แทนไทเดินมาเงียบ ๆ โดยไม่เอ่ยถามพูดคุยกับพาลินสักคำ เช่นเดียวกับเธอที่ตั้งคำถามไว้ในใจมากมายจนอึดอัดแต่ไม่กล้าที่จะถามออกไปสนามหญ้าสีเขียวชอุ่มตั้งอยู่ทางด้านข้างของตัวบ้านที่เต็มไปด้วยดอกไม้และ ไม้ประดับอย่างสวยงาม พาลินเดินเข้ามาดักหน้าชายหนุ่ม สีหน้าแสดงออกถึงเรื่องที่อยากจะถามเขามากมาย
“พาลินมีอะไรจะถามพี่หรือเปล่า” แทนไทเอ่ยถามขึ้น“ดูพี่แทนรักคุณขวัญมากเลยนะคะ”“รักมากสิครับ” เขาตอบด้วยรอยยิ้ม“น่าอิจฉาคุณขวัญที่พี่แทนรักมากมายขนาดนี้” หญิงสาวพูดพร้อมยิ้มให้ ทั้งที่ในใจนั้นกลับเต้นรัวไม่เป็นจังหวะเมื่อเห็นใบหน้าและรอยยิ้มของเขา“จะอิจฉาพี่ทำไมกัน พี่ก็รักแพงนะ แต่รักเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง” เขาพูดพลางยกมือขึ้นลูบศีรษะของเธอด้วยความเอ็นดู พาลินได้แต่ยิ้มตอบรับ โดยที่ความรู้สึกทุกอย่างถูกซ่อนไว้ภายใต้รอยยิ้มที่ยิ้มให้กับเขา“พี่แทนคะ แล้วเตทำงานอยู่ที่ไหนเหรอคะ” หญิงสาวเอ่ยถามขึ้นพร้อมกับทำตาใส มองมาที่ชายหนุ่มด้วยความอยากรู้ แทนไทยิ้มก่อนจะตอบพร้อมกับหันไปมองน้องชายที่จับมือกับแฟนความสนุกสนานและเสียงหัวเราะเกิดขึ้นภายในห้องหนังสือ เมื่อ หญิงสาวผู้เป็นเพื่อนสนิทต่างเอ่ยปากแซวกันไปแซวกันมาจนชายหนุ่มสองพี่น้องต้องหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ แต่ทว่าพาลินที่ยืนมองอยู่หน้าห้องผ่านประตูไม่ได้มีสีหน้าที่มีความสุขแต่อย่างใด ในใจเต็มไปด้วยไฟอิจฉาที่ก่อขึ้นอย่างมากมาย“คุณแพงมาทำอะไรอยู่ตรงนี้คะ” แก้วใจเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย พาลินสะดุ้งขึ้นจากภวังค์หันมายิ้มให้“ทำไมไม่เข้าไปล่ะคะ” แก้วใจเอ่ยถามขึ้นด้วยความแปลกใจ“ไม่ละ ไม่อยากไปขัดทุกคน” พาลินตอบด้วยแววตาเศร้า“อ้าว ไม่เห็นจะขัดเลยค่ะ ปกติคุณแพงก็เข้าไปนั่งคุยไม่ใช่หรือคะ”“นั่นมันเมื่อก่อน เมื่อก่อนที่พี่แทนยังไม่แต่งงานและเตยังคบกับแพงอยู่ค่ะ แต่ตอนนี้คงไม่ใช่อีกแล้ว แพงเป็นคนไม่สำคัญอะไรอีกแล้วนี่คะ” เมื่อพูดจบก็เดินจากไปทิ้งให้แก้วใจได้แต่มองด้วยความสงสารพาลินเดินออกมาทั้งหยดน้ำตาของความเจ็บปวดอยู่ภายในใจ เธอทำอะไรไม่ได้ไปมากกว่ามองเขายิ้มให้กับภรรยาที่รัก…แสงอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้าเป็นช่วงเวลาที่ดูรวดเร็วสำหรับทุ
