จางต้าหู่ไปแล้ว หลี่ฝูเหยาถอนหายใจเด็กคนนี้ยังคงคิดเผื่อชาวบ้าน ก่อนจะนำจดหมายหนึ่งฉบับส่งให้ซ่งจื่อหรู"ใต้เท้าเซี่ยท่านนั้นให้คนนำมาให้เจ้า ลองดูเถอะว่าเขาว่าอย่างไรบ้าง"ซ่งจื่อหรูเปิดอ่านเซี่ยหนานอินกล่าวในจดหมายว่าตอนนี้สถานการณ์ชายแดนทั้งสองไม่สู้ดี งบบรรเทาทุกข์คงไม่อาจมีให้เรื่องสร้างท่าเรือเขาเห็นด้วยติดขัดแค่งบประมาณ เขามีเงินส่วนตัวจำนวนหนึ่งประมาณแปดหมื่นตำลึง จึงอยากถามซ่งจื่อหรูคิดว่าจะทำเรื่องนี้ได้สำเร็จหรือไม่ หากทำได้จะให้คนนำเงินมาให้" หลานสี่เจ้ารู้จักกับใต้เท้าท่านนั้นด้วยหรือ" หลี่ไหลฝูเอ่ยปากถามหลานสาว"เจ้าค่ะท่านปู่ ครั้งก่อนเขามาติดต่อเรื่องมันเทศ ข้าปรึกษาว่าจะสร้างท่าเรือขนส่งสินค้าให้เมืองหลวงและขายไปยังต่างถิ่น และงดเว้นภาษีให้เรา ท่านปู่ใหญ่ใต้เท้าเซี่ยกล่าวว่าดูเหมือนงบบรรเทาทุกข์ไม่มีให้เราแล้ว แต่ใต้เท้าเซี่ยสามารถให้ข้ายืมเงินส่วนตัวเขามาใช้ได้ ท่านปู่ใหญ่รบกวนท่านช่วยไปคุยกับนายอำเภอสักหน่อย ว่าเราสามารถขอยืมทหารมาช่วยก่อสร้างได้หรือไม่ ประการแรกพวกเขาจะได้ควบคุมคนที่ชอบก่อความวุ่นวาย ประการที่สองอำเภอเองก็มีงบไม่พอจะเลี้ยงดูไพร่พล พวกเขาได้กินวัน
ซ่งจื่อหรูเอ่ยลาเพื่อนสนิทหูเจียวเจียวคว้าข้อมือนางแกว่งไปมาอย่างแง่งอนจนถูกป้าหูดุจึงยอมปล่อยมือซ่งจื่อหรู เมื่อมาถึงบ้านก็เห็นจิงอี้กลับมาแล้ว"พี่จิงอี้ได้ของครบหรือไม่เจ้าคะ""ได้ครบ มีชุดไฟสิบชุดเสื้อบุนวมสามตัว อ้อข้าไปซื้อสมุนไพรไล่แมลงมานะเผื่อไว้ก่อน จริงสิพี่ชายข้าไม่รู้ไปไหน ทำไมข้ายังไม่เห็นเขาเลยตั้งแต่ไปส่งสำรับตอนเช้าที่บ้านท่านปู่ของท่าน"จิงอี้บ่นอุบอิบ"พี่จิงอี้ท่านรอบคอบนัก ส่วนพี่จิงเสวียนไปช่วยงานท่านปู่ข้าน่ะ พอดีเดี๋ยวจะมีคนมารับไก่ที่ขาย พี่ใหญ่กับพี่รองไม่อยู่ไปสำนักศึกษาแล้ว พี่จิงเสวียนจึงช่วยคำนวนให้ว่าตรงกันหรือเปล่า"จิวอี้พยักหน้าก่อนจะหยิบกล่องขนมส่งให้ซ่งจื่อหรูแล้วทำท่าทีเขินอาย"เอ่อแม่นางซ่ง ข้ากินของๆเจ้าทุกวันเลยข้าเกรงใจนี่ขนมข้า ๆซื้อมาฝาก"ซ่งจื่อหรูหัวเราะพร้อมกับเอ่ยขอบคุณเขา จากนั้นก็ไปดูอาการฮั่วหรานในห้อง เด็กสองคนเช็ดหน้าเช็ดตาให้นางอยู่ ซ่งจื่อห่าวนั่งอ่านตำราอยู่ข้างๆ"พอแล้วๆ แม่ดีขึ้นแล้วละเซียนเอ๋อร์ ขอบใจเจ้าด้วยนะอาเย่ว""ท่านอาสะใภ้เห็นท่านป่วยแบบนี้จื่อเย่วปวดใจมากๆเจ้าค่ะ จื่อเย่วกินข้าวไม่ได้เลย"" ใช่เจ้าค่ะท่านแม่พี่จื่อเย่วพ
