เจียงชั่นทำตามอย่างว่าง่ายก่อนจะรู้สึกได้ว่าเขากำลังพลิกมือเล็กของเธอขึ้นมา พร้อมกับมีวัตถุบางอย่างวางลงในมือเธอเมื่อลืมตาก็เห็นสร้อยคอเส้นหนึ่งวางอยู่บนมือพลอยแซฟไฟร์จากแคว้นแคชเมียร์ที่สลักเป็นรูปดวงดาวและดวงจันทร์ร้อยอยู่บนสายโซ่ทองคำขาวเส้นเล็ก“ชั่นชั่น” เขาเอ่ยอย่างอ่อนโยน “ผมอยากจะมอบดวงดาวแล้วก็ดวงจันทร์กับคุณ”“ส่วนคุณ..คุณจะแต่งงานกับผมไหม? เราจะไม่มีวันแยกจากกันใช่รึเปล่า?”เจียงชั่นเม้มปากก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมา ฮั่วจือสิงจึงดึงคนตัวเล็กเข้ามากอดแล้วลูบหัวเธอเบา ๆ“คุณไม่จำเป็นต้องตอบผมตอนนี้” เขาเอ่ยอย่างใจเย็น “ผมจะให้เวลาคุณตัดสินใจ จำเอาไว้ว่าผมจะรอคุณอยู่ตรงนี้เสมอ”เจียงชั่นพยักหน้าแล้วซบลงที่อกแกร่งพลางร้องไห้ออกมาอย่างหนัก“ฮั่วจือสิง”“หืม?”“ที่จริงตอนนี้ฉันสามารถให้คำตอบกับคุณได้..”จู่ ๆ หัวใจของเขาก็เต้นรัว แล้วตั้งใจฟังอย่างเงียบ ๆ“ที่จริงฉันอยากจะใช้เวลาสักพักเพื่อเตรียมตัวอีกหน่อย”เธอมองเขาแล้วยิ้มอย่างจริงใจ“เวลาที่ฉันออกไปเจอโลกภายนอก ในอนาคตถ้าแต่งงานกับคุณ ฉันก็จะยืนอยู่ข้าง ๆ คุณเสมอ แล้วก็จะเป็นคนที่ดีขึ้นให้ได้เหมือนคุณ”“ดังนั้น.
ลุงเฉินเองก็ซื่อสัตย์ต่อเธอมาก เขาจึงไม่มีอะไรที่ต้องปิดบัง แต่ก็ไม่ได้พูดมากอะไรเพียงแต่เล่าสถานการณ์ปัจจุบันของฮั่วจ่านเฮ่อและฮั่วจือเหยียนให้ฟังเท่านั้นฟู่ซิ่วหยูนึกถึงว่าฮั่วจือสิงจะต้องอยู่นอกคฤหาสน์ตระกูลฮั่ว แทนที่จะเข้าไปในสิงหยวนตามที่ตั้งใจไว้ เธอตัดสินใจที่จะไปจัดการกับฮั่วจือเหยียนก่อน“ลุงเฉิน” เธอหัวเราะ “พอดีว่าฉันมามีของขวัญมาให้นายน้อยคนโต ลุงเฉินช่วยพาฉันไปหาเขาทีนะ”.....ในตอนนี้ที่เหยียนหยวน ฮั่วจือเหยียนกำลังนั่งอยู่บนโซฟาแล้วก่นด่าฮั่วจือสิงที่ชายหนุ่มไล่พ่อของเขาออกมาเจียงเหยาหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาจากพื้นทีละชิ้นแล้วส่องกระจก ก็พบกับร่องรอยบาดเจ็บทั่วทั้งร่างกาย เธอรู้สึกโกรธและเจ็บปวดในเวลาเดียวกันเธอรู้ดีว่าในสายตาของฮั่วจือเหยียนเธอสามารถเป็นคนที่เข้าออกที่นี่เมื่อไหร่ก็ได้ แต่เธอก็ไม่กล้าทำให้เขาขุ่นเคืองใจอย่างแรกคือเธอเกรงกลัวต่ออำนาจของตระกูลฮั่ว อีกอย่างคือเธอใฝ่ฝันที่จะเข้ามาเป็นสมาชิกของตระกูลฮั่วได้อย่างสง่าผ่าเผย แม้ว่าฮั่วจือเหยียนจะไม่ใช่สามีที่ดีสำหรับเธอ แต่ตราบใดที่เธอมีฐานะทางสังคมเคียงข้างกับเขา เท่านั้นเธอก็รู้สึกพอใจแล้วเธอจึงเดินเข
