เขายอมละทิ้งศักดิ์ศรีเพื่อรักษาคุณภาพชีวิตในปัจจุบัน!“มีแค่นายที่คุกเข่าจะมีประโยชน์อะไร?” หานซานเฉียนพูดนิ่ง ๆซูไห่เฉารู้ว่าเขาเคยทำไม่ดีต่อหานซานเฉียนและซูหยิงเซี่ย และซูอี้หานเองก็เช่นกัน ดังนั้นสิ่งที่หานซานเฉียนพูด จึงหมายถึงซูอี้หานก็ต้องคุกเข่าลงด้วยซูไห่เฉาหันไปมองซูอี้หานด้วยสีหน้ามืดมนและพูดว่า "ทำไมยังไม่รีบคุกเข่าลงอีก"ซูอี้หานส่ายหัวปฏิเสธทันทีและพูดว่า"ทำไมฉันต้องคุกเข่าด้วย ซูไห่เฉา นายไม่ต้องการศักดิ์ศรี แต่ฉันต้องการ นายลืมไปแล้วเหรอว่าเมื่อก่อนซูหยิงเซี่ยเป็นคนยังไง? เธอเป็นแค่คนที่ไร้ประโยชน์ที่สุดในตระกูลซูเท่านั้น ทำไมนายต้องคุกเข่าให้เธอด้วย”"เธอก็รู้ว่านั่นมันเป็นเรื่องในอดีต ตอนนี้มีใครในตระกูลซูที่สามารถเทียบเธอได้บ้าง?" ซูไห่เฉาพูดพร้อมกัดฟัน แม้ว่าเขาจะไม่อยากยอมรับ แต่ข้อเท็จจริงมันอยู่ตรงหน้า มีเพียงซูหยิงเซี่ยเท่านั้นที่สามารถช่วยเขาออกมาจากกองไฟได้ หากไม่ได้ความช่วยเหลือจากเธอ ชีวิตของเขา และแม้แต่ชีวิตของคนในตระกูลซูได้จบเห่จริง ๆ แน่“ฉันไม่เหมือนนาย ฉันยังมีโอกาสที่จะแซงหน้าเธอ ถ้าฉันได้แต่งงานกับคนรวยเมื่อไหร่ล่ะก็ บริษัทเล็ก ๆ ของเธอจะมีค่
หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่จัตุรัสเหรินหมิน แม้ว่าหลายคนจะรู้แล้วว่าข่าวลือที่ไม่ดีเกี่ยวกับหานซานเฉียนมันไม่ใช่ความจริง แต่ก็ยังมีบางคนที่ยังไม่รู้ ในเมื่อเรื่องนี้ซูไห่เฉาเป็นคนก่อขึ้น ก็ให้เขาไปชี้แจงเองน่าจะดีที่สุดเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้หานซานเฉียนไม่เคยเก็บมาใส่ใจ แต่ที่เขาทำแบบนี้เพราะเขาแคร์ซูหยิงเซี่ยและเขากำลังจะจากไปเร็ว ๆ นี้ เขาไม่ต้องทิ้งปัญหาใด ๆ ในหยุนเฉิงไว้ให้ซูหยิงเซี่ยเมื่อหานซานเฉียนขับรถมาที่ตึกหมิงจู ซูหยิงเซี่ยก็มีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมา นี่เป็นสถานที่ที่หานซานเฉียนทำให้เธอประหลาดใจในครั้งแรก และวันครบรอบแต่งงานปีนี้เป็นวันที่ประทับใจสำหรับซูหยิงเซี่ยสำหรับเธอภัตตาคารสุ่ยจิงมีความหมายพิเศษ ที่นี่เป็นสถานที่ที่สำคัญมาก หากไม่ใช่วันพิเศษ ก็ไม่คุ้มค่าที่จะมาที่นี่"คุณจะไปแล้วใช่ไหม?" จู่ ๆ ซูหยิงเซี่ยก็ถามหานซานเฉียนขึ้นหลังจากที่เขาจอดรถ"คุณยังจำได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นในวันครบรอบแต่งงานของเรา? จนถึงตอนนี้หลายคนในหยุนเฉิงก็ยังพูดคุยกันถึงเรื่องนั้นอยู่เลย แต่พวกเขาไม่รู้ว่าใครคือตัวเอกที่แท้จริง วันนี้ผมจะทำให้ทุกคนในหยุนเฉิงรู้ว่าดอกกุหลาบของภัตตาคารสุ่ยจิง
