ตอนที่ 15ช่วยแล้วก็ต้องช่วยให้ถึงที่สุด 2 “ข้าไม่มีใครที่พอจะช่วยเหลือได้แล้ว มีเพียงแม่นางลู่เท่านั้น” เว่ยหลานเอ่ยพร้อมกับน้ำตา นางจับมือแม่นางลู่เอาไว้ไม่ยอมปล่อย“แม่นางเว่ยใจเย็นก่อน หากช่วยได้ข้าต้องช่วยเจ้ากับแม่นางเว่ยหลันเต็มที่แน่” หญิงสาวปลอบใจแม่นางเว่ยอย่างรู้สึกสงสารเห็นใจอีกฝ่ายเป็นอย่างมากก่อนหน้านี้ตอนที่นางให้เสี่ยวหน่ายเปิดประตูให้แม่นางเว่ยเข้ามา พอแม่นางเว่ยเห็นนางก็ไม่รอช้าคุกเข่าลงกับพื้นและโขกศีรษะลงกับพื้นห้องพักเบื้องหน้าโต๊ะที่นางนั่งอยู่พอดีลู่เข่อชิงเห็นเช่นนั้นก็รีบร้อนลุกขึ้นจากเก้าอี้เพื่อประคองนางให้ขึ้นมานั่งพูดกันดีๆ ว่าเหตุใดจึงได้ต้องทำถึงเช่นนี้แม่นางเว่ยหลานจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้นางฟังทั้งหมดพร้อมกับสะอื้นไห้ไปไม่หยุด นางเองก็คอยเอ่ยปลอบใจเป็นระยะๆแม่นางเว่ยหลันหายตัวไปตั้งแต่เมื่อคืน แม่นางเว่ยคนพี่เล่าว่าเมื่อคืนมีสหายนางรำของหอบุปผาชวนเว่ยหลันออกไปเดินเที่ยวซื้อของที่ตลาดกลางคืน นางรู้สึกไม่ค่อยจะสบายจึงนอนพักไม่ได้ไปด้วย รู้ตัวว่าน้องสาวและสหายหายไปอีกทีก็ตอนเช้าแล้วที่ไปเคาะเรียกที่ห้องพักของผู้เป็นน้องสาวแต่ก็ไม่พบตัว ที่ห้องพักข
ตอนที่ 16แผนการลู่เข่อชิงพาเว่ยหลานกลับมาพักที่โรงเตี๊ยมก่อน ยามนี้พวกนางไม่อาจทำสิ่งใดได้ นอกเสียจากรอฟังข่าวจากทางหน่วยลาดตระเวนแม่นางเว่ยหลานในเวลานี้ดูไร้ชีวิตชีวาเป็นอย่างยิ่ง นางแทบจะไม่ยอมทานอะไรเลยด้วยซ้ำ นางและเสี่ยวหน่ายเกลี้ยกล่อมอยู่นานถึงได้ยอมกินโจ๊กถึงแม้จะกินไปไม่กี่คำก็ตามที แต่ก็ดีกว่าไม่กินอะไรเลยก่อนกลับมา หัวหน้าหน่วยลานตะเวนกล่าวว่าคืนนี้พวกเขาจะวางแผนแบ่งหกลุ่มทำงานค้นหาครั้งใหญ่ในเมือง หากพบเจอแม่นางเว่ยผู้น้องจะรีบแจ้งมาทันทีนางเองก็ภาวนาของให้เจอโดยเร็วเช่นกันแต่แล้วสวรรค์คงไม่เป็นใจ ต่อให้ค้นหาทั้งคืนก็ค้นหาไม่พบ แต่ คนตายต้องเห็นศพ คนเป็นต้องเห็นตัว เป็นไปได้หรือว่าคนหลายคนที่หายตัวไปจะหายจากอำเภอหนานไปได้เอง ทั้งๆ ที่หัวหน้าประตู ทางเข้าออกอำเภอหนานก็ยืนยันว่าเวลากลางคืนจนกระทั่งเช้าใครก็ไม่สามารถเข้าออกได้ อีกทั้งการเข้าออกในทุกเวลาของทุกคนทั้งขาเข้าและ ขาออกก็ถูกตรวจสอบอย่างเคร่งครัดทุกคนคืนหนึ่งสำหรับคนที่เฝ้ารอคอยด้วยความหวังดูเหมือนจะผ่าน พ้นไปได้อย่างยากลำบาก เพียงแค่สองวันเท่านั้นแม่นางเว่ยหลานที่เคย งดงามสดใส ราวกับเป็นคนละคน นางดูทรุดโทรม
