“คุณ คุณมาหาฉันเหรอคะ?” ซูอี้หานพูดติดอ่างเล็กน้อย เพราะเธอมองหาโอกาสที่จะได้แต่งงานกับตระกูลร่ำรวยมาโดยตลอด และเธอก็อวดโฉมต่อหน้าเศรษฐีรุ่นสองอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน แต่น้อยคนนักที่มองมาที่เธอ ดังนั้นการปรากฏตัวของเฉินอี้ไม่เพียงแต่ทำให้ซูอี้หานประหลาดใจ แต่ยังทำให้เธอไม่อยากจะเชื่ออีกด้วย หากเป็นอดีต ซูอี้หานจะไม่ชายตามองครอบครัวของเฉินอี้เลย ตระกูลที่มีทรัพย์สินสุทธิไม่เกินหนึ่งร้อยล้านด้วยซ้ำ จะเรียกว่าเป็นครอบครัวที่ร่ำรวยได้อย่างไรแต่ตอนนี้มันต่างออกไป ตระกูลซูพังทลายลงแล้ว และเธอก็ไม่ใช่คุณหนูของตระกูลซูอีกต่อไป ตอนนี้เธอเป็นเพียงคนธรรมดา ดังนั้นซูอี้หานจึงพอใจที่ได้รับการสนับสนุนจากคนอย่างเฉินอี้“ที่นี่มีใครสวยกว่าคุณอีกไหมล่ะ?” เฉินอี้พูดด้วยรอยยิ้มคำพูดเหล่านี้กระตุ้นให้เกิดความไม่พอใจในหมู่ผู้หญิงคนอื่น ๆ สิ่งที่สำคัญที่สุดของผู้หญิงคือรูปร่างหน้าตาและรูปร่าง พวกเธอจะยอมรับได้ยังไงว่าซูอี้หานสวยกว่าพวกเธอ“เฉินอี้ คุณไม่ได้สายตาสั้นหรอกใช่ไหม พวกเราที่นี่มีใครบ้างที่สวยสู้ซูอี้หานไม่ได้”“ใช่ คุณควรไปตรวจตากับแพทย์หน่อยนะ เอาเธอมาเทียบกับเราได้ยังไง”“อกไข่ดาว ขาก็สั้
สิ่งที่เทียนหลิงเอ๋อร์ต้องการทำนั้นไม่สำคัญสำหรับคนอื่นอีกต่อไป เฉินอี้จะได้เข้าร่วมโครงการหมู่บ้านเฉิงจงเพราะเรื่องนี้ ซึ่งทำให้พวกเขาอิจฉามาก หากเรื่องดี ๆ แบบนี้ตกมาที่พวกเขา อย่าว่าแต่ให้ตามจีบซูอี้หานเลย ต่อให้พวกเขาต้องนอนกับสาวจรจัด พวกเขาก็จะกัดฟันอดทนสิ่งนี้เกี่ยวข้องกับอนาคตของบริษัทของพวกเขา ตอนนี้เฉินอี้เป็นเพียงนักธุรกิจรุ่นที่สองที่ครอบครัวมีทรัพย์สินมูลค่าสุทธิน้อยกว่าร้อยล้าน แต่เมื่อเขาได้เข้าร่วมโครงการหมู่บ้านเฉิงจง มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของเขาจะพุ่งสูงขึ้นอย่างแน่นอน และสถานะของเขาในหยุนเฉิงก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย“เฉินอี้ นายคงโชคดีเกินไปแล้ว เรื่องดี ๆ แบบนี้ถึงได้ตกมาอยู่ที่นายน่ะ”“ต่อจากนี้ฉันคงต้องเรียกนายว่านายน้อยเฉินแล้วสินะ เราไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันอีกต่อไปแล้ว”“เฮ้อ ฉันเองก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเทียนหลิงเอ๋อร์ ทำไมเธอไม่มอบหมายเรื่องดี ๆ แบบนี้กับฉันนะ”หลายคนถอนหายใจเฉินอี้เดาออกว่าพวกเขาจะมีปฏิกิริยาแบบนี้ เพราะโครงการหมู่บ้านเฉิงจงนั้นน่าดึงดูดเกินไป และไม่มีใครสามารถต้านทานได้“ไม่ต้องกังวล หากฉันสามารถเข้าร่วมโครงการหมู่บ้านเฉิงจงได้ มีอะไร