เตชินท์หยุดรถจอดลงที่ลานจอดหน้าคอนโด วรรณรดาคิ้วขมวดมองด้วยความสงสัยว่าทำไมต้องจอดรถเข้าที่ด้วยในเมื่อด้านหน้าก็ขับออกได้ทันที“ความจริงจอดข้างหน้าให้ดาลงก็พอแล้ว” หญิงสาวเอ่ยขึ้นพอดีกับที่เขาดึงกุญแจรถออก“ขึ้นไปส่งไงครับ” เตชินท์ตอบด้วยน้ำเสียงนุ่ม“ทำไมต้องขึ้นไปส่งด้วย ปกติ...”“ก็ส่งแฟนเข้านอนไงครับ” เตชินท์ขยับตัวปลดสายนิรภัยออกก่อนจะเอื้อมไปปลดสายนิรภัยของหญิงสาวออกพร้อมยิ้มให้ด้วยรอยยิ้มละมุน“คนบ้า !”เตชินท์ยิ้มหัวเราะก่อนจะเปิดประตูรถลงไปพร้อมเดินมาฝั่งของแฟนสาว พร้อมกับเอื้อมมือไปเปิดประตูให้เธอ“ขอบคุณค่ะ”ชายหนุ่มยิ้มรับพร้อมกับเอื้อมมือไปผลักประตูปิด วรรณรดายิ้มหวานให้แฟนหนุ่มก่อนจะเดินนำเข้าไปข้างในด้วยรอยยิ้มที่บานจนแก้มปริหุบไม่อยู่หญิงสาวสูดหายใจเข้าลึกๆ เดินมาอยู่ที่หน้าลิฟต์โดยที่เตชินท์เดินตามมา เขาก้าวเข้าไปในลิฟต์พร้อมกับเอื้อมมือไปโอบไหล่ คนถูกโอบสะดุ้งขึ้นพลางมองและพร้อมเตรียมถอยออกห่างทันที“นิดหน่อยเอง สัญญาว่าจะไม่ทำเกินมากกว่า
บ่ายสี่โมงกว่า ๆ หลังจากที่แทนไทออกมาจากห้องประชุม เลขาส่วนตัวหน้าห้องโทรมาบอกว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งมาขอพบซึ่งตอนนี้รออยู่ในห้องแล้ว ใจของแทนไทแอบคิดไปว่าภรรยาจะมาหาเขาแต่อีกใจก็คิดว่าคงจะไม่ใช่ ชายหนุ่มเดินก้าวไปหน้าประตูห้องของตนพร้อมเปิดออกสายตาคมมองหญิงสาวเจ้าของใบหน้ากลมขาวลุกขึ้นยืนหันมายิ้มให้“พี่แทนติดประชุมหรือคะ ?” พาลินถามพร้อมกับเดินเข้ามา“ครับ แล้วพาลินมาได้ยังไงครับ”“ก็ให้คนขับรถของคุณแม่มาส่งค่ะ แพงเพิ่งกลับจากห้างเมื่อตอนบ่ายสองค่ะ เลยแวะมาหาพี่แทนค่ะ เห็นว่าเป็นทางผ่านพอดี” ทางผ่าน ไม่ใช่ทางผ่านอะไรเลย เธอตั้งใจเองที่จะมาหา ทั้งที่มารดานั้นยังอดสงสัยไม่ได้ว่ามาหาทำไม แต่เธอก็เพียงแค่ยิ้มโดยไม่บอกเหตุผลอะไรทั้งสิ้น...“นี่ค่ะพี่แทน แพงซื้อขนมมาฝาก” ว่าแล้วหญิงสาวก็เดินไปหยิบถุงขนมที่วางอยู่บนโซฟาเดินมาให้ชายหนุ่ม“ขอบคุณครับน้องแพง” ชายหนุ่มกล่าวขอบคุณ ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์บนโต๊ะขึ้นมาเพื่อโทรหาภรรยาชายหนุ่มเดินไปคุยที่หน้าต่างสายตาทอดมองไปยังท้องถนน“ท
“เชิญคุณไปอธิบายไกล ๆ ฉันเลยค่ะ” ณัฐกฤตาสะบัดแขนพร้อมเอื้อมมือไปเปิดประตูเดินออกจากห้องทำงาน แทนไทได้แต่ส่ายหน้าพร้อมถอนหายใจออกมา ยกมือขึ้นเสยผมก่อนจะเปิดประตูออกไปหาภรรยาที่กำลังเข้าใจผิด ทันทีที่ประตูข้างในเปิดออกพาลินลุกจากโซฟาที่นั่งรับแขกทันทีเมื่อรู้ว่า ชายหนุ่มคงจะออกมาแล้ว แต่ทว่าก็ต้องหยุดชะงักลงเมื่อเห็นณัฐกฤตาเดินออกมาพร้อมกับจ้องมองเธอด้วยสายตาขุ่นเคือง“พี่แทนคะ” พาลินเอ่ยเรียกทำให้พนักงานในร้านต่างหันมามอง“ที่รัก...