หน้าหลัก / รักโบราณ / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 336 ไม่ช้าก็เร็วข้าจะต้องชำระหนี้แค้นนี้

แชร์

บทที่ 336 ไม่ช้าก็เร็วข้าจะต้องชำระหนี้แค้นนี้

ผู้เขียน: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-02-16 16:00:01
อินชิงเสวียนคิดอยู่พักหนึ่ง แต่ไม่สามารถคิดหาเหตุผลได้ ดังนั้นนางจึงปล่อยวางไปเสียดื้อๆ และหันไปเล่นกับเสี่ยว‍หนาน‍เฟิง

หลังจากเล่นสนุกนานกว่าสองชั่วยาม ในที่สุดเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงก็รู้สึกง่วง มือเล็กจ้อยขยี้ตายุกยิก

อินชิงเสวียนถอนหายใจด้วยความโล่งอก อุ้มเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงขึ้นมา พลางโยกตัวซ้ายขวา พลางร้องเพลงกล่อมเด็กไปด้วย

เสี่ยว‍หนาน‍เฟิงเงยหน้าเล็กๆ ขึ้น มองนางด้วยท่าทางน่ารัก ดวงตาของเขาหรี่เล็กลงเรื่อยๆ หลังจากนั้นไม่นานก็หลับไป

ยายหลี่อุ้มเด็กอย่างระมัดระวัง แล้วพูดกับอินชิงเสวียน “พระสนมรีบนอนเถิดเพคะ แม้ว่าเราไม่ต้องไปเฝ้าศพ แต่ถึงอย่างไรพรุ่งนี้ก็ยังต้องไปคำนับพระศพ”

“อืม ข้าจะไปพักผ่อนแล้ว”

อินชิงเสวียนอ้าปากหาว การดูแลเด็กเป็นงานที่ใช้แรงมากจริงๆ ตอนนี้นางเริ่มปวดหลังแล้ว อยากนอนไปนอนพักบนเตียงแล้ว

เมื่อตื่นขึ้นมาท้องฟ้าก็สว่างแล้ว

อินชิงเสวียนยืดเส้นยืดสาย และลุกขึ้นจากเตียงด้วยจิตใจผ่องใส

เสียงหัวเราะของเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงดังมาจากข้างนอก อินชิงเสวียนเปิดหน้าต่าง ก็เห็นเด็กน้อยตัวจ้ำม่ำกำลังจับหางของไป๋เสวี่ยเล่น

ตอนนี้ไป๋เสวี่ยกลายเป็นพี่เลี้ยงเด็กและเพื่อนเล่นของเสี่ย
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Chonlada Sanehmit
Up ยังคะ คิดถึงเจ้าหมาน้อย
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 337 เสี่ยวหนานเฟิงถูกลักพาตัวไป

    หลังจากออกจากตำหนักฉือหนิง บรรยากาศก็ดูสดชื่นขึ้นเป็นกองอินชิงเสวียนลูบศีรษะเล็กๆ ของลูกชายอย่างอารมณ์ดี แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “แม่จะพาเจ้าไปหาผีเสื้อ”ไม่มีประโยชน์ที่จะโมโหอารมณ์เสียไปกับคนชั่ว ไม่คุ้มค่าเลยจริงๆแต่เสี่ยว‍หนาน‍เฟิงไม่อยากนั่งรถเข็นเด็กแล้ว มือน้อยๆ จับหลังคารถเข็นเด็กจะดันตัวออกมาเมื่อเสี่ยวอานจื่อเห็นดังนี้ เขาก็รีบก้มลงไปอุ้มเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงออกมาเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงจำเสี่ยวอานจื่อได้ จึงนอนซบบนไหล่ของเขาอย่างเชื่อฟังทันที นิ้วเล็กๆ ชี้ไปที่ต้นไม้ใหญ่ด้านข้างอย่างมีความสุข แล้วก็เริ่มพูดอ้อแอ้ๆเสี่ยวอานจื่ออุ้มเขาไปที่โคนต้นไม้ เอื้อมมือออกไปหยิบใบไม้มา แล้ววางลงบนมือเล็กๆ ของเด็กน้อยเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงก้มศีรษะลงดูอย่างอยากรู้อยากเห็น มุ่ยปาก และศึกษาใบไม้ด้วยท่าทางจริงจังเมื่อเห็นท่าทางจริงจังของลูกน้อย อินชิงเสวียนก็อดยิ้มไม่ได้การตายของไทเฮานับว่านางได้กำจัดศัตรูที่แข็งแกร่งออกไปแล้ว ต่อไปก็สามารถพาลูกออกไปเดินเล่นได้บ่อยขึ้น โดยไม่ต้องกังวลเหมือนเมื่อก่อนในเวลานี้ ผีเสื้อหลากสีสันได้บินออกมาจากสวนทันใดนั้นเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงก็รู้สึกตื่นเต้น ชี้ไปที่ผีเสื

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-17
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 338 เห็นอาซือหลานอีกแล้ว

