ไป๋จิ่งหยวนพยักหน้าอย่างหนักแน่น "อาทิตย์ที่แล้วในตอนที่ผมตกปลาอยู่ ก็พบหน้ากับคนนั้นเข้าพอดีในตอนนั้นผมก็ตกใจเป็นอย่างมาก! ลูกพี่สาม กู้หม่างนั้นเหมือนพี่มาก..." ท่าทีของฮั่วจือสิงยิ่งมืดมนและน่ากลัว "ทว่านอกจากหน้าจะเหมือนกันแล้ว พวกพี่ทั้งสองคนก็ไม่มีอะไรที่เหมือนกันเลย" ไป๋จิ่งหยวนพูดต่อ "ผมสงสัยบางอย่าง ก็เลยหาคนให้ไปลอบตรวจสอบ ไม่คิดว่าผลที่ได้จากการตรวจสอบจะพบว่ากู้หม่างไม่ได้ตาย" "หลังจากที่เขาออกจากคุกก็ล่วงเกินหัวหน้าแก๊งในเจียงโจวไปหลายคน ไม่ชำระหนี้จนต้องถูกตัดนิ้วแล้วโยนไปที่เจียงโจว" ฮั่วจือสิงไม่ได้พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว เย่เชินเองก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจ "เพราะฉะนั้น..." เมื่อเย่เชินได้สติขึ้นมา "หรือว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับลู่หลีซาน?" "ลูกพี่สาม ไม่แน่ว่าลู่หลีซานมองออกตั้งแต่แรกแล้วว่าพี่ไม่ใช่กู้หม่าง!" ดวงตาของฮั่วจือสิงส่องประกายเย็นเยียบ นี่เองก็เป็นเรื่องที่เขากังวล หลายครั้งที่ต่อสู้กันกับลู่หลีซาน คนคนนี้ดูแปลกประหลาด บางที่อาจจะสังเกตเห็นตรงจุดนี้ได้นานแล้วก็เป็นได้ ไป๋จิ่งหยวนเลียริมฝีปาก พูดออกมาอย่างลังเล "ลู่หลีซานคนนั้น...คงจะไม
คนในรูปนั้นก็ทำให้เขาตื่นตกใจเป็นอย่างมาก! กู้หม่าง? ลู่หลีซานเงยหน้าขึ้นไปมองยังฮั่วจือเหยียนทันที ดวงตาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ "ทำไม คงจะไม่ใช่ว่าเคยพบกับคนคนนี้ใช่ไหม?" ฮั่วจือเหยียนเยาะเย้ยออกมา ลู่หลีซานวางรูปถ่ายลง ใบหน้าไม่เปลี่ยนสี "นี่ก็คือคนที่ฉันจะให้นายกำจัดทิ้ง" ฮั่วจือเหยียนจ้องมองไปที่เขา "พี่ซาน จำเอาไว้ให้ดี อย่าทำพลาด!" "หมายความว่ายังไงกัน?" ฮั่วจือเหยียนหัวเราะออกมาอย่างประหลาด หัวเราะอยู่นาน จนกระทั่งลู่หลีซานเกือบจะหมดความอดทน "เอาละ ไม่อ้อมค้อมกับนายแล้ว" ฮั่วจือเหยียนพูดออกมาอย่างเย็นชา "คนนี้คือฮั่วจือสิง นายท่านสามตระกูลฮั่ว! เมื่อวานนี้คุณปู่เพิ่งจะบินไปอเมริกาเพื่อพบกับบุคคลสำคัญ ตอนนี้ยังไม่มีเวลาว่างมาจัดการเรื่องในตระกูล… และนี่ก็เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่พวกเราจะลงมือ!" ลู่หลีซานขมวดคิ้ว เขาไม่คิดเลยว่า สามีของเจียงชั่นคือฮั่วจือสิง! จากที่ตอบโต้กันในระยะนี้ ดูเหมือนว่าเจียงชั่นจะไม่รู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของฮั่วจือสิง แต่ก็ยังคงปกป้องเขาเป็นอย่างดี หากว่าเขาทำร้ายฮั่วจือสิงไปจริง ๆ แล้ว เกรงว่าหญิงสาวคงจะยอมเสียสละทุกอย่างเพื่อต่อสู