แสงอาทิตย์เริ่มรำไรตอนนี้น่าจะยามเฉิน( 07.00-08.59) เนื่องจากอยู่ในป่ามีต้นไม้รกครึ้มจึงทำให้แสงสว่างรอดลงมายาก เมื่อวานขึ้นเขาตอนบ่ายมากแล้วจึงยังเข้าไม่ลึกนัก ทำให้พอเห็นแสงอาทิตย์บ้าง ซ่งจื่อหรูเก็บเปลขึ้นก่อนจะไต่ต้นไม้ลงมา จิงอวี้และเมิ่งหยวนกระโดดทีเดียวก็สมารถยืนลงพื้นอย่างง่ายดาย" ไปล้างหน้ากันเถอะ ข้านำอาหารแห้งมาด้วย เดินไปค่อยหาล่ากระต่ายป่าหรือไก่ป่าสักตัวไว้มื้อหน้า""แม่นางซ่ง หากล่าไม่ได้เล่า สัตว์ป่าล่าง่ายถึงเพียงนั้นเชียวหรือ ท่านหมอเมิ่งล่ะท่านได้เตรียมอาหารมาบ้างหรือไม่"จิงเสวียนเอ่ยถามผู้ชายตรงหน้า เขาขึ้นเขากับท่านอ๋องอยู่บ่อยครั้งแม้ว่าในบรรดาองครักษ์เขาจะมีฝีมือ แต่กับสัตว์ป่าเขากับล่าไม่เคยได้สักตัว เมิ่งหยวนไม่ตอบคำถามเขา แต่เดินไปทางลำธารเพื่อล้างหน้า"แม่หนูซ่งเจ้าไม่เติมน้ำสักหน่อยหรือ ป่าลึกไม่รู้ว่าจะเจอลำธารอีกตอนไหน หากน้ำหมดพวกเราจะลำบาก"ซ่งจื่อหรูส่ายหน้านางมีมิติอยู่แล้วแค่ล้วงออกมาก็ใช้ได้ แต่ที่ไม่เติมนางมีเหตุผลมากกว่านั้น"ข้ายังมีน้ำอยู่เจ้าค่ะ รีบกินแล้วเดินต่อเถอะต้องขึ้นไปข้างบนอีกสักพักน่าจะถึงตอนค่ำๆ"ซ่งจื่อหรูเอ่ยกับทั้งสองคน จิงอี้เด
ด้านจิงอี้เมื่อไม่มีใครอยู่แล้วก็เอ่ยกับบุรุษตรงหน้า"องค์ชายใหญ่ กระหม่อมจิงอี้พะย่ะค่ะทรงจำได้หรือเปล่า"จ้าวเทียนหยางมองหน้าจิงอี้อีกครั้งก็จำได้ทันที"จิงอี้เป็นจิงอี้จริงๆด้วย เสด็จพี่พวกเราในที่สุดก็จะพบเสด็จอาเสียที""จิงอี้หรือ เจ้าสบายดีหรือไม่ เสด็จอากับพระชายาล่ะ หรงเอ๋อร์ด้วยพวกเขาเป็นเช่นไรบ้าง"จ้าวเทียนเฟยเอ่ยถาม เสียงอ่อนแรงเต็มทีน่าแปลกที่พอล้างแผลแล้วเหมือนพิษที่โดนจะเจือจางลง"ท่านอ๋องกับซื่อจื่อสบายดี แต่พระชายาเหมือนจะถูกคนของหลิวกุ้ยเฟยวางยา กระหม่อมกับแม่นางซ่งที่ช่วยพระองค์จากหมาป่าผู้นั้นจึงขึ้นเขามาเก็บสมุนไพรบางอย่างพะย่ะค่ะ""นางเป็นสตรีหรอกหรือ"จิงอี้ค่อยๆพยุงจ้าวเทียนเฟยไปยังพื้นที่ปูด้วยใบไม้แล้วให้เขานอนลง"องค์ชายทรงพักผ่อนเถอะพะย่ะค่ะ แม่นางซ่งเก่งมากอีกทั้งยังมีท่านหมอเมิ่งมาด้วย"จ้าวเทียนเฟยพยักหน้าก่อนจะหลับตาจิงอี้จึงถามเรื่องราวจากองค์ชายห้าแทน"ข้าได้ข่าวว่าเสด็จอาจะมาที่อำเภอเป่าซานจึงไปพักแล้วรอที่นั้น มีคนส่งข่าวให้จึงรีบออกมาพบ แต่ถูกคนโจมตีหลังจากนั้นเสด็จพี่ถูกยิง ส่วนฉินลู่กับฉินตงหลอกล่อพวกเขาไปอีกทางให้ข้ากับเสด็จพี่หนีมา จนมาถึงที่นี