    “เจ้ากล้ารึ!”อินชิงเสวียนตะโกนเสียงแหลม แต่ชายคนนั้นก็จากไปไกลแล้วเมื่อคิดว่าเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงอายุเพียงไม่กี่เดือน อินชิงเสวียนก็อดขาอ่อนไม่ได้ และเกือบจะล้มลงกับพื้นนางบังคับตัวเองให้ยืนอย่างมั่นคง และบอกตัวเองว่าให้สงบสติอารมณ์เนื่องจากอีกฝ่ายไม่ได้ฆ่าเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงทันที นั่นหมายความว่าเขาจะยังไม่ฆ่าเด็กตอนนี้ตราบใดที่ตัวเองรีบไปยังสถานที่ที่เขาพูด ก็จะมีโอกาสช่วยเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงได้หากเกิดอะไรขึ้นกับลูก ต่อให้นางต้องตาย นางก็จะทำให้หัวขโมยนั่นตายไปพร้อมกับลูกของนาง!“พระสนม!”พวกเสี่ยวอานจื่อทั้งสามคนก็วิ่งตามมาทันแล้วเมื่อเห็นอินชิงเสวียนยันตัวด้วยกำแพงวัง สีหน้าซีดเซียว เสี่ยวอานจื่อก็เหงื่อออก คุกเข่าลงบนพื้นเสียงดัง“กระหม่อมมีความผิด กระหม่อมสมควรตาย เป็นกระหม่อมที่ไม่ดูแลองค์ชายน้อยให้ดี ขอให้พระสนมลงโทษด้วย”อวิ๋นฉ่ายก็ตกใจจนร้องไห้เช่นกัน ถามด้วยเสียงสะอื้นว่า “พระสนมเพคะ องค์ชายน้อยจะเป็นอะไรหรือไม่เพคะ”เมื่อเห็นว่าเด็กหายไปแล้วจริงๆ ยายหลี่ก็หมดสติไปทันทีตั้งแต่เด็กเกิดมาจนถึงตอนนี้ ก็เป็นนางที่ดูแลมาโดยตลอด เมื่อครู่ได้ยินเสี่ยวอานจื่อบอกว่าเด็กถูกชิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-17
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 339 เจ้าประเมินตัวเองสูงเกินไปแล้ว

    เห็นได้ชัดว่าเด็กกลัวจนร้องไห้อยู่ตลอดเวลา หยาดน้ำตาเม็ดใหญ่เท่าถั่วไหลรินออกมาจากด้วยตาไม่ขาดสาย ขอบตาของเขาแดงก่ำอินชิงเสวียนที่อุ้มเขาไว้ขมวดคิ้ว นัยน์ตาฉายแววเบื่อหน่ายขณะที่กำลังจะเข้าไปในวัง จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงกีบเท้าม้าชายหนุ่มรูปงามที่สวมชุดคลุมสีขาว ขี่ม้านำกลุ่มทหารรักษาพระองค์ออกมา เมื่อเขาเห็นเสี่ยว‍หนาน‍เฟิง ชายคนนั้นดูประหลาดใจ และลงจากหลังม้าทันที“เสวียน‍เอ๋อร์ จ้าวเอ๋อร์ พวกเจ้ากลับมาแล้วรึ”คนที่ถามคำถามนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเย่‍จิ่ง‍อวี้ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันในรัชสมัยนี้ครึ่งชั่วยามที่แล้ว เขากำลังคุยเรื่องพิธีศพของไทเฮากับซ่งหันเจียงเสนาบดีกรมพิธีการ และสวีเม่าผู้ช่วยเจ้ากรมพิธีการที่เพิ่งแต่งตั้งใหม่ ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสี่ยวอานจื่อมารายงานด้วยสีหน้าตื่นตระหนก บอกว่าจ้าวเอ๋อร์ถูกลักพาตัวไปเมื่อเขารู้ว่าอินชิงเสวียนไปตามลูกที่ทางทิศตะวันตกของเมือง เย่‍จิ่ง‍อวี้ก็เป็นกังวลอย่างมาก เขาไล่ขุนนางทั้งสองกลับไปออกทันที แล้วนำทหารออกจากวังหลวง แต่ไม่คาดคิดจะได้เห็นพวกนางสองแม่ลูกอยู่ที่หน้าประตูวัง เขาก็รู้สึกโล่งใจในที่สุดขณะที่อินชิงเสวียนกำลังจะพูด เงาสีขาวก็

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-17
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 340 โทสะโจมตีหัวใจ

