ทรายสับสนไปหมด จะอ้าปากพูดแต่ปากก็สั่น จึงเม้มไว้ รู้สึกอยากร้องไห้แต่ห้ามตัวเองไว้ บอกตัวเองว่าจะต้องผ่านเรื่องนี้ไปให้ได้เหมือนกับหลาย ๆ เรื่องที่เคยผ่านมา ทว่าก่อนที่จะทันได้ตอบอะไรริมฝีปากเธอก็ถูกช่วงชิงไปเสียแล้ว ท่าทางของหญิงสาวตรงหน้าทำให้แมทธิวอดใจไม่ไหว เขาไม่ได้เพียงแค่จูบธรรมดา แต่จูบอย่างดูดดื่มราวกับว่าต้องการตักตวงความหวานทั้งหมดเล่นเอาเธอรู้สึกอ่อนเปลี้ยหวามไหวจนเผลอหลุดเสียงคราง มือเล็กเลื่อนขึ้นไปยึดเอวสอบแน่น
แมทธิวสอดมือเข้าไปใต้ผ้าห่มลูบไล้ต้นขาเนียนลื่นมือ เรื่อยมาจนถึงใจกลางความเป็นหญิง จากแผ่วเบาเป็นเคล้นคลึงหนักขึ้นตามแรงอารมณ์ กายสาวกระตุกรับความซ่านสยิวที่แผ่กำจายไปทั่ว แผ่นหลังบางหยัดโค้ง และเมื่อขยับตัวตรงส่วนนั้นยังรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาด้วย ซึ่งนี่ยิ่งเป็นเครื่องยืนยันความจริงได้เป็นอย่างดี เธอได้สูญเสียสิ่งที่อุตส่าห์เก็บรักษามานานไปเสียแล้วโดยที่จำอะไรไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
“ไม่ต้องกลัว “เสียงทุ้มพร่าพึมพำบอก
ลมหายใจสาวหอบกระชั้นขึ้นจนแทบหายใจไม่ทัน แต่เธอยังพอมีสติละล่ำละลักบอก “อย่าค่ะ เราไม่ควรทำแบบนี้…อีก…” แม้ปากจะพูดไปแต่น้ำเสียงช่างเบาบาง ไม่รู้ว่าบอกเขาหรือบอกตัวเอง
เขาหยุดเคลื่อนไหว ขมวดคิ้วทำหน้าจริงจังเชิงเห็นด้วย “อืม…ถูก เราไม่ควรทำแบบนี้”
ทรายรู้สึกพอหายใจหายคอได้บ้าง “มิสเตอร์คาร์เตอร์...”
“แมทธิว” เสียงเข้มแก้ “เรียกฉันว่าแมทธิว”
ชายหนุ่มตรงหน้าทำให้ทรายต้องกลืนก้อนหนืด ๆ ลงคออีกครั้ง “ค่ะ แมทธิว คือว่าคุณเป็นอาจารย์”
แมทธิวไหวไหล่ “ฉันไม่สนหรอกว่าฉันจะเป็นอะไร ฉันมองเธอมาตลอด แล้วยิ่งหลังจากที่ฉันได้เธอแล้วฉันจะไม่มีวันยอมให้เธอหนีฉันไปง่าย ๆ หรอก เข้าใจมั้ย”
ทรายไม่รู้จะทำอะไรได้แต่เผลอแลบลิ้นเลียริมฝีปากที่แห้งผาก เธอฝันมาตลอดว่าอยากเจอผู้ชายแบบนี้ แต่ว่าทำไมคนนั้นถึงต้องกลายมาเป็นอาจารย์เธอด้วยเล่า!
ระหว่างนั้นแมทธิวเริ่มจูบหญิงสาวอีกครั้ง ทั้งยังขยับตัวขึ้นมาทาบทับร่างบางบนเตียง แผงอกแกร่งบดเบียดแนบชิดกับทรวงอกอ่อนนุ่ม ความแข็งแกร่งเสียดสีอยู่กลางหว่างขา ทำให้ซ่านสยิวและเกิดเป็นความต้องการแปลก ๆ จนเผลอแอ่นกายแนบชิด แต่ทว่าสองมือเล็กจิกต้นแขนแกร่งไว้เพื่อห้ามปราม
“ฉันต้องการเธอแซนดี้ ได้โปรดอย่าต่อต้านฉันเลย เธอเองก็ต้องการเหมือนกันไม่ใช่เหรอ” แมทธิวบอกเสียงพร่า
ทรายพูดไม่ออก เขาราวกับจะล่วงรู้จิตใจเธอ ถึงแม้จะไม่เคย แต่เรื่องแบบนี้มันเป็นสัญชาตญาณล้วน ๆ เธอต้องการเขาแทบบ้า ร่างกายเธอร้อนไปหมด และสิ่งหนึ่งที่เธอไม่อาจปฏิเสธคือเธอชอบแอบมองเขาแล้วเก็บเอาไปจินตนาการอะไรแบบนี้บ่อย ๆ
“เอ่อ...แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวนะคะ” เธอพ่ายแพ้ต่อความต้องการจากส่วนลึก
“ไม่” เขาตอบเสียงแข็ง
“ถ้าอย่างนั้นก็หยุดเถอะค่ะ” ทรายพยายามดันร่างหนาออก แต่ปรากฏว่าข้อมือทั้งสองข้างถูกฉวยไปตรึงไว้เหนือศีรษะแทน ร่างสูงชะโงกหน้าลงมามอง ทรายกลืนน้ำลายอีกครั้ง ปากคอสั่นไปหมด “แต่ว่าเรื่องนี้มันไม่ถูกต้องนะคะ”
ดูเหมือนว่าคำพูดเธอจะไม่เข้าหูเขาเอาซะเลยเพราะเขาตอบเธอด้วยการขบเม้มไปทั่วลำคอ จนเธอขนลุกซ่านไปทั้งตัว เผลอขยับเปิดทางให้เขากระทำตามใจได้สะดวก
“เธอกล้าปฏิเสธมั้ยแซนดี้ว่าเธอไม่ชอบสิ่งนี้” เขามองหน้าเธออีกครั้งก่อนจะพูดลากเสียง “ส่วนฉัน...ชอบมาก...”
