มะลิอ้าปากค้าง ดวงตาเบิกกว้างไม่นึกว่ามาเฟียหนุ่มจะพูดคำนี้ ดวงหน้าเริ่มแดงก่ำขึ้นเรื่อยๆ อายหนักจนเกร็งทำตัวไม่ถูก ก่อนจะรู้สึกว่าตัวลอยขึ้น เหมราชยกเธอขึ้นนั่งบนโต๊ะสนุ๊กตัวสูง มือหยาบสองข้างลูบพวงแก้มอย่างนิ่มนวล ประคองยัยแก้มกลมตุ่ยและใช้ปลายนิ้วโป้งคลึงนวดที่มุมปากหยัก สายตาละเลียดมองที่คางสั้นๆ ขยับมองปากอวบอิ่มสีชมพูระเรื่อ จมูกรั้นๆ แม้มันจะไม่ได้โด่งเหมือนพวกดารานางแบบแต่ก็สวยเข้ากับรูปหน้ากลมๆ ไม่น้อย มองดวงตาหวานมันหยาดเยิ้มไปด้วยอารมณ์ของความน่าหลงใหลที่อยากจะเข้าไปค้นหามะลิยังนั่งเงยหน้ากลมขึ้นมองใบหน้าคมและหล่อเหลาของเหมราช ริมฝีปากหนาร้อนผ่าวคู่นั้นประกบลงมาบนกลีบปากเธอ เชยชิมรสชาติหอมหวานกรุ่นไม่ต่างจากการจับจ้องมานาน มือที่ละจากดวงหน้ากลมแดงซ่าน ลูบไล้เอวหญิงสาวอย่างเกเร มะลิแทบจะแนบชิดไปกับแผ่นอกกว้าง นั่งเชิดหน้ายืดตัวตรงตอบสนองปลายลิ้นหยอกเย้าที่ส่งเข้ามาในโพรงปากอุณหภูมิของห้องที่ว่าเย็นเฉียบในตอนนี้กับร้อนระอุแทบทำคนสองคนหลอมละลายเป็นคนเดียวกัน“อึ่มมม”เหมราชครางเสียงทุ้มออกมา ยืนหลับตาป้อนความหวานให้คนตรงหน้าอย่างละเมียดละไม เขาใช้ลิ้นสากตวัดเลียทั่วกระพุ้งแ
ยัยแคระก็ช่างอุ้มง่าย ยกทีเดียวก็ตัวลอยวืดไม่ต่างจากปุยนุ่นเสียเท่าไหร่ เหมราชก้าวขาไปไม่กี่ก้าวก็หย่อนตัวลงนั่ง วางมะลิบนหน้าตักแกร่ง แต่ทว่าเป็นการนั่งเกยแล้วหันหน้าไปยังทิศทางเดียวกัน“คะคุณเหม”ชายหนุ่มโอบกอด ไซ้ริมฝีปากจูบลำคอขาวมายังไหล่ สองมือบีบพุงกลมๆ ที่ย่นเป็นชั้นให้เห็นอย่างชัดเจน แต่มันน่ารักจนอดใจไม่ไหวที่จะกำเต็มมือแรงๆ“ยัยอ้วน...แม่ง”เขามันเขี้ยวมะลิเป็นที่สุด ประคองมือบนเต้าอวบสองข้าง พร้อมกับบั้นท้ายควงบดลงตัก กลางหว่างขามีท่อนลำใหญ่ยาวโผล่ขึ้น ขยับร่อนเนื้ออวบอูมก็สัมผัสกับหนังหุ้มสีเข้มมันประดับไปด้วยเส้นเลือดสีเขียวเข้ม ปลายหัวหยักก็ยังแดงก่ำและมีน้ำใสๆ ซึมออกจากรูบนหัวหยัก“อือ...”“เอามันเข้าไป”“อะเอา...”“เอามังกรยักษ์ของฉันเข้าไปหาเธอ”มะลิมองท่อนลำใหญ่ หัวบานก่ำน่ากลัวไม่น้อยแต่ความอยากก็มีมากกว่า จับมันเข้ามาจ่อที่ช่องทางรัก ยกบั้นท้ายขึ้นเล็กน้อยแล้วค่อยๆ กดให้รูคับแคบกลืนกินความใหญ่โต เข้าไปได้เพียงครึ่ง มะลิก็ค้างสะโพกไว้อยู่แบบนั้น มันแน่นและจุกจนไม่กล้ากดลงไปต่อ ทว่าคนด้านหลังประคองสะโพกกลมไว้สองข้างก็ออกแรงช่วยมะลิกดบั้นท้ายให้รูรักกินท่อนลำใหญ่ลงไ