“ดี...”ฮั่วจือเหยียนลังเลเล็กน้อยชื่อเสียงของฮั่วจือสิงจะต้องป่นปี้ ผู้อาวุโสประจำตระกูลฮั่วเองก็ต้องอารมณ์เสียมากอย่างแน่นอน“คุณชาย” เจียงเหยาเอ่ย “ผู้อาวุโสอาจจะบอกว่าเขาสามารถควบคุมทุกอย่างของตระกูลฮั่วได้ แต่สำหรับความเห็นสาธารณะเขาจะควบคุมได้ยังไงกันคะ ความเห็นบนอินเทอร์เน็ตพวกนั้นเขาควบคุมไม่ได้แน่นอน”“ส่วนเจียงชั่น ฉันรู้นิสัยของเธอดี เธอเป็นคนที่รักศักดิ์ศรีของตัวเองมาก” เจียงเหยาคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ “ถ้ามีคนพูดถึงแบบนั้นเธอทนไม่ได้แน่”“เอาล่ะ” ฮั่วจือเหยียนคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยกยิ้มที่มุมปาก “นี่อาจจะเป็นความคิดที่ดี”คำโกหกที่ถูกพูดซ้ำเป็นพันครั้งก็อาจจะกลายเป็นความจริงขึ้นมาได้สักวันเจียงชั่นและฮั่วจือสิงคงไม่อธิบายให้คนเหล่านั้นฟังทีละคนหรอกนะ?แม้ว่าจะไม่สามารถเอาชนะฮั่วจือสิงได้ แต่สิ่งนี้ก็ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมาได้“ฉันไม่คาดหวังหรอกนะ” ฮั่วจือเหยียนบีบคางเธอก่อนจะตบใบหน้าสวยนั้นเบา ๆ สองครั้ง “ไม่ได้มีแค่น้ำอยู่ในหัว แต่มีอย่างอื่นด้วยสินะ”เจียงเหยารู้สึกเจ็บปวด แต่ก็แสร้งทำเป็นหัวเราะออกมา “คุณชายก็พูดเกินไป ฮ่า ๆ”“เอาเงินพวกนี้ไปก่อนแล้วกัน” ฮั่วจือเห
เจียงเหยานิ่งเฉยเพราะสมองว่างเปล่าต่อหน้าฟู่ซิ่วหยูแล้ว เธอก็เหมือนหนูที่กำลังเผชิญหน้ากับแมว หญิงสาวพยักหน้าอย่างใจลอยไม่รู้ตัวว่ากำลังพูดอะไร “ฉะ..ฉันนามสกุลเจียงค่ะ ฉัน..”“อ๋อ คุณเจียง?” ฟู่ซิ่วหยูหัวเราะเบา ๆ “ร้ายไม่เบาเลยนะที่หลอกล่อฮั่วจือเหยียนได้แล้วยังปั่นหัวลูกชายฉันด้วยน่ะ”“ว่าไงนะครับ?” ฮั่วจือเหยียนเลิกคิ้วแล้วหัวเราะ “เข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า? ผู้หญิงคนนี้ตามผมมาเอง อย่าพูดถึงลูกชายป้าเลย”“หุบปาก!”ฟู่ซิ่วหยูโกรธมากจนหยิบไม้กอล์ฟขึ้นมาขว้างใส่ฮั่วจือเหยียนฮั่วจือเหยียนไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเอาจริง จึงไม่ทันได้หลบ ไม้กอล์ฟจึงลอยมาฟาดเข้าที่น่องของเขาอย่างแรง ความเจ็บปวดปะทุขึ้นมาอย่างฉับพลันทันที“ให้ตายเถอะ! ป้ากล้าดียังไงมาทำร้ายกันแบบนี้น่ะ...”“โอ๊ย!”เพราะแบบนี้เขาจึงถูกทุบเข้าที่หัวอีกครั้งฟู่ซิ่วหยูได้สายดำด้านเทควันโดมาตั้งแต่ยังเด็ก แม้อายุจะมากขึ้นแต่เธอก็สามารถจัดการกับฮั่วจือเหยียนได้อย่างง่ายดายเมื่อนึกถึงแผนการที่ทั้งสองกำลังจะทำร้ายลูกชาย เธอก็โกรธมาก ความโกรธนี้ไม่เพียงแต่มาลงที่ฮั่วจือเหยียนเท่านั้น แต่เจียงเหยายังโดนหางเลขไปกับเขาด้วย เจียงเห
