"พูดอะไรไม่เห็นได้ยินเลย""ไม่ได้ยินได้ยังไงก็ยืนห่างกันแค่นี้..อุ๊ยคุณ!" พอเดินเข้ามาใกล้ก็ถูกเขากระชากตัวให้ขึ้นมานอนอยู่บนเตียง"ก็บอกว่าหาให้แล้วไง แล้วจะรีบไปไหน" มือหนาโอบร่างของหญิงสาวไว้แน่น แต่เธอก็ไม่ได้ห้ามที่เขาจะกอด"คุณก็รู้ว่าแม่ฉันป่วย ที่บ้านหลังนั้นอากาศมันร้อน ฉันอยากให้ท่านมีห้องเย็นๆ""บ้านไม่มีแอร์เหรอ?" น้ำเสียงดูตกใจ เพราะนอนยังไงในอากาศที่ร้อนอบอ้าวแบบนี้"ไม่มี" ถึงแม้ว่าจะอายอยู่บ้างแต่ก็ต้องตอบตามความเป็นจริง"เดี๋ยวให้ไอ้ธีระไปรับแม่มา""รับมาที่ไหน""ก็บ้านหลังข้างๆ นี่ไง""บ้านหลังข้างๆ ?""ใช่ฉันซื้อไว้ให้เธอ""คะ?" ชมจันทร์คิดว่าตัวเองฟังผิด ถึงแม้มันจะเป็นหมู่บ้านจัดสรรที่หลังไม่ค่อยใหญ่นัก แต่ถ้ารวมที่ดินแล้วราคาคงไม่ต่ำกว่า 10 ล้านแน่ขณะที่เธอกำลังอึ้งอยู่ว่าเขาซื้อบ้านให้ ชายหนุ่มก็ได้เอื้อมมือไปพิมพ์ข้อความไลน์ส่งให้กับลูกน้องคนสนิท"เดี๋ยวก่อนนะคะ คุณจะให้คุณธีระไปรับแม่ได้ยังไง แม่ยังไม่รู้เรื่องนี้เลย""แล้วต้องทำไง""ฉันก็ต้องไปบอกแม่เองสิ""แล้วจะบอกแม่ว่ายังไง""บอกว่า..""ว่า..""บอกว่าฉันเช่าบ้านได้แล้ว"คนฟังรู้สึกน้อยใจนิดหน่อย เพราะไม่
หมับ! วิเวียร์เดินเข้าไปคว้ายาคุมกำเนิดแผงนั้นจากมือของเพ็ญพักตร์ ส่วนชมจันทร์ตอนนี้ทำอะไรไม่ถูก สิ่งที่เธอคิดไว้มันเป็นจริง เพราะตอนที่ได้ยินเพื่อนบอกว่าเห็นเพ็ญพักตร์คุยกับรจนา เธอก็สงสัยแล้วว่าทั้งสองจะร่วมมือกันทำอะไรแน่เลย แต่ไม่คิดว่าจะมาไม้นี้"ไปกันเถอะชม" อันนาจูงแขนเพื่อนมาที่ลิฟต์ พอวิเวียร์เก็บของใส่กระเป๋าเสร็จก็รีบตามมา"แต่ฉันยังได้ยินข่าวลือมาอีกอย่างหนึ่งนะ" เสียงเพ็ญพักตร์พูดขึ้นมาในขณะที่พวกเธอยืนรอลิฟต์กันอยู่"เธอได้ยินอะไรมาเหรอเพ็ญ" คนที่ถามก็คือรจนา เพราะถ้าไม่งั้นเพ็ญพักตร์คงพูดต่อได้ยากถ้าไม่มีใครชงให้"ก็ได้ยินว่าเจ้าของยาคุมเมื่อกี้แอบคบกับคนมีเจ้าของแล้วไง" พอประโยคนี้ออกมาจากปากเพ็ญพักตร์ พนักงานที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ต่างก็พูดกันจนเสียงดังไปทั่วห้องโถงนั้น"อย่าไปสนใจเลย เราขึ้นไปข้างบนกันเถอะ" ประตูลิฟต์เปิดออกอันนาก็พาชมจันทร์เข้าไปในนั้นพอทั้งสามคนไปแล้ว เพ็ญพักตร์ก็หันมองมาที่รจนาด้วยรอยยิ้มแบบมีชัยแผนกที่ชมจันทร์ทำงานอยู่.."เธอไม่เป็นอะไรนะชม""ฉันขอทำงานให้เสร็จ" ชมจันทร์ไม่กล้ามองหน้าเพื่อนด้วยซ้ำเธอคิดน้อยเกินไป น่าจะเก็บยาคุมนั้นไว้ให้มิดชิดกว
