งานประจำวันระหว่างอ้อยควั่นกับมะลิเสร็จสิ้นไปอีกวัน แต่ก็ยังไม่สามารถกลับไปพักผ่อนได้ครั้นนางแบบดังอย่างนาเดียร์ยังนั่งหน้าสลอนอยู่ในห้องรับแขก“รอตั้งแต่สี่โมงเย็น จนตอนนี้สามทุ่ม”อ้อยควั่นชะเง้อคอส่อง ทอดสายตามองจากประตูห้องครัว แม่นางแบบสาวแต่ไม่สดรอเหมราชอย่างใจเย็น ตั้งห้าชั่วโมงก็ยังไม่มีทีท่าว่าอีกฝ่ายจะกลับ นั่งไขว่ห้างเปิดทีวีดูแบบสบายใจไม่ต่างจากเป็นบ้านตัวเอง หลังจากที่กินอาหารเย็นที่ทำรอเจ้านายเอาไว้ซะดิบดี แต่ได้เสิร์ฟให้คู่นอนของเหมราชแทน“คุณเขาจะค้างที่นี่หรือเปล่าจ๊ะ”มะลิถามด้วยความอยากรู้ ชะเง้อคอมองไม่ต่างจากคนอายุมากที่ยืนชิดวงกบประตู“ไม่ได้ค้างหรอก”“ยังไงเหรอจ๊ะพี่อ้อย”“คุณเหมไม่เคยให้ใครมาค้าง ถ้ากลับมายังไงต้องให้คนไปส่ง”นาเดียร์เป็นคู่นอนของเหมราชก็จริง แต่ไม่มีอภิสิทธิ์ได้นอนค้างอ้างแรมที่คฤหาสน์หลังนี้ รวมทั้งคนอื่นๆ ที่มาเฟียหนุ่มหิ้วมานอนด้วยในตอนมีอารมณ์อยากตามประสาผู้ชายก็ไม่มีสิทธิ์เช่นกัน ทุกครั้งหลังเสร็จกิจก็จะให้คนสนิทหรือบอดี้การ์ดส่งกลับคอนโด ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนได้นอนบนเตียงของเขาเลยสักคน ครั้นตรงนี้คือพื้นที่ส่วนตัวที่เขาอนุญาตให้ก้าวขาเข้า
รถยุโรปสีดำเงาก็เคลื่อนตัวมายังคฤหาสน์ภายในสิบนาที เป็นเวลาค่อนข้างดึกมากทีเดียว ลมเหนือและลูกน้องคนอื่นที่รอเปิดประตูให้ต่างแยกย้ายกันไปพักผ่อน ส่วนเหมราชก็ถอดสูทพาดแขนจะเดินขึ้นบันได ทว่าดวงตาคมกลับเห็นไฟในห้องครัวเปิดสว่างจ้าหลายดวง“เล่นเปิดไฟทั้งบ้าน”แอบหงุดหงิดเล็กน้อยที่แม่บ้านไม่รู้จักทำหน้าที่ให้เรียบร้อย เมื่อทุกคนเข้านอนหมด ก็คงเป็นเขาที่ต้องเดินปิดไฟ ก้าวเท้าเข้าห้องครัว กำลังวางมือแตะสวิตช์เพื่อปิดไฟก็เห็นว่าแม่บ้านของตนนอนฟุบหลับคาโต๊ะกันทั้งสองคิ้วหนาย่นหากัน ทำไมมะลิกับอ้อยควั่นมานอนกองอยู่ตรงนี้ เอื้อมมือหมายจะเขย่าตัวเพื่อปลุกให้ตื่นแล้วแยกย้ายกันเข้าห้องก็ชักมือกลับเพราะเปลี่ยนใจ เหมราชกระตุกมุมปากยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ เสื้อสูทตัวแพงที่ถือมาด้วยถูกวางบนโต๊ะสำหรับประกอบอาหาร แกะกระดุมแขนเสื้อและพับขึ้นอย่างลวกๆ จากนั้นช้อนคนหลับให้เบาที่สุดเข้าอ้อมแขน มาเฟียหนุ่มอุ้มมะลิในท่าเจ้าสาวขึ้นมา มองใบหน้ากลมมนที่บู้บี้มีรอยนอนทับแขนตัวเองแดงบนแก้มข้างซ้าย แล้วพาคนหลับสนิทขึ้นห้องไป ส่วนอ้อยควั่นก็ปล่อยให้นอนอยู่แบบนั้นบนเตียงนอนมียัยลูกหนี้ร่างอวบนอนสลบเหมือดราวกับคนโด