    ในระยะใกล้เช่นนี้ เย่‍จิ่ง‍อวี้ไม่ได้สังเกตด้วยซ้ำว่าเขามาถึงเมื่อใดเมื่อเห็นรูปร่างหน้าตาของเขาอย่างชัดเจน ใบหน้าของเย่‍จิ่ง‍อวี้ก็มืดลง พลังที่มองไม่เห็นถูกรวบรวมอยู่ในฝ่ามือของเขา“เป็นเจ้า!”ซึ่งคนผู้นี้ก็คือคนประหลาดผมขาวในคืนจันทรุปราคานั่นเองคนประหลาดก้าวไปข้างหน้า มองไปยังเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงด้วยดวงตาที่ไม่แยแสคู่หนึ่งแทนที่จะตอบกลับถามว่า “นี่เป็นลูกของแม่หนูนั่นรึ”“ไม่เกี่ยวกับเจ้า”เย่‍จิ่ง‍อวี้สะบัดฝ่ามือใส่เขา ชายประหลาดผมขาวสะบัดแขนเสื้อพรึบ ก็สามารถสลายพลังได้ทันทีในที่สุดก็มีการเปลี่ยนแปลงในแววตาที่เป็นเหมือนบ่อน้ำโบราณคู่นั้นเขามองเย่‍จิ่ง‍อวี้ด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย“ไม่ได้เจอเจ้าแค่ไม่กี่วัน แต่วรยุทธ์ของเจ้ากลับสูงขึ้นอีกขั้น ช่างหายากยิ่งนัก”ดวงตาของเย่‍จิ่ง‍อวี้ฉายแววหวาดกลัวเล็กน้อย เพียงพลิกฝ่ามือก็สามารถสลายพลังของเขาได้ คนประหลาดผู้นี้แข็งแกร่งมากจริงๆทันทีที่ดีดนิ้ว กระบี่ยาวบนเอวก็ถูกปลดออก ปลายกระบี่อันสั่นไหวได้แทงไปยังคนประหลาดผมขาวชายคนนั้นหลบไปด้านข้าง และร่างของเขาก็มาปรากฏอยู่ตรงหน้าของยายหลี่ นิ้วเรียวเป็นเหมือนสาหร่ายที่ไต่ผ่านแข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-17
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 341 แผนการ

    อินชิงเสวียนที่ได้ยินทั้งหมดนี้อย่างชัดเจน นางอดไม่ได้ที่เป็นกังวล หากนางออกจากต้าโจว ก็ไม่สามารถเห็นหน้าลูกได้อีกแล้วไม่ใช่หรอกหรือนางไปไม่ได้ ถ้าไม่ไหวจริงๆ นางจะเข้าไปซ่อนตัวในมิติก่อน แล้วค่อยคิดแผนตอบโต้จากนั้นก็ได้ยินฟางรั่วถามว่า “นายท่านจะกลับมาไปเมื่อใดหรือ”อา‍ซือ‍หลานพูดเรียบๆ “ข้ายังมีงานสำคัญที่ต้องทำ เจ้าพาชิงเสวียนกลับไปก่อน หากนางฟื้นขึ้นมาอีกก็ให้ใช้กู่หอมเมฆาของราชครู กู่ชนิดนี้สามารถทำให้คนหมดสติได้ แต่จะไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย”เมื่อได้ยินอาซือหลานเปนห่วง็นห่วงสุขภาพของอินชิงเสวียนมาก นัยน์ตาของฟางรั่วก็ฉายแววริษยา นางโค้งคำนับและพูดว่า “ข้าน้อยน้อมรับคำสั่ง”อา‍ซือ‍หลานพูดอย่างรำคาญ “เช่นนั้นก็รีบไปลงมือเดี๋ยวนี้”“เจ้าค่ะ”ฟางรั่วหยิบหน้ากากผิวหนังมนุษย์ที่มีหนวดออกมา แล้วกดมันลงบนใบหน้าของอินชิงเสวียน จากนั้นจึงไขเชือกและหิ้วนางออกจากบ้านอินชิงเสวียนยังสัมผัสได้ถึงลมปราณของอา‍ซือ‍หลาน จึงไม่กล้าตุกติก จากนั้นก็รู้สึกว่าตัวเองถูกพาเข้าไปในรถม้าเสียงของอา‍ซือ‍หลานดังมาจากนอกรถ กระแสเสียงนั้นทั้งชั่วร้ายและเย็นชา“ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องส่งนางกลับไปที่เจี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-18
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 342 กลยุทธ์ต้นหลี่ตายแทนต้นถาว

    มีดสั้นของฟางรั่วได้กดไปที่ลำคอของอินชิงเสวียนอินชิงเสวียนเหลือบมองมีดสั้นด้วยความกลัว แล้วพูดด้วยรอยยิ้มแห้งๆ “เจ้าไม่ต้องห่วง ถึงตอนนี้ข้าอยากหนีก็หนีไปไหนไม่พ้น ข้าแทบยืนเองไม่ได้ด้วยซ้ำ ประเดี๋ยวเข้าห้องน้ำยังต้องรบกวนเจ้าอีก”ฟางรั่วเหลือบมองอินชิงเสวียนอย่างเคลือบแคลงสงสัย ในอุโมงค์ครั้งที่แล้วนางก็เคยถูกอินชิงเสวียนหลอกแต่ในฐานะที่เป็นสตรีเหมือนกัน ฟางรั่วจึงไม่อยากให้อินชิงเสวียนปัสสาวะราดรดกางเกงจริงๆนางแค่นเสียงหึและพูดว่า “หยุดพูดไร้สาระ แล้วรีบๆ เข้าเถอะ”หญิงทั้งสองก็ตามประกบอยู่ข้างหลังของพวกนาง แล้วฟางรั่วก็หิ้วอินชิงเสวียนเข้าไปในห้องน้ำเมื่อเห็นแมลงวันบินออกมา อินชิงเสวียนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกคลื่นไส้ฟางรั่วก้มศีรษะลง และพับเสื้อคลุมของนางขึ้นในตอนนี้เอง จู่ๆ ก็มีมือข้างหนึ่งบีบที่ต้นคอด้านหลังของนาง แรงอันมหาศาลนั้นแทบจะหักคอของนางได้น้ำเสียงที่ถูกกดต่ำดังมาจากด้านบน“ฟางรั่ว บางทีเราอาจร่วมมือกันได้”ฟางรั่วตัวแข็งทื่อ แล้วเสียงนั้นก็ดังขึ้นอีกครั้ง “หากเจ้ากล้าลงมือ ข้าจะหักคอเจ้าเดี๋ยวนี้”ฟางรั่วกัดฟันพูดว่า “อินชิงเสวียน เมื่อครู่นี้เจ้าแกล้งหล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-18
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 343 ต่งจื้ออวี๋