“คุณฟู่” ลุงเฉินเอ่ยด้วยความเคารพ “ตอนนี้เรากลับสิงหยวนเลยไหมครับ?”“ไปกันเถอะ”“คุณผู้หญิงและคุณหนูจือซินก็อยู่ด้วย...”ฟู่ซิ่วหยูขมวดคิ้ว ทว่าก็สามารถสงบอารมณ์ลงได้ในไม่ช้าเรื่องมันผ่านมานานแล้ว เธอควรปล่อยมันไปว่าแล้วจึงยิ้มแล้วพยักหน้าเบา ๆ ให้กับพ่อบ้านเฉินเมื่อกลับมาที่สิงหยวน ทันทีที่ก้าวเข้าไปในห้องนั่งเล่น ก็เห็นสองแม่ลูกนั่งอยู่บนโซฟาก่อนแล้วฮั่วจือซินรีบลุกขึ้นแล้วเข้ามาทักทายด้วยความเขินอาย “สวัสดีค่ะคุณป้า..”ฟู่ซิ่วหยูหันไปมองหวังเหม่ยหยุนด้วยความสงบหวังเหม่ยหยุนเองก็วางถ้วยชาลงแล้วยืนขึ้นทักทายเธอด้วยรอยยิ้ม “ไม่เจอกันนานเลยนะพี่หยู”“นั่นสิ ครั้งสุดท้ายที่เจอกันมันก็นานมากแล้ว” ฟู่ซิ่วหยูมองคนตรงหน้าอย่างพิจารณา “ครั้งสุดท้ายที่เจอก็คือตอนที่ฉันหย่ากับฮั่วจ้านเผิงใช่ไหม?”รอยยิ้มของหวังเหม่ยหยุนค้างเติ่งอยู่อย่างนั้น ก่อนจะเอ่ยขึ้นมาอย่างไม่เต็มใจนัก “พี่หยู ตอนนั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้น..ตอนที่ฉันเจอกับจ้านเผิงฉันไม่รู้เลยว่าเขากำลังจะหย่ากับพี่”“ฉันเป็นคนตรงไปตรงมา พูดอะไรก็คืออย่างนั้น” หวังเหม่ยหยุนกระแอมไอสองครั้ง “ถ้าตอนนั้นรู้ว่าเขายังไม่ได้หย่าฉันก
ฮั่วจือสิงที่อยู่ชั้นบนสุดของคฤหาสน์หมิงหวงรู้สึกแปลกใจเมื่อได้ยินอย่างนั้นก่อนจะวางคาเวียร์ในมือลงแล้วขมวดคิ้ว “ผมยังไม่ได้ให้ทั้งสองคนเจอกัน”“งั้นมันเกิดอะไรขึ้นกับแม่เธอล่ะ?”ฮั่วจือสิงเงียบไปสักพัก หลังจากที่วางสายเขาก็มีแววตาที่เป็นกังวลไป๋จิ่งหยวนและเย่เชินที่อยู่ใกล้ ๆ มองหน้ากันแล้ววางตะเกียบลงอย่างเงียบ ๆเย่เชินกังวล “นายน้อย ถึงแม้ว่าแม่ของคุณจะไม่ชอบคุณเจียง แต่ก็คงจะไม่มีทางเกลียดมากขนาดนี้ น่าจะต้องมีอะไรผิดปกติแน่”สายตาของไป๋จิ่งหยวนยังคงจับจ้องไปที่อาหารจานโปรดตรงหน้า“คิดว่าไงนายไป๋?”“ผมว่า..” ไป๋จิ่งหยวนตกตะลึง “คิดว่าป้าน่าจะยังไม่เจอเธอหรอก ป้าก็แค่พุดเพื่อที่จะทำให้พี่กับพี่สะใภ้แตกกันก็แค่นั้น”ฮั่วจือสิงส่ายหัว “แม่ฉันไม่ใช่คนแบบนั้น”ก่อนที่เขาจะพูดจบ ก็สังเกตเห็นร่างเล็ก ๆ ของใครบางคนเจียงชั่นค่อย ๆ เดินเข้ามาหาด้วยสีหน้าที่หม่นหมองหัวใจของฮั่วจือสิงตกลงกับพื้น ไม่แน่ใจว่าเธอจะได้ยินบทสนทนาเมื่อสักครู่นี้ไหม?“ชั่นชั่น” เขาจับมือเธอแล้วยิ้มอย่างระมัดระวัง “เที่ยงนี้คุณบอกว่าทำงานล่วงเวลาไม่ใช่เหรอ?”“ค่ะเดิมทีมันต้องเป็นแบบนั้น แต่หัวหน้าบอ
นิทรรศการภาพวาดครั้งนี้ถือเป็นงานที่ยิ่งใหญ่เพราะเป็นผลงานชั้นเยี่ยมที่มาจากศิลปินชื่อดังมากมาย ซึ่งภาพเหล่านี้จะสามารถขายได้ในราคาหลายสิบล้านบาทฟู่ซิ่วหยูเดินชมนิทรรศการด้วยท่วงท่าสบาย ๆเธอไปรับการศึกษาที่ครบทุกด้านมาตั้งแต่เล็ก ๆ ทำให้เธอเติบโตมาด้วยสติปัญญาที่รอบรู้และมีรสนิยมดีเมื่อได้เห็นผลงานหลายชิ้นจากศิลปินดังจากหนานหยาง