สองวันต่อมาเหมราชกำลังวุ่นวายอยู่กับโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ห้าสิบไร่ แม้จะเพิ่งซื้อขายกันได้สองอาทิตย์ แต่ทุกอย่างถูกเตรียมการอย่างรวดเร็ว มีการถมดินปรับพื้นที่ให้สูงและมีวิศวกรลงหน้างานแล้วเรียบร้อย ยังเหลือในส่วนของแบบแปลนบ้านที่ส่งมาจากบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง แต่เหมือนว่าจะยังไม่เป็นที่พอใจแก่มาเฟียหนุ่ม“ไม่ได้ดั่งใจสักอย่าง”พูดจบก็ขว้างสิ่งที่อยู่ในมือทิ้งทันที หงุดหงิดเป็นอย่างมากเพราะอีกไม่นานเขาต้องเดินทางไปจังหวัดนครราชสีมา เอกสารแปลนบ้านหลายฉบับกระจัดกระจายบนพื้น เป็นจังหวะที่ลมเหนือเปิดประตูมาพร้อมกับแก้วกาแฟร้อนๆ เข้ามาได้ก็เห็นกระดาษตกเกลื่อน เรียวคิ้วพลันขมวดเข้าหากัน ครั้นเมื่อเช้าเจ้านายก็ยังดูอารมณ์ดี แต่ผ่านมาไม่กี่ชั่วโมงกับอารมณ์เสียขึ้นมาดื้อๆเรียวคิ้วพลันขมวดเข้าหากัน ครั้นเมื่อเช้าเจ้านายก็ยังดูอารมณ์ดี แต่ผ่านมาไม่กี่ชั่วโมงกับอารมณ์เสียขึ้นมาดื้อๆ“ใครทำคุณเหมอารมณ์เสีย”“ก็บริษัทเหี้ยนี้ไง มันให้สถาปนิกคนไหนทำ”พูดออกมาด้วยท่าทางหงุดหงิด เหมราชไม่สบอารมณ์อย่างมาก ไว้ใจเพราะเห็นว่ารู้จักกันมาในระดับหนึ่ง แต่ไม่นึกว่าจะทำงานชุ้ยได้ขนาดนี้ ก
ห้างสรรพสินค้าตั้งแต่มะลิเข้ามาทำงานใช้หนี้ที่คฤหาสน์ของมาเฟียหนุ่ม สถานที่ที่เคยไปก็คงไม่พ้นตลาดสดและร้านสะดวกซื้อที่อยู่หน้าปากซอย นอกนั้นมะลิก็ไม่เคยได้ออกไปเปิดหูเปิดตา ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ทำมะลิตื่นตาตื่นใจ แม้จะเคยอยู่กรุงเทพมาก่อนหน้านี้ แต่มันก็เป็นช่วงในวัยเด็ก มันผ่านมาแล้วตั้งสิบสามปี ทุกอย่างมันก็ย่อมเปลี่ยนแปลง“ใหญ่จัง”“ไม่เคยมาเหรอมะลิ”ลมเหนือที่นั่งอยู่ฝั่งคนขับถามขึ้น เมื่อท่าทางตื่นเต้นของคนอายุน้อยทำเขาแอบตลก“เคยจ้ะ แต่ห้างไม่ใหญ่เท่านี้”มะลิเอาใบหน้ากลมมนแนบกับกระจกรถ มองด้านนอกที่อัดแน่นไปด้วยผู้คนและรถราจำนวนมาก ขณะที่เหมราชนั่งข้างๆ ก็เหล่หางตามองท่าทางนั้นราวกับว่าไม่เคยเห็นมาก่อน“หึ”เขาแค่นเสียงออกมาหนึ่งที ทำมะลิที่กำลังสนอกสนใจห้างขนาดใหญ่ หันหน้ากลับมามองชายหนุ่มในทันที ใบหน้าที่แสดงออกมาเหมือนมีคำถามว่าเหมราชเป็นอะไร แต่ก็ไม่กล้าถาม นั่งนิ่งติดขอบประตูรถเว้นระยะจากมาเฟียหนุ่มไปได้สักพัก รถคันหรูก็เคลื่อนเข้าจอดสำหรับลูกค้าวีไอพีลมเหนือลงจากรถก่อนคนแรก เปิดประตูให้เจ้านาย พร้อมกับมะลิที่เปิดเองโดยไม่ต้องรอ ชายหนุ่มสวมชุดสุภาพ เสื้อเชิ้ตสีฟ้าเข้มไม
