จูดยืดตัวตรงและมองโจชัวจริงจัง“เฮลีย์ปฏิเสธที่จะมาเจอนาย”โจชัวเลิกคิ้วเล็กน้อยแล้วไม่พูดอะไร“นี่เป็นครั้งแรกที่นายขอนัดเจอเฮลีย์ก่อน เธอไม่น่าจะปฏิเสธนาย แต่เธอก็ปฏิเสธมาแล้ว”โจชัวยิ้ม “เธอให้เหตุผลว่าอะไร?”“เธอบอกว่าเพราะภรรยาของนายกลับมาแล้ว เธอบอกจึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องเจอกัน”“บอกเธอว่าฉันต้องเจอเธอ ไม่งั้น ฉันจะเป็นตัวแทนของตระกูลลินช์ในการจบความสัมพันธ์กับตระกูลวอลเตอร์เอง”จูดขมวดคิ้วแน่นเมื่อได้ยินคำพูดของโจชัว “โจชัว นายไม่คิดว่าแบบนี้มัน...หลุดโลกไปหน่อยเหรอ? ถ้าเฮลีย์ไม่ใช่อลิซล่ะ? ถ้าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพวกเขาเลย นายยังอยากจะ...”“ฉันต้องการสะสางเรื่องพวกนี้”โจชัวสูดลมหายใจเข้าลึกและเดินไปที่หน้าต่างทรงฝรั่งเศส เขามองภาพสะท้อนของตนเองในกระจกแล้วยิ้มบาง ๆ“ฉันค่อนข้างเชื่อว่าอลิซแอบอ้างเป็นคนอื่นอยู่”เขาอยากเชื่อเรื่องนี้เสียยิ่งกว่าเชื่อว่า ผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบและยอดเยี่ยมในหัวใจของเขาจะกลายเป็นคนจู้จี้จุกจิกไปภายในเวลาหกปีได้ …“ลูน่า ฉันมีเรื่องจะบอกเธอ”เมื่อออกมาจากตึกลินช์กรุ๊ปทาวเวอร์ แอนน์ก็เรียกรถแท็กซี่ไปยังสวอนเลคเรสซิเดนส์ทันทีเมื่อเธอ
ลูน่าลุกขึ้นจากโซฟาในทันที “พวกเขาโดนลักพาตัวไปเหรอ!”“ค่ะ” ลิลลี่เหมือนกำลังร้องไห้อยู่ “ฉันโทรหาคุณลินช์แล้ว เขากำลังมา คุณอยากมาด้วยไหมคะ? ครูอนุบาลบอกว่าทั้งสองคนกำลังเล่นกับเพื่อนอยู่ จู่ ๆ รถคันหนึ่งก็ปรากฏขึ้นและมีชายชุดดำสองสามคนรีบวิ่งออกมาพาพวกเขาออกไป ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจนครูไม่สามารถตอบสนองได้ทันด้วยซ้ำ”ลูน่ากัดริมฝีปาก “ฉันจะไปเดี๋ยวนี้!”จากนั้นลูน่าก็กระโดดออกจากโซฟาไปในทันที เธอสวมเสื้อคลุมตัวนอก และกำลังจะออกไปแอนน์ละล้าละลัง “เธอจะไปไหน?”“เนลลี่กับนีลโดนใครก็ไม่รู้พาตัวไป” ลูน่าตอบพลางใส่รองเท้าอย่างร้อนใจแอนน์ชะงักไป เธอหยิบเสื้อคลุมของตัวเองแล้วตามลูน่าออกไป “เกิดอะไรขึ้นกัน?”ลูน่ากำลังรู้สึกยุ่งเหยิง เธอไม่รู้ว่าต้องอธิบายอย่างไร ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงวิ่งลงไปชั้นล่าง“เดี๋ยวก่อน ฉันขับให้เอง” แอนน์ถอนหายใจ “ตอนนี้หาแท็กซี่ยาก ฉันขับไปน่าจะเร็วกว่า”ลูน่าสูดลมหายใจเข้าลึกและขึ้นรถไป ขณะนั่งอยู่ที่เบาะหลังความคิดของเธอกำลังตีกันวุ่น“คุณแม่ครับ” ทันใดนั้นเสียงของไนเจลก็ดังมาจากสร้อยคอของเธอ ลูน่าชะงักไปครู่หนึ่ง เธอจับสร้อยคอตัวเองในทันที “ไนเจ