"ชมนอนหรือยังลูก""ยังค่ะ แม่มีอะไรคะ""เมื่อกี้แม่ได้ยินเสียงอะไร""เสียงอะไรคะแม่""ไม่รู้สิเหมือนคนขว้างอะไรเข้ามาในบ้านเราเลย" ตอนได้ยินเสียงเดือนออกมาดูแต่ก็ไม่เห็นอะไร แถมนางยังเดินไปดูด้านหลัง แต่ก็ไม่เห็นมีอะไรอีกนั่นแหละชมจันทร์เหลือบตามองดูเขาเล็กน้อย แล้วเธอก็เปิดประตูแง้มออกมาคุยกับแม่"คงเป็นเสียงบ้านอื่นมั้งคะแม่""แต่เสียงเหมือนในบ้านเราเลย เหมือนอะไรหล่นลงมา""เหมือนเสียงของหล่นเหรอคะ?""ถ้าบ้านเรามีต้นมะพร้าวแม่ก็ไม่สงสัยหรอก""แม่ไปนอนเถอะค่ะ มันคงไม่มีอะไรหรอก""ล็อกประตูหน้าต่างให้ดีนะลูก""ค่ะ"พอปิดประตูแล้วเธอก็หันมาหาเขาที่ยืนแอบอยู่ด้านหลัง"คุณตกลงมาเหรอ"ทัพไทพยักหน้าเล็กน้อย ตอนที่ข้ามมาฝั่งบ้านเธอขาเกี่ยวเข้ากับรั้วก็เลยตกลงมาไม่เป็นท่า"แล้วคุณเจ็บตรงไหนไหม""ไม่เจ็บหรอก""ทีหลังไม่ต้องข้ามรั้วมาแล้วนะ อืมม" ยังพูดไม่จบก็ถูกเขาปิดปากด้วยจูบ แต่เธอก็ไม่ได้ขยับใบหน้าหลบ ปล่อยให้เขายืนจูบอยู่แบบนั้นครู่หนึ่ง ก่อนที่จะพาเธอมานั่งลงบนเตียงแล้วทัพไทก็เริ่มจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเอง สายตาคมยังมองจ้องหญิงสาวที่นั่งรออยู่บนเตียง คำพูดครั้งสุดท้ายก่อนที่จะเลิกกัน
คนที่กำลังยุ่งงานอยู่ก็ยังทิ้งงานเพื่อมองเธอในขณะที่เดินออกมาจากห้องนั้น แต่มันก็สมควรแล้ว กล้าที่จะเป็นเมียน้อยก็ต้องกล้าที่จะรับสายตาพวกนี้ให้ได้ติ๊ง.. ยืนรออยู่ครู่หนึ่งประตูลิฟต์ก็เปิดออก พอประตูเปิดออกชมจันทร์รีบหลบคนที่กำลังจะออกมาจากลิฟต์"อ้าว..คุณชมจันทร์""สวัสดีค่ะ" ชมจันทร์ตกใจไม่คิดว่าผู้บริหารระดับสูงจะรู้จักเธอ"คุณขึ้นมาทำอะไรคะ" ผู้บริหารคนที่ทักชมจันทร์ก็คือสโนไวท์"เออคือว่า..""คุณชมจันทร์คะคุณลืมกระเป๋า" เพลงพิณถือกระเป๋าตามชมจันทร์ออกมา เพราะตอนที่เธอนั่งคุยกับเพลงพิณอยู่ เธอวางกระเป๋าไว้ด้านหลังเบาะนั่ง"ขอบพระคุณมากค่ะ" ชมจันทร์ยกมือไหว้ก่อนที่จะรับกระเป๋าคืนมา โชคดีนะที่กระเป๋าไม่ได้เปิดอยู่ เพราะยาคุมแผงที่เป็นปัญหาก็ยังคงอยู่ในกระเป๋านี้ เธอจะเก็บไว้ที่ห้องไม่ได้มันยิ่งอันตรายถ้าแม่เห็น แม่ต้องไม่สบายใจแน่"เพลงเรียกคุณชมจันทร์มาหาเหรอ" สโนไวท์คุยกับเพลงพิณเหมือนว่าสนิทสนมกันมาก"อืมใช่ เพลงสนใจสีที่คุณชมจันทร์ส่งขึ้นมา""ไม่คิดว่าเพลงจะมองเห็นเหมือนสโนว์เห็นนะเนี่ย" ที่ชมจันทร์เข้าทำงานที่นี่ได้ก็เพราะสโนไวท์นี่แหละ หลายคนต่างก็ไม่เห็นด้วยที่รับพนักงานที่ม
