แพร๊บ! แพร๊บ!ลิ้นร้อนเลียวนที่จุดอ่อนไหวอย่างเร่าร้อนและถึงใจทำเอาร่างบางดิ้นพล่านด้วยความเสียวซ่าน เธอไม่คิดมาก่อนเลยว่าเรื่องบนเตียงจะทำให้เธอรู้สึกเสียวได้มากขนาดนี้“อะ! อ๊ะ!” ร่างเล็กสั่นสะท้านด้วยความเสียวที่เพิ่มมากขึ้นโดยที่เธอไม่รู้เลยว่าความเสียวนี้จะจบลงที่ตรงไหน“อ่าส์!” ความหอมหวานจากกายสาวทำเอาฟาร์ริกซ์ร้อนลุ่มไปทั้งตัว แก่นกายใหญ่ก็ปวดหนึบจนเขาต้องใช้มือกุมเอาไว้พร้อมกับบอกตัวเองให้ใจเย็นๆ“สวยมาก!” สายตาหยาดเยิ้มมองสำรวจร่างสวยด้วยความหลงใหลอีกครั้ง แต่ทว่าจะมองอีกกี่ครั้งเขาก็ไม่รู้สึกเบื่อเลยสักนิด ยิ่งมองก็ยิ่งชอบ ยิ่งมองก็ยิ่งถูกใจฟาร์ริกซ์มองสำรวจใบหน้าสวยที่นอนหลับตาพริ้มก่อนจะมองต่ำลงไปที่หน้าอกอวบอิ่มจุกสีชมพูสวยงามน่าหลงใหล เอวบางร่างเล็กและผิวพรรณที่ขาวสะอาดชวนมองสายตาคมจับจ้องเนินเนื้อสาวอย่างหลงใหลอีกครั้ง กลีบอวบอูมที่ปิดสนิททำให้คนที่ขาดเซ็กซ์นานรู้สึกตื่นเต้นจนไม่รู้จะต้องทำยังไงต่อไปดี“โรสหนาวค่ะ” โรสรินบอกเสียงอ้อนเมื่อร่างกายเริ่มกลับมาเป็นปกติ เครื่องปรับอากาศที่ทำงานอยู่ก่อนหน้าทำให้เธอหนาวเย็นขึ้นมา“อืม…”ทว่าน้ำเสียงและท่าทางออดอ้อนของหญิงสาว
เช้าวันต่อมาโรสรินตื่นขึ้นมาในตอนเช้าด้วยความรู้สึกที่ปวดเมื่อยและร้าวระบมไปทั่วทุกส่วนของร่างกาย แค่ขยับตัวเพียงนิดหน่อยร่างกายก็แทบจะหลุดออกจากกันหญิงสาวมองชายหนุ่มที่นอนหลับอยู่ข้างๆ พร้อมรอยยิ้ม เมื่อทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเหมือนกับเรื่องราวดีๆ ที่เธอวาดฝันเอาไว้มานาน แต่พอทุกอย่างเกิดขึ้นจริงๆ เธอถึงกับทำตัวไม่ถูกกันเลยทีเดียวในที่สุดเธอก็ได้เป็นภรรยาของเขาอย่างสมบูรณ์และถูกต้องเหมือนกับสามีภรรยาคู่อื่นๆ ที่เขาเป็นกันสายตาเฉี่ยวคมมองไปดูนาฬิกาติดผนังทำให้เธอต้องรีบตั้งสติและลุกขึ้นไปทำหน้าที่ของตัวเองเหมือนกับทุกวันทันที ร่างบางพยายามขยับตัวให้เบาที่สุดเพื่อที่จะไม่ให้รบกวนเวลานอนของชายหนุ่มโรสรินพาร่างกายอันบอบช้ำเข้าไปอาบน้ำ ก่อนจะออกมาเตรียมเสื้อผ้าชุดทำงานให้ชายหนุ่ม ตามด้วยการเตรียมอาหารเช้า ซึ่งเธอจะทำแบบนี้ทุกวันเพราะถือว่าเป็นหน้าที่ของภรรยา ที่ต้องเตรียมทุกอย่างเอาไว้ให้สามีส่วนอาหารเช้าวันนี้ก็ไม่มีอะไรยุ่งยากเพราะเป็นเมนูง่ายๆ ที่มีไข่ดาว ขนมปังและไส้กรอก แต่ไม่ว่าจะเป็นเมนูอะไรโรสรินก็ทำได้หมดทุกอย่าง“แต่งตัวเสร็จแล้วเหรอคะ” หญิงสาวทักทายชายหนุ่มขึ้นมาเมื่อบรรย