พ่อของเฉินอี้เดินเข้ามาหาเขา เห็นได้ชัดว่ามือของเขาสั่นเล็กน้อย เนื่องจากตื่นเต้นมากเกินไป“อะไรนะ แกพูดว่าอะไรนะ” พ่อของเฉินอี้ถามด้วยความไม่อยากเชื่อ เขาแทบไม่เชื่อสิ่งที่เขาเพิ่งได้ยินเลย เพราะโครงการหมู่บ้านเฉิงจงไม่เพียงแต่เป็นตัวกำหนดคุณค่าของตระกูลเฉินเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสถานะของพวกเขาด้วยหากได้เข้าร่วมโครงการหมู่บ้านเฉิงจงแล้ว ก็จะได้ติดต่อใกล้ชิดกับตระกูลเทียนและบริษัทอสังหาริมทรัพย์ลั่วเฉวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และตอนนี้ในหยุนเฉิงหากมีความเกี่ยวข้องกับทั้งสองได้ ก็สามารถทำให้สถานะของคน ๆ นั้นสูงขึ้นทันที นี่เป็นสิ่งใครหลายคนต่างก็ฝันถึง!แม่ของเฉินอี้มีสีหน้าไม่เชื่อและถามอย่างใจร้อน "เฉินอี้ ลูกล้อเล่นกับพวกเราหรือเปล่า? ลูกจะมีคุณสมบัติเข้าร่วมโครงการหมู่บ้านเฉิงจงได้ยังไง"แม่ของเฉินอี้รักและตามใจเขามาโดยตลอด และเธอก็เชื่ออย่างแน่วแน่ว่าวันหนึ่งเฉินอี้จะต้องประสบความสำเร็จ และนำเกียรติยศมาสู่ตระกูลเฉิน แต่ถึงเธอแม้จะมีความคิดเช่นนั้น เธอก็ยังไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เฉินอี้พูด เห็นได้ว่าเรื่องนี้มีสถานนะสูงมากแค่ไหนในใจพวกเขาแน่นอนว่าเฉินอี้เดินไว้แล้วว่าพ่อแม่ของเขาจะ
“เฉินอี้ ฉันเพิ่งเห็นคู่หมั้นของนายทะเลาะกับพนักงานเสิร์ฟ นายไม่เข้าไปช่วยเธอแก้ปัญหาหน่อยล่ะ” ชายหนุ่มที่เพิ่งกลับมาจากห้องน้ำล้อเลียนเฉินอี้เฉินอี้ยิ้มเบา ๆ แล้วพูดว่า "อย่ามาล้อเล่น รองเท้าพัง ๆ คู่นี้ ถ้าไม่ใช่ว่าเธอยังมีประโยชน์กับฉันล่ะก็ แค่สูดอากาศในที่เดียวกับเธอฉันก็จะอ้วกแล้ว"“เฮ้อ” ชายคนนั้นถอนหายใจแล้วพูดว่า “แกนี่มันโชคดีจริง ๆ ไม่เพียงแต่จะได้เล่นกับสุนัขตัวเมียตัวนี้เท่านั้น แต่ยังได้รับผลประโยชน์มากมายอีกด้วย ไม่รู้ว่าโอกาสดี ๆ แบบนี้เมื่อไหร่จะตกลงมาบนหัวของฉันบ้าง"เฉินอี้ตบไหล่ชายคนนั้นแล้วพูดว่า "เพื่อนเอ๋ย ถ้าฉันรวยแล้ว ฉันยังลืมนายได้ยังไง"“ใช่ ถ้านายกล้าลืม ฉันก็จะไม่มีวันนับเพื่อนกับนายอีก”หลังจากนั้นไม่นาน ซูอี้หานก็กลับมาที่ที่นั่งของเธอ หลังจากแต่งหน้าเสร็จเฉินอี้ยืนขึ้นและยกมือไปทางบูธดีเจจู่ ๆ ดนตรีก็หยุดลง และกลุ่มคนที่กำลังเต้นกันอยู่ก็รู้สึกเหมือนถูกสาดน้ำเย็นใส่ พวกเขาเริ่มก่นด่าขึ้นทันทีดีเจพูดอย่างใจเย็นผ่านลำโพง "ทุกคนอย่าเพิ่งใจร้อน คืนนี้มีเซอร์ไพรส์รอพวกคุณอยู่ การขอแต่งงานที่โรแมนติกกำลังจะเริ่มต้นขึ้น และนายน้อยเฉินจะเป็นคนจ่ายค่