ทรายจนคำพูดและยอมจำนนในที่สุด ปล่อยให้เขาจูบอย่างดูดดื่มจนเธอเคลิ้ม มือใหญ่ลูบไล้ไปตามร่างกายอ่อนนุ่ม ลงต่ำมาจนกระทั่งกลางกาย ทรายสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเขาสอดนิ้วเรียวเข้ามาในตัว แยงเข้าแยงออกสลับกับหมุนควงเป็นวง ความเสียวซ่านจู่โจมเธอไม่หยุดจนส่งเสียงครางน่าขายหน้า แต่เธอห้ามตัวเองไม่ได้ แข้งขาเธอสั่น เนื้อตัวสั่นเทารุนแรงอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ แอ่นกายเข้าหาเพื่อให้เขาปลดปล่อยความสุขให้
แมทธิวยิ้มพอใจกับผลงานตัวเอง ใช้มืออีกข้างเลิกเสื้อหญิงสาวขึ้นเปิดเผยทรวงอกคู่งามที่ปลายยอดเคร่งครัดล่อตาให้ฉกชิม ไม่รอช้าเขาโน้มหน้าลงมา ใช้ปากครอบครองยอดอกเต่งตึง ดูดดึงขบเม้ม ใช้ลิ้นตวัดเลียอย่างหิวกระหาย ส่วนมือด้านล่างก็ไม่หยุดทำหน้าที่ ทรายเสียวจนแทบขาดใจ ขยับตัวไปมาด้วยความร้อนรนทนไม่ได้ จนกระทั่งในที่สุดทุกสิ่งทุกอย่างก็เหมือนกับระเบิดออก เนื้อตัวโล่งเบาสบาย ทิ้งตัวลงกับที่นอนหอบหายใจอย่างหมดแรง
แมทธิวชักนิ้วออกมา ส่งเข้าปากตัวเองเพื่อดูดเลียรสชาติของหญิงสาวก่อนที่จะถอดเสื้อเธอออก ตามมาด้วยดึงกางเกงตัวเองลงปลดปล่อยความเป็นชายใหญ่โตให้เป็นอิสระ ใช้มือข้างหนึ่งสาวแก่นกายเตรียมพร้อม อีกมือไล้ไปตามกายสาว
“เธอสวยมากรู้มั้ยแซนดี้ อา...” เขาครางต่ำทรายไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร ทั้งขัดเขินต่อสายตาร้อนแรงที่เขาใช้มองราวกับกำลังกลืนกินเธอไปทั้งตัวจนอยากจะมุดผ้าห่มหนี แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกอยากจะเปิดเผยทุกอย่างให้เขาได้เชยชม มีความสุขกับคำเยินยอของเขา ทั้งสีหน้าและแววตาที่เขามองมาทำให้เธอรู้สึกว่าเป็นแบบนั้นจริงแมทธิวเอื้อมมือไปหยิบถุงยางที่วางอยู่ตรงโต๊ะหัวเตียง จัดการฉีกซองและสวมให้ตัวเองเสร็จสรรพ เมื่อเครื่องป้องกันพร้อมก็พาตัวเองดำดิ่งสู่กายสาวโดยไม่รั้งรอ“อ๊า...”เสียงหวานครางลั่น ขาเรียวรัดรอบเอวสอบโดยอัตโนมัติ แมทธิวจับช้อนมือใต้สะโพกสาว จับยกขึ้นเล็กน้อยเพื่อจัดท่าทางจากนั้นรัวบั้นเอวตอกอัดใส่ร่างกายที่ตัวเองคลั่งไคล้ไม่ยั้ง ภายในของเธอบีบรัดเขาแน่นจนเจ็บปวดไปหมด รู้สึกดีเป็นบ้า เขารักเธออย่างที่อยากจะรักและทำมานาน แต่เท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ จ้วงแทงดำดิ่งลึกในกายสาวครั้งแล้วครั้งเล่าทรายรู้สึกเหมือนกำลังปีนยอดเขาสูง พอใกล้จะตกลงมาเขาก็ผลักดันเธอขึ้นไปใหม่ การมีเขาอยู่ในตัวเป็นความรู้สึกดีมาก ทำให้เธอลืมแม้กระทั่งตัวของตัวเอง ไม่ว่าเขาจะจับเธอพลิกไปทางไหนเธอก็ยอมตามเขาอย่างว่าง่าย เพีย
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วทรายเลือกกางเกงวอร์มสีดำที่พอใส่แล้วสูงขึ้นมาเหนือเอวและเธอต้องพับขาขึ้นมาถึงสามทบกับเสื้อยืดของเขามาสวม มันดูไม่แย่แต่ก็ไม่ตลกจนเกินไป ผมเปียกชื้นที่เพิ่งสระมาถูกปล่อยสยายลงมากลางแผ่นหลัง เธอทำจมูกฟุดฟิดสูดดมกลิ่นตัวเองซึ่งเหมือนกับกลิ่นของแมทธิวเพราะเธอใช้ครีมอาบน้ำและแชมพูของเขา มันทำให้เธอรู้สึกใจหวิวแปลก ๆ และแก้มเนียนก็ขึ้นสีแดงเรื่อโดยไม่รู้ตัว