หลังจากที่แม่เลี้ยงกลับไปโรสรินก็นั่งเศร้าและเก็บตัวเงียบทั้งวัน ชีวิตเธอกำลังมีความสุขอยู่แท้ๆ แต่ก็ดันมีเรื่องแม่เลี้ยงเข้ามาอีก แล้วแบบนี้เธอจะทำยังไงกับชีวิตต่อไปดีร่างบางนั่งคิดหาคำตอบและหาทางออกให้กับตัวเอง แต่ไม่ว่าจะคิดจนปวดหัวยังไงเธอก็คิดไม่ออกและหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้อยู่ดี ซึ่งไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเธอก็ต้องก้มหน้ายอมรับความจริงให้ได้ เพราะชีวิตของเธอไม่สามารถเลือกอะไรได้เลย อะไรจะเกิดก็คงต้องปล่อยให้มันเกิดส่วนทางด้านของฟาร์ริกซ์วันนี้ก็เป็นอีกวันที่เขาประชุมและทำงานไม่รู้เรื่องอะไรเลย ทั้งสมาธิและหัวใจต่างล่องลอยไปกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ในหัวก็เกิดคำถามมากมาย แต่สุดท้ายคำตอบที่ได้ก็คือเขาเป็นผู้ชายคนแรกของเธอฟาร์ริกซ์ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าในชีวิตของเขาจะได้สัมผัสความบริสุทธิ์ของผู้หญิงสักคน ถึงคนระดับเขาจะหาผู้หญิงบริสุทธิ์ได้ไม่ยาก แต่สมัยนี้แล้วคงต้องยอมรับเลยว่าการหาผู้หญิงบริสุทธิ์ที่มีอายุยี่สิบปีขึ้นไปนั้นยากมากๆ โดยที่ผ่านมาเขาจะเน้นผู้หญิงที่อายุใกล้เคียงกับเขาและมีประสบการณ์มากพอที่จะทำให้เขาพอใจ ซึ่งที่ผ่านมาเขาก็ป้องกันเป็นอย่างดีทุกครั้งแต่เมื่อคืนเขาก
ฟาร์ริกซ์ก้าวเดินออกจากห้องทำงานโดยที่ไม่ได้สนใจเสียงของเจย์เดนเลยสักนิด เพราะในใจของเขาตอนนี้คือเขาต้องการที่จะกลับบ้านเพื่อที่จะกลับไปหาผู้หญิงที่เขาอยากเจอมากที่สุด ถึงแม้ว่าเขาจะยังทำตัวไม่ถูกเขาก็เลยต้องแกล้งทำเป็นเอาเหล้ามาเทใส่ตัวเพื่อให้มีกลิ่นเหล้าที่ชัดเจนและทำให้โรสรินเชื่อว่าเขานั้นเมาจริงๆตุบ!“อุ๊ย!” ร่างบางเซไปตามแรงชนแต่โชคดีที่คนมือไวอย่างฟาร์ริกซ์คว้าตัวเธอเอาไว้ทัน“ขอโทษครับ” ฟาร์ริกซ์รีบขอโทษเพราะเขามีส่วนผิดที่รีบกลับบ้านจนไม่ทันได้มองทางให้ดี“พี่ฟาร์…” หญิงสาวตรงหน้าเรียกชื่อชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา ทว่าสายตาที่มองกลับเต็มไปด้วยความยั่วยวน“จีน่า” ชายหนุ่มมองใบหน้าสวยที่คุ้นเคย“จะกลับแล้วเหรอคะ”“ครับ”“ทำไมรีบกลับจังเลยคะ อยู่เที่ยวกับจีน่าต่ออีกหน่อยได้ไหม” หญิงสาวที่มีสถานะคุ้นเคยกับชายหนุ่มเอ่ยถามเสียงออดอ้อน เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธออ้อนเขา“คือว่า…” ฟาร์ริกซ์อ้ำอึ้งไม่รู้จะตอบยังไงเมื่ออยู่ๆ บทรักอันเร่าร้อนระหว่างเจากับเธอก็ลอยเข้ามาในหัว ทำเอาร่างกำยำร้อนรุ่มไปทั้งตัว“นะคะ อยู่กับจีน่าก่อนนะคะ” มือบางยกขึ้นอบกอดต้นคอของชายหนุ่ม เธอพยายามใช้ม