คุณฟังผมอธิบายก่อนนะครับ” แทนไทเดินเข้ามาพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มอย่างใจเย็น แต่หญิงสาวกลับเดินถอยออกห่าง และเดินตรงมาที่พาลิน นั่นยิ่งทำให้แทนไทแทบกุมขมับ“จะไปทานอาหารที่ไหนก็เชิญเถอะค่ะ ฉันไม่ขอร่วมนั่งรถด้วย” เมื่อพูดจบณัฐกฤตาก็ก้าวออกจากร้านทว่าประตูร้านเปิดเข้ามาพอดีวศินผลักเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับยิ้มให้ ณัฐกฤตาเดินถอยหลังออกห่างยิ้มให้เช่นกัน แต่รอยยิ้มนั้นทำให้แทนไทถึงกับหึงและหวงขึ้นมาทันที“สวัสดีครับ” วศินเอ่ยทักขึ้น“สวัสดีค่ะ” หญิงสาวตอบโดยที
ภายในร้านออกแบบเสื้อผ้าที่เต็มไปด้วยเสียงซุบซิบนินทาของพนักงานในร้านตั้งแต่แทนไทพาภรรยาเดินออกไป พาลินได้แต่อึ้งจนทำอะไรไม่ถูก เพราะเธอไม่เคยถูกชายหนุ่มปฏิเสธสักครั้งไม่ว่าจะติดงานสำคัญแค่ไหนวศินมองหญิงสาวที่เดินเข้าไปหาพร้อมกับยิ้มเอ่ยทักอย่างเป็นมิตร“ถ้าไม่รังเกียจ คุณจะให้ผมไปส่งแทนก็ได้นะครับ”“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณ” พาลินพูดปฏิเสธพร้อมเดินไปที่ประตูก่อนผลักออกพอดีกับจังหวะที่รถยนต์ของแทนไทแล่นออกจากร้านหญิงสาวได้แต่มองรถยนต์ของชายหนุ่มแล่นออกห่างไกลไปด้วยความเจ็บปวด คงไม่มีค่าสำหรับเขาอีกแล้ว เขาไม่เห็นค่าของเธอ...สองเท้าก้าวออกจากร้านเดินตรงมาอย่างไร้จุดหมาย หยดน้ำตาไหลรินอาบที่แก้มนวล พาลินยกมือขึ้นปาดน้ำตาพลางสูดหายใจเข้าลึก ๆ“ผู้หญิงร้องไห้ ดูไม่ค่อยน่ารักนะครับ” วศินเดินเข้ามาพร้อมกับยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ พาลินได้แต่มองด้วยสายตาลังเลก่อนจะรับผ้าเช็ดหน้าจากมือของชายหนุ่มขึ้นมาซับน้ำตาบนใบหน้า“ขอบคุณค่ะ”“ไม่เป็นไรครับ” เขายิ้มให้เธอ ทั้งที่รอยยิ้มนั้นผู้ชายอย่างวศินไม่เต็มใจที่จะย
พาลินกลับมาถึงบ้านประมาณสองทุ่มกว่า ๆ หลังจากที่วศินพาเธอไปทานข้าวมื้อเย็นพร้อมกับคุยเรื่องเกี่ยวกับณัฐกฤตา เธอเพิ่งจะรู้เดี๋ยวนี้เองว่าเขาเป็นถึงดาราพระเอกชื่อดัง ไม่น่าตอนที่เข้ามาในร้านพนักงานต่างจ้องมองด้วยสายตาหวานซึ้งขนาดนั้น แต่ทว่าเรื่องที่เขาเป็นพระเอกดังนั้นไม่ค่อยใส่ใจเท่ากับคำพูดที่เขาพูดกับเธอตอนอยู่ในรถก่อนเข้าบ้าน‘ถ้าคุณอยากได้คุณแทนกลับคืนมาผมมีวิธี แต่คุณต้องร่วมมือกับผม’ วศินพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังแต่เรียบนิ่ง‘หมายความว่ายังไงคะ’‘คุณก็แค่พาคุณแทนให้ออกห่างจากคุณขวัญก็เท่านั้นแหละครับ’ วศินเอ่ยขึ้น