"นี่มัน...เพลงเมื่อตอนนั้นไม่ใช่เหรอ? เพลงที่บุคคลลึกลับใช้ขอแต่งงานที่ภัตตาคารสุ่ยจิงเมื่อครั้งก่อน""ใช่ เพลงนี้จริง ๆ ด้วย หรือว่า... ครั้งก่อนที่ภัตตาคารสุ่ยจิงไม่ใช่การขอแต่งงาน แต่คือหานซานเฉียนกับซูหยิงเซี่ย?""ฉันจำได้ว่าวันนั้นเป็นวันครบรอบแต่งงานของหานซานเฉียนกับซูหยิงเซี่ย แถมตอนนั้นหลายคนยังเปรียบเทียบการขอแต่งงานครั้งนั้นกับเธอด้วยนะ""พระเจ้า แท้จริงคือหานซานเฉียนเซอร์ไพรส์วันครบรอบแต่งงานกับซูหยิงเซี่ยหรอกเหรอเนี่ย? น่าอิจฉาจริง ๆ"ในขณะนี้ผู้หญิงหลายคนต่างก็รู้สึกอิจฉาซูหยิงเซี่ยเหนือตึกหมิงจูยังคงมีภาพของภัตตาคารสุ่ยจิง ซูหยิงเซี่ยยกมือปิดหน้า น้ำตายังคงไหลออกมาอาบแก้มของเธอภาพนี้ไม่ได้ฉายแค่จุดนี้ท่านั้น แต่ยังมีการถ่ายทอดสดทางอินเทอร์เน็ตโดยผู้ที่มีเจตนาดี และในไม่ช้ามันก็อึกทึกไปทั่วทั้งหยุนเฉิงหัวข้อวันครบรอบแต่งงานแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วบนอินเทอร์เน็ต ทุกคนต่างก็รีบเปิดและรับชมฉากที่น่าอิจฉานี้ในตอนนี้ไม่มีใครคิดว่าซูหยิงเซี่ยแต่งงานกับคนไร้ค่า และไม่มีใครคิดว่าชีวิตของเธอถูกทำลายเพราะหานซานเฉียนอีกต่อไปทุกคนอดไม่ได้ที่จะอิจฉาซูหยิงเซี่ย ที่เธอมีสาม
ภายในความมืดที่แม้แต่จะเอื้อมมืออกไปก็มองไม่เห็นนิ้วพื้นที่ที่เงียบจนได้ยินเพียงเสียงลมหายใจของตัวเองหลังจากที่หานซานเฉียนฉีดยาชาของเรือนจำตี้ซินในหยุนเฉิง เมื่อเขาตื่นขึ้นมาอีกทีก็อยู่ในสถานที่ดังกล่าวแล้วเขาไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่นี่นานเท่าไหร่แล้ว เพราะความมืดทำให้เขาไม่สามารถระบุเวลาได้นี่เป็นบทเรียนแรกที่เรือนจำตี้ซินมอบให้กับ "แขกใหม่" สภาพแวดล้อมดังกล่าวสามารถทำให้ผู้คนรู้สึกหดหู่ใจ และผู้ที่มีจิตใจอ่อนแอก็สามารถพังทลายลงในสภาพแวดล้อมนี้ได้ นี่คือฝันร้ายของทุกคนเมื่อพวกเขามาที่เรือนจำตี้ซินเพื่อรับรองความปลอดภัยของแขกแต่ละคน พวกเขาจะไม่ทำร้ายผู้คนที่อาศัยอยู่ในเรือนจำตี้ซิน แต่จะใช้การทรมานทางจิตใจแบบนี้เพื่อควบคุมพฤติกรรมของพวกเขา เพื่อไม่ให้คนเหล่านั้นก่อความวุ่นวายในเรือนจำตี้ซินการลงโทษที่โหดที่สุดในเรือนจำตี้ซินคือการถูกขังในห้องคุมขัง หรือก็คือในสภาพแวดล้อมที่มืดและเงียบสงัด แม้ว่าจะฟังดูไม่มีอะไร แต่เกือบทุกคนจะยอมเชื่อฟังหลังจากถูกทรมานทางจิตใจแบบนี้ เพราะการทรมานทางจิตใจที่เกิดจากความรู้สึกโดดเดี่ยวนั้นเจ็บปวดเกินไป และการที่ไม่สามารถรับรู้ถึงเวลาที่ผ่านไปนั้
