Share

บทที่ 228

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
last update Last Updated: 2024-05-12 18:00:00
มือที่ซ่งซีซีวางไว้บนหัวเข่านั้นก็กำมือแน่นขึ้น นางสำลักตอบอืม จากนั้นก็หันหน้าหนีโดยไม่สนใจว่าอาจจะเสียมารยาท

เมื่อเห็นนางเช่นนี้ ขงหยางก็รู้สึกเสียใจที่มาที่นี่ บางที ทั้งสองครอบครัวยังไม่พร้อมที่จะพบกัน

เขาเป็นลูกผู้ชายยังเกือบกลั้นน้ำตาไม่ได้เลย นับประสาอะไรกับเด็กผู้หญิงที่อายุเพียง 18 หรือ 19 ปีเท่านั้น

แม้ว่า นางเคยออกศึกมา เคยตัดหัวของศัตรูออก แต่ถึงยังไงก็ต้องพึ่งพิงกับครอบครัวของตนเอง นางเคยเป็นแก้วตาดวงใจครอบครัว ได้รับการปกป้องจากทั้งครอบครัว แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นมา ตอนนี้เหลือนางเพียงคนเดียวแล้ว

แม้ว่านางจะมีปีกที่แข็งแกร่งมากแค่ไหน สามารถต้านทานศัตรูภายนอกได้ แต่หัวใจของนางก็ยังเจ็บปวดได้เช่นกัน

ขงหยางไม่เคยคิดถึงฉากนั้นง่ายๆ และไม่กล้าที่จะคิดถึงมัน

บางที อาจถึงเวลาที่ต้องเผชิญหน้าแล้ว ไม่เช่นนั้น ทุกครั้งที่นึกถึงมัน ในใจมักจะนองเลือดตลอดชีวิต

เขาเอ่ยปาก แต่เสียงของเขาไม่ใช่น้ำเสียงดั้งเดิมของเขาแล้ว "เรื่องอดีตก็ปล่อยให้มัน...ผ่านไปเถอะ คนเราต้องมองไปข้างหน้า ได้ยินมาว่าเจ้าหมั้นหมายกับท่านเป่ยหมิงอ๋องแล้ว ยังไม่ได้แสดงความยินดีกับเจ้าเลย"

ซ่งซีซีห
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 229

    ตอนนั้นที่ท่านหญิงเจียอี้อภิเษกสมรสเข้าจวนโหว ผิงหยางคนปัจจุบันยังคงเป็นโอรสคนโต หลังจากการสิ้นพระชนม์ของท่านโหว เขาก็สืบทอดตำแหน่งและกลายเป็นโหวผิงหยางแต่หลังจากที่เขาได้รับตำแหน่งสืบทอดแล้ว ท่านหญิงเจียอี้ก็กลายเป็นโหวฮูหยิน กฏระเบียบของตระกูลนี้พูดได้ว่า... หากไม่ใช่ว่าฮูหยินผู้เฒ่ายังอยู่ ชื่อเสียงของตระกูลที่มีอายุร่วมศตวรรษจะถูกทำลายไปเลยโหวผิงหยางมีสมาชิกสี่กลุ่ม ท่านหญิงเจียอี้ขัดแย้งกับทุกคนในแต่ละกลุ่ม เพราะตอนที่นางเพิ่งแต่งเข้ามา อาศัยตนเองเป็นท่านหญิง ก็ทำตัวกำเริบเสิบสานในจวน ยังพยายามจะเข้าไปยุ่งเรื่องการเมืองที่ผู้ชายทำในราชสำนักสุดท้ายได้ไม่เรื่องสักเรื่องเลย ทำเอาในจวนวุ่นวายไปหมด ทไให้ทุกคนต่างรังเกียจนาง ยังเสียเงินไปเยอะอีกด้วยฮูหยินผู้เฒ่ากำลังพักฟื้นตัวอยู่ กลับถูกนางยุโมโหจนเป็นลม จากนั้นได้เชิญหมอมหัศจรรย์ดันไปรักษา นางต้องดูแลเรื่องในจวนทั้งๆ ที่ยังป่วยหนักอยู่ตระกูลที่มีอายุร่วมศตวรรษเช่นนี้ จะไม่เปิดเผยเรื่องอื้อฉาวต่อสาธารณะ แต่เนื่องจากท่านหญิงเจียอี้สร้างปัญหาเป็นเรื่องใหญ่เข้าจริงๆ จนปกปิดไม่ได้อีกดังนั้น ฮูหยินผู้เฒ่าจึงโกรธมากจนบอกว่าตราบใด

    Last Updated : 2024-05-13
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 230