"เธอจะทำยังไงชม" จากที่เคยเห็นใจแค่ชมจันทร์ตอนนี้มาเห็นใจวิเวียร์อีกคน ถ้าอันนาเป็นคนอารมณ์ร้อนเหมือนเพื่อนทั้งสองก็คงเจอไม่ต่างกัน"ฉันขอเวลาหน่อยนะ แต่เธอไม่ต้องกลัวนะวิ ถึงยังไงฉันก็ต้องช่วยเธอให้ได้""ฉันยังไม่พร้อมจะออกจากงานตอนนี้" มนุษย์เงินเดือนมีชะตาชีวิตไม่ต่างกันมากนักหรอก เพราะกว่าเงินจะออกในแต่ละเดือนก็แทบเดือนชนเดือนอยู่แล้ว ..ส่วนเรื่องออกจากงานวิเวียร์ไม่กลัวมากนัก แต่มันไม่คุ้มกับการที่จะถูกไล่ออก น่าจะเอาให้เจ็บกว่านี้อีก"หึ" พอออกมาจากห้องของหัวหน้า ชไมพรก็ยิ้มมุมปากใส่กลุ่มที่มีเรื่องกัน เหมือนว่าอีกกลุ่มคงไม่มีปัญญาเอาหัวหน้าและตัวเองออกได้"คันตีนว่ะ" พอวิเวียร์พูดขึ้นมาชไมพรก็รีบกลับไปนั่งเก้าอี้ตัวเองอย่างไว เพราะเห็นแล้วว่าอีกฝ่ายเอาจริงผ่านไปสักพัก รจนาก็ถืออะไรบางอย่างออกมาจากห้อง"หัวหน้าจะไปไหนคะ" คนที่ถามก็คือชไมพร"ไปแผนกฝ่ายบุคคล" ขณะที่ตอบ รจนาปลายหางตามองมาที่ชมจันทร์"เร็วขนาดนั้นเลยหรือคะหัวหน้า""จะช้าอยู่ใยล่ะ ตีงูเราต้องตีให้ตาย"ชมจันทร์ยังนั่งก้มหน้าทำงาน ส่วนวิเวียร์แทบอยากร้องไห้ เพราะที่หัวหน้าลงไปหาฝ่ายบุคคลก็คงเรื่องทะเลาะวิวาท หลักฐานก็
ยั่วขนาดนี้ใครจะไปทนไหว ทีแรกว่าจะโทรลงไปบอกธีรพันธ์ให้ไปคุยกับฝ่ายบุคคลก่อน แต่คิดว่าเดี๋ยวค่อยจัดการทีหลังก็ได้ตอนนี้ขอจัดการเธอก่อนแล้วกันริมฝีปากบางเผยอออกเล็กน้อยเพื่อให้ลิ้นของอีกฝ่ายแทรกเข้ามาสำรวจโพรงปากนั้นได้สะดวก ในใจก็อยากบอกให้เขาเคลียร์เรื่องนี้ให้ก่อนได้ไหม แต่ถ้าทำแบบนั้นเกิดอารมณ์เขาขาดตอน เดี๋ยวพลอยจะไม่ช่วยเอามือหนาเอื้อมลงมาวางแนบกับสะโพกงอน เพื่อดันร่างคนตัวเล็กให้เข้ามาชิดจนเธอสัมผัสถึงความแข็งที่อยู่กลางลำตัวของเขา"สวัสดีค่ะคุณธีระ""เจ้านายอยู่ในห้องใช่ไหมครับ""อยู่ค่ะแต่ว่า..""แต่ว่าอะไรครับ" ธีระพันธ์กำลังจะเอื้อมมือไปเปิดประตูก็เลยหยุดหันมาคุยกับชุติมาแกร็ก! แต่จังหวะเดียวกันนั้นชุติมายังไม่ทันได้ตอบ ก็ได้ยินเสียงกดล็อกประตูจากทางด้านในก่อนส่วนด้านในตอนนี้ร่างของชมจันทร์ถูกจับพิงไว้กับผนังห้องใกล้ๆ ประตู เพราะตอนที่เดินมาล็อกเขาไม่ได้ปล่อยเธอออกมือเรียวกอดต้นคอของคนตัวสูงไว้แน่น ลิ้นนุ่มๆ ตวัดตอบสนองอีกฝ่ายจนไม่รู้ว่าลิ้นใครเป็นลิ้นใคร"อ้าา เธอไม่กลัวว่าฉันจะทนไม่ได้เหรอ""ถ้าคุณไม่ถือว่าที่นี่เป็นห้องทำงาน ก็ไม่ต้องทนหรอกค่ะ"ริมฝีปากหนาซุกลงกับซอ
มือหนาล้วงเข้าไปในกางเกงชั้นในตัวเดิมที่เขาล้วงเมื่อตอนกลางวัน"หือ" พอสัมผัสถึงด้านในริมฝีปากที่กำลังจูบอยู่ก็มีรอยยิ้มออกมา "เอาออกไปนะ" หญิงสาวขยับใบหน้าออกและก็ดึงมือเขาออกมาจากตรงนั้น เพราะเธอรู้ว่าเขายิ้มทำไม"ทำไมล่ะ" แต่ชายหนุ่มไม่ยอมเอามือออกมา แถมยังล้วงลึกเข้าไปมากกว่านั้น"ฉันก็บอกแล้วไงขออาบน้ำก่อน""จะอาบทำไมมันพร้อมขนาดนี้" เขาคิดว่าเธอก็ต้องการไม่ต่างจากเขาเพราะในร่องนั้นเปียกแฉะเล็กน้อยแต่สำหรับผู้หญิงแล้วเรื่องแบบนี้รู้กันดี