"ชนผิวเหลืองแล้วแปลกตรงไหน รูปร่างแบบนี้คงจะถูกตีอย่างอนาถน่ะสิไม่ว่า" กวานหยงพูดพร้อมเบะปาก"ฉันไม่มีอะไรจะโต้แย้ง" ตี้สู่กล่าวไม่เพียงแต่ตี้สู่และกวานหยงเท่านั้นที่รู้สึกผิดหวัง แต่นักโทษคนอื่น ๆ ก็เริ่มแสดงความผิดหวังออกมาเช่นกัน บางคนหงุดหงิดจนทุบกรงเหล็ก และตะโกนด่าหานซานเฉียนที่สวมหน้ากากอยู่“นี่มันหมายความว่าอะไร คนแบบนี้มีคุณสมบัติขึ้นสังเวียนได้อย่างงั้นเหรอ?”“เอามันออกมา ฉันจะขึ้นเอง ทำไมฉันจะต้องมาเสียเวลากับไอ้เปี๊ยกนี่วะ”“ไซหัวออกไปซะ เปลี่ยนคน”"เปลี่ยนคน เปลี่ยนคน"เสียงความไม่พอใจของนักโทษดังก้องไปทั่ว สาเหตุที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เพราะผู้ชนะจะได้รับการดูแลเป็นพิเศษจากเรือนจำตี้ซินแม้ว่าเรือนจำจะเป็นสถานที่ซึ่งไม่ต้องกังวลเรื่องอาหาร เสื้อผ้า และที่อยู่อาศัย แต่ผู้หญิงคือความฝันอันหรูหราของนักโทษเหล่านี้ หากชนะเกมนี้ก็จะได้รับผู้หญิงเป็นรางวัล ซึ่งนั่นเป็นสิ่งล่อใจที่ดีสำหรับนักโทษทุกคนในเรือนจำตี้ซิน แต่น่าเสียดายที่ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีคุณสมบัติเหมาะสมในการขึ้นสังเวียน ดังนั้นเมื่อพวกเขาเห็นหานซานเฉียน จึงเกิดความไม่พอใจเป็นอย่างมากรอบ ๆ อาคารสามชั้น น
"โยวหลี่ โยวหลี่จริง ๆ ด้วย!"“ทำไมเขาถึงได้ขึ้นสังเวียนล่ะ เขาถูกขังอยู่ในห้องคุมขังไม่ใช่เหรอ?”“คราวที่แล้วเขาฆ่าคนตาย ฉันได้ยินมาว่าเขาจะถูกขังไว้ในห้องคุมขังตลอดชีวิต ทำไมถึงได้ปล่อยออกมาขึ้นชกได้อีกล่ะ”ตอนนี้บรรดานักโทษที่โห่ร้องใส่หานซานเฉียนเมื่อกี้ต่างแสดงสีหน้าสยดสยองออกมาโยวหลี่คือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในการแข่งขันชกมวย เขาไม่เคยแพ้เลยสักครั้งเดียว แถมเขายังฆ่าคนโดยไม่ได้ตั้งใจในการชกครั้งสุดท้ายอีกด้วย ทำให้เรือนจำตี้ซินลงโทษเขาด้วยการจำคุกตลอดชีวิตในห้องคุมขัง ในสายตาของนักโทษทุกคน เป็นไปไม่ได้เลยที่โยวหลี่จะปรากฏตัวขึ้นที่นี่ โอกาส?แม้ว่าพวกเขาจะมีโอกาสขึ้นสังเวียนในตอนนี้ แต่พวกเขาก็ไม่มีใครกล้าขึ้นไปแล้วใครจะยอมตายเพื่อผู้หญิงกัน?“ตี้สู่ ที่โยวหลี่ปรากฏตัวขึ้นแบบนี้ เป็นไปได้ไหมว่าเรือนจำตี้ซินต้องการให้ผู้ชายคนนี้ตาย?” กวานหยงมีสีหน้าหวาดกลัว แม้ว่าเขาจะเคยดูการแข่งขันของโยวหลี่มาแค่สองครั้ง แต่วิธีการที่โหดร้ายของโยวหลี่นั้นยังตราตรึงอยู่ในใจของเขา แถมชายคนนี้ยังเคยฆ่าตายคนมาก่อน ในเมื่อเขาปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งแบบนี้ กวานหยงไม่สามารถคิดถึงความเป็นไปได้อื่น
