"พร้อมไหม""พร้อมสิ"มิลานในชุดสวยสีชมพูหวานขับผิวของเธอในขาวขึ้นเอ่ยตอบมีนาพร้อมส่งสายตายึดมั่นไปให้กุ๊กไก่ ตอนนี้ทั้งสามอยู่ในห้องพักของมิลานซึ่งพวกเธอกำลังเตรียมตัวที่จะเดินทางไปงานหมั้นของราเชนทร์และเสียงเพลงซึ่งจะถูกจัดขึ้นที่บ้านของฝ่ายสาว"ถ้าพร้อมแล้วก็ไปกันเถอะ"ทั้งสามสาวในชุดสีเดียวกันเดินออกจากห้องพักโดยมีบอดีการ์ดของมิลานเดินตามประกบหลังไปยังรถตู้คันใหญ่ซึ่งจอดอยู่ทางด้านหน้าของคอนโด"ไม่ลืมอะไรใช่ไหม"กุ๊กไก่หันมาถามมิลานเมื่อทั้งสามสาวขึ้นมานั่งอยู่บนรถ"ไม่หรอก ของที่จะเอาไปคืนก็เอามาแล้ว""ห้ามร้องล่ะฉันปลอบใจไม่เก่ง"แม้กุ๊กไก่จะพูดเล่นแต่แววตาของเพื่อนทั้งสองอดไม่ได้ที่จะแสดงถึงความเป็นห่วงเพราะรู้ดีว่าความรู้สึกของมิลานมีต่อราเชนทร์มันมากมายขนาดไหน"พวกเธอสองคนอย่ามองฉันด้วยสายตาแบบนั้นสิ บอกแล้วไงว่าฉันไหว""ถ้าไม่ไหวให้รีบบอกพวกฉันสองคนเข้าใจไหม"มิลานพยักหน้าเป็นการสัญญากับเพื่อนทั้งสอง ตั้งแต่วันนั้นเธอไม่ได้เจอหน้าของราเชนทร์อีกเลยเท่าที่ทราบข่าวจากเพื่อนของเขาก็รู้ว่าบิดาของชายหนุ่มเรียกตัวให้เขากลับไปอยู่บ้านหลังใหญ่จนกว่าจะถึงวันหมั้นแม้เธอจะไม่ได้เห็นหน้าแต่ทว
มิลานวางซองใส่เงินไว้บนพานดอกไม้ก่อนเธอจะเดินออกไปยืนรวมกลุ่มกับเพื่อนทั้งสองยังด้านหน้าของงานเพื่อรอเวลาให้ใครบางคนเดินตามเธอมาซึ่งมันก็เป็นเช่นนั้น"แม่หนู"เสียงเข้มดูปรับให้ดูอ่อนลงแต่ก็ไม่สามารถปกปิดได้ดังมาจากทางด้านหลังเมื่อมิลานหันไปมองก็พบว่าเป็นร่างสูงใหญ่ของเกริกพลเดินตามออกมา"สวัสดีอีกครั้งนะคะ ไม่ทราบว่าคุณลุงมาอะไรจะพูดกับหนูเหรอคะ""เรียกคุณท่านเหมือนกับที่คนอื่น ๆ เรียกดีกว่านะเพราะฉันกับครอบครัวของแม่หนูคงไม่ได้เป็นญาติกัน"ประธานบริษัทใหญ่ดูน่าเกรงขามเริ่มวางอำนาจใส่เด็กผู้หญิงตาดำ ๆ ไม่มีทางสู้ เหตุการณ์เมื่อครู่เขาเห็นมันทั้งหมดแต่น่าเสียดายที่ไม่ได้ยินว่าเด็กผู้หญิงตรงหน้าคุยอะไรกับลูกสาวของเขาแต่ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องเงินก่อนนั้น"เงินก้อนนั้นมันน้อยไปหรือไง ถ้าฉันเป็นหนูฉันจะรีบรับมันไว้นะเงินช่วงนี้ไม่ได้หากันได้ง่าย ๆ ""ใช่ค่ะ เงินมันไม่ได้หากันได้ง่าย ๆ ข้อนั้นหนูทราบดี""...""แต่วิธีที่ทำให้หนูได้เงินก้อนนั้นมามันต่ำไปเสียหน่อย ขอโทษด้วยนะคะที่หนูคงรับเอาไว้ไม่ได้""นี่เธอ""เก็บเอาไว้รักษาใจลูกสาวของคุณท่านในอนาคตดีกว่านะคะ หรือจะเก็บไว้ซื้อผ้าเช็ดหน้ามาซับน้