ถ้าไม่ทำความสะอาดจนมั่นใจก็จะไม่ค่อยมั่นใจในจุดซ่อนเร้นของตัวเองใบหน้าที่เอียงอายอยู่เมื่อสักครู่เริ่มบึ้งตึงขึ้นมา จนเขายอมปล่อยให้เธอเข้าไปอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายก่อน"คุณไม่อาบน้ำก่อนเหรอคะ""เสียเวลา""ถ้าไม่อาบก็ไปล้างมือสิ" "ล้างทำไม" ชายหนุ่มยกมือข้างที่ล้วงเธอเมื่อสักครู่ขึ้นมา กำลังจะแตะใส่จมูก"คุณทัพ!" หญิงสาวรีบเข้ามาลากตัวเขาให้เข้าไปล้างมือออก "เฮ้ย..เสียดายจัง อุตส่าห์เก็บไว้ตั้งแต่เมื่อตอนกลางวันแล้ว""?.. เมื่อตอนกลางวัน" พอนึกขึ้นได้ว่าเขาหมายถึงอะไร เพราะตอนกลางวันเขาก็ล้วงมาทีหนึ่งแล้ว ..จากทีแรกคิดว่าจะไม่อายแล้วนะ "คนบ
เช้าวันต่อมา.."เมื่อคืนนี้หนูกลับมาตอนไหนเหรอ ทำไมแม่ไม่รู้" ทีแรกคิดว่าลูกยังไม่กลับ แต่พอถึงเวลาไปทำงานก็เห็นลูกสาวเปิดประตูออกมาจากห้องนอน"กลับดึกค่ะ พอดีว่าที่บริษัทมีการโยกย้ายงานนิดหน่อย" ที่จริงยังไม่มีหรอกแต่ซ้อมไว้ก่อน"อ้าวเหรอ แล้วนี่หนูจะไปทำงานแล้วเหรอลูก" แม่ไม่ได้ถามหรอกว่าลูกได้โยกย้ายด้วยไหม ถ้าลูกอยากพูดให้ฟังก็คงพูดไปแล้ว"ค่ะ""แม่ว่าทานข้าวก่อนดีกว่า แม่เตรียมอาหารไว้แล้ว""ได้ค่ะแม่" ทีแรกว่าจะออกไปหาอะไรทานแถวหน้าบริษัท แต่ไม่มีใครทำอาหารอร่อยเท่าแม่อีกแล้วที่บริษัทในเวลาเดียวกันกับชมจันทร์กำลังทานข้าวเช้าอยู่รจนาร้อนใจมากอยากคุยกับเพลงพิณ ก็เลยมารอที่จอดรถสำหรับผู้บริหารแต่เช้ายืนรออยู่ครู่หนึ่งก็เห็นรถของเพลงพิณวิ่งเข้ามาจอด"คุณเพลงคะ" รจนารีบเข้าไปหา แต่พอกระจกเลื่อนลงถึงรู้ว่าเป็นคนขับรถ "แล้วคุณเพลงล่ะคะ""ผมส่งให้ลงด้านหน้าแล้วครับ" พอได้ยินแบบนั้นรจนาก็รีบวิ่งตามไป เพราะไม่อยากขึ้นไปคุยเรื่องนี้บนห้องทำงาน"คุณเพลงคะรอก่อนค่ะ" ประตูลิฟต์กำลังจะปิดลง เพลงพิณได้ยินเสียงเรียกก็เลยกดรอไว้ก่อน รจนามาถึงจำเป็นต้องเข้าไปในลิฟต์นั้นด้วย"มีอะไรคะ" เพลงพิณเห
ลวงรักแฟนเก่า บทที่ 108🔞 ตอนจบงานแต่งวันนี้พายุจัดได้ใหญ่โตมาก เทียบเท่ากับงานของทศนได้เลย เพราะเขาไม่อยากให้เธอน้อยหน้าใคร แถมเจ้าสาวไม่ต้องลงแรงทำอะไรเลยแค่รอรับการเซอร์ไพรส์จากเขาเท่านั้นพอ"ผมรักคุณ" ชายหนุ่มล้วงเอาแหวนเพชรที่เตรียมมาให้กับเธอออกมาเพื่อจะสวมใส่นิ้วนางข้างซ้ายคะน้ายื่นมือข้างซ้ายไปให้เขาได้สวมใส่"ถอดออกก่อนดีกว่าไหมครับ" ตรงนิ้วนางข้างซ้ายยังมีแหวนทองที่เขาขอหมั้นเธอ"ไม่ค่ะ สวมด้วยกันเลย" มันเป็นแหวนที่เขาให้คะน้าก็เลยไม่อยากจะถอดมันออกพายุก็เลยสวมแหวนเพชรเข้าไปนิ้วเดียวกับแหวนทอง วงที่ให้เธอก่อนหน้านั้นพอสวมแหวนเสร็จเสียงปรบมือก็ดังขึ้น "จูบเลย จูบเลย" กองเชียร์หลายคนต่างก็เชียร์ให้คู่บ่าวสาวแสดงความรักให้กับแขกได้เห็นมือหนาถูกยกขึ้นมาบังในขณะที่จูบปากเธออยู่ เพื่อไม่ให้มันเป็นภาพโจ่งแจ้งเกินไปสาวๆ ต่างก็กรี๊ดกันสนั่น เพราะมันเป็นฉากที่ฟินมาก ไม่เคยมีใครทำแบบนี้ เพราะนั่นหมายถึงเขาให้เกียรติเจ้าสาวมากพอพายุปล่อยจูบออกสายตาคนเป็นเจ้าสาวยังคงจับจ้องที่ใบหน้าเจ้าบ่าวของเธอ"คะน้าขอโทษด้วยนะคะ""คุณขอโทษผมทำไม""ขอโทษเรื่องที่พ่อกับแม่ไม่ได้มาร่วมงานนี้ด้วย"
"แน่ใจนะว่านี่ชุดกินเลี้ยง?" คะน้าแปลกใจตั้งแต่ที่มุกงามเลือกชุดให้ลองใส่ดูแล้ว"รับชุดนี้แหละค่ะสวยดี" มุกงามไม่ได้ตอบคะน้าหรอกแต่หันไปพูดกับเจ้าของร้าน"เดี๋ยวก่อนนะงาม..""ไม่เดี๋ยวแล้วเอาชุดนี้แหละ" มุกงามก็เลยยื่นบัตรเครดิตไปให้เจ้าของร้านรูด แต่บัตรที่มุกงามให้ไปไม่ใช่ของตัวเองหรอก เป็นของใครบางคนที่วานให้เธอทำงานนี้ให้"คะน้าจ่ายเองก็ได้" คะน้าพูดแบบเกรงใจก่อนที่จะรับชุดจากเจ้าของร้านมา"กลับกัน"คะน้าเดินตามมุกงามออกมา ทำไมวันนี้เพื่อนดูแปลกๆ ถามอย่างก็ตอบอย่าง[บ้านพักข้าราชการ]"พวกเขาไม่อยู่เหรอ" เข้ามาในบ้านก็ไม่เจอทั้งพายุและทศน ทั้งๆ ที่พวกเขายังอยู่ในช่วงลาพัก"คงออกไปธุระเราไม่ต้องรอหรอก" มุกงามเป็นคนตอบคะน้าขอตัวเอาของเข้าไปเก็บในห้อง และเธอก็อดโทรถามไม่ได้ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนทำไมโทรศัพท์ถึงไม่เปิด ..แต่โทรไปก็ไม่มีสัญญาณเลยค่ำมืดวันเดียวกัน.."อุ๊ย" ลงจากรถก็เห็นคะน้ายืนเท้าสะเอวอยู่หน้าประตู"ตัวใครตัวมันนะเว้ย" ทศนกระซิบพูดกับพายุก่อนที่จะเดินผ่านคะน้าเข้าไปในบ้าน"ผมไปทำธุระมาครับ""แล้วทำไมไม่รับโทรศัพท์ล่ะคะ""สงสัยว่าแบตผมจะหมดแน่เลย" พายุทำทีเป็นล้วงโทรศั
พอได้ยินยอดเงินที่แม่ขอจากเขาแล้วมือเรียวก็เอื้อมไปขอโทรศัพท์คืนไม่อยากให้เขาคุยต่อแล้ว {"ถ้าไม่มีเงินสินสอดถึงหนึ่งล้านบาท ก็อย่ามาคุยกับลูกสาวของฉัน"} เสียงนี้ยังดังเล็ดลอดออกมา"แม่หยุดนะ" พายุไม่ยอมส่งโทรศัพท์คืนให้ เธอก็เลยต้องร้องบอกให้แม่หยุดพูดก่อน>>{"ได้ครับ ผมให้คุณสองล้านเลย ถ้าคุณสัญญาว่าจะไม่มายุ่งเกี่ยวกับคะน้าอีก"}"มันพูดเล่นหรือพูดจริงวะ" เสียงผู้ชายดังเข้ามาในสาย และคะน้าก็จำได้ว่ามันเป็นเสียงของพ่อ"ผู้พันคะ" คะน้าเรียกเขาให้หันกลับมามองเธอก่อน พอเขาหันกลับมาเธอก็ส่ายหน้าเล็กน้อยเป็นสัญญาณบอกว่าอย่าไปคุยเรื่องเงินกับพ่อกับแม่"เอามาเดี๋ยวกูพูดเอง" เสียงผู้ชายที่ดังมาตามสายยังคงพูดต่อ เหมือนว่ากำลังแย่งโทรศัพท์กันคุย"ไม่ต้องมายุ่งนะนี่ลูกสาวฉัน!""อ้าวอีนี่ลูกมึงก็ลูกกูเหมือนกัน">>{"ผมอยากให้พวกคุณตกลงกันให้รู้เรื่องก่อนค่อยโทรกลับมาแค่นี้นะครับ"} {"อย่าเพิ่งสิคุณ"} พอได้ยินว่าทางฝั่งนี้จะวางสายทางนั้นก็รีบเรียกเอาไว้ก่อน>>{"ถ้าจะตกลงอะไรก็ต้องคิดให้ดีก่อน เพราะพวกคุณกำลังคุยกับข้าราชการระดับสูง จะผิดคำพูดไม่ได้"} {"ได้ๆ แม่ตกลง ถ้าได้เงินสองล้านบาทจริงแม