ไนเจลยอมรับว่าลูกสมุนมือขวาของน้องชายเขาค่อนข้างแข็งแกร่งถึงพวกเขาจะดุร้ายได้ แต่พวกเขาก็มีกันแค่สองคนเขาสองคนทำอะไรเพื่อหยุดกลุ่มคนที่กำลังเร่งความเร็วกันอยู่บนถนนวงแหวนรอบนอกไม่ได้หากพวกเขาไม่สามารถหยุดพวกเขาได้ในครั้งแรก มันจะเป็นเรื่องท้าทายสำหรับพวกเขาที่จะทำอะไรต่อไปได้!ตอนนี้คนเดียวที่เขาคิดได้ว่ามีความสามารถ ความแข็งแกร่ง และความกล้าหาญที่จะทำอะไรแบบนี้ได้คือชายคนนั้นเขาหลับตาการกระทำของลูน่าชัดเจน เธอเลือกแซคกับยูริมากกว่าโจชัวแต่ว่ามีชีวิตน้องชายน้องสาวของเขาเป็นเดิมพันไนเจลสูดลมหายใจเข้าลึก เขาหยิบแท่งยูเอสบีที่เป็นไอพีแอดเดรสข้างนอกเสียบเข้ากับคอมพิวเตอร์ตัวเอง เขาโทรหาโจชัวด้วยโหมดไม่ระบุตัวตนในตอนนี้โจชัวยังคงนำคนไปที่ประตูทางเข้าโรงเรียนอนุบาลและพยายามวิเคราะห์เส้นทางที่รถคันนั้นไป“นายท่าน ถ้าข้อสรุปถูกต้อง พวกเขาน่าจะอยู่บนถนนวงแหวนที่วงแหวนรอบนอกของเมือง แต่พวกเขาอยู่บนถนนวงแหวนมาครึ่งชั่วโมงแล้ว เราไม่รู้ว่าตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหนแล้ว”โจชัวลูบระหว่างคิ้วของเขาอย่างเศร้าซึม เขาอยากจะใส่เครื่องติดตามให้นีลและเนลลี่มาตลอด แต่เขากลัวว่าเด็ก ๆ จะคิดว่า
“สมิธ ทำไมมีรถไล่ตามเรามาหลายคันจัง?” คนขับรถตู้ชำเลืองมองไปยังรถสีดำที่วิ่งเข้ามาหาพวกเขาอย่างรวดเร็วแล้วขมวดคิ้ว “พวกเขาเข้ามาใกล้แล้ว ตอนนี้เราควรชะลอรถได้แล้ว”ชายที่ชื่อสมิธกำลังนั่งอยู่ที่เบาะหลังพลางขมวดคิ้วไปด้วย เขาชำเลืองมองออกไปนอกหน้าต่างติดฟิล์มทึบ “ฉันคิดว่าพอแล้ว เราจะลงที่สี่แยกข้างหน้า” เขาเตะเด็กสองคนที่โดนมัดอยู่ตรงเท้าของเขาและเตือนพวกเขาว่า “อยู่นิ่ง ๆ !”เด็กสองคนนั้นคือนีลและเนลลี่ ผู้ร้ายลักพาตัวมัดพวกเขาหันหน้าเข้าหากันจากนั้นก็วางพวกเขาไว้ใกล้ ๆ เท้าสมิธ เวลาผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมง แต่เขาเตะเด็ก ๆ ไปจนนับครั้งไม่ถ้วนขากางเกงข้างหนึ่งของนีลเลิกขึ้นในระหว่างการต่อสู้ เผยให้เห็นหน้าแข้งคู่หนึ่งที่ปกคลุมไปด้วยรอยฟกช้ำสีม่วง ในขณะเดียวกัน ขาของเนลลี่กลับไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ เห็นได้ชัดว่านีลปกป้องน้องสาวของเขาไว้สมิธพ่นเสียงหึ “เป็นสุภาพบุรุษดีนี่หว่า รู้วิธีปกป้องผู้หญิงด้วย”นีลกัดฟันและมองชายคนนั้น แต่ไม่ได้พูดอะไรโต้ตอบ“แกก็ดื้อเหมือนกัน” พูดจบสมิธก็เตะเด็กชายที่กระดูกสันหลังอีกครั้งและวางเท้าไว้บนหลังของนีล จากนั้นเขาก็หยิบมือถือตัวเองออกมาถ่ายรูปแล
