“โอเคก็ได้แค่นี้เองก็ต้องซีเรียสด้วย...ชิส์!!” น้ำฟ้าเหลือบตามองอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนจะจูงมือคิมหันต์ลงไปในลำธารน้ำใส ที่เห็นแม้กระทั่งตัวปลาที่แหวกว่ายวนเวียนไปมาอย่างสนุกสนาน ความลึกของลำธารเลยหัวเข่ามาเล็กน้อย ทำให้ไม่ต้องเป็นกังวลสำหรับเด็กอย่างคิมหันต์ที่กำลังลงไปในน้ำเหมันต์รีบปลดเปลื้องเสื้อและกางเกงออกวางไว้บนโขดหิน เหลือไว้เพียงบ็อกเซอร์สีกรมท่าที่ห่อหุ้มเรือนร่างกำยำเอาไว้ ก่อนจะเดินลงไปสมทบกับลูกชายและภรรยา ทั้งสามนั่งแช่ตัวอยู่ในลำธารอย่างสบายตัว น้ำเย็นๆ ตามธรรมชาติอย่างนี้ช่วยบำบัดความเครียดและเรื่องกังวลในหัวได้ดีเลยทีเดียว“น้องคิมไปเล่นน้ำตรงนั้นก่อนนะครับ” คิมหันต์เอ่ยกับผู้ปกครองทั้งสองพร้อมทั้งชี้นิ้วไปยังพื้นที่ใกล้กัน“ได้สิครับ แต่อย่าไปไกลนักนะ” เหมันต์บอกลูกชาย“ครับคุณพ่อ” ว่าแล้วเจ้าตัวน้อยก็รีบว่ายน้ำออกไปจากตรงนั้น ที่เหมันต์อนุญาตโดยง่ายนั่นเพราะระดับน้ำไม่ได้ลึกและอยู่ในระยะที่มองเห็นได้สะดวกน้ำฟ้ากำลังจะว่ายน้ำตามไปแต่ทว่าเหมันต์กลับรั้งตัวเธอเอาไว้ก่อน ตอนนี้เจ้าหล่อนอยู่ในอ้อมกอดเขาโดยมีมวลน้ำห่อหุ้มเรือนร่างทั้งสองเอาไว้ มือหนาทั้งสองข้างประสานกันไ
หลังจากทานมื้อเที่ยงเสร็จแล้ว น้ำฟ้าก็ออกมานั่งรับเย็นๆ พร้อมกับถักผ้าพันคอที่ศาลาในสวนข้างบ้าน คนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวข้างกันนั้นก็คือคิมหันต์นั่นเอง เจ้าเด็กน้อยกำลังนั่งระบายสีภาพการ์ตูนอย่างตั้งใจ ส่วนเหมันต์ก็เข้าไปทำงานในไร่เหมือนเช่นทุกวัน“สวยจังเลยครับน้องคิม” น้ำฟ้าเอ่ยชมลูกเลี้ยงเพื่อให้กำลังใจ เห็นความมุ่งมั่นตั้งใจของคิมหันต์ ก็ทำให้เธอนึกถึงผู้เป็นสามีทันที เขาถ่ายทอดดีเอ็นเอความมุ่งมั่นตั้งใจมาให้กับลูกชายอย่างไม่มีผิดเพี้ยน“จริงๆ เหรอครับคุณแม่” เจ้าเด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมามอง ยิ้มแทบไม่ยอมหุบจนแก้มอวบอูมนั้นแทบจะปริเลยทีเดียว“จริงสิครับ อีกหน่อยก็จะได้ไปโรงเรียนแล้วน้องคิมต้องได้ที่หนึ่งของชั้นแน่นอนครับ”“น้องคิมอยากไปโรงเรียนแล้วครับ เมื่อไหร่คุณพ่อจะพาน้องคิมไปก็ไม่รู้”“ใกล้แล้วล่ะครับ น้องคิมรอแปบนึงนะเดี๋ยวคุณพ่อพาไปโรงเรียนแน่นอน”“ครับคุณแม่”“ถ้างั้นก็ระบายสีต่อนะครับ เสร็จแล้วจะได้เอาไปอวดคุณพ่อไง”“ครับผม”คิมหันต์ก้มลงไปลงไปสนใจระบายสีบนกระดาษต่อ ส่วนน้ำฟ้าก็เริ่มถักผ้าพันคอต่อเช่นเดียวกัน จากนั้นไม่นานโทรศัพท์มือถือเธอมีสายโทรเข้ามาRrrrr….เบอร์ที่โชว์ห