    เป็นเสี่ยวเอ้อร์ที่ถืออาหารเดินเข้ามาจากข้างนอกอินชิงเสวียนรีบนอนลง จากนั้นสตรีสองคนก็ตามเข้ามาด้วยเมื่อเห็นพวกนางทั้งสองคน อินชิงเสวียนก่นด่าอีก “ออกไปซะ เห็นหน้าพวกเจ้าข้าก็รู้สึกไม่อยากอาหาร ถ้าพวกเจ้ากล้าเข้ามาอีก ข้าจะอดอาหารตาย”สตรีร่างท้วมที่อยู่ทางซ้ายพูดอย่างขุ่นเคือง “เจ้าอย่าได้คืบจะเอาศอกนักนะ”อินชิงเสวียนเงยหน้าขึ้นแล้วพูดว่า “ก็ข้าอยากได้คืบเอาศอก แล้วจะทำไม”ฟางรั่วกระซิบ “พวกเจ้าออกไปก่อนเถอะ หลังจากให้นางกินอาหารแล้ว ข้าจะทำให้นางสลบทั้งสองมองไปที่ฟางรั่วอย่างเย็นชา แล้วจึงจะถอยกลับออกไปอินชิงเสวียนเอียงศีรษะแล้วถามว่า “เด็กกลับวังแล้วจริงๆ หรือ”ฟางรั่วพยักหน้า “ส่วนเรื่องอื่น ข้าจะไม่บอกเจ้า”จู่ๆ อินชิงเสวียนก็นึกถึงบางสิ่งบางอย่างข้างกายอาซือหลานน่าจะมีสาวใช้อีกคนตอนนี้หญิงคนนั้นไม่อยู่ หรือว่านางปลอมเป็นตัวเองแล้วนางก็เข้าวัง...ไม่ได้การแล้ว เกรงว่าเย่‍จิ่ง‍อวี้อาจตกอยู่ในอันตรายอีกเมื่อนึกถึงเขาที่ไว้ใจตัวเองมาก และอีกฝ่ายก็กำลังอุ้มลูก อินชิงเสวียนรู้สึกกังวลทันทีสีหน้าของนางเยือกเย็น มองดูฟางรั่วแล้วพูดว่า “ถ้าข้าไปตอนนี้ พวกเจ้าก็หยุ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-18
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 344 ขอบคุณผู้อาวุโส

    อินชิงเสวียนรู้สึกกระดากใจอยู่พักหนึ่ง“เอ่อ...นี่...”ต่งจื่ออวี๋พูดอย่างใจกว้าง “ไม่เป็นไร ถ้าเจ้าไม่ได้เอาม้าของข้ามา ข้าก็ไม่รู้ว่าจะตามเจ้าทันหรือไม่ แต่ข้าเกรงว่าม้าตัวนี้จะไม่รอดแล้วล่ะ”เขามองม้าด้วยดวงตาเศร้าโศกอินชิงเสวียนก็ไม่อยากขี่ม้าจนมันตาย แต่ม้าตัวนี้อาจไม่มีอาการป่วยร้ายแรงใดๆ มันอาจจะแค่หมดแรง บางทีน้ำจากน้ำพุวิญญาณอาจช่วยชีวิตมันได้จึงบอกว่า “มันคงจะหิวน้ำกระมัง เดี๋ยวข้าจะเอาน้ำมาให้”อินชิงเสวียนพูดจบนางก็เดินเข้าไปในป่าต่งจื่ออวี๋ตะโกนอยู่ข้างนอก “เจ้าจะทำอะไรน่ะ”“ข้าจะไปเอาน้ำ ผิดจริยาอย่าดู เจ้าอย่าเข้ามานะ”หลังจากได้ยินที่อินชิงเสวียนพูดแล้ว ต่งจื่ออวี๋ก็ไม่เข้าใจไปเอาน้ำทำไมต้องปกปิดด้วยแต่เขาไม่กล้าบุ่มบ่าม จึงตอบ “ได้ ข้าจะรอเจ้า”อินชิงเสวียนเข้าไปในมิติแล้ว เติมอ่างน้ำด้วยอ่างกระเบื้องเคลือบ แล้วก็หาถุงใส่น้ำ และเทบางส่วนให้ต่งจื่ออวี๋ด้วยต่งจื่ออวี๋รู้สึกประหลาดใจมากยิ่งขึ้นเมื่อเขาเห็นอินชิงเสวียนถืออ่างกระเบื้องเคลือบขนาดใหญ่ออกมาเอามาจากไหนกันนะอินชิงเสวียนเดินไปถึงตัวม้า ลูบหัวของมันแล้วพูดว่า “เจ้าไม่ตายหรอก คงเหนื่อยเกินไป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-02-18