วันต่อมาเมื่อวานมะลิออกจากห้องสนุ๊กของมาเฟียหนุ่มในตอนเที่ยงคืน หลังจากเสร็จกิจกรรมความเสียวก็เผลอหลับบนโซฟาสีดำ ส่วนเหมราชก็สันทนาการตัวเองด้วยการยิงสนุ๊กต่อและดื่มแอลกอฮอล์รอคนหลับตื่น แม้จะหลอกล่อให้มะลิกลับไปนอนต่อที่ห้องด้วยกัน ก็ถูกปฏิเสธเสียงแข็งยิ่งใกล้ชิด ก็ยิ่งถลำลึก มะลิรู้สึกเจ็บแปลบที่ก้อนเนื้อด้านในอก...หลังจากเข้าครัวทำอาหารเช้าและตั้งโต๊ะไว้รอเหมราชเสร็จเรียบร้อย ก็ถอดผ้ากันเปื้อนเรียกวินมอเตอร์ไซค์ในช่วงแปดโมงเช้า แล้วรีบออกไปทำธุระส่วนตัวทันที“พี่จอดตรงนี้เลยจ้ะ”“มาตลาดเหรอ”“จ๊ะ...มาตลาด”มะลิตอบไปแบบนั้นเพราะธุระที่หมายจะมาทำก็อยู่ไม่ไกลจากแถวนี้พอดี“วันหลังมาเช้ากว่านี้นะ หลังแปดโมงตลาดวายหมดแล้ว”ชายหนุ่มบอก ครั้งเห็นว่าอีกฝ่ายน่าจะมาจับจ่ายซื้อของ แต่ทว่าในช่วงนี้ พ่อค้าแม่ค้าเริ่มทยอยเก็บแผงของขายและจะกลับใหม่อีกครั้งในช่วงบ่ายสอง“จ้ะ...นี่ค่าวิน”มะลิยื่นเงินสี่สิบบาทเป็นค่าโดยสาร แต่กระนั้นเจ้าตัวไม่ได้เข้ามาซื้อของในตลาดสดอย่างที่พูด ลงจากรถได้ก็เดินเลี้ยวซ้ายและตรงดิ่งไปยังร้านขายยาทันทีเปิดประตูเข้าไปเสียงกระดิ่งก็ดังขึ้น มะลิตรงไปยังเคาน์เตอร์ที่ม
มะลิรั้งตัวเองแต่ก็คงสู้แรงคนตัวโตไม่ไหว ไม่ยอมขยับตัวแม้จะถูกดึงแรงเท่าไหร่ก็ตาม เหมราชถลึงตามองกับความดื้อดึงของมะลิ หากยังยื้อกันอยู่แบบนี้ เขาอาจไปนครราชสีมาช้ากว่ากำหนดการเดินทางที่วางไว้และนัดคุยเป็นการส่วนตัวกับทีมวิศวกรคงต้องเลื่อนออกไปอีก ตัดสินใจอุ้มมะลิขึ้นในท่าเจ้าสาว ภาพตรงหน้าปรากฏต่อดวงตาลูกน้องหลายคู่ก็พลันอ้าปากหวอและงุนงงกันยกใหญ่ หนึ่งในนั้นคืออ้อยควั่นที่ทำตาโตครั้นเห็นว่าเจ้านายอุ้มยัยมะลิเดินตัวปลิวท่ามกลางแดดจ้า“อ้อย!!”เหมราชตะโกนเรียกพร้อมกับการยัดคนในอ้อมแขนเข้ารถ“คะคุณเหม”“เก็บเสื้อผ้ามะลิใส่กระเป๋าภายในสิบนาที”“ค่ะ ได้ค่ะ”แม้จะมีความสงสัยผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ดก็ต้องเก็บมันไว้ก่อน รีบวิ่งสี่คูณร้อยเข้าห้องนอนมะลิ เปิดประตูเข้าไปก็เห็นกระเป๋าเป้วางบนชั้นไม้สำหรับวางของ หยิบได้ก็เก็บพวกครีมและเครื่องสำอางลงก่อน เปิดตู้เสื้อผ้าแล้วกวาดดวงตามองข้าวของด้านในที่แขวนเรียงรายไว้เป็นระเบียบ แต่อ้อยควั่นไม่รู้ว่าต้องหยิบตัวไหนต้องเอาอะไรไปบ้าง ยืนเกาหัวอยู่สักพักก็ตัดสินใจยัดทุกอย่างที่พอยัดได้ใส่กระเป๋าในทันที ทำตามคำสั่งเหมราชได้อย่างรวดเร็ว แล้ววิ่งกลับมาพร้อมก