ซูอี้หานวางหัวของเธอไว้บนไหล่ของเฉินอี้ ร่องรอยของความรังเกียจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเฉินอี้อย่างชัดเจน ผู้หญิงที่ถูกผู้ชายเล่นมาแล้วนับไม่ถ้วนแบบนี้อยู่ใกล้เขามาก และเป็นเรื่องยากที่เขาจะไม่รู้สึกรังเกียจ “จริง ๆ แล้ว เรื่องนี้เป็นแผนของซูไห่เฉากับฉันเองค่ะ เราจงใจแพร่ข่าวว่าซูหยิงเซี่ยคบชู้ ส่วนเธอเป็นโรคอะไรนั้น ฉันไม่รู้” ซูอี้หานกล่าวใบหน้าของเฉินอี้เย็นชา ความสุขของการถูกขอแต่งงาน ทำให้ซูอี้หานไม่ได้ระมัดระวังเขาเลยจริง ๆ และเขาก็สามารถหลอกความจริงของเรื่องนี้ได้อย่างง่ายดาย“คุณไปอาบน้ำก่อนเถอะ” เฉินอี้กล่าวในอดีตตอนซูอี้หานเคยเป็นคนไร้อารมณ์เมื่อต้องนอนกับชายอื่น แต่วันนี้เธอรู้สึกเขินอายเล็กน้อย"ค่ะ" ซูหานพยักหน้าเบา ๆ แล้วเดินไปที่ห้องน้ำหลังจากได้ยินเสียงน้ำ เฉินอี้ก็หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วกดโทรหาเทียนหลิงเอ๋อร์“หลิงเอ๋อร์ สำเร็จแล้ว เธอเป็นคนทำจริง ๆ ด้วย” เฉินอี้กล่าวเทียนหลิงเอ๋อร์นั่งด้วยสีหน้าเย็นแล้วถามว่า "นายได้บันทึกเสียงไว้หรือเปล่า?"“แน่นอน กลัวว่าฉันจะจัดการเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้ได้ไม่ดีเหรอ?” เฉินอี้กล่าว“โอเค ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”หลังจากลุกขึ้นและแ
เทียนหลิงเอ๋อร์คว้าผมของซูอี้หาน และบังคับให้เธอเงยหน้าขึ้น ก่อนจะตบหน้าเธอเต็มแรงในไม่ช้า แก้มของซูอี้หานก็บวมแดง มือของเทียนหลิงเอ๋อร์เองก็แดงเช่นกันมือของเทียนหลิงเอ๋อร์เจ็บจากการตบ แต่เธอไม่คิดที่จะหยุด เพราะความโกรธในใจของเธอมันยังระบายออกมาไม่พอนับตั้งแต่หานซานเฉียนจากไป เทียนหลิงเอ๋อร์ก็แอบสาบานว่าจะปกป้องซูหยิงเซี่ยและหานเนี่ยน นี่ไม่ใช่แค่ความรับผิดชอบของม่อหยางเท่านั้น เธอเองก็จะไม่ยอมให้ใครมารังแกสองแม่ลูกนี้ได้เช่นกันสำหรับเทียนหลิงเอ๋อร์ หากเธอไม่สามารถเป็นคนรักของหานซานเฉียนได้ งั้นเธอก็จะเป็นน้องสาวที่ดี และปฏิบัติต่อหานซานเฉียนด้วยความจริงใจ เพราะนี่คือผู้ชายคนแรกที่ทำให้หัวใจเธอเต้นแรง“หยุดนะ หยุดได้แล้ว” ซูอี้หานถูกตบจนมึนหัวไปหมดแล้ว และเธอไม่สามารถต้านทานได้ ดังนั้นเธอจึงได้แต่เริ่มร้องขอความเมตตาแต่ดูเหมือนว่าเทียนหลิงเอ๋อร์จะไม่ได้ยินอะไรเลย เธอยังคงโจมตีอย่างไร้ความปราณี แม้แต่เฉินอี้ที่อยู่นอกประตูก็รู้สึกเย็นไปทั้งหัวใจเทียนหลิงเอ๋อร์ในฐานะคุณหนูแห่งตระกูลเทียน ไม่ว่าจะเป็นสถานะในอดีตหรือปัจจุบันก็มีน้อยคนที่กล้ายั่วยุเธอ ดังนั้นเฉินอี้จึงไม่ค่อย
