หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปเสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นมา ปลุกคนตัวเล็กที่นอนหลับสนิทให้ตื่นจากนิทรา ม่านฟ้าลุกขึ้นมาทันทีอย่างไม่มีท่าทางอิดออด
“อืบบบบ” ม่านฟ้าลุกขึ้นนั่งและบิดตัวไปมาเพื่อไล่ความง่วงและเรียกความสดชื่น ใบหน้าสวยคลี่ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข แม้จะต้องตื่นแต่เช้าตรู่ แต่เธอก็ยังสดชื่น เพราะเมื่อคืนเข้านอนแต่หัวค่ำ อีกทั้งยังตื่นเต้นกับการเริ่มต้นการเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย
หญิงสาวรีบไปอาบน้ำแล้วสวมชุดนักศึกษา เสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดตาพอดีตัว เธอติดเข็มตรามหาวิทยาลัยเอาไว้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว กระโปรงพลีทยาวคลุมเข่าเรียบร้อย ม่านฟ้าหมุนตัวอยู่หน้ากระจกอย่างภาคภูมิใจในตัวเอง ชุดนี้ทำให้เธอดูโตขึ้นมาอีกนิด ผิดกับตอนที่สวมชุดมัธยมปลาย
นักศึกษาสาวเตรียมของจำเป็นใส่กระเป๋าสะพายและจัดหนังสือที่ต้องเรียนในวันนี้ไปด้วย เธอเดินลงมาจากชั้นสองด้วยสีหน้าสดใสอารมณ์ดี แม่บ้านมองคุณหนูที่ดูโตขึ้นแล้วคลี่ยิ้มเอ็นดู
“คุณหนูของป้าจะเป็นสาวแล้ว” ป้าแก้วแม่บ้านเก่าแก่พูดขึ้นมาอย่างภูมิใจในคนที่เธอเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก
“ขอบคุณนะคะป้าแก้ว ที่ดูแลเจ้าขามาอย่างดี”
ม่านฟ้าได้ยินแม่บ้านเอ่ยออกมาแบบนั้น เธอคลี่ยิ้มหวานให้แล้วสวมกอดอย่างสนิทสนม เพราะป้าแก้วเป็นแม่บ้านที่อยู่คู่บ้านหลังนี้มาเนิ่นนานจึงสนิทกันเหมือนเป็นญาติคนหนึ่ง เธออยากได้ยินคนบอกว่าเธอโตขึ้นแล้วเพราะที่ผ่านมาแม้อายุจะมากขึ้นทุกวัน แต่การเลี้ยงดูอย่างประคบประหงมของพ่อและแม่ ก็ทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองเป็นเด็กอยู่ตลอดเวลา
“เจ้าขามากินข้าวก่อนลูก เดี๋ยวพ่อและแม่จะไปส่งที่มหาวิทยาลัย” นวลปรางเดินออกจากห้องอาหารเพื่อมาตามลูกสาวไปกินข้าว
“ค่ะแม่” ม่านฟ้าเดินตามมารดาเข้าไปในห้องอาหาร พ่อของเธอนั่งรออยู่ก่อนแล้ว เธอจึงเข้าไปยกมือไหว้ กอดและหอมแก้มอย่างที่เคยทำทุกวัน “สวัสดีค่ะพ่อ”
“สวัสดีลูก มานั่งกินข้าวจะได้รีบเดินทาง” ฉัตรเทพยกมือขึ้นตบหัวลูกสาวเบาๆ อย่างเอ็นดู ก่อนจะบอกให้เธอไปนั่งเพื่อกินข้าว
“ป้าแก้วตักข้าวได้เลยจ้ะ” คุณนวลปรางบอกแม่บ้านในตอนที่มานั่งพร้อมกันแล้ว
แม่บ้านตักข้าวต้มมาเสิร์ฟให้ ม่านฟ้ากินอย่างเอร็ดอร่อยและกินค่อนข้างไว เพราะอยากรีบไปมหาวิทยาลัยเต็มแก่
“ใจเย็นๆ ค่อยๆ กินก็ได้ เดี๋ยวก็สำลักหรอก” แม่ของเธอต้องรีบบอกว่าเพราะกลัวลูกสาวจะสำลัก
“ค่ะแม่” หญิงสาวเงยหน้ายิ้มตอบ แต่ยังก้มหน้าก้มตากินข้าวต้มต่อ ให้หมดชามโดยเร็ว
ฉัตรเทพเห็นท่าทางของลูกก็เข้าใจว่าลูกคงตื่นเต้นมาก เขาเอ็นดูลูกสาวมากจึงเอื้อมมือไปลูบศีรษะอย่างอ่อนโยน ก่อนจะพากันรีบกินข้าว เพื่อจะได้ออกเดินทางไปมหาวิทยาลัย
จากนั้นทั้งสามคนก็เดินทางไปที่มหาวิทยาลัยด้วยรถตู้คันหรูสมฐานะของเจ้าของบริษัทนำเข้าและส่งออกอาหารแปรรูป
*****
“จอดค่า” ม่านฟ้าร้องออกมากะทันหัน จนคนขับรถต้องรีบเหยียบเบรกทันที
“จะให้จอดทำไมลูก” ฉัตรเทพเอ่ยถามด้วยความสงสัยเพราะตอนนี้ยังอยู่แค่หน้ามหาวิทยาลัยเท่านั้น
“ไม่ได้ส่งแต่ที่หน้ามหา’ลัยเหรอคะ” ม่านฟ้าหันไปถามพ่อกับแม่ที่นั่งอยู่ข้างๆ