อีกทั้งยังต้องกัดกระพุ้งแก้มตัวเองเพื่อให้หยุดยิ้มโดยไม่มีเหตุผลแมทธิวหันมามองหญิงสาวที่เพิ่งเดินเข้ามาแล้วส่งยิ้มที่ทำให้เธอรู้สึกไม่น่าไว้ใจให้“ตอนสวมเสื้อผ้าฉันเธอดูดีมากรู้มั้ยแซนดี้”สัญญาณเตือนภัยของทรายดังขึ้นทันทีเพราะเขาเดินตรงเข้ามาโอบเอวพาไปนั่งที่โต๊ะกินข้าวที่ตั้งอยู่ตรงมุมของห้องครัวทรายมองไปยังอาหารบนโต๊ะที่ถูกจัดเตรียมไว้สองที่ แสดงว่าก่อนหน้าเขายังไม่ได้กินอะไร“คุณยังไม่ได้กินมื้อเช้าเหรอคะ” เธอถามเพื่อลดความประหม่าขณะที่กำลังเผชิญหน้ากับเขาชายหนุ่มส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนที่จะยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนแทบจะชิด พูดด้วยน้ำเสียงเซ็กซี่” ฉันอยากเห็นเธอเปลือยตอนที่เรากินมื้อเช้ากัน...” ไม่พูดเปล่ามือใ
ทรายเก็บเสื้อที่ตกลงพื้นขึ้นมาสวมแล้วจึงค่อยนั่งลงที่โต๊ะ แมทธิวนั่งอยู่ที่เก้าอีกด้านข้างกำลังจัดแพนเค้กกับเบคอนหอมกรุ่นใส่จานให้ ทรายมองชายหนุ่มแล้วได้แต่ครุ่นคิดอยู่ในใจทำไมผู้ชายที่แสนเลอเลิศแบบนี้ถึงต้องเป็นอาจารย์เธอด้วยทรายตั้งสติแล้วเริ่มพูด “เราจะให้มันเกิดขึ้นอีกไม่ได้”มือของชายหนุ่มชะงักเล็กน้อย กรามแกร่งขบกันแน่นจนเป็นสัน เห็นดังนั้นเธอจึงตีหน้าขรึม จ้องหน้าเขาโดยไม่หลบสายตา พยายามพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังที่สุด เอ่ยสิ่งที่ตัวเองกังวลออกไป“ฉันพูดจริงนะคะ เพราะว่าฉันไม่อยากเอาสถานะนักศึกษาของตัวเองมาเสี่ยง”แมทธิวมองหญิงสาวนิ่งไม่เอ่ยอะไร สักพักก็ถอนหายใจ ขยับเก้าอี้ออก ลุกขึ้นยืนไม่สนใจที่จะกินอาหารอีก เขาไม่รู้สึกอยากอาหารขึ้นมาเสียดื้อ ๆ ความหิวก่อนหน้าหายไปหมด พูดกับหญิงสาวด้วยน้ำเสียงจริงจัง“ถ้าฉันหาทางออกสำหรับเรื่องนี้ได้เธอจะยอมคบกับฉันมั้ย”ทรายสูดหายใจเข้าลึก ในอกรู้สึกหนักอึ้ง “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”หลังจากได้รับคำตอบเธอก็ได้ยินเสียงเขาสบถไม่พอใจ ดูเหมือนว่าเขาต้องการคบกับเธออย่างจริงจัง ทำให้เธอดีใจและเสียใจไปพร้อมกัน“คือว่าฉันไม่กล้าเสี่ยง” เธอพูดเสียงเบา
ปกติแล้วถ้าวันไหนไม่ได้ไปทำงานทรายจะต้องหัวเสียมาก เพราะเธอจำเป็นต้องหาเงิน การขาดงานเพียงหนึ่งวันจะทำให้รายได้ลดลง แต่คราวนี้เธอกลับรู้สึกดีที่เสาร์อาทิตย์นี้เธอได้หยุดงาน เธอต้องการเวลาทบทวนเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับชายหนุ่มที่ขึ้นชื่อว่าเป็นอาจารย์ ช่วงเวลาสุดสัปดาห์ของเธอหมดไปกับการนอนอุดอู้อยู่บนเตียง แอมเบอร์พยายามชวนเธอออกไปข้างนอกแต่เธอไม่มีกะจิตกะใจไปไหนทั้งนั้น เธอแค่ลุกจากเตียงเพียงเพื่อไปเข้าห้องน้ำแล้วกลับมานอนต่อ แต่ว่าวันนี้เป็นวันจันทร์ เธอจะต้องลุกไปมหาวิทยาลัย ที่แย่ไปกว่านั้นคือวิชาแรกของเธอคือวิชาภาษาอังกฤษกับแมทธิว เธอไม่เคยโดดเรียนเลยสักครั้ง และตอนนี้ก็ไม่คิดที่จะโดดเรียนด้วยแม้ว่าอยากจะทำอย่างนั้นใจแทบขาด ดังนั้นเธอจึงได้แต่ไปเผชิญหน้ากับเขา เมื่อมาถึงชั้นเรียนที่เธอตั้งใจมาเช้ากว่าปกติเพื่อหลีกเลี่ยงใครบางคน ก็พ่นลมหายใจออกมายาว ๆ เพราะเขายังไม่มา เธอเลือกที่นั่งหลังสุดจากปกติจะต้องนั่งด้านหน้า หยิบหนังสือเรียนและงานที่เขาสั่งครั้งที่แล้วออกมา คิดว่าจะต้องอดทนให้ผ่านชั่วโมงนี้ไปให้ได้ หลังจากนั้นไม่นานนักศึกษาก็ทยอยกันเดินเข้ามาเรื่อย ๆ เกิด