โรสรินเอียงใบหน้าสวยหลบสายตาดุดันของชายหนุ่มที่กำลังจ้องมองเธออย่างหื่นกระหาย ราวกับเสือร้ายที่พร้อมจะขย้ำเหยื่อให้จมเตียงทุกวินาทีฟาร์ริกซ์ไม่รอช้ารีบจับใบหน้าสวยให้หันมาสบตากันทันที เพียงแค่เสี้ยววินาทีริมฝีปากหนาก็กดจูบลงที่ริมฝีปากบางอย่างรวดเร็วจากจูบที่อบอุ่นและอ่อนโยนก็เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นจูบที่เร่าร้อนและร้อนแรงมากขึ้น ลิ้นร้อนควานหาความหวานจากโพรงปากเล็กอย่างช่ำชองและดูดดื่มความเร่าร้อนที่ฟาร์ริกซ์มอบให้ ทำให้ร่างบางอ่อนระทวยและเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสที่เขามอบให้ เรือนร่างสวยโหยหาร่างกายกำยำด้วยความคิดถึงเมื่อชายหนุ่มตักตวงความหวานจนพอใจริมฝีปากร้อนก็ค่อยๆ เลื่อนไปที่ซอกคอขาวที่เอียงเล็กน้อยให้เขาได้เชยชม ความน่ารักของโรสรินทำให้ฟาร์ริกซ์เผลอดูดเม้มแสดงความเป็นเจ้าของกลิ่นหอมที่คุ้นเคยทำให้ชายหนุ่มหลงใหลจนควบคุมอารมณ์ไว้ไม่ได้ มือหนาจัดการชุดนอนลายการ์ตูนของเธอออกให้พ้นทาง ตามด้วยเสื้อผ้าของตัวเองที่โยนกระจัดกระจายลงพื้นอย่างไม่สนใจใยดีเลยสักนิดโรสรินอยากจะตั้งสติและบอกให้เขานอนนิ่งๆ ให้เธอได้เช็ดตัวให้เขาต่อให้เสร็จ ทว่าตอนนี้สติของเธอได้หลุดลอยไปไกลจนยากที่จะดึงกลับคืนม
เช้าวันต่อมาวันนี้โรสรินตื่นเช้ากว่าทุกวันเพื่อที่จะได้มีเวลาอาบน้ำแต่งตัวให้เสร็จเรียบร้อย ก่อนจะลงไปทำอาหารเช้าเตรียมไว้ให้กับทุกคนในบ้านได้ทานซึ่งตอนที่อยู่ในห้องนอนเธอก็พยายามทำทุกอย่างให้เบาที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ เพื่อที่จะได้ไม่รบกวนเวลานอนของชายหนุ่มที่กำลังนอนหลับสบายอยู่“คุณโรสตื่นเช้าทุกวันเลยนะคะ” เสียงของแม่บ้านที่กำลังเตรียมของอยู่ในห้องครัวทักทายขึ้นมาตามปกติโรสรินยิ้มบางๆ แทนคำตอบ ตอนเช้าแบบนี้สมองอาจจะยังเบลอๆ หน่อย เพราะเธอเพิ่งจะได้นอนไม่กี่ชั่วโมง แต่พอคิดถึงเรื่องเมื่อคืนขึ้นมาแก้มขาวเนียนก็เริ่มเป็นแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดเมื่อก่อนแม่บ้านที่นี่ไม่มีใครชอบโรสรินเลยสักคนเพราะคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ยอมแต่งงานเพราะเงิน ซึ่งพอแต่งงานและย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้แล้วเธอกลับวางตัวดีและทำหน้าที่ภรรยาทุกอย่าง ถึงแม้จะมีแม่บ้านคอยทำให้แต่เธอก็อยากจะทำเอง ทำให้ทุกคนมองเธอเปลี่ยนไปในทางที่ดีมากขึ้นโดยเฉพาะฟาร์ริกซ์“วันนี้คุณโรสจะทำเมนูอะไรคะ” แม่บ้านอีกคนถามขึ้นมา เพราะจะได้ช่วยเตรียมของเอาไว้ให้ถูก“ป้าเพิ่งไปซื้อกุ้งมาค่ะ ตัวใหญ่ๆ ทั้งนั้นเลย”
ระหว่างทางที่ขับรถฟาร์ริกซ์ก็นั่งเงียบไม่พูดอะไร ปล่อยให้น้องสาวนั่งเงียบด้วยความอึดอัดทั้งที่ในใจมีเรื่องมากมายที่อยากจะถามพี่ชายอยู่ไม่น้อย แต่ก็ไม่กล้าเอ่ยถามไปตามตรงจึงทำได้เพียงแค่นั่งหงุดหงิดจนคนที่อยู่ข้างๆ ทนไม่ไหว“เป็นอะไร? มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?” ฟาร์ริกซ์ที่เห็นท่าทางของน้องสาวจึงเป็นฝ่ายเอ่ยถาม