แต่พาลินกลับมองด้วยสายตาลังเลและเดาอารมณ์เขาไม่ออกเลยสักนิดว่ากำลังคิดอะไรอยู่‘ให้ฉันแยกคุณแทนกับคุณขวัญเหรอคะ’‘ใช่ครับ ถ้าคุณตกลงร่วมมือกับผม ก็โทรบอกผมได้นะครับ’ วศินตอบพร้อมกับยิ้มให้ ทว่าหญิงสาวนั้นไม่รู้เลยว่ารอยยิ้มที่ส่งให้เป็นรอยยิ้มที่อาบด้วยแผนร้ายอยู่นั่นเองหญิงสาวนั่งอยู่บนปลายเตียงขนาดใหญ่ สายตามองไปอย่างไร้จุดหมาย นานหลายนาทีที่นั่งคิดทบทวนคำพูดของชายหนุ่มที่พูด
แทนไทกระสับกระส่ายตั้งแต่ออกจากบ้านจนกระทั่งถึงที่บริษัท วันนี้เขาไม่ได้ไปส่งภรรยาเหมือนทุกวัน เพราะเธอบอกว่าจะไปคุยกับวศินให้รู้เรื่องก่อนแล้วค่อยไปทำงาน ชายหนุ่มเอนพิงแผ่นหลังกับเบาะด้วยความอ่อนล้า เขาไม่ไว้ใจเลยจริง ๆ เขาควรจะตามไปดูใช่หรือไม่ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น แทนไทจึงเอื้อมมือไปหยิบขึ้นมาพร้อมกับกดรับ“มีอะไร” เขาพยายามพูดด้วยน้ำเสียงปกติ[เสียงของพี่ชายดูเครียดนะครับ]“รีบ ๆ พูดมา ฉันไม่ว่างที่จะมาเล่นกับแกด้วย” แทนไทกัดฟันถาม รู้ว่าน้องชายอารมณ์ดีถึงกล้าโทรมาหาเขา ใช่สิ ตั้งแต่ตอนมีแฟนเป็นตัวเป็นตนเริ่มที่จะแซวเขาอีก ทีตอนทะเลาะกับแฟนเนี่ยนะ...[ครับ ผมเข้าเรื่องเลยละกัน วันนี้ไม่ค่อยว่างอยู่สักเท่าไหร่ อีกอย่างผมแค่สงสัยครับว่าคนที่สร้างข่าวอาจจะเป็นคุณวศินเองก็ได้]แทนไทคิ้วขมวดเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ ๆ เตชินท์ถึงพูดว่าวศินเป็นคนทำทั้งหมด ทั้งที่เจ้าตัวนั้นก็เสียหายอยู่เห็น ๆ“นายรู้ได้ยังไง ?” แทนไทเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย[ผมแค่เดาเอาครับ เพราะดูท่าคุณวศินไม่ได้เดือดร้อนไปกับข่าวเลย
“หัวใจผมมีเพียงดวงเดียว และหัวใจดวงนี้ผมมอบให้กับภรรยาผมไปแล้ว ต่อให้คุณเป็นผู้หญิงผมก็ไม่มองใครอีก ส่วนเรื่องข่าวขอให้จบลงแต่เพียงเท่านี้...ไม่งั้นเราคงได้เจอกันในศาลแน่นอน” เมื่อพูดจบแทนไทก็หมุนตัวและรีบเดินออกไปจากห้องทันทีบรรยากาศภายในห้องเต็มไปด้วยความเศร้าตั้งแต่แทนไทเดินออกจากห้องไปมีเพียงวศินที่ยืนนิ่งไม่ขยับ สายตาคู่ของชายหนุ่มยังคงมองไปที่ประตูด้วยความเสียใจที่เกาะกุมอยู่ เขารู้ดีว่าเพียงคำพูดประโยคเดียวไม่สามารถช่วยให้ตัดใจจากผู้ชายที่เฝ้ามองอยู่ได้...ทางด้านแทนไทหลังจากที่เดินออกจากห้องมาแล้วสีหน้าก็มีแต่เคร่งเครียด เขาเหลือบมองภรรยาสาวที่ยืนรออยู่ขณะเดินเข้าไปหา“คุยกันแล้วเป็นยังไงบ้างคะ ?” หญิงสาวเอ่ยถามขึ้นพลางมองใบหน้าของแทนไทที่ตั้งแต่เดินออกมาจากห้องเหมือนช็อกกับอะไรมาบางอย่าง“ผมว่าเดี๋ยวเราค่อยคุยกันดีกว่าครับ”แทนไทบ่ายเบี่ยงไม่พูด เพราะเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะพูดด้วยซ้ำไป แต่หญิงสาวยังคงเดินถามเขาเรื่อย ๆ จนถึงรถ“จริงสิคะ ฉันขับรถมาเอง ถ้างั้นฉันจะขับไปทำงานต่อนะคะ” ณัฐกฤตาพูดขึ้นพร้