คำตอบของมะลิไม่ต่างจากการหักหน้ามาเฟียหนุ่ม มีที่ไหนจะซื้อของให้ยังปฏิเสธกัน ดวงตาคมมองพนักงานที่ยืนรอบัตรเครดิตเพื่อจ่ายรูด ก่อนจะตวัดกลับมาที่มะลิอีกครั้ง ยัยแคระยืนทำหน้ายับราวกับเป็นเด็กกำลังถูกบังคับป้อนยาขมๆ เขาส่ายหน้ากับความไม่รู้จักได้ไม่โลภมากอย่างคนอื่น แต่กระนั้นตั้งใจชวนมาช้อปปิ้ง มาเลือกซื้อของใช้ส่วนตัวทั้งที ได้กลับไปเพียงน้อยนิดคงไม่ใช่เหมราช ก่อนจะชี้ไปยังเสื้อที่แขวนแล้วเอาอีกหนึ่งตัว จากนั้นยื่นบัตรใบสีดำวงเงินใช้จ่ายได้ไม่เกิน 50 ล้าน ให้กับพนักงานแคชเชียร์ในทันที“ใบนี้ รูดเลย”“คุณเหม ทำไมไม่ฟังมะลิบ้าง”ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ เหมราชไม่มีทีท่าฟังกัน มีแต่ซื้อประชดจนมะลิอยากหนีกลับบ้าน“เตี่ยฉันยังไม่ฟัง -- เธอเป็นใคร” “แล้วมะลิเป็นใคร ทำไมต้องซื้อของแพงๆ แบบนี้ให้กันด้วย”คำถามจากมะลิทำเหมราชชะงัก ไม่อ้าปากโต้ตอบทั้งที่นิสัยไม่ยอมใครให้ใครชนะ มันจะมีเหตุผลอะไรที่คนเราซื้อของดีมีราคาให้กันขนาดนี้ ก็ทำเป็นเพิกเฉยไม่สนใจและยืนรอสลิปที่กำลังพิมพ์ออกมา"เรียบร้อยค่ะคุณเหม"เหมราชรับบัตรเครดิตพร้อมใบเสร็จ เก็บใส่กระเป๋ากางเกงแล้วรับถุงจากพนักงาน รับหน้าที่ถือของให้ลู
“เจ้าสัวครับ คุณเหมมา” “ไอ้หยา!! อั๊วไม่ได้ตาฝาดใช่ไหม”หัสดินหันมองพร้อมกับอุทานออกมาคล้ายคนตกใจ แต่ก็ไม่ใช่ รู้สึกแปลกใจจนต้องคิ้วสีหงอกย่นเข้าหากัน ครั้นจู่ๆ เช้านี้ก็เห็นลูกชายมาหาถึงบ้าน จากที่กำลังรำไทเก๊กก็หยุดชะงักในทันที ยืนมองเหมราชอย่างสนอกสนใจที่แต่งตัวด้วยสูทสีเข้มผูกเนคไทอย่างสุภาพเพราะต้องเข้าบริษัทต่อ ชายหนุ่มพาร่างกายสูงใหญ่เดินท่วงท่าทะมัดทะแมงมาหาเตี่ยที่สนามหญ้ากว้างข้างบ้านหลังโตและหยุดยืนอยู่ข้างๆ“ออกกำลังต่อสิ ไม่ต้องมองกันขนาดนั้น”“อั๊วไม่ได้ฝัน”“เอาแต่พอดีเตี่ย ผมไม่ได้มาบ้านหลังนี้แค่ไม่กี่เดือน”ได้ยินประโยคนั้นหัสดินถึงกับหัวเราะร่า ลูกชายน่าจะความจำสั้นหรือความจำขาดหายไปบางช่วงบางตอน เหมราชไม่ได้มาบ้านหลังนี้นับดูก็น่าจะครบปีได้ เพราะก่อนหน้านี้เหมราชเดินทางไปดูแลกาสิโนที่อยู่ต่างประเทศหลายเดือน กลับมาไม่กี่วันก็บินกลับไปอีกครั้ง และส่วนมากมีแต่ลมเหนือที่ได้รับคำสั่งจากเจ้านายให้มาเยี่ยมเยียนและดูแลเขาแทนลูกชายเป็นครั้งคราว จนกระทั่งอยากป่วยเพื่อเรียกร้องความสนใจให้ลูกชายกลับมาและอยู่ทำงานยาวๆแบบยังไม่กลับไปต่างประเทศอีกรอบ และส่วนมากจะเจอกันตามประสาพ่
โครงการอสังหาริมทรัพย์ค่อนข้างไปได้สวย หลังจากที่ได้สถาปนิกคนใหม่ออกแบบแปลนโครงการบ้านในแต่ละเฟต ที่เหลือคือรอฤกษ์พิธีลงเสาเข็มตามความเชื่อของคนไทยเหมราชกลับจากประชุมงานเสร็จในตอนบ่ายสาม เพราะความเหนื่อยและความเครียดสะสมเป็นเหตุให้ชิ่งกลับมาคฤหาสน์ พื้นที่ส่วนตัวที่เขาอยู่แล้วรู้สึกผ่อนคลายและสบายใจมากกว่าอยู่ข้างนอกรถยนต์หรูคันคู่ใจเคลื่อนเข้ามา