    ส่วนสำนักเขตจิงจ้าวก็ไปที่จวนองค์หญิงใหญ่ด้วย เพราะนักเล่าเรื่องเหล่านั้นได้สารภาพว่าเป็นพ่อบ้านของจวนองค์หญิงใหญ่ ตามหลักแล้วสำนักเขตจิงจ้าวก็ต้องไปสอบถามสักหน่อยด้วยนางเป็นถึงองค์หญิงใหญ่ ดังนั้นขงหยางจึงออกหน้าด้วยตนเอง โดยทำท่าจะมาเจรจาตามที่คาดไว้ องค์หญิงใหญ่ได้สุ่มผลักใครสักคนให้ออกมารับโทษ ส่วนขงหยางก็ไม่จริงจังอะไร เลยนำตัวคนนั้นกลับโดยตรงสำหรับกลุ่มนักเล่าเรื่องพวกนั้นได้รับการปล่อยตัวในชั่วคราว แต่รัฐบาลสั่งให้พวกเขาชี้แจงเรื่องนี้ภายในเวลาสามวัน และขอโทษคุณหนูซ่งแห่งจวนเสนาบดีกั๋วกง ให้ชดเชยด้วยเพราะสำนักเขตจิงจ้าวได้จัดฉากใหญ่ไปหาท่านหญิงเจียอี้ที่จวนโหวผิงหยาง ต่อให้องค์หญิงใหญ่ได้หาแพะรับบาปไว้ แต่ท่านหญิงเจียอี้ก็ไม่สามารถหนีพ้นได้สำหรับการให้เวลาผู้เล่าเรื่องสามวันในการชี้แจง มันก็คือให้เวลาองค์หญิงใหญ่ได้ลงไม้ลงมือทำอะไรอีก เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ไปข่มขู่อย่างเดียวมันจะไม่ได้ผล และทำได้เพียงติดสินบนเท่านั้นนี่ไง เสียเงินจำนวนก้อนโตอีกแล้ว เงินสามพันตำลึงที่เอามาจากสนมฮุ่ยไทเฟยทุ่มไปหมดแล้วยังไม่พอ ตนเองยังเสียส่วนหนึ่งด้วยนักเล่าเรื่องที่รับเงินไปพวกนั้น

    Last Updated : 2024-05-13
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 231

    ฮูหยินผู้เฒ่าจากโหวผิงหยางเห็นดวงตาที่ไม่แสดงแววความเกรงกลัวของนาง ก็รู้วว่าคำพูดที่นางพูดนั้นจากจริงใจ และนางไม่ได้โทษจวนโหวผิงหยางในเรื่องนี้นางค่อยโล่งใจมองออกไปไกลๆ จวนโหวผิงหยางก็ไม่ต้องการสร้างศัตรูโดยไม่มีเหตุผล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นเป่ยหมิงอ๋องหรือจวนเสนาบดีกั๋วกงซ่ง นางต่างก็ไม่อยากทำให้พวกเขาเป็นศัตรูอย่างน้อยเมื่อพิจารณาจากการสร้างผลงานทางทหารของพวกเขา พวกเขาล้วนเป็นคนน่านับถือ ที่จวนโหวผิงหยางควรผูกมิตรกับคนแระเทภนี้ แทนที่จะมีความขัดแย้งหรือมีปัญหากับพวกเขาฮูหยินผู้เฒ่าถอนหายใจ "คุณหนูซ่งเป็นคนมีเหตุผลรู้ความ ข้านี่รู้สึกละอายใจจริงๆ ถ้ามิใช่หัวหน้าสำนักหอดูดาวหลวงออกมาชี้แจง เกรงว่าคุณหนูจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงโดยถูกกล่าวหาว่าเป็นคนอกตัญญู ไม่ว่าสำหรับใครมันก็เป็นหายนะ"ซ่งซีซีกลับส่ายหัวเล็กน้อย "ฮูหยินผู้เฒ่า สำหรับข้าแล้วนี่ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไรเลย เป็นแค่คำนินทาเล็กน้อยก็เท่านั้น"นี่ยังไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไรเหรอ?ฮูหยินผู้เฒ่ามองไปที่ซ่งซีซีด้วยความเหลือเชื่อ โดยคิดว่านางจงใจพูดอย่างให้เรื่องจบๆ ไปอย่างสบายๆ แต่เมื่อมองดูสีหน้าที่สงบนิ่งของน

    Last Updated : 2024-05-13
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 232