เส้นลายและสีสันสดใสทำให้ภาพมีสไตล์ที่เฉพาะตัวเธอรู้สึกชอบมันมากจึงรีบบอกให้ผู้ช่วยช่วยจัดการ “ฉันอยากได้ภาพนี้ ติดต่อเจ้าหน้าที่ให้ทีนะ”ผู้ช่วยจึงรีบทำตามคำสั่งในทันทีในขณะเดียวกันเจียงชั่นเองก็กำลังพาหยิ่นเหวินซีมาเยี่ยมชมในงานนี้ด้วย“ตรงนี้จะยังไม่มีคนมากค่ะ พื้นที่ในนี้ค่อนข้างกว้างอย่าวิ่งเด็ดขาดเลยนะคะเดี๋ยวเป็นอันตราย”หยิ่นเหวินซีมองหน้าลูกสาวด้วยความสิ้นหวัง “พาแม่มาชมนิทรรศการแต่ไม่ยอมให้เดินไปรอบ ๆ ด้วยตัวเองมันจะไปสนุกตรงไหนล่ะ?”เจียงชั่นหัวเราะเบา ๆ “หนูกลัวว่าถ้าอยู่บ้านแม่จะเบื่อก็เลยพาออกมา วันนี้หนูมาทำงานด้วยให้ความร่วมมือเถอะนะคะ โอเคไหม?”“เดี๋ยวหนูจะไปถ่ายรูปและสอบถามสถานการณ์จากเจ้าหน้าที่ก่อน แล้วเราก็กลับได้แล้วล่ะค่ะ”
เมื่อนึกถึงฮั่วจือสิงก็นึกโมโหขึ้นมาทันที เกือบแล้วที่จะได้ผู้หญิงแบบนั้นมาเป็นลูกสะใภ้ สิ่งนี้ทำให้เธอโกรธแทบตาย อยากจะยัดฮั่วจือสิงกลับเข้าไปในท้องของตัวเองจริง ๆ.....“ชั่นชั่น ดูภาพนั้นสิ!”เจียงชั่นมองตามที่แม่เธอชี้ภาพวาดสีน้ำมันขนาดค่อนข้างใหญ่กินพื้นที่ส่วนใหญ่ของผนัง ลายเส้นค่อนข้างเป็นธรรมชาติ เป็นภาพหิ่งห้อยตัวใหญ่ที่สยายปีกเสมือนจริงเจียงชั่นมองลานเซ็นก็เห็นว่าเป็นผลงานของจิตรกรชื่อดังในหนานหยาง“ชอบภาพนี้ไหมคะ?”หยิ่นเหวินซีไม่ตอบ ทว่ากำลังจมอยู่ในห้วงความคิดอันลึกซึ้ง มีหลากหลายอารมณ์อยู่ในแววตาของเธอ“ชั่นชั่น...” เธอเอ่ยหลังจากที่เงียบอยู่นาน “รู้ไหมว่าที่นี่ที่ไหน?”เจียงชั่นส่ายหน้าด้วยความสับสนเธอไม่รู้ว่านี่คือสวนแห่งหนึ่งในหนานหยาง เมืองที่หยิ่นเหวินซีเติบโตมาศิลปินที่เซ็นชื่อบนภาพนั้นยังเคยวาดภาพของหยิ่นเหวินซีอีกด้วยทันทีที่เธอเห็นภาพนี้ ก็เหมือนกับได้ย้อนกลับไปในช่วงเวลาที่ไร้ความกังวลใด ๆดวงตาของเธอเริ่มแดงก่ำ ก่อนจะเอ่ยถามเจียงชั่น “ขอซื้อภาพนั้นได้ไหม?”เจียงชั่นตกตะลึงแล้วมองดูภาพวาดอย่างระมัดระวัง หากต้องซื้อราคามันคงจะสูงน่าดู..ทว่าเธอ
เจียงชั่นยิ้มแล้วไม่ตอบอะไรโมนาจึงรู้สึกตระหนกขึ้นมาถังอี้หรานเป็นผู้กำกับที่มีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมนี้ ภาพยนตร์ทุกเรื่องที่เขากำกับล้วนแต่ได้รับรางวัลในระดับนานาชาติไม่เพียงแค่มีชื่อเสียงในประเทศ แต่ยังมีชื่อเสียงในวงการภาพยนตร์ระดับนานาชาติอีกด้วยทุกคนในวงการต่างก็กระตือรือร้นที่จะได้เข้าไปอยู่ในทีมของถังอี้หรานแน่นอนว่าโมนาเองก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ถังอี้หรานเป็นผู้หญิงที่มีความสามารถ ทุกคนรู้จักกันดีว่าเธอหยิ่งแค่ไหน แน่นอนว่าแม้แต่ดารายอดนิยมอย่างเธอถังอี้หรานก็ไม่แยแสแต่ตอนนี้...“เมื่อกี้นี้คุณโทรหาถังอี้หรานจริง ๆ เหรอ?”“ใช่ครับ” ผู้จัดการห่าวเหลือบมองเธอ “ผู้อำนวยการถังเพิ่งสร้างภาพยนตร์เรื่องใหม่ คุณเนี่ยซินและคุณเจียงช่วยติดต่อกับเธอแล้ว”สีหน้าของโมนาเปลี่ยนไปด้วยความรู้สึกเสียใจอย่างมาก“ผะ..ผู้ช่วยเจียง” เธอมองเจียงชั่น “ผู้กำกับถังจะมาร่วมรายการนี้ด้วยเหรอ? แต่ฉันได้ยินมาว่าเธอไม่เคยปรากฎตัวในรายการวาไรตี้เลยนะ”เจียงชั่นยิ้มและยังคงไม่พูดอะไร“มันไม่ใช่รายการวาไรตี้ธรรมดา ๆ หรอกเหรอ?!” โมนาโกรธจัดเจียงชั่นเม้มปากแล้วเอ่ยอย่างใจเย็น “ไม่สำคัญหรอกค่ะ เพ
เจียงชั่นที่กำลังดื่มน้ำ เกือบพ่นน้ำออกมาทันทีที่ได้ยินหลังจากวางสายแล้วเธอก็เดินออกไปเห็นได้ชัดว่าดาราสาวเป็นคนที่ใจร้อนมาก หญิงสาวจ้องเจียงชั่นด้วยความไม่พอใจ“นี่น่ะเหรอที่เรียกว่ามืออาชีพ กำลังทำอะไรอยู่?” โมนาตะโกน “หยู่เฟิงมีเดียก็ใหญ่โตแล้วมีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมนี้นะ จะดูแลได้ดีแน่เหรอ? เพิกเฉยต่อศิลปินแบบนี้มันไม่สุภาพเลยนะ!”ผู้จัดการห่าวทนไม่ไหว “คุณโมนามีมารยาทหน่อยได้ไหมครับ?”โมนาเหลือบมองเขา“ผู้ช่วยเจียงเป็นผู้ช่วยอาวุโสของคุณฟู่ เธอรับผิดชอบงานประชาสัมพันธ์และการฝึกอบรมต่าง ๆ ให้กับศิลปินทุกคน แม้แต่เนี่ยซินเองก็ต้องทำตามและให้ความร่วมมือกับผู้ช่วยเจียง”“คุณโมนาคิดว่าตัวเองมีสถานะที่สูงกว่าคุณเนี่ยซินงั้นสินะครับ?”ทุกคำพูดของผู้จัดการห่าวเน้นย้ำ โมนาจึงถอยหลังเล็กน้อย ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจเจียงชั่นยิ้มแล้วหยิบเอกสารจากโต๊ะขึ้นมา ในนั้นมีตารางงานของศิลปินหลายคนของบริษัท“นี่เป็นแผนการเดินทางของคุณค่ะ” เจียงชั่นยื่นเอกสารสำเนาให้กับโมนา “ในนั้นมีข้อควรระวังในการปรากฏตัวในรายการ เดี๋ยวฉันจะช่วยสื่อสารกับผู้จัดการส่วนตัวของคุณล่วงหน้า”“นีมันรายการอะไ
เจียงชั่นขมวดคิ้วพลางมองตามไปยังเสียงที่ได้ยินเธอเห็นหญิงสาวสวยแต่งตัวเรียบหรู สวมแว่นกันแดดอันใหญ่และต่างหูกับสร้อยคอที่ดูเว่อร์เดินนวยนาดเข้ามา“ไม่ได้บอกว่ามีทีมผู้บริหารที่เป็นมืออาชีพหรอกเหรอ?” เธอถอดแว่นนกันแดดอันใหญ่ออกแล้วมองเจียงชั่นด้วยท่าทางที่ไม่เป็นมิตร “แล้วอยู่ไหน?”ผู้จัดการห่าวและเจียงชั่นมองหน้ากันแล้วพยักหน้าเบา ๆเจียงชั่นยื่นมือออกมาแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “คุณโมนาใช่ไหมคะ? ฉันคือ...”