ตอนที่ 17เหล่าบุรุษย่อมพ่ายแพ้ต่อหญิงงาม"แม่นางลู่ ข้ารู้สึกซึ้งในน้ำใจของเจ้านัก ที่ยื่นมือช่วยเหลือข้า แต่เจ้าทำเช่นนี้จะไม่เป็นไรแน่หรือ เจ้ามากจากสกุลขุนนาง แม้ข้าจะโง่เขลาเพียงใดก็คงต้องรู้ว่าสามีแม่นางลู่ก็คงเป็นบุรุษจากสกุลใหญ่แน่ หากสามีท่านรู้เข้าอาจสร้างปัญหาให้พวกเจ้าได้" ไม่มีบุรุษใดชมชอบให้ภรรยาของตนแต่งกายเปิดเผยให้บุรุษอื่นได้เห็นอยู่แล้ว เว่ยหลานอยากเห็นแก่ตัวแต่ก็ทำไม่ได้เพราะอย่างไรแม่นางลู่ก็คือผู้มีพระคุณที่ช่วยเหลือพวกนางสองพี่น้อง"ไม่มีปัญหาแน่ สามีข้าใช่ว่าจะอยู่แถวนี้ซะเมื่อไหร่ หลังจากเสร็จเรื่องแล้วทุกคนปล่อยผ่านไม่เอาไปเล่าให้สามีข้าฟังก็พอแล้ว""สาวใช้ของแม่นางลู่กับเสี่ยวฉีผู้ติดตามของท่าน แม่นางลู่แน่ใจหรือว่าพวกเขาจะไม่เปิดปากแน่"นางยิ้มออกมาเก้อๆ ก่อนจะกล่าวขึ้น "เอ่อ ความจริงแล้วพวกเขาล้วนแต่เป็นคนของสามีข้าทั้งหมดเลย"".........." เว่ยหลานได้ยินถึงกับเงียบไป"แต่พวกเขาไม่กล้าแน่ ไม่ต้องห่วงๆ หากเกิดเรื่องใดขึ้น ข้ารับผิดชอบเอง ใครๆ ก็ไม่ต้องยุ่งทั้งนั้น" นางเอ่ยอย่างมั่นใจ "สามีข้าเขาใจดีกับข้าไม่น้อยเชี่ยวล่ะ เจ้าไม่ต้องกังวลไป ข้ายังไม่เห็นต้อง
ตอนที่ 18หนาวหรือไม่เหล่าบุรุษด้านนอกกำลังคุ้มคลั่งหลงใหลจนวุ่นวายไปหมด สามบุรุษที่อยู่ในห้องรับรองที่ชั้นสองก็พากันยืนเงียบไปเลยเมื่อครู่ยามนางปรากฏต่างทำเอาพวกเขาทั้งสามตลึงไปเลยในทันที“ข้าแทบไม่อยากเชื่อสายตา หญิงงามเมื่อครู่คือแม่นางลู่จริงๆ หรือ” ซีเจ๋อเป็นผู้เอ่ยขึ้น แม้ในยามปกติแม่นางลู่ในสายตาเขาจะเป็นสตรีงามอยู่แล้วแต่เมื่อครู่กลับมีความงามจับใจเพิ่มขึ้นเป็นร้อยๆ เท่า คลายกลับว่าบุรุษใดหากเผลอไปสบตานางเข้าก็จะต้องตกบ่วงที่นางสร้างเอาไว้อย่างไร้ทางหนี“ข้าเองก็แทบไม่เชื่อสิ่งที่เห็นเหมือนกันกับเจ้า ตอนเจอนางครั้งแรก เหมือนกับนางพร้อมที่จะสู้และมีเรื่องพร้อมชนกับทุกอย่าง ต่างจากสตรี งามที่ทำให้บุรุษย่อมสยบแทบเท้าเช่นเมื่อครู่นัก หากนางคิดจะเอาดีทาง นี้ข้าคิดว่าต้องไปได้ดีแน่” รองแม่ทัพคังเอ่ยสิ่งที่เขาคิดออกมาบ้าง“เสี่ยวฉี เจ้าก็คิดเช่นเดียวกันกับพวกข้าใช่ไหม” เป็นซีเจ๋อที่เป็นผู้เอ่ยถามขึ้นมา เพราะเห็นว่าสหายของตนนั้นดูไม่ได้สนใจสิ่งที่พวกเขาสองคนสนทนากันเลย อีกทั้งดูเหมือนว่าในหัวของเขากำลังคิดสิ่งอื่นที่ดูจะหนักใจจนต้องคิดหนักอยู่“ข้าต้องคิดอะไร?” ชายหนุ่มเอ่ยถามออกไป