“สะ...เสียวค่ะพ่อเลี้ยง เอามันเข้าไปทีอื้อ”คำปองนอนกระสับกระส่ายอย่างยั่วเย้า ขบริมฝีปากล่างข่มความเสียวเอาไว้ มือเรียวทั้งสองข้างยังคงบีบเคล้นที่หน้าอกคู่งามของตนเองไปด้วยพรวด….“อ๊ะ....อื้อ”เหมันต์ดันดุ้นตัวเขื่องเข้าไปจนคับแน่น ความมหึมาของเหมันต์ทำเอาคำปองหายใจไม่ทั่วท้อง ขมิบตอดรัดท่อนลำเอาไว้แน่น จนเหมันต์ต้องทำหน้าเหยเกด้วยความเสียวสยิว แช่ไว้สักพักชายหนุ่มก็เริ่มขยับตัวกระเด้งเด้าจนกลีบสวาทปลิ้นปริตามจังหวะ เหมันต์รู้สึกได้ถึงการตอดรัดที่แปลกใหม่ ราวกับไม่ใช่น้ำฟ้าคนที่เขาเคยสัมผัส แต่ทว่าฤทธิ์ยาบวกกับแอลกอฮอล์ทำให้เขาลืมข้อสงสัยพวกนั้นไปชั่วขณะ เพราะทุกอย่างมันถูกแทนที่ด้วยความเสียวกระสันเท่านั้นบลั่ก บลั่ก บลั่กเหมันต์ใส่แรงกระแทกเข้าไปเต็มที่จนแก้มกั้นของคำปองแทบไม่ติดพื้น กลีบสวาทที่เคยเป็นสีชมพูระเรื่อกลับบวมเป่งเปลี่ยนเป็นสีแดงคล้ำ เมื่อได้รับแรงสวาทเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่ทว่ามันกลับไม่ทำให้ความร่านราคะในตัวเธอลดลงได้เลย“แรงๆ เลยค่ะพ่อเลี้ยงหนูชอบ”คำปองเอื้อมมือเรียวไปคล้องคอชายหนุ่มโน้มตัวลงมากระซิบที่ข้างใบหู ก่อนจะเลื่อนมาประกบจูบริมฝีปากอย่างดูดดื่ม เหมันต์ส่
“กรี๊ดดด”เสียงเล็กแหลมกรีดร้องดังมาจากห้องนอนของคำปอง ทำเอาทุกคนที่ได้ยินต้องรีบวิ่งแจ้นเข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้ป้าบัวคลี่ น้ำฟ้า และคิมหันต์ ยืนอยู่หน้าประตูห้องเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่ป้าบัวคลี่จะเป็นคนทุบประตูห้องแล้วเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงปังๆ ๆ ๆ“นังคำปองมึงเป็นอะไรเปิดประตูให้กูหน่อยสิวะ”ไม่นานประตูก็ถูกเปิดออกพร้อมกับเสียงสะอื้นไห้ของคำปองดังแว่วมา เจ้าหล่อนยืนอยู่ในสภาพล่อแหลมมีเพียงผ้าห่มปกคลุมเรือนร่างไว้ ส่วนเหมันต์ที่กำลังนอนสะลึมสะลืออยู่บนเตียงเริ่มขยับตัว ก่อนจะงัวเงียลุกขึ้นมาอย่างไม่รู้เรื่องอะไร เมื่อเห็นว่าตนเองกำลังอยู่ในสภาพเปลือยเปล่าก็รีบหยิบกางเกงมาสวมใส่แบบลวกๆ“พ่อเลี้ยงเข้ามาปล้ำฉันถึงในห้องจ้ะป้า ฮือๆ”“กูไม่เชื่อ! มึงทำอะไรกับพ่อเลี้ยงบอกกูมาเดี๋ยวนี้” ป้าบัวคลี่ไม่มีทางเชื่อว่าพ่อเลี้ยงเหมันต์จะเข้ามาหาคำปองถึงห้อง“ก็พ่อเลี้ยงเมานี่คะ คำปองพยายามห้ามแล้วแต่ก็ไม่ยอมฟัง”“อีตอแหลมึงไม่ต้องมาสร้างภาพ”น้ำฟ้าเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้าก็รู้สึกเจ็บปวดราวกับร่างกายจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เสียให้ได้ น้ำตาไหลพรากลงมาโดยอัตโนมัติ เจ้าหล่อนตึงตัวคิมหันต์ไปไว้ด้านหลัง