ควรจะตายไปนานแล้วอย่างนั้นเหรอ!คำนี้ระเบิดขึ้นในหัวของซูอี้หานราวกับสายฟ้าฟาดซูอี้หานโขกหัวตัวเองแรง ๆ ลงต่อหน้าเทียนหลิงเอ๋อร์ด้วยความตื่นตระหนก หวังจะใช้สิ่งนี้มาบรรเทาความผิดของตัวเอง“เทียนหลิงเอ๋อร์ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่กล้าทำอีกแล้ว ได้โปรดให้โอกาสฉันอีกครั้งเถอะนะ”"โอกาส?" เทียนหลิงเอ๋อร์ยิ้มเยาะและพูดต่อว่า "เธอทำเรื่องเลวร้ายไปหมดแล้ว ถ้าฉันเป็นหานซานเฉียน คงจะฆ่าเธอไปนานแล้ว แต่เขาก็ยังให้โอกาสเธอมากมาย แล้วเธอรู้จักรักษามันไว้ไหม ทางเดียวสำหรับคนแบบเธอก็คือความตาย"เฉินอี้ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ รู้สึกหนาวสั่นในใจ ยิ่งเขาได้รู้ถึงอีกด้านหนึ่งของเทียนหลิงเอ๋อร์มากเท่าไร เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าคำพูดของตัวเองในตอนนั้นช่างบ้าบิ่นและโง่เขลามาก น่าเสียดายที่มันสายเกินไปที่จะเสียใจในตอนนี้ คำที่พูดออกไปแล้วไม่สามารถเอากลับคืนมาได้ไม่นานม่อหยางก็มาถึงบ้านของเฉินอี้ เมื่อเขาเห็นแก้มบวม ๆ ของซูอี้หาน เขาก็ไม่ได้มีความเห็นอกเห็นใจเลยแม้แต่น้อย เพราะตอนนี้เขาเกลียดผู้หญิงคนนี้มาก ใส่ร้ายซูหยิงเซี่ย และทำให้ทารกอย่างหานเนี่ยนได้รับผลกระทบไปด้วย นี่คือสิ่งที่เขาจะไม่มีวันยอมให้เกิดขึ้น“มือข
เทียนหลิงเอ๋อร์ไม่ตอบคำถามของซูไห่เฉา เพราะเธอไม่มีอารมณ์ เธอหยิบไม้ขึ้นมาแล้วตีซูไห่เฉาอีกครั้งซูไห่เฉายังคงกรีดร้อง แต่ม่อหยางก็ไม่ได้หยุดเธอ เพราะเขารู้ว่าเทียนหลิงเอ๋อร์โกรธมากแค่ไหนเกี่ยวกับเรื่องนี้ หากคุณหนูคนนี้ไม่ได้ระบายอารมณ์ แล้วความขุ่นเคืองในใจของเธอจะออกมาได้อย่างไร?และด้วยสถานะของม่อหยาง เขาไม่มีคุณสมบัติที่จะหยุดเทียนหลิงเอ๋อร์ เพราะเทียนหลิงเอ๋อร์คือน้องสาวของหานซานเฉียน มันเป็นเรื่องปกติที่น้องสาวจะจัดการแทนพี่ชายของเธอ เขาในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชา สามารถทำได้แค่เฝ้าดูอยู่ข้าง ๆ เท่านั้น“หลิงเอ๋อร์ ถ้าเธอตีจนเหนื่อยแล้ว ที่นี่ยังมีคนอีกมากมายให้เธอสั่งการแทนได้นะ” ม่อหยางพูดกับเทียนหลิงเอ๋อร์เทียนหลิงเอ๋อร์เริ่มเหนื่อยนิดหน่อยแล้ว เพราะเธอไม่ค่อยได้ออกกำลังกายบ่อยนัก จึงไม่สามารถรักษาพละกำลังของตัวเองได้หลังจากทิ้งไม้ เทียนหลิงเอ๋อร์เก็เดินไปเหยียบหน้าซูไห่เฉาแล้วพูดว่า "นายอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นไม่ใช่เหรอ ตั้งใจฟังให้ดี ฉันจะให้นายได้ตายอย่างไม่มีอะไรค้างคา"เทียนหลิงเอ๋อร์หยิบโทรศัพท์มือถือของเฉินอี้ออกมา แล้วกดเปิดคลิปเสียงนี่เป็นหลักฐานที่ชัดเจน และซูอ