ลวงรักแฟนเก่า บทที่ 105🔞"คิดถึงคุณจังเลย" พอเข้ามาในห้องนอนลับตาเพื่อนเท่านั้นแหละ พายุก็คว้าร่างของเธอเข้ามากอดไว้แน่น"คะน้าก็คิดถึงคุณค่ะ" ใบหน้างามแนบลงแผ่นอกของชายคนรักเบาๆแต่กอดกันอยู่เพียงไม่นานเขาก็โน้มลงมาขอจูบหญิงสาวยื่นริมฝีปากขึ้นไปรับจูบนั้นแบบรู้งานเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ค่อยๆ ถูกปลดกระดุมออกโดยการช่วยกันคนละไม้ละมือ"ซี๊ดด ขอก่อนนะแล้วค่อยออกไปอาบน้ำกัน""ค่ะ อืออ" เนินอวบถูกของแข็งที่เขา จับถูไถอยู่เมื่อสักครู่สอดใส่เข้ามา ไม่ใช่แค่เขาหรอกที่ต้องการสิ่งนี้..เธอก็ต้องการมันเหมือนกันขาเรียวค่อยๆ แยกออกจากกันเองแบบไม่ต้องให้เขาใช้แรง แต่พายุก็ช่วยจับเพราะเธอไม่มีที่ยึดเหนี่ยว"เบาๆ นะคะ""ครับ" ใบหน้าคลอเคลียร์ฝังจูบลงซอกคอของหญิงอันเป็นที่รักเบาๆ พร้อมกับค่อยๆ ขยับ ดันสะโพกนั้นเข้าไปช่องกลางระหว่างขาเรียว "ไปที่เตียงดีไหมครับ"คะน้าส่ายหน้าตอบไป เขาคงอยากได้ในท่ายืนแต่คงกลัวว่าเธอจะเมื่อยขา"ซี๊ดด น่ารักจัง" ริมฝีปากหนาพรมจูบและสูดดมกลิ่นกายอันหอมละมุนพร้อมกับดันสะโพกเข้ามา"อ่ะ อ่ะ อื้อ" คนตัวเล็กเกาะร่างแกร่งไว้แน่น เพียงไม่นานพายุก็พาเธอมานอนลงที่เตียง เพราะตอนกระ
"ใครนั่งฮ.มาลงที่นี่" จากที่กำลังจะเม้าท์เรื่องของผู้พันคะน้า ตอนนี้เปลี่ยนมาพูดถึงเฮลิคอปเตอร์ที่เพิ่งจะลงจอด"ใครจะรู้ล่ะ ถ้าไม่ใช่เรือกลางทะเลก็ต้องเป็นท่านๆ นั่นแหละ" เรือกลางทะเลหมายถึงทหารที่ออกทำภารกิจอยู่บนเรือ ถ้ามีเหตุด่วนฉุกเฉินสามารถขอกลับฝั่งได้โดยเฮลิคอปเตอร์ แต่นั่นต้องผ่านการเซ็นต์ยินยอมจากคนที่มีอำนาจถือว่าเฮลิคอปเตอร์มาช่วยชีวิตแล้วกัน คะน้าไม่ได้สนใจ เพราะคิดว่าคงไม่ใช่เรื่องของตัวเองอยู่แล้ว ดีไปที่ขาเม้าท์มีเรื่องอื่นพูดคุยกันหญิงสาวนั่งทำงานจนถึงช่วงเย็นของวันเดียวกัน เธอก็รีบเก็บของแล้วกลับลงมาเพราะรู้สึกวิงเวียนศีรษะหนักมาก"?!?" ขาเรียวเก้าลงมาถึงขั้นสุดท้ายของบันได สายตามองไปเห็นผู้ชายที่ถือช่อดอกไม้ยืนอยู่เบื้องหน้า นี่เราคิดถึงเขามากเลยเหรอมองเห็นแสงตะวันที่สาดส่องมาเป็นเขาได้ยังไงเพื่อนๆ หลายคนที่ทยอยลงมาจากชั้นบนต่างก็หยุดไปตามๆ กัน ถ้าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าไม่มีอะไรพิเศษก็คงทำให้คนอื่นหยุดมองไม่ได้ แต่นี่เขาถือช่อดอกไม้ช่อใหญ่มาก จนเป็นเป้าสายตาของทุกคนที่อยู่แถวนั้น"......" ชายหนุ่มที่ยืนหอบช่อดอกไม้ช่อใหญ่อยู่แปลกใจ ทำไมเธอถึงทำเหมือนว่าคนที่ยืนอยู่ตร