“พ่อกับแม่ไม่ปล่อยให้เจ้าขาเดินเข้ามาอย่างโดดเดี่ยวหรอกลูก วันนี้พ่อกับแม่จะไปส่งให้ถึงห้องเรียนเลย” นวลปรางยิ้มให้ลูกสาวอย่างอ่อนโยน
ม่านฟ้าได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ แล้วต้องปล่อยให้ท่านเข้ามาส่งอย่างไม่มีทางเลือกเพราะเธอขัดอะไรไม่ได้ ยังไงท่านก็คงยืนกรานอย่างเดิมแน่นอน พ่อกับแม่ทำแบบนี้ตั้งแต่เธอเป็นเด็กจนถึงเรียนจบชั้นมัธยมปลาย ทุกวันเปิดภาคเรียนใหม่ ท่านทั้งสองจะต้องมาส่งมาเธอจนถึงหน้าตึกด้วยความเป็นห่วง ซึ่งความเป็นห่วงนี้ก็ตามมาจนถึงการเปิดเรียนของมหาลัยเลยทีเดียว
“ตั้งใจเรียนนะเจ้าขา” นวลปรางเดินเข้ามาถึงหน้าตึกคณะพร้อมกับสามีของเธอ
“ค่ะแม่ แล้วคอนโดของเจ้าขาล่ะคะ” ม่านฟ้ายิ้มขอบคุณและเอ่ยถามเรื่องคอนโดของเธอ
พ่อของเธอจึงเอาคีย์การ์ดให้พร้อมกับบอกที่อยู่ของคอนโดให้ลูกสาวรับรู้
“นี่คีย์การ์ดนะ เย็นนี้พ่อจะให้คนขับรถมารับและพาไปที่คอนโด ข้าวของของลูก เดี๋ยววันนี้พ่อจะให้คนงานที่บ้านเป็นคนขนขึ้นไปจัดไว้ให้เอง เจ้าขาไปถึงก็จะเห็นของเองลูก” ฉัตรเทพบอกอย่างอ่อนโยน เขาจะกลับไปสั่งแม่บ้าน คนสวน คนขับรถให้ช่วยกันขนของของม่านฟ้าไปไว้ที่คอนโด มีทั้งที่ซื้อใหม่และของเก่าที่เธอใช้ประจำ
“ขอบคุณค่ะพ่อ แค่เอาไปไว้ในห้องก็พอค่ะ เดี๋ยวเจ้าขาจัดของเอง” ม่านฟ้ายิ้มกว้างพร้อมกับรับคีย์การ์ดมา คอนโดแห่งนี้พ่อเธอเพิ่งทำการซื้อและใส่ชื่อท่านไว้ก่อนเพราะเธออายุยังไม่ถึงยี่สิบปี แต่สุดท้ายมันก็ต้องเป็นของเธอ
“จะจัดเองให้เหนื่อยทำไม พ่อว่าให้คนงานของเราจัดให้ดีกว่า” ฉัตรเทพบอกอย่างใจดี เพราะปกติลูกสาวคนนี้ก็แทบจะไม่ได้ทำอะไรด้วยตัวเองอยู่แล้ว
“เจ้าขาอยากทำเองค่ะ พ่อให้เจ้าขาทำอะไรด้วยตัวเองบ้างสิคะ เจ้าขาโตแล้วนะคะ” ม่านฟ้ายืนกรานเสียงแข็ง ใบหน้าสวยเจือความเซ็งอยู่ในที จึงทำหน้ายู่ใส่พ่อ
“ตามใจก็แล้วกัน งั้นเดี๋ยวพ่อให้คนขนไปให้ แล้วลูกก็จัดเอาเอง” ฉัตรเทพต้องยอมให้ลูกจัดของเอง เห็นเธออารมณ์ดีมา ก็ไม่อยากให้ต้องหงุดหงิดก่อนขึ้นไปเรียนวันแรก
“ขอบคุณค่ะ” คราวนี้ม่านฟ้าคลี่ยิ้มแป้น แล้วยกมือไหว้พ่อและแม่อย่างอารมณ์ดี
“ไปเรียนได้แล้วลูก พ่อกับแม่จะกลับแล้ว เจอกันวันหยุดนะลูก” นวลปรางดึงลูกสาวเข้ามากอด ก่อนจะผละออกแล้วบอกให้ลูกสาวไปเรียน ส่วนเธอกับสามีก็เดินไปขึ้นรถตู้เพื่อกลับบ้าน
“ค่ะแม่” ม่านฟ้าตอบกลับพ่อแม่และยืนรอจนรถวิ่งออกไป
ตอนที่4เธอจึงเดินขึ้นมาบนอาคารเรียนแล้วดูเลขห้องสำหรับเรียนคาบเช้าพอมาถึงก็กวาดตามองหาที่นั่ง“ตรงนี้มีคนนั่งไหม” หญิงสาวเดินเข้าไปเอ่ยถามกับคนที่นั่งอยู่ข้างโต๊ะที่ว่างม่านฟ้าได้คำตอบเป็นการส่ายหน้า ท่าทางของคนที่เธอถามจะเป็นคนที่ห้าว ๆ และหัวดื้อ สังเกตจากแววตาและบุคลิก“เธอชื่ออะไรเหรอ เราชื่อเจ้าขานะ” ม่านฟ้าเริ่มทำความรู้จักกับเพื่อนร่วมห้องเรียน เพราะเธอเข้ามาเรียนที่นี่โดยที่ไม่รู้จักใครเลยสักคน“เตยหอม ยินดีที่ได้รู้จัก ฉันไม่รู้จักใครเลย” เตยหอมตอบกลับเสียงเรียบ เธอตวัดสายตามาที่ม่านฟ้าแล้วยิ้มมุมปากเล็กน้อย “เหมือนกันเลย ฉันก็ไม่รู้จักใคร” ม่านฟ้ารู้สึกใจชื้นขึ้นมา เพราะตอนนี้เธอได้เพื่อนใหม่มาหนึ่งคนแล้วหญิงสาวคนที่นั่งอยู่ข้างหน้าของม่านฟ้าได้ยินเข้าก็หันหน้ามาหา ก่อนจะทักทายขึ้นมา“สวัสดีเจ้าขา เตยหอม ฉันมะปรางนะ ขอทำความรู้จักด้วยคนสิ ฉันก็ยังไม่มีเพื่อนเลย” มะปรางแนะนำตัวและยิ้มเขิน เพราะปกติเธอไม่ค่อยกล้าพูดกับใคร แต่อยากทำความรู้จักทั้งสองคนไว้จึงหันมาคุยด้วย ไม่อย่างนั้นเธอก็คงต้องเรียนแบบที่ไม่มีเพื่อนสักคนแน่ ๆ นั่นจะทำให้เวลามีงานกลุ่มจะต้องแย่แน่“จ้ะมะปราง ยิน