    ฮูหยินผู้เฒ่าแห่งโหวผิงหยางกล่าวว่า "เจ้าก็พูดถูก หากความจริงเป็นเช่นนี้หล่ะก็ แม้ว่าวันนั้นท่านแม่ของเจ้าจับสร้อยข้อมือไว้ไม่อยากปล่อย แต่ด้วยการโต้แย้งของข้าอย่างมีเหตุผล นางก็มอบมันให้ข้า ร้านจินจิงคืนเงินให้นาง เหตุการณ์นี้มาจัดการเช่นนี้ก็ถือว่าเรียบร้อบดี"เมื่อซ่งซีซีได้ยินเช่นนั้น นางก็รู้ว่าเรื่องยังไม่จบ เลยไม่ได้ถามอะไร รอให้นางพูดต่อฮูหยินผู้เฒ่าสีหน้าไม่ดีนัก "หลังจากที่ข้านำสร้อยข้อมือกลับจวนแล้ว ข้าพบว่าสร้อยข้อมือที่ข้าสั่งทำนั้นมีอัญมณีห้าเม็ด และชิ้นนี้มีหกเม็ด เห็นได้ชัดว่ามันไม่ใช่อันที่ข้าสั่ง ข้าเลยส่งคนไปที่ร้านจินจิงเพื่อสอบถามดู ถึงจะรู้ว่าท่างชองที่รับผิดชอบในการทำสร้อยข้อมือให้ข้าได้กระทำความผิดและหนีไปโดยนำสร้อยข้อมือของข้าติดตัวไปด้วย ส่วนชิ้นนี้ มันเป็นของที่ท่านแม่ของเจ้าสั่งทำไว้จริงๆ เป็นสินเดิมที่จะมอบให้เจ้า แต่ทางร้านจินจิงไม่ได้บอกตอนนั้น เพราะมีแขกคนอื่นอยู่ด้วย และไม่สะดวกที่จะอธิบายว่าเป็นเพราะช่างทองนำของหนีออกไป เดิมทีวางแผนว่าจะมาให้คำอธิบายวันถัดไป แต่ข้าพบข้อผิดพลาดก่อนก็ส่งคนไปถาม จากนั้นถึงรู้ความจริง"ซ่งซีซีตกใจเล็กน้อย ท่านแม่วางแผน

    Last Updated : 2024-05-13
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 233

    ฮูหยินผู้เฒ่าแห่งโหวผิงหยางยืนกรานที่จะเรียกเก็บเงินเพียงหนึ่งตำลึงเท่านั้น ไม่ว่าซ่งซีซีจะว่ายังไง นางก็ไม่ยอมรับเงินมากกว่านั้นอีกเลยซ่งซีซีไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมรับความน้ำใจนี้ไว้ฮูหยินผู้เฒ่าแห่งโหวผิงหยางกล่าวก่อนจะจากไป "ข้ามีวาสนากับคุณหนู หากคุณหนูมีเวลาว่าก็ขอเชิญไปเที่ยวจวนของข้าสักหน่อย หรือว่า ข้าจะมาจวนเสนาบดีกั๋วกงเพื่อมาคุยเล่นกับคุณหนูสักหน่อย"ซึ่งหมายความว่าทั้งสองครอบครัวจะไปมาหาสู่กันในอนาคตแน่นอนว่าซ่งซีซีรู้ดีว่ามันไม่ใช่มาจะประจบประแจง ชื่อเสียงของโหวผิงหยางนางก็ได้ยินมาบ้าง พวกเขาไม่จำเป็นต้องประจบประแจงใครเลย เพราะพวกเขาเป็นครอบครัวที่มีอายุร่วมศตวรรษและลูกหลานในตระกูลนั้นมีไม่น้อยที่ทำงานในราชสำนัก และบุคคลสำคัญที่มีอำนาจใหญ่ก็ไม่น้อยด้วยไม่ว่าจะยังไง มีเพื่อนเพิ่มมาคนนึงมันก็ดีกว่าเพิ่งศัตรูให้ และยังมีวาสนาที่ผูกมัดกับสร้อยข้อมือเส้นนี้อีกด้วยซ่งซีซียิ้มและก้มศีรษะ จากนั้นค่อยส่งนางออกจากจวนด้วยตนเอง "ข้ามีวาสนากับฮูหยินผู้เฒ่า ย่อมหาได้ยากเลย"หลังจากมองเห็นฮูหยินผู้เฒ่าจากไป ซ่งซีซีไปที่ห้องโถงหมิงเซ่อของท่านแม่ และนั่งบนเก้าอี้นุ่นที่น

    Last Updated : 2024-05-13
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 234

    ท่านหญิงเจียอี้กลับมาอาศัยที่จวนองค์หญิง และแม่ลูกสองคนต้องทนทุกข์ทรมานจากการด่าทอ ตอนที่ชาวบ้านชาวเมืองด่าซ่งซีซีนั้น พวกนางจะรู้สึกสะใจมากแค่ไหน ตอนนี้ก็ฃโกรธมากแค่นั้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีข่าวเกี่ยวกับอนุภรรยาของจวนองค์หญิงถูกแพร่กระจาย องค์หญิงใหญ่ไม่เพียงแต่โกรธ แต่ยังเริ่มสงสัยคนสนิทข้างกายของนาง ได้เผยแพร่ข้อมูลใดๆ รั่วไหลออกไปหรือไม่การสอบสวนทีละคนแบบนี้ก็เพียงพอที่จะทำให้จวนองค์หญิงวุ่นวายได้ระยะหนึ่ง บวกกับท่านหญิงเจียอี้กำลังมีปัญหากับครอบรัวสามี นางกำลังอารมณ์หดหู่ วันๆ เอาแต่ใส่อาารมณ์ทำไม่ดีกับสาวใช้ที่จวนองค์หญิงเดิมที นางคิดว่าหลังจากกลับไปพักอาศัยที่บ้านพ่อแม่ของตนเองสักระยะนึง โหวผิงหยางจะมารับนางกลับ แต่ใครจะไปรู้ว่าไม่เพียงแต่โหวผิงหยางไม่ไปรับเท่านั้น แม้แต่คนรับใช้จากจวนโหวก็ไม่ได้ไปตามหานาง แต่กลับได้ยินข่าวว่าแม่สามีของนางไปที่จวนเสนาบดีกั๋วกงเพื่อขอโทษซ่งซีซีนางโกรธเกี้ยวในใจ ดูเหมือนว่าตราบใดที่หญิงชราจะมีชีวิตอยู่ นางก็ไม่มีทางกุมอำนาจได้ ยิ่งไม่มีสถานะใดๆ ในครอบครัวของสามีตนเองด้วยเพียงแต่ความคิดชั่วร้ายเคยเกิดขึ้นนับครั้งไม่ถ้วน แต่ก็ไม่มีประโย

