนิงยืนเผชิญหน้ากันเจียงชั่นมองไปยังมุมปากของเหยาม่านหนิงที่ยกขึ้น มือเล็ก ๆ ที่อยู่ด้านข้างกำแน่นเป็นหมัด“คุณเจียง ความหมายของฉัน…หรือว่าคุณจะไม่เข้าใจเหรอ?”เหยาม่านหนิงยิ้มเย็นออกมา “ฉันจะไม่ขัดขวางคุณกับฮั่วจือสิงไม่ให้คบกัน ต่อไปถ้าหากว่าฉันแต่งงานกับเขา ฉันก็จะจัดการทุกอย่างให้คุณเป็นอย่างดี และยิ่งไม่มีทางแย่งชิงหึงหวงอะไรกับคุณ!”“อันที่จริงแล้วในตระกูลแบบพวกเรามีเรื่องแบบนี้อยู่มากมาย ฉันจะค่อย ๆ ทำความคุ้นเคยกับมัน เชื่อว่าคุณเจียงเองก็คงจะค่อย ๆ คุ้นชินเช่นกัน!”เจียงชั่นกัดริมฝีปาก สูดลมหายใจเข้าลึกอีกเพียงนิดเธอก็เกือบจะพูด “บ้านเล็ก” สองคำออกมารอยยิ้มของเหยาม่านหนิงซ่อนมีดเอาไว้ จ้องมองเธออย่างเงียบ ๆ ผู้หญิงคนนี้ประเมินตัวเองสูงจนเกินไป ครั้งที่แล้วกลับใช้ความสัมพันธ์จากการแลกเปลี่ยนแหวนมาทำให้เธอเกิดความอับอาย ครั้งนี้เธอจะต้องไม่ยอมไว้หน้าอย่างแน่นอน!“ใช่แล้ว ม่านหนิงพูดถูกแล้ว! ก็มีเสียงดังลอยมาดวงตาของเหยาม่านหนิงเป็นประกาย แล้วยิ้มออกมาทันที เสียงอ่อนหวานร้องตะโกนดังขึ้น “คุณป้า!” อย่างไรก็ตามในตอนที่คิดจะวิ่งไปนั้น ฟู่ซิ่วอวี้กลับ
เจียงชั่นยิ้มแล้วไม่ตอบอะไรโมนาจึงรู้สึกตระหนกขึ้นมาถังอี้หรานเป็นผู้กำกับที่มีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมนี้ ภาพยนตร์ทุกเรื่องที่เขากำกับล้วนแต่ได้รับรางวัลในระดับนานาชาติไม่เพียงแค่มีชื่อเสียงในประเทศ แต่ยังมีชื่อเสียงในวงการภาพยนตร์ระดับนานาชาติอีกด้วยทุกคนในวงการต่างก็กระตือรือร้นที่จะได้เข้าไปอยู่ในทีมของถังอี้หรานแน่นอนว่าโมนาเองก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ถังอี้หรานเป็นผู้หญิงที่มีความสามารถ ทุกคนรู้จักกันดีว่าเธอหยิ่งแค่ไหน แน่นอนว่าแม้แต่ดารายอดนิยมอย่างเธอถังอี้หรานก็ไม่แยแสแต่ตอนนี้...“เมื่อกี้นี้คุณโทรหาถังอี้หรานจริง ๆ เหรอ?”“ใช่ครับ” ผู้จัดการห่าวเหลือบมองเธอ “ผู้อำนวยการถังเพิ่งสร้างภาพยนตร์เรื่องใหม่ คุณเนี่ยซินและคุณเจียงช่วยติดต่อกับเธอแล้ว”สีหน้าของโมนาเปลี่ยนไปด้วยความรู้สึกเสียใจอย่างมาก“ผะ..ผู้ช่วยเจียง” เธอมองเจียงชั่น “ผู้กำกับถังจะมาร่วมรายการนี้ด้วยเหรอ? แต่ฉันได้ยินมาว่าเธอไม่เคยปรากฎตัวในรายการวาไรตี้เลยนะ”เจียงชั่นยิ้มและยังคงไม่พูดอะไร“มันไม่ใช่รายการวาไรตี้ธรรมดา ๆ หรอกเหรอ?!” โมนาโกรธจัดเจียงชั่นเม้มปากแล้วเอ่ยอย่างใจเย็น “ไม่สำคัญหรอกค่ะ เพ