ตอนที่ 5ม่านฟ้ากลับมาคอนโดที่พ่อซื้อไว้ให้โดยมีคนขับรถไปรับมา แต่เธอสั่งให้เขากลับไปทันทีที่มาถึงคอนโด หญิงสาวยืนมองตึกสูงตระหง่านแล้วคลี่ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ ที่อยู่ใหม่ของเธออยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยแค่นิดเดียว“ขอบคุณนะคะพ่อ แม่” ม่านฟ้าพูดออกมาเบาๆ เพราะสุดท้ายแล้วทั้งสองคนก็ตามใจเธอด้วยการให้ออกมาอยู่ข้างนอกคนเดียว แถมยังหาคอนโดที่ดีที่สุดให้อีกด้วย แม้คีย์การ์ดจะไม่มีเลขห้องบอกไว้ แต่พ่อก็ส่งรายละเอียดให้ทางไลน์แล้ว ม่านฟ้าจึงขึ้นไปถูกห้องอย่างไม่ต้องกังวลติ๊งเพียงแตะคีย์การ์ดและกดรหัสเข้าไปประตูเปิดออกทำให้เจอกับกระเป๋าเดินทางและข้าวของที่พ่อให้คนขนมาไว้ให้ม่านฟ้าเดินไปดูกระเป๋าต่างๆ และยิ้มออกมา เพราะแม้จะบอกว่าไม่ต้องจัดห้องให้ แต่สงสัยป้าแก้วจัดเสื้อผ้าใส่ตู้ให้แล้ว แต่ของอื่นๆ ยังไม่ได้จัดการ“นี่คงเป็นฝีมือป้าแก้วแน่ ๆ เดี๋ยวเปลี่ยนเสื้อผ้าและค่อย จัดห้องดีกว่า” ม่านฟ้าพูดออกมายิ้มๆ เพราะป้าแก้วก็คือป้าแก้วที่เป็นห่วงเธอเสมอหญิงสาวรีบเปลี่ยนเสื้อผ้ามาเป็นเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นก่อนจะเปิดกระเป๋าต่างๆ ออก แล้วจัดของเข้าที่เข้าทางอย่างเป็นระเบียบ พอเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ห
ตอนที่ 6เช้าวันต่อมาม่านฟ้ารีบตื่นขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวแล้วเดินไปที่ซอยข้าง ๆ ก่อนจะไปมหาวิทยาลัย ตอนที่อยู่บ้านเธอมีแม่บ้านทำอาหารเช้าเอาไว้ให้ แต่พอมาอยู่คนเดียว เธอก็ปรับตัวด้วยการตื่นไวกว่าปกตินิดหน่อย แล้วมาหาอะไรรองท้องก่อนไปเรียน ในซอยมีร้านอาหารเช้าจำนวนมาก จึงไม่มีปัญหาในเรื่องนี้“เป็นไงบ้างจ๊ะ ได้ใช้ชีวิตแบบอิสระหนึ่งวันเต็ม ๆ” เตยหอมเอ่ยถามม่านฟ้าทันที เธอมาถึงมหาวิทยาลัยก่อนใคร“ก็ดีนะ” ม่านฟ้ายักไหล่ตอบอย่างสบายๆ วันแรกยังไม่รู้หรอกเพราะยังตื่นเต้นกับชีวิตอิสระนี้ แต่เธอก็คิดว่าหลังจากนี้ไปก็คงไม่มีอะไร เพราะถ้าขาดเหลือตรงไหน พ่อแม่ก็ต้องให้มาอยู่แล้วหนึ่งเดือนผ่านไปม่านฟ้าได้ใช้ชีวิตในแบบที่ตนเองต้องการมากว่าหนึ่ง เดือนแล้ว กิจวัตรประจำวันไม่ได้มีอะไรที่แตกต่างไปจากเดิม วันจันทร์ถึงศุกร์ก็มีเรียน เสาร์อาทิตย์มีเข้ากลุ่มรับน้องบ้าง ส่วนใหญ่เป็นการแนะนำการใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยและการละลายพฤติกรรมเท่านั้น หนึ่งเดือนที่ผ่านมาเธอยังไม่ได้กลับบ้านเลยสักครั้ง เพราะทั้งเรียนหนักและกิจกรรมเยอะ พ่อแม่ก็เข้าใจและไม่ว่าอะไรเพราะเธอโทรกลับไปที่บ้านบ่อยๆ“ยัยเตย อาจารย์มองแกแล้วนะ”
ตอนที่ 7‘ทำไมถึงติดตาได้ขนาดนี้วะ’…อาทิตย์นึกสงสัยในใจ เขาพยายามละความสนใจจากเด็กเฟรชชีหน้าใสคนนั้น ดึงสายตากลับมาตรงหน้าตนเอง พยายามมองกลุ่มสาว ๆ ที่เดินเข้าออกในโรงอาหาร ทว่าในหัวกลับมีแต่ใบหน้าของน้องที่ลอยเข้ามา“คืนนี้ไปกินเหล้ากันดีกว่า” อาทิตย์เอ่ยขึ้นมาเมื่อปัดภาพอีกคนออกไปไม่ได้ จึงคิดว่าไปปลดปล่อยอารมณ์ดีกว่าเพื่อนทั้งสองที่กำลังมองสาวอยู่ รีบหันกลับมาที่ต้นเสียงทันที“ที่ไหน มึงนัดมาเลย” แชมป์ตอบรับคำชวนทันที“ที่เดิม” อาทิตย์ตอบกลับสั้น ๆ ที่เดิมที่เขาพูดถึงคือ ผับ THE SUN ที่ไปกันอยู่เป็นประจำจนคุ้นเคย ที่นั่นสาว ๆ เยอะและเด็ด ๆ กันทั้งนั้น“เวลาเดิมนะมึง” แบงค์เอ่ยขึ้นมาอย่างกระตือรือร้น“อื่ม” อาทิตย์พยักหน้ารับ เขาชวนไปเที่ยวผับก็เพราะอยากไปเจอสาว ๆ คนอื่น ที่จะทำให้เขาลบภาพน้องเฟรชชีออกจากหัวได้ผ่านไปไม่กี่นาที รุ่นน้องสาวต่างคณะก็เดินผ่านหน้าเขาเพื่อออกจากโรงอาหารไปใบหน้าสวยเรียบนิ่ง ลำคอของเธอตั้งตรงราวกับคนที่เย่อหยิ่งนัก เธอไม่สนใจคนรอบข้างสายตามองตรงไปข้างหน้า แม้ว่าเพื่อน ๆ ของอาทิตย์แซวอะไร เธอก็เมินเฉยจนเดินพ้นออกไปริมฝีปากหยักลึกกระตุกยิ้ม อาทิตย์มองตาม
ตอนที่ 8ม่านฟ้าเดินกอดเอวแม่เข้ามาในบ้าน นั่งลงที่โต๊ะอาหารแล้วคุยกับพ่อแม่อย่างสนุกสนาน พร้อมกับกินอาหารที่แม่ตั้งใจทำไว้ให้“กับข้าวฝีมือแม่อร่อยเหมือนเดิมเลยค่ะ” ม่านฟ้าบอกอย่างเอาใจมารดา แต่รสมือแม่ก็ไม่ตกเลย แม้ว่าท่านจะไม่ค่อยได้ทำกับข้าวแล้วเพราะต้องไปช่วยคุณพ่อทำงาน“กลับมาอยู่บ้านสิ เดี๋ยวแม่ทำให้กินทุกวันเลย” นวลปรางพูดขึ้นยิ้มๆ เธอมีความสุขที่ได้อยู่พร้อมหน้ากันอย่างนี้ ถึงแม้ว่าจะขาดลูกชายคนโตที่ไปทำงานอยู่ที่ต่างประเทศก็ตาม“แม่อะ เจ้าขาต้องไปเรียนนิคะ” ม่านฟ้ายู่หน้าใส่มารดาเพราะสุดท้ายแม่ก็วกกลับมาเรื่องเดิม“ฮ่าๆ” นวลปรางหัวเราะด้วยความเอ็นดู ก่อนจะพูดต่อ“แม่พูดเล่น แม่เข้าใจลูกอยู่แล้ว ไว้วันหลังกลับมาอีกนะ แม่จะทำให้กินอีกนะลูก ให้คนขับรถไปรับมาแล้วกินข้าวเสร็จค่อยกลับไปก็ได้”“ค่ะแม่” ม่านฟ้ายิ้มหวาน แล้วชวนพ่อแม่คุยเรื่องอื่น ๆ ต่อหญิงสาวอยู่ที่บ้านต่ออีกสองวันเพราะเป็นวันหยุดพอดี แล้วกลับไปเรียนตามปกติ ผ่านไปอีกหนึ่งเดือนเธอก็ยิ่งคุ้นชินกับการใช้ชีวิตแบบนี้ จนวันนี้จู่ ๆ เตยหอมพูดขึ้นมา“เปิดหูเปิดตากันหน่อยไหมจ๊ะสาวๆ” เตยหอมเอ่ยขึ้นมาหลังจากเลิกคลาส หน้าตาเจ้าเ
ตอนที่ 9ม่านฟ้ามองแก้วเครื่องดื่มสีหวานที่เด็กเสิร์ฟเอามาเสิร์ฟให้ หน้าตาน่าดื่มมาก แต่พอรู้ว่ามีผสมแอลกอฮอล์อยู่ เธอก็ลังเลเพราะเธอไม่เคยดื่มแอลกอฮอล์เลย กลัวว่าตัวเองจะคออ่อน ดื่มแค่นิดหน่อยก็เมาแล้ว“ดื่มเถอะน่า ไม่แรงหรอก” เตยหอมบอกออกไป เธอรู้ว่าเพื่อนไม่เคยลิ้มลองเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เธอก็เลยสั่งเครื่องดื่มที่ไม่แรงมาไว้ให้ทั้งของมะปรางและม่านฟ้าเลย“อืม รสชาติดีอยู่นะ” มะปรางลองชิมก่อนเป็นคนแรก ม่านฟ้าหันไปมองแล้วลองชิมด้วย“อื่ม รสชาติอมเปรี้ยวหวาน” ม่านฟ้าพูดขึ้นบ้าง เธอรู้สึกว่ารสชาติดีทีเดียว เธอเลยดื่มได้แบบสบาย ๆ“เป็นไง โอเคไหม” เตยหอมเอ่ยถามทั้งที่สีหน้าของม่านฟ้าและมะปราง“โอเคเลย แล้วของแกรสชาติเป็นยังไงเหรอ” ม่านฟ้าตอบกลับไป ก่อนจะถามขึ้นเมื่อเห็นว่าน้ำในแก้วของเตยหอมสีคล้าย ๆ กันกับแก้วของตนเอง แต่ลักษณะของแก้วไม่เหมือนกัน“แบบนี้จะขมนิด ๆ ใช้เหล้าคนละอย่างกัน ลองชิมดูไหมล่ะ ฉันจะสั่งให้” เตยหอมบอกเพื่อยิ้มๆ“อยากลอง แต่กลัวเมา” ม่านฟ้าเอ่ยออกมาตรง ๆ เธอกลัวจะเมาจนไม่ได้สติและต้องเป็นภาระเพื่อน ๆ“ถ้าแกรู้สึกว่าเริ่มกรึ่ม ๆ ก็ไม่ต้องดื่มต่อไง ลองนิดเดียวไม่เมาหรอก