มะลิและอ้อยควั่นที่กำลังนั่งกินของเคี้ยวเล่นก็ชะเง้อมองพร้อมกัน ต่างก็ทำหน้าสงสัยที่เห็นเหมราชกลับบ้านเร็วกว่าทุกวัน“คุณเหมมาจ้ะ”“สงสัยคงเหนื่อย ช่วงนี้คุณเหมทำงานหนักมาก”สภาพของเหมราชในแต่ละวันดูอิดโรยไม่น้อย เพราะตั้งแต่มีโครงการอสังหาริมทรัพย์เฟตใหม่เกิดขึ้นมา ก็เหมือนว่าเวลาพักผ่อนของมาเฟียหนุ่มจะหายไปมากกว่าเดิม จากที่เคยมีเวลาว่างพอได้ยินลูกสนุ๊กเล่น ตอนนี้ก็เข้าห้องประชุมเป็นหลักดวงตาหวานมองตามร่างสูงที่ลงจากรถ ก็เห็นว่าเหมราชเดินสะบัดคอเข้าไปด้านใน เสื้อสูทถอดออกให้ลมเหนือเป็นคนถือตามเข้ามา ส่วนเชิ้ตบนกายก็ยับยู่ยี่ราวกับว่ามันไม่ได้ถูกรีดเลย จากนั้นชายหนุ่มก็หายเข้าไปในห้องทำงาน มะลิพอเดาได้ว่าเหมราชคงจะต้องสะสางงานต่อ เห็นแบบน
“อยากกินนมจากเต้า”ได้ยินก็อ้าปากหวอ นมจากเต้ามันก็คือหน้าอกของเธอเอง สองมือดันที่อกแกร่งครั้นเหมราชขยับเข้ามาชิด หมายจะดันให้เขาถอยห่างแต่ก็เหมือนว่าแรงน้อยนิดจะสู้คนตัวโตกว่าไม่ได้ มือหนาก็วางทาบที่หน้าอกกลมกลึง บีบเบาๆ สัมผัสความนุ่มนิ่มเสียก่อน ผ่านเสื้อยืดตัวเก่งที่ชอบใส่ประจำ การสัมผัสจากเหมราชทำมะลิตัวเกร็งหนัก ครั้นส่วนอ่อนไหวของร่างกายถูกบีบเคล้นและถูกลมหายใจร้อนเป่ารดชิดริมหู“คุณเหม ฮื่อ…”“ได้ไหม”“มะ...ไม่ได้ นมมะลิ คุณเหมจะมาดูดไม่ได้”“ตอนเด็กๆ ฉันก็เคยกินนมตรามะลิ โคตรหวาน”“แต่นี่นมมะลิ ที่เป็นนมคน ไม่ใช่นมกระป๋องอย่างที่คุณเหมกิน”ความหมายเหมราชก็ไม่ต่างจากการอยากดูดดื่มนมมะลิ ที่หมายถึงผู้หญิงตรงหน้า หากได้กินอะไรหวานๆ ความเหนื่อยที่สะสมมาคงหายเป็นปลิดทิ้งนอกจากความร้ายกาจที่มีในตัว ความดื้อดึงก็มีมากไม่ต่างกัน ไม่ปล่อยมะลิให้ลงจากโต๊ะ มีแต่โอบกอดร่างอวบให้แนบชิดกายกัน สะโพกหน้าเบียดแทรกเข้ากลางหว่างขา แม้มะลิจะใช้แรงหนีบไม่ให้ชายหนุ่มเบียดแทรกเข้ามาก็ไม่เป็นผล ต้นขาอ้าออกกว้าง สะโพกหนาของเหมราชก็แทรกอยู่ตรงกลางคราวนี้ใบหน้ากลมมนถูกมือหยาบล็อคที่คาง ดันให้เชิดจาก
เช้าวันต่อมา บรรยากาศในเมื่อคืนกลายเป็นเรื่องที่สนุกสนาน เมื่อเพื่อนบ้านเห็นว่ามีรถคันหรูจอดหน้าบ้านยายใหม่ตั้ง 2 คันก็แวะเวียนเข้ามาทักทายตามประสาคนอยากรู้อยากเห็น เรื่องราวของมะลิดังไปทั่วหมู่บ้านภายในค่ำคืน แต่ก็เป็นเรื่องราวดีๆ ที่คนพูดถึง ทว่าโดนสบประมาทว่ามะลิอาจเป็นเพียงเมียน้อยของเจ้าหนี้มาเฟีย แต่เมื่อเจ้าตัวออกมายืนยันด้วยตัวเอง พร้อมกับหัสดินว่ามะลิคือเมียหนึ่งและเมียเดียวของตระกูลอัครพิสุทธิ์สิน ทุกคนที่เอาแต่จ้องสงสัยและจ้องนินทาก็หายแคลงใจ ส่วนยายหมายก็โล่งอกในทันที หลังจากที่แอบคิดมากมานาน