เมื่อลงมาถึงแล้วเหมันต์ก็เรียกทุกคนมารวมตัวกันในห้องนั่งเล่น พ่อเลี้ยงสุดหล่อนั่งหน้าเครียดอยู่บนโซฟา ข้างกันนั้นก็เป็นน้ำฟ้าที่นั่งเบนหน้าหนีไปอีกทาง ไม่แม้แต่จะมองหน้าคำปองและผู้เป็นสามี ส่วนคนที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดกลับนั่งร้องไห้กระซิกอยู่ที่พื้นข้างกับป้าบัวคลี่“หยุดร้องได้แล้วคำปอง” เหมันต์เอ่ยเสียงเข้มบ่งบอกว่ากำลังอยู่ในอารมณ์ซีเรียส“หยุดไม่ได้หรอกค่ะพ่อเลี้ยงหนูเสียตัวนะคะฮือๆ ๆ”“บอกให้หยุดยังไงล่ะ!” เหมันต์ทนไม่ไหวจึงตะโกนลั่นด้วยความเหลืออด จนทุกคนถึงกับสะดุ้งด้วยความตกใจ ทำให้ตอนนี้บรรยากาศภายในห้องมีแต่ความเงียบงัน แม้แต่คำปองเองก็ถึงกับหยุดร้องไห้ทันที เธอไม่เคยเห็นพ่อเลี้ยงเดือดดาลอย่างนี้มาก่อน“ฉันจะให้มันย้ายของออกวันนี้ล่ะค่ะพ่อเลี้ยงไม่ต้องเป็นห่วง” ป้าบัวคลี่เอ่ยทำลายความเงียบ เพราะครั้งที่แล้วเธอเป็นคนเจรจาขอร้องให้คำปองอยู่ที่นี่ต่อ จึงอยากจะแสดงความรับผิดชอบ“ไม่นะป้าฉันไม่ไปไหนทั้งนั้น” คำปองรับหันขวับมาเอ่ยกับป้าบัวคลี่ทันที“มึงสัญญากับกูแล้วว่าจะไม่ทำแต่มึงก็ทำจนได้”“แต่พ่อเลี้ยงเข้ามาในห้องหนูเองนะ” คำปองยังตอบโต้อย่างไม่ยอมแพ้“เอาล่ะๆ ฉันจะให้
หลังจากเหมันต์เข้าไปทำงานในไร่แล้วน้ำฟ้าก็ตัดสินใจโทรหาภูวดลให้มารับ เพราะเธอไม่อยากทนฟังคำพูดเหน็บแนมจากคำปอง วันๆ เอาแต่พยายามกระแนะกระแหนเธอให้รำคาญใจ ราวกับต้องการกดดันให้ออกไปจากที่นี่ เธอจะทนอยู่อีกสักพักเพื่อน้องสาวจากนั้นก็จะไปตามทางของตัวเอง“สวัสดีค่ะคุณภู”(อ้าว! คุณน้ำค้างมีอะไรหรือเปล่าครับ)“คือฉันอยากไปเที่ยวที่ไร่คุณน่ะคะ ถ้าฉันจะรบกวนให้คุณมารับจะได้ไหม”(ได้สิครับไม่มีปัญหา ถ้างั้นเดี๋ยวผมไปรับตอนนี้เลยนะครับ)“ได้ค่ะฉันจะรอที่บ้านนะคะ ขอบคุณค่ะ”(ครับผมแล้วเจอกัน)วางสายแล้วเธอจะหันไปเอ่ยกับคิมหันต์ที่กำลังนั่งดูหนังการ์ตูนอยู่หน้าจอทีวีอย่างตั้งใจ“น้องคิมครับวันนี้เราจะไปเที่ยวที่ไร่คุณอาหมอนะครับ”“จริงเหรอครับคุณแม่เย้!” คิมหันต์กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจเมื่อรู้ว่าจะได้ไปออกไปเที่ยว“จริงสิครับ ไปเปลี่ยนชุดกันดีกว่าอีกหน่อยคุณอาหมอจะมารับเราแล้วนะ”“ครับคุณแม่”ทั้งสองเปลี่ยนชุดใหม่ก่อนจะเดินจูงมือกันลงมา ก็พบกับป้าบัวคลี่กำลังเดินผ่านพอดีน้ำฟ้าจึงเอ่ยเรียกไว้เสียก่อน“ป้าบัวเดี๋ยวก่อนค่ะ”“มีอะไรคะแม่เลี้ยง” ป้าบัวหยุดชะงักก่อนจะหันมามองนายหญิงของบ้าน“วันนี้หน