'เหตุด่วน ข่าวใหญ่ในรอบวัน บริษัทใหญ่กิจการของนักธุรกิจชื่อดังถูกไฟไหม้สร้างความเสียหายนับร้อยล้าน'ติ๊ดโทรทัศน์เครื่องใหญ่ซึ่งกำลังมีข่าวใหญ่ข่าวดังในรอบวันถูกปิดลงด้วยฝีมือของเจ้าของห้องอย่างมิลาน เด็กสาวลุกขึ้นหันไปเผชิญหน้ากับบอดีการ์ดร่างสูงใหญ่ซึ่งกำลังยืนก้มหน้าอยู่ในห้องพักโซนห้องรับแขกด้วยท่าทีสงบนิ่ง"พวกพี่ทั้งสามคนรู้หรือเปล่าคะว่าเป็นฝีมือใคร""ไม่ทราบครับคุณหนู"ทั้งสามตอบออกมาอย่างพร้อมเพรียงราวกับนัดหมายกันมาแล้ว"แน่ใจเหรอคะว่าพวกพี่ไม่ทราบ""ครับ พวกผมไม่ทราบจริง ๆ ""ถ้าอย่างนั้นก็แล้วไปค่ะ พวกพี่มีอะไรก็ไปพักเถอะค่ะ""ครับ"บอดีการ์ดทั้งสามเดินออกไปอย่างพร้อมเพรียงปล่อยให้คุณหนูคนสวยได้มีเวลาส่วนตัวมิลานนั่งลงบนโซฟาพลางนึกถึงข่าวเหตุไฟไหม้ของครอบครัวเสียงเพลงก็ได้แต่นึกสงสัยว่าเป็นฝีมือของใคร "จะเป็นฝีมือของใครก็ช่าง ปากดีแบบนั้นก็สมควรโดนเสียบ้าง"ทั้งที่เธอเป็นฝ่ายถูกกระทำแท้ ๆ แต่อีกฝ่ายกลับไม่มีทีท่าสลดเลยสักนิดอีกทั้งยังกล้าเข้าข้างลูกสาวของตัวเองแบบผิด ๆ "ฉันจะปล่อยให้ราเชนทร์ไปเป็นของเธอก่อนก็แล้วกัน""...""เมื่อถึงเวลาฉันจะไปทวงเขาคืน"เธอจะทวงคืนคนของเธออ
วันเวลาผ่านไปต่างคนต่างใช้ชีวิตในแบบตนเอง มิลานเก็บตัวเงียบอยู่ในห้องน้อยคนที่จะรู้ว่าเธอยังอาศัยอยู่ที่เมืองไทยและคิดที่จะเข้าศึกษาต่อที่มหาลัยเดียวกันกับเพื่อน ๆ จากเด็กสาววัยใสตอนนี้กลายมาเป็นสาวน้อยวัยสะพรั่งอยู่ในชุดนักศึกษามหาลัยชื่อดัง แม้จะรู้สึกเสียใจที่เธอสอบเข้าคณะวิศวะไม่ได้แต่อย่างน้อยก็มีคณะนิเทศศาสตร์อ้าแขนต้อนรับเธอและบรรดาเพื่อน ๆ อีกทั้งสองของเธอ"ใกล้เสร็จแล้วหรือยัง วันนี้เช้ามีเข้าแถวรับน้องด้วยนะ""ใกล้เสร็จแล้วล่ะ อีกเดี๋ยวก็จะลงไปขึ้นรถแล้ว""เร็ว ๆ นะ ฉันกับกุ๊กไก่ใกล้จะถึงมหาลัยแล้ว""โอเค บาย"มิลานในชุดนักศึกษาเสื้อผ้าพอดีตัวกดวางสาย ใบหน้าสวยใสไร้ริ้วรอยฉีกยิ้มกว้างเธอยืนมองเงาของตัวเองในกระจก วันนี้เป็นวันเปิดเรียนในเขตรั้วมหาวิทยาลัยทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย"แล้วเจอกันนะ"มิลานคว้ากระเป๋าขึ้นมาสะพายก่อนจะเดินออกไป ซึ่งการเดินทางในวันนี้เธอจะใช้รถประจำทางไปมหาลัยไม่ให้บอดีการ์ดของบิดาไปส่งตามที่ได้ตกลงกันเอาไว้เพราะเธอชินกับที่จะต้องเดินทางไปไหนมาไหนแบบนี้มากกว่าแล้วอีกอย่างเธอจะได้ไม่ต้องตกเป็นที่สนใจของใครต่อใครครืด ครืด ครืดโทรศัพท์เครื่องใหม