โมนาแสดงท่าทีที่หยิ่งออกมา เธอไม่ยอมจับมือกับเจียงชั่นเลยเจียงชั่นจึงหยุดค้างอยู่กลางอากาศแบบนั้น ก่อนจะดึงมือกลับเงียบ ๆผู้จัดการห่าวก้าวไปข้างหน้าแล้วเอ่ย “คุณโมนาครับ นี่คือคุณเจียงชั่นผู้ช่วยอาวุโสที่หยู่เฟิงมีเดียของเรา เธอรับผิดชอบในการจัดหาศิลปิน ถ้าหากว่าคุณมีคำถามอะไร สามารถคุยกับเธอได้เลยโดยตรง”“อ้อ เจียงชั่น!” โมนายิ้มในขณะที่ก้มลงมองเล็บมือที่เพิ่งทำมาของเธอ “มีประสบการณ์หรือเปล่า? ไม่ใช่ใครก็จะดูแลฉันได้นะ”“ไม่ต้องกังวลครับคุณโมนา แม้ว่าผู้ช่วยเจียงจะไม่ได้อยู่ในวงการนี้นาน แต่ความสามารถในการทำงานของเธอโดดเด่นมาก”“ความสามารถในการทำงานหรือยั่วผู้ชายกันแน่ที่โดด
“ไอ้สารเลว! แกมันน่ารังเกียจ”สีหน้าของหยินรั่วหงแดงจัดฮั่วจ่านเฮ่อมองกลับด้วยรอยยิ้ม ภายใต้แววตาเจ้าเล่ห์มีความชั่วร้ายอยู่เต็มเปี่ยมเครื่องบินส่วนตัวของฮั่วจือสิงตกจริง แต่หยินรั่วหงไม่รู้เรื่องนี้ในตอนนั้นเขาพบกับฮั่วจ่านเฮ่อที่งานเลี้ยงหลายแห่ง พวกเขาเป็นเพียงคนที่รู้จักกันเท่านั้นนอกเหนือจากการฝึกฝนด้านการแพทย์และเภสัชกรรมแล้ว ตระกูลหยินในหนานหยางยังเปิดสนามบินพลเรือนอีกด้วย สนามบินขนาดใหญ่หลายแห่งในหนานหยางอยู่ภายใต้การควบคุมของตระกูลหยินดังนั้นฮั่วจ่านเฮ่อจึงมีแผนนี้ขึ้นมา ทว่าเขาซ่อนความจริงนี้จากหยินรั่วหง ก่อนจะใช้อุบายในการใช้ช่างเทคนิคเข้ามาทำอะไรบางอย่างกับเครื่องบินของฮั่วจือสิง...จากนั้นเขาก็แกล้งทำกรรมธรรม์ก้อนใหญ่แล้วบอกหยินรั่วหงว่าเงินหลายล้านจะตกเป็นของเขาหยินรั่วหงไม่คิดมาก่อนว่าตัวเองจะกลายเป็นผู้ร้ายในการก่ออาชญากรรมที่เลวร้ายในครั้งนี้ด้วย“ประธานหยิน ถ้าเรื่องนี้ถูกพูดออกไป จะไม่มีใครฟังคำอธิบายของคุณหรอกนะ เพราะพวกเขาจะคิดว่าคุณเป็นคนที่ร่วมทำร้ายฮั่วจือสิงเหมือนกัน”“เมื่อถึงเวลาชื่อเสียงและความมั่นคงของคุณก็จะถูกทำลายลงไป”หยินรั่วหงหายใจเข
“ใช่”ฮั่วจือสิงขมวดคิ้วด้วยสีหน้าที่จริงจังขึ้นมาเล็กน้อย “ผมไม่ได้บอกเรื่องนี้กับชั่นชั่น ดังนั้นอย่าพูดเรื่องนี้เลยนะ...”“เกิดอะไรขึ้น?” “ช่วงนี้อาการบาดเจ็บที่ขา...มันมีอาการนิดหน่อยน่ะ”เสิ่นเซียวตกใจ รีบพาเขาไปเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดทันที“ไม่มีอะไรหรอก” ฮั่วจือสิงตบไหล่อีกฝ่าย “มันน่าจะกำเริบ ก่อนหน้านี้ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ช่วงนี้อากาศเย็นลงมาก ก็จะเจ็บมากหน่อย”“ผมจำได้ว่าตอนนั้นคุณให้ยาผม ทั้งแบบกินแล้วก็แบบทา มันได้ผลดีมากนะ..วันนี้ก็เลยอยากจะให้สั่งยาเพิ่ม”เสิ่นเซียวลังเลอยู่นาน โดยที่ไม่พูดอะไร“มีอะไรรึเปล่า?”ฮั่วจือสิงนึกสงสัยว่าแพทย์อาจจะไม่สามารถสั่งยาได้ง่ายดายอย่างทีคิด?“จือสิง” เสิ่นเซียวมองเขาแล้วเม้มปากแน่น ในที่สุดก็ตัดสินใจเอ่ยออกมา “ที่จริงผม..ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคือยาอะไร”“ว่าไงนะ?” ฮั่วจือสิงประหลาดใจ “แต่ตอนนั้นคนที่ให้ยากับผมคือคุณนะ”“ใช่ แต่ยานั่นมีคนมอบให้คุณอีกที”ฮั่วจือสิงยิ่งเกิดความสับสนมากขึ้นเสิ่นเซียวถอนหายใจแล้วบอกความจริงทั้งหมด“คุณลองคิดดูสิ ถึงผมจะจบจากโรงเรียนแพทย์มา แต่ตอนนั้นผมไม่ได้เป็นหมอมานานแล้ว ไม่เคยผ่า