เหมราชไม่เข้าใจ มีแต่ดวงตากลมจ้องเขม่นราวกับว่าโกรธกันอย่างเหลืออด หากให้นึกเขาได้ไม่ได้ทำอะไรเลย มีแต่อีกฝ่ายที่กำลังตั้งแง่โดยไม่ทราบสาเหตุ“หุบปาก”“ใจร้าย มาเฟียกระจอก มาเฟียใจ อึก”พูดยังไม่จบประโยค ก็ถูกปิดด้วยริมฝีปากหนา เหมราชกระโจนครอบงับครั้นรู้สึกหงุดหงิดกับความเพ้อเจ้อของยัยตัวแคระ นิสัยความน่ารำคาญก็ยังมีอยู่ โดนใส่ความซ้ำซาก แล้วพูดในสิ่งที่ไม่เป็นจริงก็ไม่อาจอดทน สั่งให้เงียบดีๆ ไม่เงียบ ก็ต้องจูบปิดปากไปซะเลยลมเหนือที่มองเห็นการทะเลาะไม่ต่างจากผัวเมียแง่งอน ก็อ้าปากค้าง ไม่นึกว่าการเป็นพลขับในครั้งนี้จะได้มาเห็นบทเลิฟซีนอยู่หลังรถ เหมราชล็อคคอคนที่นั่งบนตัก บดริมฝีปากเข้าหาอย่างแนบแน่น ขนาดที่มะลิก็ยกมือกำเป็นปั้นตีตุบๆ ลงหัวไหล่หนาของชายหนุ่ม ก็เหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่สะทกสะท้านกับความเจ็บนั้นเสียเลย“อื้อ…”จะร้องท้วง น้ำเสียงนั้นก็กลืนหายไปในลำคอ เหมราชบดจูบอย่างหนักหน่วงจนเกิดเสียงดังจ๊วบจ๊าบก้องขึ้นภายในรถ ไม่เกรงใจสายตาของมือขวาเลยสักนิด ลมเหนือแทบไม่มีสติในการขับ ไม่มองกระจกหลังครั้นภาพตรงหน้ามันชวนสติเตลิด เขาผ่อนความเร็วของคันเร่งลงอีกครั้ง หายใจเข้าลึกๆ แล้วเพ่
19:00ไม่ต่างจากคนโดนวางยาสลบ มะลินอนหลับตั้งแต่เที่ยงตื่นอีกทีคือหนึ่งทุ่มตรงพอดิบพอดี เพราะอุณหภูมิต่ำอีกทั้งเป็นคนแพ้อากาศหนาวมากเลยทำมะลิหลับใหลไปหลายชั่วโมง คนอายุน้อยงัวเงียขึ้นบนเตียงนอนนุ่ม ก็ย่นเรียวคิ้วบางเข้าหากันในทันทีครั้นเห็นว่าตัวเองนอนอยู่ในสถานที่ไม่คุ้นตา แต่ก็ไม่ได้ตกใจอะไรมากเพราะจำได้ว่าถูกเหมราชลากขึ้นรถมาธุระต่างจังหวัดด้วยกัน นั่งนิ่งอยู่บนเตียงมองผ่านผนังกระจกบานใหญ่ที่เปิดม่านไว้ หากเป็นกลางวันคงเป็นวิวสวยน่าดู ทว่าตอนนี้พระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าก็เห็นเพียงแสงไฟรำไรที่อยู่ด้านล่าง ก็นึกได้ว่าน่าจะอยู่บนพื้นที่สูง นครรราชสีมาจะเป็นที่ไหนได้ถ้าไม่ใช่เขาใหญ่“ขึ้นมาพักบนนี้เลยเหรอ ตั้งใจมาทำงานหรือมาเที่ยวกันแน่ ถ้าไม่ดึงมะลิมาด้วย คุณเหมคงนัดคู่นอนคนอื่นมาหาใช่ไหม”พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาคล้ายตัดพ้อและน้อยใจไปในตัว ต้นขาอวบที่ซุกใต้ผ้าห่มงอขึ้น นั่งกอดเข่ามองความมืดด้านนอกแล้วน้ำตาก็ซึมออกมาอีกครั้งทำไมรู้สึกได้มากขนาดนี้ ยิ่งเผลอไผลไปมากเท่าไหร่ หัวใจดวงน้อยก็เจ็บมากขึ้นเท่านั้น หัดเจียมตัวหน่อยมะลิ เป็นแค่ลูกหนี้ มาทำงานชดใช้หนี้สิน ทำแต่งานบ้านค่าจ้างเดือนละสอง
อาหารมื้อเย็นถูกกินจนเกลี้ยง เมื่ออิ่มท้องแต่หนังตามะลิยังไม่หย่อนตาม เพราะนอนชาร์จแบตเก็บพลังงานให้ร่างกายมานานหลายชั่วโมง ท่าทางคืนนี้มะลิคงจะตาสว่างแข่งกับนกฮูกในป่าทึบเสียแล้ว ร่างขาวหอบตัวเองออกมารับลมด้านนอก บรรยากาศในอุณหภูมิลดต่ำทำมะลิยืนกอดอก แม้จะหนาวไม่น้อยแต่ก็ใจสู้ครั้นมองไปด้านล่างมันก็สวยมากทีเดียว แสงไฟระเรื่อเป็นทางและยังมีเสียงสัตว์ที่ดังระงมไม่ต่างจากเสียงดนตรีอันไพเราะ แม้มะลิสัมผัสกับป่าและภูเขามาตั้งแต่เด็ก แต่บ้านหลังโทรมที่อาศัยอยู่ไม่ได้ตั้งอยู่บนเขาเหมือนบ้านพักหลังนี้ ฉะนั้นตรงนี้ก็เป็นบรรยากาศแปลกใหม่สำหรับเธอไม่น้อย“นั่งตรงนี้สิ”เหมราชตามออกมา แล้วเดินเบี่ยงไปนั่งบนชิงช้าไม้ คราวนี้มะลิทำตามอย่างว่าง่ายไม่ดื้อดึงเหมือนตอนเมื่อกลางวันที่ลากกันแบบทุลักทุเล“นึกว่าจะเห็นดาว”“ฟ้าปิด มันครึ้มตอนเธอหลับ นึกว่าฝนจะตกแต่ก็ไม่ตก”“คุณเหมลากมะลิมาทำไมจ๊ะ”“ไม่อยากมา...”คำถามจากมะลิเขายังไม่ตอบ แต่กลับสวนคำถามกลับคนอายุน้อยในทันที ลึกๆ ในใจแล้วมีหรือจะไม่อยากอยู่ใกล้ชายหนุ่มแต่มะลิต้องพยายามห้ามและช่องว่างให้อยู่ในสถานะของเจ้าหนี้กับลูกหนี้“มาเป็นภาระ”“ยังไม่เห
ทั้งวันมะลิอยู่ในบ้านพักตากอากาศเพียงคนเดียว เหมราชที่ออกไปดูไซต์งานแต่เช้าจนป่านนี้ก็ยังไม่กลับ พอไม่มีงานบ้านให้ทำเหมือนคฤหาสน์ ก็ใจจดใจจ่อรอมาเฟียหนุ่มกลับมาอย่างเดียวดูหนังดูละครคั่นเวลาจบไปก็หลายเรื่อง มะลิรู้สึกว่าวันนี้นาฬิกาเดินช้าผิดปกติ ดูเรือนที่แขวนบนผนัง ดูในช่องทีวีที่มีปรากฏและดูบนหน้าจอมือถือตัวเอง มันก็ตรงกันไม่มีผิดเพี้ยน ไม่มีอันไหนเดินช้าเสียเลยผิดที่ใจตัวเองมะลิ จดจ่อและรอเกินเหตุ...เดินวนไปเดินวนมา ชมวิวที่สามารถมองเห็นได้เกือบร้อยแปดสิบองศา เวลาก็เพิ่งจะผ่านไม่กี่ชั่วโมงและยิ่งใกล้พระอาทิตย์จะลาลับขอบฟ้า มะลิยิ่งลนลานอยู่ไม่นิ่ง อยากให้เหมราชรีบกลับมาประเดี๋ยวนี้“ทำไมยังไม่มา มะลิรอทั้งวันเลย”อยากจะโทรหาก็ไม่กล้า เพราะปกติเธอไม่เคยสื่อสารกันผ่านมือถือ แม้จะมีเบอร์ติดต่อแต่หากโทรและรบกวนเวลาทำงานอีกฝ่ายล่ะ ไม่เอาหรอกมะลิ แบบนั้นถูกมองว่าจู้จี้ตายเลยได้แต่นั่งเท้าคาง รอแล้วรอเล่าก็ยังไม่เห็นจะมีรถคันไหนขับเข้ามา มะลิพยายามอดกลั้นอย่างที่สุดก็เหมือนว่าจะขาดสะบั้นไปทันที ป่านนี้ทำไมไม่มา ความอยากรู้ว่าเหมราชอยู่ไหน อีกไม่กี่นาทีจะหกโมงเย็น บรรยากาศก็เริ่มพลบค
เช้าวันต่อมา บรรยากาศในเมื่อคืนกลายเป็นเรื่องที่สนุกสนาน เมื่อเพื่อนบ้านเห็นว่ามีรถคันหรูจอดหน้าบ้านยายใหม่ตั้ง 2 คันก็แวะเวียนเข้ามาทักทายตามประสาคนอยากรู้อยากเห็น เรื่องราวของมะลิดังไปทั่วหมู่บ้านภายในค่ำคืน แต่ก็เป็นเรื่องราวดีๆ ที่คนพูดถึง ทว่าโดนสบประมาทว่ามะลิอาจเป็นเพียงเมียน้อยของเจ้าหนี้มาเฟีย แต่เมื่อเจ้าตัวออกมายืนยันด้วยตัวเอง พร้อมกับหัสดินว่ามะลิคือเมียหนึ่งและเมียเดียวของตระกูลอัครพิสุทธิ์สิน ทุกคนที่เอาแต่จ้องสงสัยและจ้องนินทาก็หายแคลงใจ ส่วนยายหมายก็โล่งอกในทันที หลังจากที่แอบคิดมากมานาน เป็นเดือนๆ ว่าหลานสาวอาจเป็นเพื่อนของเล่นคนรวยเป็นเพียงคนขัดดอก “ฝีมือยายไหม อร่อยเหมือนมะลิเลยนะ ลื้อว่าไหมอาเหม” หัสดินพูดออกมาอย่างชื่นชม ขณะที่ยังนั่งขัดสมาธิบนแคร่ไม้ นั่งล้อมวงกินมื้อเช้าในบรรยากาศที่แตกต่างจากที่เคยเป็น แต่ทว่าชายมีอายุกลับรู้สึกชื่นชอบกับธรรมชาติที่อยู่รอบตัว หรืออาจจะรู้สึกชื่นชอบเพราะเจอคนที่ถูกใจ สายตาหัสดินที่มองยายไหมทำเหมราชหนักใจ แม้จะเคยอนุญาตให้เตี่ยมีเมียอีกสักคนแต่ก็ไม่นึกว่าเตี่ยจะแสดงอาการหนักเมื่อเจอยายของมะลิ เล่นหูเล่นตาแพรวพราวราวกับตัวเอง
สามวันต่อมาเชียงรายสายการบินดับเบิ้ลบี ไฟล์ท TG9397 แลนดิ้งถึงสนามบินในช่วงเวลาบ่ายโมง เป็นครั้งแรกที่มะลินั่งเครื่องบินก็ตื่นเต้นตลอดการเดินทาง เป็นการกลับบ้านในรอบหลายเดือน ตั้งแต่มะลิมาทำงานใช้หนี้เพื่อแลกกับที่ดินของยายการเดินทางมาเพียงสองคน เหมราชยอมเลื่อนงานที่ต้องจัดการภายในสองสามวันนี้ออกไปเป็นอาทิตย์และพาเมียมาหายายที่คิดถึง ลงจากเครื่องก็มีรถเช่ามารอรับ ครั้นลมเหนือติดต่อจองไว้ให้เพราะเหมราชไม่ได้ขับรถส่วนตัวมาเองรถยนต์ยุโรปมีค่าเช่าหลักหมื่นต่อวันเคลื่อนตัวไปถนนทางหลวงและมุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านแม่กลองทันที มะลินั่งบีบมือที่ชื้นไปด้วยทั้งกลัวและตื่นเต้นจนหัวใจเต้นตึกตัก แต่ทว่าได้มือหนาของเหมราชกุมกระชับจนกระทั่งมาจอดหน้าบ้านพื้นดินที่ยังชื้นจากฝนที่ตกหนักเมื่อคืนส่งผลให้สวนผักของยายเขียวขจี บรรยากาศโดยรอบเงียบเพราะคนแถวนั้นต่างก็ออกไปทำงานในตอนกลางวันและส่วนมากก็ทำไร่ทำสวนกันทั้งนั้น มะลิเปิดประตูลงมา ยืนท่ามกลางแดดจ้ามองบ้านทรุดโทรม พลันนั้นน้ำตาไหลเองอย่างไม่อาจห้าม เป็นครั้งแรกที่ห่างจากยายนานมากขนาดนี้ หากไม่นับตอนเคยอยู่กับพ่อ มองพื้นที่ทำมาหาอันเล็กน้อยที่เคยกลัวว่
มะลิเหนื่อยจากการอ้วกแบบหมดไส้หมดพุงก็ม่อยหลับราวกับว่าสลบไสล ส่วนเหมราชก็หอบหมอนและผ้าห่มมานอนบนโซฟา เมื่อคนอายุน้อยไม่ยอมให้เข้ามานอนกอดเพราะเหม็นตัว แม้จะเข้าไปอาบน้ำใหม่อีกรอบและพรมน้ำหอมชนิดที่ฉุนจนแสบจมูกก็ยังมีกลิ่นที่มะลิไม่ชอบอยู่ดี อาการช่างแปลกๆ ทำเขาแอบตื่นเต้นนอนไม่หลับ นั่งมองเมียรักและเดินไปเดินมาคนเดียวแทบทั้งคืนรุ่งเช้า...