ลู่หลีซานจ้องเขม็งไปฮั่วจือเหยียน เนิ่นนานก็ยังพูดออกมาไม่ได้แม้แต่คำเดียว“ความสงสัยของคุณปู่ ฉันจะช่วยกำจัดมันเอง” ฮั่วจือเหยียนมองเขาแล้วพูดว่า “ลู่หลีซาน นายแค่ต้องช่วยฉันกำจัดคนที่ฉันต้องกำจัดเท่านั้น เรื่องที่เหลือนายไม่ต้องเป็นกังวลไป!”น้ำเสียงที่น่ากลัวนี้ทำให้ลู่หลีซานเชื่อว่าเขาต้องการกำจัดกระทั่งชายชราไปเช่นกันฮั่วจือเหยียนให้กู้หม่างถอยออกไป จากนั้นหยิบแผนผังออกมา วาดตำแหน่งในใจกลางเมืองหยางเฉิงเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์“สถานที่แห่งนี้มีผู้คนหนาแน่น ดังนั้นที่ดินทุกตารางนิ้วจึงมีค่า” เขาหัวเราะจาง ๆ “หลังจากเรื่องเสร็จสิ้นแล้ว ฉันจะไปทักทายกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ดินนี้เป็นของนาย! เป็นยังไง?”ลู่หลีซานเม้มริมฝีปากเล็กน้อย ไม่พูดอะไรออกมา“ลู่หลีซาน” ฮั่วจือเหยียนตบไหล่เขา “นายเป็นคนทะเยอทะยาน โหดเหี้ยมมากพอและดุร้าย นั่นคือสิ่งที่ฉันชอบในตัวนาย!”“เรื่องนี้เป็นประโยชน์ไม่เสียหายอะไรทั้งต่อนายและฉัน นายจะต้องชั่งน้ำหนักให้ดี!”ลู่หลีซานใช้นิ้วชี้ไปที่แผนผังของแผนที่ พื้นที่ขนาดใหญ่และมีศักยภาพที่ไม่อาจประเมินได้ ในบริเวณหยางเฉิง ที่ดินทุกตารางนิ้วล้วนแต่มีค่าใช้จ่า
ไม่คิดเลยว่าผู้ชายที่สูงส่งและเย็นชาอย่างฮั่วจื่อสิงจะมีด้านที่ธรรมดาแบบนี้ด้วยไม่รู้ว่าเกิดอะไรผิดพลาดขึ้นกันแน่ ในขณะนี้เขาเห็นฮั่วจื่อสิงที่สูง 190 เซนติเมตรก้มลงมาคุยกับเจียงชั่นที่ตัวเล็กกว่ามากราวกับเด็กน้อย สีหน้าของเธอที่กำลังพูดกับเขานั้นช่างจริงจังภาพตรงหน้าทำให้ลู่หลี่ซานตกใจอยู่ไม่น้อยตอนที่ฮั่วจื่อสิงอยู่กับเจียงชั่น เขาทำตัวปกติราวกับพ่อบ้านใจกล้าที่กลัวภรรยาดุในบางที หาเงินมาได้ก็ต้องให้กับภรรยา ซึ่งไม่ต่างอะไรกับผู้ชายจำนวนไม่น้อยที่ต้องออกจากบ้านไปหาเงินชายหนุ่มที่เมื่อก่อนเป็นผู้ที่คนมากมายต่างเคารพนับถือ แต่ตอนนี้เขากลับกำลังใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอย่างคนที่ไร้สถานะอันสูงส่งใด ๆหัวใจของลู่หลี่ซานสั่นเทา พลางกำหมัดแน่นร่างสูงเดินเข้ามาใกล้ประตูหน้าร้านกาแฟที่เปิดอยู่อย่างช้า ๆ ในขณะที่เสียงสนทนาของคนทั้งสองก็ชัดขึ้นเรื่อย ๆ“ฟังฉันนะคะที่รัก เราจำเป็นต้องลดราคาลงจริง ๆ มันแพงไป”“แต่ของที่เราใช้มันพรีเมี่ยมนะคุณ เราลดราคาไม่ได้”“มันไม่ถึงกับขาดทุนหรอกนะ แค่ถูกกว่าท้องตลาดหน่อย กำไรน้อย แต่สุดท้ายก็จะขายหมุนเวียนได้เรื่อย ๆ” เจียงชั่นยืนกราน “ถ้าขนมพวกนี