ขับรถมาไม่นานก็มาถึงพื้นที่โล่งกว้างเต็มไปด้วยถนนเส้นเล็กๆ คดเคี้ยววนไปมา ภูวดลเดินนำหน้าเข้าไปเอ่ยทักทายกับลูกน้อง ที่กำลังช่วยกันดูแลลูกค้าของทางไร่“สวัสดีครับคุณภู” เมื่อเดินเข้าไปถึงลูกน้องสี่ห้าคนที่กำลังทำงานอยู่ต่างก็ยกมือไหว้ทันที“สวัสดีทุกคน เป็นไงบ้างวันนี้เหนื่อยไหม”“ไม่เหนื่อยครับ”“วันนี้ผมมีเด็กดื้อมาให้ช่วยดูแล”“ยินดีครับ” คนงานหนุ่มยิ้มรับด้วยความเต็มใจจากนั้นภูวดลจึงก้มหน้าลงไปเอ่ยกับลูกชายของเพื่อนรัก “น้องคิมพร้อมรึยังครับ”“พร้อมแล้วครับ”“พร้อมแล้วก็ไปกับพี่เขานะครับ”“ครับผม” คิมหันต์เอ่ยกับผู้เป็นแม่ต่อทันที “คุณแม่ไปขับรถเอทีวีด้วยกันนะครับ”“น้องคิมไปคนเดียวเถอะครับ แม่จะยืนรอดูหนูอยู่ตรงนี้” เธอไม่ชอบเล่นอะไรผาดโผนอย่างนี้เลย“ก็ได้ครับคุณแม่คอยดูน้องคิมขับรถนะครับ”“ครับ สู้ๆ นะลูก” เธอเอ่ยให้กำลังใจพร้อมทั้งส่งยิ้มให้กับเด็กชายเมื่อคิมหันต์เดินไปกับพนักงานแล้วน้ำฟ้าก็หันมาเอ่ยกับคนที่ยืนอยู่ข้างกันทันที“ว่าแต่คุณภูไม่ไปเล่นด้วยเหรอคะ”“ไม่ครับ...ผมจะยืนคุยเป็นเพื่อนคุณน้ำค้างที่นี่ คุณไม่ต้องห่วงน้องคิมนะครับเพราะลูกน้องผมจะดูแลเป็นอย่างดี”“ขอบคุณนะ
ภูวดลขับรถมาส่งน้ำฟ้าถึงหน้าบ้าน เมื่อสองแม่ลูกลงจากรถแล้วเขาก็ขับกลับไปทันทีเพราะไม่อยากจะทำให้เพื่อนรักหึงหวงไปมากกว่านี้ น้ำฟ้าจูงมือคิมหันต์เดินเข้าไปในบ้าน ส่วนเหมันต์ที่ขับรถตามหลังมาติดๆ เมื่อลงจากรถแล้วก็รีบเดินตามหลังขึ้นไปทันที“พ่อเลี้ยงมาเหนื่อยๆ ดื่มน้ำเย็นๆ ก่อนนะคะ” คำปองรีบถือแก้วน้ำเย็นๆ มาเสิร์ฟให้ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แต่ทว่าเหมันต์กลับไม่สนใจปัดมือทิ้งจนแก้วหล่นลงพื้นแตกกระจายเพล้ง!“กรี๊ดด! ทำไมพ่อเลี้ยงทำอย่างนี้คะ” คำปองกรี๊ดดังลั่นชักสีหน้าใส่อย่างไม่พอใจ แต่ทว่าเหมันต์กลับรีบเดินขึ้นไปบนบ้านไม่ได้สนใจเธอเลยสักนิด“รักมันมากใช่ไหม ได้..ฉันจะทำให้มันไม่มีวันได้กลับมาที่นี่อีก” เจ้าหล่อนจ้องเขม็งตามขึ้นไปชั้นบนอย่างเดือดดาลเข้ามาในห้องแล้วน้ำฟ้าก็รีบปิดประตู แต่ทว่าเหมันต์กลับดันตัวเข้ามาแทรกไว้เสียก่อน“ออกไปเดี๋ยวนี้นะ!”“เธอทำผิดแล้วยังจะมาไล่ฉันไปอีกเหรอเนี่ย” เหมันต์ใช้พละกำลังที่มีมากกว่าแทรกตัวเข้าไปในห้องจนได้ เมื่อรู้ว่าทำอะไรไม่ได้เจ้าหล่อนจึงเดินไปที่ระเบียง ยืนกอดอกถอนหายใจหลายต่อหลายครั้งเหมันต์สั่งให้ลูกชายเข้าไปอยู่ในห้องนอนตัวเองก่อน เพราะไม่อยากใ
“อา!! แม่งโคตรเสียว ตอดอย่างนี้ไม่รักได้ไงล่ะครับ” เหมันต์เอ่ยกับเจ้าหล่อนพร้อมกับจ้องมองใบหน้าสวยอย่างหื่นกระหาย“แรงๆ ได้ไหมคะฉันไม่ไหวแล้ว”“ได้เลยครับที่รัก”เหมันต์ไม่รอช้าเริ่มเร่งจังหวะกระเด้า กระแทกดุ้นใหญ่หัวบานเข้าไปในร่องสวาทไม่ยั้ง ห่างเรื่องอย่างว่าไปนานเขาไม่นึกเลยว่าน้ำฟ้าจะมีความกล้ามากขึ้นอย่างนี้ นั่นทำให้เขายิ่งพอใจในตัวเธอมากขึ้นไปอีกปับ! ปับ! ปับ!