ตอนที่ 10ชายหนุ่มเผลอมองอยู่นานด้วยความลืมตัวว่ามีเพื่อนรักที่คอยจ้องจับผิดอยู่ด้วย จนได้ยินเสียงเพื่อนทักขึ้น“มึงชี้มาเลยว่า คนไหนที่มึงสนใจ” เสียงของแชมป์ดึงสติของอาทิตย์กลับมา ชายหนุ่มรู้ตัวว่าเผลอมองนานเกินไป จนเพื่อน ๆ สังเกตเห็น เขาลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ ก่อนจะหันกลับมามองหน้าเพื่อนด้วยสีหน้าเรียบเฉย“ไม่มี” เขาตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง และหันไปยิ้มให้สาวสวยที่เดินผ่านแล้วมองเขาด้วยแววตายั่วยวน หากไม่มีใบหน้าของรุ่นน้องเข้ามาในหัว เขาคงลุกเดินตามสาวสวยคนนั้นไปแล้ว“กูไม่เชื่อ!” แชมป์สวนกลับทันที “มองตาค้างขนาดนั้นต้องมีสักคนแน่นอนที่มึงกำลังสนใจอยู่”“กูว่าน้องกลุ่มนี้คุ้น ๆ ว่ะ” แบงค์ย่นคิ้วเข้าหากัน เขาพยายามนึกว่าเคยเจอสาว ๆ กลุ่มนี้ที่ไหน แต่ผับนี้ส่วนใหญ่คนที่มาเที่ยวก็จะเป็นนักศึกษาที่มหา’ลัย หรือสามคนนี้เรียนที่เดียวกันกับเขา“จะไม่คุ้นได้ไงวะ ไฟมันเคยมองน้องกลุ่มนี้แหละที่โรงอาหารคณะเราไง แต่มันนานแล้วนะ ประมาณเดือนหนึ่งแล้ว” แชมป์พูดขึ้นอย่างจำได้แม่น เขาถึงได้มั่นใจว่าอาทิตย์กำลังสนใจใครสักคนในกลุ่มนั้น“จริงด้วย กูนึกออกละ” แบงค์คิดออกแล้วก็หันขวับมามองหน้าเพื่อนรักท
ตอนที่ 11แววตาเรียบนิ่งและสีหน้าที่ไม่สะทกสะท้านกับเดิมพันของอาทิตย์ ทำให้เพื่อนรู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมา ยิ่งทำให้พวกเขาอยากแกล้งมากยิ่งขึ้น“เริ่มตอนนี้เลยไหม” แชมป์กระตุกยิ้มแล้วถามขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์อาทิตย์เลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม “ให้เริ่มตั้งแต่ตอนนี้เลยเหรอ ไม่ให้กูได้เตรียมตัวก่อนบ้างหรือไง” เขาถามออกมา“ต้องเตรียมตัวอะไรวะ เริ่มนับวันนี้เลย” แบงค์เอ่ยออกมา ในเมื่อรับคำท้ากันเรียบร้อยแล้ว เริ่มเลยก็ดี เพราะน้องคนสวยก็อยู่ตรงนี้ เขาอยากเห็นว่าเพื่อนรักจะเข้าหาน้องด้วยวิธีไหนอาทิตย์กัดฟันกรอด ‘ไอ้เพื่อนเวร พยายามจะต้อนให้เขาจนมุมให้ได้สินะ แต่คนอย่างเขาไม่เคยยอมแพ้กับอะไรง่าย ๆ เริ่มก็เริ่ม!’ เขาคิดในใจก่อนจะตอบอกไป“ได้!” อาทิตย์ตอบกลับไปอย่างจริงจัง“งั้นก็เริ่มจากไปขอชนแก้ว แล้วชวนน้องมานั่งที่โต๊ะให้ได้สิ แสดงฝีมือหน่อยเพื่อน ฉันจะรอดู” แชมป์เอ่ยออกมายิ้มๆอาทิตย์หันไปมองโต๊ะสาว ๆ แล้วกระดกเหล้าเข้าปาก สายตาของเขาจ้องไปที่สาวสวยในชุดสีชมพู ทุกท่าทางของเธอนั้นน่ารักไปเสียหมด“ไม่มีปัญหา” อาทิตย์ยักไหล่ให้เพื่อนรัก “คนอย่างไฟไม่เคยพลาดในเรื่องจีบหญิงอยู่แล้ว” เขาดื่มเหล้าแล้วตรึงสา
ตอนพิเศษ 2ร้านอาหารอาทิตย์ขับรถมาจอดที่ร้านอาหาร โดยที่ข้างๆ มีม่านฟ้าที่ถูกผ้าสีสวยปิดตาไว้ เพราะเขาอยากจะเซอร์ไพรส์เธอ“ถึงแล้วครับเจ้าขา” อาทิตย์ที่เปิดประตูแล้วอ้อมไปเปิดให้แฟนสาวพูดขึ้น ก่อนจะช่วยเธอลงจากรถและให้เกาะแขนเขาไว้“ที่ไหนคะเนี่ย หอมจัง” ม่านฟ้าพูดขึ้นเมื่อเดินเกาะแขนแฟนหนุ่มไปอย่างมั่นใจว่าเขาจะไม่ให้เธอล้ม เธอได้กลิ่นขนมและกาแฟ“เดี๋ยวก็รู้ครับ เดินดีๆนะ” อาทิตย์บอกพร้อมกับวางมือทับลงไปที่มือของเธอ ตอนนี้ใครๆ มองมาก็เหมือนคู่บ่าวสาวที่กำลังเดินเข้าสู่พิธีการแต่งงาน เพราะทั้งคู่แต่งกายด้วยเสื้อผ้าโทนสีเดียวกันอาทิตย์พาแฟนสาวเดินเข้ามาในร้านที่เขาและเพื่อนๆ มาช่วยกันตกแต่งไว้เพื่อม่านฟ้าโดยเฉพาะ จนมาหยุดอยู่ที่กลางร้าน เขาจึงเปลี่ยนมายืนซ้อนหลังเธอและค่อยๆ แกะผ้าปิดตาออกให้“โอ้ อะไรคะเนี่ยพี่ไฟ” ม่านฟ้าหันมาถามแฟนหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านหลังด้วยดวงตาเบิกกว้าง“วันพิเศษ สำหรับคนพิเศษครับ” อาทิตย์ตอบกลับไปด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม“พี่ไฟ ทำไมน่ารักอย่างนี้คะ จุ๊บ” ม่านฟ้าบอกกับแฟนหนุ่มพร้อมทั้งหอมแก้มเขาเป็นการขอบคุณไปหนึ่งที เพราะว่าภาพตรงหน้าของเธอคือร้านคาเฟที่เขาเคยพาเธอมา