การเรียนในวันแรกผ่านพ้นไปมันทำให้พวกเขาได้รู้ว่าการเรียนในระดับของรั้งมหาวิทยาลัยมันไม่ได้ง่าย ร่างสูงใหญ่ของนักศึกษาชายทั้งสามก้าวขาลงมาจากตึกของคณะ ราเชนทร์ยังคงแสดงสีหน้าเรียบนิ่งไม่สนใจสิ่งรอบข้างแม้ว่าตอนนี้จะมีเหล่านักศึกษาผู้หญิงต่างคณะมายืนรอเพื่อจะดูหน้าเขา"มาวันแรกก็เสน่ห์แรงเลยนะไอ้สัส พวกกูสองคนดับเลยไอ้เวร"เควินเอ่ยออกมาแต่ทว่าราเชนทร์กลับไม่มีความสนใจ"สองสาวจะเรียนเสร็จกันหรือยังวะ""ไม่รู้ว่ะ มึงมีเบอร์กุ๊กไก่ไม่ใช่เหรอไอ้กราฟทำไมไม่โทรถามดู""เออว่ะ กูลืมโทษที"กราฟฟิกหนุ่มหล่อขี้เล่นทายาทห้างสรรพสินค้ารีบล้วงโทรศัพท์ออกมาต่อสายหากุ๊กไก่รอซึ่งรอสายได้ไม่นายเท่าไหร่ก็ได้ยินเสียงอีกฝ่ายตอบรับสาย"ฮัลโหล ยัยแม่ไก่เลิกเรียนยัง""นี่ไอ้หมาบ้า ฉันชื่อกุ๊กไก่ไม่ใช่ยัยแม่ไก่ช่วยเรียกชื่อฉันให้มันดี ๆ ด้วย""เออ ๆ โทษทีว่าแต่ตอนนี้เลิกเรียนหรือยัง พวกฉันกำลังเดินไปหาที่คณะ""เลิกแล้วย่ะ กำลังเดินลงจากอาคาร""ก็แค่นี้ รออยู่หน้าคณะนะเดี๋ยวพวกฉันไปถึง"กราฟฟิกรีบวางสายทั้งสามคนเดินเท้าจนในที่สุดก็มาถึงยังคณะที่ทั้งสองสาวเรียนอยู่ซึ่งตอนนี้มีนักศึกษากำลังทยอยเดินลงมาจากคณะซึ่งส่วน
"อยากกินอะไร"ราเชนทร์เอ่ยถามมิลานเมื่อกลุ่มของเขาเดินมาถึงโต๊ะว่างในโรงอาหารซึ่งตอนนี้มีนักศึกษาต่างพากันมาหาอะไรทานตอนพักกลางวัน"ถามทำไม นายจะเดินไปซื้อให้ฉันอย่างนั้นเหรอ""อืม ใช่""เอาเหมือนนายก็ได้"เธอตอบชายหนุ่มกลับไปก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ตัวยาวข้างเพื่อนสาวอีกสองคนทั้งสามหนุ่มรับหน้าที่ไปซื้ออาหารและน้ำให้ปล่อยให้สามสาวมีหน้าที่นั่งเฝ้าโต๊ะไป"อะไร ยังไง"มีนาเปิดประเด็นขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นมิลานนั่งนั่งอมยิ้มด้วยสีหน้ามีความสุข"ก็ดี แต่ไม่ยังไง""ได้สารภาพรักกันหรือยัง"กุ๊กไก่แทรกขึ้นมาทำเอามิลานรีบส่ายหน้า"ยัง ยังไม่ใช่ตอนนี้จนกว่าฉันจะรู้ใจหมอนั่น""ใช้พี่ผู้ชายคนนั้นเป็นตัวช่วยสิ หน้าจะเป็นตัวกระตุ้นได้ดีเชียวล่ะ""อย่าเลยมีนา ฉันไม่อยากดึงพี่เขาเข้ามา"เพราะสุดท้ายคนที่เธอเลือกก็คือผู้ชายที่เธอรักอย่างราเชนทร์ไม่ใช่ผู้ชายที่เธอพึ่งจะให้เบอร์ไป"ก็ไม่ใช่จะให้เธอไปคบกับพี่เขา แต่อยากให้พี่เขาเป็นเครื่องมือช่วยกระตุ้นอาการของหมอนั่นให้มันออกมา ดูมันสิรู้ว่าดีใจที่เห็นหน้าแต่ก็ไม่แสดงอาการอะไรออกมาเลยสักนิด"มีนาบ่นอุบเพราะเธอนึกว่าราเชนทร์จะแสดงอาการที่ดูแน่ชัดกว่านี้แต่นี่กลั
"อยู่คณะไหนกันครับ"รุ่นพี่ปีสองเอ่ยถามแม้ว่าจะเป็นน้ำเสียงที่ดูอ่อนลงกว่าเมื่อครู่แต่ด้วยบุคคลซึ่งดูน่ากลัวทำเอาสามสาวเริ่มหวั่นใจ"นิเทศค่ะ"มิลานเป็นคนใจกล้าตอบออกไปราวกับว่าเธอไม่คิดจะเกรงกลัวแต่ที่จริงแล้วเธอกำลังเก็บอารมณ์ข่มความกลัวเอาไว้"อยู่นิเทศแล้วมานั่งทำอะไรที่คณะวิศวะครับ""มารอเพื่อนค่ะ""อ๋อ มารอเพื่อน"รุ่นพี่ปีสองพยักหน้าก่อนจะหันไปมองนักศึกษาปีหนึ่งกลุ่มใหญ่ซึ่งกำลังนั่งอยู่ตรงหน้าของพวกเขา"น้อง ๆ กลุ่มนี้เป็นเพื่อนของใครครับ""ของผมครับ"ราเชนทร์ลุกขึ้นยืนเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงชัดคำก่อนเพื่อนอีกสองคนจะลุกขึ้นยืนตามทำเอานักศึกษาทุกคนต่างพากันชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นแววตาคมเข้มคู่นั้นไร้ความล้อเล่นไม่เว้นแม้แต่รุ่นพี่ปีสองที่ยืนอยู่ใกล้ร่างของมิลานยังคงต้องถอยออกห่าง"สามคนนั้นเป็นเพื่อนของน้องจริง ๆ หรือเปล่าครับ""ค่ะ พวกเขาเป็นเพื่อนของมิลานเอง""ชื่อน่ารักจัง"เสียงหวานของมิลานพร้อมกับใบหน้าสวยของเธอแม้แต่รุ่นพี่ปีสองยังหลงใหลกับความเย้ายวนตรงหน้าแฮะ แฮ่มแต่ทว่ากลับมีเสียงบางอย่างดังขึ้นทำให้รุ่นพี่ปีสองที่เผลอตัวต้องหลุดออกจากภวังค์ของความน่ารัก และเมื่อหันไปมองยังท
รถคันหรูเคลื่อนตัวเข้ามาจอดยังหน้าบริเวณคอนโดที่พักของหญิงสาว แต่ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะได้ก้าวขาเปิดประตูลงมาท่อนแขนของเธอก็ถูกค้าเอาไว้ด้วยฝ่ามือใหญ่ทำให้เธอต้องหันกลับไปมอง"ห้ามลืม พรุ่งนี้ฉันหวังว่าเธอจะไม่ใส่กระโปรงสั้น ๆ ไปเรียนอีก""ย้ำจังเลยนะ ฉันไม่ลืมหรอกน่า""ก็ดี เพราะถ้าฉันยังเห็นเธอใส่กระโปรงสั้น ๆ แบบนี้อีกฉันจะจับมันฉีกให้ขาดเลยคอยดู""สั่งเป็นพ่อเลยนะ ชิ"มิลานบ่นอุบเพราะตลอดทั้งเส้นทางราเชนทร์ยังคงบ่นถึงเรื่องกระโปรงของเธอไม่หยุด"อย่าให้ฉันต้องโมโหนะมิลาน""รู้แล้วน่า ไม่ต้องสั่งย้ำหรอกทีกับฉันสั่งนักสั่งหนาทีกับคู่หมั้นของตัวเองกลับไม่ไปสนใจ"เธอพูดออกไปตามความคิดของตัวเองแต่เมื่อเธอได้ฟังคำตอบที่ราเชนทร์พูดกลับมาก็ทำเอาเธอไปต่อแทบจะไม่เป็น"ก็คนไม่ได้อยากหมั้นด้วยตั้งแต่ทีแรกจะไปสนใจทำไม""...""สู้เอาเวลามาใส่ใจคนที่อยากอยู่ใกล้ไม่ดีกว่าเหรอ""นายว่าอะไรนะ"หรือหูของเธอจะได้ยินอะไรฝาดไป มิลานรีบตั้งสติหันไปมองหน้าฝ่ายชายแต่ราเชนทร์กลับหันหน้ามองออกไปยังนอกกระจกของรถทางฝั่งคนขับ"ราเชนทร์เมื่อกี้นายพูดว่าอะไรนะฉันได้ยินไม่ถนัด""เปล่า""ถ้าเปล่าก็หันหน้ามาสิจะหันไปมอง
"ฉันขอเลียมันนะ""อะ...อื้อ"เสียงครางในลำคอเล็กดังขึ้นเมื่อปลายลิ้นแตะลงบนเนื้อสาวผ่านผิวผ้าบางของกางเกงในสีขาว ใบหน้าของหญิงสาวแดงระเรื่อมีเหงื่อซึมไหลลมหายใจเริ่มหนักหน่วง ตรงช่วงล้างกำลังมีปลายลิ้นร้ายของชายหนุ่มปาดซ้ายเลียขวาเรียกน้ำหวานให้ซึมไหลออกมา"อ๊าส์ ซี๊ด""หวานมากเลยมิลาน"เขาเอ่ยชมก่อนจะก้มลงไปจัดการกับเนินเนื้อของเธอต่อ มิลานน้ำตาคลอเธอยืนขาสั่นเกร็ง ยิ่งเขาเร่งตวัดปลายลิ้นถี่มากเท่าไหร่ยิ่งทำให้เธออ่อนแรงจนแทบจะยืนไม่ไหว"ราเชนทร์ อ๊าส์ เบาหน่อย อื้อ หยุดก่อน"เธอรีบเอ่ยปรามเมื่อรู้สึกว่าเหมือนตัวเองจะปลดปล่อยบางสิ่งบางอย่างออกมาแต่ทว่าชายหนุ่มกลับไม่คิดจะหยุด