“แค่รอยถลอกเอง เราไม่ต้องไปโรงพยาบาลหรอกครับ กลับบ้านทายาก็ได้แล้ว” นีลปาดน้ำตาที่ไหลลงมาตามแก้ม “ไม่ต้องห่วง”จากนั้นเขาก็หันไปมองโจชัวที่กำลังมองพวกเขาอยู่ “คุณลินช์”นีลเงยหน้าขึ้นและจ้องมองโจชัวด้วยดวงตากลมใส “เนลลี่กับผมจะไปบ้านคุณแม่ตอนนี้ ขอบคุณที่ช่วยพวกเรานะครับ”โจชัวเลื่อนสายตาจากลูน่ามามองเด็กชายตรงหน้าเขา เขาย่อตัวลงแล้วกล่าวว่า “อืม ฉันเป็นพ่อของนาย ไม่ต้องขอบคุณหรอก”“ก็จริงครับ แต่ผมก็ยังอยากขอบคุณอยู่ดี” ทันใดนั้นนีลก็ดูเหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้ เขามองโจชัวและพูดว่า “คนที่ลักพาตัวเรามาไม่ได้ต้องการจะฆ่าเรา แล้วก็ไม่ได้จะเรียกค่าไถ่ด้วย ดูเหมือนว่าเหตุผลที่ลักพาตัวพวกเราคือการแก้แค้นนะครับ ช่วงนี้คุณไปทำอะไรให้ใครไม่พอใจหรือเปล่าครับ?”โจชัวไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้กับเรื่องนี้ดี “ไม่ ช่วงนี้ฉันไม่ได้ทำอะไรให้ใครไม่พอใจ”“หืม งั้นก็แปลกมาก...” นีลเม้มปาก หลังจากนั้นเขาก็ถอนหายใจแล้วเอื้อมมือมาจับมือของโจชัวไว้ “แต่ถึงอย่างไรก็ขอบคุณนะครับ ผมจะไปดูแลคุณลูน่าและองค์หญิงเนลลี่แล้วล่ะ คุณอยู่ที่นี่จัดการพวกวายร้ายนั่นไปนะครับ” พูดจบเขาก็กระโดดไปหาลูน่าแล้วจับมือของเธ
คำถามของโจชัวทำให้ไนเจลขมวดคิ้ว เสียงของโจชัวทุ้มต่ำ แต่น้ำเสียงของเขาคมกริบและดูเหมือนจะทะลุออกมาจากโทรศัพท์ได้ แม้จะอยู่ห่างออกไปหลายกิโลเมตร แต่ไนเจลก็รู้สึกเหมือนจะนึกภาพของโจชัวนั่งอยู่ตรงหน้าแล้วมองมาที่เขาด้วยดวงตาทิ่มแทง ความรู้สึกนี้ทำเอาเขาหายใจไม่ออกไนเจลถอนหายใจและดึงชุดคนไข้ของตัวเอง เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ไนเจลรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง “คุณลินช์ ตัวตนของผมไม่เกี่ยวอะไรกับลูน่าและคนอื่น ๆ …เมื่อถึงเวลาผมจะเปิดเผยตัวให้คุณเห็นเอง”โจชัวหัวเราะเบา ๆ และมองออกไปที่สะพานข้ามทะเล “เสียงนายฟังดูเด็กนะ”แม้จะเป็นเสียงที่ทำให้ดูมีน้ำหนัก แต่โจชัวยังคงได้ยินเสียงความตื่นตระหนกชัดเจนในน้ำเสียงของบุคคลนั้น “มาเจอกันหน่อยสิ” “ไม่จำเป็นหรอกครับ” ไนเจลถอนหายใจและวางสายโทรศัพท์ ทันทีที่ตัดสัญญาณ ไนเจลก็เอนตัวพิงหัวเตียงและพยายามควบคุมลมหายใจ ใช้เวลาสักพักก่อนที่เขาจะรู้สึกได้ว่าหัวใจของเขาสงบลง เขาไม่ได้รู้สึกประหม่าขนาดนี้มานานแล้ว ครั้งสุดท้ายที่เขารู้สึกเช่นนี้คือตอนที่แล็ปท็อปของเขาถูกโจชัวแฮ็คเมื่อคิดถึงสิ่งนี้ ไนเจลก็เลื่อนตัวลงจากเตียงแล้วเดินไปที่โต๊ะ เขาเปิดแล็ปท็อปที่พับขึ