ดวงตาปรือปรอยในเช้าวันใหม่ มะลิตื่นในช่วง 8 โมงเช้า สายกว่าเมื่อวานไปตั้งหนึ่งชั่วโมง ขยับกายที่รู้สึกดีขึ้นเมื่อคืนนั่งบนเตียง ให้อาการงัวเงียดีขึ้นแล้วค่อยๆ ปรับโฟกัสดวงตากลมให้มองชัดขึ้น ในห้องเหลือแค่ตัวเองเพียงคนเดียวก็นึกว่าเหมราชคงออกไปทำงานเหมือนเช่นทุกวัน“ตื่นสายไม่ได้ส่งพี่เหมขึ้นรถไปทำงานเลย”ตำหนิตัวเองที่เดี๋ยวนี้เป็นคนเหลวไหล แม้จะเข้านอนเร็วกว่าปกติก็ยังเป็นยัยแคระขี้เซาอยู่ดี แบบนี้เขาเรียกว่าทำหน้าภรรยาบกพร่องไหมนะกำลังก้าวขาลงจากเตียง เสียงเปิดประตูดังขึ้น มะลิตกใจที่จู่ๆ มีคนถือวิสาสะเปิดเข้ามาเพราะหากตัวเองโป๊เปลือยอยู่คงเป็นภาพที่ไม่เหมาะสม ทว่ากลับเห็นเป็นร่างสูงของเหมราชเดินเข้ามาด้วยท่าทางรีบๆ และยังสวมชุดนอนตัวเมื่อคืนอยู
ขณะที่คนอยู่ในออฟฟิศก็นั่งยิ้มมองจอมือถือไม่ต่างจากมะลิเสียเลย ลมเหนือที่ยืนรองานก็มองเจ้านายด้วยสายตารอคอย ที่จู่ๆ ก็ลอยแพให้เขายืนอยู่แบบนั้นหลายนาทีได้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้โทรตามให้เขาเข้ามารับเอกสารสำคัญ เพื่อที่จะส่งต่อให้กับธนาคาร แต่พอเข้ามาเหมราชก็เอาแต่สนใจหน้าจอมือถือ พลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่เงยหน้ามามองกันเลย“ฮึมมมม”ลมเหนือกระแอมเสียงเบาๆ ก็เหมือนว่าเจ้านายจะไม่ได้ยิน ก่อนจะเพิ่มระดับเสียงดังขึ้นมาอีกหนึ่งครั้ง พลันนั้นดวงตาคมก็ตวัดมองคนสนิทด้วยแววตาออกดุทันที ราวกับว่าเขาเข้ามาขัดจังหวะ แต่เปล่าเขาเข้ามาตามคำสั่งของเจ้านาย“งานก็วางอยู่ตรงนั้น มึงไม่แหกตามอง”ลมเหนือเสดวงตามอง เป็นซองสีน้ำตาลด้านในคือเช็คจ่ายค่าจ้างในส่วนต่างๆ ที่นอกเหนือการจ่ายจากบัญชีของบริษัท“ขอโทษครับ ผมเข้ามาก็เห็นคุณเหมยิ้มจนตาหยี ตั้งแต่ได้คุณมะลิมาเป็นเมียยิ้มจนร่องหมากขึ้นเลยนะครับ”โดนลูกน้องแซวเข้าให้ เหมราชเป็นคนยิ้มยาก ตั้งแต่ลมเหนือทำงานเป็นลูกน้องที่จงรักภักดีเขาก็แทบนับครั้งได้ที่เห็นเจ้านายฉีกยิ้มออกมา และมุมปากที่แขวนขึ้นส่วนมากมาจากเรื่องของธุรกิจที่มันประสบความสำเร็จ แต่ทว่าตอนนี้เหมราช
“คุณเหมกลับมาค่ะคุณมะลิ”“ไม่ใช่ พี่เหมเข้าผับต่อ”สรรพนามที่เปลี่ยนไปทำอ้อยควั่นยกมือมาแต่ปาก เบิกดวงตากลมโตราวกับว่าไม่เชื่อ ไม่เคยได้ยินใครเรียกเหมราชแบบนี้ แม้แต่ผู้หญิงที่เป็นคู่นอนของเหมราชอายุน้อยกว่าเป็นสิบปี มาเฟียหนุ่มก็ไม่อนุญาตให้เรียกสิทธิ์นั้นได้แค่มะลิคนเดียว...เมื่อสงสัยว่าเป็นใครก็เดินออกไปดูพร้อมกัน รถยนต์คันคุ้นตาไม่ใช่ใครที่ไหน เจ้าสัวหัสดินมาพร้อมกับของที่ติดมือมาอย่างมากมาย“เจ้าสัว...สวัสดีจ้ะ”มะลิยกมือไหว้พร้อมกับพี่อ้อยควั่น หัสดินที่กำลังเดินขึ้นบันไดไม่กี่ขั้นเพื่อเข้ามาด้านในแต่มีลูกน้องประคองกันล้ม ก็ยกมือปัดครั้นได้ยินคนอายุน้อยเรียกไม่เข้าหู“อามะลิ! ผัวลื้อไม่สั่งสอนหรือไง ว่าต้องเรียกอั๊วว่าเตี่ย”“...” มะลิทำหน้านิ่งแล้วกลอกตามองอ้อยควั่น“พวกลื้อ ขนของมาให้ลูกสะใภ้ ขนมาหมดทุกอย่าง เข้าใจไหม” เขาหันไปตะโกนบอกลูกน้อง“เข้าใจครับ”หัสดินเดินนำไปห้องรับแขก เมื่อเป็นบ้านของลูกชายไม่จำเป็นต้องรอใครเชิญ เขาสามารถเดินเข้าออกประหนึ่งเป็นเจ้าของ ชายมีอายุหย่อนกายนั่งบนโซฟาตัวนิ่ม พร้อมกับครางเสียงกับอาการปวดเนื้อปวดตัวตามประสาคนแก่ส่วนมะลิที่เดินก้มหน้าตาม