"ฉันมาขอพบคุณพ่อค่ะ" ไม่มีใครไม่รู้จักเธอในฐานะลูกสะใภ้ของท่านนายพลทศกัณฐ์"เชิญผู้พันได้เลยครับ" ทหารที่เฝ้าอยู่หน้าห้องเคาะส่งสัญญาณบอกท่านเล็กน้อย ก่อนที่จะเปิดประตูห้องให้"ว่าไงเรา" ทศกัณฐ์ลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วชวนให้ลูกสะใภ้มานั่งอีกมุมหนึ่งซึ่งเป็นมุมรับแขก"งามมีเรื่องจะมาขอร้องคุณพ่อค่ะ""มีเรื่องจะมาขอร้อง เรื่องอะไร""คือว่า..." มุกงามทนเห็นเพื่อนอุ้มท้องโดยไม่มีพ่อไม่ได้แล้ว เธอต้องรีบจัดการเรื่องทุกอย่างก่อนที่ท้องของคะน้าจะโตขึ้นมา ถึงแม้ทั้งสองจะไม่ได้พูดคุยเรื่องนี้กัน แต่ความคิดของมุกงามก็ไม่ได้ต่างจากคะน้าเลย ถ้าท้องของคะน้าโตขึ้นมาโดยที่ยังไม่แต่งงาน ยิ่งเธอเป็นข้าราชการด้วยแล้ว มันก็จะดูไม่ดีบางทีอาจจะถูกตรวจสอบเลยก็ได้[บนเรือ] เวลาผ่านไปเพียงไม่นานจากตอนที่มุกงามขอเข้าพบพ่อของสามี ก็ได้มีทหารที่ทำงานในห้องสื่อสารมาตามผู้พันพายุไปรับโทรศัพท์ถ้ามีคนโทรขึ้นมาบนเรือแบบนี้ทหารจะตกใจมาก เพราะถ้าไม่ใช่เรื่องด่วนและคนที่โทรเข้ามาไม่ใหญ่พอตัวก็ไม่สามารถที่จะทำแบบนี้ได้ ที่ตกใจส่วนมากคนที่ได้รับโทรศัพท์ มีแค่ไม่กี่เรื่องถ้าญาติไม่ป่วยหนักก็คือญาติเสีย"มันคงไม่มีอะไรหรอก ไ
"งามว่าไปหาหมอดีกว่า" คะน้าไม่ได้มีอาการแค่ตอนทำกับข้าว ตอนทานข้าวคะน้าก็ทานไม่ค่อยลง"นอนให้เต็มอิ่มสักคืนพรุ่งนี้ตื่นมาคงหายดี""ถ้าไม่หายพรุ่งนี้ต้องไปหาหมอกับงามนะ" มุกงามรู้สึกคาใจกับอาการที่เพื่อนเป็นอยู่ แต่เพื่อนยังไม่แต่งงานคงไม่ปล่อยให้ตัวเองท้องก่อนแต่งหรอกมั้ง เธอก็เลยไม่กล้าพูดกล้าถามออกมา นอกเสียจากพาไปให้หมอเช็คให้แน่ใจคะน้าทานข้าวต้มที่มุกงามทำมาให้แล้วก็นอนพักผ่อน มุกงามสั่งไว้ว่าห้ามทานยาตัวไหนทั้งนั้น คะน้าก็เลยไม่ทานที่มุกงามสั่งไว้แบบนี้เพราะถ้าเป็นแบบที่คิดไว้จริง กลัวจะมีผลกระทบ...จนถึงเช้าวันต่อมา..เมื่อคืนนี้คะน้าพยายามนอนให้หลับ บังคับตัวเองไม่ให้คิดอะไร พอตื่นขึ้นมาก็อาการดีขึ้น"ดีขึ้นแล้วแน่นะ""ดีขึ้นแล้วไม่เวียนหัวเหมือนเมื่อวาน ขอบใจมากนะงาม""ถ้าไม่ไหวก็กลับมาพักผ่อนนะ""จ้ะ" ทั้งสองก็เลยออกมาทำงานพร้อมกันคะน้าทำงานปกติ และอาการแบบเมื่อวานก็ไม่ได้เกิดขึ้นอีกเลยจนมาถึงช่วงเย็น ทั้งสองกลับมาเจอกันที่บ้านอีกครั้ง"วันนี้เป็นยังไงบ้าง" มุกงามเป็นห่วงเพื่อนตอนเที่ยงก็ยังโทรไปถามอาการ ถึงตอนเย็นก็ยังถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ"ไม่เป็นอะไรแล้ว""อาการอาเ