“อ๊ะๆ ๆ ๆ”แรงกระแทกทำให้หน้าอกกลมโตกระเพื่อมไปตามจังหวะ เหมันต์จึงหยุดมันไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง บีบคลึงไปด้วยกระเด้าไปด้วยอย่างสบายอารมณ์กลีบสวาทอวบอูมทั้งสองข้างเริ่มแดงช้ำ เต็มไปด้วยน้ำหล่อลื่นอันฉ่ำแฉะเหนียวเป็นเส้น เจ้าหล่อนกระเด้งเอวรับจังหวะเด้าของเหมันต์ไปด้วยอย่างอัตโนมัติ“มะ...ไม่ไหวแล้วแม่งเอ้ย ซี๊ดดด” เหมันต์ทำหน้าเหยเกสูดปากเสียว บั้นท้ายยังคงกระเด้งเด้าไม่ยั้งจนคนที่อยู่ใต้ร่างแทบจะแหลกคาเตียง“พะ...พร้อมกันนะคะฉันก็ไม่ไหวแล้ว” น้ำฟ้าตอบรับสามีด้วยความรู้สึกไม่ต่างกันเมื่อใกล้ถึงจุดหมายปลายทางแล้วเหมันต์ก็กอดตัวภรรยาเอาไว้แน่น พรมจูบไปตามซอกคอขาวอย่างหื่นกระหาย พร้อมทั้งเร่งจังหวะกระเด้าให้แรงและเร็วขึ้น
เมื่อเคลียร์ทุกอย่างที่กรุงเทพเสร็จแล้วทั้งสามคนก็บินกลับเชียงรายทันที ตอนนี้ทุกคนต่างก็ตั้งตารอที่จะได้เห็นหน้าแม่เลี้ยงของไร่อีกครั้ง เหมันต์รับสาวใช้คนใหม่มาแทนคำปองแล้ว เธอเป็นสาวเหนืออายุราวสี่สิบปี สามารถเข้ากับป้าบัวคลี่ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว ความสุขของคนในบ้านหลังนี้ได้กลับคืนมาสมบูรณ์แบบอีกครั้งแล้ว“ป้าบัวครับทำไมคุณพ่อยังไม่มาอีก” คิมหันต์เอ่ยด้วยสีหน้าเศร้าเพราะนั่งรอผู้เป็นพ่อมานานหลายชั่วโมงแล้ว“อีกแปบนึงค่ะคุณหนูเดี๋ยวคุณพ่อก็มา”“คุณแม่จะกลับมาด้วยไหมครับ”“ป้ามั่นใจว่าคุณแม่ต้องกลับมาด้วยแน่นอนค่ะ”พูดยังไม่ทันขาดคำทั้งหมดก็ได้ยินเสียงรถขับเข้ามาจอดหน้าบ้าน ทุกคนจึงรีบวิ่งออกไปรอต้อนรับผู้มาใหม่ทันที“คณแม่กลับมาแล้วเย้!!!”“น้องคิมลูกแม่”เมื่อเห็นเด็กชายที่เธอรักราวกับลูกแท้ๆ น้ำฟ้าก็รีบวิ่งเข้ามากอดทันที เจ้าหล่อนหอมแก้มนุ่มๆ ทั้งสองข้างด้วยความคิดถึง“น้องคิมคิดถึงคุณแม่ทุกวันเลยครับ”“แม่ก็คิดถึงหนูครับ ต่อไปนี้แม่จะไม่จากหนูไปไหนแล้วนะ”“เย้! น้องคิมดีใจที่สุดในโลกเลย”“อย่ามัวแต่ดีใจจนลืมไหว้เพื่อนแม่สิครับน้องคิม” เหมันต์เอ่ยกับลูกชาย“สวัสดีครับ”“สวัสดีค่
น้ำฟ้ากลับเข้ามาทำงานที่ภัตตาคารแห่งเดิม ส่วนเรื่องที่หลับที่นอนก็กลับมาพักอยู่กับมะเหมี่ยวเพื่อนรัก แต่ทว่าการกลับมาครั้งนี้ของเธอกลับลืมของสำคัญบางอย่างไว้ที่เชียงราย นั่นคือหัวใจและทำให้การใช้ชีวิตที่กรุงเทพไม่ได้มีความสุขเหมือนแต่ก่อน เธอเอาแต่นั่งเหม่อลอยคิดถึงชายหนุ่มผู้เป็นที่รักยิ่งอยู่ทุกวันเวลา จนมะเหมี่ยวเองก็สังเกตเห็นและพยายามถามไถ่ เธอจึงยอมเล่าความจริงทุกอย่างให้เพื่อนฟัง อย่างน้อยการได้ระบายให้ใครสักคนฟังมันก็รู้สึกดีขึ้นมากอยู่ไม่น้อยเมื่อลงจากรถเมล์สายประจำแล้วสองสาวก็เดินตรงไปยังที่ทำงาน ซึ่งเดินไปตามถนนเส้นนี้อีกไม่ไกลนัก“เร็วๆ แกเดี๋ยวเข้างานสายกันพอดี” มะเหมี่ยวเอ่ยกับเพื่อนรักขณะเร่งฝีเท้าเดินไปอย่างเร่งรีบ“ไม่สายหรอกน่าไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้แก” น้ำฟ้าบ่นให้เพื่อนขณะที่เจ้าหล่อนเดินเอ้อระเหอลอยชายอย่างไร้ชีวิตชีวา“ไม่รีบมีหวังนางยักษ์ขมูขีชี้หน้าด่าเราแน่” ที่พูดถึงนั่นคือหัวหน้าเชฟสาวใหญ่เจ้าระเบียบที่ใครๆ ต่างก็หวาดผวาเมื่อได้อยู่ใกล้“เออๆ รีบก็รีบวะ” น้ำฟ้าเอ่ยเสียงเอื่อยก่อนจะถูกเพื่อนดึงมือให้เดินตามไปเดินมาถึงหน้าภัตตาคารแล้วก็พบว่า มีชายหนุ่มหล่อสว
“ขอบคุณจ้ะป้า”เมื่อสาวใช้ทั้งสองเดินออกไปแล้ว ประจวบเหมาะว่าภูวดลก็เดินเข้ามาในบ้านพอดี“อ้าว! นึกว่าขึ้นข้างบนกันหมดแล้วซะอีก” ภูวดลเลิกคิ้วมองทุกคนก่อนจะเดินเข้ามานั่งข้างคิมหันต์ พร้อมทั้งกอดคอเอาไว้“รอมึงนั่นล่ะไปไหนมาวะ”“กู...ไปเดินเล่นในสวนมา” จริงๆ แล้วเขาคุยสายกับน้ำฟ้าต่างหาก รายงานให้เธอรู้ว่าตอนนี้เหมันต์ปลอดภัยดีและกลับมาที่บ้านเรียบร้อยแล้ว เธอจะได้สบายใจ“ยังมีอารมณ์สุนทรีย์อีกนะมึงอะ”“นิดหน่อยว่ะ” ภูวดลแค่นยิ้มออกมาเล็กน้อย“เอ่อ...เดี๋ยวฉันขึ้นไปข้างบนก่อนนะคะ คุยกันตามสบายค่ะ” น้ำค้างรู้สึกว่าทั้งสองคงอยากมีอะไรคุยกันเป็นการส่วนตัว“ไว้ค่อยคุยกันนะครับ” ภูวดลเอ่ยกับหญิงสาว“ค่ะ” น้ำค้างส่งยิ้มให้ ก่อนจะหันไปเอ่ยกับเด็กชายที่นั่งอยู่ข้างภูวดล “น้องคิมขึ้นไปดูการ์ตูนข้างบนกันดีกว่าครับ”“ครับคุณแม่” คิมหันต์ตอบรับแล้วก็หันไปเอ่ยกับคนที่นั่งอยู่ข้างกัน “น้องคิมขึ้นไปข้างบนก่อนนะครับอาภู”“ครับผม” ภูวดลเอื้อมมือไปจับแก้มลูกชายเพื่อนอย่างเอ็นดูหลังจากทั้งสองคนเดินไปแล้วภูวดลก็หันไปสนใจเพื่อนต่อทันที เขาอยากให้เพื่อนถามไถ่เรื่องน้ำฟ้าซะเหลือเกิน แต่ทว่าเหมันต์กลับนิ่งเ
ปัง!“คุณฉัตรชัย!”ลูกตะกั่วพุ่งจากปลายกระบอกปืนของเหมันต์เข้าไปที่กลางหลังฉัตรชัย ก่อนที่เขาจะลั่นไกฆ่าลูกเมียตนเอง เหมันต์ไม่อยากให้เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นเลยสักนิด หากย้อนเวลากลับไปได้จะไม่มีทางทำให้พ่อกับแม่ของฉัตรชัยต้องตายเด็ดขาด เพราะเขาเองก็ไม่อยากได้ขึ้นชื่อว่าเป็นฆาตกร แต่ครั้งนี้เขาตั้งใจทำเพื่อให้เด็กในท้องคำปองได้เกิดขึ้นมาลืมตาดูโลกคำปองรีบวิ่งเข้าไปพยุงตัวฉัตรชัยขึ้นไว้บนตักตนเอง แม้ว่าเธอจะไม่ได้รักฉัตรชัยแม้แต่น้อย แต่ทว่าเขาก็คือพ่อของลูก เธอเองก็อยากให้ลูกเกิดขึ้นมาแล้วมีพ่อเหมือนคนอื่น ๆ“คุณฉัตรชัย ฮือ ๆ”“ฉะ...ฉันขอโทษที่จะทำร้ายเธอ” ฉัตรชัยเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาราวกับลมหายใจใกล้จะหมดลงในอีกไม่ช้า“ฉันอภัยให้คุณทุกอย่าง ฮือๆ อย่าเป็นอะไรไปนะคะคุณต้องอยู่เพื่อลูกของเรา”เมื่อได้ยินอย่างนั้นฉัตรชัยก็ยิ้มน้อยๆ ออกมา อย่างน้อยเขาก็ได้รู้ว่าตนเองยังมีลูกชายไว้สืบสกุลก่อนจะตายไปจากโลกใบนี้“ลูก...ฉันกำลังจะมีลูก เฮือก!”“ใช่ค่ะเรากำลังจะมีลูกด้วยกัน คุณต้องไม่เป็นไรนะ”“ดูแลลูกแทนฉันด้วยนะ อย่าให้ลูกรู้ว่ามีพ่อเลวๆ อย่างฉัน”“คุณคือพ่อของลูกฉันนะ คุณฉัตรชัย ฮือๆ ๆ” คำ