...ร่างอวบอัดขยับกายขึ้นแล้วนั่งบนเตียง ผมเผ้าที่ยาวสลวยแต่มันก็ยุ่งเหยิงมากทีเดียวในตอนตื่น แม้ไม่ใช่คืนแรกที่มะลิเข้ามาใช้ห้องนอนของเหมราช แต่ก็นับว่าเป็นคืนแรกในฐานะคุณนายของบ้านอย่างเต็มตัว ดวงตากลมกะพริบถี่ๆ เพื่อปรับโฟกัสมองหาชายที่นอนอยู่ข้างกัน แต่กลับไม่เห็นเพราะว่าตอนนี้เขาลุกออกจากเตียงไปก่อนเธอเสียแล้วมะลิที่อยู่ในชุดนอนลายน่ารักก้าวเท้าลงจากเตียง เป็นจังหวะที่เหมราชเปิดประตูห้องน้ำออกมาพอดี ร่างสูงแต่งกายสุภาพ สวมเสื้อเชิ้ตสีกรม กางเกงสแลกสีดำและกำลังผูกเนคไทเข้าที่คอ“ตื่นแล้ว”“จ้ะ มะลิตื่นแล้ว”“...”เหมราชทำเพียงยิ้มตอบและวุ่นวายกับเนคไทที่พาดบนคอ“วันนี้คุณเหมจะเข้าบริษัทเหรอจ๊ะ”“ใช่ ขอเคลียร์งานอีกนิดหน่อย”เพิ่งกลับมาจากดูโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่นครราชสีมา วันต่อมาเหมราชก็เตรียมตัวเข้าบริษัทอย่างเช่นเคย เดินทางไม่ไกลแต่ก็ทำให้เหนื่อยมากพอตัว เขากลับไม่ยอมหยุดพักผ่อน ไม่แปลกใจเลยทำไมทุกอย่างที่เขาสร้างขึ้นถึงได้เติบโตแบบก้าวกระโดดมากขนาดนี้“ส่วนตอนหัวค่ำจะเลยเข้าผับ”ธุรกิจกลางคืนที่เขาทำมานานหลายปี ถึงรอบที่ต้องเข้าไปตรวจตรา เพราะโดยปกติเหมราชจะเข้าผับก็ต่อเมื
เหมราชที่ยืนนิ่งชั่วครู่ ก็ย่นคิ้วเข้มที่เห็นลูกน้องยืนมาตัวเองเป็นนัยน์ตาเดียวกัน ก็พลันขึงตามใส่กลับ แววตาอันน่ากลัวทำทุกคนกระจายตัวออกกันออกไป ส่วนเหมราชก็เดินเข้าไปในคฤหาสน์พร้อมกับเจ้าสัวที่หมุนตัวเดินตามลูกชายต้อยๆ แล้วหย่อนกายกลับเข้าไปนั่งที่เดิม “เตี่ยมานานแล้วเหรอ” ชายหนุ่มเอ่ยถามและแปลกใจไม่น้อยที่เห็นผู้เป็นพ่อ “ตั้งแต่เที่ยง โคราชมันอยู่ไม่ไกล ทำไมลื้อเพิ่งถึงอาเหม” เจ้าของชื่อยังไม่ตอบในทันทีแต่ขยับตัวไปยืนอยู่อีกมุม เขาควักบุหรี่ออกจากกระเป๋าเสื้อสูทเพื่อไม่ให้กลิ่นลอยคลุ้งไปในตำแหน่งที่หัสดินนั่ง จุดไฟแล้วคาบมันไว้ที่ปาก จากนั้นก็ดูดสารนิโคตินเข้าปอดอย่างหื่นกระหายครั้นอดทนอยากมาตลอดที่เดินทาง “รถมันติด” เหมราชก็ตอบตามความจริง สาเหตุของการมาช้ากว่าปกติก็เพราะรถในเมืองหลวงมันเนืองแน่น แต่ทว่านั่นไม่ใช่จุดสนใจของเจ้าสัวมากนัก “ลื้อกับอามะลิ...” พูดออกมาเพียงแค่นั้นคนฟังก็ตีความหมายของประโยคนั้นได้ เตี่ยของตนกำลังจะถามว่า เขาและมะลิเป็นอะไรกัน เหมราชยังทำท่าไขสือไปก่อน ตั้งใจดูดบุหรี่แล้วมองออกไปข้างนอก แต่เป็นการชะเง้อคอมองไปที่ห้องนอนของมะลิ หัสดินที่เห็นก็ลอบยิ้