เป็นเดือนๆ ว่าหลานสาวอาจเป็นเพื่อนของเล่นคนรวยเป็นเพียงคนขัดดอก “ฝีมือยายไหม อร่อยเหมือนมะลิเลยนะ ลื้อว่าไหมอาเหม” หัสดินพูดออกมาอย่างชื่นชม ขณะที่ยังนั่งขัดสมาธิบนแคร่ไม้ นั่งล้อมวงกินมื้อเช้าในบรรยากาศที่แตกต่างจากที่เคยเป็น แต่ทว่าชายมีอายุกลับรู้สึกชื่นชอบกับธรรมชาติที่อยู่รอบตัว หรืออาจจะรู้สึกชื่นชอบเพราะเจอคนที่ถูกใจ สายตาหัสดินที่มองยายไหมทำเหมราชหนักใจ แม้จะเคยอนุญาตให้เตี่ยมีเมียอีกสักคนแต่ก็ไม่นึกว่าเตี่ยจะแสดงอาการหนักเมื่อเจอยายของมะลิ เล่นหูเล่นตาแพรวพราวราวกับตัวเอง
สามวันต่อมาเชียงรายสายการบินดับเบิ้ลบี ไฟล์ท TG9397 แลนดิ้งถึงสนามบินในช่วงเวลาบ่ายโมง เป็นครั้งแรกที่มะลินั่งเครื่องบินก็ตื่นเต้นตลอดการเดินทาง เป็นการกลับบ้านในรอบหลายเดือน ตั้งแต่มะลิมาทำงานใช้หนี้เพื่อแลกกับที่ดินของยายการเดินทางมาเพียงสองคน เหมราชยอมเลื่อนงานที่ต้องจัดการภายในสองสามวันนี้ออกไปเป็นอาทิตย์และพาเมียมาหายายที่คิดถึง ลงจากเครื่องก็มีรถเช่ามารอรับ ครั้นลมเหนือติดต่อจองไว้ให้เพราะเหมราชไม่ได้ขับรถส่วนตัวมาเองรถยนต์ยุโรปมีค่าเช่าหลักหมื่นต่อวันเคลื่อนตัวไปถนนทางหลวงและมุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านแม่กลองทันที มะลินั่งบีบมือที่ชื้นไปด้วยทั้งกลัวและตื่นเต้นจนหัวใจเต้นตึกตัก แต่ทว่าได้มือหนาของเหมราชกุมกระชับจนกระทั่งมาจอดหน้าบ้านพื้นดินที่ยังชื้นจากฝนที่ตกหนักเมื่อคืนส่งผลให้สวนผักของยายเขียวขจี บรรยากาศโดยรอบเงียบเพราะคนแถวนั้นต่างก็ออกไปทำงานในตอนกลางวันและส่วนมากก็ทำไร่ทำสวนกันทั้งนั้น มะลิเปิดประตูลงมา ยืนท่ามกลางแดดจ้ามองบ้านทรุดโทรม พลันนั้นน้ำตาไหลเองอย่างไม่อาจห้าม เป็นครั้งแรกที่ห่างจากยายนานมากขนาดนี้ หากไม่นับตอนเคยอยู่กับพ่อ มองพื้นที่ทำมาหาอันเล็กน้อยที่เคยกลัวว่
มะลิเหนื่อยจากการอ้วกแบบหมดไส้หมดพุงก็ม่อยหลับราวกับว่าสลบไสล ส่วนเหมราชก็หอบหมอนและผ้าห่มมานอนบนโซฟา เมื่อคนอายุน้อยไม่ยอมให้เข้ามานอนกอดเพราะเหม็นตัว แม้จะเข้าไปอาบน้ำใหม่อีกรอบและพรมน้ำหอมชนิดที่ฉุนจนแสบจมูกก็ยังมีกลิ่นที่มะลิไม่ชอบอยู่ดี อาการช่างแปลกๆ ทำเขาแอบตื่นเต้นนอนไม่หลับ นั่งมองเมียรักและเดินไปเดินมาคนเดียวแทบทั้งคืนรุ่งเช้า...