เพราะคิดว่าเฟญ่าต้องมีเรื่องอะไรจะคุยกับเขาแน่ๆ“นี่เฟย์ออกอาการขนาดนั้นเลยเหรอคะ?” เฟญ่าแกล้งถามพี่ชายทำเหมือนไม่รู้ในท่าทางที่เธอแสดง“มีอะไรก็พูดมา” สายตานิ่งเรียบจ้องมองถนนตรงหน้าพร้อมกับเอ่ยถามน้องสาว“เฟย์ไม่มีอะไรค่ะ แต่เฟย์แค่สงสารพี่โรส” เฟญ่าพยายามพูดอ้อมๆ ด้วยความเกรงใจ เพราะเธอเองก็ไม่อยากจะก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของพี่ชายสักเท่าไหร่“สงสารเรื่องอะไร?” ใบหน้าหล่อขมวดคิ้วถามน้องสาวด้วยความไม่เข้าใจ“ก็พี่โรสเหมือนตัวคนเดียวไม่เหลือใคร อีกอย่างเฟย์ก็ว่าพี่โรสเป็นผู้หญิงที่ดีคนหนึ่งเลยนะคะ พี่โรสได้แต่งงานกับคนรวยๆ อย่างพี่ฟาร์ แต่พี่โรสก็ยังทำหน้าที่ทุกอย่างภายในบ้านและดูแลพี่ฟาร์เป็นอย่างดี เฟย์ว่าพี่ฟาร์ไม่ต้องหย่ากับพี่โรสหรอกนะคะ” เฟญ่าร่ายยาวถึงความในใจของตัวเองที่มีทั
หนึ่งเดือนต่อมาความสัมพันธ์ของฟาร์ริกซ์กับโรสรินเริ่มพัฒนาและดีมากขึ้นทุกวัน จากคนที่ไม่ค่อยพูดตอนนี้ก็เริ่มพูดคุยกันมากขึ้น โรสรินก็เริ่มมีความหวังขึ้นมาเมื่อได้เห็นท่าทางและการกระทำที่ดีขึ้นของฟาร์ริกซ์ แบบนี้หัวใจดวงน้อยก็เริ่มกลับมามีพลังและสดใสมากขึ้นใครจะไปคิดว่าคนที่นิ่งเงียบและเย็นชาอย่างฟาร์ริกซ์จะเป็นฝ่ายชวนโรสรินพูดคุยกันอยู่ตลอดเวลา เรียกได้ว่าตอนนี้เป็นฟาร์ริกซ์คนใหม่ที่ยิ้มเก่งและคุยเก่งมากขึ้นจนน่าแปลกใจ“ไปทำงานก่อนนะ”ฟาร์ริกซ์หันไปบอกภรรยาหลังจากที่ทานอาหารเช้าเสร็จ ซึ่งช่วงหลังมานี้เขาจะไปไหนหรือทำอะไรเขาก็มักจะบอกเธออยู่แบบนี้เป็นประจำ“เดี๋ยวโรสเดินไปส่งค่ะ”ส่วนโรสรินก็ยังทำหน้าที่ของภรรยาได้เป็นอย่างดี ใส่ใจทุกเรื่อง ใส่ใจทุกรายละเอียด แม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้จะไม่ให้ฟาร์ริกซ์ใจอ่อนได้ยังไง“ไม่เป็นไรหรอกแค่นี้เอง” ชายหนุ่มปฏิเสธเพราะไม่อยากให้เธอเสียเวลา แต่ในใจก็ดีใจและอยากให้เธอทำแบบนี้ทุกวัน“ให้โรสเดินไปส่งนะคะ” โรสรินอ้อนชายหนุ่มอีกครั้งด้วยน้ำเสียงและท่าทางที่น่ารักน่าเอ็นดูสุดๆ“ครับ” สุดท้ายฟาร์ริกซ์ก็ใจอ่อนยอมให้หญิงสาวเดินไปส่ง ใบหน้าหล่อที่เค
ตอนเย็นของวันหลังจากที่พาลูกๆ เที่ยวสวนสัตว์ตั้งแต่เช้าจนถึงบ่าย เด็กๆ ก็เริ่มที่จะหมดแรงกันแล้ว เนื่องจากใช้พลังงานกันไปเยอะ ทั้งพูดคุยกันไม่หยุดแถมยังชวนกันวิ่งไปดูสัตว์โดยที่ไม่กลัวอะไรกันเลยสักนิด“สนุกกันไหมครับ?”ฟาร์ริกซ์ถามลูกๆ พร้อมรอยยิ้มเมื่อเห็นเด็กๆ มีความสุขและสนุกสนานเป็นพิเศษถึงแม้อากาศจะร้อนแค่ไหน แต่ก็สู้แดดกันทั้งวันไม่บ่นว่าเหนื่อยเลยสักคำ“กลับบ้านกันค่ะ” โรสรินที่เห็นลูกๆ หมดแรงจึงชวนกลับบ้านทันที เพราะถ้าขืนอยู่นานกว่านี้มีหวังคงจะกลับถึงบ้านมืดค่ำกันพอดี“ครับ / ค่ะ” เด็กๆ ตอบรับพร้อมกันอย่างว่าง่ายสงสัยคงจะหมดแรงกันแล้วจริงๆโรสรินพาลูกๆ ขึ้นรถและนั่งประจำที่ของตัวเอง