    Last Updated : 2024-05-13
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 235

    เมื่อถึงกลางเดือนสิงหาคม ก็ใกล้จะถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์แล้ว เซี่ยหลูโม่ยังไม่กลับมาไปตั้งเดือนกว่า และซ่งซีซีรู้สึกแปลกเล็กน้อย ก่อนหน้านี้ไม่ได้บอกว่าแค่ไปรายงานสักหน่อยเดี๋ยวก็กลับเหรอ?ใช้เวลาไปภูเขาเหม่ยชานเพียงสองสามวันก็พอ ถ้านับกับต้องพักที่นั่นต่ออีกกี่วัน สิบวันก็เพียงพอที่ไปกลับแล้วหรือว่าเกิดเรื่องที่ภูเขาเหม่ยชานแล้วหรือ?เป็นเวลาพอดีเลยที่ได้รับจดหมายจากเสิ่นว่านจือ ในจดหมายของเสิ่นว่านจือได้เขียนมาหลายหน้า ล้วนเป็นเรื่องสนุกที่เกิดขึ้นในภูเขาเหม่ยชาน ยังบอกว่ากุ้นเอ๋อร์ได้ซื้อเครื่องสำอางกลับไป แล้วถูกอาจารย์ขังบริเวณ แต่ไม่ได้ถูกทุบตีซ่งซีซียิ้มในจดหมายยังแสดงถึงความยินดีให้กับนางที่จะแต่งงาน และบอกว่าเมื่อนางแต่งงาน เพื่อนๆ ที่ภูเขาเหม่ยชานจะมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้นางข่าวงานแต่งงานของนางแพร่กระจายในภูเขาเหม่ยชาน ซึ่งหมายความว่า เซี่ยหลูโม่เคยไปที่ภูเขาเหม่ยชาน และสถาบันว่านซงเหมินด้วย ดูเหมือนว่าอาจารย์จะชอบเซี่ยหลูโม่ ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่แจ้งให้ทุกคนทราบเกี่ยวกับการแต่งงานของนางในภูเขาเหม่ยชานเสิ่นว่านจือยังกล่าวอีกว่าตอนนี้ทั้งสถาบันกำลังเตรียมสินเดิมให้นาง

    Last Updated : 2024-05-13
  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 236

    มื้อเที่ยงเบาๆ ซ่งซีซีดื่มแค่โจ๊กไก่หนึ่งชามเท่านั้น จากนั้นก็ไปสักการะที่ศาลเจ้าตระกูลซ่งเป็นตระกูลที่ใหญ่โตและมีห้องโถงของบรรพบุรุษ ป้ายวิญญาณของพ่อแม่ พี่ชาย และพี่สะใภ้ประดิษฐานอยู่ในห้องโถงของบรรพบุรุษ อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปแล้วผู้หญิงไม่สามารถเข้าไปในห้องโถงของบรรพบุรุษเพื่อสักการะได้ และทำได้เพียงการโค้งคำนับข้างนอกประตูเท่านั้นวิธีเดียวที่ผู้หญิงจะเข้าไปได้ก็ต่อเมื่อเสียชีวิตไป แล้วนำป้ายวิญญาณเข้าไป อีกอย่างซ่งซีซีไม่สามารถถูกนำเข้าไปได้เพราะ นางเป็นลูกสาว และมีเพียงสะใภ้ของตระกูลซ่งเท่านั้นที่สามารถเข้าไปได้ดังนั้นหลังจากที่ท่านพ่อและพี่ชายของนางเสียชีวิตในสงคราม ท่านแม่จึงสร้างศาลเจ้าที่บ้าน และจัดวางป้ายวิญญาณของท่านพ่อและพี่ชายเอาไว้เพื่ออำนวยความสะดวกในการสักการะในช่วงเทศกาลหลังจากที่ครอบครัวถูกสังหารหมด ซ่งซีซีได้จัดป้ายวิญญาณของท่านแม่ พี่สะใภ้ หลานๆ ของนางทั้งหมดวางไว้ที่นั่นด้วยลุงฟูได้เตรียมเครื่องสังเวยไว้แล้ว ทั้งไก่ ขนมไหว้พระจันทร์ และผลไม้สด นางเข้าไปจุดธูป ผู้คนที่เคยอยู่กันเป็นๆ ต่อหน้าต่อตา ทว่าปัจจุบันกลายเป็นป้ายวิญญาณสี่เหลี่ยมไปหมดหลังจากจุดธู

    Last Updated : 2024-05-13

Latest chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1342

    เนื่องจากฝ่าบาททรงส่งชีกุ้ยไปปฏิบัติหน้าที่ข้างนอก งานดูแลเรือนจำจึงถูกมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ของหอต้าหลี่ดูแล และผู้ที่รับหน้าที่นี้คือเซี่ยหรูหลิงไม่นานนัก เซี่ยหรูหลิงก็เดินทางมาที่จวนเป่ยหมิงอ๋องเพื่อพบซ่งซีซี บอกว่ามีเรื่องที่เขาตัดสินใจไม่ได้ และขอให้ซ่งซีซีช่วยแนะนำซ่งซีซีรีบกินข้าวเพียงสองสามคำแล้วออกมาพบเขา เพราะกังวลว่าอาจเป็นเรื่องเกี่ยวกับฮูหยินจีและเด็กๆแต่เมื่อได้ฟังสิ่งที่เซี่ยหรูหลิงกล่าว นางก็พบว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับฮูหยินผู้เฒ่าและหวังชิงหลูทั้งสองคนหลังจากถูกส่งตัวเข้าเรือนจำก็วิตกกังวลทุกวัน อีกทั้งอาหารยังแย่ยิ่งกว่าอาหารที่เคยให้สุนัขกิน หลังจากนั้นไม่กี่วันก็เริ่มอาเจียนและท้องเสียก่อนหน้านี้ ซ่งซีซีเคยให้ยากับฮูหยินจี ซึ่งรวมถึงยาสำหรับอาการท้องเสียและปวดท้องเพราะไม่ชินสภาพแวดล้อม ยาทำให้อาการดีขึ้น แต่เพราะต้องกินอาหารแบบนั้นต่อไป อาการจึงกลับมาแย่ลงอีก และหวังชิงหลูก็มีไข้สูงฮูหยินผู้เฒ่าร้องขออย่างน่าสงสารให้ช่วยหาหมอ เซี่ยหรูหลิงไม่กล้าตัดสินใจ จึงออกมาขอคำปรึกษาจากซ่งซีซีซ่งซีซีถามว่า “แล้วคนอื่นล่ะ? มีอาการเหมือนกันหรือไม่?”“เดิมที

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1341

    แต่ครั้งนี้เมื่อเข้าไปในวัง กลับไม่ได้พบฝ่าบาท อู๋ต้าปั้นออกมาแจ้งข่าวว่า วันนี้ฝ่าบาทไอจนมีเลือดปนและเกือบหมดสติ ตอนนี้หมอหลวงกำลังรักษาซ่งซีซีรีบถาม “เป็นเพราะพระวรกายอ่อนแอ หรือถูกลอบวางยาพิษ?”คำถามนี้ชัดเจนว่าแฝงด้วยความระแวง หากเป็นสถานการณ์ปกติหรือคนอื่น ซ่งซีซีคงไม่กล้าถามแต่สถานการณ์ตอนนี้แตกต่างออกไป อีกทั้งคนที่นางเผชิญหน้าอยู่คืออู๋ต้าปั้น นางจึงถามอู๋ต้าปั้นถอนหายใจ สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล “หมอหลวงวินิจฉัยว่าไม่ได้ถูกวางยาพิษ แต่เพราะฝ่าบาททรงวิตกกังวลอย่างหนัก พักผ่อนน้อยและเบื่ออาหาร อีกทั้งสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ทำให้ทรงติดเชื้อและไอมาแล้วหลายวัน แม้จะดื่มยามาหลายวันแต่ไม่ได้ผล วันนี้ไอไม่หยุดจนกระทั่งมีเลือดปนและแทบหายใจไม่ออก”เมื่อได้ยินว่าไม่ใช่การวางยาพิษ ซ่งซีซีก็โล่งใจขึ้นเล็กน้อย หากเป็นการวางยาพิษ ก็หมายความว่ามีคนแฝงตัวเข้ามาในวังแล้ว ซึ่งจะทำให้สถานการณ์ยากลำบากยิ่งขึ้นการไอเป็นเลือดอาจเป็นเรื่องเล็กหรือใหญ่ได้ ซ่งซีซีจึงยังไม่จากไป แต่เฝ้ารออยู่ด้านนอกเพื่อรอหมอหลวงออกมาแจ้งสถานการณ์นอกจากซ่งซีซีแล้ว ยังมีขุนนางอีกหลายคนที่รอเพื่อกราบทูลเรื่อ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1340