อลิซไม่กล้าทำอะไรไม่ดีกับเด็ก ๆ เพราะว่าเธอไม่อยากทำพลาดแบบเดียวกับออร่าและเปิดเผยตัวเอง นอกจากนั้นเธอไม่รู้ว่าโจชัวเชื่อใจเธอหรือยังแล้วอีวอนน์ไปเอาความกล้ามาจากไหนไปลักพาตัวเด็กสองคนนั้น!“กลัวอะไรล่ะ?” อีวอนน์เม้มปาก “คนที่ฉันจ้างมาจากเมืองซีทั้งนั้น พวกเขาไม่ใช่คนในพื้นที่ และเบอร์ที่ฉันใช้ติดต่อกับพวกเขาก็ถูกเข้ารหัสไว้ ไม่มีทางที่ใครจะหาฉันเจอ อีกอย่าง ฉันไม่ได้สั่งให้ฆ่าสักหน่อย ที่สมิธทำก็แค่เตะตีนิด ๆ หน่อย ๆ ก็เท่านั้น”“เฮลีย์ ทำไมเธอถึงขี้ขลาดขนาดนี้ ตอนนี้เธอเป็นอลิซ กิบสันแล้วไม่ใช่เหรอ?”อลิซสูดลมหายใจเข้าลึก เธอไม่ได้ขี้ขลาด เธอแค่ระวังตัว!“กำจัดทุกอย่างที่เธอใช้สื่อสารกับพวกเขาและออกไปจากที่นั่นเดี๋ยวนี้! กลับไปที่เมืองซีซะ” อลิซกำโทรศัพท์ไว้แน่น “ออกจากที่นั่นทันที!”อีวอนน์ถูกคุณวอลเตอร์ตามใจมาตั้งแต่เด็ก ๆ และเธอไม่รับรู้ถึงอันตรายของสถานการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่ ตระกูลวอลเตอร์เป็นครอบครัวที่มีชื่อเสียงและได้รับความเคารพอย่างดีในเมืองซี แต่ที่นี่ไม่ใช่เมืองซี เธอไม่ควรมองข้ามพลังของโจชัว ลินช์ในเมืองบันยัน!ที่ปลายสาย อีวอนน์เม้มปากอีกครั้ง “อลิซ ทำไมเธอถึงต้อ
มือของลูน่าแข็งทื่อ หลังจากนั้น เธอก็หัวเราะออกมาเบา ๆ “ฉันได้ยินไม่ผิดใช่ไหมคะคุณกิบสัน คุณจ้างคนมาลักพาตัวลูกชายและลูกสาวของฉัน ตอนนี้พวกเขากำลังนั่งอยู่ตรงหน้าฉันและใส่ยาอยู่ แล้วคุณมาบอกว่าอยากตกลงกับฉันงั้นเหรอ? ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ”ขณะเอนตัวพิงเตียงโรงพยาบาลอลิซก็หลับตาลง “ถ้าเรื่องที่ฉันอยากจะคุยกับคุณคือเรื่องการหย่าระหว่างฉันกับโจชัวล่ะ?”ลูน่าขมวดคิ้ว “คุณหมายความว่ายังไง?”“ที่ฉันพูดหมายถึง…” อลิซตอบ เธอสูดลมหายใจเข้าลึกและพยายามแสดงเจตนาของตัวเองอย่างชัดเจนที่สุดเท่าที่จะทำได้ “ฉันไม่ใช่คนที่จ้างคนไปลักพาตัวนีลกับเนลลี่ ตอนนี้คุณน่าจะรู้แล้วว่าฉันไม่ได้โง่ขนาดนั้น ถ้าฉันอยากจะลงโทษนีลกับเนลลี่ ฉันมีวิธีอีกตั้งหลายวิธี ฉันไม่จำเป็นต้องเลือกวิธีที่โง่ที่สุดเลย”ลูน่าชะงักไป “คุณพยายามจะบอกอะไร?”“ฉันแน่ใจว่าตอนนี้คุณรู้แล้วว่าโจชัวกำลังวางแผนที่จะหย่ากับฉัน” อลิซพูดขณะที่เธอคลี่ริมฝีปากเป็นรอยยิ้ม น้ำเสียงฟังดูค่อนข้างท้อแท้ “ฉันจะทำข้อตกลงกับคุณตอนนี้ ถ้าคุณตามโจชัวไปและขอให้เขาปล่อยอีวอนน์ ฉันจะไม่ฟ้องร้องสิทธิ์การเลี้ยงดูนีลและเนลลี่”ลูน่าหัวเราะเบา ๆ เมื่อได้ยิ
“งั้นคุณพ่อก็ควรรู้นะครับว่าลูน่าเลี้ยงพวกเขามาหกปี ผมแนะนำว่าคุณพ่อควรดีกับลูน่าให้มากกว่านี้ ไม่อย่างนั้นเด็ก ๆ อาจจะไม่ยอมรับคุณเป็นคุณปู่ของพวกเขาอีกต่อไปได้”ใบหน้าของเอเดรียนเปลี่ยนเป็นสีม่วงจากมุมนี้ ลูน่าเหลือบมองสีหน้าของเขาด้วยรูปลักษณ์ที่สง่างามแต่ไร้อารมณ์ พร้อมกับยกยิ้มไม่ใส่ใจบนริมฝีปากของเธอ “คุณท่านลินช์ คุณบอกว่าฉันฆ่าเฮลีย์ คุณมีหลักฐานไหม? การตัดสินใจว่ามีคนฆ่าคนอื่นหรือไม่ คุณไม่จำเป็นต้องพูดตามหลักฐานที่มีอยู่หรอกเหรอคะ?” เธอวางข้อเท้าบนเข่า น้ำเสียงของเธอเย็นชาและห่างไกล “เฮลีย์ฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดลงมาจากตึก ฉันไปชี้มีดใส่เธอแล้วบังคับให้เธอกระโดดหรือว่าฉันผลักเธอเหรอ? ถ้าฉันจำไม่ผิด ตอนที่เฮลีย์ฆ่าตัวตาย ฉันไปเยี่ยมสามีเก่าของเพื่อนที่โรงพยาบาลกับเพื่อนนะ มีกล้องวงจรปิดที่โถงทางเดินและลิฟต์ในโรงพยาบาลอยู่ ฉันมีหลักฐานชัดเจนสมบูรณ์”เอเดรียนเปล่งเสียงในจมูก “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ ก่อนที่เฮลีย์จะกระโดดก็เป็นเพราะเธอ เฮลีย์ถูกบังคับให้ออกจากเมืองซีและย้ายไปอยู่ต่างประเทศ! เฮลีย์เติบโตมากับความมั่งคั่งและความฟุ่มเฟือยด้วยความกรุณาของพระเจ้า และเพราะผู้หญิงเช่นเธอ
“เพียะ!”ก่อนที่ทุกคนจะทันได้โต้ตอบ เสียงตบก็ดังก้องไปทั่วห้องนั่งเล่นศีรษะของลูน่าหันไปด้านข้างจากแรงกระแทก รสหวานราวกับเหล็กของเลือดเต็มปาก และเลือดก็หยดลงมาตามมุมปากของเธอ“คุณแม่!”“คุณแม่…!”เด็กสองคนที่นั่งอยู่ทั้งสองด้านของหญิงชรา กระโดดขึ้นจากโซฟาตามสัญชาตญาณแล้วพุ่งไปหาลูน่าทันทีหนึ่งในนั้นจับมือเธออย่างระมัดระวัง เขาก้าวไปข้างหน้าพยายามปกป้องเธอ ในขณะที่อีกคนหยิบกระดาษทิชชูจากโต๊ะข้าง ๆ อย่างใจเย็น แล้วยื่นให้ลูน่าการเห็นเด็กสองคนปกป้องเธอทำให้โจชัวขมวดคิ้ว ข้าง ๆ เขา อลิซส่งเสียงเย้ยหยันอยู่ในอก แต่ภายนอกนั้นเธอกำลังทำสีหน้ากังวล “นีล รีบพาน้องสาวของหนูมานี่เร็วเข้า” จากนั้นเธอก็ชำเลืองมองสุภาพบุรุษตัวน้อยที่กำลังยื่นทิชชู่ให้ลูน่า“นี่เป็นเรื่องระหว่างคุณปู่ของหนูกับน้าลูน่านะ มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ อย่ายื่นจมูกเข้าไปในที่ที่ไม่เกี่ยวกับเราสิ”นีลจ้องมองเธออย่างเย็นชา จากนั้นก็หันกลับมาดูแลแม่ของพวกเขาพร้อมกับเนลลี่ในทันทีจากนั้น อลิซก็แสดงท่าทีสงบนิ่งอย่างคนมีอารมณ์มั่นคงและพูดว่า “เอเดรียน คุณกำลังทำอะไรอยู่คะ คุณกำลังทำให้เด็ก ๆ กลัวนะ”เอเดรียนส่งเสียงเย
ในขณะเดียวกัน เขาก็คิดถึงพวกเขามาก ผ่านไปนานแล้วเหมือนกันหลังจากที่พวกเขาได้เจอกันครั้งสุดท้าย จึงเป็นเหตุผลที่ทำไมเขาถึงเสนอให้พาทุกคนมารวมตัวกันที่บลูเบย์วิลล่าแต่ดูเหมือนว่า...เขาทำให้ทั้งเด็ก ๆ และลูน่าโกรธเขาได้สำเร็จเท่านั้นหรอกเหรอ?รถขับต่อไปไม่นานรถก็มาจอดหน้าบลูเบย์วิลล่า เมื่อลูน่าก้าวลงจากรถที่ยูริและแซคขนสัมภาระมา อลิซก็ก้าวลงมาเช่นกันขณะยืนอยู่นอกรถของโจชัว รอยยิ้มปลอม ๆ ก็ปรากฏบนใบหน้าของเธอ “ เนลลี่มานี่เร็ว แม่จะอุ้มหนูเข้าบ้าน!”