เพื่อที่จะพาลูกๆ กลับบ้าน ซึ่งน่าจะถึงบ้านตอนเย็นพอดีฟาร์ริกซ์ทำหน้าที่ขับรถเช่นเคยพอขับรถออกจากสวนสัตว์มาได้ไม่ไกลเท่าไหร่ เด็กๆ ก็นอนหลับกันตามระเบียบกว่าจะมาถึงบ้านก็เกือบจะสองทุ่ม เพราะช่วงเย็นรถติดมากทำให้ใช้เวลานานกว่าปกติ เมื่อถึงบ้านเด็กๆ ก็ตื่นนอน แถมยังรีบไปคุยให้ทุกคนในบ้านฟังว่าที่สวนสัตว์มีตัวอะไรบ้าง“ไปทานข้าวกันครับ” เมื่อขึ้นมาบนบ้านฟาร์ริกซ์ก็รีบถามขึ้นมาก่อนที่โรสรินจะเข้าห้
เช้าวันต่อมาวันนี้เป็นอีกวันที่น้องเฟิร์สกับน้องไฟท์ตื่นตั้งแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวที่จะไปเที่ยว เรียกได้ว่าเด็กๆ ดีใจและตื่นเต้นจนแทบจะนอนไม่หลับตลอดทั้งคืนถึงแม้ว่าการไปเที่ยวสวนสัตว์วันนี้จะไม่ใช่ครั้งแรกของน้องเฟิร์ส แต่น้องเฟิร์สก็ตื่นเต้นมากกว่าทุกครั้ง เพราะวันนี้จะมีน้องชายไปเที่ยวสวนสัตว์ด้วยกัน แถมยังมีคุณพ่อคุณแม่ไปด้วยกันอีกส่วนน้องไฟท์ก็ตื่นเต้นไม่น้อยเพราะเป็นการไปเที่ยวสวนสัตว์ครั้งแรกในชีวิต แถมพี่สาวก็คอยเล่าให้ฟังอยู่ตลอดพอวันนี้จะได้ไปเที่ยวสวนสัตว์จริงๆ ก็ยิ่งทำให้รู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นไปอีก“ทำไมคุณพ่อกับคุณแม่ยังไม่ลงมาอีกนะ” น้องเฟิร์สพูดขึ้นหลังจากที่มานั่งรออยู่ที่ห้องรับแขกได้ไม่นาน“สงสัยคุณแม่จะยังแต่งตัวไม่เสร็จแน่เลยครับ” น้องไฟท์รีบพูดขึ้นมาอีกเสียง“นั่งรออะไรกันอยู่ครับ?” ฟาร์ริกซ์เดินลงมาเห็นลูกๆ นั่งพูดคุยกันอยู่จึงเอ่ยถาม“นั่งรอคุณพ่อกับคุณแม่อยู่ค่ะ” ลูกสาวคนสวยตอบคุณพ่อ“แล้วคุณแม่อยู่ไหนครับ?” น้องไฟท์รีบถามถึงคุณแม่ทันทีเมื่อไม่เห็นแม่ลงมาพร้อมกับคุณพ่อ“คุณแม่กำลังจะลงมาครับ” ฟาร์ริกซ์ตอบลูกชายพร้อมรอยยิ้ม“งั้นเราไปรอคุณแม่ที่รถดีไหมครับ” น้อ
ห้าเดือนต่อมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาโรสรินใช้ชีวิตเป็นอย่างดีและมีความสุข นอกจากชีวิตของเธอจะมีลูกๆ ที่น่ารักแล้วเธอยังมีสามีที่รักและเอาใจใส่เธอมากเป็นพิเศษอีกด้วยไม่ว่าเธอจะไปไหนจะทำอะไรก็จะมีฟาร์ริกซ์คอยช่วยเหลือเธออยู่ตลอด เขาทำทุกอย่างได้ตามที่พูดเอาไว้ทุกอย่าง ซึ่งก็ทำให้เธอเห็นแล้วว่าเขาเป็นคนดีขึ้นมากแล้วจริงๆส่วนเรื่องผู้หญิงไม่ว่าจะเป็นคนเก่าหรือคนใหม่ก็ไม่มีเรื่องนี้เข้ามาให้โรสรินได้ปวดหัวหรือปวดใจอีก ซึ่งตอนแรกเธอก็สงสัยในความสัมพันธ์ของฟาร์ริกซ์กับอิงรักที่เป็นพี่เลี้ยงของน้องเฟิร์สแต่เธอก็เกิดความสงสัยไม่นานเธอก็ได้รู้ความจริงในทันทีว่าระหว่างฟาร์ริกซ์กับอิงรักเป็นเพียงแค่เจ้านายกับลูกจ้างกันเท่านั้น ทั้งสองไม่มีอะไรเกินเลยไปกว่าคำว่าเจ้านายกับลูกจ้างเลยสักนิดซึ่งโรสรินก็คิดว่าอีกไม่นานอิงรักคงจะได้เปลี่ยนสถานะจากพี่เลี้ยงมาเป็นคุณป้าของเด็กๆ แทน เพราะดูๆ แล้วฟินนิคซ์จะมีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนกับอิงรัก ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆ ทุกคนในบ้านก็คิดว่าเป็นเรื่องดีและทั้งสองคนก็ดูเหมาะสมกันมาก“ทำอะไรอยู่ครับ?” ฟาร์ริกซ์เดินเข้าไปสวมกอดภรรยาที่นั่งอยู่โต๊ะทำงานด้วยใจ