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1527 องค์หญิงซ่อนความคิดไม่มิด

    พริบตาก็ถึงวันสิ้นปี นับตั้งแต่พิธีเสกสมรสของท่านอ๋องสิบสามก็ผ่านไปสองเดือนแล้วท้องน้อยของอินชิงเสวียนนูนขึ้น คนทั้งคนเป็นเหมือนแมวขี้เกียจ สิ่งที่ชอบที่สุดคือการนอนอาบแดดบนเก้าอี้นวมยาวนุ่มๆ ในขณะนี้ นางหรี่ตาลงเล็กน้อย ฟังเสียงของสาวน้อยเย่ไห่ถังที่ดังก้องอยู่ในหูของนาง“เสด็จอาสิบสามแต่งงานมานานแล้ว ทำไมเสด็จพี่ถึงยังไม่พูดถึงการแต่งงานของข้าล่ะ เสด็จพี่สะใภ้ อินปู้อวี่เป็นพี่รองของท่านนะ ท่านไม่ร้อนใจหรือ”“เสด็จพี่สะใภ้ ท่านอย่าเพิ่งหลับนะ ลุกขึ้นมาคุยกับข้าหน่อยสิ”อินชิงเสวียนถูกนางรบกวนจนปวดหัว จำต้องลืมตาตื่น“การแต่งงานของเจ้ากับพี่รองจะจัดขึ้นในปีหลังจากนั้น ถึงอย่างไรเสด็จอาสิบสามของเจ้าก็เป็นผู้อาวุโส เจ้าแต่งงานพร้อมกับเขา มันไม่เหมาะสม”เย่ไห่ถังทำหน้าบูดบึ้งทันที“ไม่เหมาะสมอะไรกัน ข้าไม่ได้แต่งงานกับเขาเสียหน่อย”อินชิงเสวียนโกรธจนหัวเราะ“เรื่องนี้เจ้าก็ยังพูดออกมาได้นะ ถ้าเสด็จพี่เจ้าได้ยิน บางทีอาจส่งเจ้าไปแต่งงานเชื่อมไมตรีจริงๆ ก็ได้”เย่ไห่ถังสะดุ้ง รีบปิดหูของอินชิงเสวียนทันที พระราชโองการนั้นได้กลายเป็นเงาในใจของนางแล้ว แม้ว่าจะรู้ว่ามันเป็นเรื่องเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1526 ความฝันเป็นจริง

    “ไม่นาน”กระแสเสียงของอินหลีฟังดูอ่อนหวานและขี้อาย ทำให้คนอดเอ็นดูเสียมิได้เย่จั้นรับคำไม้มงคลจากสาวใช้ แล้วเปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวที่ประดับด้วยลูกปัดเปลือกหอยสีแดงขนาดใหญ่ออก ครั้นแล้วใบหน้างามสดใสฟันขาวเรียงเป็นระเบียบ และท่าทางที่เขินอายก็ปรากฏสู่สายตาของเย่จั้นเมื่อคิดว่าสตรีที่งดงามเช่นนี้จะเป็นของตัวเองต่อจากนี้ไป นิ้วเรียวยาวของเย่จั้นก็อดไม่ได้ที่จะสั่นเล็กน้อย รู้สึกอิ่มเอมใจและซาบซึ้งอย่างบอกไม่ถูกในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา แม้ว่าเขาจะพาอินหลีเข้าไปอยู่ในวัง แต่ทั้งสองก็ปฏิบัติตามธรรมเนียมประเพณีอย่างเคร่งครัด ไม่เคยกล้าที่จะล้ำเส้นหรือทำเกินเลย เพียงเพื่อความสมบูรณ์แบบในวันนี้โชคดีที่สวรรค์ทรงเมตตาเขา แม้ว่าเขาจะสูญเสียสตรีที่รักที่สุดไป แต่หลังจากเฝ้าตามหามาหลายปี ในที่สุดก็ตามหานางจนเจอ เขาจะใช้เวลาที่เหลือทั้งชีวิต เพื่อชดเชยเวลาที่เสียไปในช่วงที่อินหลีติดอยู่บนภูเขา“อาหลี เจ้าในวันนี้ งามมาก!”เย่จั้นค่อยๆ ทรุดกายลงนั่ง คุกเข่าลงบนพื้น เงยหน้าขึ้นมองอินหลีบางทีในสายตาของคนนอก นางกับอินชิงเสวียนจะมีความคล้ายคลึงกัน นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงยอมเสี่ยงเพื่อตระกูล อ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1525 พิธีเสกสมรสของท่านอ๋องจิ้ง