หลังจากที่กลับมาในตอนหัวค่ำพาลินก็เอาแต่นิ่งเงียบ ภาพที่ปีเตอร์เดินควงกับหญิงสาวสวยคนนั้นกลับผุดขึ้นมาในหัวครั้งแล้วครั้งเล่า พาลินนั่งขดตัวอยู่บนโซฟา มือทั้งสองข้างกุมไหล่ที่เหน็บหนาวเอาไว้ เธอไม่ควรจะคิดเรื่องนี้ด้วยซ้ำไป เพราะไม่เกี่ยวด้วยสักหน่อย ไม่ว่าเขาจะทำอะไรจะไปกับใครก็ตามแต่...“บ้า! บ้าที่สุด” เธอพึมพำกับตัวเองเป็นสิ่งที่ไม่ชินเพราะปกติแล้วเขาไม่เคยเดินไปไหนมาไหนกับผู้หญิงคนอื่นยกเว้นกับเธอ ความรู้สึกนี้เหมือนกับตอนที่พี่แทนรักคุณขวัญ จนไม่สนใจเธอ เจ็บ!เธอเกลียดความรู้สึกแบบนี้ที่สุดเสียงออดดังขึ้นติดต่อกันหลายครั้ง พาลินสะดุ้งจากภวังค์พร้อมกับมองไปที่ประตู หญิงสาวลุกขึ้นเดินไปที่ประตูก่อนจะมองว่าเป็นใคร มือนั้นลังเลใจที่จะเปิด สุดท้ายแล้วก็เปิดและมองหน้าเขาที่ยิ้มให้กับเธอ“ยังไม่นอนใช่ไหม?” ชายหนุ่มเอ่ยถามขึ้น พาลินส่ายหน้าเป็นคำตอบ“เข้าไปข้างในได้ไหม?”“อืม” เธอหลีกทางให้เขาเดินเข้ามาในห้องก่อนที่จะปิดประตูลงพาลินสบสายตามองแววตาคู่ที่อบอุ่น หัวใจ ของเธอระทวยลงเมื่อเห็นเขามองแบ
“ไปหาเจฟน่ะ เขาชวนฉันไปเดินเที่ยว”“งั้นเหรอ” เขาขานรับแบบไม่พอใจ แต่ก็ไม่อยากไปขัดขวางจึงตัดสินใจลุกขึ้นแล้วพูดว่า “งั้นผมกลับก่อน เที่ยวให้สนุกล่ะ” ขณะที่พาลินเดินเข้าไปในห้องนอนทำนองว่า เธอฟังแต่ไม่ได้สนใจมากเท่าไหร่ชายหนุ่มหัวเราะให้ตนเองอย่างสมเพช ทั้งที่ก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นไปไม่ได้...“คุณดูไม่มีความสุขนะเวลาที่อยู่กับผม” เจฟพูดขึ้น เพราะตั้งแต่เดินซื้อของก็ไม่เห็นเธอปริปากพูดสักคำ มีเพียงแค่เขาถามและเธอตอบเท่านั้น“เปล่าสักหน่อย แค่รู้สึกไม่สบาย” พาลินโกหก“งั้นเหรอ ให้ผมไปส่งดีไหม”หญิงสาวส่ายหน้าปฏิเสธ “ไม่ต้องหรอก”“งั้นก็แล้วแต่นะ ถ้ามีเรื่องอะไรอยากให้ผมช่วยบอกได้นะ ยินดีเสมอ” ชายหนุ่มบอกพร้อมกับยิ้มให้“ขอบคุณนะ”เจฟ คือเพื่อนที่เรียนอยู่มหา’ ลัยเดียวกับเธอแต่คนละสาขาวิชา เธอรู้มาตลอดว่าตั้งแต่เรียนอยู่หลายครั้งที่ชายหนุ่มแสดงออกกับความรู้สึกที่มีต่อเธอ...ทว่าคงเป็นไปไม่ได้“โอ้นั่น! ปีเตอร์นี่มากับสาว