เจียงชั่นที่กำลังดื่มน้ำ เกือบพ่นน้ำออกมาทันทีที่ได้ยินหลังจากวางสายแล้วเธอก็เดินออกไปเห็นได้ชัดว่าดาราสาวเป็นคนที่ใจร้อนมาก หญิงสาวจ้องเจียงชั่นด้วยความไม่พอใจ“นี่น่ะเหรอที่เรียกว่ามืออาชีพ กำลังทำอะไรอยู่?” โมนาตะโกน “หยู่เฟิงมีเดียก็ใหญ่โตแล้วมีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมนี้นะ จะดูแลได้ดีแน่เหรอ? เพิกเฉยต่อศิลปินแบบนี้มันไม่สุภาพเลยนะ!”ผู้จัดการห่าวทนไม่ไหว “คุณโมนามีมารยาทหน่อยได้ไหมครับ?”โมนาเหลือบมองเขา“ผู้ช่วยเจียงเป็นผู้ช่วยอาวุโสของคุณฟู่ เธอรับผิดชอบงานประชาสัมพันธ์และการฝึกอบรมต่าง ๆ ให้กับศิลปินทุกคน แม้แต่เนี่ยซินเองก็ต้องทำตามและให้ความร่วมมือกับผู้ช่วยเจียง”“คุณโมนาคิดว่าตัวเองมีสถานะที่สูงกว่าคุณเนี่ยซินงั้นสินะครับ?”ทุกคำพูดของผู้จัดการห่าวเน้นย้ำ โมนาจึงถอยหลังเล็กน้อย ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจเจียงชั่นยิ้มแล้วหยิบเอกสารจากโต๊ะขึ้นมา ในนั้นมีตารางงานของศิลปินหลายคนของบริษัท“นี่เป็นแผนการเดินทางของคุณค่ะ” เจียงชั่นยื่นเอกสารสำเนาให้กับโมนา “ในนั้นมีข้อควรระวังในการปรากฏตัวในรายการ เดี๋ยวฉันจะช่วยสื่อสารกับผู้จัดการส่วนตัวของคุณล่วงหน้า”“นีมันรายการอะไ
เจียงชั่นขมวดคิ้วพลางมองตามไปยังเสียงที่ได้ยินเธอเห็นหญิงสาวสวยแต่งตัวเรียบหรู สวมแว่นกันแดดอันใหญ่และต่างหูกับสร้อยคอที่ดูเว่อร์เดินนวยนาดเข้ามา“ไม่ได้บอกว่ามีทีมผู้บริหารที่เป็นมืออาชีพหรอกเหรอ?” เธอถอดแว่นนกันแดดอันใหญ่ออกแล้วมองเจียงชั่นด้วยท่าทางที่ไม่เป็นมิตร “แล้วอยู่ไหน?”ผู้จัดการห่าวและเจียงชั่นมองหน้ากันแล้วพยักหน้าเบา ๆเจียงชั่นยื่นมือออกมาแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “คุณโมนาใช่ไหมคะ? ฉันคือ...”โมนาแสดงท่าทีที่หยิ่งออกมา เธอไม่ยอมจับมือกับเจียงชั่นเลยเจียงชั่นจึงหยุดค้างอยู่กลางอากาศแบบนั้น ก่อนจะดึงมือกลับเงียบ ๆผู้จัดการห่าวก้าวไปข้างหน้าแล้วเอ่ย “คุณโมนาครับ นี่คือคุณเจียงชั่นผู้ช่วยอาวุโสที่หยู่เฟิงมีเดียของเรา เธอรับผิดชอบในการจัดหาศิลปิน ถ้าหากว่าคุณมีคำถามอะไร สามารถคุยกับเธอได้เลยโดยตรง”“อ้อ เจียงชั่น!” โมนายิ้มในขณะที่ก้มลงมองเล็บมือที่เพิ่งทำมาของเธอ “มีประสบการณ์หรือเปล่า? ไม่ใช่ใครก็จะดูแลฉันได้นะ”“ไม่ต้องกังวลครับคุณโมนา แม้ว่าผู้ช่วยเจียงจะไม่ได้อยู่ในวงการนี้นาน แต่ความสามารถในการทำงานของเธอโดดเด่นมาก”“ความสามารถในการทำงานหรือยั่วผู้ชายกันแน่ที่โดด