ตอนที่ 19สัญญาระหว่างสามีภรรยา[บันทึก: หนิงเฟยอวี้]ทางด้านภรรยาตัวน้อยของตนขาดการติดต่อไปเกือบจะครึ่งเดือนแล้ว แน่นอนว่าในใจชายหนุ่มยามนี้ก็อดที่จะนึกเป็นห่วงนางไม่ได้ คิดไปถึงขั้นที่ว่าทางนางอาจเกิดเรื่องยุ่งยากขึ้นอีก จึงไม่มีเวลาเขียนจดหมายถึงเขาชายหนุ่มคิดจะรอจดหมายของนางอีกสักสองวันหากยังไม่มีมาถึงก็จะเป็นฝ่ายเขียนไปสอบถามความเป็นไปของนางด้วยตนเองประจวบเหมาะกับที่วันนี้ช่วงสายหลังจากที่เขากลับจากไปตรวจสอบการฝึกช่วงเช้าของเหล่าทหารกลับมาถึงที่พักในค่ายก็พบว่ามีจดหมายส่งมาถึงเขาพอดี จำได้ว่าตอนนั้นในใจเขารู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก แต่ก็ต้องเก็บความดีใจกลับไปแทบไม่ทัน เมื่อพบว่าจดหมายที่ส่งมาถึงไม่ใช่มาจากฮูหยินตัวน้อยของตน แต่เป็นเสี่ยวฉีที่เขียนส่งมาเองหลังจากเปิดจดหมายที่เสี่ยวฉีเขียนรายงานมาหนิงเฟยอวี้ก็เข้าใจได้ทั้งหมดว่าเหตุใด ภรรยาจึงไม่เขียนจดหมายมาถึงเขาอย่างเคยเสี่ยวฉีเล่ามาในจดหมายว่า ลู่เข่อชิงนางตั้งใจจะเดินทางมาทำให้เขาประหลาดใจ จึงเดินทางมาโดยไม่แจ้งกำหนดการใดๆ อีกทั้งความจริงอย่างช้าที่สุดนางก็ควรจะเดินทางมาถึงเมืองว่านอันแล้วแต่กลับเกิดปัญหาจนต้องหยุดเดินทางก่อน
ตอนที่ 20หนิงฮูหยิน “นั่นใช่แม่นางลู่แน่หรือ” เป็นรองแม่ทัพคังที่เอ่ยกระซิบถามเสี่ยวฉีที่ยืนอยู่ด้านข้าง เมื่อเห็นท่านแม่ทัพใหญ่ผู้บังคับบัญชาของตนประคองหญิงสาวที่เขาเพิ่งกระจ่างถึงสถานะที่แท้จริงของนางว่าเป็นถึงฮูหยินของท่านแม่ทัพใหญ่หลังจากที่เข้าใจว่านางเป็นจอมยุทธ์หญิงพเนจรอยู่นานท่าทีอ่อนแอราวกับเป็นเพียงสตรีธรรมดาไม่เป็นวรยุทธ ยามถูกโอบประคองทุกขณะที่ก้าวเดินและภายนอกของนางตอนนี้ถูกคลุมเอาไว้ด้วยเสื้อคลุมตัวใหญ่ของท่านแม่ทัพใหญ่ทั้งตัว“เจ้าคิดว่าอย่างไรเล่า” เสี่ยวฉีไม่ได้ตอบกลับคำถามของรองแม่ทัพคังแต่กลับถามกลับไปแทน ก่อนจะเดินไปหาผู้เป็นนายกับนายหญิงในทันที ทิ้งรองแม่ทัพคังให้นิ่งสงบจัดการความคิดของตนเองเอาไว้เช่นนั้น ไม่นานแม่ทัพคังก็ตามเสี่ยวฉีมาติดๆ“เริ่มดึกแล้วยิ่งหนาว ฮูหยินต้องระวังอย่าให้ผ้าคลุมเปิดออก”สามีของนางไม่เอ่ยเปล่า เขาหันมาตรวจสอบเชือกผูกของเสื้อคลุมที่สวมให้นางอีกครั้งว่าแน่นหนาดีหรือไม่“ท่านพี่ไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าค่ะ เสื้อคลุมของท่านพี่ทั้งหนาทั้งใหญ่ข้าอุ่นมากเลยทีเดียว ส่วนเชือกท่านพี่เป็นผู้มัดให้ข้าเองแน่นหนาเพียงใดท่านย่อมรู้ดี” นางกล่าวพลางยิ้มกว
ตอนที่ 21จุดหมายที่คือจุดเริ่มต้นอันแท้จริงหนิงเฟยอวี้ไม่ได้เร่งรีบอะไร เช้านี้หลังจากตื่นนอนแล้วเห็นว่าฮูหยินตัวน้อยของเขายังหลับอยู่ก็หลับไปอีกครั้งเป็นเพื่อนนาง ชายหนุ่มนั้นเคยชินกับการตื่นเช้าตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง แต่ครั้งนี้และทุกครั้งยามที่มีนางกอดซุกอยู่ในอ้อมกอดหาความอบอุ่นจากกายของเขาก็ทำให้ชายหนุ่มไม่อยากจะรีบลุกขึ้นจากเตียงนัก หลังจากนอนต่อเป็นเพื่อนนางอีกครึ่งชั่วยามฮูหยินตัวน้อยของเขาก็รู้สึกตัวตื่น