ลู่หลี่ซานหัวเราะเบา ๆ สีหน้าไม่รู้สึกรู้สาใด ๆ“นี่ไม่ใช่ร้านกาแฟหรอกเหรอ? แล้วฉันควรจะมาทำอะไรที่นี่ล่ะ”ฮั่วจื่อสิงมองอีกฝ่ายอย่างระแวดระวัง ใบหน้าไม่แสดงอาการใด ๆเขาไม่ได้ดูน่ากลัวอย่างคราวที่แล้ว แต่ก็ไม่รู้อยู่ดีว่ามีเจตนาดีหรือร้ายฮั่วจื่อสิงหันมาโอบไหล่ผู้เป็นภรรยาแล้วกระซิบให้เธอกลับบ้าน แล้วเขาจะดูแลต่อเองเจียงชั่นดูกังวลเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มยืนกรานอย่างนั้น เธอก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเดินออกไปจากตรงนั้นช้า ๆ เมื่อร่างบางจากไปฮั่วจื่อสิงก็มองไปที่ลู่หลี่ซานแล้วรอยยิ้มมุมปาก“ชุดน้ำชาบ่ายใช่ไหม? ได้เดี๋ยวฉันจัดให้”“ทำได้ด้วยเหรอ?”“ฉันเป็นเจ้าของที่นี่ทำไมจะทำไม่ได้”ฮั่วจื่อสิงกลับมาที่ด้านหลังบาร์ ร่างสูงเตรียมการด้วยความเชี่ยวชาญและคล่องแคล่ว ทว่าเสียงอุปกรณ์ที่กระทบกันไปมาเสียงดังมาก จนลู่หลี่ซานไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายทำเพราะเป็นเรื่องปกติหรือต้องการขับไล่เขากันแน่จากนั้นไม่นานชุดขนมที่ถูกจัดวางอย่างประณีตก็ถูกนำมาเสิร์ฟตรงหน้าเรดเวลเว็ดเค้กที่สวยงามและลาเต้ร้อนหอมกรุ่นที่ตกแต่งด้วยดอกไอริสสีม่วงถูกนำมาวางตรงหน้าลู่หลี่ซานหยิบดอกไม้ขึ้นมาแล้วยิ้ม
แต่ที่แปลกคือกู้หม่างเหมือนจะหายไปจากตรงนั้น ฟางฮั่นจึงไปที่เจียงโจวแล้วนำข่าวมาบอกเขาอย่างเงียบ ๆ “นายน้อยคนของเราได้ค้นหาอยู่ทั่วหยางเฉิงแล้ว แต่ก็ไม่พบกู้หม่างเลย”การแสดงออกของฮั่วจื่อสิงจึงเย็นชาคนที่มีชีวิตอยู่ อยู่ดี ๆ จะหายตัวไปได้ยังไงตอนนี้ไม่มีทั้งคนที่มีชีวิตอยู่หรือว่าศพ ชายหนุ่มจึงกำลังคิดถึงผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุดที่กำลังจะตามมา...“ค้นหาในหยางเฉิงต่อไป” เขากัดฟันกรอด “ฉันสงสัยว่าลุงหรือคนอื่น ๆ อาจจะพบเขาก่อน ถ้าพวกเขาต้องการลงมือทำอะไร ต้องแอบส่งคนมาจัดการฉันแน่”“นายน้อย...” ฟางฮั่นเบิกตากว้างอย่างกังวล“ไม่ต้องห่วงฉัน” ฮั่วจื่อสิงเอ่ย “เจียงชั่น..หาคนที่เชื่อถือได้สักสองสามคนคอยติดตามและปกป้องระหว่างที่เธอไปกลับจากที่ทำงาน เธอจะต้องปลอดภัย”“ครับ”หลังจากที่พูดแบบนั้น ความรู้สึกหนาวเย็นก็แผ่ซ่านไปถึงกระดูกของเขาไม่ว่าฮั่วจื่จ่านเฮ่อ ฮั่วจือเหยียน หรือคนอื่น ๆ ในตระกูลฮั่วที่พร้อมจะเคลื่อนไหว เขาก็ไม่เคยกลัวเลยสักครั้งแต่ตอนนี้เขากลัวเขาและเจียงชั่นอยู่ในที่สว่าง ส่วนพวกเขาเหล่านั้นหลบอยู่ในที่มืด หากว่าต้องการเคลื่อนไหวหรือลงมือทำอะไร เป้าหมายต่อไปจะต