“เธอจะไปเดตกับใครอะทราย” แอมเบอร์ถามเป็นรอบที่สองร้อย “จ้างให้ฉันก็ไม่บอก อืมมมมม อย่างน้อยก็จนกว่าฉันจะแน่ใจและรู้จักเขามากกว่านี้” ตัวทรายเองก็ยังไม่แน่ใจอะไรเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าอยากมีความลับกับเพื่อน เรื่องระหว่างเธอกับแมทธิวเหมือนไม่ใช่ความจริง ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก อีกอย่างเธอยังเป็นกังวลเกินกว่าจะเล่าให้ใครฟังแม้ว่าคนนั้นจะเป็นเพื่อนสนิทก็ตาม เธอคิดว่าถึงแอมเบอร์จะรู้ก็ไม่สนใจหรอกว่าเขาจะเป็นอาจารย์ ในทางกลับกันคงจะยินดีกับเธอมากกว่า อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้เธอยังคงอยากเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับระหว่างเธอกับอาจารย์หนุ่มมากกว่า “ก็ได้ ๆ แต่เธอจะปล่อยให้ฉันทนกับความอยากรู้ทั้งคืนแบบนี้จริง ๆ เหรอ” แอมเบอร์แกล้วทำท่าฮึดฮัดไม่พอใจ แต่สีหน้าแสดงความยินดีกับเพื่อน ทรายกรอกตาใส่เพราะรู้ทัน “ฉันต้องไปแล้ว เธอเองก็รีบทำรายงานให้เสร็จล่ะ” “รู้แล้วน่า ขอยืมของเธอมาลอกหน่อยละกัน” แอมเบอร์กรอกตากลับ ทรายส่ายหัว คว้ากระเป๋าเดินออกไปรอแมทธิวที่หน้าหอพัก เป็นเวลาเดียวกับที่เขานำรถมาจอดเทียบพอดี เธอจึงรีบขึ้นรถก่อนที่จะมีคนสังเกตเห็น หลังจากปิดประตูรถก็ถูกดึงตัวไปจูบหนัก ๆ “คิดถึงเธอจั
แมทธิวรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับทราย เขาใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีหลังจากตื่นนอนจัดการตัวเองให้เรียบร้อยก่อนจะขับรถพาเธอกลับหอพักในช่วงเช้าตรู่ ทรายนั่งมองวิวข้างทางผ่านกระจกรถ แม้จะยังรู้สึกเหนื่อยล้าจากค่ำคืนที่เต็มไปด้วยความเร่าร้อน แต่หัวใจเธอกลับพองโตเมื่อคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ระหว่างทาง เขาไม่ลืมถามไถ่และพูดคุยด้วยน้ำเสียงอบอุ่น“เดี๋ยวผมรอจนคุณพร้อมแล้วค่อยไปนะ ไม่ต้องรีบ” คำพูดง่าย ๆ แต่เต็มไปด้วยความใส่ใจ ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นขึ้นในทันทีเมื่อมาถึงหอพัก แมทธิวลงจากรถเพื่อเปิดประตูให้เธอเหมือนสุภาพบุรุษ ทรายยิ้มขอบคุณแม้จะยังมีความเขินอายอยู่บ้าง หลังจากเขากลับไป เธอรีบจัดแจงตัวเองสำหรับวันใหม่ อาบน้ำแต่งตัวใหม่ ดื่มกาแฟเพื่อเรียกความสดชื่น ร่างกายที่อ่อนล้าเริ่มตอบสนองดีขึ้น แม้ว่าเธอจะนอนไม่ถึงสองชั่วโมง แต่สิ่งที่ได้รับจากแมทธิวเมื่อคืนกลับเติมเต็มหัวใจเธอจนเหมือนไม่ต้องการการพักผ่อนอีกต่อไปทรายทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ทุกสัมผัสและการกระทำของแมทธิวที่ทำให้เธอรู้สึกเหมือนเป็นผู้หญิงที่พิเศษที่สุดในโลก เขาไม่ได้มุ่งหวัง
แมทธิวจ้องมือถือนิ่งหลังจากส่งข้อความล่าสุดไปหาหญิงสาว ปรากฏว่าเป็นเหมือนกับข้อความก่อนหน้าที่เธอไม่ตอบหรือแม้กระทั่งเปิดอ่าน คิ้วเข้มขมวดเป็นปม เขารับรู้ได้ถึงความผิดปกติ เพราะเธอไม่เคยเป็นแบบนี้ ทุกครั้งเธอจะตอบกลับแทบจะในทันทีชายหนุ่มผุดลุกขึ้นเพราะรู้สึกกระวนกระวายทนไม่ไหว เดินออกจากห้องทำงานไปที่รถ แล้วขับตรงดิ่งข้ามไปยังหอพักนักศึกษาที่อยู่อีกฟากหนึ่งของมหาวิทยาลัย เขารู้สึกว่าจะต้องเกิดเรื่องอะไรสักอย่างและเขาต้องรู้ให้ได้ เขาเฝ้ามองและรอคอยผู้หญิงคนนี้มานานเกินไป ในตอนนี้ที่ได้เธอมาครอบครองแล้ว จะให้เกิดเรื่องผิดพลาดขึ้นไม่ได้เมื่อถึงที่หมายแมทธิวก็เดินเข้าไปด้านใน ผ่านสายตาอยากรู้อยากเห็นหลายคู่ที่มองมา นักศึกษาหลายคนรู้จักเขา แต่เขาไม่สนใจ รู้แต่เพียงว่าต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับผู้หญิงของเขาแน่ แต่เธอจะต้องการเขาหรือไม่ก็เป็นเขาเองที่อยากอยู่เคียงข้างเวลาเธอมีปัญหา“สวัสดีค่ะมิสเตอร์คาร์เตอร์ มีอะไรให้ช่วยมั้ยคะ” นักศึกษาคนหนึ่งที่นั่งอยู่ที่โต๊ะด้านหน้าถาม สีหน้าดูประหลาดใจเมื่อเห็นอาจารย์หนุ่ม แมทธิวรู้สึกคลับค
ทรายจ้องกระดาษที่วางอยู่บนโต๊ะอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเป็นผลสอบวิชาภาษาอังกฤษที่แมทธิวเพิ่งแจกให้นักศึกษาในชั้นดู เธอยกกระดาษข้อสอบขึ้นมาดูอีกทีช้า ๆ ยังทำใจยอมรับกับตัวแดงแจ๋ที่ปรากฏอยู่ในนั้นไม่ได้ เพราะมันเป็นเครื่องประกาศอย่างโจ่งแจ้งว่าเธอสอบตกเธอไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร เธอเตรียมตัวอ่านหนังสือทบทวนบทเรียนแทบตาย คิดว่าตัวเองทำได้ดีแล้วเสียอีก นึกสงสัยว่ามีตรงไหนที่ผิดพลาดไป แล้วทำไมคะแนนถึงออกมาเป็นแบบนี้ไปเสียได้ เห็นแล้วทำใจไม่ได้ อยากร้องไห้ เธอไม่เคยสอบตอกมาก่อนในชีวิต“เห็นยัง คิดว่าคบกับอาจารย์แล้วเขาจะช่วยเหรอ” นักศึกษาที่นั่งด้านข้างพูดเสียดสี“หุบปากไปเลย” ทรายตวาดกลับเสียงดังจนทุกคนในชั้นต่างหันมามอง แต่เธอไม่มีอารมณ์มาใส่ใจอะไรทั้งนั้น“ตรงนั้นมีปัญหาอะไรกันรึเปล่า” อาจารย์หนุ่มเดินมายืนด้านหลัง“เปล่าค่ะ แค่พวกขี้อิจฉา” ทรายจ้องหน้าชายหนุ่มไม่สบอารมณ์“ระวังคำพูดหน่อยแซนดี้” เขาหรี่ตาเตือน
วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการเรียนการสอน และที่สำคัญเป็นวันประกาศผลสอบวิชาภาษาอังกฤษของแมทธิวด้วย เนื่องจากวิชานี้เขาให้มีการสอบล่วงหน้าทรายจ้องผลคะแนนที่วางอยู่ตรงหน้าอย่างเหลือเชื่อ เธอสอบผ่าน แถมยังคะแนนสูงเสียด้วย ผิดจากที่คาดเพราะว่าอาจารย์หนุ่มออกข้อสอบยากมาก ขนาดเธอเตรียมตัวมาอย่างดียังทำไม่ค่อยจะได้ ถ้าไม่ได้ไปเรียนเสริมกับเฮนรี่เธอคงยังเข้าใจผิดอยู่แบบเดิม“แซนดี้ ช่วยมาตรงนี้หน่อยได้มั้ย” เสียงทุ้มห้าวดึงความสนใจเธอจากข้อสอบตรงหน้าให้เงยหน้าขึ้นไปมอง สบเข้ากับนัยน์ตาคมก่อนที่จะลุกจากที่นั่งเดินไปหาชายหนุ่มที่ยืนอยู่หน้าชั้นเรียน สงสัยว่ามีเรื่องอะไรหรือเปล่าทว่าทันทีที่เดินไปถึง อาจารย์สุดหล่อกลับคุกเข่าลงพร้อมกับเปิดกล่องกำมะหยี่สีดำใบเล็กชูขึ้นตรงหน้าทรายทั้งตกใจและประหลาดใจ จากนั้นความรู้สึกท่วมท้นก็ไหลบ่าเข้าสู่หัวใจจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ยกสองมือขึ้นปิดปากทั้งชั้นเรียนอื้ออึงไปด้วยเสียงฮือฮา ทุกสายตาต่างลุ้นและจับจ้องมาที่เธอเป็นตาเดียว เรื่องของเธอกับอาจารย์หนุ่มเป็นที