ทุกคนถูกนำตัวมานั่งรวมกันที่หน้าบ้าน ฉัตรชัยรอให้เหมันต์กลับมาที่นี่ หลังจากนั้นเขาจะจัดการฆ่าทุกคนให้ตายอย่างทรมาน“คุณแม่ครับน้องคิมกลัวฮือๆ ๆ”“ไม่ต้องกลัวนะลูกเดี๋ยวคุณพ่อก็มาช่วยเราแล้ว” น้ำฟ้ากอดปลอบใจคิมหันต์“ใช่! เดี๋ยวพ่อมึงก็จะมาช่วย กูจะได้จัดการพวกมึงไปพร้อมๆ กันยังไงล่ะฮ่าๆ ๆ” ฉัตรชัยเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะดึงตัวคิมหันต์ออกจากอ้อมกอดของน้ำฟ้า“ไม่เอาน้องคิมไม่ไปด้วย น้องคิมเกลียดคนใจร้ายฮือๆ ๆ”“ปล่อยลูกฉันเดี๋ยวนี้นะไอ้สารเลว”“ปล่อยแน่แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้โว้ย!”“คุณแม่ช่วยน้องคิมด้วยฮือๆ ๆ” ตอนนี้ฉัตรชัยล็อกตัวคิมหันต์เอาไว้ ก่อนจะยิงปืนขึ้นบนฟ้าหนึ่งนัดเพื่อประกาศชัยชนะที่มีต่อเหมันต์“คุณฉัตรชัยปล่อยคุณหนูเถอะนะคะ” คำปองเอ่ยขอร้องด้วยน้ำตา“หุบปาก! เธอไม่มีสิทธิ์มาขอร้องอะไรทั้งนั้น สิทธิ์ของเธอหมดตั้งแต่ไม่ไปตามนัดฉันแล้ว” ฉัตรชัยหันมาตวาดใส่หน้าทันที คำปองกำลังจะเอ่ยปากบอกความจริงว่าเธอกำลังท้อง แต่ทว่าเหมันต์กลับเข้ามาถึงเสียก่อน“ปล่อยลูกกูเดี๋ยวนี้” เหมันต์เดินเข้ามาเพียงลำพัง ส่วนภูวดลและลูกน้องแอบซุ่มอยู่บริเวณรอบบ้านไม่ให้คนของฉัตรชัยเห็น เพื่อรอเข้าโจมตีเมื่อถึงเ
เมื่อขับรถเข้ามาภายในไร่ก็พบว่าทุกอย่างกำลังอยู่ในความโกลาหล มองไปทางไหนมีแต่กลุ่มควันไฟกำลังแผดเผาทุกสิ่งทุกอย่างให้มอดไหม้ ไม่เว้นแม้กระทั่งโซนที่พักอาศัยก็ยังโดนลอบวางเพลิง คนงานต่างกำลังขนของออกจากห้องพักหนีตายกันจ้าละหวั่น นั่นทำให้พวกเขาไม่ได้มีความสนใจเรื่องอื่นๆ เลยสักนิด“แม่งเอ๊ย! มันเล่นกูทุกที่เลยว่ะ” เหมันต์สบถออกมาเสียงดัง ขณะยืนมองทุกอย่างกำลังพังทลายลงไปในพริบตา“ใจเย็นๆ มึง ตามหาตัวไอ้ฉัตรชัยกันก่อนเถอะ กำจัดตัวต้นเหตุให้ได้ก่อน”ในขณะนั้นแคนก็รีบวิ่งเข้ามาหาทั้งสองคนในสภาพตัวเต็มไปด้วยฝุ่นควันจากไฟไหม้“พ่อเลี้ยงครับ!”“อ้าว! แคนเอ็งเป็นไงบ้างวะ”“ผมเพิ่งเข้ามาขนของในห้องเสร็จครับ เลยรีบมาหาพ่อเลี้ยงเผื่อว่าจะมีอะไรให้ช่วย”“เอ็งไปช่วยคนอื่นๆ ก่อนละกัน ของที่เสียหายก็ไม่ต้องไปสนเอาชีวิตคนให้รอดก่อน ส่วนเรื่องไฟไหม้ข้าโทรขอความช่วยเหลือจากกู้ภัยของจังหวัดแล้วคงใกล้มาถึงแล้วล่ะ”“ครับพ่อเลี้ยง ถ้างั้นผมไปช่วยทางโน้นก่อนนะครับ”“ฝากด้วยนะคนที่ข้าพอจะไว้ใจได้ก็มีเอ็งคนเดียวเท่านั้นล่ะ”“ครับพ่อเลี้ยง”หลังจากแคนเดินไปแล้วทั้งสองก็กำลังจะขึ้นรถไปสำรวจรอบๆ ไร่อีกครั้ง เพื่