“ตอนนั้นโกรธค่ะ โกรธมากด้วยแต่ตอนนี้ไม่แล้วค่ะ เพราะฉันก็มีส่วนที่ทำให้คุณเป็นแบบนี้”“ไม่หรอกครับ ผมต่างหาก ถ้าผมไม่คิดจะทำร้ายคุณผมคงไม่ต้องมาทรมานอยู่แบบนี้ คุณเป็นผู้หญิงที่ดี ผมดีใจที่คุณแทนรักคุณ” วศินพูดพร้อมกับยิ้มให้หญิงสาวสำหรับเขาแล้วความรักของเขาคงจะเป็นเพียงได้แค่การมองดูและแอบชอบต่อไป ไม่ว่าจะนานแค่ไหนก็จะไม่เคยลืม เพราะว่ารักไม่จำเป็นต้องได้อยู่ด้วยกัน สำหรับเขาขอแค่มองห่าง ๆ ต่อไปก็พอ…แทนไทเดินออกจากห้องน้ำพร้อมส่งสายตามองภรรยาที่นอนดูทีวีอยู่บนเตียงก็อดที่จะยิ้มขำออกมาไม่ได้ สองเท้าก้าวย่างเข้าไปหาแล้วนั่งลงที่ปลายเตียงก่อนขยับเข้าไปหาอย่างช้าๆชายหนุ่มหันไปมองซีรีส์เกาหลีที่ภรรยาสาวกำลังดูอยู่นั้น คู่พระนางกำลังกอดกันอย่างหวานซึ้ง ก่อนหันมามองหญิงสาวที่กำลังจิกหมอนดูเพลินพลางหัวเราะยิ้มเขิน ๆ ออกมา เขาเอื้อมมือไปหยิบรีโมตที่ข้างตัวเธอขึ้นมาพร้อมเลื่อนนิ้วไปที่ปุ่มสีแดงเพื่อกดปิดจอให้ดับลงทันทีที่จอภาพดับสนิทเป็นสีดำณัฐกฤตาหันมามองสามีด้วยความไม่พอใจ พลางเอื้อมมือไปเพื่อแย่งรีโมตคืน“เอาคืนฉันมาเล
“แพงไม่กล้าหรอกค่ะ...ในเมื่อพี่แทนพูดอยู่เสมอว่าแพงเป็นน้องสาวคนเดียวของเขา แม่คิดว่าแพงจะกล้าเหรอคะ แพงกลัว กลัวว่าพี่แทนเขาจะรังเกียจ กลัวว่าพี่แทนจะไม่คุยกับแพง...แต่ตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว เป็นเพราะแพงทำให้พี่แทนเกลียด แพงทำร้ายคุณขวัญ แพงเลวใช่ไหมคะคุณแม่”พาลินระบายความทุกข์ในใจออกมาให้ฟัง“ลูกผู้หญิงทุกคนก็อยากอยู่กับคนที่ตัวเองรัก แล้วลูกได้ไปพูดกับ ตาแทนหรือยัง เราควรที่จะพูดทำความเข้าใจนะ” กรพรรณพูดอย่างเห็นใจ“ไม่ดีกว่าค่ะ แพงไม่อยากทำให้พี่แทนเกลียดไปมากกว่านี้” เธอส่ายหน้าพลางยกมือขึ้นปาดน้ำตาบนใบหน้า“แทนไม่เกลียดลูกหรอก เขาก็แค่โกรธที่ลูกทำร้ายเขา ถึงแม้จะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจแต่เราก็ผิดนะแพง แม่ว่าควรไปคุยกับเขาให้รู้เรื่อง”“แพงคุยแล้วค่ะ แต่คงไม่มีประโยชน์ค่ะ”“แล้วเราจะหลบหน้าไม่คุยกับตาแทนไปทั้งชีวิตยังงั้นเหรอ แม่ว่ามันอึดอัดนะ” กรพรรณมองลูกสาวด้วยความห่วงใย“เป็นแบบนี้ดีแล้วค่ะ เพราะแพงเป็นคนก่อ แพงก็ต้องเป็นคนยอมรับผลที่แพงก่อ”พาลินยอมรับ
“คุณวศินตอนนี้เป็นอัมพาตครับ เพราะตอนกระแทกฝั่งคนขับถูกกระแทกเข้าอย่างแรงครับ”“เป็นเพราะฉันที่ทำให้...”“ไม่ใช่ความผิดคุณ แต่เป็นความผิดของวศินต่างหากละครับ ถ้าไม่คิดจะทำร้ายคุณคงไม่ต้องพบจุดจบแบบนี้หรอกครับ ดีนะที่ยังไม่พาคุณเข้าโรงแรมไม่ยังงั้นผมจะเป็นคนอัดคุณวศินเอง” แทนไทพูดตามความจริง เพราะถ้าวศินไม่คิดจะทำร้ายภรรยาเขาทุกอย่างก็ไม่ต้องเป็นแบบนี้ เวรกรรมตามทันเร็วราวกับติดปีก ก็ต้องให้วศินรับกรรมที่ก่อไว้“แล้วทำไมถึงรู้ว่าคุณวศินจะพาฉันเข้าโรงแรมล่ะคะ ในเมื่อฉันก็ไม่ได้โทร. บอก หรือว่าคุณไปเยี่ยมเขามาแล้ว ?” หญิงสาวถามด้วยความแปลกใจ“เปล่าครับ ผมไม่ได้ไปเยี่ยม แต่แพงเป็นคนบอกผม...