ฮั่วจือสิงดูความเห็นในมือถือ ทันใดนั้นความดำมืดก็ปรากฎขึ้นในแววตาร้านเปิดใหม่จะไม่ดึงดูดความสนใจของผู้คนมากนัก มีความเป็นไปได้ที่จะมีคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้อย่างที่เจียงชั่นบอกเห็นได้ชัดว่าความเห็นเหล่านี้เปิดจากพวกเกรียนคีย์บอร์ดทั้งนั้น ที่แสดงความเห็นเชิงลบและเป็นอันตรายแบบนี้ฮั่วจือสิงเองก็สงสัยว่าคนทำจะเป็นลู่หลี่ซาน แต่มันเป็นเพียงความคิดแค่แวบเดียวเท่านั้น ก่อนที่เขาจะปฏิเสธมันไปตามลักษณะและท่าทางของลู่หลี่ซานแล้ว เขาไม่น่าจะใช้วิธีที่ต่ำและดูไม่ค่อยมีประสบการณ์แบบนี้อีกอย่างวิธีการดังกล่าวยังเป็นการกระทำที่ไม่ได้ส่งผลอะไรมากมาย แต่เหมือนการต่อสู้เล็ก ๆ น้อย ๆ ระหว่างผู้หญิงเท่านั้น ถ้าลู่หลี่ซานต้องการจริง ๆ เขาก็จะประกาศชัดเจนว่าอยากจะสร้างสงครามและนี่ก็ไม่เหมือนที่คู่แข่งทำ แถวนี้มีร้านกาแฟอยู่เยอะก็จริง ทว่าแต่ละร้านจะมีเอกลักษณ์ที่เฉพาะตัวมากจึงมีฐานลูกค้าประจำเป็นของตัวเอง ทุกคนรู้ดีอยู่แล้วว่าทำธุรกิจร่วมกันอย่างสันติ ดังนั้นคนเหล่านี้ที่ส่งความเห็นแย่ ๆ จึงทำเพื่อใส่ร้ายและมุ่งเป้าไปที่เจียงชั่นเท่านั้น...คำตอบค่อย ๆ ฉายชัดขึ้น แต่เมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อ
เจียงชั่นรู้สึกกังวล แต่สถานการณ์นี้กลับตรงกับที่ฮั่วจือสิงคาดการณ์เอาไว้เขาขี้เกียจเกินกว่าจะต้องเดินเสิร์ฟกาแฟให้แขกทั้งวันเพียงแค่อยากจะดูแลเธอทุกวัน โดยหวังให้ในร้านมีเพียงเขาและเธอสองคนเท่านั้นอย่างไรก็ตามเพื่อความสุขของเจียงชั่น เขาจึงขอให้เย่เชินตรวจสอบ และผลลัพธ์ก็เป็นไปตามที่เขาคาดเอาไว้ “นายน้อย ผมได้ปรึกษากับบริษัทสื่อหลายแห่ง พวกเขาก็เลยสามารถดึงข้อมูลมาให้ได้อย่างเร็ว ข้อมูลพวกนี้แสดงให้เห็นว่ามีการควบคุมตรงมาจากกลุ่มตระกูลเจียงครับ”“เจียงเหยาเป็นคนทำงั้นเหรอ?”“แต่ถึงยังไงบัญชีที่ใช้ในการโอนเงินตอบแทนให้คนพวกนั้นก็เป็นบัญชีการเงินของตระกูลเจียงครับ”นอกจากเจียงเหยาแล้วจะมีใครในตระกูลเจียงอีกที่มีเหตุผลให้ต้องทำแบบนี้?ฮั่วจือสิงขมวดคิ้วเขาไม่สนใจเรื่องที่จะต้องต่อต้านคนในตระกูลเจียง เพราะอีกฝ่ายไม่มีทางสู้กับเขาได้อยู่แล้วทว่าเขาสนใจเจียงชั่น..“นายน้อย” เย่เชินพูดเสียงเบา “ถ้าคุณต้องการจัดการตระกูลเจียง มันก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร เราแค่ให้สิ่งที่พวกเขาต้องการเท่านั้น”ฮั่วจือสิงยังคงเงียบและวางสายไปในตอนนั้นไม่มีใครอื่นอยู่ในร้าน เจียงชั่นจึงขอให้เขากลับ
เจียงชั่นยิ้มแล้วไม่ตอบอะไรโมนาจึงรู้สึกตระหนกขึ้นมาถังอี้หรานเป็นผู้กำกับที่มีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมนี้ ภาพยนตร์ทุกเรื่องที่เขากำกับล้วนแต่ได้รับรางวัลในระดับนานาชาติไม่เพียงแค่มีชื่อเสียงในประเทศ แต่ยังมีชื่อเสียงในวงการภาพยนตร์ระดับนานาชาติอีกด้วยทุกคนในวงการต่างก็กระตือรือร้นที่จะได้เข้าไปอยู่ในทีมของถังอี้หรานแน่นอนว่าโมนาเองก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ถังอี้หรานเป็นผู้หญิงที่มีความสามารถ ทุกคนรู้จักกันดีว่าเธอหยิ่งแค่ไหน แน่นอนว่าแม้แต่ดารายอดนิยมอย่างเธอถังอี้หรานก็ไม่แยแสแต่ตอนนี้...