เนลลี่กลอกตา เดินผ่านเธอ และมุ่งหน้าไปที่ประตูด้วยขาที่สั้นและแข็งแรงของเธอในทางกลับกัน นีลกลับรีบวิ่งเข้าไปในอ้อมแขนของเธอพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า “ถ้าเนลลี่ไม่ต้องการให้คุณอุ้ม ก็อุ้มผมแทนสิครับ! ผมก็ไม่ได้หนักมากเหมือนกัน แค่หนักกว่าเนลลี่นิดหน่อยเอง”อลิซอุ้มเขาไว้ในอ้อมแขนของเธอ สีหน้าของเธอดูน่าเกลียด และก้าวไปข้างหน้าด้วยความพยายามสุด ๆ นีลเอาแขนของเขาคล้องคอเธอตามสะดวก “คุณอลิซ เร็วสิครับ ผมเป็นเด็กน้อยสุดที่รักของคุณไงครับ มันคงจะแย่ถ้าเราล้มกันทั้งคู่แล้วได้รับบาดเจ็บนะ!”สีหน้าของอลิซดูน่าเกลียดและยิ่งน่าเกลียดมากขึ้น
โจชัวเลิกคิ้วเขาไม่คาดคิดเลยว่านี่จะเป็นคำถามแรกที่ลูกชายของเขาถามหลังจากที่แยกจากกันหลายวันเขามองลูกชายของเขาจากหางตา “นายดูไม่เต็มใจที่จะเห็นแม่นายกับฉันคืนดีกันนะ”นีลหยุดนิ่งไป เขาหันไปมองโจชัวอย่างเคร่งขรึมแล้วยกสองนิ้ว“อย่างแรกนะครับ ผมไม่เคยยอมรับคุณอลิซ กิบสันเลย สำหรับผมแล้ว เธอไม่เคยเป็นแม่ของผมเลย แม่ของผมคือลูน่า อย่างที่สอง ความชอบหรือไม่ชอบของผม มันสำคัญสำหรับคุณหรือเปล่าครับ คุณลินช์ ถ้าคุณพิจารณาถึงความคิดและความรู้สึกของเราจริง ๆ คุณก็คงไม่บังคับน้องสาวของผมและผมให้ทำในสิ่งที่เราไม่อยากทำ เช่น การพาเรากลับไปที่บลูเบย์วิลล่าตอนนี้ สุดท้ายนะครับ ผมไม่สนใจคุณและอลิซเลย ผมแค่อยากจะรู้ว่าทำไมท่าทีของคุณที่มีต่อเธอถึงเปลี่ยนไปแบบ 180 องศา หลังจากกลับมาจากเมืองซีก็เท่านั้น”ก่อนที่พวกเขาจะจากไป พวกเขาก็ได้แยกทางกันไปแล้ว และยังประกาศว่าพวกเขาจะกำหนดวันเซ็นใบหย่าด้วยซ้ำ แต่ไม่นานหลังจากที่พวกเขาไปถึงเมืองซี พวกเขาก็กลับมาคืนดีและรักกันเหมือนเดิม และเมื่อดูจากภายนอกแล้ว พวกเขาดูยิ่งสนิทสนมกันมากขึ้นกว่าเดิมด้วยโจชัวหรี่ตาลงเล็กน้อย อะไรทำให้ท่าทีของเขาที่มีต่ออลิซเปลี
“คุณแม่คะ! หนูคิดถึงคุณแม่มากเลย!” เนลลี่กล่าวเธอหยิบกุญแจออกมาและทันทีที่เธอเปิดประตูอพาร์ตเมนต์ เด็กทั้งสองก็รีบวิ่งออกมาราวกับพายุทอร์นาโดลูกเล็กสองลูกนีลและเนลลี่ต่างกอดขาข้างหนึ่งของเธอไว้ และพูดด้วยความตื่นเต้น“คุณแม่ หนูรู้ว่าคุณแม่จะกลับมาในเวลานี้ แต่นีลเอาแต่ยืนกรานว่าแม่จะกลับมาทีหลัง!”“คุณแม่ครับ เมื่อหลายวันที่คุณแม่ไม่อยู่บ้าน ผมขอให้ลิลลี่สอนวิธีชงกาแฟด้วยล่ะ! ผมทำกาแฟอาราบิก้าแก้วโปรดของคุณแม่ด้วย!”“คุณแม่คะ หนูวางแผนไว้หมดแล้ว บ่ายวันนี้คุณแม่จะไปไหนไม่ได้เลยนะ คุณแม่ต้องอยู่บ้าน อ่านนิทานให้หนูฟังและต่อเลโก้กับนีลด้วย!”“แม่…”ลูน่าลดสายตาลงมองดูหัวเล็ก ๆ สีดำสองหัวที่อยู่ตรงหน้าเธอ คำพูดติดอยู่ที่ปลายลิ้นของเธอ แต่เธอก็ไม่สามารถคายมันออกมาได้ข้างหลังเธอ ลิลลี่ยืนอยู่ในห้องนั่งเล่น มองเธอด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า “คุณ ลูน่า พวกเขาตั้งใจหยุดเรียนหนึ่งวันเพื่อรอคุณเลยนะคะ ตั้งแต่เช้านี้พวกเขาตื่นเต้นเป็นพิเศษแล้วก็ตกแต่งบ้านราวกับว่าเป็นช่วงเทศกาลวันหยุดด้วย”ตอนนั้นเองที่ลูน่าสังเกตเห็นของประดับตกแต่งที่แขวนอยู่ในห้องนั่งเล่น ป้ายหลากสีสันแขวนอยู่ตามผนัง ความค