    ซ่งซีซีนั่งกลับลงบนเก้าอี้ กล่าวว่า “เรื่องที่พวกเจ้าทุจริตนั้น ฝ่าบาททรงทราบดีแล้ว ตอนนี้ที่ทรงให้ข้าสอบสวนเป็นการส่วนตัว ก็เพื่อมอบโอกาสให้พวกเจ้า หากพูดความจริง หัวของเจ้าจะยังปลอดภัย หากให้ข้อมูลที่มีค่าเพิ่มเติม อย่างมากก็แค่ถูกเนรเทศไปทำงานนอกเมือง ยังสามารถโลดแล่นในวงราชการได้”เกาหมิงอวี้ที่มีประสบการณ์ในราชสำนักมานานย่อมรู้ดีว่าให้ข้อมูลที่มีค่ามากขึ้น หมายถึงการขายเจ้านายและผู้ใต้บังคับบัญชาเขาไม่มีข้อสงสัยในคำพูดของซ่งซีซีด้วยสองเหตุผล หนึ่งคือ ช่วงนี้อู๋เยว่และคนของเขาตรวจสอบทางน้ำอยู่เสมอ สองคือ ซ่งซีซีออกหน้ามาสอบสวนด้วยตัวเอง หากไม่มีพระราชโองการจากฝ่าบาท นางไม่จำเป็นต้องลงมือเอง จะส่งใครมาทรมานเขาก็ได้แน่นอนว่าเขาไม่รู้ว่าซ่งซีซีวิเคราะห์เขาได้อย่างทะลุปรุโปร่ง และคาดการณ์ความคิดของเขาไปก่อนแล้ว“พวกเจ้าทุจริตทั้งระบบ ท่าทีของจินชางหมิงเป็นอย่างไร?”เกาหมิงอวี้ครุ่นคิดก่อนตอบว่า “จะว่าไปจริงๆ แล้ว เขาเป็นคนเริ่มเปิดทางให้เราทุจริต โดยอ้างว่าเป็นค่าเหนื่อยของเรา เมื่อเริ่มต้นแล้ว เราลองเบิกเงินเกินมาเล็กน้อย เขาก็ไม่ว่าอะไร จากนั้นเรากล้าขึ้นเรื่อยๆ ต่อมาเขาเตือนเ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1339

    หลังจากเฝ้าสังเกตอยู่สองวัน ซ่งซีซีตัดสินใจลงมือกับเกาหมิงอวี้ รองหัวหน้ากรมจัดการแม่น้ำเกาหมิงอวี้อายุสามสิบห้าปี รับราชการในกรมโยธามาแล้วห้าปี เขามีพื้นเพมาจากครอบครัวชาวไร่ชาวนา เมื่อยังเยาว์วัยพ่อแม่เสียชีวิต เพื่อให้เขาได้เรียนในสำนักที่ดีที่สุด เขาดูดทรัพย์สมบัติของพี่น้องจนหมดสิ้นหลังสอบจอหงวนได้ เขาเข้ารับราชการ และกลายเป็นคนโลภเงินอย่างที่สุด ขี้เหนียวอย่างยิ่งยวด ทอดทิ้งพี่น้องที่เคยเลี้ยงดูเขาไปเหมือนของไร้ค่า และไม่ติดต่อพวกเขาอีกเลยยังไม่หมดแค่นั้น เขาอ้างความหึงหวงเป็นเหตุผลในการหย่ากับภรรยาคนแรก แล้วแต่งงานกับบุตรสาวของอาจารย์ผู้มีพระคุณอาจารย์ผู้มีพระคุณของเขาคืออธิการสำนักไป๋หยุน ซึ่งปัจจุบันเสียชีวิตไปแล้ว ลูกสาวคนเดียวของอาจารย์แต่งงานกับเขา แต่ก็ไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างดีเขาคือคนไร้ค่าและทรยศทว่าคนไร้ค่าเช่นนี้กลับใช้งานได้ดี เพราะความโลภ โกรธ หลง และความเห็นแก่ตัวของเขา มีจุดอ่อนที่สามารถกดดันจนยอมพูดทุกอย่างคืนนั้น ซ่งซีซีสั่งให้กุ้นเอ๋อร์จับตัวเขามายังเรือนทางตะวันตกของเมือง ขังเขาไว้หนึ่งคืน ให้เขาหวาดกลัวและหิวโหย จากนั้นค่อยสอบสวนในวันถัดไปเกาห

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1338

    จักรพรรดิซูชิงมีราชโองการให้อู๋เยว่พาคนไปควบคุมงานโดยตรง ทว่า จินชางหมิงรับมือได้อย่างคล่องแคล่ว พาอู๋เยว่ไปตรวจสอบผลสำเร็จด้วยตนเองหลังจากเริ่มงานมาเป็นเวลานาน อ่างเก็บน้ำก็ใกล้เสร็จสมบูรณ์คุณภาพของอ่างเก็บน้ำนั้นยอดเยี่ยม เขื่อนที่สร้างขึ้นมั่นคงดั่งกำแพงทองหลังจากตรวจสอบอ่างเก็บน้ำแล้ว ก็ไปตรวจสอบทางน้ำ ทุกพื้นที่ได้ขุดลอกเสร็จเรียบร้อย ส่วนเขื่อนที่เสียหายก่อนหน้านี้ก็ได้รับการซ่อมแซมและเสริมความแข็งแรงแล้วอู๋เยว่ยังส่งคนไปพูดคุยกับคนงานก่อสร้างทางน้ำ ชายฉกรรจ์แต่ละคนที่ผิวคล้ำแดด ดูซื่อๆ ขัดเขินเมื่อต้องอยู่ต่อหน้าขุนนางส่วนใหญ่ถามอะไรก็ตอบสิ่งนั้น หากให้พวกเขาบอกความไม่พอใจอะไร พวกเขามักลังเลครู่หนึ่งก่อนที่จะถามว่าอาหารสามารถปรับปรุงได้ไหม โดยเฉพาะเพิ่มหมูติดมันให้หน่อยอู๋เยว่คิดว่าคนเหล่านี้เป็นคนเรียบง่าย ไม่มีปัญหาอะไร และไม่มีความเคียดแค้นในแววตาเขายังพาคนไปดูที่พักชั่วคราวของคนงานก่อสร้างเหล่านี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกระท่อมไม้และกระท่อมหญ้าแฝก ภายในมีเพียงที่นอนใหญ่ที่รองรับคนได้เจ็ดแปดคน ดูรกเล็กน้อยในกระท่อมไม่มีอาวุธ เครื่องมือที่ต้องใช้ทั้งหมดจะถูกเก็บไว้ในค