หนึ่งเดือนต่อมาระยะเวลาเพียงแค่หนึ่งเดือนที่น้องเฟิร์สกับน้องไฟท์ได้อยู่ด้วยกัน แต่ก็ทำให้เด็กทั้งสองคนรู้จักและสนิทกันมากขึ้นได้ภายในระยะเวลาไม่นานน้องเฟิร์สก็เป็นพี่สาวที่แสนดีคอยแบ่งของเล่นให้น้องชายถึงแม้ว่าของเล่นจะมีแต่ของเล่นผู้หญิงก็ตาม ส่วนน้องไฟท์ก็เป็นน้องที่น่ารักคอยเล่นกับพี่สาวได้ทุกอย่าง ไม่ว่าพี่สาวจะชวนเล่นอะไรน้องชายก็จะเล่นด้วยทุกอย่าง เพราะแบบนี้จึงทำให้ความสัมพันธ์ของสองพี่น้องรักใคร่กันและอยู่ด้วยกันแบบมีความสุขมากขึ้นโรสรินก็มีความสุขมากขึ้นที่ได้เห็นลูกสาวและลูกชายอยู่ด้วยกันในทุกวัน แต่อีกไม่นานบ้านหลังใหญ่ก็คงจะเงียบมากขึ้นเพราะเด็กๆ ทั้งสองจะต้องไปโรงเรียนกันแล้วโดยที่ฟาร์ริกซ์จัดการเรื่องสมัครเรียนให้ลูกๆ ที่โรงเรียนเอกชนชื่อดังที่อยู่ใกล้บ้าน ส่วนค่าเทอมก็คงไม่ต้องพูดถึงเพราะคุณพ่อเลือกโรงเรียนที่ดีที่สุดให้กับลูกๆ อยู่แล้ว ถึงแม้ว่าโรสรินจะไม่เห็นด้วยแต่เธอก็ต้องยอมเพื่อชีวิตที่ดีของลูก หากลูกๆ ได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี เธอก็เชื่อว่าจะทำให้คุณภาพชีวิตของลูกๆ ดีขึ้นไปด้วย“คุณพ่อกับคุณแม่จะไปทำงานแล้วเหรอคะ?” น้องเฟิร์สถามขึ้นมาก่อนใครเมื่อเห็นคุณพ่อกั
หลังจากที่น้องไฟท์เล่นบ้านบอลเสร็จโรสรินก็พาลูกชายกลับห้องพักทันที ในใจก็ว้าวุ่นคิดหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับชีวิต แต่ตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าเธอจะไม่มีทางให้เลือกเยอะสักเท่าไหร่ สุดท้ายแล้วคนเป็นแม่ก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อลูกเสมอไม่ว่าเวลาจะผ่านมานานถึงสามปีแต่ความรู้สึกเจ็บปวดในใจของโรสรินก็ยังคงฝังลึกอยู่ในใจไม่มีวันจางหาย หลายครั้งที่เธอคิดว่าตัวเองจะกลับไปใช้ชีวิตในบ้านสามีอีกครั้ง เธอก็จะคิดถึงความเจ็บปวดที่เธอเคยรู้สึก หากครั้งนี้เธอจะต้องเจ็บปวดแบบเดิมอีกความรู้สึกของเธอก็ไม่ต่างอะไรจากการตายทั้งเป็นแต่สุดท้ายแล้วไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นยังไงโรสรินก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อลูกอยู่ดี เพราะเธอจะไม่มีวันยอมให้ลูกของเธอทั้งสองคนอยู่คนละที่หรือต่างคนต่างอยู่เด็ดขาด ขึ้นชื่อว่าเป็นพี่น้องกันก็ต้องถูกเลี้ยงดูและเติบโตมาด้วยกันถึงจะถูก“เพื่อลูกท่องไว้สิโรส” หญิงสาวมองหน้าลูกชายและพูดกับตัวเองเสียงเบาเพื่อให้กำลังใจตัวเอง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นทุกอย่างที่เธอทำก็เพื่อลูกทั้งนั้นยิ่งรอเวลาทุกอย่างก็จะยิ่งช้าและทำให้เธอเสียเวลาเปล่า เธอต้องตัดสินใจและสู้ให้ถึงที่สุด เธอเชื่อว่าทางเลือกนี้คงจะเป็นทางเ