บรรยากาศในรถเปลี่ยนเป็นเงียบเชียบร่างกายของลูน่าแข็งทื่อไปหมดเธอไม่ได้เจอทั้งนีลและเนลลี่มาหลายวันแล้ว นี่เป็นช่วงเวลาที่ยาวนานที่สุดที่เธอเคยห่างจากพวกเขานับตั้งแต่ที่เธอให้กำเนิดพวกเขามาเมื่อหกปีที่แล้วเธอคิดถึงพวกเขาอย่างสุดซึ้งจากการโทรหาและคุยกับพวกเขาเมื่อเช้านี้และเมื่อวานตอนบ่าย เธอก็รู้ว่าเด็ก ๆ เองก็คิดถึงเธออย่างสุดซึ้งเช่นกันไฟในใจเธอที่ลุกโชนด้วยความตื่นเต้นเมื่อนึกถึงการพบปะกับลูก ๆ ของเธอถูกดับลงอย่างโหดร้ายด้วยคำพูดเย็นชาของอลิซ และได้กลับกลายเป็นความหนาวเย็นจนจับไปถึงขั้วหัวใจอลิซจงใจทำแบบนี้ เธอไม่ได้มีความรู้สึกใด ๆ ต่อนีลและเนลลี่ เธอแค่พยายามจะก่อกวนเธอและลูก ๆ ให้อารมณ์เสีย“โจชัวคะ” เมื่อสังเกตเห็นความเงียบอย่างต่อเนื่องของโจชัว อลิซถึงกับร้องเรียกเขาเบา ๆจากนั้นเขาก็กะพริบตาและฟื้นคืนสติของตัวเอง เขากระแอมไอเล็กน้อยแล้วเงยหน้าขึ้นมองลูน่าจากด้านหลังขณะที่เธอนั่งอยู่ในที่นั่งผู้โดยสาร “เราจะทำตามที่อลิซบอก”ไม่ว่ายังไงก็ตาม อลิซยังคงเป็นแม่ของพวกเขา แม้ว่าเธอจะไม่ได้อาศัยอยู่กับเด็กๆ ตลอดหกปีของชีวิต แต่ท้ายที่สุดแล้วเลือดก็ข้นกว่าน้ำ นอกจากนี้ อล
วิทยุยังคงเล่นซ้ำข่าวเรื่องที่เกิดกับตระกูลวอลเตอร์ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา “ก่อนที่การกล่าวหาคุณเดนนิส วอลเตอร์จะถูกหยิบยกมาพูดถึง ทายาทคนเดียวของวอลเตอร์กรุ๊ป เฮลีย์ วอลเตอร์ได้กระโดดตึกฆ่าตัวตายไปแล้ว ตอนนี้วอลเตอร์กรุ๊ปกลายเป็นอาณาจักรที่กำลังขาดกษัตริย์และกำลังจะล่มสลาย...”ลูน่าหลับตาลง เธอสงสัยว่าเกว็นจะได้ยินข่าวนี้หรือยัง ถ้าเธอได้ยิน อย่างน้อยเธอก็จะรู้สึกสบายใจเล็กน้อยใช่ไหม?เมื่อคิดเช่นนี้ เธอก็หยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อจะตรวจสอบว่าเกว็นส่งข้อความใหม่ให้เธอหรือไม่ แต่กลับเห็นการอัปเดตสถานะใหม่ที่โพสต์โดยเบ็นแทน'ตรวจสอบอาการบาดเจ็บของฉันที่สถานีตำรวจ ตระกูลลาร์สัน ระวังตัวไว้! ฉันจะเรียกร้องค่าเสียหาย!'รูปภาพประกอบเป็นแขนที่ได้รับบาดเจ็บและแก้มบวมฉึ่งอันเป็นผลมาจากการทะเลาะกันเมื่อวันก่อนลูน่ารู้ว่าอาการบาดเจ็บของเขาต้องเป็นฝีมือของแซคและยูริ เธอจ้องโทรศัพท์อยู่นาน ในที่สุดเธอก็กดไลค์สองภาพที่เบ็นโพสต์“ลูคัส ปิดวิทยุที” ทันใดนั้นเสียงอันแผ่วเบาอ่อนแอของอลิซก็ดังมาจากเบาะหลัง “ฉันอยากนอนพัก”จากนั้น โจชัวก็มีสีหน้ากังวลขณะพูดว่า “ทำไมหน้าคุณดูซีดจัง ไม่สบายเหรอ?”ลูน