ตอนพิเศษ 1รถสปอร์ตสุดหรูขับเข้ามาจอดเทียบกันสามคันที่หน้าคณะบริหาร ก่อนจะมีชายหนุ่มลงจากรถมาสามคน พวกเขาอยู่ในชุดที่แตกต่างกันแต่ความหล่อก็กินกันไม่ลง“ไงวะไอ้นักธุรกิจใหญ่ เห็นว่าเพิ่งเปิดตัวรถรุ่นใหม่เหรอวะ ส่งมาใช้บ้างดิวะ รอบนี้ฟันไปเท่าไรล่ะ” แบงค์ที่อยู่ในชุดทำงานสบายๆ กางเกงยีนเสื้อเชิ้ตแต่ทุกอย่างคือแบรนด์เนมที่บ่งบอกถึงฐานผู้บริหารของบริษัทนำเข้ารถหรูที่แต่ละคันไม่ต่ำกว่าสิบล้าน“ไม่ให้โว้ย ของซื้อของขายว่าแต่โชว์รูทแกว่างไหมวะ จะฝากรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ไปโชว์สักหน่อย เผื่อลูกค้าแกจะซื้อไปให้ขับเล่นบ้าง” แชมป์ตอบกลับเพื่อนทันที เขาแต่งตัวสบายๆ เพราะเพิ่งกลับมาจากโรงงานผลิตรถยนต์ที่ร่วมทุนกับต่างประเทศ ตอนนี้เขานำเข้ารถไฟฟ้าทั้งราคาเบาๆ และแบบราคาแพงขึ้น เรียกว่าอะไรที่เกี่ยวกับรถไฟฟ้าเขาทำทั้งหมด“เขี้ยวฉิบหาย กับเพื่อนก็ไม่เว้น ว่าแต่แกเถอะไฟ เห็นเปิดตัวสินค้าเพิ่มเหรอวะ แค่ขายเครื่องใช้ไฟฟ้ามันยังรวยไม่พอหรือไง ถึงคิดจะมาขายโซลาร์เซลล์ขนาดใหญ่อย่างนั้น” แบงค์ต่อว่าแชมป์แล้วกลับมาถามอาทิตย์ที่ยืนพิงรถคันหรูที่เคยเป็นของเขามาก่อน ใช่ รถคันที่เป็นประเด็นนั้นแหละ หลังจากจบเรื่องแบงค
ตอนที่ 60ม่านฟ้ารู้สึกดีกับคำพูดของเขา เธอกลั้นยิ้มเอาไว้เพราะกลัวว่าอาทิตย์จะรู้ว่าเธอใจอ่อนแล้ว ความจริงเรื่องนี้เตยหอมกับมะปรางได้โทรมาคุยกับเธอแล้ว ทั้งสองคนยืนยันว่าพี่เขาเลือกเธอแทนที่จะเอารถหรูที่เขาอยากได้ แต่ความโกรธ ความเสียใจมันยังมีอยู่เต็มหัวใจ จึงของอนหน่อยก็แล้วกัน“ถ้าพี่ไม่รักเจ้าขา พี่ก็คงไม่มาที่นี่ เพราะรู้ว่าเจ้าขุนมันโกรธอยู่ แถมเตยกับปรางก็บอกว่าพ่อของหนูโหดมาก ถ้าพี่มาอาจจะโดนยำได้ แต่พี่ก็คิดแล้วว่าจะยอมให้พ่อหรือเจ้าขุนเตะต่อยได้เต็มที่เลยแลกกับได้เจอเจ้าขา” อาทิตย์พยายามพูดให้เธอเชื่อว่าเขารักเธอจริง ๆ และตั้งใจมาง้อให้สำเร็จโดยที่ไม่กลัวอะไร“พี่เจ้าขุนก็ไม่น่าให้เข้ามาง่าย ๆ เลย น่าจะเตะต่อยให้หนัก” ม่านฟ้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงเง้างอน ทั้งที่เธอไม่ได้อยากให้พี่ชายทำแบบนี้ เธอแค่ประชดอาทิตย์เท่านั้น“แต่เจ้าขุนจะขับรถชนพี่เลยนะ ดีที่พี่กระโดดหลบทัน ไม่งั้นหนูอาจจะได้ไปงานศพพี่แล้ว” อาทิตย์พูดออกมาเชิงฟ้องเล็กๆ เขาเล่นใหญ่เพราะรู้ว่าม่านฟ้าก็รักเขาเหมือนกันม่านฟ้าเบิกตาโตด้วยความตกใจ เธอลุกขึ้นแล้วจับตัวเขาหมุนไปหมุนมาเพื่อมองร่างกายของอาทิตย์ถนัดๆ ก็เห็นว่าตัว
ตอนที่ 59“ทำไมพ่อยอมให้ไฟเข้าไปง่ายแบบนี้เนี่ย น่าจะยำมันให้สาแก่ใจสักหน่อยนะพ่อ” ภูผาเอ่ยออกมาด้วยความหงุดหงิด แทนที่พ่อจะกั้นเอาไว้ไม่ยอมให้เข้าไปเจอกับม่านฟ้า แต่กลับเปิดโอกาสให้ง่าย ๆ เพียงแค่อาทิตย์เอ่ยออกมาอย่างจริงจังฉัตรเทพคลี่ยิ้มแล้วกอดคอลูกชายเอาไว้ ก่อนจะเอ่ยขึ้น“เวลาเรารักใครสักคน เราจะยอมทำอะไรหลายอย่างได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งเรื่องที่ดีและเรื่องที่งี่เง่าที่สุดในโลก ไฟเขาก็ยอมทำได้ขนาดนั้น พ่อว่าเขารักเจ้าขาจริง ๆ” ฉัตรเทพเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“พ่อเชื่อด้วยเหรอ” ภูผาถามพ่อออกไปอย่างแปลกใจ“แล้วเจ้าขุนไม่เชื่อไฟหรือไง เจ้าขุนคิดว่าไฟโกหกเหรอ ตอบพ่อแบบที่ไม่มีความโกรธอยู่นะ” ฉัตรเทพถามลูกชายขึ้นมาอีกภูผาเงียบไปชั่วขณะ เพราะลึก ๆ แล้วเขาก็เชื่อที่อาทิตย์พูด เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก เขารู้นิสัยกันดี แค่เห็นว่าอาทิตย์มาตามง้อถึงที่นี่ เขาก็คิดแล้วว่าต้องรักน้องสาวของเขาจริง ๆ เพียงแต่ภาพของม่านฟ้าตอนที่ร้องไห้โฮยังติดตาเขาอยู่ เขาเลยมองข้ามความคิดตนเองแล้วปกป้องน้องสาว“ผมก็คิดว่ามันพูดจริง” ภูผาตอบเสียงแผ่ว ฉัตรเทพก็เลยหัวเราะออกมา“เราก็ปล่อยให้เขาได้ปรับความเข้าใจ