“เมื่อกี้นี้คุณโทรหาถังอี้หรานจริง ๆ เหรอ?”“ใช่ครับ” ผู้จัดการห่าวเหลือบมองเธอ “ผู้อำนวยการถังเพิ่งสร้างภาพยนตร์เรื่องใหม่ คุณเนี่ยซินและคุณเจียงช่วยติดต่อกับเธอแล้ว”สีหน้าของโมนาเปลี่ยนไปด้วยความรู้สึกเสียใจอย่างมาก“ผะ..ผู้ช่วยเจียง” เธอมองเจียงชั่น “ผู้กำกับถังจะมาร่วมรายการนี้ด้วยเหรอ? แต่ฉันได้ยินมาว่าเธอไม่เคยปรากฎตัวในรายการวาไรตี้เลยนะ”เจียงชั่นยิ้มและยังคงไม่พูดอะไร“มันไม่ใช่รายการวาไรตี้ธรรมดา ๆ หรอกเหรอ?!” โมนาโกรธจัดเจียงชั่นเม้มปากแล้วเอ่ยอย่างใจเย็น “ไม่สำคัญหรอกค่ะ เพ
เจียงชั่นที่กำลังดื่มน้ำ เกือบพ่นน้ำออกมาทันทีที่ได้ยินหลังจากวางสายแล้วเธอก็เดินออกไปเห็นได้ชัดว่าดาราสาวเป็นคนที่ใจร้อนมาก หญิงสาวจ้องเจียงชั่นด้วยความไม่พอใจ“นี่น่ะเหรอที่เรียกว่ามืออาชีพ กำลังทำอะไรอยู่?” โมนาตะโกน “หยู่เฟิงมีเดียก็ใหญ่โตแล้วมีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมนี้นะ จะดูแลได้ดีแน่เหรอ? เพิกเฉยต่อศิลปินแบบนี้มันไม่สุภาพเลยนะ!”ผู้จัดการห่าวทนไม่ไหว “คุณโมนามีมารยาทหน่อยได้ไหมครับ?”โมนาเหลือบมองเขา“ผู้ช่วยเจียงเป็นผู้ช่วยอาวุโสของคุณฟู่ เธอรับผิดชอบงานประชาสัมพันธ์และการฝึกอบรมต่าง ๆ ให้กับศิลปินทุกคน แม้แต่เนี่ยซินเองก็ต้องทำตามและให้ความร่วมมือกับผู้ช่วยเจียง”“คุณโมนาคิดว่าตัวเองมีสถานะที่สูงกว่าคุณเนี่ยซินงั้นสินะครับ?”ทุกคำพูดของผู้จัดการห่าวเน้นย้ำ โมนาจึงถอยหลังเล็กน้อย ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจเจียงชั่นยิ้มแล้วหยิบเอกสารจากโต๊ะขึ้นมา ในนั้นมีตารางงานของศิลปินหลายคนของบริษัท“นี่เป็นแผนการเดินทางของคุณค่ะ” เจียงชั่นยื่นเอกสารสำเนาให้กับโมนา “ในนั้นมีข้อควรระวังในการปรากฏตัวในรายการ เดี๋ยวฉันจะช่วยสื่อสารกับผู้จัดการส่วนตัวของคุณล่วงหน้า”“นีมันรายการอะไ
เจียงชั่นขมวดคิ้วพลางมองตามไปยังเสียงที่ได้ยินเธอเห็นหญิงสาวสวยแต่งตัวเรียบหรู สวมแว่นกันแดดอันใหญ่และต่างหูกับสร้อยคอที่ดูเว่อร์เดินนวยนาดเข้ามา“ไม่ได้บอกว่ามีทีมผู้บริหารที่เป็นมืออาชีพหรอกเหรอ?” เธอถอดแว่นนกันแดดอันใหญ่ออกแล้วมองเจียงชั่นด้วยท่าทางที่ไม่เป็นมิตร “แล้วอยู่ไหน?”ผู้จัดการห่าวและเจียงชั่นมองหน้ากันแล้วพยักหน้าเบา ๆเจียงชั่นยื่นมือออกมาแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “คุณโมนาใช่ไหมคะ? ฉันคือ...”