พวกเขาจึงค่อยๆ ลุกขึ้นมาล้างหน้าล้างตาผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ก่อนจะพากันลงไปทานมื้อเช้าที่ชั้นล่างของโรงเตี๊ยม เสี่ยวหน่ายและเสี่ยวฉีแยกย้ายกันไปจัดการความเรียบร้อยก่อนออกเดินทาง เพราะหลังจากทานมื้อเช้าเสร็จท่านพี่ก็บอกว่าพวกเราจะออกเดินทางไปที่เมืองว่านอันในทันทีการเดินทางนี้ไม่ได้ดูเร่งรีบนัก ดูจะช้ากว่าตอนที่นางเดินทางมาเองอยู่สักเล็กน้อยด้วยซ้ำ ตอนนางเดินทางมาพร้อมกับเสี่ยวฉีนั้นมีเพียงหนึ่งรถม้าที่มีนางและเสี่ยวหน่ายโดยสารอยู่ด้านใน และมีเสี่ยวฉีควบม้าขี่ตามอยู่ด้านข้างเท่านั้นยามนี้รถม้าถูกเพิ่มมาอีกคัน สัมภาระส่วนหนึ่งถูกแบ่งไปที่รถม้าคันนั้นรวมไปถึงเสี่ยวหน่ายที
ตอนที่ 22นายหญิงจวนแม่ทัพใหญ่หนิงเฟยอวี้ลุกขึ้นแต่งตัวเตรียมไปที่ค่ายทหารนอกเมืองว่านอันตั้งแต่ฟ้ายังไม่ทันสาง เขาแยกตัวออกมาจัดการตัวเองที่ห้องด้านข้างเพื่อให้ไม่ให้เป็นการรบกวนนางที่ยังหลับอยู่ ก่อนออกจากจวนไปก็ยังไม่ลืมที่จะกำชับแม่บ้านหลิงและอาจือหลายคำ ว่าหากฮูหยินตื่นขึ้นมาแล้วนางยังรู้สึกไม่ดีอยู่ก็ให้คนไปตามหมอมาทันทีและให้รีบส่งข่าวถึงเขาให้เร็วที่สุดเสี่ยวฉีเขาก็ยังสั่งให้รั้งอยู่ที่จวนก่อน ยังไม่ต้องกลับมาติดตามเขา ช่วงนี้ให้คอยดูแลสอดส่องฮูหยินแทนเขาให้ดี มีเสี่ยวฉีอยู่ที่จวน หนิงเฟยอวี้จึงได้ออกจากจวนไปอย่างวางใจได้กึ่งหนึ่งร่างสูงทะยานตัวขึ้นไปขี่อาชาสีนิลคู่ใจของตนด้วยท่วงท่าองอาจ เสียงควบม้าดังขึ้นมาพร้อมกับที่ร่างสูงบนอาชาตัวใหญ่เคลื่อนห่างไปไกลมากขึ้นเรื่อยท่างกลางแสงสว่างยามเช้าที่เริ่มเด่นชัดขึ้นร่างเล็กบนเตียงกว้างลุกขึ้นมานั่งพร้อมบิดขี้เกียจ นางยังรู้สึกสะลึมสะลืออยู่เล็กน้อยแต่ก็ไม่อยากนอนต่ออีกจึงได้พยายามไล่ความงัวเงียออกจากกายด้วยการเริ่มเรียกหาคน“อาจือ เสี่ยวหน่าย พวกเจ้ามีใครอยู่หรือไม่รีบเข้ามาหน่อย”“ข้าอยู่เจ้าค่ะนายหญิง” เป็นอาจือที่ขานรับและรีบก
ตอนที่ 40 บทส่งท้ายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคืนนั้นกับหลงเฟยอวี้ ทำให้ในจวนเข้มงวดขึ้น ไม่มีการรับสาวใช้คนใหม่อีก หากจำเป็นก็จะเรียกใช้แต่พวกรับจ้างมาเช้าเย็นกลับเท่านั้นคืนนั้นเหตุเกิดเพราะมีหญิงสาวนางหนึ่งมีแผนการร้ายมาตั้งแต่แรก สวมตัวตนเข้ามาตั้งใจวางยาคนในจวนที่รับหน้าที่ดูแลเฝ้ายามที่เรือนหนังสือจนสลบไม่ได้สติ อีกทั้งวางยาปลุกกำหนัดท่านแม่ทัพใหญ่เพื่อจะจับท่านแม่ทัพให้ได้แต่กลับไม่ได้ผล สุดท้ายสตรีนางนั้นก็หนีหัวซุกหัวซุนออกไปจากเมืองหนิงเฟยอวี้ถึงขั้นวาดภาพของสตรีผู้นั้นและติดประกาศว่านางเป็นสตรีไร้ยางอายและทำเรื่องไร้ศีลธรรมถึงสามวันสามคืน