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1337

    ซ่งซีซีแทบจะหัวเสียจนอกแตกตาย นางรู้สึกว่าเส้นผมสีขาวกำลังจะงอกออกมาบนหน้าผาก ไม่แปลกใจเลยที่ขุนนางในราชสำนักแต่ละคนดูแก่ก่อนวัย หรือแม้แต่เสนาบดีมู่ที่อายุเพียงหกสิบกว่า ผมก็หงอกไปกว่าครึ่งนางไปหาเสนาบดีมู่ด้วยความขุ่นเคือง หวังว่าเขาจะช่วยอะไรได้บ้างและกล่าวบางคำสนับสนุนนางต่อหน้าฮ่องเต้เสนาบดีมู่ยิ้มพลางมองนาง "แค่นี้ก็ถึงกับโกรธเลยหรือ?"ซ่งซีซีตอบ "มิกล้าโกรธเจ้าค่ะ แต่เรื่องนี้ชะลอความคืบหน้า และข้ากลัวว่าจะทำให้ผู้ต้องสงสัยตื่นตัว จนถูกชิงโอกาสไป ฝ่าบาทไม่ไว้ใจข้าเลย"เสนาบดีมู่ย้อนถาม "เขาไม่เชื่อเจ้าอย่างสมบูรณ์ก็เป็นเรื่องปกติ ต่อให้เป็นเจ้า หากคนใต้บัญชาไม่ได้ยกหลักฐานมาสนับสนุนคำพูด เจ้าจะเชื่อพวกเขาโดยไม่ตรวจสอบหรือ?"ซ่งซีซีกล่าว "แต่เขาไม่มีหลักฐานว่าท่านอ๋องมีความทะเยอทะยานใดๆ แต่เขาก็ยังระแวงทุกทางมิใช่หรือ?""ก็เพราะไม่มีหลักฐาน เขาจึงระแวง หากมีหลักฐาน เขาคงลงมือไปนานแล้ว" เสนาบดีมู่ถอนหายใจเบาๆ "ความจริงแล้ว หลายเรื่องไม่ได้ง่ายดายอย่างที่เจ้าคิด โดยเฉพาะการตัดสินใจสำคัญในราชสำนัก ต้องผ่านการหารือและอภิปรายหลายครั้ง บางเรื่องใช้เวลาเป็นปีจึงจะเดินหน้าได้ อีก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1336

    ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โครงการก่อสร้างแม่น้ำได้เกณฑ์แรงงานจากในและรอบๆ เมืองหลวง โดยเป็นกลุ่มคนงานและแรงงานหนักกลุ่มเดียวกันหน่วยงานด้านแม่น้ำทั้งหมดอยู่ภายใต้การนำของจินชางหมิง เขาใช้ข้ออ้างเรื่องการซ่อมแซมแม่น้ำและโครงการระบายน้ำเข้ายึดครองภูเขาและที่ดินจำนวนไม่น้อยบ้านเรือนถูกสร้างขึ้นอย่างกระจัดกระจายในพื้นที่เหล่านี้ โดยไม่ได้จัดเป็นชุมชนที่มีขนาดใหญ่ คนงานแม่น้ำและแรงงานบางส่วนอาศัยอยู่ในบริเวณนี้เส้นทางแม่น้ำที่พวกเขาครอบครองกระจัดกระจายไปในทุกทิศ เมื่ออาจารย์หยูทำเครื่องหมายและเชื่อมจุดบนแผนที่ พบว่าพื้นที่เหล่านี้โอบล้อมพระราชวังหลวงไว้เหมือนตาข่ายที่กางปิดหากพวกเขาเป็นทหารลับของนกต่อ การเฝ้าประตูเมืองจะไร้ประโยชน์ เพราะพวกเขาอยู่ในเมืองหลวงมาตลอด และเมื่อไม่มีงานทำ พวกเขาก็สำรวจภูมิประเทศจนคุ้นเคย แม้แต่ค่ายลาดตระเวนหรือทหารรักษาการณ์อาจยังไม่รู้จักเส้นทางในเมืองหลวงดีเท่าพวกเขาซ่งซีซีมองดูแผนที่ด้วยความตระหนก แต่ก็ยังตั้งคำถามว่า "พวกเขาได้รับที่ดินเหล่านี้ ต้องได้รับการอนุมัติจากกรมโยธาธิการและฝ่าบาทใช่หรือไม่?""ถูกต้อง แต่ถ้าใช้เพื่อการซ่อมแซมแม่น้ำและระบายน้ำ ก