ครึ่งชั่วยามต่อมาจ้าวเทียนเฟยก็ฟื้น"ข้าชื่อจ้าวเฟย ส่วนน้องชายข้าจ้าวหยาง ขอบพระคุณพวกท่านมาก"จ้าวเทียนเฟยพูดขอบคุณแต่มิได้บอกชื่อจริงแก่พวกเขาซ่งจื่อหรูพยักหน้ารับรู้ นางแค่ช่วยชีวิตคนเรื่องอื่นไม่ใช่ปัญหาของนาง แค่ต้องรับมือกับยายเฒ่าประสาท วันๆนึงก็เหนื่อยพอแล้ว ทั้งคู่แปลกใจที่นางไม่ถามว่าเหตใดพวกเขาจึงได้รับบาดเจ็บ จ้าวเทียนหยางจึงเอ่ยขึ้น"เจ้าหนูแซ่ซ่ง เจ้าไม่อยากรู้หรือเหตุใดพวกข้าถูกทำร้าย"เมิ่งหยวนเองก็มองหน้าซ่งจื่อหรู จิงอี้เองก็อยากรู้ว่านางอยากรู้ต้นสายปลายเหตุหรือไม่แต่ซ่งจื่อหรูกล่าวเพียงว่า"ข้าถือคติ อยากรู้เรื่องคนอื่นให้น้อยลง ก็มีชีวิตยาวนานขึ้น หากอาการดีขึ้นพวกเจ้าสามารถไปได้ทุกเมื่อ ข้าไม่รู้ว่ายังมีศัตรูของพวกเจ้าตามหาอยู่หรือไม่ หมู่บ้านข้าชาวบ้านหากินเลี้ยงปากท้องเท่านั้น ข้าไม่อยากให้พวกเขามีอันตรายพวกท่านไปเถอะ"จากนั้นก็สะพายตระกร้าขึ้นหลังจากไป จิงอี้ส่งสายตาให้ทั้งคู่จ้าวเทียนหยางพยักหน้าเบาๆจนผู้อื่นไม่อาจสังเกตได้จากนั้นก็จากไป สามคนนั้นจากไปไกลแล้วสักพักก็มีชายสองคนเดินมายังบริเวณปากถ้ำ จ้าวเทียนหยางให้พี่ชายพักผ่อนก่อนจะออกมาพบทั้งสองคน"ใช่คนของ
หลังจากที่แยกย้ายกับบุรุษทั้งสอง ซ่งจื่อหรูจิงอี้และเมิ่งหยวนก็พากันมุ่งหน้าขึ้นเขาต่อไป ระหว่างทางมีสมุนไพรหลากหลาย ซ่งจื่อหรูเก็บสมุนไพรธรรมดา เพื่อไม่ให้ผิดสังเกตุมากจนเกินไป แม้ว่าท่านตาของนางจะมีความรู้มากมายเพียงใด ก็ไม่อาจรอบรู้ไปเสียทุกเรื่อง มีกล้วยไม้หลากสายพันธ์ซ่งจื่อหรูเก็บมันมาหลายต้นใส่ตระกร้า กล้วยไม้หากตากแห้งสามารถขายให้ร้านขายยาได้ เมื่อยิ่งสูงขึ้นอากาศโดยรอบเริ่มเย็นลง"พี่จิงอี้ ท่านหมอเมิ่งเราน่าจะอยู่ใกล้กับต้นหญ้าเหมันต์มากแล้ว ข้ารู้สึกถึงอากาศโดยรอบที่หนาวขึ้น""แม่นางซ่งเช่นนั้นเราควรหยุดหรือไปต่อดี" จิงอี้เอ่ยถาม"แม่หนูน้อย ข้าขอพักก่อนสักนิดเถอะ ข้ารู้สึกหนาวมาก หนาวจนไม่อาจขยับตัวได้เลย น่าแปลกข้ารู้สึกเช่นนี้ตั้งแต่ขึ้นเขายิ่งลึกยิ่งเหมือนหายใจไม่ออก"เมิ่งหยวนหายใจหอบอย่างแรง เขารู้สึกเหมือนมีหิมะหรือน้ำแข็งห่อหุ้มตัวบนตัว หนาวจนแทบจะแข็งอยู่แล้ว นี่เป็นอาการที่พิษกำเริบอย่างชัดเจนเหตใดกัน เขามั่นใจว่ามันจะไม่มีทางกำเริบภายในช่วงปีนี้อย่างแน่นอน หูเขาเริ่มอื้อปากเริ่มสั่น จิงอี้กำลังจะไปช่วยซ่งจื่อหรูดึงมือเขาเอาไว้"แม่นางซ่งหากท่านหมอเมิ่งเป็นอะไรไป
ทั้งหมดเก็บหญ้าเหมันต์เรียบร้อยก็ พากันเดินลงเขาไปยังถ้ำ ซ่งจื่อหรูให้เหตุผลว่าที่บริเวณนี้น่าจะเป็นรังหมาป่าเขี้ยวเงิน หรือไม่ก็ดงของหมีป่าสัตว์จำพวกนี้ชอบอากาศเย็น ส่วนตัวที่จ้าวเทียนหยางเจอนั้นเป็นเพียงหมาป่าเทา แม้จะดุร้ายแต่ไม่อันตรายเท่ากับหมาป่าเขี้ยวเงินทุกคนจึงต้องรีบลงเขาไปยังถ้ำด้านล่าง มีสายตาหลายคู่จับจ้องในความมืด สายตาเหล่านั้นกำลังค่อยเคลื่อนไหวเข้ามา