เธอร่วมมือกับคุณวศิน” น้ำเสียงของแทนไทดูหมองเศร้าลงเมื่อพูดถึงพาลิน“คุณพาลิน ? เธอทำแบบนั้นทำไมคะ” ณัฐกฤตาเอ่ยขึ้น“แพงชอบผม เธอเลยทำแบบไม่ทันคิด”“แล้วคุณได้คุยกับคุณแพงหรือยังคะ?” หญิงสาวเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง สายตาคู่สวยมองชายหนุ่มที่ก้มหน้าลง เธอรู้ว่าเขาคิดกับพาลินเหมือ
สามวันแล้วที่ณัฐกฤตายังไม่ฟื้นขึ้นมา ทำให้แทนไทเริ่มเป็นห่วงว่าหญิงสาวจะเป็นอะไรไป เขาไม่ได้เข้าทำงานตลอดสามวัน เพราะว่าจิตใจตอนนี้ไม่อยู่กับงานเลยแม้แต่น้อย ส่วนวศินนั้นอาการสาหัสเพราะเป็นอัมพาตส่วนล่างโดยทั้งหมดเพราะถูกแรงกระแทกอย่างแรง จะกลับมาเดินได้ใหม่คงต้องใช้เวลาอีกสักปีหรือสองปีตามที่หมอบอกแทนไทเอื้อมมือไปลูบที่เส้นผมบางของภรรยาด้วยความรักแล้วความห่วง ส่งสายตามองหญิงสาวในยามหลับ เขาอยากจะให้เธอตื่นขึ้นมาคุย นี่ก็ผ่านมาแล้วสามวันช่างทรมานใจเขาเหลือเกิน คิดถึง...จนแทบปวดใจ“ที่รัก ตื่นขึ้นมานะครับ ผมคิดถึงคุณ” แทนไทพูดพร่ำพร้อมพรมจูบไปทั่วมือสวยของภรรยา“ได้เวลาเช็ดตัวคนไข้แล้วนะคะ”ชายหนุ่มพยักหน้ารับอย่างเข้าใจก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ เมื่อพยาบาลเดินเข้ามาพร้อมกับถาดเช็ดตัวคนไข้แทนไทเดินออกจากห้อง ขณะที่พยาบาลเลื่อนผ้าม่านปิดล้อมเตียงไว้ เขาเดินออกมาตามทางเดินเรื่อย ๆ ก่อนหยุดเดินลงเมื่อเห็นพาลินเดินเข้ามาหา“พี่แทน”พาลินเรียกชายหนุ่มในสรรพนามที่เหมือนเดิม แต่แววตาที่เขามองแตกต่างออกไปอย่างชัดเจ
“ผมรักคุณแทน !”เพียงเท่านี้ก็ไขกระจ่างทุกเรื่องที่อยู่ในใจของหญิงสาวได้หมดคุณวศินเป็น…!“คะ...คุณ...”“ใช่ ! แต่ถ้าไม่เพราะคุณตกลงแต่งงานกับคุณแทนป่านนี้เรื่องคงไม่เป็นแบบนี้ ! ผมวางแผนเพื่อสร้างข่าวให้ผมและคุณแทนกลายเป็นคู่จิ้นในวงการบันเทิงแต่คุณก็ดันมาปิดข่าว และแต่งงานกับคุณแทน...”“แล้วจะจับฉันมาทำไม ทำไมไม่ไปหาคุณแทนล่ะ !”เหมือนจะเข้าใจว่าเขาทำแบบนี้เพื่ออะไร แต่ทำไมไม่ไปบอกคุณแทนไทโดยตรง ทำไมต้องลากเธอเข้ามาเกี่ยวด้วย !“เพราะเมื่อวานไงล่ะที่คุณไปหาผม คุณรู้ไหมว่าคุณแทนตอบว่าอะไร !” วศินยังคงขับรถต่อไปทั้งที่สายตาของเขาสลับมองใบหน้าของณัฐกฤตา“คุณทำแบบนี้คุณแทนก็ไม่ได้หันมาชอบคุณหรอก เขาไม่ได้มีรสนิยมชอบเพศเดียวกันเหมือนกับคุณสักหน่อย”“ชอบไม่ชอบผมไม่สนแล้ว แต่นี้ผมสนแค่ว่าเขาจะเจ็บปวดยังไงบ้าง”“ฉันไม่อยากฟัง ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้ !” หญิงสาวเอื้อมมือไปแย่งพวงมาลัยรถที่ชายหนุ่มบังคับอยู่ให้เขาหยุดจอดรถวศินใช้มือข้างซ้า