    ณ ตำหนักจินอู๋“เป็นอย่างไร ข้าดูคนออกไหม”เย่จิ่งอวี้นั่งอยู่บนเก้าอี้นวมยาวนุ่มๆ ด้วยสีหน้าท่าทางพออกพอใจมากอินชิงเสวียนทำเสียงชิ“เห็นๆ อยู่ว่ามันเป็นเรื่องง่ายที่จบได้ด้วยคำพูดเดียว ท่านกลับข่มขู่จนพวกเขาเกือบตาย เอาเถอะ เห็นแก่อาอวี้ที่วางแผนเผื่อน้องสาว ข้าจะไม่ถือสาท่าน ได้ยินมาว่าเสด็จอาไปสู่ขอที่ตระกูลอินแล้ว ต้าโจวมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นติดต่อกันเลยทีเดียว”เย่จิ่งอวี้โอบนางไว้ในอ้อมแขน“สิ่งที่ข้ารอคอยมากที่สุดคือเรื่องดีของเสวียนเอ๋อร์ ช่วงนี้รู้สึกอย่างไรบ้าง องค์หญิงน้อยของเราดิ้นบ้างหรือไม่”อินชิงเสวียนลูบท้องน้อยโดยไม่รู้ตัว“ไม่มี ถึงอย่างไรก็เป็นลูกสาว ท่าทางว่าง่ายมาก”เย่จิ่งอวี้โน้มตัวลง เอาหน้าแนบกับท้องน้อยของอินชิงเสวียน“เช่นนั้นก็ดีแล้ว เสวียนเอ๋อร์มีชื่อที่ชอบหรือเปล่า”อินชิงเสวียนหรี่ตาลงแล้วพูดว่า “ชื่อของจ้าวเอ๋อร์ยิ่งใหญ่เกินไป ก็เลยไม่รู้ว่าจะตั้งชื่อว่าอะไรถึงจะเข้ากับลูกสาวสุดที่รักของข้า”เย่จิ่งอวี้ยิ้มและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นข้าจะตั้งชื่อเอง แม้ต้องเปิดตำราโบราณจนหมดวังหลวง ข้าก็จะตั้งชื่อที่โด่งดังที่สุดในโลกให้ลูกสาวของเรา”อินชิงเสวีย

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1524 ไม่พอใจก็ต้องทน

    ทั้งสองสะดุ้งตกใจพร้อมกัน เย่ไห่ถังรีบเอาตัวมาบังให้อินปู้อวี่ทันที“เสด็จพี่ พวกเรา...ทั้งหมดเป็นความคิดของข้า เป็นข้าที่อยากหนีการแต่งงาน เป็นข้าที่บังคับเขา!”อินปู้อวี่รู้ว่าฝ่าบาทมีวรยุทธ์สูงส่ง สิ่งที่ตัวเองพูดไปเมื่อครู่เขาจะต้องได้ยินอยู่แล้ว เขาก้าวไปข้างหน้า และคุกเข่าลงต่อหน้าฝ่าบาทด้วยสีหน้าซีดเซียว“ฝ่าบาททรงพระปรีชา ทั้งหมดนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับองค์หญิงเลย เป็นกระหม่อมที่เพ้อฝันในตัวองค์หญิง คิดฝันในสิ่งที่ไม่สมควร ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความเห็นแก่ตัวของกระหม่อมเพียงฝ่ายเดียว ไม่เกี่ยวอะไรกับองค์หญิง ไม่เกี่ยวกับฮองเฮา และยิ่งไม่เกี่ยวข้องกับตระกูลอินเลย กระหม่อมยอมตายเพื่อชดใช้ความผิด ด้วยพระเมตตาของฝ่าบาท หวังว่าฝ่าบาทจะเห็นแก่ความเป็นพี่น้องกับองค์หญิง โปรดอย่าส่งนางไปแต่งงานกับเจียงวูเลยพ่ะย่ะค่ะ!”อินปู้อวี่สะบัดนิ้ว กระบี่ที่เอวก็หลุดออกมาจากฝักเสียงดัง เขาถือกระบี่จ่อที่ลำคอตัวเอง ทว่าเหมือนถูกพลังที่มองไม่เห็นขัดขวางไว้ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถเข้าใกล้ผิวหนังของเขาได้เลยใบหน้าของเย่ไห่ถังซีดลงด้วยความหวาดกลัว กระโจมเข้าไปหาเขาทันที กล่าวด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดปนสะอื้น