ราเชนทร์ใช้นิ้วสากของตัวเองเกี่ยวขอบกางเกงในตัวบางให้มาอยู่ตรงกลางกลีบอูม กลีบขาวสีขาวสวยทั้งสองฝั่งรัดกางเกงในตัวบางดันทรงให้เม็ดสวยเด้งขึ้นมาล่อตาล่อใจซึ่งมันเกินกว่าที่ชายหนุ่มจะอดใจไหวได้เม็ดสวยสีชมพูแนบไปกับกางเกงในสีขาวตัวบางจนเห็นเป็นรูปทรงสวย ราเชนทร์ฉวยโอกาสในตอนที่เธอเผลอโน้มหน้าเข้าไปฉกชิมความหอมหวานจากติ่งสวยของเธอจนมิลานดิ้นพล่านแผล็บ แผล็บ แผล็บ"อ๊าย ราเชนทร์ ฉันทนไม่ไหวแล้ว อื้อ""ก็ไม่ต้องทน ปล่
"พ่อกับแม่ไปก่อนนะ แล้วก็อย่าลืมเรื่องหลานนะพ่อกับแม่แก่แล้วอยากอยู่บ้านเลี้ยงหลานมากกว่า"มิลานเขินอายจนหน้าแดงเมื่อมารดาทั้งของเธอและทั้งของชายหนุ่มพูดแบบนั้นออกมา แม้ว่าพวกท่านทั้งสี่จะเดินออกไปจากห้องหอของเธอในคืนนี้ได้สักพักแล้วแต่มิลานก็ยังคงเขินอายจนไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปมองสามีหมาด ๆ ของตัวเธอพรึ่บ"อุ๊ย"มิลานร้องอุทานเมื่อฝ่ามือใหญ่ของสามีอย่างราเชนทร์แตะลงบนท่อนแขนเปลือย "เป็นอะไรเหรอ""ปะ...เปล่า เราไม่ได้เป็นอะไร"เธอตอบชายหนุ่มออกไปด้วยน้ำเสียงซึ่งไม่ค่อยจะมั่นคงสักเท่าไหร่ สายตาเหลือบมองไปยังท่อนแขนซึ่งยังมีฝ่ามือใหญ่ของชายหนุ่มสัมผัสอยู่"ไม่ได้เป็นอะไรแล้วทำไมตัวสั่นล่ะ หรือว่าเธอกลัว""กะ...ก็""ถ้าเธอกลัว ฉันจะรอให้ถึงวันที่เธอพร้อมก็ได้นะ"เพราะเขาเองก็ไม่อยากฝืนน้ำใจของเธอเหมือนกันแม้ว่าคืนนี้มันจะเป็นคืนสำคัญระหว่างเขาและเธอ"ไม่ใช่อย่างนั้นนะ"มิลานรีบหันตัวใช้ฝ่ามือคว้าท่อนแขนของชายหนุ่มเอาไว้เมื่อเขาดึงฝ่ามือออกจากท่อนแขนของเธอชายหนุ่มหันมามองหน้าภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายปล่อยให้เธอเดินเข้ามาสวมกอดโดยไม่คิดจะผลักเธอออกไปเพราะเรื่องแบบนี้เขาเข้าใจมันดี"คือฉันแค่กลั
'จับมือแล้วเดินกันไปด้วยกันนะ'คำคำนี้พวกเขาทั้งสองมักจะบอกต่างฝ่ายเอาไว้เสมอยามเมื่อต้องเจอเรื่องที่มีความคิดเห็นไม่ตรงกัน ซึ่งเรื่องเหล่านั้นมันก็จะเกิดขึ้นในชีวิตซึ่งมันเป็นเรื่องปกติสำหรับคู่ของใครหลาย ๆ คนซึ่งหนึ่งในนั้นมันก็เป็นคู่ของเขาแต่ไม่ว่าทั้งสองจะเจอปัญหาอะไรต่างฝ่ายต่างก็ไม่คิดจะเดินหันหลังหนีให้พวกเขาทั้งสองจะใช้เวลาในการปรับความเข้าใจเพราะว่าการทำแบบนี้มันดีกว่าการเดินหนีปัญหาแล้วปล่อยให้คนรักคิดหนักไปต่าง ๆ นานา การเดินหนีปัญหาแล้วปล่อยให้อีกฝ่ายต้องมานั่งจมอยู่กับความคิดมันไม่ใช่ทางเลือกของทั้งสองคน ทั้งราเชนทร์และมิลานจับมือครองรักกันมายาวนานจนถึงสี่ปีตั้งแต่ปีหนึ่งจนถึงปีสี่ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับทั้งสอง