ทรายจ้องกระดาษที่วางอยู่บนโต๊ะอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเป็นผลสอบวิชาภาษาอังกฤษที่แมทธิวเพิ่งแจกให้นักศึกษาในชั้นดู เธอยกกระดาษข้อสอบขึ้นมาดูอีกทีช้า ๆ ยังทำใจยอมรับกับตัวแดงแจ๋ที่ปรากฏอยู่ในนั้นไม่ได้ เพราะมันเป็นเครื่องประกาศอย่างโจ่งแจ้งว่าเธอสอบตกเธอไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร เธอเตรียมตัวอ่านหนังสือทบทวนบทเรียนแทบตาย คิดว่าตัวเองทำได้ดีแล้วเสียอีก นึกสงสัยว่ามีตรงไหนที่ผิดพลาดไป แล้วทำไมคะแนนถึงออกมาเป็นแบบนี้ไปเสียได้ เห็นแล้วทำใจไม่ได้ อยากร้องไห้ เธอไม่เคยสอบตอกมาก่อนในชีวิต“เห็นยัง คิดว่าคบกับอาจารย์แล้วเขาจะช่วยเหรอ” นักศึกษาที่นั่งด้านข้างพูดเสียดสี“หุบปากไปเลย” ทรายตวาดกลับเสียงดังจนทุกคนในชั้นต่างหันมามอง แต่เธอไม่มีอารมณ์มาใส่ใจอะไรทั้งนั้น“ตรงนั้นมีปัญหาอะไรกันรึเปล่า” อาจารย์หนุ่มเดินมายืนด้านหลัง“เปล่าค่ะ แค่พวกขี้อิจฉา” ทรายจ้องหน้าชายหนุ่มไม่สบอารมณ์“ระวังคำพูดหน่อยแซนดี้” เขาหรี่ตาเตือน
แมทธิวจ้องมือถือนิ่งหลังจากส่งข้อความล่าสุดไปหาหญิงสาว ปรากฏว่าเป็นเหมือนกับข้อความก่อนหน้าที่เธอไม่ตอบหรือแม้กระทั่งเปิดอ่าน คิ้วเข้มขมวดเป็นปม เขารับรู้ได้ถึงความผิดปกติ เพราะเธอไม่เคยเป็นแบบนี้ ทุกครั้งเธอจะตอบกลับแทบจะในทันทีชายหนุ่มผุดลุกขึ้นเพราะรู้สึกกระวนกระวายทนไม่ไหว เดินออกจากห้องทำงานไปที่รถ แล้วขับตรงดิ่งข้ามไปยังหอพักนักศึกษาที่อยู่อีกฟากหนึ่งของมหาวิทยาลัย เขารู้สึกว่าจะต้องเกิดเรื่องอะไรสักอย่างและเขาต้องรู้ให้ได้ เขาเฝ้ามองและรอคอยผู้หญิงคนนี้มานานเกินไป ในตอนนี้ที่ได้เธอมาครอบครองแล้ว จะให้เกิดเรื่องผิดพลาดขึ้นไม่ได้เมื่อถึงที่หมายแมทธิวก็เดินเข้าไปด้านใน ผ่านสายตาอยากรู้อยากเห็นหลายคู่ที่มองมา นักศึกษาหลายคนรู้จักเขา แต่เขาไม่สนใจ รู้แต่เพียงว่าต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับผู้หญิงของเขาแน่ แต่เธอจะต้องการเขาหรือไม่ก็เป็นเขาเองที่อยากอยู่เคียงข้างเวลาเธอมีปัญหา“สวัสดีค่ะมิสเตอร์คาร์เตอร์ มีอะไรให้ช่วยมั้ยคะ” นักศึกษาคนหนึ่งที่นั่งอยู่ที่โต๊ะด้านหน้าถาม สีหน้าดูประหลาดใจเมื่อเห็นอาจารย์หนุ่ม แมทธิวรู้สึกคลับค
แมทธิวรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับทราย เขาใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีหลังจากตื่นนอนจัดการตัวเองให้เรียบร้อยก่อนจะขับรถพาเธอกลับหอพักในช่วงเช้าตรู่ ทรายนั่งมองวิวข้างทางผ่านกระจกรถ แม้จะยังรู้สึกเหนื่อยล้าจากค่ำคืนที่เต็มไปด้วยความเร่าร้อน แต่หัวใจเธอกลับพองโตเมื่อคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ระหว่างทาง เขาไม่ลืมถามไถ่และพูดคุยด้วยน้ำเสียงอบอุ่น“เดี๋ยวผมรอจนคุณพร้อมแล้วค่อยไปนะ ไม่ต้องรีบ” คำพูดง่าย ๆ แต่เต็มไปด้วยความใส่ใจ ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นขึ้นในทันทีเมื่อมาถึงหอพัก แมทธิวลงจากรถเพื่อเปิดประตูให้เธอเหมือนสุภาพบุรุษ ทรายยิ้มขอบคุณแม้จะยังมีความเขินอายอยู่บ้าง หลังจากเขากลับไป เธอรีบจัดแจงตัวเองสำหรับวันใหม่ อาบน้ำแต่งตัวใหม่ ดื่มกาแฟเพื่อเรียกความสดชื่น ร่างกายที่อ่อนล้าเริ่มตอบสนองดีขึ้น แม้ว่าเธอจะนอนไม่ถึงสองชั่วโมง แต่สิ่งที่ได้รับจากแมทธิวเมื่อคืนกลับเติมเต็มหัวใจเธอจนเหมือนไม่ต้องการการพักผ่อนอีกต่อไปทรายทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ทุกสัมผัสและการกระทำของแมทธิวที่ทำให้เธอรู้สึกเหมือนเป็นผู้หญิงที่พิเศษที่สุดในโลก เขาไม่ได้มุ่งหวัง