ซ่งจื่อหรูตะโกนขึ้นให้ทุกคนรีบหลบขึ้นต้นไม้"พวกมันมาแล้ว น่าจะมีมากกว่าสิบตัว พี่จิงอี้ท่านพาข้าขึ้นต้นไม้ที เราต้องอยู่ที่สูงพวกมันสามารถกระโดดได้ถึงสองจั้ง พวกเราวางตระกร้าลงก่อนไม่เช่นนั้นหนีไม่รอดแน่ๆ"ซ่งจื่อหรูเอ่ยเตือนทั้งหมดวางตระกร้าลง มีหมาป่ามากกกว่าสามสิบตัวล้อมพวกเขาอยู่ จ่าฝูงกระโจนใส่ซ่งจื่อหรู จ้าวเฟยหรงสบัดมือใส่พวกมันจนกระเด็นก่อนจะกอดเอวนางใช้เท้าเตะพื้นดีดทีเดียวก็พานางขึ้นไปยังต้นไม้ซ่งจื่อหรูตะลึงวิชาตัวเบาของจ้าวเฟยหรงนั้นดีกว่าจิงอี้จริงๆ หมาป่าพยายามกระโดดงับพวกเขา เหล่าองครักษ์ต่างใช้กระบี่แทงพวกมัน ดูเหมือนจะมีมาเพิ่มเรื่อยๆ"ท่านอ๋อง ข้าว่ามันแปลกๆ ท่านเห็นด้วยหรือไม่"ซ่งจื่อหรูเอ่ยขึ้น จ้า
" องค์ชายห้า พวกมันเองก็ถูกคนอื่นควบคุม ท่านมีเหตผลหน่อยเถอะ อีกอย่างต่อให้ไม่มีผู้ใดใช้งานมัน ท่านอย่าลืมว่านี่คือบ้านของพวกมันเราต่างหากที่บุกรุก เกิดเป็นคนควรมีคุณธรรม สำนักศึกษาที่เมืองหลวงไม่สอนท่านหรอกหรือ""เจ้าๆๆๆนังเด็กบ้าอย่าคิดว่าแค่ช่วยชีวิตข้าแล้วจะมากำเริบต่อหน้าข้าได้นะ โอ๊ะ"จ้าวเทียนหยางเอ่ยยังไม่ทันจบก็ถูกลมหอบเขาขึ้นไปอยู่บนคบไม้ จ้าวเฟยหรงสะบัดมือใส่เขาเบาๆก็ลอยขึ้นไป อันดับหนึ่งในใต้หล้าที่ผู้คนยกย่องก็คือเขาจอมยุทธฮวาเฟยหยางที่ฆ่าคนโดยที่กระบี่มิทันได้อาบเลือดประมุขหอฮวาเซียงอันเลื่องชื่อก็คือเขา ใครจะรู้แต่เหนือฟ้ายังมีซื่อจือแห่งจวนจ้าวอ๋องพี่ชายเขาไง ปกติเขายังไม่กล้ายั่วยุ เหตุใดวันนี้พลาดเสียได้ ก่อนออกจากโรงเตี๊ยมเขาก้าวเท้าผิดหรือไงกันนะ" จ้าวเทียนหยางเจ้าด่าใครว่านางเด็กบ้า วันหลังพูดจาดีๆกับพี่สะใภ้เจ้าด้วยอย่าหาว่าข้าไม่เตือน อ้อตระกร้าของนางยกให้เจ้าเป็นคนแบกตามมาแล้วกัน ส่วนคนของสำนักเมฆาคนๆนี้ให้จิงอี้จัดการ""ท่านพี่ ท่านจะใจร้ายเกินไปแล้วยังไม่ทันแต่งนางเข้าตำหนักท่านก็รังแกข้า เสด็จอาท่านดูบุตรชายท่านสิ"จ้าวเทียนหยางโอดครวญ"องค์ชายห้า หากเจ้ายั
เซี่ยหนานอินถูกเจ้าอาวาสลากไปเด็กสามคนจึงเป็นอิสระ ซ่งจื่อเย่ว ซ่งจื่อห่าวและจ้าวเฟยเซียนอยู่กับจางอวี้เซียน มีองครักษ์ของจวนเจ้าเมืองดูแล จิงอี้ถูกสั่งห้ามเข้าใกล้หลี่อ้ายเสิ่น จนกว่าจะแต่งงานนางถูกหลี่ไหลฝูพาไปฟังธรรมด้านในด้วยเดินมาถึงหลังวัดส่วยเอี๊ยหลี่ม่านอวี้ก็นั่งลงบนก้อนหินกลางป่าท้อ"นั่งก่อนเถอะ ข้าเหนื่อยแล้ว"หลี่ม่านอวี้ถอนหายใจ"พี่สาม ท่านคิดอะไรอยู่ทำไมดูท่านทำหน้าสงสัยตลอดเวลา"ซ่งจื่อหรูเห็นสีหน้าพี่สามเหมือนท้อใจตอนที่จิงอี้เดินมาหาหลี่อ้ายเสิ่น"เมื่อคืนอาเขยไปหาอาเล็ก