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1523 สารภาพความในใจ

    อินปู้อวี่ไม่กล้าสบตาคู่นั้นโดยตรง ก้มหน้าพูดว่า “กระหม่อมจะกล้าหัวเราะเยาะองค์หญิงได้อย่างไร กระหม่อมเป็นห่วงองค์หญิง ดังนั้น...จึงมาเยี่ยม”เย่ไห่ถังลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วเดินไปหาเขาทีละก้าวถามด้วยดวงตาแดงก่ำ “ข้ากำลังจะไปจากวังหลวง จะไม่ได้รบกวนท่านอีกตลอดไป ท่านสมความปรารถนาแล้ว ยังต้องเป็นห่วงอะไรอีก”อินปู้อวี่ก้มศีรษะลง มองดูปลายรองเท้าแล้วพูดว่า “ไม่ใช่อย่างที่องค์หญิงคิด กระหม่อมไม่เคยคิดเลยว่าองค์หญิงจะไปแต่งงานเชื่อมไมตรี”เย่ไห่ถังยกมุมปากขึ้นอย่างเยาะเย้ยถากถาง“การแต่งงานเชื่อมไมตรีเพื่อเสริมสร้างอำนาจราชวงศ์ ทำให้ประชาชนมีความสุขสงบ เป็นเรื่องธรรมดาตั้งแต่สมัยโบราณแล้วไม่ใช่หรือ จะไม่เคยคิดได้อย่างไร ท่านเคยไปทำศึกที่เจียงวู คงรู้สถานการณ์ที่นั่นดี ทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ ฟ้าดินกว้างขวาง สำหรับข้าคงเป็นสิ่งที่ดีมาก”ทันใดนั้นอินปู้อวี่ก็เงยหน้าขึ้น สีหน้าตื่นเต้นเล็กน้อย“ไม่ดี ที่นั่นไม่เหมาะกับองค์หญิงเลย ชาวเจียงวูส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในกระโจม อพยพตามฤดูกาล แม้แต่ตำหนักที่ประทับที่เป็นทางการก็ยังไม่มีด้วยซ้ำ องค์หญิงสูงศักดิ์ล้ำค่า จะทนสิ่งนี้ได้อย่างไร”เย่ไห่ถังมองดู

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1522 ท่านมาหัวเราะเยาะข้างั้นหรือ

    ไม่ได้ เขาต้องไปพบกับเย่ไห่ถัง!อินปู้อวี่เปลี่ยนเป็นชุดพรางตัว ผลักเปิดหน้าต่างด้านข้าง กวาดสายตามองไปรอบๆ และร่างนั้นก็กระโดดออกจากพระที่นั่งเทียนเต๋ออย่างเงียบเชียบในเวลานี้ ตำหนักชิงฮว๋าได้ตกอยู่ในความโกลาหลหมอหลวงหลายคนช่วยกันตรวจชีพจร และในที่สุดก็สรุปได้ว่า องค์หญิงวิตกกังวลเกินเหตุ ไม่มีอะไรร้ายแรงอินชิงเสวียนเหลือบมองเย่จิ่งอวี้อย่างงอนๆ จากนั้นให้น้ำพุวิญญาณชงชามะนาวให้นางดื่มเย่จิ่งอวี้ยิ้มบางๆ และพูดว่า “ในที่สุดน้องสาวของข้าก็โตขึ้นแล้ว รู้จักจะคิดแทนข้า แม้ว่าเจียงวูจะเป็นสถานที่เล็กๆ แต่ก็มีชนเผ่าอยู่ใกล้ๆ มากมาย เมื่อราชาเผ่ามีเจตนาเป็นกบฏ แล้วร่วมมือกัน นั่นจะเป็นขุมพลังที่ไม่อาจมองข้ามได้ เจ้าไปแต่งงานเชื่อมไมตรีในฐานะองค์หญิง ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงพระเมตตาของสวรรค์เท่านั้น แต่ยังทำให้จิตใจของชาวเจียงวูมั่นคงอีกด้วย เจ้าก็ถึงวัยที่จะแต่งงานพอดี ราชาเผ่าอายุมากกว่าเจ้าไปบ้าง ย่อมรักและทะนุถนอมเจ้าอย่างดีอยู่แล้ว ข้าออกคำสั่งให้เขาแต่งเจ้าเป็นภรรยาเอกแล้ว เจ้าไม่ต้องกังวล”เย่ไห่ถังหน้าซีด นั่งฟังอยู่เงียบๆ ดวงตาว่างเปล่าอินชิงเสวียนทนไม่ไหว ตะโกนออกมาด้ว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1521 ศรัทธาพังทลาย

    อินปู้อวี่ตกตะลึงจนหน้าเผือดสีเขาอ่านจดหมายลับกลับไปกลับมาอยู่หลายครั้ง คำต่อคำ บรรทัดต่อบรรทัด ไม่ผิด ฝ่าบาททรงหมายความตามนี้จริงๆปลายนิ้วสั่นเทาอย่างอดไม่ได้ พระราชโองการร่วงหล่นลงกับพื้น“ผู้บัญชาการ เกิดอะไรขึ้นขอรับ”รองแม่ทัพยืนอยู่ข้างๆ กำลังคิดจะหยิบพระราชโองการขึ้นมาดูอินปู้อวี่ยื่นมือออกไปห้ามเขา สีหน้ามืดลง“ถอยออกไป”รองแม่ทัพไม่กล้าพูดอะไร โค้งคำนับและถอยออกไปนอกพระที่นั่ง ทว่าในใจกลับเอาแต่คิดว่าเกิดอะไรขึ้นฝ่าบาทให้ความสำคัญกับตระกูลอินมากเพียงใดนั้น เจ้าหน้าที่ขุนนางทุกคนในเมืองหลวงล้วนรู้ดี เหตุใดผู้บังคับบัญชาจึงมีสีหน้าหวาดกลัว ราวกับกำลังเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งเช่นนี้?เขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่นานแต่ก็คิดไม่เข้าใจ จึงนำทหารออกไปลาดตระเวนอินปู้อวี่ยืนนิ่งงันอยู่เนิ่นนาน ก่อนที่จะหยิบพระราชโองการขึ้นมา ดึงตะบันไฟออกมา และเริ่มเผามันด้วยสีหน้าด้านชาดังที่เย่จิ่งอวี้พูด เขาเข้าใจทุกอย่าง และรู้ทุกอย่างเขามีนิสัยตรงไปตรงมา ไม่ชอบอ้อมค้อม หัวสมองก็ไม่ฉลาดพอ ไม่เฉลียวฉลาดเหมือนพี่ใหญ่ และไม่ชอบทำตัวเหมือนน้ำกลิ้งบนใบบอนหัวช้าเรื่องความรัก แต่เ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1520 อ่านจบแล้วจงเผาทำลาย