“เธอจะไปเดตกับใครอะทราย” แอมเบอร์ถามเป็นรอบที่สองร้อย “จ้างให้ฉันก็ไม่บอก อืมมมมม อย่างน้อยก็จนกว่าฉันจะแน่ใจและรู้จักเขามากกว่านี้” ตัวทรายเองก็ยังไม่แน่ใจอะไรเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าอยากมีความลับกับเพื่อน เรื่องระหว่างเธอกับแมทธิวเหมือนไม่ใช่ความจริง ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก อีกอย่างเธอยังเป็นกังวลเกินกว่าจะเล่าให้ใครฟังแม้ว่าคนนั้นจะเป็นเพื่อนสนิทก็ตาม เธอคิดว่าถึงแอมเบอร์จะรู้ก็ไม่สนใจหรอกว่าเขาจะเป็นอาจารย์ ในทางกลับกันคงจะยินดีกับเธอมากกว่า อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้เธอยังคงอยากเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับระหว่างเธอกับอาจารย์หนุ่มมากกว่า “ก็ได้ ๆ แต่เธอจะปล่อยให้ฉันทนกับความอยากรู้ทั้งคืนแบบนี้จริง ๆ เหรอ” แอมเบอร์แกล้วทำท่าฮึดฮัดไม่พอใจ แต่สีหน้าแสดงความยินดีกับเพื่อน ทรายกรอกตาใส่เพราะรู้ทัน “ฉันต้องไปแล้ว เธอเองก็รีบทำรายงานให้เสร็จล่ะ” “รู้แล้วน่า ขอยืมของเธอมาลอกหน่อยละกัน” แอมเบอร์กรอกตากลับ ทรายส่ายหัว คว้ากระเป๋าเดินออกไปรอแมทธิวที่หน้าหอพัก เป็นเวลาเดียวกับที่เขานำรถมาจอดเทียบพอดี เธอจึงรีบขึ้นรถก่อนที่จะมีคนสังเกตเห็น หลังจากปิดประตูรถก็ถูกดึงตัวไปจูบหนัก ๆ “คิดถึงเธอจั
ปกติแล้วถ้าวันไหนไม่ได้ไปทำงานทรายจะต้องหัวเสียมาก เพราะเธอจำเป็นต้องหาเงิน การขาดงานเพียงหนึ่งวันจะทำให้รายได้ลดลง แต่คราวนี้เธอกลับรู้สึกดีที่เสาร์อาทิตย์นี้เธอได้หยุดงาน เธอต้องการเวลาทบทวนเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับชายหนุ่มที่ขึ้นชื่อว่าเป็นอาจารย์ ช่วงเวลาสุดสัปดาห์ของเธอหมดไปกับการนอนอุดอู้อยู่บนเตียง แอมเบอร์พยายามชวนเธอออกไปข้างนอกแต่เธอไม่มีกะจิตกะใจไปไหนทั้งนั้น เธอแค่ลุกจากเตียงเพียงเพื่อไปเข้าห้องน้ำแล้วกลับมานอนต่อ แต่ว่าวันนี้เป็นวันจันทร์ เธอจะต้องลุกไปมหาวิทยาลัย ที่แย่ไปกว่านั้นคือวิชาแรกของเธอคือวิชาภาษาอังกฤษกับแมทธิว เธอไม่เคยโดดเรียนเลยสักครั้ง และตอนนี้ก็ไม่คิดที่จะโดดเรียนด้วยแม้ว่าอยากจะทำอย่างนั้นใจแทบขาด ดังนั้นเธอจึงได้แต่ไปเผชิญหน้ากับเขา เมื่อมาถึงชั้นเรียนที่เธอตั้งใจมาเช้ากว่าปกติเพื่อหลีกเลี่ยงใครบางคน ก็พ่นลมหายใจออกมายาว ๆ เพราะเขายังไม่มา เธอเลือกที่นั่งหลังสุดจากปกติจะต้องนั่งด้านหน้า หยิบหนังสือเรียนและงานที่เขาสั่งครั้งที่แล้วออกมา คิดว่าจะต้องอดทนให้ผ่านชั่วโมงนี้ไปให้ได้ หลังจากนั้นไม่นานนักศึกษาก็ทยอยกันเดินเข้ามาเรื่อย ๆ เกิด
ทรายเก็บเสื้อที่ตกลงพื้นขึ้นมาสวมแล้วจึงค่อยนั่งลงที่โต๊ะ แมทธิวนั่งอยู่ที่เก้าอีกด้านข้างกำลังจัดแพนเค้กกับเบคอนหอมกรุ่นใส่จานให้ ทรายมองชายหนุ่มแล้วได้แต่ครุ่นคิดอยู่ในใจทำไมผู้ชายที่แสนเลอเลิศแบบนี้ถึงต้องเป็นอาจารย์เธอด้วยทรายตั้งสติแล้วเริ่มพูด “เราจะให้มันเกิดขึ้นอีกไม่ได้”มือของชายหนุ่มชะงักเล็กน้อย กรามแกร่งขบกันแน่นจนเป็นสัน เห็นดังนั้นเธอจึงตีหน้าขรึม จ้องหน้าเขาโดยไม่หลบสายตา พยายามพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังที่สุด เอ่ยสิ่งที่ตัวเองกังวลออกไป“ฉันพูดจริงนะคะ เพราะว่าฉันไม่อยากเอาสถานะนักศึกษาของตัวเองมาเสี่ยง”แมทธิวมองหญิงสาวนิ่งไม่เอ่ยอะไร