ตอนที่ 58ม่านฟ้าเอาโทรศัพท์ออกมากดเปิดเครื่อง เธอเปิดปิดอยู่ตลอด หากมีธุระที่ต้องติดต่อก็เปิด แต่พอติดต่อเสร็จแล้วก็ปิดเครื่อง เธอไม่ได้ดูโซเชียลเลย แต่ตอนนี้เธอจะไม่หนีอีกต่อไปLineToey : เจ้าขาแกเป็นยังไงบ้างMaprang : ฉันเป็นห่วงแกนะJaokha : สบายดี ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ฉันกลับมาแล้วม่านฟ้าเข้าไลน์แล้วกดเข้าไปอ่านไลน์กลุ่มที่มีข้อความค้างอยู่เยอะมาก เธอไล่อ่านข้อความที่เพื่อน ๆ ก็ส่งมาถามไถ่อยู่ตลอด พอเธอตอบกลับไปแล้วก็กดออกจากไลน์กลุ่ม และเปิดไลน์อื่นๆ ดู ทำให้เห็นแชตของอาทิตย์Fire : พี่คิดถึงหนูมากนะครับเธอเห็นข้อความที่ค้างอยู่จำนวนมาก แต่ไม่ได้กดเข้าไปอ่าน หัวใจดวงน้อยเต้นแรงขึ้น เธอจะไม่ใจอ่อนให้เขาง่าย ๆ เด็ดขาด เขาเห็นความรู้สึกของเธอเป็นของเล่นมาตลอด เธอไม่อยากยุ่งกับคนใจร้ายแบบนี้อีกแล้วม่านฟ้าวางโทรศัพท์ลง แล้วเข้านอนไปในทันทีวันต่อมาอาทิตย์จำได้ว่าบ้านของภูผาอยู่ที่ไหน เขาไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างเปล่าประโยชน์ รีบออกจากคอนโดไปที่บ้านของภูผาทันที เขาคิดว่าม่านฟ้าก็คงต้องอยู่ที่นั่น พี่ชายมาทั้งที เธอจะไปอยู่ที่ไหนได้หากไม่ได้อยู่ด้วยกันภูผากำลังจะออกไปข้างนอก แต่เห
ตอนที่ 57ม่านฟ้านั่งเงียบมาตลอดทาง เธออุตส่าห์หนีไปพักใจตั้งไกล แต่พอกลับมาถึงไทยคนแรกที่ได้เจอกันกลับเป็นเขา ไม่รู้ว่าทำไมโชคชะตาถึงใจร้ายกับเธอได้ถึงขนาดนี้ เพิ่งจะรู้สึกดีขึ้นก็ดันต้องกลับไปเริ่มทำใจใหม่ภูผาเห็นสีหน้าเศร้าหมองของน้อง ก็เอามือของเธอมากุมไว้เพื่อปลอบประโลม ไม่ให้เธอเศร้ามากหญิงสาวมองมือของพี่ชายแล้วคลี่ยิ้มให้ รอยยิ้มของเธอเศร้าลง ภูผาก็ได้แต่คอยลูบหลังมือของเธอ เขาไม่กล้าพูดอะไรออกไปในตอนนี้ เพราะกลัวว่าจะสะกิดแผลให้เธอเจ็บอีกกลับมาถึงคฤหาสน์หลังงามแล้ว ม่านฟ้าก็สูดลมหายใจเข้าปอดลึก เธอปั้นหน้ายิ้มเพื่อที่จะให้พ่อแม่ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมเธอถึงได้เศร้า ภูผามองหน้าม่านฟ้าด้วยความเป็นห่วง ต้องทนฝืนยิ้มก็ยิ่งเจ็บปวด“โอเคหรือเปล่า ถ้าไม่โอเคก็ไม่ต้องฝืนขนาดนี้หรอก” ภูผาเอ่ยถามน้องสาวเบาๆ“โอเคค่ะ พ่อแม่จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวเจ้าขาจะอดไปอยู่คอนโด พี่เจ้าขุนอย่าบอกพ่อแม่นะคะ” ม่านฟ้ายิ้มทะเล้นให้พี่ชาย ใจจริงเธอก็กังวลเรื่องนี้ด้วย หากพ่อแม่รู้ว่าเธอย้ายออกไปอยู่ข้างนอกแล้วทุกข์ใจ ท่านคงให้เธอย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านแน่ ๆ“ฮ่า ๆ งั้นเข้าบ้านกัน” ภูผาหัวเราะเอ็นดูม่านฟ