มือของโจชัวที่กำช้อนและส้อมไว้หยุดชะงักไปเล็กน้อย สุดท้ายเขาก็หัวเราะเบา ๆ “เพราะว่าเธอเคยหย่าและสามีเก่าเธอมันนิสัยไม่ดี เธอก็เลยแอบลักพาตัวนีลกับเนลลี่ไปแล้วเลี้ยงเหมือนเป็นลูกตัวเองเหรอ?”ลูน่ายกแก้วขึ้นแล้วกลืนน้ำอุ่นในปากลงคออย่างแรง จากนั้นเธอจึงมองไปทางโจชัว “คุณจะพูดแบบนั้นก็ได้”โจชัวยกแก้วของเขาขึ้นเช่นกัน “ทำไมเธอถึงไม่มีลูกกับสามีเก่าล่ะ?”“เขาไม่สมควรมีลูก” ลูน่าวางแก้วลงแล้วยกช้อนส้อมเพื่อกินต่อ “เขามีชู้ในตอนที่ฉันต้องการเขามากที่สุด และถึงกับอยากจะฆ่าฉันเพื่อเอาใจอีกฝ่ายด้วยซ้ำ คุณคิดว่าเขาสมควรมีลูกไหม?”ถ้าตอนนั้นเธอยังไม่ท้อง เธอก็ไม่อยากมีลูกของเขาจริง ๆเขาไม่สมควรได้รับพวกเขาแม้ว่าเธอจะให้กำเนิดพวกเขาแล้ว แต่ลูน่าก็ยังเชื่อเช่นเดิมว่าเด็กทั้งสามคนเป็นของเธอและเป็นของเธอเพียงคนเดียวพวกเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโจชัวเมื่อพูดคำเหล่านี้ ดวงตาของเธอก็จับจ้องไปที่โจชัวการจ้องมองของเธอทำให้เขารู้สึกสับสน ราวกับว่าเขาเป็นคนที่ทิ้งและทำร้ายเธอเองเขาขมวดคิ้วและหันหน้าหนีจากเธอ “แล้ว เธอก็ปล่อยเขาไปทั้งอย่างนั้นเหรอ?”ลูน่าคลี่ยิ้มเย็นชา “ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปล่อ
“คุณหย่ากับฉันเมื่อเช้านี้ พอตอนบ่าย คุณก็หาแฟนได้ แล้วตอนนี้พอตกกลางคืนคุณก็พาแฟนใหม่ของคุณมาบ้านเก่าของคุณ เบ็น เซลเลอร์ คุณมันไม่คู่ควรกับเวลาที่ฉันตกหลุมรักไปเลย”จากนั้นเธอก็สูดลมหายใจเข้าลึก และหันกลับไปมองลุคที่กำลังถือไฟแช็กไว้สำหรับเตรียมจุดบุหรี่ให้ตัวเองขณะดูการแสดง “ฉันขอยืมไฟแช็กหน่อยได้ไหม?”ลุคยักไหล่ เขาเดินเข้ามาและก้มลงขณะถือไฟแช็คของเขา เขาฉีกภาพเดี่ยวที่สวยที่สุดของเกว็นออกมา จากนั้นก็จุดไฟเผาภาพถ่ายที่เหลือไปสุดท้ายเขาก็ส่งรูปถ่ายที่เขาฉีกออกมาให้เกว็น “เอาไว้นึกถึง”เกว็นส่ายหน้า “เผาไปเถอะค่ะ”เธอไม่จำเป็นต้องนึกถึงอะไรแบบนี้ลุคยกยิ้มจาง ๆ เขามองไปที่เกว็นด้วยความสนใจเล็กน้อยที่ปรากฏในดวงตาแล้วสอดรูปถ่ายใบนั้นใส่กระเป๋าเสื้อของตัวเองภาพถ่ายทั้งหมดถูกจุดไฟเผาท่ามกลางแสงไฟโหมกระหน่ำ เบ็นหัวเราะอย่างเย็นชา “ถึงคุณจะไม่เผามัน ผมก็จะเป็นคนเผาอยู่ดี”เกว็นหลับตาแน่น แต่ยังคงเงียบเมื่อรูปถ่ายไม่เหลืออะไรนอกจากกลายเป็นกองขี้เถ้า เธอก็จับมือของลูน่าไว้ “ไปกันเถอะ”ลูน่าพยักหน้าและช่วยพยุงเธอนั่งบนที่นั่งโดยมีลุคช่วยอีกแรง ส่วนข้าง ๆ พวกเขา เบ็นพ่นเสียงฮึ เ