หลังจากวันนั้นไม่นานโรสรินก็ได้เข้ามาทำงานอยู่ที่โรงแรมของภูมิพัฒน์ที่อยู่สาขาใกล้ๆ กับบ้านของน้องเฟิร์ส ซึ่งเธอก็ได้ไปหาน้องเฟิร์สที่บ้านอยู่บ้าง แต่น้องเฟิร์สก็ยังรู้สึกกล้าๆ กลัวๆ กับเธออยู่บ้างในตอนที่น้องเฟิร์สได้เจอโรสรินครั้งแรกก็ทำเอาคนเป็นแม่แทบน้ำตาไหล แต่เธอก็ต้องอดทนและกลั้นเอาไว้ก่อนเพื่อที่จะไม่ให้น้องเฟิร์สเห็นน้ำตาของเธอ ถึงน้องเฟิร์สจะยังไม่คุ้นชินกับเธอแต่เธอก็จะหาเวลาไปหาน้องเฟิร์สที่บ้านอยู่บ่อยๆ เพราะเธอเชื่อว่าการเจอหน้าและการพูดคุยกันทุกวันจะทำให้น้องเฟิร์สสนิทกับเธอมากขึ้นอย่างแน่นอนซึ่งตอนนี้โรสรินก็ต้องใจเย็นและรอเวลาที่น้องเฟิร์สจะปรับตัวให้เข้ากับเธอและยอมรับว่าเธอเป็นแม่จริงๆ ให้ได้ก่อน“วันนี้คุณแม่ไม่ไปทำงานเหรอครับ?” เด็กชายวัยสองขวบเศษๆ เอ่ยถามคุณแม่“วันนี้วันหยุดครับ” โรสรินตอบลูกชายพร้อมรอยยิ้ม“น้องไฟท์อยากไปเที่ยวครับ”เด็กชายตัวน้อยรีบบอกความต้องการของตัวเองทันที ถ้าเป็นตอนที่อยู่ภูเก็ตวันหยุดคุณแม่จะชอบพาลูกชายไปนั่งเล่นที่ชายหาดและพาเล่นน้ำทะเล แต่ก็นานๆ คุณแม่ถึงจะมีวันหยุด“ไปเที่ยวเหรอครับ?” ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่นี่โรสรินก็ลืมนึกถึงเรื่องนี
หลังจากที่โรสรินกลับมาอยู่ภูเก็ตเธอก็พยายามคิดทบทวนความรู้สึกของตัวเอง ตลอดระยะเวลาสามปีที่ผ่านมาเธอรู้สึกรักและผูกพันธ์กับคนที่นี่มาก พอจะได้ย้ายกลับไปอยู่กรุงเทพย้ายไปอยู่ใกล้ๆ ลูกสาว บางทีเธอก็รู้สึกใจหายอยู่เหมือนกันหลายครั้งที่โรสรินออกไปข้างนอกแล้วเห็นครอบครัวอื่นเลี้ยงลูกให้อยู่ด้วยกัน พี่น้องได้ใช้ชีวิตและเติบโตมาด้วยกันมันทำให้โรสรินอดที่จะคิดถึงชีวิตของตัวเองไม่ได้ เธอมีลูกถึงสองคนนอกจากลูกจะไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้วลูกทั้งสองก็ยังไม่รู้จักกันและยังไม่เคยเจอกันอีกด้วย หัวอกคนเป็นแม่ยิ่งคิดก็ยิ่งเศร้าถ้าหากเธอยังอยู่ที่นี่ต่อไปลูกของเธอก็จะไม่ต่างอะไรจากเด็กทั่วๆ ไป ที่รู้จักกันแบบผ่านๆ ไม่ได้รู้จักและสนิทกันแบบพี่น้องคู่อื่นๆ ตอนนี้ลูกทั้งสองของเธอยังเด็ก เธอก็ยังพอมีเวลาอยู่บ้าง ให้รู้จักและสนิทกันตอนนี้ก็ดีกว่าปล่อยเวลาให้เสียเปล่า“โรสจะย้ายไปจริงๆ เหรอ?” แพรไหมเดินเข้ามาถามเสียงเศร้าเพราะไม่คิดมาก่อนเลยว่าโรสรินจะย้ายไปทำงานที่อื่นแบบนี้“ค่ะ โรสอยากไปอยู่ใกล้ๆ น้องเฟิร์ส” โรสรินเองก็ตอบเสียงเศร้าไม่ต่างกัน เพราะเธอเองก็รักและผูกพันกับที่นี่ไม่ต่างจากแพรไหม“แล้วจะไปวันไหน