โมนาแสดงท่าทีที่หยิ่งออกมา เธอไม่ยอมจับมือกับเจียงชั่นเลยเจียงชั่นจึงหยุดค้างอยู่กลางอากาศแบบนั้น ก่อนจะดึงมือกลับเงียบ ๆผู้จัดการห่าวก้าวไปข้างหน้าแล้วเอ่ย “คุณโมนาครับ นี่คือคุณเจียงชั่นผู้ช่วยอาวุโสที่หยู่เฟิงมีเดียของเรา เธอรับผิดชอบในการจัดหาศิลปิน ถ้าหากว่าคุณมีคำถามอะไร สามารถคุยกับเธอได้เลยโดยตรง”“อ้อ เจียงชั่น!” โมนายิ้มในขณะที่ก้มลงมองเล็บมือที่เพิ่งทำมาของเธอ “มีประสบการณ์หรือเปล่า? ไม่ใช่ใครก็จะดูแลฉันได้นะ”“ไม่ต้องกังวลครับคุณโมนา แม้ว่าผู้ช่วยเจียงจะไม่ได้อยู่ในวงการนี้นาน แต่ความสามารถในการทำงานของเธอโดดเด่นมาก”“ความสามารถในการทำงานหรือยั่วผู้ชายกันแน่ที่โดด
“ไอ้สารเลว! แกมันน่ารังเกียจ”สีหน้าของหยินรั่วหงแดงจัดฮั่วจ่านเฮ่อมองกลับด้วยรอยยิ้ม ภายใต้แววตาเจ้าเล่ห์มีความชั่วร้ายอยู่เต็มเปี่ยมเครื่องบินส่วนตัวของฮั่วจือสิงตกจริง แต่หยินรั่วหงไม่รู้เรื่องนี้ในตอนนั้นเขาพบกับฮั่วจ่านเฮ่อที่งานเลี้ยงหลายแห่ง พวกเขาเป็นเพียงคนที่รู้จักกันเท่านั้นนอกเหนือจากการฝึกฝนด้านการแพทย์และเภสัชกรรมแล้ว ตระกูลหยินในหนานหยางยังเปิดสนามบินพลเรือนอีกด้วย สนามบินขนาดใหญ่หลายแห่งในหนานหยางอยู่ภายใต้การควบคุมของตระกูลหยินดังนั้นฮั่วจ่านเฮ่อจึงมีแผนนี้ขึ้นมา ทว่าเขาซ่อนความจริงนี้จากหยินรั่วหง ก่อนจะใช้อุบายในการใช้ช่างเทคนิคเข้ามาทำอะไรบางอย่างกับเครื่องบินของฮั่วจือสิง...จากนั้นเขาก็แกล้งทำกรรมธรรม์ก้อนใหญ่แล้วบอกหยินรั่วหงว่าเงินหลายล้านจะตกเป็นของเขาหยินรั่วหงไม่คิดมาก่อนว่าตัวเองจะกลายเป็นผู้ร้ายในการก่ออาชญากรรมที่เลวร้ายในครั้งนี้ด้วย“ประธานหยิน ถ้าเรื่องนี้ถูกพูดออกไป จะไม่มีใครฟังคำอธิบายของคุณหรอกนะ เพราะพวกเขาจะคิดว่าคุณเป็นคนที่ร่วมทำร้ายฮั่วจือสิงเหมือนกัน”“เมื่อถึงเวลาชื่อเสียงและความมั่นคงของคุณก็จะถูกทำลายลงไป”หยินรั่วหงหายใจเข
“ใช่”ฮั่วจือสิงขมวดคิ้วด้วยสีหน้าที่จริงจังขึ้นมาเล็กน้อย “ผมไม่ได้บอกเรื่องนี้กับชั่นชั่น ดังนั้นอย่าพูดเรื่องนี้เลยนะ...”“เกิดอะไรขึ้น?” “ช่วงนี้อาการบาดเจ็บที่ขา...มันมีอาการนิดหน่อยน่ะ”เสิ่นเซียวตกใจ รีบพาเขาไปเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดทันที“ไม่มีอะไรหรอก” ฮั่วจือสิงตบไหล่อีกฝ่าย “มันน่าจะกำเริบ ก่อนหน้านี้ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ช่วงนี้อากาศเย็นลงมาก ก็จะเจ็บมากหน่อย”“ผมจำได้ว่าตอนนั้นคุณให้ยาผม ทั้งแบบกินแล้วก็แบบทา มันได้ผลดีมากนะ..วันนี้ก็เลยอยากจะให้สั่งยาเพิ่ม”เสิ่นเซียวลังเลอยู่นาน โดยที่ไม่พูดอะไร“มีอะไรรึเปล่า?”ฮั่วจือสิงนึกสงสัยว่าแพทย์อาจจะไม่สามารถสั่งยาได้ง่ายดายอย่างทีคิด?“จือสิง” เสิ่นเซียวมองเขาแล้วเม้มปากแน่น ในที่สุดก็ตัดสินใจเอ่ยออกมา “ที่จริงผม..ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคือยาอะไร”“ว่าไงนะ?” ฮั่วจือสิงประหลาดใจ “แต่ตอนนั้นคนที่ให้ยากับผมคือคุณนะ”“ใช่ แต่ยานั่นมีคนมอบให้คุณอีกที”ฮั่วจือสิงยิ่งเกิดความสับสนมากขึ้นเสิ่นเซียวถอนหายใจแล้วบอกความจริงทั้งหมด“คุณลองคิดดูสิ ถึงผมจะจบจากโรงเรียนแพทย์มา แต่ตอนนั้นผมไม่ได้เป็นหมอมานานแล้ว ไม่เคยผ่า