คู่รักแห่งปีไม่เคยมีข่าวเสียหายเพราะต่างฝ่ายต่างให้ความสำคัญและยึดมั่นกับคนรักมากกว่าใคร วันรับปริญญาคือวันส่งท้ายการใช้ชีวิตอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยที่ราเชนทร์ได้มอบของขวัญสุดพิเศษให้กับแฟนสาวของเขา"แต่งงานกับเชนทร์นะ"น้ำตาของคนถูกขอแต่งงานอย่างมิลานแทบจะไหลทะลักอวดโชว์กลางสายตานับกว่าร้อยชีวิต มิลานทั้งรู้สึกเขินอายและอยากจะร้องไห้ในเวลาเดียวกัน เธอไม่ทั
ความรู้สึกของทั้งสองตลอดระยะเวลาหลายปีถูกปลดปล่อยมันออกมา ภาพที่ทั้งสองเคยคิดอยู่ในหัวตอนนี้มันได้เป็นจริงเสียแล้ว การคบหาของมิลานและราเชนทร์เป็นที่รับรู้ของทั้งสองครอบครัว เพราะหลังจากราเชนทร์จัดเซอร์ไพรส์มอบเกียร์วิศวะให้กับมิลานในเย็นวันนั้นรุ่งเช้าเขาก็พาเธอเข้าไปพบพ่อแม่ที่บ้านหลังใหญ่เรียกว่าการเปิดตัวคนรักของลูกชายในครั้งนี้ทำเอาคุณสุชาดาและคุณหญิงเพียงเพ็ญแทบจะตั้งตัวรับไม่ทัน'นี่มิลานครับ เธอเป็นแฟนของผม''...''เธอคือคนที่ผมเลือกแล้ว'ราเชนทร์มองตาผู้เป็นบิดา นี่เป็นครั้งแรกที่เขาก้าวขาเข้ามาเหยียบในบ้านหลังนี้หลังจากเกิดเหตุการณ์ครั้งนั้นซึ่งมันก็ผ่านมานานหลานเดือนบรรยากาศการของพบหน้าบิดามารดาของแฟนหนุ่มแม้มันจะดูผิดแปลกแต่มิลานก็สัมผัสได้ว่าท่านทั้งสองไม่ได้นึกรังเกียจเธอ และบางครั้งเธอก็แอบเห็นแววตาของท่านสุชาดาแอบมองบุตรชายอยู่บ่อยครั้งเหมือนกับว่ามีเรื่องบางอย่างอยากจะพูดด้วย'ขนมฝีมือคุณน้าอร่อยจังเลยนะคะ ไม่ทราบว่าขนมแบบนี้เขาทำกันยังไงเหรอคะ หนูอยากลองทำบ้างเผื่อวันว่าง ๆ จะได้ทำให้ราเชนทร์ได้ทาน''หนูอยากทำเหรอจ๊ะ''ค่ะ หนูอยากทำ'มารดาของราเชนทร์ยิ้มออกมาก่อนท่านจะ
"ทำไมรีบกลับจังเลยล่ะคะไม่อยู่กับหนูก่อนเหรอ"น้ำเสียงออดอ้อนของมิลานดังขึ้นเมื่อรถตู้คันหรูเคลื่อนตัวมาจอดยังสนามบิน ร่างเล็กของมิลานเข้าไปกอดบิดามารดาด้วยความคิดถึงอีกครั้งวันนี้ตลอดทั้งวันเธอได้ใช้เวลาอยู่กับท่านทั้งสองส่วนแฟนหนุ่มอย่างราเชนทร์ได้เดินทางกลับคอนโดเพื่อกลับไปเตรียมตัวสำหรับการประชุมรับน้องในวันนี้"เอาไว้พ่อเคลียร์เรื่องงานเสร็จเมื่อไหร่พ่อกับแม่จะรีบเดินทางมาหาหนูนะลูก""จริงนะคะ""จริงสิ แต่ถ้าลูกอยากจะเดินทางไปหาพ่อกับแม่ที่นั่นก็ได้นะพ่อจะได้ส่งเครื่องบินมารับ"โรเบิร์ตโอบกอดบุตรสาวเพียงคนเดียวด้วยความรัก "แม่กับพ่อต้องไปแล้ว ดูแลตัวเองรักษาเนื้อรักษาตัวให้ดีนะลูกเข้าใจไหม""ค่ะ เดินทางปลอดภัยนะคะ""จ้ะลูกรัก"บุตรสาวเพียงคนเดียวโบกมือลาทั้งสอง มิลานมองร่างของบิดาและมารดาเดินเคียงคู่ขึ้นไปบนเครื่องบินส่วนตัว รถตู้คันหรูเครื่องตัวออกมาจากตรงนั้นอย่างเชื่องช้า หลังจากฝ่าฟันรถติดในช่วงเวลาเย็นมาได้ทำให้มิลานรู้สึกเหนื่อยอยู่ไม่น้อย ร่างเล็กล้มตัวนอนลงบนโซฟาตัวยาวด้วยความเหนื่อยล้าแต่ทว่าวันนี้กลับเป็นวันที่เธอมีความสุขมากที่สุดเลยก็ว่าได้'พ่อกับแม่อนุญาตให้ลูกทั้งส