สามวันต่อมาโรสรินยืนอยู่หน้าบ้านหลังใหญ่ด้วยความตื่นเต้น ข้างกายมีชายหนุ่มที่เปรียบเสมือนพี่ชายคอยอยู่ข้างๆ น้องสาว หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวด้วยความตื่นเต้นไม่ต่างจากครั้งแรกที่เธอมาอยู่ที่นี่เลยสักนิด“ไปกันครับ” น้ำเสียงอบอุ่นบอกกับหญิงสาวหลังจากที่ปล่อยให้เธอตั้งสติอยู่สักพักก่อนจะเข้าไปภายในบ้าน“ค่ะ” โรสรินพยักหน้าตอบ เธอรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีแล้วก้าวเดินเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ที่คุ้นเคยร่างบางก้าวเดินเข้าไปด้วยความประหม่า เธอไม่ได้บอกใครในบ้านเอาไว้ว่าเธอจะมา แต่ทุกคนต่างนั่งอยู่ในบ้านกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาจนเธอทำตัวไม่ถูกเมื่อทุกสายตาต่างจ้องมองมาที่เธอโดยเฉพาะสายตาที่อบอุ่นของฟาร์ริกซ์ทำเอาเธอเผลอมองและหาความหมายของแววตาที่เขามองมา แต่เธอก็ดูไม่ออกเลยว่าสายตาคู่นี้กำลังรู้สึกยังไงกับการที่เธอกลับมาในครั้งนี้“พี่โรส”เป็นเสียงของเฟญ่าที่ทักทายขึ้นมาก่อนใคร แต่ครั้งนี้เป็นการทักทายที่แตกต่างออกไปจากทุกครั้งเมื่อทุกคนเห็นว่าโรสรินมากับผู้ชายอีกคน ผู้ชายที่ดูดีตั้งแต่หน้าตารวมไปถึงฐานะซึ่งก็พอจะดูออกว่าเขาคงจะรวยมากแน่ๆ“สวัสดีครับ” ภูมิพัฒน์ทักทายทุกคนตามมารยาท“โรสมีเรื่องจะ
หลายวันต่อมาตลอดหลายวันที่ผ่านมาโรสรินได้คิดไตร่ตรองทุกอย่างเป็นอย่างดี ถ้าหากเธอทำงานอยู่ที่นี่ต่อโอกาสที่เธอจะได้เจอน้องเฟิร์สก็ยิ่งมีน้อย เธอจึงคิดเรื่องการหางานใหม่ทำ จากประสบการณ์ที่เธอเคยทำงานมาก็พอที่จะเอาไปเขียนในใบสมัครงานที่ใหม่ได้บ้าง เพราะเธอก็มีประสบการณ์การทำงานมาหลายปีพอสมควรเมื่อมีโอกาสและมีทางเลือกโรสรินก็อยากจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง เธอจึงคิดและตัดสินใจที่จะลาออกจากงานที่ภูเก็ต แล้วไปหางานใหม่ทำที่อยู่ในเมืองหลวง จะได้อยู่ใกล้ๆ น้องเฟิร์สด้วย อีกอย่างลูกชายคนเล็กอย่างน้องไฟท์ก็จะได้เข้าโรงเรียนแล้วเธอคงจะมีเวลาทำงานมากขึ้นโรสรินตัดสินใจยื่นใบลาออกไว้บนโต๊ะทำงานของภูมิพัฒน์ ถ้าหากจะบอกเขาไปตรงๆ เธอก็คงไม่กล้าพอที่จะบอกอย่างแน่นอน ซึ่งวิธีนี้คงเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับเธอ“จดหมายอะไร?” เจ้านายหนุ่มขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัยและแปลกใจเมื่อมีซองจดหมายสีขาววางอยู่บนโต๊ะทำงาน ซึ่งดูเด่นชัดมากกว่าแฟ้มเอกสารอื่นๆ ที่วางอยู่“พี่พัฒน์ลองเปิดดูสิคะ” โรสรินก้มหน้าพูดเพราะเธอไม่รู้ว่าจะบอกเขายังไงชายหนุ่มหยิบเปิดซองจดหมายและอ่านข้อความที่อยู่ด้านในด้วยความตั้งใจอยู่สั