เพื่อเป็นแบบอย่างไม่ให้มีผู้ใดทำผิดอีก“ท่านพี่ลำบากท่านแล้วนะเจ้าคะ” นางเอ่ยปลอบผู้เป็นสามีใครจะคิดไปถึงกันเล่าว่าท่านแม่ทัพใหญ่ผู้น่าเกรงขามที่ผู้คนต่างล่ำลือกันว่าน่าหวั่นเกรงนั้นเวลานี้กับร้องขอให้นางปลอบใจเขาไม่หยุดทั้งๆ ที่ก็ผ่านเหตุการณ์เช่นนั้นมาหลายวันแล้ว“ภาพสตรีไร้ยางอายผู้นั้นยังติดตาข้าไม่หาย” เขาเอ่ยอย่างออดอ้อน สองมือเอื้อมไปยุ่งวุ่นวายกับปมอาภรณ์ของภรรยาไม่หยุด “ภรรยาต้องลำบากให้เจ้าให้เขาได้มองเจ้านานๆ ให้เต็มตาเสียหน่อยแ
ตอนที่ 39ไร้วี่แววข่าวดีหนึ่งปีผ่านไป ชีวิตที่เมืองว่านอันของลู่เข่อชิงนั้นถือว่าเป็นไปอย่างราบรื่น ครั้งเรื่องที่เกิดขึ้นในจวนก่อนหน้านี้ที่แม่นางหลงซานมาก่อเรื่องเอาไว้ก็ไม่มีผู้อื่นนอกจากคนในจวนรู้เรื่อง และนางกับสามีก็ตั้งใจเก็บเรื่องนี้เอาไว้เป็นความลับสถานการณ์ที่ชายแดนแถบนี้ถือได้ว่ามั่นคงเป็นอย่างดี ราชสำนักมีข้อตกลงเพื่อยุติสงครามได้อย่างมั่นคงยาวนานแล้ว อีกไม่นานจะมีการส่งองค์หญิงมาสมรสถือเป็นการเชื่อมสัมพันธ์อย่างเป็นทางการสงครามสงบแน่นอนว่าชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านย่อมดีกว่าเดิม มีหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นการค้าการขายในอนาคตไปยังแคว้นข้างเคียงอาจจะนำพามาซึ่งความมั่งคั่งของประชาชนสืบไปวันก่อนนางได้ยินมาว่า ท่านพี่ของนางเป็นผู้ได้รับมอบหมายให้ไปรับองค์หญิงที่จะมาสมรสเชื่อมสัมพันธ์ เรื่องวันเวลาและการจัดเตรียมขบวนการรับองค์หญิงนั้นเขาจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมดลู่เข่อชิงยังแอบคิดไว้ว่าหากได้วันเวลาที่แน่นอนแล้ว ไม่แน่ว่านางอาจจะของติดขบวนรับองค์หญิงเพื่อไปท่องเที่ยวด้วย"สองปีแล้ว ฮูหยินแต่งเข้าจวนมาสองปีแล้ว แต่กับยังไร้ความเคลื่อนไหว" "ฮูหยินมีปัญหาอ
ตอนที่ 38 ไร้ค่า น่ารังเกลียด ลู่เข่อชิงในยามนี้กำลังนั่งจ้องมองใบหน้าของตนซึ่งสะท้อนให้ เห็นในกระจกทองเหลืองบานใหญ่ตรงหน้าอย่างพิจารณาถึงความเปลี่ยนแปลง ใบหน้าของนางดูงดงามขึ้น ดูน่ามองกว่าแต่ก่อนมากนัก ไม่อาจกว่าว่างามเป็นหนึ่งเหนือผู้ใดได้อย่างเต็มปาก แต่ก็ถือว่างามพอตัวอยู่ไม่น้อยหน้าผู้ใด อาจเป็นเพราะได้แม่บ้านหลิง สาวใช้คนสนิทอย่างพวกอาจืออาหน่ายช่วยกันบำรุงใบหน้าและผิวพรรณให้นางอย่างเอาใจใส่พิถีพิถันเป็นอย่างยิ่งเรียวคิ้วโค้งเรียวดุจกิ่งหลิว ดวงตาเป็นประกาย ริมฝีปากอวบอิ่ม ใบหน้าของนางในยามนี้ไร้สิ่งใดแต่งเติม แต่กับดูน่าหลงใหลไม่น้อยตัวนางในยามนี้ยังคิดว่าตนนั้นมีเสน่ห์เพิ่มขึ้น