“ครับ นายน้อย” ฟางฮั่นพยักหน้าแต่หยินรั่วหงเป็นคนค่อนข้างลึกลับ ไม่ชอบปรากฎตัวต่อสาธารณะแม้แต่ในงานประมูลวันนั้น ก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้เจอหน้าเขา“ถ้านัดหมายในนามของเรา เขาจะต้องรับ” ฮั่วจือสิงคิดเรื่องนี้ไว้แล้ว“แล้ว...ในนามของคุณชายสองล่ะครับ?”“ไม่จำเป็น” ฮั่วจือสิงเม้มปาก “บอกแค่ว่าปู่อยากเจอเขา”ฟางฮั่นสะดุ้งเล็กน้อย “นี่ก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง ถ้ามีปู่ร่วมด้วย หยินรั่วหงจะไม่กล้าทำอะไร”ฮั่วจือสิงยิ้ม ก่อนจะปรับสีหน้าไปเป็นไม่พอใจอีกครั้ง“นายน้อย เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?” ฟางฮั่นรู้สึกตระหนกเล็กน้อยฮั่วจือสิงลดเสียงทันทีและเจียงชั่นก็ยังอยู่ในครัว“เปล่า” เขาขยับตัวเล็กน้อย “ก็ปัญหาเดิม ๆ”“อาการบาดเจ็บเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือเปล่าครับ?” ฟางฮั่นเป็นกังวลหลังจากเหตุการณ์เครื่องบินตก ฮั่วจือสิงได้รับบาดเจ็บหนัก แม้ตรวจแล้วทุกอย่างจะปกติดี แต่ก็มีเพียงอาการบาดเจ็บที่ขาเท่านั้นที่ยังมีผลกระทบที่ต่อเนื่องมาจนถึงตอนนี้“จริง ๆ มันก็ไม่ได้ร้ายแรง” เขายืดตัวขึ้นแล้วเอ่ยอย่างใจเย็น “ช่วงนี้อากาศเริ่มเย็นลง ก็เลยเจ็บมากเป็นบางครั้งแต่ไม่รุนแรงมาก คงจะไม่เป็นอะไรถ้าฉันพอจะปรั
เจียงชั่นหน้าแดงด้วยความเขินอาย ในขณะที่ฮั่วจือสิงกำลังโมโห เธอรีบผละออกจากเขาแล้ววิ่งเข้าไปในบ้านทันทีฟางฮั่นอ้าปากค้าง สายเกินไปแล้วที่เขาจะหนีไปอีกคน...สีหน้าของฮั่วจือสิงมืดดำราวกับมีหมึกดำ ๆ มาป้ายไว้บนหน้าเขาเดินออกไปตรงลานสนามหญ้าอย่างรวดเร็ว พลางมองฟางฮั่นด้วยแววตาที่แข็งกร้าวและเย็นชาฟางฮั่วกระตุกยิ้มแห้ง ๆ หัวใจเต้นแรงจนจะกระเด้งออกมาจากปาก“เกิดอะไรขึ้น?” เขาเอ่ยตอนนี้ฟางฮั่นลืมทุกสิ่งที่เขาต้องการจะพูดแล้ว จึงมองคนตรงหน้าด้วยแววตาว่างเปล่าความเงียบไม่กี่วินาที ทว่าความรู้สึกกลับยาวนานเป็นทศวรรษจากนั้นเจียงชั่นก็ได้ยินเสียงคำรามเข้ม ๆ ของใครบางคนดังขึ้นมา “ฟางฮั่น!”ป้าเฉินที่กำลังเลือกผักอยู่สะดุ้งแล้วรีบวิ่งออกมาจากครัวทันที“เกิดอะไรขึ้นคะ?”เจียงชั่นนั่งหัวเราะอยู่บนโซฟา“เสี่ยวฟางมีเรื่องเหรอคะ?” ป้าเฉินส่ายหน้าแล้วถอนหายใจ ก่อนจะกลับไปที่ห้องครัวพลางพึมพำกับตัวเอง “ตะเบ็งเสียงขนาดนี้ คงต้องทำซุปไว้ให้นายน้อยหน่อยแล้วล่ะนะ...”ที่สนามหญ้าเองเจ้าแมวส้มที่กินอาหารจนหมดก็กำลังเหวี่ยงร่างอ้วน ๆ ของมันไปมา ขณะที่มองชายหนุ่มทั้งสองแล้วร้องเหมียวสองสามครั้ง