สักพักก็ถอนหายใจ ขยับเก้าอี้ออก ลุกขึ้นยืนไม่สนใจที่จะกินอาหารอีก เขาไม่รู้สึกอยากอาหารขึ้นมาเสียดื้อ ๆ ความหิวก่อนหน้าหายไปหมด พูดกับหญิงสาวด้วยน้ำเสียงจริงจัง“ถ้าฉันหาทางออกสำหรับเรื่องนี้ได้เธอจะยอมคบกับฉันมั้ย”ทรายสูดหายใจเข้าลึก ในอกรู้สึกหนักอึ้ง “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”หลังจากได้รับคำตอบเธอก็ได้ยินเสียงเขาสบถไม่พอใจ ดูเหมือนว่าเขาต้องการคบกับเธออย่างจริงจัง ทำให้เธอดีใจและเสียใจไปพร้อมกัน“คือว่าฉันไม่กล้าเสี่ยง” เธอพูดเสียงเบา
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วทรายเลือกกางเกงวอร์มสีดำที่พอใส่แล้วสูงขึ้นมาเหนือเอวและเธอต้องพับขาขึ้นมาถึงสามทบกับเสื้อยืดของเขามาสวม มันดูไม่แย่แต่ก็ไม่ตลกจนเกินไป ผมเปียกชื้นที่เพิ่งสระมาถูกปล่อยสยายลงมากลางแผ่นหลัง เธอทำจมูกฟุดฟิดสูดดมกลิ่นตัวเองซึ่งเหมือนกับกลิ่นของแมทธิวเพราะเธอใช้ครีมอาบน้ำและแชมพูของเขา มันทำให้เธอรู้สึกใจหวิวแปลก ๆ และแก้มเนียนก็ขึ้นสีแดงเรื่อโดยไม่รู้ตัว อีกทั้งยังต้องกัดกระพุ้งแก้มตัวเองเพื่อให้หยุดยิ้มโดยไม่มีเหตุผลแมทธิวหันมามองหญิงสาวที่เพิ่งเดินเข้ามาแล้วส่งยิ้มที่ทำให้เธอรู้สึกไม่น่าไว้ใจให้“ตอนสวมเสื้อผ้าฉันเธอดูดีมากรู้มั้ยแซนดี้”สัญญาณเตือนภัยของทรายดังขึ้นทันทีเพราะเขาเดินตรงเข้ามาโอบเอวพาไปนั่งที่โต๊ะกินข้าวที่ตั้งอยู่ตรงมุมของห้องครัวทรายมองไปยังอาหารบนโต๊ะที่ถูกจัดเตรียมไว้สองที่ แสดงว่าก่อนหน้าเขายังไม่ได้กินอะไร“คุณยังไม่ได้กินมื้อเช้าเหรอคะ” เธอถามเพื่อลดความประหม่าขณะที่กำลังเผชิญหน้ากับเขาชายหนุ่มส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนที่จะยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนแทบจะชิด พูดด้วยน้ำเสียงเซ็กซี่” ฉันอยากเห็นเธอเปลือยตอนที่เรากินมื้อเช้ากัน...” ไม่พูดเปล่ามือใ
“เธอสวยมากรู้มั้ยแซนดี้ อา...” เขาครางต่ำทรายไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร ทั้งขัดเขินต่อสายตาร้อนแรงที่เขาใช้มองราวกับกำลังกลืนกินเธอไปทั้งตัวจนอยากจะมุดผ้าห่มหนี แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกอยากจะเปิดเผยทุกอย่างให้เขาได้เชยชม มีความสุขกับคำเยินยอของเขา ทั้งสีหน้าและแววตาที่เขามองมาทำให้เธอรู้สึกว่าเป็นแบบนั้นจริงแมทธิวเอื้อมมือไปหยิบถุงยางที่วางอยู่ตรงโต๊ะหัวเตียง จัดการฉีกซองและสวมให้ตัวเองเสร็จสรรพ เมื่อเครื่องป้องกันพร้อมก็พาตัวเองดำดิ่งสู่กายสาวโดยไม่รั้งรอ“อ๊า...”เสียงหวานครางลั่น ขาเรียวรัดรอบเอวสอบโดยอัตโนมัติ แมทธิวจับช้อนมือใต้สะโพกสาว จับยกขึ้นเล็กน้อยเพื่อจัดท่าทางจากนั้นรัวบั้นเอวตอกอัดใส่ร่างกายที่ตัวเองคลั่งไคล้ไม่ยั้ง ภายในของเธอบีบรัดเขาแน่นจนเจ็บปวดไปหมด รู้สึกดีเป็นบ้า เขารักเธออย่างที่อยากจะรักและทำมานาน แต่เท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ จ้วงแทงดำดิ่งลึกในกายสาวครั้งแล้วครั้งเล่าทรายรู้สึกเหมือนกำลังปีนยอดเขาสูง พอใกล้จะตกลงมาเขาก็ผลักดันเธอขึ้นไปใหม่ การมีเขาอยู่ในตัวเป็นความรู้สึกดีมาก ทำให้เธอลืมแม้กระทั่งตัวของตัวเอง ไม่ว่าเขาจะจับเธอพลิกไปทางไหนเธอก็ยอมตามเขาอย่างว่าง่าย เพีย