นี่อาจจะเป็นหนึ่งในสิ่งที่สตรีที่ออกเรือนแล้วเช่นนางพึงมีขึ้นมาเองกระมัง“เอาชุดตัวแดงมาให้ข้าสวมอีกชั้นก็แล้วกัน” นางเอ่ยสั่งสาวใช้ข้างกายตนหลังจากนางเอ่ยปากไป อาหน่ายก็ไปนำชุดที่นางต้องการมาให้ และช่วยนางสวมจนเสร็จเรียบร้อย“คืนนี้ท่านแม่ทัพไม่กลับจวน บ่าวนอนเป็นเพื่อนฮูหยินนะเจ้าคะ”“ก็ได้ ข้าจะอ่านตำราอีกสักพักจึงจะเข้านอน ระหว่างนี้เจ้าก็ไปจัดการตัวเองก็แล้วกัน” นางเอ่ยก่อนจะเดินไปนั่งที่ตั่ง
ตอนที่ 37ไว้ใจได้?ยามสายของเช้าวันนี้ ลู่เข่อชิงใช้เวลาอยู่ในสวนที่เหล่าต้นไม้ใบหญ้ากำลังเบ่งบานน่ามองเป็นที่สุด เพื่อจัดการสวนดูแลสวนเล็กๆ น้อยๆ อย่างรดน้ำ พรวนดิน โดยมีสองสาวใช้คนสนิททั้งสองคอยเป็นลูกมือพวกนางล้วนช่วยกันลงแรงอย่างสนุกสนาน จนกระทั่งมีสาวใช้ผู้หนึ่งเข้ารายงาน ลู่เข่อชิงถึงได้ละสายตาจากต้นไม้ในมือที่กำลังปลูก“ฮูหยินเจ้าคะ แม่บ้านหลิงให้บ่าวมาถามท่านว่า มีแม่นางแซ่หลงมาขอพบท่านเจ้าค่ะ แจ้งว่านางมาจากหมู่บ้านกลางหุบเขานอกเมือง ฮูหยินจะให้เข้าพบหรือไม่เจ้าคะ”แม่นางแซ่หลง จากหมู่บ้านกลางหุบเขาเช่นนั้นหรือ คงจะเป็นแม่นางหลงซานผู้นั้นเป็นแน่เมื่อคาดว่าเป็นผู้ใดที่มาเยือนได้แล้ว หญิงสาวแม้จะสงสัยว่าเหตุใดแม่นางหลงซานผู้นั้นที่ดูไม่ชอบนางจู่ๆ ถึงได้มาเยือนถึงจวนได้ครั้งก่อนที่หมู่บ้านกลางหุบเขา หัวหน้าหมู่บ้านผู้เป็นบิดาของแม่นางหลงดูแลต้อนรับพวกนางเป็นอย่างดี แน่นอนว่ายามนี้แม่นางหลงมาเยือนถึงจวนย่อมต้องให้พบหน้าแน่อยู่แล้ว“เจ้าให้แม่บ้านหลิงเชิญแม่นางหลงเข้ามาเถอะ” นางเอ่ยจบก็ก้มลงพรวนดินใส่ต้นไม้ต่อ“เจ้าค่ะ”สาวใช้คนนั้นรับคำแล้วก็เดินออกไป มุ่งหน้าสู่ด้านหน้าประตู
ตอนที่ 36สามีภรรยารักใคร่ ลู่เข่อชิงเริ่มคุ้นชินกับจวนแม่ทัพเป็นอย่างดี ตำแหน่งฮูหยินแม่ทัพก็เริ่มเข้าที่ได้อย่างค่อยเป็นค่อยไปตามความช่วยเหลือของเหล่าผู้คนในจวนด้านวรยุทธ์นางยังคงฝึกฝนอยู่เสมอ อีกทั้งยังได้รับความชี้แนะกับผู้อื่นอีกหลายคน เรียกได้ว่าคนในจวนแม่ทัพหากพอเป็นวรยุทธ์อยู่บ้างล้วนถูกนางดึงมาปะมือด้วยไม่ได้ขาดถึงเรื่องในครัว เห็นได้ชัดเจนว่าฝีมือทำอาหารของนางนั้นก้าวหน้าขึ้นได้เป็นอย่างดี อย่างน้อยๆ ก็ไม่ทำสิ่งใดไหม้จนดูไม่ได้อีกส่วนสามีของนางแม่ทัพหนุ่มผู้เก่งกาจหาญกล้า เขาล้วนยังคงยุ่งอยู่กับการทหารเช่นเดิม ทว่าถึงแม้จะยุ่งเพียงใดกับไม่เคยละเลยนางผู้เป็นภรรยา ซ้ำหากได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกันในยามค่ำคืนก็มักจะคลอเคลียไม่ห่าง ชีวิตแต่งงานของนางจึงนับว่าหวานชื่นเป็นอย่างมากวันนี้เป็นอีกวันที่อากาศดี ท้องฟ้าแจ่มใส่ แดดอ่อนๆ นางจึงออกมาเดินเล่นนอกจวนกับอาจือและเสี่ยวหน่าย บังเอิญวันนี้มีความครึกครื้นครั้งใหญ่ที่กลางถนนหัวมุมพอดีเรื่องครึกครื้นที่ว่าก็คือมีคณะท้าดวลสัญจรผ่านมาตั้งเวทีประลอง เห็นว่าเป็นคณะท้าดวลซึ่งมีการวางเดิมพัน แลกเปลี่ยนอาวุธกับเงินทองหากผู้ที่ท้าดวลชนะสาม