ดวงตาปรือปรอยในเช้าวันใหม่ มะลิตื่นในช่วง 8 โมงเช้า สายกว่าเมื่อวานไปตั้งหนึ่งชั่วโมง ขยับกายที่รู้สึกดีขึ้นเมื่อคืนนั่งบนเตียง ให้อาการงัวเงียดีขึ้นแล้วค่อยๆ ปรับโฟกัสดวงตากลมให้มองชัดขึ้น ในห้องเหลือแค่ตัวเองเพียงคนเดียวก็นึกว่าเหมราชคงออกไปทำงานเหมือนเช่นทุกวัน“ตื่นสายไม่ได้ส่งพี่เหมขึ้นรถไปทำงานเลย”ตำหนิตัวเองที่เดี๋ยวนี้เป็นคนเหลวไหล แม้จะเข้านอนเร็วกว่าปกติก็ยังเป็นยัยแคระขี้เซาอยู่ดี แบบนี้เขาเรียกว่าทำหน้าภรรยาบกพร่องไหมนะกำลังก้าวขาลงจากเตียง เสียงเปิดประตูดังขึ้น มะลิตกใจที่จู่ๆ มีคนถือวิสาสะเปิดเข้ามาเพราะหากตัวเองโป๊เปลือยอยู่คงเป็นภาพที่ไม่เหมาะสม ทว่ากลับเห็นเป็นร่างสูงของเหมราชเดินเข้ามาด้วยท่าทางรีบๆ และยังสวมชุดนอนตัวเมื่อคืนอยู
ขณะที่คนอยู่ในออฟฟิศก็นั่งยิ้มมองจอมือถือไม่ต่างจากมะลิเสียเลย ลมเหนือที่ยืนรองานก็มองเจ้านายด้วยสายตารอคอย ที่จู่ๆ ก็ลอยแพให้เขายืนอยู่แบบนั้นหลายนาทีได้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้โทรตามให้เขาเข้ามารับเอกสารสำคัญ เพื่อที่จะส่งต่อให้กับธนาคาร แต่พอเข้ามาเหมราชก็เอาแต่สนใจหน้าจอมือถือ พลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่เงยหน้ามามองกันเลย“ฮึมมมม”ลมเหนือกระแอมเสียงเบาๆ ก็เหมือนว่าเจ้านายจะไม่ได้ยิน ก่อนจะเพิ่มระดับเสียงดังขึ้นมาอีกหนึ่งครั้ง พลันนั้นดวงตาคมก็ตวัดมองคนสนิทด้วยแววตาออกดุทันที ราวกับว่าเขาเข้ามาขัดจังหวะ แต่เปล่าเขาเข้ามาตามคำสั่งของเจ้านาย“งานก็วางอยู่ตรงนั้น มึงไม่แหกตามอง”ลมเหนือเสดวงตามอง เป็นซองสีน้ำตาลด้านในคือเช็คจ่ายค่าจ้างในส่วนต่างๆ ที่นอกเหนือการจ่ายจากบัญชีของบริษัท“ขอโทษครับ ผมเข้ามาก็เห็นคุณเหมยิ้มจนตาหยี ตั้งแต่ได้คุณมะลิมาเป็นเมียยิ้มจนร่องหมากขึ้นเลยนะครับ”โดนลูกน้องแซวเข้าให้ เหมราชเป็นคนยิ้มยาก ตั้งแต่ลมเหนือทำงานเป็นลูกน้องที่จงรักภักดีเขาก็แทบนับครั้งได้ที่เห็นเจ้านายฉีกยิ้มออกมา และมุมปากที่แขวนขึ้นส่วนมากมาจากเรื่องของธุรกิจที่มันประสบความสำเร็จ แต่ทว่าตอนนี้เหมราช
“คุณเหมกลับมาค่ะคุณมะลิ”“ไม่ใช่ พี่เหมเข้าผับต่อ”สรรพนามที่เปลี่ยนไปทำอ้อยควั่นยกมือมาแต่ปาก เบิกดวงตากลมโตราวกับว่าไม่เชื่อ ไม่เคยได้ยินใครเรียกเหมราชแบบนี้ แม้แต่ผู้หญิงที่เป็นคู่นอนของเหมราชอายุน้อยกว่าเป็นสิบปี มาเฟียหนุ่มก็ไม่อนุญาตให้เรียกสิทธิ์นั้นได้แค่มะลิคนเดียว...เมื่อสงสัยว่าเป็นใครก็เดินออกไปดูพร้อมกัน รถยนต์คันคุ้นตาไม่ใช่ใครที่ไหน เจ้าสัวหัสดินมาพร้อมกับของที่ติดมือมาอย่างมากมาย“เจ้าสัว...สวัสดีจ้ะ”มะลิยกมือไหว้พร้อมกับพี่อ้อยควั่น หัสดินที่กำลังเดินขึ้นบันไดไม่กี่ขั้นเพื่อเข้ามาด้านในแต่มีลูกน้องประคองกันล้ม ก็ยกมือปัดครั้นได้ยินคนอายุน้อยเรียกไม่เข้าหู“อามะลิ! ผัวลื้อไม่สั่งสอนหรือไง ว่าต้องเรียกอั๊วว่าเตี่ย”“...” มะลิทำหน้านิ่งแล้วกลอกตามองอ้อยควั่น“พวกลื้อ ขนของมาให้ลูกสะใภ้ ขนมาหมดทุกอย่าง เข้าใจไหม” เขาหันไปตะโกนบอกลูกน้อง“เข้าใจครับ”หัสดินเดินนำไปห้องรับแขก เมื่อเป็นบ้านของลูกชายไม่จำเป็นต้องรอใครเชิญ เขาสามารถเดินเข้าออกประหนึ่งเป็นเจ้าของ ชายมีอายุหย่อนกายนั่งบนโซฟาตัวนิ่ม พร้อมกับครางเสียงกับอาการปวดเนื้อปวดตัวตามประสาคนแก่ส่วนมะลิที่เดินก้มหน้าตาม