ตอนที่ 56อาทิตย์มองม่านฟ้าด้วยความตะลึง เขาคิดไม่ถึงว่าเธอจะมาพร้อมกับเพื่อนในวัยเด็กของตนเอง“รอนานไหม” อาทิตย์เอ่ยถามภูผา ทั้งที่สายตายังตรึงอยู่ที่ม่านฟ้า“ไม่นาน นี่น้องสาวกูเองชื่อเจ้าขา เจ้าขาพี่เพื่อนพี่” ภูผาเห็นเพื่อนมองม่านฟ้า เขาก็เลยแนะนำทั้งสองให้รู้จัก เพราะเขาก็ตั้งใจที่จะให้ทั้งสองคนมาเจอกัน จะได้ทำความรู้จักกันอยู่แล้ว เผื่อว่าเพื่อนของเขาจะช่วยดามใจให้ม่านฟ้าได้“พี่คิดถึงหนูมากเลยเจ้าขา” อาทิตย์เอ่ยออกมาด้วยความดีใจ เขาตามหาเธอมาตลอดหลายวันแต่ก็หาไม่เจอ เขาขับรถไปตามหาที่อ้อมน้อย แต่ก็ไม่เจอแม้แต่เงา“.....” ม่านฟ้ายังเงียบ เธอกอดแขนพี่ชายไว้แน่น จนภูผาเริ่มขมวดคิ้วมองทั้งสองคนสลับกันอย่างสงสัย“หนูไปหาเจ้าขุนมาเหรอ” อาทิตย์เอ่ยถามพร้อมกับจะจับมือม่านฟ้า ทว่าหญิงสาวถอยหนีไปหลบอยู่หลังพี่ชาย“รู้จักกันเหรอ” ภูผาเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ เพราะจากที่อาทิตย์พูดมา น่าจะสนิทกันมาก จนเขาสงสัยว่าคนที่ทำร้ายจิตใจน้องสาวของเขาคือเพื่อนคนนี้“กูเป็นแฟนเจ้าขา” อาทิตย์ตอบเพื่อนกลับไป“ไม่ใช่!” ม่านฟ้าตอบสวนกลับมาทันที ตั้งแต่ที่เธอรู้ว่าทุกอย่างเป็นแค่เดิมพันของพวกเขา เธอก็ไม่ได้นั
ตอนที่ 55ม่านฟ้าอยู่ในอารมณ์เศร้ามาตลอดหลายวัน เธอกินอะไรไม่ลง จนพี่ชายของเธอสังเกตว่าม่านฟ้าซูบผอมลงไป ภูผาได้แต่ถอนหายใจ เพราะเข้าใจอารมณ์ของคนอกหักดี“พรุ่งนี้ก็กลับไทยแล้ว เย็นนี้ออกไปกินอะไรอร่อย ๆ สักหน่อยดีไหม” ภูผาเอ่ยถามเพื่อสร้างบรรยากาศ เขาพาม่านฟ้าออกไปเดินเล่นชมเมืองทุกวัน แต่แววตาของน้องสาวก็ไม่มีประกายความสดใสเลย เจือแต่ความเศร้า แม้แต่ตอนที่ถ่ายรูปด้วยกันก็ยังยิ้มเจื่อน ๆ ไม่สดชื่น“ไม่อ่ะ วันนี้เจ้าขาไม่อยากไปไหนเลยค่ะ ขอนั่งเล่นอยู่ที่นี่นะคะ” ม่านฟ้ามองทิวทัศน์อย่างเงียบ ๆ เธออยากอยู่ในมุมสงบของตนเองเพื่อทำใจ แม้ว่าจะไม่ร้องไห้แล้ว แต่ก็ยังมีความเศร้าอยู่มาก ไม่มีอารมณ์ที่จะออกไปไหน ยิ่งพรุ่งนี้จะกลับไปไทย ก็ยิ่งรู้สึกเหมือนว่าตนเองจะต้องไปเจอกับคนใจร้ายที่เอาความรู้สึกของเธอมาเป็นเดิมพันสนุก ๆ กับเพื่อนวันนี้ทั้งวันก็เลยอยากพักใจให้เต็มที่ กลับไทยแล้วจะได้ ไม่แสดงความเศร้าออกมา“ถ้าหิวก็บอกนะ พี่จะได้ไปซื้ออะไรมาให้กิน” ภูผาเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงห่วงใย“ค่ะ ถ้าพี่เจ้าขุนหิวก่อน ก็ไปกินก่อนได้เลยนะ ไม่ต้องรอเจ้าขา” เธอไม่รู้ว่าตนเองจะหิวตอนไหน กลัวว่าจะเลยเวลาไป
ตอนที่ 54มหาวิทยาลัยอาทิตย์รีบมาดักเจอม่านฟ้าที่ตึกคณะของเธอ เขามาถึงเช้ามากเพราะสะดุ้งตื่นขึ้นมาในตอนเช้ามืด มะปรางเดินเข้ามาก็ตกใจที่เจออาทิตย์นั่งรออยู่แล้ว“พี่ไฟมาเช้าจังเลย” มะปรางถามขึ้น“พี่มารอเจอเจ้าขา เจ้าขาได้โทรมาบ้างไหม” อาทิตย์เอ่ยถามออกมามะปรางส่ายหน้าแล้วนั่งลงที่โต๊ะม้าหินอ่อน อาทิตย์มองหาม่านฟ้าอย่างใจจดใจจ่อ จนเตยหอมมาถึง ม่านฟ้าก็ยังไม่มา“เจ้าขาคงไม่มาเรียนแน่ ๆ เลย โทรไปก็ไม่ติด” เตยหอมเอ่ยขึ้นมา เพราะตอนนี้ใกล้ได้เวลาขึ้นเรียนแล้ว แต่ก็ยังไร้วี่แววของม่านฟ้าอาทิตย์ไม่ตอบอะไร เขานั่งรออยู่ที่เดิมจนกระทั่งได้เวลาขึ้นเรียนคาบเช้า เขาแน่ใจแล้วว่าวันนี้ม่านฟ้าคงไม่มาเรียน เขาก็เลยเดินกลับมาที่ตึกคณะวิศวะ“ยังไม่เจอเหรอวะ” แบงค์เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นสีหน้าของเพื่อนไม่ค่อยดี“อืม” เขาตอบแล้วมองไปทางตึกคณะที่ม่านฟ้าเรียน“เดี๋ยวก็ได้เจอ ตอนนี้ขึ้นเรียนก่อน สายแล้ว” แชมป์ดันเพื่อนให้เดินเข้าไปในตึกอาทิตย์ยอมเดินเข้าไป ทั้งที่เขาอยากออกไปตามหาม่านฟ้ามากกว่า…ฝั่งม่านฟ้าหลังจากที่ออกมาจากผับม่านฟ้าก็กลับมาที่คอนโดของตนเอง เธอรีบจัดเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าใบ