หนึ่งชั่วต่อมารถตู้คันหรูสองคันเคลื่อนตัวเข้ามาจอดยังบริเวณหน้าบ้านหลังใหญ่สาวใช้ที่เห็นว่ามีรถคันใหญ่เคลื่อนตัวเข้ามาจอดก็รีบวิ่งไปบอกผู้เป็นเจ้านายแตกต่างกับสีหน้าของคนในรถ"นี่มันอะไรกันเหรอคะ คุณพ่อพาหนูมาที่นี่ทำไม"บ้านหลังใหญ่ที่ครั้งหนึ่งเธอเคยก้าวขาเข้ามาเหยียบที่นี่และตอนนี้เธอก็ได้กลับมาเหยียบอีกครั้งพร้อมกับบิดาและมารดาของเธอ"คุณพ่อคะ""พ่อก็แค่จะทำเรื่องทุกอย่างให้มันจบ"ฝ่ามือสากกุมแก้มข้าวของลูกสาว รอยแผลจากเรื่องเมื่อวานยังคงเป็นรอยอยู่บนใบหน้าของมิลาน"ไม่ต้องกลัวอะไรนะลูก พ่อจะคอยปกป้องหนูเองจะไม่มีใครมาทำร้ายลูกสาวของพ่อได้อีก""คุณพ่อคิดจะทำอะไรคะ"โรเบิร์ตไม่ตอบเขาหันมองออกไปนอกตัวรถเห็นร่างของชายหญิงวัยกลางคนเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าประตู"เราลงจากรถกันเถอะค่ะ"ครืดประตูรถตู้คันหรูถูกเปิดออกด้วยฝีมือของบอดีการ์ดก่อนร่างของอุษณีกับสามีจะก้าวขาเดินลงมาจากรถด้วยท่าทีสง่างามดั่งคนมีเงิน"สวัสดีครับคุณโรเบิร์ตคุณหญิงเป็นเกียรติอย่างมากที่คุณโรเบิร์ตเดินทางมาที่นี่ด้วยตัวเอง"เกริกพลอดีตนักธุรกิจชื่อดังและภรรยาอย่างคุณหญิงประภาพรซึ่งตอนนี้ตำแหน่งคุณหญิงได้ถูกปลดออกไปเป็นที่เ
รุ่งเช้าอันแสนสดใสทำให้ใครต่อใครต่างไม่อยากลุกขึ้นจากเตียงนอนรวมไปถึงหญิงสาวเจ้าของห้องพักอย่างเธอ มิลานกำลังนอนหลับตาพริ้มอย่างสบายอยู่บนเตียงนอน คำพูดหวาน ๆ ของแฟนหนุ่มกลายเป็นฝันดีทำให้เธอนอนหลับสบายทั้งคืนจนไม่อยากจะตื่นติ๊ดแม้แต่เสียงสแกนเปิดประตูห้องพักด้านนอกดังขึ้นเจ้าของห้องอย่างเธอกลับไม่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา แต่ทว่ามันกลับไม่ใช่กับคนที่หูไวอย่างราเชนทร์ซึ่งตอนนี้เขากำลังเผชิญหน้ากับชายหญิงผู้มาใหม่"นายเป็นใครทำไมถึงมาอยู่ในห้องของลูกสาวฉันได้""โรเบิร์ตคะ ใจเย็นก่อนค่ะ"เสียงแข็งกระด้างตวาดดังกึกก้องทำเอาใครต่อใครต่างพากันสะดุ้งจนภรรยาคนสวยต้องรีบปรามเพราะกลัวว่าสามีจะสั่งคนให้ไปทำร้ายเด็กหนุ่มคนนี้"ที่รัก คุณจะให้ผมใจเย็นได้ยังไงเด็กหนุ่มที่ไหนก็ไม่รู้มาอยู่ที่ห้องลูกสาวของเราสองคนนะ""โรเบิร์ตคะ ก่อนจะโวยวายอะไรฉันว่าเราฟังคำอธิบายจากเด็กทั้งสองคนก่อนดีกว่าไหมคะ"อุษณีย์เป็นคนอารมณ์เย็นเธอพยายามหาคำพูดมาปลอบให้ผู้เป็นสามีอารมณ์เย็นลง"สวัสดีครับคุณน้าทั้งสอง คือผม""ไม่ต้องเกร็งหรอกจ้ะ"อุษณียิ้มรับเธอพอจะคลับคล้ายคลับคลาเด็กหนุ่มตรงหน้าเหมือนว่าเธอเคยเจอกันมาก่อน"มีอะไรอ