“คนผิวสีอย่างนายมีคำพูดที่น่าสนใจคล้ายกับคน ๆ นึงที่ฉันรู้จักจริง ๆ พูดโม้แบบนี้ รอฉันหักมือหักเท้านายก่อนเถอะ แล้วมาดูกันว่านายจะกล้าหยิ่งยโสแบบนี้อีกไหม” โยวหลี่พูดพร้อมเยาะเย้ยหานซานเฉียนลุกโชนด้วยความโกรธ คำพูดเหยียดสีผิวเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาจะยอมทนได้ตลอดเวลาที่ผ่านมา หานซานเฉียนภูมิใจที่ได้เป็นคนจีน เป็นลูกหลานแห่งแดนมังกร เขาไม่สามารถยอมรับการดูถูกจากคนพวกนี้ได้"จะดูถูกฉันก็ไม่ว่า แต่อย่ามาดูถูกประเทศบ้านเกิดของฉัน" หานซานเฉียนตะโกนอย่างรุนแรง และเริ่มเคลื่อนไหวโจมตีเมื่อนักโทษคนอื่น ๆ ที่เฝ้าดูการต่อสู้เห็นภาพนี้ต่างก็แสดงสีหน้าดูถูก“ผู้ชายคนนี้รนหาที่ตายจริง ๆ กล้าดียังไงถึงได้โจมตีโยวหลี่”“ดูเหมือนว่าเขารอความตายไม่ไหว รู้ว่าตัวเองไม่สามารถเอาชนะโยวหลี่ได้ จึงไม่อยากทรมานไปมากกว่านี้ล่ะมั้ง”“โยวหลี่เคยฆ่าคนมาแล้วครั้งนึง บางทีเขาคงไม่กลัวที่จะฆ่าใครอีก ผู้ชายคนนี้น่าสงสารจริง ๆ เพิ่งมาก็ต้องมาจบชีวิตซะแล้ว”“ดีจริง ๆ ที่จะได้เห็นวิธีการฆ่าของโยวหลี่อีกครั้ง บางทีโยวหลี่อาจจะฆ่าผู้หญิงคนนั้นในสังเวียนด้วยก็ได้ วันนี้พวกเราจะได้เห็นอะไรดี ๆ แน่”กวานหยงถอนหายใ
เมื่อมองไปที่ตี้สู่ที่ดูตื่นเต้น กวานหยงก็รู้สึกดูถูกเหยียดหยามในใจ เขาไม่ได้สนใจความเป็นความตายของคนบนสังเวียนเลยสักนิด และจากที่เขาดู อย่างไรคน ๆ นั้นก็ต้องตาย เขาจะเป็นคู่ต่อสู้ของโยวหลี่ได้อย่างไรกัน?แต่กวานหยงได้แต่เก็บซ่อนการดูถูกนี้ไว้ในใจ ไม่กล้าแสดงออกมาคนทั้งสนามมีความคิดเดียวกันกับกวานหยง ไม่มีใครคิดว่าหานซานเฉียนจะเป็นคู่ต่อสู้ของโยวหลี่ได้ ในสายตาของพวกเขา หานซานเฉียนมีเพียงจุดจบเดียวคือความตาย และมีแค่จะตายอย่างรวดเร็วหรือตายอย่างทรมานเท่านั้นและแน่นอนว่ามันขึ้นอยู่กับโยวหลี่ ว่าต้องการให้เขาตายแบบไหนเมื่อทุกคนมีความเห็นเป็นเอกฉันท์ แม้แต่โยวหลี่เองก็รู้สึกว่าหานซานเฉียนไม่มีค่าพอให้กลัว แต่เมื่อกำปั้นของหานซานเฉียนสัมผัสเข้ากับร่างกายของโยวหลี่ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างมากหมัดที่ทรงพลังนี้ ทำให้เขารู้สึกถึงผลกระทบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โยวหลี่เริ่มถดถอยในทันที และไม่สามารถควบคุมร่างกายของตัวเองได้หานซานเฉียนประสบความสำเร็จในการโจมตีเพียงครั้งเดียว และไม่เปิดโอกาสให้โยวหลี่ได้หายใจ เขาใช้ประโยชน์จากความไม่มั่นคงของโยวหลี่ และเริ่มโจมตีครั้งที่สอง เพราะเขาร