ตอนที่ท่านปู่ไปคุยเรื่องแต่งงานของนางที่บ้านปู่ใหญ่" หลี่ม่านอวี้พูดไปถอนหายใจไป"อาเขย เจ้าหมายถึงจิงอี้หรือ"จิงเสวียนถาม"เจ้าค่ะพี่จิงเสวียน เขาบอกให้ข้าเรียกเขาอย่างนั้น อาเขยนำปิ่นปักผมไปให้อาเล็ก ข้าบอกว่าเข้าไม่ได้ท่านปู่สั่งไว้ เขาก็อ้อนวอน ข้าจึงให้แค่แป๊บเดียว""จากนั้นล่ะ เกิดอะไรขึ้น ท่านปู่พี่จับได้หรือ" หูเจียวเจียวหูผึ่งก่อนมานั่งจะดักหน้าหลี่ม่านอวี้แล้วถามนาง" เปล่าหรอกเจียวเจียว ข้าให้เวลาอาเขยแค่ครึ่งเข่อ พอเห็นท่านปู่มาก็จะไปตามเขา แต่พอเปิดประตู ก็เห็นเขากัดปากอาเล็กอยู่ ริมฝีป
ถึงเวลาอาหาร วันนี้ทุกคนกินข้าวที่บ้านของซ่งจื่อหรู ฮั่วเฟยหย่งเอ่ยกับพวกเขา"เรื่องที่จิงอี้ทำนับว่าร้ายแรง แม้กฎเกณฑ์ต้าเหลียงไม่เข้มงวดตีกรอบเกินไป แต่นั่นคือทั้งชีวิตของสตรี พวกนางต้องเสียสละร่างกายคลอดบุตรให้เจ้า ต้องคอยดูแลบ้านช่อง หากต่อไปใครชิงสุกก่อนห่ามไม่เข้าออกตามธรรมเนียมข้าไม่เอาไว้แน่ จะรักใคร่นอกกายข้าไม่ว่า แต่ห้ามเลยเถิดจนกว่าจะเข้าหอ"ประโยคสุดท้ายเว้นไว้ให้เจ้าเด็กบ้าเฟยหรงนี่ หากไม่ให้ได้ชิมน้ำหวานเลยคงอกแตกตาย"พะย่ะค่ะ "ทุกคนรับคำพร้อมเพรียงจากนั้นก็กินข้าวต่อ หลังมื้อเย็นทุกคนรีบนอน เช้าต้องไปแต่เช้า ซ่งจื่อหรูอยากเข้าไปในมิตินึกถึงกรอบรูปที่อยู่ๆก็มาวางบนเตียง แต่พรุ่งนี้ต้องเดินทางเลยเว้นไปก่อนหลี่เหิงถือเสื่อเข้ามา แต่จ้าวเทียนเฟยบอกว่าพื้นนั้นเย็นเกินไป ให้ขึ้นมานอนด้วยกัน เขาลังเลอยู่พักใหญ่เกรงว่าจะไม่สมควร จ้าวเทียนเฟยบอกว่า ให้หลี่เหิงนอนด้านใน เวลาเขาทำธุระจะได้ปลุกง่ายหลี่เหิงได้นอนที่บ้านก็สบายใจหลับไม่รู้เรื่อง แม้กระทั่งถูกคนตัวโตเอาเปรียบเขาเกือบค่อนคืน ตื่นมาได้แต่งงคิดว่าตนเองถูกยุงหรือมดกัด แต่ทำไมพี่เทียนเฟยถึงไม่มีรอยอะไรเลยยามเหมาทุกคนตื
ลานบ้านหลี่ หลี่ไหลฝูยืนอยู่กำลังจะซัดฝ่ามืออกไป หลี่อ้ายเสิ่นวิ่งไปขวางเขาปกป้องจิงอี้ที่นอนกระอักเลือดอยู่ หลี่ต้าโจวกับหลี่ต้าจูถูกบิดาโยนไปคนละทิศละทาง"ท่านลุงหลี่ค่อยพูดเถอะ นี่มันเรื่องอะไรกัน จิงอี้เจ้าว่ามาสิ"จ้าวเฟยหย่งไกล่เกลี่ย จิงอี้พยุงตัวเองขึ้นหลี่ไหลฝูวรยุทธไม่เลวเลย เทียบกับท่านอ๋องเขาสูสีทีเดียว ใครจะรู้ช่างไม้หมู่บ้านกันดารจะมีฝีมือขนาดนี้"นายท่าน ข้าต้องการแต่งงานกับอ้ายเสิ่น แต่ผู้เฒ่าหลี่ไม่ยอมขอรับ""นางยังไม่ถึงวัยปักปิ่นด้วยซ้ำ อีกตั้งครึ่งเดือน เจ้ารอวันนั้นค่อยพูดคุยไม่ได้หรือไง" จิงเสวียนดุน้องชาย"พี่ใหญ่ข้ารอไม่ได้หรอก อ้ายเสิ่นนางก็รอไม่ได้ด้วยหากจิงอี้น้อยรอไม่ไหวจะทำไง ข้ากับนางเอ่อ ป่านนี้ไม่รู้ว่าเจ้าตัวน้อยในท้องนางเกิดหรือยังอาจเกิดแล้วมั้ง"หลี่ไหลฝูซัดฝ่ามือใส่จิงอี้ด้วยความโมโห จ้าวเทียนหยางที่ไม่รู้ว่าโผล่มาตอนไหนสกัดฝ่ามือเขาจนไปปะทะต้นไม้ในบ้านหักโค่นลงมาจิวเสวียนหอบหายใจด้วยความโมโหที่นี่ไม่มีคนอื่นเขาจึงเค้นฟันพูดกับน้องชาย"หานจิงอี้ ไอ้เด็กสารเลวหากเป็นชาวบ้านจะไปอะไรลับล่อๆก็ยังพอทน แต่เจ้าเป็นใคร ท่านลุงรู้เรื่องนี้จะว่าอย่างไรหรือต
ห้องรับรองตำบลซานสุ่ย มีเซี่ยหนานอินนั่งอยู่ด้านบน เซี่ยอวิ๋นนั่งอยู่ซ้ายมือด้านข้าง ถัดไปคือมีกังฉินนายอำเภอ เจ้ากรมโยธา หลี่ไหลฝู หลี่ฝูเหยา ด้านขวามีซ่งจื่อหรู จ้าวเฟยหย่ง จ้าวเฟยเหรงนั่งอยู่ แผนที่เมืองของมณฑลกว่างผิงถูกกางออกบนโต๊ะ เผยให้เห็นเส้นทางน้ำขนาดใหญ่น้อย ซ่งจื่อหรูใช้พู่กันกากบาทจุดที่เรือควรจอดแวะ จึงได้ทั้งหมด ห้าท่าเรือ“หากสร้างท่าเรือตามนี้จะใช้เวลานานเท่าใด” เซี่ยหนานอินถามขึ้น“ใต้เท้างบประมาณคือเงินส่วนตัวของท่านเพียงแค่แปดหมื่นตำลึงจะสร้างพร้อมกันไม่ได้เจ้าค่ะ มีท่าเรือก็ต้องมีที่พักท่านลองออกประกาศหานายทุนเชื่อข้าสิว่าต้องมีคนร่วมลงทุนแน่ๆ”“นายทุนคือสิ่งใดอาหรู แล้วพวกเขาจะยอมให้เงินแก่เราหรือ”จ้าวเฟยหย่งไม่เข้าใจสิ่งที่นาพูดซ่งจื่อหรูจึงอธิบาย“ท่านอาฮั่ว นายทุนคือคนที่ออกเงินให้เรา ก่อน ท่านเจ้ากรมท่านคำนวนที่ดินจากริมฝั่งออกมา ปล่อยเช่าที่ดินให้คนที่ต้องการทำโรงเตี๊ยมและร้านค้าต่างๆเช่าค้าขาย ทำสัญญาระยะยาวสิบปีต่อสัญญาทุกๆสามปี จ่ายค่าเช่ารายเดือน เก็บมัดจำครึ่งหนึ่ง สร้างใกล้เสร็จเก็บส่วนที่เหลือ หากไม่จ่ายภายในเวลาที่กำหนดถือว่าผิดสัญญา จากนั้นให้ปล่อย
อาหารเสร็จแล้ว เด็กๆถูกองค์ชายห้าพาไปเล่นบนเขาแต่เช้าแล้ว ลูกเสือขาวนอนหลับลุงใหญ่ถามนางว่าเจ้าของแพะถามว่านางรับซื้อหรือไม่ เขาต้องการเงินเป็นค่าสินสอดให้บุตรชาย นางมีเงินจากการขายหมูคราวก่อนหากจะใช้ก็ไม่แปลก จึงตกลงซื้อแพะสองตัวและวัวสามตัวจากบ้านท่านป้าคนนั้น หลังเตรียมอาหารเสร็จเด็กๆกลับมาแล้ว เซียวอวี้หรานกำลังจับล้างหน้าล้างตาเพื่อมานั่งกินข้าว หลี่ไหลฝูเดินมาหา ซ่งจื่อหรูจัดโต๊ะนอกบ้าน"อรุณสวัสดิ์เจ้าค่ะท่านปู่ เมื่อคืนหลับสบายหรือไม่เจ้าคะ" ซ่งจื่อหรูเดินไปคล้องแขนชายชรามานั่ง"อรุณสวัสดิ์ท่านปู่ ขอให้สุขภาพแข็งแรงเจ้าค่ะ/ขอบรับ"ซ่งจื่อเย่วกับซ่งจื่อห่าวก็ลุกขึ้นคำนับเช่นกันจ้าวเทียนเฟยเอ่ยทักทาย หลี่ไหลฝูมองออกว่าครอบครัวฮั่วเฟยหย่งไม่ใช่คนธรรมดา จึงไม่คิดถือสาเรื่องมารยาท"วันนี้ปู่จะเรียกชาวบ้านมาคุย เรื่องว่าต้องขึ้นเขาใช้ไม้ชนิดใดสร้างสะพาน ช่วงบ่ายจะไปตำบล วาดโครงสร้างท่าเรือ เจ้าเองก็สามารถวางค่ายกลทำงานช่างได้ ก็ไปด้วยกันหลายคนจะได้ช่วยกันคิด"หลี่ไหลฝูบอกหลานสาว"ก็ดีเจ้าค่ะ ถ้าเช่นนั้นช่วงเช้าก็แบ่งงานในหมู่บ้านก่อน ช่วงบ่ายค่อยเข้าตำบล อ้อท่านอาฮั่วมาพอดี"ซ่งจื่อห