    อินชิงเสวียนค่อนข้างรู้สึกตื่นเต้น นับจากการแจกจ่ายตำราไปจนถึงการก่อตั้งโรงเรียนสอนการต่อสู้ ก็ผ่านมาหนึ่งปีแล้ว แม้ว่าเวลาจะฉุกละหุกไปบ้าง แต่ถ้าเทียบกับบทกวีและบทเพลงที่น่าเบื่อก่อนหน้านี้ ก็ถือว่าเพิ่มพูนความรู้มากพอสมควรแต่หากต้องการให้มีการศึกษาภาคบังคับเหมือนในยุคสมัยใหม่ รวมถึงมีการเรียนแบบมหาวิทยาลัย เกรงว่าจะต้องใช้เวลาหลายปีโชคดีที่ฮ่องเต้สนับสนุนนาง ไม่ว่าจะใช้เวลานานเท่าใดก็ตาม นางก็เต็มใจที่จะลองดู“เช่นนั้นก็ยอดไปเลย ข้ารอไม่ไหวแล้ว เพียงแต่ใกล้จะสิ้นปีแล้ว ทำไมไม่จัดสอบหน้าพระที่นั่งหลังวันตรุษล่ะ จะได้ให้เหล่าบัณฑิตได้สนุกสนานกับครอบครัวในวันตรุษให้เต็มที่”เย่จิ่งอวี้พยักหน้าเห็นด้วย“เสวียนเอ๋อร์พูดมีเหตุผล พรุ่งนี้ข้าจะเขียนโองการขึ้นใหม่ ให้สอบระดับเขตก่อน จากนั้นสอบระดับมณฑล ส่วนการสอยระดับอื่นไว้ค่อยดำเนินการหลังวันตรุษ”อินชิงเสวียนคลี่ยิ้ม“ขอบพระทัยฝ่าบาท”“ปากเล็กๆ เต็มไปด้วยน้ำผึ้ง ขอข้าชิมหน่อย”อินชิงเสวียนปิดปากของเขาทันที“ข้าจะลุกจากเตียงแล้ว”เย่จิ่งอวี้กอดนางไว้แน่นกึ่งบังคับ“ไม่ได้ ข้าบอกแล้ว วันนี้ให้นอนบนเตียง”อินชิงเสวียนดิ้นไม่หลุ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1519 ไม่ต้องพูด จูบข้า

    เมื่อมองดูดวงตาคู่นั้นที่เปี่ยมไปด้วยความรักและความอ่อนโยน หัวใจของอินชิงเสวียนเหมือนจะถูกสิ่งของบางอย่างกระแทกอย่างแรง พูดไม่ออกเป็นเวลานานนางคิดมาตลอดว่าความรักนั้นสามารถร้อนแรงเร่าร้อน หรือจะค่อยเป็นค่อยไปอย่างยาวนานก็ได้ แต่ไม่เคยรู้มาก่อนว่า ความรักของเย่จิ่งอวี้นั้นลึกซึ้งและหนักหน่วงมาก จนกระทั่งครอบครองหัวใจของนางอย่างเต็มกำลังรู้สึกว่าลำคอตีบตันไปหมด การมองเห็นพร่าเลือนไปชั่วขณะหนึ่งนางยืนขึ้นอย่างช้าๆ เดินไปหาเย่จิ่งอวี้ นางอ้าแขนออก และกอดชายตรงหน้าอย่างแรง ราวกับว่าได้อุ้มทั้งโลกไว้ในอ้อมกอดจากนั้นก็ยืนเขย่งปลายเท้า จูบริมฝีปากที่เริ่มเย็นของเขานางเป็นฝ่ายเริ่มตวัดปลายลิ้นดุนดันปลายลิ้นของเย่จิ่งอวี้ อ้อยอิ่งอยู่กับเขารสหวานเข้าครอบงำประสาทสัมผัสของเย่จิ่งอวี้ทันที เขากอดร่างเล็กของหญิงสาวด้วยมือข้างเดียว จากผู้ที่เป็นฝ่ายถูกกระทำกลับกลายเป็นฝ่ายกระทำ ยึดร่างบางของนางไว้กับอกของตัวเอง กระแสเสียงแหบเครือ “เสวียนเอ๋อร์...คิดถึงข้างั้นหรือ ทำไมวันนี้ถึงกระตือรือร้นเช่นนี้”อินชิงเสวียนมองใบหน้าอันหล่อเหลาราวกับเทพเซียนด้วยสายตาพร่าเลือน ประทับจูบที่มุมปากของเขาแ

DMCA.com Protection Status