“ครับ นายน้อย” ฟางฮั่นพยักหน้าแต่หยินรั่วหงเป็นคนค่อนข้างลึกลับ ไม่ชอบปรากฎตัวต่อสาธารณะแม้แต่ในงานประมูลวันนั้น ก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้เจอหน้าเขา“ถ้านัดหมายในนามของเรา เขาจะต้องรับ” ฮั่วจือสิงคิดเรื่องนี้ไว้แล้ว“แล้ว...ในนามของคุณชายสองล่ะครับ?”“ไม่จำเป็น” ฮั่วจือสิงเม้มปาก “บอกแค่ว่าปู่อยากเจอเขา”ฟางฮั่นสะดุ้งเล็กน้อย “นี่ก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง ถ้ามีปู่ร่วมด้วย หยินรั่วหงจะไม่กล้าทำอะไร”ฮั่วจือสิงยิ้ม ก่อนจะปรับสีหน้าไปเป็นไม่พอใจอีกครั้ง“นายน้อย เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?” ฟางฮั่นรู้สึกตระหนกเล็กน้อยฮั่วจือสิงลดเสียงทันทีและเจียงชั่นก็ยังอยู่ในครัว“เปล่า” เขาขยับตัวเล็กน้อย “ก็ปัญหาเดิม ๆ”“อาการบาดเจ็บเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือเปล่าครับ?” ฟางฮั่นเป็นกังวลหลังจากเหตุการณ์เครื่องบินตก ฮั่วจือสิงได้รับบาดเจ็บหนัก แม้ตรวจแล้วทุกอย่างจะปกติดี แต่ก็มีเพียงอาการบาดเจ็บที่ขาเท่านั้นที่ยังมีผลกระทบที่ต่อเนื่องมาจนถึงตอนนี้“จริง ๆ มันก็ไม่ได้ร้ายแรง” เขายืดตัวขึ้นแล้วเอ่ยอย่างใจเย็น “ช่วงนี้อากาศเริ่มเย็นลง ก็เลยเจ็บมากเป็นบางครั้งแต่ไม่รุนแรงมาก คงจะไม่เป็นอะไรถ้าฉันพอจะปรั
เจียงชั่นหน้าแดงด้วยความเขินอาย ในขณะที่ฮั่วจือสิงกำลังโมโห เธอรีบผละออกจากเขาแล้ววิ่งเข้าไปในบ้านทันทีฟางฮั่นอ้าปากค้าง สายเกินไปแล้วที่เขาจะหนีไปอีกคน...สีหน้าของฮั่วจือสิงมืดดำราวกับมีหมึกดำ ๆ มาป้ายไว้บนหน้าเขาเดินออกไปตรงลานสนามหญ้าอย่างรวดเร็ว พลางมองฟางฮั่นด้วยแววตาที่แข็งกร้าวและเย็นชาฟางฮั่วกระตุกยิ้มแห้ง ๆ หัวใจเต้นแรงจนจะกระเด้งออกมาจากปาก“เกิดอะไรขึ้น?” เขาเอ่ยตอนนี้ฟางฮั่นลืมทุกสิ่งที่เขาต้องการจะพูดแล้ว จึงมองคนตรงหน้าด้วยแววตาว่างเปล่าความเงียบไม่กี่วินาที ทว่าความรู้สึกกลับยาวนานเป็นทศวรรษจากนั้นเจียงชั่นก็ได้ยินเสียงคำรามเข้ม ๆ ของใครบางคนดังขึ้นมา “ฟางฮั่น!”ป้าเฉินที่กำลังเลือกผักอยู่สะดุ้งแล้วรีบวิ่งออกมาจากครัวทันที“เกิดอะไรขึ้นคะ?”เจียงชั่นนั่งหัวเราะอยู่บนโซฟา“เสี่ยวฟางมีเรื่องเหรอคะ?” ป้าเฉินส่ายหน้าแล้วถอนหายใจ ก่อนจะกลับไปที่ห้องครัวพลางพึมพำกับตัวเอง “ตะเบ็งเสียงขนาดนี้ คงต้องทำซุปไว้ให้นายน้อยหน่อยแล้วล่ะนะ...”ที่สนามหญ้าเองเจ้าแมวส้มที่กินอาหารจนหมดก็กำลังเหวี่ยงร่างอ้วน ๆ ของมันไปมา ขณะที่มองชายหนุ่มทั้งสองแล้วร้องเหมียวสองสามครั้ง