'มั่นหน้ามากแต่สุดท้ายผู้ชายก็ไม่เอา''นั่นน่ะสิ ยังหน้าด้านไปทำร้ายแฟนเขาด้วยนะต้องมั่นหน้าเบอร์ไหนถึงคิดว่าผู้ชายจะเอา''สวยก็ไม่สวยสู้น้องคนนั้นไม่ได้สักนิด'เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของผู้คนรอบข้างดังขึ้นซึ่งมีผลกระทบต่อเสียงเพลงหลังจากเรื่องทุกอย่างจบ ราเชนทร์โอบกอดร่างมิลานเดินออกไปเขาทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดว่าถึงอย่างไรจะไม่มีวันหันมาสนใจคนอย่างเธอ"เสียงเพลง พวกเรากลับกันเถอะฉันสองคนอายคนว่ะ"แม้แต่เพื่อนสนิทที่ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่มาด้วยกันยังต้องหนีหน้า แต่ทว่าเสียงเพลงยังคงยืนมองไปยังทิศทางที่ทั้งสองเดินเคียงคู่กันออกไป"ถ้าแกไม่กลับฉันสองคนกลับก่อนนะ"เมื่อเห็นว่าเสียงเพลงเอาแต่ยืนนิ่งเพื่อนทั้งสองจึงรีบเดินออกไปเพราะทนต่อสายตาของผู้คนไม่ไหว เสียงวิพากษ์วิจารณ์ยังคงดั่งอย่างต่อเนื่องพรุ่งนี้เรื่องที่เกิดขึ้นคงเป็นข่าวดังในมหาวิทยาลัยตึก ตึก ตึกกว่าเสียงเพลงจะหอบร่างอ่อนแรงออกมาจากตรงนั้นได้ก็ใช้เวลานานอยู่หลายนาที เรี่ยวแรงทั้งหมดของเธอแทบจะไม่มีเหลือเมื่อเห็นสายตาว่างเปล่าของชายหนุ่มในวันนี้ซึ่งมันไม่มีเธออยู่ในนั้นเลยตลอดเวลามีเพียงเธอคนเดียวที่คิดเข้าข้างว่ายังไงราเชนท
"อยากกินอะไรไหมเย็นนี้"ราเชนทร์ยิงคำถามทันทีหลังจากที่เขาเดินมาหาเธอซึ่งเป็นคำถามที่มิลานรู้สึกชินกับมันเสียแล้ว"อยากกินซูชิร้านนั้นที่ตลาดนัดหลังมอ""ร้อน""ไม่ได้เหรอ"เธอเงยหน้าช้อนดวงตากลมโตมองเขาทำเอาราเชนทร์ใจอ่อนยวบ"ก็ได้ ถ้าไม่รักไม่ตามใจหรอกนะ""ราเชนทร์ของมิลานใจดีที่สุดเลย"เธอยิ้มออกมาเมื่อได้รับคำตอบตามความต้องการตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ทั้งคู่เปิดใจคบหาราเชนทร์มักจะเป็นฝ่ายตามใจมิลานอยู่ตลอดไม่ว่าเธออยากทำอะไรหรือจะไปที่ไหนเพราะรอยยิ้มสดใสดูมีความสุขของเธอนั้นนั่นคือสิ่งที่เขาต้องการการดูแลเอาใจใส่ต่อเธอชายหนุ่มก็ไม่เคยบกพร่องเรียกได้ว่าชายหนุ่มเอาใจใส่ดูแลเธอได้อย่างดีเยี่ยมทำเอาผู้หญิงหลายต่อหลายคนต่างพากันอิจฉามิลานที่ได้ผู้ชายแสนดีอย่างราเชนทร์ไปเป็นแฟน"คนเยอะจังเลยอะ"มิลานบ่นอุบเมื่อเห็นผู้คนยืนต่อแถวกันยาวตรงหน้าร้านขายซูชิเจ้าอร่อย "ถ้าเราไปยืนต่อแถวอีกนานเลยกว่าจะได้""เธอไปนั่งรอฉันที่ร้านข้าวมันไก่ตรงนั้นก่อน เดี๋ยวฉันไปยืนต่อคิวให้""แต่"ปึก"หรืออยากจะไปเดินซื้ออะไรก่อนก็ได้แต่อย่าไปไกลนักเข้าใจไหม"กระเป๋าสตางค์ใบหรูถูกจับยัดใส่ฝ่ามือของหญิงสาวซึ่งในมือ