ทุกคนกินอาหารพูดคุยกันหลี่อ้ายเสิ่นที่ตนเองไม่มีผู้ใดสนทนาด้วยจึงลุกออกจากลานต้นไหวเดินกลับบ้าน เผอิญสวนกับจ้าวเฟยหรงจึงทักทายเขาจ้าวเฟยหรงแค่เพียงพยักหน้า เท้าของหลี่อ้ายเสิ่นหนักอึ้งนางผิดหรือที่เกิดเป็นบุตรสาวของหญิงผู้นั้นทุกคนไม่สนใจนางแล้วนางจะหน้าด้านอยู่ทำไม อยู่ๆก็มีมือแข็งแกร่งมากระชากนางลากไป รู้อีกที่นางก็ติดอยู่กับกำแพงในบ้าน จิงอี้มองหน้านาง"ข้าบอกเจ้าแล้วว่าห้ามยุ่งกับคุณชายข้าหรือที่ข้าเตือนเจ้าไม่คิดฟัง"จิงอี้กดหลี่อ้ายเสิ่นกับกำแพง"ข้าแค่บังเอิญเจอเขา แล้วอย่างไรหากข้าอยากคุยแล้วทำไม หากเขาชอบข้าแล้วอย่างไรท่านมีสิทธ์อะไร"หลี่อ้ายเสิ่นโมโหคนตรงหน้า"เจ้าไม่คู่ควรกับเขา เจ้าอย่าใฝ่สูงเกินไปนัก"เพี๊ยะหลี่อ้ายเสิ่นสะบัดหลุดออดมาก่อนจะตบหน้าจิงอี้จนหันทันที"ข้าคู่ควรหรือไม่ก็ให้เขาตัดสินใจ ไม่ใช่เจ้ามาข่มขู่ข้า อื้อๆๆๆๆ"จิงอี้ไม่ปล่อยให้นางพูดจบเขาก้มลงประกบปปากนาง หลี่อ้ายเสิ่นใช้มือสองข้าทุบตีผลักเขาออก แต่ก็ไม่เป็นผล จิงอี้ปล่อยนางก่อนจะมองจ้องหน้า"วันหลังจำให้ดี ข้าไม่ได้ขู่เจ้า"" จิงอี้ ทำไมข้าต้องเชื่อเจ้า คนสารเลวเจ้าว่าข้าเป็นลูกหญิงแพศยาแล้วเจ้าเล่า เอา
ภรรยาของคนเหล่านั้นไม่เต็มใจที่จะมาหมู่บ้านกันดารแต่เพราะขัดสามีตนเองไม่ได้ ทุกคนนั่งลงหลี่ฝูเหยากล่าวเริ่มงานเลี้ยง อาหารตรงหน้าทำให้สตรีทั้งหลายไม่กล้ากินแม้แต่บรรดาอาจารย์ในสำนักศึกษาก็ลังเล ยกเว้นกัวฉิน เซี่ยหนานอิน และอู๋จี๋ พวกเขาเคยได้ทานพวกมันแล้วจึงรู้ว่าอร่อยไม่นานนักก็มีรถม้ามาเพิ่มอีกสามคัน จางอวี้เซียนก้าวลงมา ตามด้วยจินเหนียงและบุตรสาว คันที่สองคือจางต้าหู่ คันสุดท้ายเถ้าแก่เหลียง ซ่งจื่อหรูเข้าไปทักทายพวกเขา"สวัสดีเจ้าค่ะท่านอาจาง ท่านลุงเหลียง พี่จินเหนียง พี่อวี้เซียน ข้าเตรียมโต๊ะไว้ให้พวกท่านแล้ว"เซี่ยหนานอินเห็นสตรีที่เดินตามซ่งจื่อหรูมาก็จำได้นางคือคนที่เขียนจดหมายร้องเรียนขอหย่าบิดาแทนมารดา เพื่อทวงสินเดิมที่ถูกยึดไปกลับคืน เนื่องจากบิดาแต่งอนุโดยที่ภรรยาเอกไม่เห็นชอบ" นี่คือผู้นำทั้งสามหมู่บ้านที่เราจะร่วมมือกันเจ้าค่ะ ส่วนนี่คือท่านปู่ของข้าหลี่ไหลฝู ทุกท่านพวกเขาคือเถ้าแก่ที่ข้าต้องการให้เป็นคนกระจายสินค้าของพวกกเราในอนาคต เถ้าแก่ร้านท่านนี้คือจินเหนียงแห่งร้านจินปู่เตี้ยน นี่คือเถ้าแก่จางแห่งร้านหนึ่งในใต้หล้าจางอวี้เซียน เถ้าเแก่เหลียงเว่ยแห่งร้านธัญพืช