...ร่างอวบอัดขยับกายขึ้นแล้วนั่งบนเตียง ผมเผ้าที่ยาวสลวยแต่มันก็ยุ่งเหยิงมากทีเดียวในตอนตื่น แม้ไม่ใช่คืนแรกที่มะลิเข้ามาใช้ห้องนอนของเหมราช แต่ก็นับว่าเป็นคืนแรกในฐานะคุณนายของบ้านอย่างเต็มตัว ดวงตากลมกะพริบถี่ๆ เพื่อปรับโฟกัสมองหาชายที่นอนอยู่ข้างกัน แต่กลับไม่เห็นเพราะว่าตอนนี้เขาลุกออกจากเตียงไปก่อนเธอเสียแล้วมะลิที่อยู่ในชุดนอนลายน่ารักก้าวเท้าลงจากเตียง เป็นจังหวะที่เหมราชเปิดประตูห้องน้ำออกมาพอดี ร่างสูงแต่งกายสุภาพ สวมเสื้อเชิ้ตสีกรม กางเกงสแลกสีดำและกำลังผูกเนคไทเข้าที่คอ“ตื่นแล้ว”“จ้ะ มะลิตื่นแล้ว”“...”เหมราชทำเพียงยิ้มตอบและวุ่นวายกับเนคไทที่พาดบนคอ“วันนี้คุณเหมจะเข้าบริษัทเหรอจ๊ะ”“ใช่ ขอเคลียร์งานอีกนิดหน่อย”เพิ่งกลับมาจากดูโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่นครราชสีมา วันต่อมาเหมราชก็เตรียมตัวเข้าบริษัทอย่างเช่นเคย เดินทางไม่ไกลแต่ก็ทำให้เหนื่อยมากพอตัว เขากลับไม่ยอมหยุดพักผ่อน ไม่แปลกใจเลยทำไมทุกอย่างที่เขาสร้างขึ้นถึงได้เติบโตแบบก้าวกระโดดมากขนาดนี้“ส่วนตอนหัวค่ำจะเลยเข้าผับ”ธุรกิจกลางคืนที่เขาทำมานานหลายปี ถึงรอบที่ต้องเข้าไปตรวจตรา เพราะโดยปกติเหมราชจะเข้าผับก็ต่อเมื
เหมราชที่ยืนนิ่งชั่วครู่ ก็ย่นคิ้วเข้มที่เห็นลูกน้องยืนมาตัวเองเป็นนัยน์ตาเดียวกัน ก็พลันขึงตามใส่กลับ แววตาอันน่ากลัวทำทุกคนกระจายตัวออกกันออกไป ส่วนเหมราชก็เดินเข้าไปในคฤหาสน์พร้อมกับเจ้าสัวที่หมุนตัวเดินตามลูกชายต้อยๆ แล้วหย่อนกายกลับเข้าไปนั่งที่เดิม “เตี่ยมานานแล้วเหรอ” ชายหนุ่มเอ่ยถามและแปลกใจไม่น้อยที่เห็นผู้เป็นพ่อ “ตั้งแต่เที่ยง โคราชมันอยู่ไม่ไกล ทำไมลื้อเพิ่งถึงอาเหม” เจ้าของชื่อยังไม่ตอบในทันทีแต่ขยับตัวไปยืนอยู่อีกมุม เขาควักบุหรี่ออกจากกระเป๋าเสื้อสูทเพื่อไม่ให้กลิ่นลอยคลุ้งไปในตำแหน่งที่หัสดินนั่ง จุดไฟแล้วคาบมันไว้ที่ปาก จากนั้นก็ดูดสารนิโคตินเข้าปอดอย่างหื่นกระหายครั้นอดทนอยากมาตลอดที่เดินทาง “รถมันติด” เหมราชก็ตอบตามความจริง สาเหตุของการมาช้ากว่าปกติก็เพราะรถในเมืองหลวงมันเนืองแน่น แต่ทว่านั่นไม่ใช่จุดสนใจของเจ้าสัวมากนัก “ลื้อกับอามะลิ...” พูดออกมาเพียงแค่นั้นคนฟังก็ตีความหมายของประโยคนั้นได้ เตี่ยของตนกำลังจะถามว่า เขาและมะลิเป็นอะไรกัน เหมราชยังทำท่าไขสือไปก่อน ตั้งใจดูดบุหรี่แล้วมองออกไปข้างนอก แต่เป็นการชะเง้อคอมองไปที่ห้องนอนของมะลิ หัสดินที่เห็นก็ลอบยิ้