หลังจากคุยโทรศัพท์กับเพื่อนรักแล้ว เหมันต์ก็ขึ้นไปเอาปืนในห้องนอน นั่นทำให้น้ำค้างที่กำลังจะหลับต้องรู้สึกตัวตื่นขึ้นจากแสงไฟที่สว่างจ้าขึ้นในห้อง“พ่อเลี้ยง” เจ้าหล่อนงัวเงียลุกขึ้นนั่งบนเตียง จ้องมองเหมันต์ที่กำลังค้นหาอะไรบางอย่างในตู้อย่างเร่งรีบ“ไปนอนเป็นเพื่อนน้องคิมในห้องก่อนเร็ว ล็อกประตูเอาไว้อย่าออกมานอกห้องเด็ดขาด”“เกิดอะไรขึ้นคะ”“ไม่ต้องถามรีบทำตามที่ฉันบอกเร็ว”“ค่ะๆ”เหมันต์ยังไม่มีเวลาอธิบายอะไรให้เธอฟัง เพราะตอนนี้เขาต้องทำเวลาก่อนที่ฉัตรชัยจะเริ่มต้นทำสงครามในอีกไม่ช้านี้น้ำค้างรีบลุกขึ้นแล้วเดินออกไปนอกห้อง ก่อนจะเข้าไปในห้องนอนของคิมหันต์ ล็อกประตูเอาไว้ แล้วเดินไปที่หน้าต่างทันที“ไฟไหม้! เกิดอะไรขึ้นกันแน่” เธอเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นกลุ่มควันไฟลอยคลุ้งไปทั่วท้องฟ้าตรงบริเวณกลางไร่ เจ้าหล่อนได้แต่ยืนมองอย่างกระวนกระวายใจอยู่ในห้องตามคำสั่งของเหมันต์เมื่อเหมันต์เดินลงมาด้านล่างแล้วเพื่อนรักก็มาถึงพอดี“ไอ้เหมมันเล่นมึงแล้วว่ะ ไฟเริ่มลามไปทั่วไร่แล้ว” ภูวดลวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาบอกกับเพื่อนป้าบัวคลี่และคำปองยังคงนั่งอยู่ตรงนั้นไม่ได้ไปไหน“กูกำลังจะออกไป
กลับมาถึงบ้านแล้วคำปองก็รีบเข้าไปในห้องนอน เก็บของใช้ส่วนตัวเข้ากระเป๋าเดินทางอย่างรีบร้อน พลางคิดในใจว่าตนเองทำถูกแล้วใช่หรือไม่ที่ตัดสินใจทำอย่างนี้ เธอจะปล่อยให้พ่อเลี้ยงเหมันต์ตกอยู่ในอันตรายจริงๆ อย่างนั้นเหรอ คิดได้อย่างนั้นก็หยุดการกระทำดังกล่าวตั้งใจจะไปบอกให้เหมันต์ระวังตัว แต่พอนึกถึงสิ่งที่น้ำค้างพูดกับเธอก็ทำให้เจ้าหล่อนต้องเปลี่ยนใจอีกครั้ง“ในเมื่อฉันไม่ได้เป็นที่หนึ่งคนอื่นก็ต้องไม่ได้เหมือนกัน” คำปองรีบเก็บของต่อจนเสร็จ และนั่งรอให้ถึงเวลาที่ได้นัดหมายกับฉัตรชัยเอาไว้เหลือเวลาอีกประมาณยี่สิบนาทีก็จะถึงสามทุ่มตรง เจ้าหล่อนจึงถือกระเป๋าเดินทางย่องออกจากห้อง ตอนนี้ภายในบ้านมืดสนิทไร้ซึ่งแสงสว่างใดๆ ทำให้ทุกอย่างดูเป็นใจไปเสียหมด“ถ้าไม่ตายคงได้พบกันใหม่นะป้า” เธอหันไปมองที่ห้องนอนป้าบัวคลี่ก่อนจะเอ่ยออกมาเบาๆ แล้วรีบเดินออกจากบ้านไปแต่ทว่าเดินออกมายังไม่พ้นประตูบ้านไฟทุกดวงก็สว่างจ้าขึ้นเสียก่อน ทำให้คำปองถึงกับหยุดชะงักมองไปรอบตัวด้วยความตื่นตกใจ“มึงจะหนีไปไหนอีคำปอง!” ป้าบัวคลี่ยืนเท้าสะเอวจ้องมองด้วยแววตาที่แข็งกร้าว ข้างกันนั้นก็เป็นเหมันต์นั่นเอง“ปะ...ป้า! พ่อเลี