จู่ ๆ ไป๋จิ่งหยวนก็รู้สึกว่าหัวใจของตัวเองเต้นผิดจังหวะ แทบจะควบคุมเอาไว้ไม่ได้ใบหน้าที่ชัดเจนของเหยาหว่านยินสะกดเขาราวกับมีเวทย์มนตร์ ดวงตากลมคู่นั้นราวกับโลกที่ลึกลับกำลังดึงดูดให้เขาเข้าไปสำรวจไป๋จิ่งหยวนมองเธออย่างว่างเปล่า บรรยากาศโดยรอบเงียบลง ราวกับว่าทุกอย่างกำลังมุ่งความสนใจไปที่เธอลมเย็น ๆ ที่พัดกระโชกมาทำให้เหยาหว่านยินไอออกมาสองสามครั้งทำให้ไป๋จิ่งหยวนถอดเสื้อคลุมออกมาแล้วสวมให้กับเธอแทน“ไม่เป็นไร...”“ใส่เถอะ” เขาช่วยกระชับเสื้อให้กับเธอ “ไม่สบายเหรอคุณ? หรือว่าเป็นหวัด?”เหยาหว่านยินเม้มปากแล้วมองเขาเงียบ ๆตอนนี้เริ่มมีคนทะยอยออกมาจากประตูงานประมูล“ดูเหมือนงานจะจบแล้วล่ะ” ไป๋จิ่งหยวนเอ่ย “เอาล่ะ..เดี๋ยวผมไปส่ง คุณอยู่ที่ไหน?”เหยาหว่านยินชะงักแล้วส่ายหน้าเล็กน้อยทุกอย่างราวกับภาพฝัน ในตอนที่เธอตื่นเธอก็ต้องกลับสู่โลกของความเป็นจริงความจริงที่ว่าเธอเป็นลูกสาวนิรนามของตระกูลเหยา ไม่รู้ว่าจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ต่อไปอีกนานแค่ไหน ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง...ร่างบางหันหลังกลับแล้วเดินไปอย่างช้า ๆ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงคนของตระดูลเหยากำลังตามหาเธออยู่ไม่ไกล
“คุณชื่อหว่านยินเหรอ?” ไป๋จิ่งหยวนขมวดคิ้วดูสับสน “แล้วนามสกุลอะไร?”เหยาหว่านยินหลับตาลงแล้วนิ่งเงียบไป๋จิ่งหยวนจึงยิ้มกว้าง ไม่ว่าเธอจะนามสกุลอะไรแต่แค่ได้รู้จักชื่อก็ดีมากแล้ว“เอาล่ะ เดี๋ยวผมจะพาไปเดินเล่นในสวน” เขาเอ่ยพลางเดินออกไปจากประตู“นี่คุณ...”แต่ก่อนที่เขาจะออกไปได้ ร่างสูงก็ถูกเหยาหว่านยินรั้งเอาไว้เขาตะลึงก่อนจะหันกลับมามองเขายังไม่ได้ใส่กางเกง!ชายหนุ่มหน้าแดง ในขณะที่มองเหยาหว่านยินด้วยความตระหนก ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ใส่เธอดีเห็นอย่างนั้นเหยาหว่านยินก็รู้สึกขบขัน ใบหน้าที่ซีดเซียวเริ่มมีสีสันขึ้นมาทันทีไป๋จิ่งหยวนวิ่งเข้าไปในห้องแล้วรีบสวมกางเกงทันที ก่อนจะพาเหยาหว่านยินออกไปเดินเล่นในค่ำคืนของฤดใบไม้ร่วงช่างสวยงาม ภายในสวนที่ได้รับแสงแดดอบอุ่นมาตลอดทั้งวัน ยังคงมีกลิ่นอายของความอบอุ่นไปทั่วทั้งบริเวณ รอบข้างมีความเงียบสงบและมีเสียงนกนานาชนิดร้องเป็นระยะ ๆ แสงไฟดวงเล็ก ๆ ที่ตกแต่งสวยงามราวกับมีหิ่งห้อยกำลังบินอยู่เหยาหว่านยินสูดหายใจลึกแล้วหลับตาลงเบา ๆเธอยืนอยู่บนสนามหญ้าและหายใจได้อย่างอิสระ อิสระที่เธอเฝ้าใฝ่หามาทั้งชีวิต“ดีจัง” เธอหั