“ไอ้สารเลว! แกมันน่ารังเกียจ”สีหน้าของหยินรั่วหงแดงจัดฮั่วจ่านเฮ่อมองกลับด้วยรอยยิ้ม ภายใต้แววตาเจ้าเล่ห์มีความชั่วร้ายอยู่เต็มเปี่ยมเครื่องบินส่วนตัวของฮั่วจือสิงตกจริง แต่หยินรั่วหงไม่รู้เรื่องนี้ในตอนนั้นเขาพบกับฮั่วจ่านเฮ่อที่งานเลี้ยงหลายแห่ง พวกเขาเป็นเพียงคนที่รู้จักกันเท่านั้นนอกเหนือจากการฝึกฝนด้านการแพทย์และเภสัชกรรมแล้ว ตระกูลหยินในหนานหยางยังเปิดสนามบินพลเรือนอีกด้วย สนามบินขนาดใหญ่หลายแห่งในหนานหยางอยู่ภายใต้การควบคุมของตระกูลหยินดังนั้นฮั่วจ่านเฮ่อจึงมีแผนนี้ขึ้นมา ทว่าเขาซ่อนความจริงนี้จากหยินรั่วหง ก่อนจะใช้อุบายในการใช้ช่างเทคนิคเข้ามาทำอะไรบางอย่างกับเครื่องบินของฮั่วจือสิง...จากนั้นเขาก็แกล้งทำกรรมธรรม์ก้อนใหญ่แล้วบอกหยินรั่วหงว่าเงินหลายล้านจะตกเป็นของเขาหยินรั่วหงไม่คิดมาก่อนว่าตัวเองจะกลายเป็นผู้ร้ายในการก่ออาชญากรรมที่เลวร้ายในครั้งนี้ด้วย“ประธานหยิน ถ้าเรื่องนี้ถูกพูดออกไป จะไม่มีใครฟังคำอธิบายของคุณหรอกนะ เพราะพวกเขาจะคิดว่าคุณเป็นคนที่ร่วมทำร้ายฮั่วจือสิงเหมือนกัน”“เมื่อถึงเวลาชื่อเสียงและความมั่นคงของคุณก็จะถูกทำลายลงไป”หยินรั่วหงหายใจเข
“ใช่”ฮั่วจือสิงขมวดคิ้วด้วยสีหน้าที่จริงจังขึ้นมาเล็กน้อย “ผมไม่ได้บอกเรื่องนี้กับชั่นชั่น ดังนั้นอย่าพูดเรื่องนี้เลยนะ...”“เกิดอะไรขึ้น?” “ช่วงนี้อาการบาดเจ็บที่ขา...มันมีอาการนิดหน่อยน่ะ”เสิ่นเซียวตกใจ รีบพาเขาไปเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดทันที“ไม่มีอะไรหรอก” ฮั่วจือสิงตบไหล่อีกฝ่าย “มันน่าจะกำเริบ ก่อนหน้านี้ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ช่วงนี้อากาศเย็นลงมาก ก็จะเจ็บมากหน่อย”“ผมจำได้ว่าตอนนั้นคุณให้ยาผม ทั้งแบบกินแล้วก็แบบทา มันได้ผลดีมากนะ..วันนี้ก็เลยอยากจะให้สั่งยาเพิ่ม”เสิ่นเซียวลังเลอยู่นาน โดยที่ไม่พูดอะไร“มีอะไรรึเปล่า?”ฮั่วจือสิงนึกสงสัยว่าแพทย์อาจจะไม่สามารถสั่งยาได้ง่ายดายอย่างทีคิด?“จือสิง” เสิ่นเซียวมองเขาแล้วเม้มปากแน่น ในที่สุดก็ตัดสินใจเอ่ยออกมา “ที่จริงผม..ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคือยาอะไร”“ว่าไงนะ?” ฮั่วจือสิงประหลาดใจ “แต่ตอนนั้นคนที่ให้ยากับผมคือคุณนะ”“ใช่ แต่ยานั่นมีคนมอบให้คุณอีกที”ฮั่วจือสิงยิ่งเกิดความสับสนมากขึ้นเสิ่นเซียวถอนหายใจแล้วบอกความจริงทั้งหมด“คุณลองคิดดูสิ ถึงผมจะจบจากโรงเรียนแพทย์มา แต่ตอนนั้นผมไม่ได้เป็นหมอมานานแล้ว ไม่เคยผ่า