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1335

    กล่องผ้าไหมสีแดงเข้มชิ้นนั้นเต็มไปด้วยฝุ่น ว่านกงกงเป่าฝุ่นออกก่อนจะใช้แขนเสื้อเช็ด แล้วเปิดกลไกอย่างแผ่วเบา ก่อนจะหยิบหยกชิ้นหนึ่งออกมาเขาส่งสัญญาณให้มอบหยกชิ้นนั้นแก่เสนาบดีมู่เสนาบดีมู่รับมาด้วยความสงสัย เมื่อมองดู เห็นว่าหยกทรงวงแหวนชิ้นนี้แกะสลักลวดลายมังกร ชัดเจนว่าเป็นของจักรพรรดิ์องค์ก่อน"ท่านเสนาบดีลองดูด้านหลัง" ว่านกงกงกล่าวเมื่อเสนาบดีมู่พลิกดูด้านหลัง เขาถึงกับตะลึงจนเหมือนร่างแข็งทื่อด้านหลังยังคงมีลวดลายมังกร แต่ลวดลายนี้ห่อหุ้มใบเมเปิลหนึ่งใบ และข้างใบเมเปิลนั้นยังมีอักษร "สือ" เล็กๆ แกะสลักไว้ใบเมเปิลและตัวอักษรแบ่งพื้นที่คนละด้าน ใบหนึ่งใหญ่ ใบหนึ่งเล็กซ่งซีซีก็เห็นเช่นกัน แต่ไม่เข้าใจความหมายเสนาบดีมู่ถอนหายใจและอธิบายเบาๆ "สือจิ้ง เป็นนามอักษรของจักรพรรดิ์องค์ก่อน ส่วนชิวเหมิงเคยเดินทางในยุทธภพช่วงหนึ่ง และได้รับสมญานามว่า 'คุณชายเหล็กแห่งใบเมเปิล'""หยกชิ้นนี้จักรพรรดิ์องค์ก่อนประทานให้แม่ทัพชิว ด้านหลังเดิมมีเพียงลวดลายมังกร แต่ใบเมเปิลและอักษร 'สือ' นั้น แม่ทัพชิวแกะสลักเพิ่มเอง หยกนี้เขาพกติดตัวตลอด ใส่ไว้ในถุงผ้าไหม แต่ไม่รู้อย่างไรถูกจักรพรรดิ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1334

    อย่างไรเสีย หัวข้อสนทนานี้เป็นเรื่องที่พูดยาก เสนาบดีมู่จึงดื่มชาสองสามอึกก่อนจะกล่าวว่า "ความจริงเรื่องนี้ข้าเองก็ไม่แน่ใจ ในตอนนั้นมีการประกาศว่าชิวเหมิงกระทำการหมิ่นพระเกียรติ จักรพรรดิ์องค์ก่อนทรงกริ้วและปลดเขาออกจากตำแหน่ง ก่อนจะพระราชทานยศเจวี๋ยให้แทน มีข่าวลือเล็กๆ น้อยๆ หลุดออกมาจากในวังว่าเขาและอาจารย์ฉีมีความสัมพันธ์ที่คลุมเครือบางอย่าง เมื่อจักรพรรดิ์องค์ก่อนทรงทราบ ก็ไม่อาจยอมรับเรื่องนี้ได้ ด้วยความโกรธจึงตรัสคำดูหมิ่นเขาอย่างรุนแรง รวมถึงการลดตำแหน่ง ทำให้ชิวเหมิงรู้สึกหมดกำลังใจจนตัดสินใจออกจากเมืองหลวงไป"สำหรับเหตุผลนี้ ซ่งซีซีเคยคาดเดาไว้บ้าง แต่คิดว่าในฐานะคนที่ทำงานใกล้ชิดราชวงศ์ ไม่น่าจะกล้าแสดงความคิดหรือความรู้สึกเช่นนั้นออกมา อีกทั้งนางก็รู้จักอุปนิสัยของจักรพรรดิ์องค์ก่อนดี จึงยิ่งไม่น่าจะไม่ระมัดระวังตัวและหากการลดตำแหน่งเกิดจากเรื่องนี้ ก็ดูเหมือนจะเป็นการทำเรื่องเล็กให้กลายเป็นเรื่องใหญ่แต่จากที่ได้ฟัง บางทีชิวเหมิงอาจมองจักรพรรดิ์องค์ก่อนเป็นเพื่อนจริงๆ จึงไม่ได้ปิดบังตัวเองมากนัก หรืออาจเพราะเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ทำให้จักรพรรดิ์องค์ก่อนทรงไม

DMCA.com Protection Status