ตอนที่ 35 ภัยเงียบ “ก็เข้าใจได้ง่ายๆ ว่าเหตุใดวันนี้พี่หญิงถึงมาหาข้าถึงที่นี่ได้” ชายหนุ่มเจ้าของบ่อนพนันเอ่ยทักญาติผู้พี่ของตนที่จู่ๆ ก็มาหาอย่างกะทันหัน อีกทั้งปกติแล้วนางนั้นมักจะไม่ยอมมาเหยียบบ่อนพนันแห่งนี้ของเขาเลย ซึ่งแน่นอนว่าเขารู้ดีว่านางก็คงจะกลัวใครพบเห็นว่าเข้ามาในที่เช่นนี้และจะทำให้เสื่อมเสียชายหนุ่มรินน้ำชาด้วยตนเองก่อนที่จะยื่นให้ญาติผู้พี่ซึ่งนั่งลงอยู่ฝั่งตรงข้าม “ดื่มชาสงบอารมณ์ก่อนเถอะ เรื่องแม่ทัพใหญ่หนิงที่ท่านมีใจให้มานานมีฮูหยินแล้วแถมเป็นสมรสพระราชทาน ใครๆ เขาก็รู้กันไปทั่วแล้ว”“เจ้ายังจะมาซ้ำเติมข้าอีก ใช่ได้ที่ไหนกัน” นางเอ่ยออกมาอย่างไม่สบอารมณ์พร้อมทั้งกระแทกจอกน้ำชาที่หมดแล้วลงกับโต๊ะอย่างแรง“พี่หญิงท่านอ่อยบุรุษมาหลายปี ไม่สำเร็จก็ควรจะยอมรับได้แล้ว เศรษฐี ขุนนางในเมืองก็มีตั้งมาก ท่านเลือกสักคนแล้วลงมือจับให้อยู่ได้แล้ว” เขาแนะนำ อย่างไรญาติผู้พี่ของเขานางก็ถือได้ว่าเป็นหญิงงามผู้หนึ่ง ดูจากภายนอกก็ดูอ่อนหนาวน่ารักน่าเอ็นดู ท่าทางเช่นนี้ล่อลวงบุรุษได้ไม่ยาก นางมั่วแต่เสียเวลายั่วยวนแม่ทัพหนิงที่ไม่ได้สนใจนางเลยอยู่ตั้งนาน ช่างน่าเสียดายเวลายิ่งนั
ตอนที่ 34ฮูหยินอย่างเป็นทางการฤดูใบไม้ผลิอันเปี่ยมด้วยชีวิตชีวาวนกลับมาถึงอีกครั้ง ทั่วทั้งบริเวณที่เคยถูกปกคลุมไปด้วยหิมะขาวบัดนี้กลับคืนสู่ความเขียวขจีอีกครั้งหลายวันก่อนแม่บ้านหลิงได้มาหารือกับนางเรื่องการจัดสวน และการลงต้นไม้ดอกไม้ในจวนใหม่ เพราะว่าก่อนหน้านี้ภายในจวนไม่ได้จัดการอย่างเป็นระบบระเบียบนักเนื่องจากท่านแม่ทัพไม่มีเวลาสนใจ ทว่ายามนี้ในจวนมีฮูหยินแล้ว เรื่องทั้งหมดจึงควรเข้าที่เข้าทางได้แล้วลู่เข่อชิงจึงช่วยกันกับแม่บ้านหลิง ช่วยกันดูว่าควรจัดวางต้นไม้ ดอกไม้อย่างไรดี เดิมที่นางก็คิดว่าทุกอย่างในตอนนี้แม้จะดูธรรมดาไปบ้างแต่ก็ไม่ได้ดูน่าเกลียดอะไร“ฮูหยินตอนท่านมาที่จวนเป็นฤดูวสันต์ อีกทั้งเดิมทีที่จวนเรานี้ไม่มีนายหญิงเช่นท่านมาก่อน จวนแม่ทัพเลยไม่มีแขก ทว่ายามนี้อย่างไรฮูหยินน้อยเช่นท่านก็มาอยู่ที่นี่แล้ว ในอนาคตย่อมต้องต้อนรับแขกไม่น้อยทีเดียว”นางเข้าใจที่แม่บ้านหลิงต้องการสื่อได้ดี ทั้งสวนและการตกแต่งในจวนล้วนแล้วเป็นหน้าเป็นตาของท่านแม่ทัพทั้งสิ้น จะอย่างไรก็ควรให้สมฐานะแม่ทัพใหญ่ของเขา“เช่นนั้นหากข้าอยากให้ ในสวนกลางจวนมีน้ำตกจำลองเล็กๆ เล่าเป็นอย่างไร”“คงจ