“ครับ นายน้อย” ฟางฮั่นพยักหน้าแต่หยินรั่วหงเป็นคนค่อนข้างลึกลับ ไม่ชอบปรากฎตัวต่อสาธารณะแม้แต่ในงานประมูลวันนั้น ก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้เจอหน้าเขา“ถ้านัดหมายในนามของเรา เขาจะต้องรับ” ฮั่วจือสิงคิดเรื่องนี้ไว้แล้ว“แล้ว...ในนามของคุณชายสองล่ะครับ?”“ไม่จำเป็น” ฮั่วจือสิงเม้มปาก “บอกแค่ว่าปู่อยากเจอเขา”ฟางฮั่นสะดุ้งเล็กน้อย “นี่ก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง ถ้ามีปู่ร่วมด้วย หยินรั่วหงจะไม่กล้าทำอะไร”ฮั่วจือสิงยิ้ม ก่อนจะปรับสีหน้าไปเป็นไม่พอใจอีกครั้ง“นายน้อย เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?” ฟางฮั่นรู้สึกตระหนกเล็กน้อยฮั่วจือสิงลดเสียงทันทีและเจียงชั่นก็ยังอยู่ในครัว“เปล่า” เขาขยับตัวเล็กน้อย “ก็ปัญหาเดิม ๆ”“อาการบาดเจ็บเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือเปล่าครับ?” ฟางฮั่นเป็นกังวลหลังจากเหตุการณ์เครื่องบินตก ฮั่วจือสิงได้รับบาดเจ็บหนัก แม้ตรวจแล้วทุกอย่างจะปกติดี แต่ก็มีเพียงอาการบาดเจ็บที่ขาเท่านั้นที่ยังมีผลกระทบที่ต่อเนื่องมาจนถึงตอนนี้“จริง ๆ มันก็ไม่ได้ร้ายแรง” เขายืดตัวขึ้นแล้วเอ่ยอย่างใจเย็น “ช่วงนี้อากาศเริ่มเย็นลง ก็เลยเจ็บมากเป็นบางครั้งแต่ไม่รุนแรงมาก คงจะไม่เป็นอะไรถ้าฉันพอจะปรั
เจียงชั่นหน้าแดงด้วยความเขินอาย ในขณะที่ฮั่วจือสิงกำลังโมโห เธอรีบผละออกจากเขาแล้ววิ่งเข้าไปในบ้านทันทีฟางฮั่นอ้าปากค้าง สายเกินไปแล้วที่เขาจะหนีไปอีกคน...สีหน้าของฮั่วจือสิงมืดดำราวกับมีหมึกดำ ๆ มาป้ายไว้บนหน้าเขาเดินออกไปตรงลานสนามหญ้าอย่างรวดเร็ว พลางมองฟางฮั่นด้วยแววตาที่แข็งกร้าวและเย็นชาฟางฮั่วกระตุกยิ้มแห้ง ๆ หัวใจเต้นแรงจนจะกระเด้งออกมาจากปาก“เกิดอะไรขึ้น?” เขาเอ่ยตอนนี้ฟางฮั่นลืมทุกสิ่งที่เขาต้องการจะพูดแล้ว จึงมองคนตรงหน้าด้วยแววตาว่างเปล่าความเงียบไม่กี่วินาที ทว่าความรู้สึกกลับยาวนานเป็นทศวรรษจากนั้นเจียงชั่นก็ได้ยินเสียงคำรามเข้ม ๆ ของใครบางคนดังขึ้นมา “ฟางฮั่น!”ป้าเฉินที่กำลังเลือกผักอยู่สะดุ้งแล้วรีบวิ่งออกมาจากครัวทันที“เกิดอะไรขึ้นคะ?”เจียงชั่นนั่งหัวเราะอยู่บนโซฟา“เสี่ยวฟางมีเรื่องเหรอคะ?” ป้าเฉินส่ายหน้าแล้วถอนหายใจ ก่อนจะกลับไปที่ห้องครัวพลางพึมพำกับตัวเอง “ตะเบ็งเสียงขนาดนี้ คงต้องทำซุปไว้ให้นายน้อยหน่อยแล้วล่ะนะ...”ที่สนามหญ้าเองเจ้าแมวส้มที่กินอาหารจนหมดก็กำลังเหวี่ยงร่างอ้วน ๆ ของมันไปมา ขณะที่มองชายหนุ่มทั้งสองแล้วร้องเหมียวสองสามครั้ง