หลี่เหิงกลับมาแล้ว หลี่ม่านอวี้หลี่อ้ายเสิ่นและบรรดาท่านป้าในหมู่บ้านมาช่วยงานที่บ้านของซ่งจื่อหรู เหล่าบุรุษทั้งหลายถูกสั่งให้ไปนำหญ้าเหมันต์ลงปลูก เกาฟ่านกับเกาหม่ารับคำสั่งให้ไปติดต่อกับเกาหยวนเพื่อซื้อข่าวจากหอฮวาเซียงจ้าวเทียนเฟยออกมานั่ง เขาอมยิ้มทันทีที่มองเห็นหนุ่มน้อยคนเมื่อเช้ากำลังช่วยน้องสาวและเหล่าบรรดาสตรีทั้งหลายที่วุ่นวายอยู่หน้าเห็นตาคอยฟังคำสั่งซ่งจื่อหรู ว่าอาหารชนิดไหนทำเช่นไร มีหน่อไม้เส้น มีหน่อไม้ดอง รากบัว กุ้งมังกรน้อย มีหอยขม ที่เด็กๆช่วยกันจับแต่เช้าเห็ดสนที่ให้เด็กๆขึ้นเขาชิงลั่วไปหามา นางทำปลาเปรี้ยวหวาน สามชั้นต้มหน่อไม้แห้ง หอยขมผัดพริกหมาล่า กุ้งมังกรอบน้ำมันพริก รากบัวต้มกระดูกหมู หน่อไม้ดองต้มปลา หน่อไม้ดองผัดเครื่องในไก่ ไก่ขอทาน เครื่องในหมูพะโล้ และสามชั้นตุ๋นผักกาดอง ของหวานคือผลบัวหิมะ และผูเถาที่นางเอาออกมาจากมิติ แต่ทำทีว่าเก็บมาจากต้นที่ปลูก เนื่องจากติดลูกดกมากจึงไม่มีใครสงสัยกุหลาบนางแอบเอาไปตากในมิติตอนนี้สามารถชงชาได้แล้ว มีเกษรดอกบัว ชาดีบัว ของเหล่านี้ต้องให้พวกเขาลิ้มลอง หากต้องการเปิดตลาดในต้าเหลียงต้องอาศัยปากต่อปาก ยุคนี้ไม่มีโซลเ
บ้านเชิงเขาซ่งจื่อหรูทำอาหารเสร็จแล้ววันนี้มีอาหารไม่มากเพราะต้องจัดงานเลี้ยง เห็นจิงเสวียนเดินมารับสำรับจึงหาจังหวะเอ่ยถามสิ่งที่ต้องการ"พี่จิงเสวียน ตอนที่ข้าไม่อยู่นอกจากจางอวิ๋นคนนั้นยังมีใครมาที่นี่บ้าง"" นอกจากจางอวิ่นยังมีอีกสามคนที่เหลือน่าจะเป็นคนติดตาม มีอะไรหรือเปล่า" จิงเสวียนถามนางกลับซ่งจื่อหรูส่ายหน้า"ไม่มีอะไร ี่จิงเสวียนข้ามีเรื่องอยากให้ท่านช่วยแต่เรื่องนี้แม้แต่พี่หรงก็ห้ามรู้ ท่านรับปากข้าได้หรือไม่"จิงเสวียนพยักหน้าเขารับสำรับอาหารไป จ้าวเทียนหยางโดดเข้ามา พร้อมมองหาน้องๆตัวน้อย เขาจะพาเด็กพวกนี้ไปเล่นบนเขา จ้าวเทียนหยางมาถึงก็เรียกหาเด็กทั้งสอง"แม่นางน้อย เซียนเอ๋อร์กับจื่อเย่วตื่นหรือยัง""คงกำลังพับพ้าห่มอยู่กระมัง ท่านมีอะไร"ซ่งจื่อหรูยังเอ่ยไม่จบจ้าวเทียนหยางก็หายไปในห้องครู่เดียวก็อุ้มเด็กน้อยสองคนออกมามีซ่งจื่อห่าวขี่หลังอีกคน ใช้วิชาตัวเบาพาเหินไปบนเขาซ่งจื่อหรูร้องห้ามแต่ไม่ทัน ฉินลู่ที่เพิ่งกลับมาต้องรีบตามไป องค์ชายนะองค์ชายก็รู้ว่านางหวงน้องๆเพียงใด โรคเก่าของท่านกำเริบหรือไงนะ" อาหรู หยางเอ๋อร์กัยเฟยเอ๋อร์มักชอบเล่นกับเด็กๆลูกของบ่าวในจวนเสมอ