ตอนที่ 33 ค่ำคืนวสันต์ผลิบานหนิงเฟยอวี้อ่านจดหมายที่ท่านแม่ของเขาเขียนมาถามไถล เรื่องราวของตัวเขาและภรรยาว่ายามนี้เป็นอย่างไรบ้าง อีกทั้งยังดู เหมือนว่าท่านแม่จะใส่ใจว่าลู่เข่อชิงนางจะปรับตัวได้หรือไม่ ชายหนุ่มเขียนจดหมายตอบกลับในส่วนของตนเองเสร็จ เรียบร้อยก็จัดวางเอาไว้บนโต๊ะอักษรเอาไว้ก่อน และตั้งใจว่าจะให้ลู่ เข่อชิงเขียนตอบกลับไปด้วยตัวนางเองอีกหนึ่งฉบับท่านแม่ของเขาจะได้ วางใจ เมื่อคำนวณเวลาดูแล้วก็เห็นว่าทางฮูหยินตัวน้อยของตนนั้นคง น่าจะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว และยามนี้คงกำลังรอเขาให้กลับไปอยู่ ชายหนุ่มจึงตรงกลับไปยังเรือนนอนของตนและฮูหยินทันที เมื่อมาถึงเรือนนอนก็เห็นว่ามีสาวใช้สองคนกำลังยืนเฝ้าอยู่หน้า เรือน เขาโบกมือไล่พวกนางให้กลับไปโดยไม่ได้ส่งเสียงโดยปกติแล้วในวันที่เขาไม่ได้กลับมานอนที่จวน ภายในห้องก็จะมีสาวใช้คนสนิทของเข่อชิงคือเสี่ยวหน่ายและอาจือผลัดกันมานอนเฝ้าอยู่ห้องด้านนอกฮูหยินของเขา ด้านนอกก็จะมีสาวใช้เฝ้าอยู่จนถึงยามดึก เผื่อว่าฮูหยินจะต้องการเรียกใช้สิ่งใดขึ้นมาจะได้สะดวก ทว่าหากเขาอยู่ที่จวน เข้านอนที่ห้องพร้อมกับฮูหยินก็ไม่ต้องให
ตอนที่ 32 การเป็นหนึ่งเดียวที่แท้จริงเวลานี้แม่บ้านหลิงจำต้องเร่งพาฮูหยินน้อยของนางกลับเข้า เรือนนอนเพื่อที่จะได้นั่งคุยสอบถามเรื่องที่ทำให้ตัวนางและอาจือนิ่งค้าง ไปเมื่อครั้งเดินเล่นเป็นเพื่อนผู้เป็นนายอยู่ด้านนอกตัวนางรู้ดี ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอันใดที่คุณหนูจากสกุลขุน นางอีกทั้งยังเป็นหญิงสาวใสซื่อจะไม่เข้าใจเรื่องราวลึกซึ้งระหว่างสามี ภรรยาที่ควรเกิดขึ้นในห้องหอ เรื่องเช่นนี้ฮูหยินไม่ทราบนั้นเข้าใจได้ แต่ท่านแม่ทัพที่เป็นบุรุษ ย่อมไม่มีทางไม่ทราบอย่างแน่นอน“ฮูหยิน ข้าน้อยคงต้องบังอาจของถามคำถามบางอย่างที่อาจจะดูไม่ควรกับท่านนะเจ้าคะ” แม่บ้านหลิงจำต้องกล่าวขึ้น หากนับอาวุโสแล้วที่จวนแม่ทัพแห่งนี้อย่างไรผู้ที่จะชี้แนะเรื่องเช่นนี้กับฮูหยินได้ก็คงจะมีเพียงแค่นางเท่านั้นเพื่อคุณหนู และคุณชายน้อยของจวนในอนาคต อย่างไรนางก็ จำต้องชี้แนะเรื่องนี้ให้สำเร็จให้จงได้“เป็นคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่ข้าถามที่ด้านนอกใช่หรือไม่” “ใช่เจ้าค่ะ” แม่บ้านหลิงขานตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เช่นนั้นแม่บ้านหลิงก็ถามได้เต็มที่เลย ข้าจะตอบทั้งหมด” “ก่อนอื่นเลย ยามอยู่ในห้องด้วยกันฮูหยินกับท่าน