“เรื่องอะไรบอกพี่มาพาลิน !”“พี่แทนแพงเจ็บค่ะ ปล่อยแพงก่อน...” หญิงสาวยกมือขึ้นจับมือของเขาที่บีบไหล่เธออยู่ให้ปล่อยออก“บอกพี่มา ขวัญทำไม ?”“พี่แทนรับปากว่าจะไม่เกลียดแพง...”“บอกพี่มา” แทนไทกัดฟันพูด“คุณวศิน...เขาจะวางแผนข่มขืนคุณขวัญ...เลยให้แพงมาถ่วงเวลา...” เพียงแค่ได้ยินหัวใจของแทนไทก็ร้อนรนจนแทบทำอะไรไม่ถูก เขาจ้องมองเธอด้วยสายตาที่ดูแตกต่างไปจากเดิม“บอกมาว่าตอนนี้วศินอยู่ที่ไหน ! ถ้าขวัญเป็นอะไรไป พี่จะโทษแพงคนเดียว !” แทนไทพูดด้วยน้ำเสียงเข้ม มองพาลินตรงหน้าด้วยแววตาโกรธเคือง“คุณวศินจะพาคุณขวัญไปที่โรงแรม...”ทันทีที่ได้ฟังจบแทนไทก็ผลักพาลินออกอย่างไม่แยแส เขาก้าวฉับไวเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้เธอมองชายหนุ่มเดินจากไปทั้งน้ำตา“พี่แทน...แพงขอโทษ” พาลินพูด ขณะมองไปทางประตูพร้อมกับหยดน้ำตาที่เปรอะบนใบหน้าที่ทำไปเพราะรักพี่แทน...แต่แพงทำใจไม่ได้ที่ต้องเห็นพี่แทนเสียใจเกือบเที่ยงหลังจากที่ลูกค้านั้นออกจ
พาลินนั่งอยู่ภายในห้องคนเดียวตั้งแต่ที่กลับมา ในมือกดเปิดและปิดหน้าจอโทรศัพท์อยู่เป็นเวลานาน นั่นเพราะจิตใจสับสนวุ่นวายดูลังเล เบอร์ที่ขึ้นโชว์หน้าจอนั้นไม่ใช่ใครเลยแต่เป็นเบอร์ของวศินพระเอกหนุ่มชื่อดังนั่นเอง ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงต่อไป ถ้าร่วมมือกับวศินแล้วแทนไทจะเกลียดเธอไหม ? พาลินนั่งอยู่นานจนกระทั่งตัดสินใจกดเบอร์ปลายสายนั้นโทรออก[ตัดสินใจได้แล้วหรือครับ]“ค่ะ คุณจะให้ฉันทำอะไรบ้าง” พาลินเอ่ยถามอีกฝ่ายขึ้นทันที[ก็แค่แยกคุณแทนออกจากคุณขวัญก็พอแล้ว]อีกฝ่ายพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก แต่พาลินก็ยังไม่เข้าใจแผนการทั้งหมดของวศินอยู่ดีว่าเขาต้องการทำอะไร“ฉันยังไม่เข้าใจว่าคุณต้องการทำอะไร”[แค่ทำให้คุณขวัญมาเป็นของผม ทีนี้คุณเข้าใจหรือยัง ?]พาลินเริ่มแสดงสีหน้าลังเลและหวาดกลัวออกมา“ได้ แล้วจะให้ฉันแยกพี่แทนออกวันไหน” ในเมื่อเธอตัดสินใจไปแล้วคงจะย้อนกลับไม่ได้อีกต่อไป เธออยากให้เขารู้ว่าเธอยังสำคัญ ดีเหมือนกัน ถ้ารู้ว่าณัฐกฤตามีชู้ เขาคงจะเกลียดผู้หญิงคนนั้นอย่างแน่นอน[พรุ่งนี้ได้ยิ่งดีเลย]&l