"พอดีเลยค่ะ" คะน้ายกมือขึ้นมามองแหวนวงที่เขาเพิ่งสวมให้ด้วยรอยยิ้มที่ยากจะบรรยายพายุเห็นรอยยิ้มเธอก็อดที่จะอมยิ้มไปด้วยไม่ได้ จะไม่ให้พอดีได้ยังไงเขาแอบวัดขนาดตอนที่เธอหลับอยู่"รอผมกลับมานะเราจะจัดงานแต่งกัน""ค่ะ" ใบหน้างามแนบลงกับอกแกร่งเบาๆเช้าวันต่อมา..เมื่อคืนนี้ไม่รู้เผลอหลับไปตอนไหน แต่พอตื่นขึ้นมาก็ไม่เห็นเขานอนอยู่ข้างๆ แล้ว"เขาไปแล้วเหรอ" หญิงสาวที่ร่างกายเปลือยเปล่าแต่ก็มีผ้าห่มคลุมร่างของเธออยู่ รีบลุกขึ้นแล้วคว้าผ้าเช็ดตัวพันรอบร่างกายไว้ ก่อนที่จะรีบออกมาจากห้อง"ทำไมออกมาแบบนี้" พายุออกจากห้องน้ำก็เห็นเธอมีแค่ผ้าเช็ดตัว"ฉันคิดว่าคุณออกไปแล้ว""ถ้าไปผมก็ต้องปลุกสิ ผมแค่มาอาบน้ำ"พอได้ยินเสียงปลดล็อกประตูห้องของทศน พายุก็รีบพาเธอเข้ามาในห้อง"คุณจะไปลงเรือตอนไหนคะ""คงสายๆ หน่อย""สายๆ เหรอ" เมื่อวานนี้เธอก็ลางานครึ่งวันแล้ว ถ้าลาวันนี้ไปส่งเขาอีกจะเป็นอะไรไหม"ส่งผมแค่นี้ก็ได้" เขาพอจะเดาได้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่"โทรมาหาฉันบ่อยๆ นะคะ""ครับ"[ที่ทำงานของคะน้า]"ผู้พันมองอะไรอยู่คะ" เพื่อนร่วมงานเห็นคะน้ามองไปทางท่าเรือก็เลยสงสัย"ป่านนี้เรือจะออกหรือยัง""เห็นว่าต
จากคนที่เคยพูดหยอกล้อ ตอนนี้นั่งเศร้าไม่ต่างกัน เพราะพรุ่งนี้มีคำสั่งขึ้นเรือแล้ว"เราขอย้ายดีไหมวะ""กว่าคำสั่งย้ายจะออกมา เป็นปีเลยนะ""ถ้ากูไม่อยู่แล้วเมียกูจะอยู่ยังไงล่ะ""เรียกเมียได้เต็มปากเลยนะ มึงขอเขาแต่งงานหรือยัง"เที่ยงวันเดียวกัน.."ทำไมคุณไม่โทรมาก่อนคะ" คะน้าลงมาก็เห็นเขายืนทำมาดเท่รออยู่หน้ารถแล้ว"ผมก็เพิ่งมาถึง" พายุพูดพร้อมกับเปิดประตูรถให้เธอขึ้น[ร้านอาหารนอกกอง]"ทำไมออกมาทานไกลจังคะ เดี๋ยวก็เข้างานไม่ทันหรอก""ผมอยากทำอะไรพิเศษๆ ให้กับคุณบ้าง""มีอะไรหรือเปล่าคะ" ทั้งสองคุยกันระหว่างรออาหารที่เพิ่งสั่งไป"พรุ่งนี้มีคำสั่งให้ขึ้นเรือแล้ว"ไม่มีคำพูดใดๆออกจากปากของผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงหน้า เพราะเธอพูดไม่ออก"ครั้งนี้ไม่รู้จะออกเรือกี่เดือน ถ้าทะเลสงบก็คงอยู่นานหน่อย""ค่ะ" เธอก็เป็นทหารเหมือนกันทำไมจะไม่รู้ แต่ถึงแม้เป็นทหารก็มีหัวใจ"ผมจะโทรมาหาคุณบ่อยๆ นะ" แต่ก่อนเคยเห็นแต่เพื่อนแย่งโทรขึ้นฝั่งกัน ครั้งนี้คงมีเขาร่วมด้วยอีกคนเพียงไม่นานอาหารก็ถูกยกมาบริการ ถ้าเขาบอกหลังทานข้าวก็คงจะดี แล้วตอนนี้ใครจะทานลงล่ะ"ทานนี่สิครับ" มือหนาตักอาหารวางใส่ชามข้าวให้คะน้าพ