คฤหาสน์เหมราช“นี่อาเหมยังไม่กลับอีกเหรอ”“ยังค่ะเจ้าสัว”อ้อยควั่นตอบพร้อมกับการเสิร์ฟน้ำชาร้อนๆ และขนมรองท้องให้หัสดิน ครั้นนั่งรถมาหาถึงที่แต่ก็ยังไม่เห็นว่าเหมราชจะกลับมา และทุกครั้งที่ลูกชายหายไปทำงานต่างประเทศหรือต่างจังหวัด นิสัยงอแงของหัสดินก็เกิดขึ้นไม่ต่างจากเด็ก“ไปเป็นอาทิตย์ไม่ติดต่อมาหาอั้วเลย เครนถล่มทับคอซี้แหง๋แก๋ไปแล้วมั้ง”หัสดินแอบบ่น ทุกครั้งที่เหมราชไปทำงานก็หายหัวไม่ติดต่อพ่อเลยสักครั้ง แม้แต่ข้อความสักประโยคก็ไม่มีส่งมา“คงกำลังมีความสุขน่ะค่ะเจ้าสัว”ชายมีอายุกำลังตั้งท่าจะยกแก้วชาขึ้นมาดื่ม ได้ยินที่อ้อยพูดก็หันมาสนใจอยากรู้ในทันที ไปทำงานมีแต่เรื่องปวดหัว เอาอะไรมามีความสุข“ลื้อหมายถึงอะไรอาอ้อย...อะไรที่ลูกชายอั๊วกำลังมีสุข”หัสดินเอ่ยถามออกมาพร้อมกับคิ้วหงอกๆ ที่ย่นเข้าหากันอย่างงุนงง และในตอนนี้เขาอยากรู้เสียเต็มประดา“มะลิก็ไปด้วยค่ะ”“มะลิ...อ๋อ อีที่ตัวอ้วนๆ คนนั้นใช่ไหม”เจ้าสัวทำท่านึก ก่อนจะจำได้ว่ามะลิคือลูกหนี้ที่เหมราชลากตัวมาทำงานชดใช้กับหนี้สิน“ใช่ค่ะเจ้าสัว ลากมะลิขึ้นรถไปด้วย แง่งอนกันเหมือนคนเป็นแฟน”“หึๆ”ที่แท้ความสุขที่แม่บ้านบอกมาคือกา
ครบหนึ่งอาทิตย์สำหรับการมาคุมงานที่นครราชสีมา ในส่วนของเหมราชจัดการแล้วเรียบร้อย ที่เหลือคือในส่วนของวิศวกรที่จะจัดการต่อ และหลังจากนั้นก็ใช้เวลาอีกสองวันอยู่พักผ่อน เสพบรรยากาศโดยไม่มีเรื่องงานเข้ามาปะปน กระทั่งถึงเวลาที่ต้องกลับกรุงเทพเพราะมีงานส่วนอื่นรออยู่ ข้าวของพับเก็บใส่กระเป๋าอย่างเรียบร้อยและลมเหนือกำลังขนขึ้นท้ายรถมะลิแอบเดินออกมาด้านนอกเพียงคนเดียวรอเหมราชที่ยังจัดการธุระส่วนตัวยังไม่เสร็จ เพราะอยากเสพบรรยากาศจนนาทีสุดท้ายก่อนจะก้าวขาขึ้นรถแล้วกลับกรุงเทพไป อากาศที่บริสุทธิ์ทำปอดน้อยๆ ได้รับโอโซนอย่างเต็มที่ ยืนกอดอกมองวิวทิวทัศน์ด้านหน้าเป็นเทือกเขาเขียวสวยช่างเป็นธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์อย่างมากเหมราชที่เดินออกจากห้องน้ำก็กวาดสายตามองหาคนอายุน้อยทันที ด้านหน้าเห็นเพียงลมเหนือกำลังจัดแจงกระเป๋าหลายใบให้เข้าที่ สวนมะลิกลับหายไปจากสายตาของเขา ทั้งที่ขอตัวเข้าห้องน้ำไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ“เหนือ มึงเห็นมะลิไหม”“ไม่เห็นครับ”คำตอบของผู้ใต้บังคับบัญชา ทำเหมราชหงุดหงิดเล็กน้อยแต่ก็เข้าใจได้ว่าลมเหนือกำลังจัดระเบียบกระเป๋าที่อัดแน่นอยู่ในท้ายรถ เลยไม่ทันได้สังเกตมองผู้หญิงของเจ้า