จู่ ๆ ไป๋จิ่งหยวนก็รู้สึกว่าหัวใจของตัวเองเต้นผิดจังหวะ แทบจะควบคุมเอาไว้ไม่ได้ใบหน้าที่ชัดเจนของเหยาหว่านยินสะกดเขาราวกับมีเวทย์มนตร์ ดวงตากลมคู่นั้นราวกับโลกที่ลึกลับกำลังดึงดูดให้เขาเข้าไปสำรวจไป๋จิ่งหยวนมองเธออย่างว่างเปล่า บรรยากาศโดยรอบเงียบลง ราวกับว่าทุกอย่างกำลังมุ่งความสนใจไปที่เธอลมเย็น ๆ ที่พัดกระโชกมาทำให้เหยาหว่านยินไอออกมาสองสามครั้งทำให้ไป๋จิ่งหยวนถอดเสื้อคลุมออกมาแล้วสวมให้กับเธอแทน“ไม่เป็นไร...”“ใส่เถอะ” เขาช่วยกระชับเสื้อให้กับเธอ “ไม่สบายเหรอคุณ? หรือว่าเป็นหวัด?”เหยาหว่านยินเม้มปากแล้วมองเขาเงียบ ๆตอนนี้เริ่มมีคนทะยอยออกมาจากประตูงานประมูล“ดูเหมือนงานจะจบแล้วล่ะ” ไป๋จิ่งหยวนเอ่ย “เอาล่ะ..เดี๋ยวผมไปส่ง คุณอยู่ที่ไหน?”เหยาหว่านยินชะงักแล้วส่ายหน้าเล็กน้อยทุกอย่างราวกับภาพฝัน ในตอนที่เธอตื่นเธอก็ต้องกลับสู่โลกของความเป็นจริงความจริงที่ว่าเธอเป็นลูกสาวนิรนามของตระกูลเหยา ไม่รู้ว่าจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ต่อไปอีกนานแค่ไหน ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง...ร่างบางหันหลังกลับแล้วเดินไปอย่างช้า ๆ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงคนของตระดูลเหยากำลังตามหาเธออยู่ไม่ไกล
“คุณชื่อหว่านยินเหรอ?” ไป๋จิ่งหยวนขมวดคิ้วดูสับสน “แล้วนามสกุลอะไร?”เหยาหว่านยินหลับตาลงแล้วนิ่งเงียบไป๋จิ่งหยวนจึงยิ้มกว้าง ไม่ว่าเธอจะนามสกุลอะไรแต่แค่ได้รู้จักชื่อก็ดีมากแล้ว“เอาล่ะ เดี๋ยวผมจะพาไปเดินเล่นในสวน” เขาเอ่ยพลางเดินออกไปจากประตู“นี่คุณ...”แต่ก่อนที่เขาจะออกไปได้ ร่างสูงก็ถูกเหยาหว่านยินรั้งเอาไว้เขาตะลึงก่อนจะหันกลับมามองเขายังไม่ได้ใส่กางเกง!ชายหนุ่มหน้าแดง ในขณะที่มองเหยาหว่านยินด้วยความตระหนก ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ใส่เธอดีเห็นอย่างนั้นเหยาหว่านยินก็รู้สึกขบขัน ใบหน้าที่ซีดเซียวเริ่มมีสีสันขึ้นมาทันทีไป๋จิ่งหยวนวิ่งเข้าไปในห้องแล้วรีบสวมกางเกงทันที ก่อนจะพาเหยาหว่านยินออกไปเดินเล่นในค่ำคืนของฤดใบไม้ร่วงช่างสวยงาม ภายในสวนที่ได้รับแสงแดดอบอุ่นมาตลอดทั้งวัน ยังคงมีกลิ่นอายของความอบอุ่นไปทั่วทั้งบริเวณ รอบข้างมีความเงียบสงบและมีเสียงนกนานาชนิดร้องเป็นระยะ ๆ แสงไฟดวงเล็ก ๆ ที่ตกแต่งสวยงามราวกับมีหิ่งห้อยกำลังบินอยู่เหยาหว่านยินสูดหายใจลึกแล้วหลับตาลงเบา ๆเธอยืนอยู่บนสนามหญ้าและหายใจได้อย่างอิสระ อิสระที่เธอเฝ้าใฝ่หามาทั้งชีวิต“ดีจัง” เธอหั