จู่ ๆ ไป๋จิ่งหยวนก็รู้สึกว่าหัวใจของตัวเองเต้นผิดจังหวะ แทบจะควบคุมเอาไว้ไม่ได้ใบหน้าที่ชัดเจนของเหยาหว่านยินสะกดเขาราวกับมีเวทย์มนตร์ ดวงตากลมคู่นั้นราวกับโลกที่ลึกลับกำลังดึงดูดให้เขาเข้าไปสำรวจไป๋จิ่งหยวนมองเธออย่างว่างเปล่า บรรยากาศโดยรอบเงียบลง ราวกับว่าทุกอย่างกำลังมุ่งความสนใจไปที่เธอลมเย็น ๆ ที่พัดกระโชกมาทำให้เหยาหว่านยินไอออกมาสองสามครั้งทำให้ไป๋จิ่งหยวนถอดเสื้อคลุมออกมาแล้วสวมให้กับเธอแทน“ไม่เป็นไร...”“ใส่เถอะ” เขาช่วยกระชับเสื้อให้กับเธอ “ไม่สบายเหรอคุณ? หรือว่าเป็นหวัด?”เหยาหว่านยินเม้มปากแล้วมองเขาเงียบ ๆตอนนี้เริ่มมีคนทะยอยออกมาจากประตูงานประมูล“ดูเหมือนงานจะจบแล้วล่ะ” ไป๋จิ่งหยวนเอ่ย “เอาล่ะ..เดี๋ยวผมไปส่ง คุณอยู่ที่ไหน?”เหยาหว่านยินชะงักแล้วส่ายหน้าเล็กน้อยทุกอย่างราวกับภาพฝัน ในตอนที่เธอตื่นเธอก็ต้องกลับสู่โลกของความเป็นจริงความจริงที่ว่าเธอเป็นลูกสาวนิรนามของตระกูลเหยา ไม่รู้ว่าจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ต่อไปอีกนานแค่ไหน ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง...ร่างบางหันหลังกลับแล้วเดินไปอย่างช้า ๆ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงคนของตระดูลเหยากำลังตามหาเธออยู่ไม่ไกล
“คุณชื่อหว่านยินเหรอ?” ไป๋จิ่งหยวนขมวดคิ้วดูสับสน “แล้วนามสกุลอะไร?”เหยาหว่านยินหลับตาลงแล้วนิ่งเงียบไป๋จิ่งหยวนจึงยิ้มกว้าง ไม่ว่าเธอจะนามสกุลอะไรแต่แค่ได้รู้จักชื่อก็ดีมากแล้ว“เอาล่ะ เดี๋ยวผมจะพาไปเดินเล่นในสวน” เขาเอ่ยพลางเดินออกไปจากประตู“นี่คุณ...”แต่ก่อนที่เขาจะออกไปได้ ร่างสูงก็ถูกเหยาหว่านยินรั้งเอาไว้เขาตะลึงก่อนจะหันกลับมามองเขายังไม่ได้ใส่กางเกง!ชายหนุ่มหน้าแดง ในขณะที่มองเหยาหว่านยินด้วยความตระหนก ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ใส่เธอดีเห็นอย่างนั้นเหยาหว่านยินก็รู้สึกขบขัน ใบหน้าที่ซีดเซียวเริ่มมีสีสันขึ้นมาทันทีไป๋จิ่งหยวนวิ่งเข้าไปในห้องแล้วรีบสวมกางเกงทันที ก่อนจะพาเหยาหว่านยินออกไปเดินเล่นในค่ำคืนของฤดใบไม้ร่วงช่างสวยงาม ภายในสวนที่ได้รับแสงแดดอบอุ่นมาตลอดทั้งวัน ยังคงมีกลิ่นอายของความอบอุ่นไปทั่วทั้งบริเวณ รอบข้างมีความเงียบสงบและมีเสียงนกนานาชนิดร้องเป็นระยะ ๆ แสงไฟดวงเล็ก ๆ ที่ตกแต่งสวยงามราวกับมีหิ่งห้อยกำลังบินอยู่เหยาหว่านยินสูดหายใจลึกแล้วหลับตาลงเบา ๆเธอยืนอยู่บนสนามหญ้าและหายใจได้อย่างอิสระ อิสระที่เธอเฝ้าใฝ่หามาทั้งชีวิต“ดีจัง” เธอหั