คฤหาสน์เหมราช“นี่อาเหมยังไม่กลับอีกเหรอ”“ยังค่ะเจ้าสัว”อ้อยควั่นตอบพร้อมกับการเสิร์ฟน้ำชาร้อนๆ และขนมรองท้องให้หัสดิน ครั้นนั่งรถมาหาถึงที่แต่ก็ยังไม่เห็นว่าเหมราชจะกลับมา และทุกครั้งที่ลูกชายหายไปทำงานต่างประเทศหรือต่างจังหวัด นิสัยงอแงของหัสดินก็เกิดขึ้นไม่ต่างจากเด็ก“ไปเป็นอาทิตย์ไม่ติดต่อมาหาอั้วเลย เครนถล่มทับคอซี้แหง๋แก๋ไปแล้วมั้ง”หัสดินแอบบ่น ทุกครั้งที่เหมราชไปทำงานก็หายหัวไม่ติดต่อพ่อเลยสักครั้ง แม้แต่ข้อความสักประโยคก็ไม่มีส่งมา“คงกำลังมีความสุขน่ะค่ะเจ้าสัว”ชายมีอายุกำลังตั้งท่าจะยกแก้วชาขึ้นมาดื่ม ได้ยินที่อ้อยพูดก็หันมาสนใจอยากรู้ในทันที ไปทำงานมีแต่เรื่องปวดหัว เอาอะไรมามีความสุข“ลื้อหมายถึงอะไรอาอ้อย...อะไรที่ลูกชายอั๊วกำลังมีสุข”หัสดินเอ่ยถามออกมาพร้อมกับคิ้วหงอกๆ ที่ย่นเข้าหากันอย่างงุนงง และในตอนนี้เขาอยากรู้เสียเต็มประดา“มะลิก็ไปด้วยค่ะ”“มะลิ...อ๋อ อีที่ตัวอ้วนๆ คนนั้นใช่ไหม”เจ้าสัวทำท่านึก ก่อนจะจำได้ว่ามะลิคือลูกหนี้ที่เหมราชลากตัวมาทำงานชดใช้กับหนี้สิน“ใช่ค่ะเจ้าสัว ลากมะลิขึ้นรถไปด้วย แง่งอนกันเหมือนคนเป็นแฟน”“หึๆ”ที่แท้ความสุขที่แม่บ้านบอกมาคือกา
ครบหนึ่งอาทิตย์สำหรับการมาคุมงานที่นครราชสีมา ในส่วนของเหมราชจัดการแล้วเรียบร้อย ที่เหลือคือในส่วนของวิศวกรที่จะจัดการต่อ และหลังจากนั้นก็ใช้เวลาอีกสองวันอยู่พักผ่อน เสพบรรยากาศโดยไม่มีเรื่องงานเข้ามาปะปน กระทั่งถึงเวลาที่ต้องกลับกรุงเทพเพราะมีงานส่วนอื่นรออยู่ ข้าวของพับเก็บใส่กระเป๋าอย่างเรียบร้อยและลมเหนือกำลังขนขึ้นท้ายรถมะลิแอบเดินออกมาด้านนอกเพียงคนเดียวรอเหมราชที่ยังจัดการธุระส่วนตัวยังไม่เสร็จ เพราะอยากเสพบรรยากาศจนนาทีสุดท้ายก่อนจะก้าวขาขึ้นรถแล้วกลับกรุงเทพไป อากาศที่บริสุทธิ์ทำปอดน้อยๆ ได้รับโอโซนอย่างเต็มที่ ยืนกอดอกมองวิวทิวทัศน์ด้านหน้าเป็นเทือกเขาเขียวสวยช่างเป็นธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์อย่างมากเหมราชที่เดินออกจากห้องน้ำก็กวาดสายตามองหาคนอายุน้อยทันที ด้านหน้าเห็นเพียงลมเหนือกำลังจัดแจงกระเป๋าหลายใบให้เข้าที่ สวนมะลิกลับหายไปจากสายตาของเขา ทั้งที่ขอตัวเข้าห้องน้ำไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ“เหนือ มึงเห็นมะลิไหม”“ไม่เห็นครับ”คำตอบของผู้ใต้บังคับบัญชา ทำเหมราชหงุดหงิดเล็กน้อยแต่ก็เข้าใจได้ว่าลมเหนือกำลังจัดระเบียบกระเป๋าที่อัดแน่นอยู่ในท้ายรถ เลยไม่ทันได้สังเกตมองผู้หญิงของเจ้า